Розмір відео: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Показувати елементи керування програвачем
Автоматичне відтворення
Автоповтор
ถูกต้องค่ะพี่นกประกาสต่อไปจ้า❤❤❤
thanks for your word
🩷❤️🩷 การกราบไหว้เป็นแค่รูปแบบ แค่เปลือก แก่นแท้อยู่ในจิตใจเรา เราไม่อยากกราบก็ไม่ต้องกราบ ใครอยากกราบก็กราบได้ไม่มีปัญหาอะไร สำคัญที่ใจเราระลึกถึงอะไรขณะที่ทำสิ่งต่างๆ🩷❤️ พระพุทธเจ้าไม่ได้ห้ามไหว้เทพเทวดา ท่านสอนด้วยซ้ำไป ดีเสียอีกมีเครื่องระลึกถึงคุณความดีในจิตใจ แล้วแต่จิตใจและการสั่งสมของแต่ละคนว่าเชื่อมโยงกับทางไหนได้ง่ายกว่ากันก็เข้าทางนั้นได้เลย 🩷 ถ้าบอกว่านับถือพระเจ้าแล้วห้ามสักการะเทพเจ้าอื่นใดอีก ชาวคริสต์ก็ต้องห้ามเฉลิมฉลองวันคริสต์มาสเลยล่ะ เพราะวันนี้ต้นกำเนิดจริงๆคือการเฉลิมฉลองเทพเจ้าของชาวโรมัน(ไม่ใช่วันเกิดพระเยซูเลย) แต่ชาวคริสต์ก็เฉลิมฉลองนมัสการพระเจ้าได้กันในวันนี้ ไม่มีปัญหาอะไรเลย ความรักที่เรามีต่อพระเจ้ายิ่งเพิ่มพูนด้วยซ้ำ เพราะเราตั้งใจจริงๆที่จะนมัสการท่าน แม้วันนั้นจริงๆจะเป็นวันของเทพเจ้าอีกองค์ก็ตาม🩷❤️ สำคัญที่จิตใจเรา เราระลึกถึงอะไรขณะที่ทำสิ่งต่างๆ นั่นต่างหากคือแก่นแท้🩷❤️🩷 การกราบไหว้เป็นแค่รูปแบบ พิธีกรรมต่างๆก็แค่เปลือก จิตใจเราต่างหากที่สำคัญ ดูที่จิตใจเราเอง เมื่อจิตใจเราชัดเจน อะไรก็ทำร้ายเราไม่ได้😃
สรรเสริญ ขอบคุณพระเจ้า อาเมนค่ะ
ขอบคุณพระเจ้าค่ะอาเมน
คนไทยไม่ใช่ไม่เชื่อพระเยซู แต่มาเชื่อแล้วหลงหายกันเยอะมาก ประกาศคนในครอบครัวก็ยากมาก เพราะการสอนให้ดำเนินชีวิตแบบฟาริสีตามสไตล์ของโบสถ์โปรแตสแตนท์ครับ พี่นกสอนให้เป็นคริสเตียนที่แท้จริง ไม่สอนให้เป็นฟาริสี เหมือนคนที่เรียกตัวเองว่าเป็นคริสเตียนในปัจจุบันครับ
การรักพระเจ้าสุดจิตสุดใจ คือการทำตามที่พระเยซูสอนครับ
❤ คุณนกสอนดีมากค่ะ ทำสิ่งดีต่อไปค่ะ 👍😀
เนื้อหาที่พี่นกพูดดีมาก แต่ไม่ชอบชื่อหัวข้อ แสลงใจมากครับ เราตั้งชื่อหัวข้อ ไม่ควรให้พี่น้องสะดุดเช่นเดียวกันครับ ขอพระเจ้าอวยพร
ทำตามประเพณีได้ ไม่ผิด แต่ถ้าทำมากกว่านั้น อาจจะผิดได้ครับ เพราะถ้าเรารักสิ่งอื่นใดในโลกนี้ มากกว่าพระเจ้า จะเป็นสิ่งที่ผิดครับ ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียง เกียรติยศ ทรัพย์สิน เงินทอง พวกนี้สามารถเป็นรูปเคารพในใจเราได้เหมือนกันครับ
พระคริสต์อย่างเดียวจบถูกที่สุดแล้วครับ...ถ้าไร้พระคริสต์...พระเจ้าก็ไม่ใช่ความรักแล่ะไร้ความรับผิดชอบ...ที่สร้างคลอดเราออกมาแล้ว.ทำเราให้.เกิดแก่เจ็บตายทำให้มีความคิดเหตุผล..จิตใจ..ถ้าจะเอาภาระบัญญัติ.มาให้เราแบก.พระเจ้าแบบนี้ชั่วร้าย..ไม่ใช่พระเจ้า.มันคือมารครับ....ดูสัตว์สิครับ..ใครสร้างมันตกนรกไหม..แต่พระคริสต์ไม่ได้ตายเพื่อมัน....พระคริสต์ตายเพื่อคนเท่านั้น..นี่คือความรักที่แท้จริง...ปาปไม่มีบุญก็จะไม่มีไม่รู้จัก.....ดีไม่มีก็จะไม่รู้จักชั่ว...ทุกข์ไม่มีก็ไม่รู้จักสุข...