รัฐไทยในดินแดนไทย มีมนุษย์อยู่อาศัยอยู่ถาวรในอาณาเขตประเทศไทยปัจจุบันมาแล้วประมาณ 40,000 ปี
Вставка
- Опубліковано 2 чер 2024
- เชื่อว่ามีมนุษย์อยู่อาศัยอยู่ถาวรในอาณาเขตประเทศไทยปัจจุบันมาแล้วประมาณ 40,000 ปี เดิมชาวมอญ เขมรและมลายูปกครองพื้นที่ดังกล่าว โดยมีอาณาจักรใหญ่ เช่น ฟูนาน #ทวารวดี #หริภุญชัย จักรวรรดิเขมร และตามพรลิงก์ ส่วนบรรพบุรุษไทยสยามปัจจุบันซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มชาวไท-ไตเป็นกลุ่มที่อาศัยอยู่ในแถบเดียนเบียนฟูในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 5 ถึง 8 และเริ่มเข้ามาอยู่อาศัยในอาณาเขตประเทศไทยปัจจุบันในคริสต์ศตวรรษที่ 11 รัฐของชาวไทเกิดขึ้นจำนวนมากในคริสต์ศตวรรษที่ 13 ประมาณปี 1780 พ่อขุนบางกลางหาวรวบรวมกำลังกบฏต่อเขมร และตั้งอาณาจักร#สุโขทัยธรรมธิราช เหนือขึ้นไป พญามังรายทรงตั้งอาณาจักรล้านนาในปี 1839 มีศูนย์กลางอยู่ที่เชียงใหม่ ทรงรวบรวมแว่นแคว้นขึ้นในแถบลุ่มแม่น้ำปิง ส่วนบริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างมีการตั้งสหพันธรัฐในบริเวณเพชรบุรี สุพรรณบุรี ลพบุรีและอยุธยาในคริสต์ศตวรรษที่ 11 นักประวัติศาสตร์กระแสหลักมักเลือกนับสุโขทัยเป็นราชธานีแห่งแรกของคนไทย
เรื่องราวและความเป็นมาในอดีต มีวลีกล่าวกันมาช้านาน “ประวัติศาสตร์มักซ้ำรอย” มีข้อมูลเชิงประจักษ์ย้อนหลังเป็นพันปีจนถึงปัจจุบันตอก ย้ำว่าปรากฏการณ์ในอดีตมักจะย้อนรอยกลับมาเสมอเช่นความขัดแย้งของคู่อำนาจ-สังคม-ความเชื่อ-ศาสนาสงคราม-วิกฤตทางการเมืองและวิกฤตทางเศรษฐกิจตลอดจนภัยพิบัติทางธรรมชาติ เหตุการณ์ในอดีตจะเป็นมรรคผล นำมาสู่เรื่องราวในปัจจุบันและสามารถพยากรณ์เหตุการณ์ในอนาคต การศึกษาประวัติศาสตร์ทำให้เข้าใจวิถีของ วัฏจักรดำรงชีวิตด้วยความไม่ประมาท รู้จักวินิจฉัยพฤติกรรมของมนุษย์สามารถนำมาบริหารความเสี่ยงและรับมือกับ วิกฤตการณ์ต่างๆ ได้เป็นอย่างดีประวัติศาสตร์จึงไม่ใช่เรื่อง “ล้าสมัย” ถูกบรรจุไว้ในหลักสูตร เช่น รัฐศาสตร์, เศรษฐศาสตร์, มนุษยศาสตร์และของสถาบันทางทหารทุกระดับ ประวัติศาสตร์อาจเป็นเรื่องน่าเบื่อสำหรับใครบางคนแต่อาจเป็นเรื่องที่น่าสนใจของอีกคนอยู่ที่ว่าคนๆ นั้นยืน อยู่ตรงมุมไหน ผู้นำด้านการทหาร การเมือง และซีอีโอของภาคธุรกิจส่วนใหญ่สนใจรู้เรื่องประวัติศาสตร์เป็นอย่างดี การเข้าใจเรื่องราวในประวัติศาสตร์จะต้องล้างความคิดแบบเดิมๆ ว่าชนชาติไทยมาจากเทือกเขาอัลไตอยู่ติดพรมแดน จีน-มองโกลเลีย ต่อมาย้ายลงมาทางใต้เป็นอาณาจักรน่านเจ้าแถบมณฑลยูนนานและหนีการรุกรานของจีนในสมัย มองโกลราชวงศ์หยวนจนมาตั้งรัฐสุโขทัยในปีพ.