Розмір відео: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Показувати елементи керування програвачем
Автоматичне відтворення
Автоповтор
หลวงพี่องค์รู้แน่นมาก...เป็นกำลังหลักสำคัญของพระสงฆ์สายกรรมฐาน สุรินทร์ในปัจจุบันและอนาคต สาธุๆๆๆ
กราบพระอาจารย์ ผมได้ความรู้...สาธุ
สาธุสาธุสาธุค่ะ
กราบในธรรมของหลวงสาธุค่ะ
เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน ผมรีบไปทำงาน เร่งรีบมาก เช้าๆเดินผ่านพระ (ตอนนั้นยังไม่มีรถหรือยานพาหนะใดๆ ใช้ ต้องเดินออกจากซอยไปขึ้นรถประจำทาง) พอผมเห็นพระท่านเดินบิณฑบาตรมา ผมก็อยากทำบุญ มักจะหยิบเงินส่งถวายให้พระท่านเเล้วกล่าวว่า หลวงพี่/หลวงพ่อ ผมไม่มีเวลาซื่อของใส่บาตร ผมขอถวายปัจจัยให้ท่านไว้ใช้สอย พระท่านก็รับ ปรกติ เเละให้พร ตอนขณะกำลังให้ ผมรู้สึกดี เเบบว่า เราได้ทำบุญ ตอนนั้นผมไม่ทราบว่า การให้เงินกัยพระโดยตรงเเบบนั้น เป็นเรื่องผิดพระวินัย ..เเต่ต่อมาหลังจากนั้น ก้ค่อยๆ เรียนรู้ อย่างที่หลวงพี่โอโม่บอก ผมก็เปลี่ยนวิธี คือหาเวลาใส่บาตรในวันหยุด บวกกับ ทำสังฆทานบ้าง หากเป็นเรื่องเงิน นี่ ผมนำไปหยอดตู้ ค่ำน้ำ ค่าไฟ ซะเป็นส่วนใหญ่ไปเลย บางทีก็ซื้อธูปเทียน ไฟเเช็ค ไปถวายวัด ไปวางไว้ที่ฐานที่มีพระประธานตั้งอยู่เลยครับ วัดน่ะมีค่าใช้จ่าย ผมเลยเลี่ยงทำเเบบนี้มาตลอดถ้าอยากทำบุญด้วยเงินกับวัด กับพุทธศาสนา....สาธุครับ....🙏🙏🙏
กราบอนุโมทนาในพระธรรมวินัยที่มีความชัดเจน ในการทำนุบำรุงพระธรรมให้คงอยู่สืบไป สาธุๆๆ
แจ่มแจ้งครับผม🙏🙏🙏
สาธุๆๆๆด้วยนะอาวุโสโอโม้
เห็นเป็นไปตามยุค ตามสมัยนั้นๆ เพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่พระจะจับเงินไม่ได้ ไหนจะค่าเรียน ค่ายานพาหนะ ค่าน้ำ ค่าไฟ อุปกรณ์การศึกษาล้วนใช้เงินทั้งสิ้น
👍
ผมก็ค่ดเช่นนั้นครับ ยุคนี้ พระท่านต้องจ่ายค่า น้ำ ไฟ ค่ารักษาตัวเอง มากมาย ถ้าไม่มีเงินนี้ลำบาคมากๆ ใน กทม. 😮💨🙏🏼🤗
ผมใส่บาตรข้าวน้ำแกงขนมตามไปด้วย20บาทแต่ทำด้วยใจนะครับ
เพราะเองไม่ได้บวชมาเพื่อปฏิบัติมีรค 8 ไง เองบวชมาเพื่อแสวงหาความเจริญก้าวหน้า จึงเรียนมียศมีตำแหน่ง เป็นมหาเปรียญ เป็น ดร. เหล่านี้ไม่ใช่กิจของพระ เป็นของชาวบ้านเขา บวชมาหาอยู่หากิน จึงไม่เคร่งพระวินัย ลงนรก ทั้งหมดนะ บอกตรงๆ
พระพุทธเจ้าบัญญัติศาสนามีพระธรรมวินัย ให้ภิกษุผู้ยินดีออกบวชประพฤติปฏิบัติตาม ครับ มิใช่ให้ละเมิด เป็นภิกษุจะต้องจ่ายค่าเรียนอะไรอีกครับ? ในวัดไม่มีอาจารย์ไม่มีอุปัชฌาหรือครับ?
กราบสาธุๆๆครับ
สาธุครับ
ສາທຸຂະນ້ອຍ.