ขาวไม่มีก็จะไม่รู้จักดำ...ขั้วสำคัญ..บวกลบ...แม่เหล็กโลก..มีขั้ว..จักรวาลจึงคงอยู่ใด้..ครับ...บุญบาปคนกำหนดเอง..จากความรู้สึกที่ได้....แท้จริงผมเชื่อว่าทุกสิ่งคือประสงค์พระเจ้า...เพื่อให้ลูกๆของท่าน..เป็นคนที่ครบบริบูรณ์....แต่คนก็เข้าใจผิด...พระเจ้าจึงให้พระคริสต์ลงมาแก้ความเชื่อผิดทั้งหมดเลยครับ....ดำเนินชีวิตทางกายคือไม่สร้างเดือดร้อนให้ตน(รักตนใด้)...แล่ะไม่สร้างเดือดร้อนให้ผู้อื่น(รักตนใด้ย่อมรักผู้อื่นแล้ะพระเจ้าสุดใจใด้เช่นกัน)...คุณนกสอนถูกต้อง...มันคือมานาที่ซ่อนไว้.ครับ...กฏแรงดึงดูดก็คือกฏของพระเจ้า..คิดทุกข์ใด้ทุกข์ คิดสุขก็ได้สุขโชคดี..ทั้งกายใจ...วิทย์ฯควอนตั้มรับรองแล้ว...บัญญัติแค่เรียนรู้เฉยๆว่าแต่ล่ะวัฒนธรรม...เขื่อแบบไหน..เชื่อเคร่งครัด ก็คือ เอไอ...ไร้ชีวิต...เพราะตัวอักษรไร้ชีวิต...แต่ถ้าเราดำเนินชีวิตตามพระวิญญาณ...นี้คือชีวิตจริงๆ..แต่ก่อนผมก็เคยโจมตีกลุ่มแบบคุนนกด้วย..วิวรณ์..เหมือนกัน..ครับ..
พระบัญญัติใหม่ของพระเยซู มีแค่ 2 ข้อเท่านั้น ถ้ายังยึดถือข้ออื่นๆ อยู่ ก็ยังอยุ่ในพันธสัญญาเดิม ใครที่ยังเชื่อตามบทบ้ญญัติของพันธสัญญาเดิม ก็ทำให้พระโลหิตของพระเยซูคริสต์ ซึ่งชำระผู้เชื่อให้เป็นผู้ชอบธรรมแล้วนั้นไร้ความหมายครับ
🌠🙏💗🌟🌟🌟🌟🌟
ในพระบัญญัติ พระเจ้ากล่าวว่าห้ามทำรูปเคารพอื่นใดและกราบไหว้พระอื่นใดนอกจากพระเจ้า
สวัสดีคะพี่นกขอพระเจ้าอวยพรอละเสริมกำลังทุกๆด้านคิดสิ่งใดขอให้สมความปรารถนาทุกประการคะเอเมน
การกราบไหว้รูปเคารพ ก็ไม่ใช่แก่นแท้ของศาสนาพุทธเลยซักนิดครับ
คุณนก คุณจะให้คนสับสนไปถึงไหน ทุกวันนี้คนไทยยังเพื้ยนไม่พอรึ. คุณเชื่อแบบไหนก็ไม่ควรเอามาสอนให้คนอื่นสับสน คุณคิดเองเออเอง คนเทศน์คนสอนระดับคุณยังมาเพี้ยนได้ถึงเพียงนี้ แล้วสมาชิก น้องเลี้ยงคุณ เขาตามคุณไม่ทันหรอก ดิฉันก็เป็นคริสเตียน ที่อ่านพระไตรฏิดกด้วย เพื่อการวิเคราะห์การศึกษา
ไม่ชอบชื่อหัวข้ออันนี้ครับ เพราะการกราบคือการนมัสการ และพระพุทธเจ้าเองก็ไม่เคยสอนให้กราบไหว้บูชารูปเคารพใดๆ ด้วยครับ เป็นสิ่งที่คนพุทธสอนต่อกันมาแบบผิดๆ เอง เราควรบอกให้เค้ารับรู้ความจริงว่าการกราบไหว้บูชานมัสการสิ่งใดๆ ในโลกนี้แทนที่พระเจ้านั้น เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องครับ
มีปัญหาแน่ ร่างกายของท่านเป็นวิหารของพระวิญญาณบริสุทธิ์ อย่าให้ร่างกายของท่านจำนนต่อสิ่งใดนอกจากองค์พระวิญญาณบริสุทธิ์เพียงพระองค์เดียว ขนบธรรมเนียมใดที่ชักนำร่างกายท่านให้จำนนต่อสิ่งอื่น ท่านต้องปฏิเสธ เพราะร่างกายของท่านไม่ใช่ของท่าน แต่เป็นพระวิหารของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ไม่ใช่แค่คิดว่าถ้าใจไม่ได้คิดอะไรก็ไม่เป็นไรหรอก มันเป็นแน่นอน ไม่งั้นนักแสดงหนังลามกก็เคลมได้เหมือนกันว่าถ้าใจไม่ได้คิดอะไรก็ไม่นับว่าล่วงประเวณี คริสเตียนจะไม่ประนีประนอมกับฝ่ายโลกและศาสดาอื่นใดนับเป็นผู้เผยพระวจนะเท็จสำหรับคริสเตียนทั้งสิ้น