ศ.1782 แนวคิดนี้ถูกปลูกฝังจากงานเขียนของขุนวิจิตรมาตรา (หนังสือหลักไทยพิมพ์ พ.ศ.2471) ที่ได้แนวคิดจาก ศจ.ยอร์ช เชเดร์ ชาวฝรั่งเศสและงานเขียนของสมเด็จกรมพระยา ดำรงราชานุภาพ แนวคิดดั้งเดิมนี้เชื่อกันมาเกือบศตวรรษแม้แต่ปัจจุบันก็ยังมีอาจารย์และบางคนยังติดยึดโดยละเลย หลักฐานทางประวัติศาสตร์และโบราณสถานสามารถย้อนหลังอย่างน้อยพุทธศตวรรษที่ 17 อีกทั้งละเลยเรื่องราว ของเมืองศรีสัชนาลัยหรือเมืองสวรรคโลก รวมถึงเรื่องราวของตระกูล “ขุนศรีนาวนำถม” เป็นบุคคลที่มีตัวตนก่อนยุค สุโขทัย
การเข้าใจภูมิหลังก่อนที่จะเรียกว่า #ประเทศไทย ” ที่พึ่งประกาศเป็นทางการเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2482 ในสมัยรัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม ก่อนหน้านี้ต่างชาติรู้จักไทยในนามของ “สยาม” จีนเรียก “เสียม” ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 เปลี่ยนชื่อเป็น “สยามประเทศ” เพื่อให้สอดคล้องกับ อารยประเทศแต่เป็นเพียงในนามเพราะหัวเมือง เช่น ล้านนา เมืองมาลายูต่างๆ รวมทั้งลาวและกัมพูชายังเป็น ประเทศราช การรวมประเทศที่ทำให้มีประเทศไทยอยู่บนแผนที่โลกเริ่มต้นเมื่อปีพ.ศ.2440 ในสมัยพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ประกาศยุบประเทศราชจัดตั้งเป็นมณฑลภิบาลมีการแบ่งเขตปกครองและมีข้าหลวงจาก
ส่วนกลางไปปกครองแทนเจ้าเมืองมีการผนวกหัวเมืองเหนือที่เป็นรัฐล้านนาเดิม เช่น เชียงใหม่, ลำปาง, เชียงราย, แพร่, น่าน เป็นส่วนหนึ่งของราชอาณาจักร
ในช่วงนั้นอยู่ในยุคล่าอาณานิคมทำให้เสียดินแดนประเทศราชไปเกือบหมด การเสียดินแดนในช่วงสุดท้ายอยู่ ในช่วงปลายรัชกาล เช่น ในพ.ศ.2449 ไทยยกมณฑลบูรพาให้กับฝรั่งเศสคิดเป็นพื้นที่ 1 ใน 10 ของปัจจุบัน ประกอบด้วยเมืองพระตะบอง, เสียมราฐ, ศรีโสภณ เพื่อแลกกับจังหวัดตราดและเมืองด่านซ้าย (จังหวัดเลย) นอกจากนี้ในปีพ.ศ.2451 มีข้อตกลงแบ่งหัวเมืองมลายูให้กับอังกฤษเหลือเพียงรัฐปัตตานีและจังหวัดสตูลเพื่อแลกกับ สัญญาลับและยกเลิกเขตอิทธิพลของอังกฤษในภาคใต้ตั้งแต่อำเภอบางสะพาน (จ.ประจวบศิริขันธ์) จนจรดชายแดน มาเลเซีย (ปัจจุบัน) การเสียดินแดนครั้งสุดท้ายเมื่อปีพ.ศ.2505 เสียพื้นที่และปราสาทพระวิหารตามคำสั่งศาลโลก ให้กับกัมพูชาเป็นจุดเริ่มต้นของ “ดินแดนขวานทอง” เนื้อที่บนแผ่นดิน 513,120 ตร.กม. และพื้นที่สองฝั่งทะเล รวมกัน 323,488.32 ตร.กม.