พระเยซูเป็นทางเดียวเท่านั้น ลองนึกภาพว่าท่านกำลังยืนอยู่กับพระเยซู และท่านกำลังนมัสการปรนนิบัติพระองค์อยู่ และท่ามกลางท่านนั้นก็มีบรรดาผู้เผยพระวจนะเท็จอยู่ด้วย แล้วมีผู้เผยพระวจนะเท็จคนหนึ่งซึ่งเป็นคนที่ท่านเคยรู้จักมักคุ้นแล้วท่านก็หันไปยกมือไหว้ทักทายผู้เผยพระวจนะเท็จคนนั้นและกล่าวชื่นชมในคำสอนของเขา ท่านคิดว่าพระเยซูจะรู้สึกอย่างไร ทั้งๆที่พระองค์กล่าวว่าพระองค์เป็นความจริงเพียงหนึ่งเดียว แล้วท่านมองไปที่ตัวเองในสถานการณ์นั้นท่านจะคิดว่าท่านเป็นผู้เชื่อในพระเยซูได้หรือ เพราะพระเยซูกล่าวว่าผู้ที่เชื่อเราก็ทำตามสิ่งที่เราสอนอย่าลืมว่าพระเยซูทรงจ่ายราคาแพงยิ่งนักเพื่อซื้อท่านมา ท่านต้องเป็นของพระองค์ทั้งกายและใจ
❤️❤️❤️ พระเจ้า หรือพลังงานต้นกำเนิด พลังงานบริสุทธิ์เดิมแท้ มีเพียงหนึ่งเดียว ❤️❤️ ส่วนศาสนาต่างๆจะบรรยายถึงพระเจ้า และวิธีเข้าถึง หรือสร้างเงื่อนไขการเข้าถึงพระเจ้าต่างกันไปยังไง นั่นเป็นเรื่องความเชื่อที่ต่างกันไป แล้วแต่แต่ละศาสนาจะสร้างเงื่อนไขกันขึ้นมาเอง 😃❤️ ในทางปฏิบัติจริง เราทุกคนสื่อสารกับพระเจ้าได้ด้วยตัวเองโดยตรงเลย ทุกคนทำได้เสมอมาอยู่แล้ว ไม่เกี่ยวกับศาสนาใดใดเลย🩷 เราทุกคนเข้าถึงพลังงานต้นกำเนิด(พระเจ้า) ได้ด้วยตัวเองโดยตรง ไม่จำเป็นต้องผ่านศาสนา, โบสถ์, นักบวช, ผู้นำโบสถ์, พิธีกรรม ฯลฯ ไม่จำเป็นเลย 😃 ตลอดชีวิตของพระเยซูท่านไม่เคยกีดกันใครเลย ใครมาหาท่านท่านก็เมตตา ให้ความรัก และช่วยเหลือตลอดมา แม้ในปัจจุบันท่านก็ยังรักและช่วยเหลือทุกคนอยู่เสมอ🩷🩷 คนต่างชาติต่างศาสนาท่านก็ช่วยหมด นักบวชศาสนาอื่นมาขอให้ท่านรักษา ท่านก็รักษาให้ด้วยความรัก ชาวคริสต์เองนี่ล่ะที่ทำคลิปออกมาโปรโมทเยอะแยะว่ารักษานักบวชจากศาสนาอื่นได้ 🩷🩷🩷 พระเยซูท่านรักและโอบกอดทุกคนเสมอ เราที่เดินตามท่านก็ขอให้เดินตามความรักนี้ เพราะในความเป็นจริงเราทุกคนเข้าถึงพระเจ้าได้ ไม่เคยมีข้อจำกัดแบบที่ศาสนาบังคับให้คนเชื่อเลย😊
@@KlomKlomFB1. พระเจ้าไม่ใช่แค่พลังงานต้นกำเนิด พระองค์ทรงเป็นบุคคล ทรงมีความรู้สึก นึกคิด มีสิ่งที่ชอบพอพระทัยและไม่พอพระทัย ทรงโกรธได้ ทรงเศร้าพระทัยได้2. ถ้าท่านกล่าวว่าทุกคนต่างก็มีวิธีการเข้าถึงพระเจ้าได้ด้วยตนเอง ท่านก็กล่าวใส่ร้ายพระเยซูว่าพระองค์พูดเท็จ เพราะพระองค์ตรัสว่า ”พระองค์เป็นทางนั้นทางเดียว เป็นความจริง และชีวิต ไม่มีผู้ใดมาถึงพระบิดาได้นอกจากมาทางเรา“ ไม่มีผู้ใดไปหาพระเจ้าได้ นอกจากพระเจ้าเองจะทรงมาหาผู้นั้นโดยทางพระเยซู3. พระเยซูไม่เคยกีดกันผู้ใด แน่นอน แต่ผู้ที่ควรค่าแก่พระองค์นั้น คือผู้ที่รักพระองค์มากกว่าสิ่งใด “ผู้ใดรักโลกมากกว่าเรา ผู้นั้นไม่คู่ควรกับเรา” และ “ผู้ใดที่รักเรา ผู้นั้นย่อมเชื่อฟังคำสอนของเรา” เพราะพระองค์ทรงมอบบัญญัติเอาไว้ว่า “จงรักพระเจ้าด้วยสิ้นสุดใจ สุดกำลัง สุดความคิด” นั่นหมายความว่าท่านต้องรักพระเจ้าทั้งตัวและหัวใจ ไม่ใช่ใจบอกว่ารัก แต่การกระทำสวนทางกัน เพราะถ้าท่านรักพระเจ้า ท่านจะยำเกรงพระองค์ และไม่ทำในสิ่งที่พระองค์ไม่ชอบพระทัย คริสเตียนเปรียบเสมือนเจ้าสาวที่เตรียมไว้สำหรับพระคริสต์ ท่านคิดว่าพระองค์อยากแต่งงานกับเจ้าสาวที่ไม่ได้รักพระองค์หรือปากบอกว่ารักแต่การกระทำสวนทางกันหรือ4. พระเจ้าทรงเป็นความรัก และพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าแห่งการพิพากษาด้วยเช่นกัน
@@feelalive4374🩷🩷 พระเยซูตรัสว่าท่านและพระบิดาเป็นหนึ่งเดียวกัน นั่นคือเราจะเข้าถึงพระเจ้าโดยตรงหรือเข้าหาพระเยซูก็ได้ ถึงเหมือนกันค่ะ❤️❤️ และในทางปฏิบัติจริงๆคือคนทุกเชื้อชาติศาสนาสามารถเข้ามาหาท่านได้หมด ท่านรักเมตตาทั้งหมด เรื่องนี้ไม่ใช่แค่เกิดในสมัยพระเยซู แม้ยุคก่อนพระเยซูก็เป็นแบบนี้เสมอมา🩷 เช่นในพระธรรม 1 พงศ์กษัตริย์ 17 มีการบอกเล่าถึงผู้หญิงชาวซารีฟัตที่ช่วยเอลียาห์และสื่อสารกับพระเจ้าเมื่อเธอประสบปัญหา เธอคนนี้ไม่ใช่ชาวยิวแต่สามารถอธิษฐานถึงพระเจ้าได้ ได้รับพรจากพระเจ้าได้ เรื่องราวนี้ในยุตเอลียาห์เกิดขึ้นก่อนยุคพระเยซูหลายร้อยปีค่ะ ❤️ และผู้เผยพระวจนะคนอื่นๆก่อนหน้าพระเยซูก็สื่อสารกับพระเจ้าด้วยตัวเองโดยตรง ทำกันได้มานานแล้วเป็นปกติ ไม่มีเหตุผลที่พอพระเยซูมาแล้วจะต้องขาดการติดต่อนะ🩷🩷 ถ้าพระเจ้าไม่ชอบ โกรธ ไม่พอใจ ท่านคงไม่ทำการรักษาให้คนต่างศาสนาหรอกค่ะ ที่ผ่านมาทุกคนได้รับความช่วยเหลือหมด ไม่เคยถูกบังคับให้เปลี่ยนศาสนาเลย ถ้าคุณไม่เชื่อลองค้นดูพวกคลิปการรักษาเยียวยาต่างๆที่ชาวคริสต์ทำออกมาก็ได้ค่ะ บนอินเตอร์เน็ตเพียบ คนต่างศาสนามารับการรักษาเยอะแยะไป ไม่มีปัญหาอะไรเลย พระเยซูท่านเมตตาทุกคนเสมอมา แม้ในปัจจุบันก็ยังเป็นแบบนั้น ❤️❤️❤️ กาลาเทีย (Galatians 3:28) “ไม่มีอีกต่อไปทั้งชาวยิวและชาวกรีก ไม่มีอีกต่อไปทั้งทาสและเสรี ไม่มีอีกต่อไปทั้งชายและหญิง เพราะว่าทุกคนเป็นหนึ่งเดียวในพระเยซูคริสต์”🩷❤️🩷 ทุกคนเข้าถึงพระเจ้าได้ ทุกคนเข้าถึงพระเยซูได้ด้วยตัวเองโดยตรงเลย ไม่จำเป็นต้องผ่านศาสนาใดใด หรือสื่อกลางใดใด ไม่เคยจำเป็นเลย ทุกคนสนทนากับพระเจ้าได้ด้วยตัวเองโดยตรงเสมอมา 😃
ถูกต้องค่ะพี่นกประกาสต่อไปจ้า❤❤❤
thanks for your word
🩷❤️🩷 การกราบไหว้เป็นแค่รูปแบบ แค่เปลือก แก่นแท้อยู่ในจิตใจเรา เราไม่อยากกราบก็ไม่ต้องกราบ ใครอยากกราบก็กราบได้ไม่มีปัญหาอะไร สำคัญที่ใจเราระลึกถึงอะไรขณะที่ทำสิ่งต่างๆ
🩷❤️ พระพุทธเจ้าไม่ได้ห้ามไหว้เทพเทวดา ท่านสอนด้วยซ้ำไป ดีเสียอีกมีเครื่องระลึกถึงคุณความดีในจิตใจ แล้วแต่จิตใจและการสั่งสมของแต่ละคนว่าเชื่อมโยงกับทางไหนได้ง่ายกว่ากันก็เข้าทางนั้นได้เลย
🩷 ถ้าบอกว่านับถือพระเจ้าแล้วห้ามสักการะเทพเจ้าอื่นใดอีก ชาวคริสต์ก็ต้องห้ามเฉลิมฉลองวันคริสต์มาสเลยล่ะ เพราะวันนี้ต้นกำเนิดจริงๆคือการเฉลิมฉลองเทพเจ้าของชาวโรมัน(ไม่ใช่วันเกิดพระเยซูเลย) แต่ชาวคริสต์ก็เฉลิมฉลองนมัสการพระเจ้าได้กันในวันนี้ ไม่มีปัญหาอะไรเลย ความรักที่เรามีต่อพระเจ้ายิ่งเพิ่มพูนด้วยซ้ำ เพราะเราตั้งใจจริงๆที่จะนมัสการท่าน แม้วันนั้นจริงๆจะเป็นวันของเทพเจ้าอีกองค์ก็ตาม