รัฐไทยมีประวัติศาสตร์ย้อนหลังไปอย่างน้อย 1,700 ปีหรือพุทธศตวรรษที่ 10 การเห็นภาพอดีตรวมถึง โบราณสถานต่างๆ ต้องตัดอคติเกี่ยวกับอาณาเขตที่เป็น ประเทศไทยในปัจจุบันเพราะแค่ย้อนหลัง 100 ปีดินแดนของ ไทยก็ไม่ได้เป็นอย่างปัจจุบัน ต้องตัดค่านิยมหรือชาตินิยมมอง ภาพให้เข้าใจถึงแต่ละช่วงเวลาในอดีตกว่า 16-17 ศตวรรษที่ ผ่านมาพื้นที่ประเทศมีการเปลี่ยนแปลงขยายเพิ่มและลดลง ตลอดเวลา แม้แต่ประเทศไทยและ “คนไทย” พึ่งเรียกขาน แค่เมื่อปีพ.ศ.2482 หรือเพียงแค่อายุของคนหนึ่งที่มีอายุ 83 ปีสรรพนามระบุตัวตน “ไทหรือไต” เป็นคำสามานยนาม ที่เรียกผู้คนที่อาศัยอยู่ทางใต้ของประเทศจีน เช่น คนจ้วง ในมณฑลกว่างสี, คนไตลื้อในมณฑลยูนานทางใต้, คนลาว ที่เป็นสปป.ลาวในปัจจุบันรวมถึงผู้คนที่อยู่แถบเมืองลุ่มแม่น้ำ ละวินตอนเหนือของรัฐฉาน, ผู้คนลุ่มแม่น้ำพิงค์ (ปิง) - ลุ่ม แม่น้ำยม - ลุ่มน้ำเจ้าพระยา - ป่าสักและลุ่มน้ำโขง-ชีมูลซึ่งล้วนพูดภาษาไตและมีวัฒนธรรมรวมถึงมีประเพณีคล้ายๆ กันโดยเรียกว่าอาณาบริเวณนี้ว่า “ #อุษาคเนย์ ”
#เรื่องเล่าจากบันทึก เล่าเรื่องต่างๆที่มีสาระและน่าสนใจ ประวัติศาสตร์ ประวัติบุคคลสำคัญต่างๆ รวมถึงธรรมะคำสอนต่างๆ
ชอบวิชาประวัติศาสตร์มากที่สุด
อาจารย์ครับ ทวารวดี และขอม ละครับอยู่ส่วนไหนของประวัติศาสตร์
อำเภอบ้านเชียง จังหวัดอุดร ทวาราวดี
ขอม อำเภอพิมาย ปราสาทหินเขาพนมรุ้ง หลักสูตรการเรียนมันคงเปลี่ยนช่วงปี2544 ของไทย
รู้สึกว่าประวัติศาสตร์มันทับกันอยู่ ตอนนี้เรื่มขุดพบเรื่อยๆ อยู่ในประเทศไทยนี้แหละ ขุดพบขึ้นเรื่อยๆเดี๋ยวก็กระจ่างเองละ ประเทศไทยมันใหญ่เหลือเกิน
อ.ครับผมเชื่ออาจารย์อีกท่านหนึ่งที่ท่านว่าพระพุทธเจ้าตรัสรู้ที่ไทย แล้วทที่ท่านอ.ว่าอาณาจักรต่างๆที่ว่ามาผมคิดว่าถ้ารวมกันทั้งหมดก็คือลังกาทวีป ขะแมก็คือแค้วนมคธผมคิดว่าเผลอๆประเทศไทยเรานี่แหละเก่าแก่กว่าเพื่อน
กราบสาธุๆๆๆ
ทุกวันนี้ที่ประเทศไทยเรามีแต่เรื่องแปลกๆ ถ้ำนาคาก็เหมือนนาคามีเกล็ด โครงกนะดูกมนุษย์พันปีก็พบเรื่อยๆ อาณาจักรที่ท่านพูดมาก็ไม่ค่อยพบโครงกระดูกโบราณเหมือนไทย
คารวะ.. ท่านอาจารย์.. ท่านไปอยู่ในมา.. นิติบัญญัติสภา.. เปลี่ยนด่วนคำว่าเขมร.หรือขแมร์กรอม..
ประวัติศาสตร์จะเปลี่ยนเมื่ิอพบข้อมูลใหม่ ก็ค่อยศึกษากันไป
การเขียนประวัติศาสตร์นี้ยังหลีกเลี่ยงการปะทะกับประวัติศาสตร์หลักที่ยิวฝรั่งเศสเขึยนไว้ เห็นได้จากไม่ยอมกล่าวถึงอาณาจักรทราวดีที่เมืองศรีเทพ และอาณาจักรอิสานปุระ
เราแค่สงสัยว่าเหตุใดจึงมีคนพูดภาษาไทยในยูนนาน สิบสองปันนาในจีนและรัฐอัสสัมของอินเดีย
ຣັດໄທຍ່ ມີມາແຕ່ ແຕ່ສຍາມ ປຽ່ນືເປັນ ໄທຍ່...ການເລົ່າຂອງຜູ້ນີ້ ຜີດ...