🩷❤️ สำคัญที่จิตใจเรา เราระลึกถึงอะไรขณะที่ทำสิ่งต่างๆ นั่นต่างหากคือแก่นแท้
🩷❤️🩷 การกราบไหว้เป็นแค่รูปแบบ พิธีกรรมต่างๆก็แค่เปลือก จิตใจเราต่างหากที่สำคัญ ดูที่จิตใจเราเอง เมื่อจิตใจเราชัดเจน อะไรก็ทำร้ายเราไม่ได้
😃
สรรเสริญ ขอบคุณพระเจ้า อาเมนค่ะ
ขอบคุณพระเจ้าค่ะอาเมน
คนไทยไม่ใช่ไม่เชื่อพระเยซู แต่มาเชื่อแล้วหลงหายกันเยอะมาก ประกาศคนในครอบครัวก็ยากมาก เพราะการสอนให้ดำเนินชีวิตแบบฟาริสีตามสไตล์ของโบสถ์โปรแตสแตนท์ครับ พี่นกสอนให้เป็นคริสเตียนที่แท้จริง ไม่สอนให้เป็นฟาริสี เหมือนคนที่เรียกตัวเองว่าเป็นคริสเตียนในปัจจุบันครับ
การรักพระเจ้าสุดจิตสุดใจ คือการทำตามที่พระเยซูสอนครับ
❤ คุณนกสอนดีมากค่ะ ทำสิ่งดีต่อไปค่ะ 👍😀
เนื้อหาที่พี่นกพูดดีมาก แต่ไม่ชอบชื่อหัวข้อ แสลงใจมากครับ เราตั้งชื่อหัวข้อ ไม่ควรให้พี่น้องสะดุดเช่นเดียวกันครับ ขอพระเจ้าอวยพร
ทำตามประเพณีได้ ไม่ผิด แต่ถ้าทำมากกว่านั้น อาจจะผิดได้ครับ เพราะถ้าเรารักสิ่งอื่นใดในโลกนี้ มากกว่าพระเจ้า จะเป็นสิ่งที่ผิดครับ ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียง เกียรติยศ ทรัพย์สิน เงินทอง พวกนี้สามารถเป็นรูปเคารพในใจเราได้เหมือนกันครับ
พระคริสต์อย่างเดียวจบถูกที่สุดแล้วครับ...ถ้าไร้พระคริสต์...พระเจ้าก็ไม่ใช่ความรักแล่ะไร้ความรับผิดชอบ...ที่สร้างคลอดเราออกมาแล้ว.ทำเราให้.เกิดแก่เจ็บตายทำให้มีความคิดเหตุผล..จิตใจ..ถ้าจะเอาภาระบัญญัติ.มาให้เราแบก.พระเจ้าแบบนี้ชั่วร้าย..ไม่ใช่พระเจ้า.มันคือมารครับ....ดูสัตว์สิครับ..ใครสร้างมันตกนรกไหม..แต่พระคริสต์ไม่ได้ตายเพื่อมัน....พระคริสต์ตายเพื่อคนเท่านั้น..นี่คือความรักที่แท้จริง...ปาปไม่มีบุญก็จะไม่มีไม่รู้จัก.....ดีไม่มีก็จะไม่รู้จักชั่ว...ทุกข์ไม่มีก็ไม่รู้จักสุข...ขาวไม่มีก็จะไม่รู้จักดำ...ขั้วสำคัญ..บวกลบ...แม่เหล็กโลก..มีขั้ว..จักรวาลจึงคงอยู่ใด้..ครับ...บุญบาปคนกำหนดเอง..จากความรู้สึกที่ได้....แท้จริงผมเชื่อว่าทุกสิ่งคือประสงค์พระเจ้า...เพื่อให้ลูกๆของท่าน..เป็นคนที่ครบบริบูรณ์....แต่คนก็เข้าใจผิด...พระเจ้าจึงให้พระคริสต์ลงมาแก้ความเชื่อผิดทั้งหมดเลยครับ....ดำเนินชีวิตทางกายคือไม่สร้างเดือดร้อนให้ตน(รักตนใด้)...แล่ะไม่สร้างเดือดร้อนให้ผู้อื่น(รักตนใด้ย่อมรักผู้อื่นแล้ะพระเจ้าสุดใจใด้เช่นกัน)...คุณนกสอนถูกต้อง...มันคือมานาที่ซ่อนไว้.ครับ...กฏแรงดึงดูดก็คือกฏของพระเจ้า..คิดทุกข์ใด้ทุกข์ คิดสุขก็ได้สุขโชคดี..ทั้งกายใจ...วิทย์ฯควอนตั้มรับรองแล้ว...บัญญัติแค่เรียนรู้เฉยๆว่าแต่ล่ะวัฒนธรรม...เขื่อแบบไหน..เชื่อเคร่งครัด ก็คือ เอไอ...ไร้ชีวิต...เพราะตัวอักษรไร้ชีวิต...แต่ถ้าเราดำเนินชีวิตตามพระวิญญาณ...นี้คือชีวิตจริงๆ..แต่ก่อนผมก็เคยโจมตีกลุ่มแบบคุนนกด้วย..วิวรณ์..เหมือนกัน..ครับ..
พระบัญญัติใหม่ของพระเยซู มีแค่ 2 ข้อเท่านั้น ถ้ายังยึดถือข้ออื่นๆ อยู่ ก็ยังอยุ่ในพันธสัญญาเดิม ใครที่ยังเชื่อตามบทบ้ญญัติของพันธสัญญาเดิม ก็ทำให้พระโลหิตของพระเยซูคริสต์ ซึ่งชำระผู้เชื่อให้เป็นผู้ชอบธรรมแล้วนั้นไร้ความหมายครับ
🌠🙏💗🌟🌟🌟🌟🌟
ในพระบัญญัติ พระเจ้ากล่าวว่าห้ามทำรูปเคารพอื่นใดและกราบไหว้พระอื่นใดนอกจากพระเจ้า
สวัสดีคะพี่นก
ขอพระเจ้าอวยพรอละเสริมกำลังทุกๆด้านคิดสิ่งใดขอให้สมความปรารถนาทุกประการคะเอเมน
การกราบไหว้รูปเคารพ ก็ไม่ใช่แก่นแท้ของศาสนาพุทธเลยซักนิดครับ
คุณนก คุณจะให้คนสับสนไปถึงไหน ทุกวันนี้คนไทยยังเพื้ยนไม่พอรึ. คุณเชื่อแบบไหนก็ไม่ควรเอามาสอนให้คนอื่นสับสน คุณคิดเองเออเอง คนเทศน์คนสอนระดับคุณยังมาเพี้ยนได้ถึงเพียงนี้ แล้วสมาชิก น้องเลี้ยงคุณ เขาตามคุณไม่ทันหรอก ดิฉันก็เป็นคริสเตียน ที่อ่านพระไตรฏิดกด้วย เพื่อการวิเคราะห์การศึกษา
ไม่ชอบชื่อหัวข้ออันนี้ครับ เพราะการกราบคือการนมัสการ และพระพุทธเจ้าเองก็ไม่เคยสอนให้กราบไหว้บูชารูปเคารพใดๆ ด้วยครับ เป็นสิ่งที่คนพุทธสอนต่อกันมาแบบผิดๆ เอง เราควรบอกให้เค้ารับรู้ความจริงว่าการกราบไหว้บูชานมัสการสิ่งใดๆ ในโลกนี้แทนที่พระเจ้านั้น เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องครับ
🩷❤️🩷 การกราบไหว้เป็นแค่รูปแบบ แค่เปลือก แก่นแท้อยู่ในจิตใจเรา เราไม่อยากกราบก็ไม่ต้องกราบ ใครอยากกราบก็กราบได้ไม่มีปัญหาอะไร สำคัญที่ใจเราระลึกถึงอะไรขณะที่ทำสิ่งต่างๆ
🩷❤️ พระพุทธเจ้าไม่ได้ห้ามไหว้เทพเทวดา ท่านสอนด้วยซ้ำไป ดีเสียอีกมีเครื่องระลึกถึงคุณความดีในจิตใจ แล้วแต่จิตใจและการสั่งสมของแต่ละคนว่าเชื่อมโยงกับทางไหนได้ง่ายกว่ากันก็เข้าทางนั้นได้เลย
🩷 ถ้าบอกว่านับถือพระเจ้าแล้วห้ามสักการะเทพเจ้าอื่นใดอีก ชาวคริสต์ก็ต้องห้ามเฉลิมฉลองวันคริสต์มาสเลยล่ะ เพราะวันนี้ต้นกำเนิดจริงๆคือการเฉลิมฉลองเทพเจ้าของชาวโรมัน(ไม่ใช่วันเกิดพระเยซูเลย) แต่ชาวคริสต์ก็เฉลิมฉลองนมัสการพระเจ้าได้กันในวันนี้ ไม่มีปัญหาอะไรเลย ความรักที่เรามีต่อพระเจ้ายิ่งเพิ่มพูนด้วยซ้ำ เพราะเราตั้งใจจริงๆที่จะนมัสการท่าน แม้วันนั้นจริงๆจะเป็นวันของเทพเจ้าอีกองค์ก็ตาม
🩷❤️ สำคัญที่จิตใจเรา เราระลึกถึงอะไรขณะที่ทำสิ่งต่างๆ นั่นต่างหากคือแก่นแท้
🩷❤️🩷 การกราบไหว้เป็นแค่รูปแบบ พิธีกรรมต่างๆก็แค่เปลือก จิตใจเราต่างหากที่สำคัญ ดูที่จิตใจเราเอง เมื่อจิตใจเราชัดเจน อะไรก็ทำร้ายเราไม่ได้
😃