ราชอาณาจักรไทย
ควรสืบจากหลังฐานที่มีในปัจจุบันด้วยฟังไม่รู้เรื่องประวัติศาสตรคนศึกษางงเพราะค้นพบใหม่เยอะ
สวัสดีครับ ปัจจุบันยังไม่พบสิ่งที่บ่งบอกว่าเคยมี "จักรวรรดิเขมร" ข้อมูลคล้ายเป็นงานล้างสมอง เบื่ยงเบนการดำรงอยู่ของคนภูมิภาคนี้ ต่อคนรุ่นเกิดไหม่รุ่นปัจจุบัน. การสอนผิดๆก่อผลเสียให้เกิดกับเค็กรุ่นปัจจุบัน เช่นคนกัมพูชาเกิดเข้าใจผิด แล้วก่อเกิดการดำเนินการเรียกร้องสิทธิที่คิดว่าควรมีมาตั้งแต่ยุคโบราณ อาณาเขตที่เสียไปเพราะถูกชาวสยามปล้นไป ซึ่งเหตุที่เกิดขึ้นแล้วนี้ไม่มีเผ่าพันธุ์ใหนทำ. คนไทยที่ถูกย้ายไปประเทศพม่าเป็นแสนคนด้วยแพ้สงครามของเมืองอยุทธยา ปัจจุบันคนรุ่นลูกหลานเขาเป็นพม่าสมบูรณ์ไปแล้วเขาก็ไม่เรียกร้องใดๆ จากเมือง อยุทธยา หรือประเทศไทยปัจจุบัน ปัจจุบันงานรำ เล่นโขน รามเกียรติ์ ยังพบสืบทอดมาอยู่ของกลุ่มคนในเขตประเทศพม่า เขาเหล่านั้นก็ไม่เคยขอกว่าเขาเป็นเจ้าของมาก่อน เป็นต้น *การเขียนงานทางประวัติศาสตร์ควรเขียนความจริงที่มีสิ่งพิสูจน์ยืนยันได้ เพราะไม่ไช่การเขียนงานบทระคร หรือวรรณคดี ...
สีผิวคนไทยไม่ใช่คนขาว😂😂😂
คนไทหรือไต จริงๆผิวขาว ที่คนไทยผิวคล้ำคือคนไทไตลงมาผสมมอญเขมร หรือคนมอญเขมรมาลายูเปลี่ยนภาษามาพูดไทกะได จึงผิวคล้ำ ดูอย่างภาคกลาง DNA ส่วนใหญ่เป็นมอญ เพราะมอญอพยบมาสองครั้งใหญ่ ภาคตะวันออก DNAออกไปทางเขมร ภาคใต้ มอญผสมมาลายู ภาคเหนือDNAได ส่วนอีสาน อีสานตอนล่างจะDNAไดผสมเขมรเยอะผิวจะคล้ำ DNA อีสานตอนบนเป็นไทไต ผิวจะขาวเยอะเพราะไม่ค่อยผสมเขมร
คนพูดไทกะได DNA ได จริงๆเป็นคนผิวขาว ไม่ใช่เผ่าอื่นมาพูดไทกะได กับผสมกันมาในไทย ภาคกลางของไทย คือมอญอพยบ ตามงานวิจัยDNAคนภาคกลาง ปวศ.ก็มีบอกว่า มอญอพยบมาตอนไหน ไม่เชื่อไปหาข้อมูลเอาเอง
แถวนี้เป็นนิโกรผสมมองโกลลอยด์ นิโกรทางอินโด นิโกรทางอินเดีย มองโกเลีย ผสมกัน ไม่เชื่อไปตรวจดีเอ็นเอดูนะ ถ้าเป็นสีขาวเหลืองน่ะเชื้อสายทางไตยทางไทยใหญ่ ถ้าเป็นสีเทาน่ะแขกมอญแขกทางอินเดีย ทางเป็นสีส้มน่ะเป็นแขกอาหรับ พวกแขกก็้เป็นนิโกรนั่นแหละ
มอนเขมรเป็นคนกลุ่มน้อย ไม่รู้จริงๆหรือแกล้งไม่รู้
@@bigbright2200😂😂😂เกียจเขาจน้หยียดว่างั้น DNA เขมรเต็มอยู่ที่ภาคตะวันออก DNAบ้านเชียงก็กลุ่มมอญผสมเขมรอี สานใต้ยังมีเผ่าขมรอยู่เลย