มีปัญหาแน่ ร่างกายของท่านเป็นวิหารของพระวิญญาณบริสุทธิ์ อย่าให้ร่างกายของท่านจำนนต่อสิ่งใดนอกจากองค์พระวิญญาณบริสุทธิ์เพียงพระองค์เดียว ขนบธรรมเนียมใดที่ชักนำร่างกายท่านให้จำนนต่อสิ่งอื่น ท่านต้องปฏิเสธ เพราะร่างกายของท่านไม่ใช่ของท่าน แต่เป็นพระวิหารของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ไม่ใช่แค่คิดว่าถ้าใจไม่ได้คิดอะไรก็ไม่เป็นไรหรอก มันเป็นแน่นอน ไม่งั้นนักแสดงหนังลามกก็เคลมได้เหมือนกันว่าถ้าใจไม่ได้คิดอะไรก็ไม่นับว่าล่วงประเวณี คริสเตียนจะไม่ประนีประนอมกับฝ่ายโลก
และศาสดาอื่นใดนับเป็นผู้เผยพระวจนะเท็จสำหรับคริสเตียนทั้งสิ้น พระเยซูเป็นทางเดียวเท่านั้น ลองนึกภาพว่าท่านกำลังยืนอยู่กับพระเยซู และท่านกำลังนมัสการปรนนิบัติพระองค์อยู่ และท่ามกลางท่านนั้นก็มีบรรดาผู้เผยพระวจนะเท็จอยู่ด้วย แล้วมีผู้เผยพระวจนะเท็จคนหนึ่งซึ่งเป็นคนที่ท่านเคยรู้จักมักคุ้นแล้วท่านก็หันไปยกมือไหว้ทักทายผู้เผยพระวจนะเท็จคนนั้นและกล่าวชื่นชมในคำสอนของเขา ท่านคิดว่าพระเยซูจะรู้สึกอย่างไร ทั้งๆที่พระองค์กล่าวว่าพระองค์เป็นความจริงเพียงหนึ่งเดียว แล้วท่านมองไปที่ตัวเองในสถานการณ์นั้นท่านจะคิดว่าท่านเป็นผู้เชื่อในพระเยซูได้หรือ เพราะพระเยซูกล่าวว่าผู้ที่เชื่อเราก็ทำตามสิ่งที่เราสอน
อย่าลืมว่าพระเยซูทรงจ่ายราคาแพงยิ่งนักเพื่อซื้อท่านมา ท่านต้องเป็นของพระองค์ทั้งกายและใจ
❤️❤️❤️ พระเจ้า หรือพลังงานต้นกำเนิด พลังงานบริสุทธิ์เดิมแท้ มีเพียงหนึ่งเดียว
❤️❤️ ส่วนศาสนาต่างๆจะบรรยายถึงพระเจ้า และวิธีเข้าถึง หรือสร้างเงื่อนไขการเข้าถึงพระเจ้าต่างกันไปยังไง นั่นเป็นเรื่องความเชื่อที่ต่างกันไป แล้วแต่แต่ละศาสนาจะสร้างเงื่อนไขกันขึ้นมาเอง 😃
❤️ ในทางปฏิบัติจริง เราทุกคนสื่อสารกับพระเจ้าได้ด้วยตัวเองโดยตรงเลย ทุกคนทำได้เสมอมาอยู่แล้ว ไม่เกี่ยวกับศาสนาใดใดเลย
🩷 เราทุกคนเข้าถึงพลังงานต้นกำเนิด(พระเจ้า) ได้ด้วยตัวเองโดยตรง ไม่จำเป็นต้องผ่านศาสนา, โบสถ์, นักบวช, ผู้นำโบสถ์, พิธีกรรม ฯลฯ ไม่จำเป็นเลย
😃 ตลอดชีวิตของพระเยซูท่านไม่เคยกีดกันใครเลย ใครมาหาท่านท่านก็เมตตา ให้ความรัก และช่วยเหลือตลอดมา แม้ในปัจจุบันท่านก็ยังรักและช่วยเหลือทุกคนอยู่เสมอ
🩷🩷 คนต่างชาติต่างศาสนาท่านก็ช่วยหมด นักบวชศาสนาอื่นมาขอให้ท่านรักษา ท่านก็รักษาให้ด้วยความรัก ชาวคริสต์เองนี่ล่ะที่ทำคลิปออกมาโปรโมทเยอะแยะว่ารักษานักบวชจากศาสนาอื่นได้
🩷🩷🩷 พระเยซูท่านรักและโอบกอดทุกคนเสมอ เราที่เดินตามท่านก็ขอให้เดินตามความรักนี้ เพราะในความเป็นจริงเราทุกคนเข้าถึงพระเจ้าได้ ไม่เคยมีข้อจำกัดแบบที่ศาสนาบังคับให้คนเชื่อเลย
😊
@@KlomKlomFB
1. พระเจ้าไม่ใช่แค่พลังงานต้นกำเนิด พระองค์ทรงเป็นบุคคล ทรงมีความรู้สึก นึกคิด มีสิ่งที่ชอบพอพระทัยและไม่พอพระทัย ทรงโกรธได้ ทรงเศร้าพระทัยได้
2. ถ้าท่านกล่าวว่าทุกคนต่างก็มีวิธีการเข้าถึงพระเจ้าได้ด้วยตนเอง ท่านก็กล่าวใส่ร้ายพระเยซูว่าพระองค์พูดเท็จ เพราะพระองค์ตรัสว่า ”พระองค์เป็นทางนั้นทางเดียว เป็นความจริง และชีวิต ไม่มีผู้ใดมาถึงพระบิดาได้นอกจากมาทางเรา“ ไม่มีผู้ใดไปหาพระเจ้าได้ นอกจากพระเจ้าเองจะทรงมาหาผู้นั้นโดยทางพระเยซู