ไปตรวจDNAคุณดูนะว่าDNAอะไร คุณคนภาคไหน คนส่วนใหญ่ ของDNA กลางมอญ ใต้มอญผสมมาลายู เหนือได อีสานตินล่างไดผสมเขมร อีสานตอนบนได
DNA เขมรแตกต่างจากคนในภูมิภาคนี้ ดูจากรูปพรรณชัดเจนที่สุด
@@mayureenoumkhoksung8607 ไปดูอีสานใต้ เผ่าเขมร สานตอนล่างลาวผสมเขมร ภาคตะวันออกdnaเขมร กัมพูชาใต้เขมรผสมจามปา กัมพูชาเหนือไม่ได้ผสมจามปา ไปศึกษาก่อนไปใช่ฟังตามเขามา อ่านเม้นแล้วอายแทน ในเขมรมันก็ไม่ได้มีเผ่าเดียว ไม่ต่างจากไทย ภาคดลางdnaมอญแต่พูดไทกะได
@@mayureenoumkhoksung8607 แสดงว่าไม่ข้าใจ กัมพูชาภาคใต้ที่เขมรผสมจาม กัมพูชาภาคเหนือไม่ผสมจาม DNAมันแยกกันอยู่ ภาคตะวันออกของไทยมีDNAเขมรทั้งนั้น อีสานใต้ก็เผ่าเขมร อีสานตอนล่างลาวผสมเขมร กลุ่มนี้ไม่ได้ผสมจามปา เหมือน กัมพูชาภาคใต้ แยกDNAยังแยกไม่เป็นเลย
ไปดูภาคกลางของไทยมอญอพยลทั้งนั้น ที่เปลี่ยนภาษามาพูดไทกะได ไม่เชื่อก็ไปหาข้อมูลเอาเอง
๑
ปัตตานีปกครองโดย รายา ไม่ใช่ สุลต่าน ครับ ฐานะเจ้าเมือง ข้อมูลนี้บิดเบือนเล็กน้อยแต่เป็นสาระสำคัญที่ควรทำให้ถูกต้อง
มันเปลี่ยนหลักสูตรเรียนช่วงปี2544 ก่อนเปลี่ยนมีบอกหมด
กราบสาธุๆๆๆ
พี่ชายครับช่วยร่วมเรื่องราวประวัติศาสตร์จังหวัดน่านไห้ด้วยครับขอบคุณครับแล้วจะรอรับฟังครับ
กราบสาธุๆๆๆ
แพนดินเขมรทังนันเล่ะที่เป็นเจ้าของแพนดินชาวเสียมพึ้งหนี้ส่งครามโมงโกเรียจีนมาแย้งแพนดินเขมรอยุที่สุโขทัยเลิกหลงตัวเองที่
-ข้อมูลโบราณมากเกือบ 100ปี ,เขามีการขุดค้นพบหลักฐานข้อมูลใหม่ๆมาแก้ไขความรุ้แบบผิดๆดั้งเดิมกันแล้ว ,ความรู้ทางประวัติศาสตร์มัน พัฒนาได้แบบ วิทยาศาสตร์ , แสดงถึงความล้มเหลวของระบบการศึกษาของชาติได้เลย
เขมรเป็นชนชั้นทาส ในสมัยขอมรุ่งเรือง ต่อมากบฏล้มล้างอำนาจขอมในสมัยพระเจ้าแตงหวาน แต่ก็อยู่ได้ไม่นาน ต่อมาก็ตกเป็นประเทศราชของอยุธยา ธนบุรี และรัตนโกสินทร์ และเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศส และเป็นเอกราชหลังสงครามโลกครั่งที่2
ขอมไทย ขอมอีสานใต้แผ่อิทธิพลลงไปที่เขมรนะ ไม่ใช่จากเขมรขึ้นมา ไปศึกษาใหม่นะ
ขอมคนละพวกกับเขมร ขอมคือสยามโบราณ ส่วนเขมรล่องเรือมาจากอินโด