3. พระเยซูไม่เคยกีดกันผู้ใด แน่นอน แต่ผู้ที่ควรค่าแก่พระองค์นั้น คือผู้ที่รักพระองค์มากกว่าสิ่งใด “ผู้ใดรักโลกมากกว่าเรา ผู้นั้นไม่คู่ควรกับเรา” และ “ผู้ใดที่รักเรา ผู้นั้นย่อมเชื่อฟังคำสอนของเรา” เพราะพระองค์ทรงมอบบัญญัติเอาไว้ว่า “จงรักพระเจ้าด้วยสิ้นสุดใจ สุดกำลัง สุดความคิด” นั่นหมายความว่าท่านต้องรักพระเจ้าทั้งตัวและหัวใจ ไม่ใช่ใจบอกว่ารัก แต่การกระทำสวนทางกัน เพราะถ้าท่านรักพระเจ้า ท่านจะยำเกรงพระองค์ และไม่ทำในสิ่งที่พระองค์ไม่ชอบพระทัย คริสเตียนเปรียบเสมือนเจ้าสาวที่เตรียมไว้สำหรับพระคริสต์ ท่านคิดว่าพระองค์อยากแต่งงานกับเจ้าสาวที่ไม่ได้รักพระองค์หรือปากบอกว่ารักแต่การกระทำสวนทางกันหรือ
4. พระเจ้าทรงเป็นความรัก และพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าแห่งการพิพากษาด้วยเช่นกัน
@@feelalive4374🩷🩷 พระเยซูตรัสว่าท่านและพระบิดาเป็นหนึ่งเดียวกัน นั่นคือเราจะเข้าถึงพระเจ้าโดยตรงหรือเข้าหาพระเยซูก็ได้ ถึงเหมือนกันค่ะ
❤️❤️ และในทางปฏิบัติจริงๆคือคนทุกเชื้อชาติศาสนาสามารถเข้ามาหาท่านได้หมด ท่านรักเมตตาทั้งหมด เรื่องนี้ไม่ใช่แค่เกิดในสมัยพระเยซู แม้ยุคก่อนพระเยซูก็เป็นแบบนี้เสมอมา
🩷 เช่นในพระธรรม 1 พงศ์กษัตริย์ 17 มีการบอกเล่าถึงผู้หญิงชาวซารีฟัตที่ช่วยเอลียาห์และสื่อสารกับพระเจ้าเมื่อเธอประสบปัญหา เธอคนนี้ไม่ใช่ชาวยิวแต่สามารถอธิษฐานถึงพระเจ้าได้ ได้รับพรจากพระเจ้าได้ เรื่องราวนี้ในยุตเอลียาห์เกิดขึ้นก่อนยุคพระเยซูหลายร้อยปีค่ะ
❤️ และผู้เผยพระวจนะคนอื่นๆก่อนหน้าพระเยซูก็สื่อสารกับพระเจ้าด้วยตัวเองโดยตรง ทำกันได้มานานแล้วเป็นปกติ ไม่มีเหตุผลที่พอพระเยซูมาแล้วจะต้องขาดการติดต่อนะ
🩷🩷 ถ้าพระเจ้าไม่ชอบ โกรธ ไม่พอใจ ท่านคงไม่ทำการรักษาให้คนต่างศาสนาหรอกค่ะ ที่ผ่านมาทุกคนได้รับความช่วยเหลือหมด ไม่เคยถูกบังคับให้เปลี่ยนศาสนาเลย ถ้าคุณไม่เชื่อลองค้นดูพวกคลิปการรักษาเยียวยาต่างๆที่ชาวคริสต์ทำออกมาก็ได้ค่ะ บนอินเตอร์เน็ตเพียบ คนต่างศาสนามารับการรักษาเยอะแยะไป ไม่มีปัญหาอะไรเลย พระเยซูท่านเมตตาทุกคนเสมอมา แม้ในปัจจุบันก็ยังเป็นแบบนั้น
❤️❤️❤️ กาลาเทีย (Galatians 3:28)
“ไม่มีอีกต่อไปทั้งชาวยิวและชาวกรีก ไม่มีอีกต่อไปทั้งทาสและเสรี ไม่มีอีกต่อไปทั้งชายและหญิง เพราะว่าทุกคนเป็นหนึ่งเดียวในพระเยซูคริสต์”
🩷❤️🩷 ทุกคนเข้าถึงพระเจ้าได้ ทุกคนเข้าถึงพระเยซูได้ด้วยตัวเองโดยตรงเลย ไม่จำเป็นต้องผ่านศาสนาใดใด หรือสื่อกลางใดใด ไม่เคยจำเป็นเลย ทุกคนสนทนากับพระเจ้าได้ด้วยตัวเองโดยตรงเสมอมา 😃