สาธุ 🙏🙏🙏
กราบสาธุเจ้าค่ะ
ถ้านักบวชคนใดตีความไม่แตก หย่อนยานวินัย ควรออกมาทำมาหากิน... ไม่จับเงินนั่นถูกที่สุด
ใช่คะมีโยมดูแลค่ะ
ภิกษุที่รับเงินรับทองผิดพระธรรมวินัยไม่ใช่ภิกษุในพระพุทธศานนา "พระปลอมไม่สมควรกราบไหว้บูชา"
รับใช้เฉพาะพระใหญ่ๆ
พระก็ต้องฉันต้องใช้เงินจับจ่ายใช้สอยเหมือนกันเราถวายใส่ฝาบาตร🙏🙏🙏
ถ้ามันลำบาก ก็สึกไป ทางเดินนี้เป็นของคนผู้มักน้อยสันโดษ สละเรือน สละห่วงกังวลแล้ว ไม่ใช่ของคนมักมากรักสบาย สึกครับจบ
ต้องถามใจตัวเองก่อนออกบวชเป็นภิกษุ เราออกบวชเพื่ออะไร ?
สายวัดป่าบางรูปก็รับเจ้าค่ะ
พระปฏิบัติแนวพุทธจนไม่รับเงินครับ
@@ดินสถานะ:สาธุครับ
มีครับมีมาฝากไว้ให้ก็มีทีละ 4,000 5,000 บาทก็มีครับแต่หายจ้อยครับหายจ้อยหายจ้อย😂😂😂
คนมักง่าย ควักเงินให้พระจบๆไป พระวินัยท่านก็บัญญัติไว้ ว่าให้กับใครได้ แต่คนมักง่าย มีเงินควักให้จบง่ายดี อยากได้บุญแต่มักง่าย ไม่ขวนขวาย ไม่ศึกษา
ผมเคยบวช อยู่6พรรษา และก็ไม่ได้สนใจเรื่องเงินทอง วันหนึ่งผมรู้สึกไม่ดีที่มุมท้องตรงสดือ ผมเป็นใส้ติ่งครับ ปวดทรมานมากๆ ได้แต่อธิฐานนึกถึงบุญที่บวชอยู่ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่ก็ปวดขึ้นเรื่อยๆ จึงไปหาหมอประจำอำเภอแต่ หมอบอกต้องส่งหลวงพี่ไปผ่าที่นครสวรรค์ มีค่าใช้จ่าย50000บ. แต่ในย่ามมีแค่400บ. จึงติดต่อไปที่ไวยาวัจกร ที่วัด เขาช่วยได้แค่10000 เพราะเรี่ยไรได้แค่นั้นจริงๆ ผมจึงตัดสินใจขอกู้เงินกำนัน อีก50000บ. จนได้ผ่าตัดจนหาย หลังจากนั้นผมเป็นพระมีหนี้ใช้ชีวิตก็ไม่สะดวกเพราเขาทวงเงินบ่อยๆ จึงได้ขอลาสิกขา มาทำงานใช้หนี้เขาครับ ถ้าผมเก็บออมเงินไว้ตั้งแต่บวชแรกๆบ้าง ผมคงไม่เป็นหนี้ ผมอยากบอกว่าพระสมัยนี้ กับสมัยก่อนไม่เหมือนกัน อย่าโลกสวยครับ ให้ท่านเก็บเงินไว้บ้าง มีไว้พอดี เพื่อไม่เป็นภาระคนอื่น แต่อย่าสะสมจนดูรวยมีฐานะ ไม่มีใครดูแลพระสงฆ์ได้จริงๆหรอกครับ นอกจากตัวของท่านเอง ผมเผชิญมาแล้ว ปัญหากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ตัวพระเองนั่นและที่รู้ ว่าควรปรับตัวอย่างไร จะถือรึไม่ถือเงินอย่ายึดติดพระธรรมวินัย จนตัวเองเป็นทุกข์ พุทธศาสนาสอนให้พ้นทุกข์ ไม่ใช่สอนให้มีแต่ผู้รู้ธรรมะอย่างเดียว รู้มากก็กดข่มคนที่รู้น้อย โจมตีคนรู้น้อยว่าเป็นพวกไม่ปฏิบัติ พวกนอกคำสอน อย่าลืมจริตคนไม่เท่ากัน อัตลักษณ์ นิสัยใจคอ ต่างกันจงดูเหตุและผล ไม่ใช่ยืนหยัดความถูกต้องอย่างเดียว จนลืมมวลมนุษย์ ไม่ได้ว่าและด่าใคร จงใช้ปัญญา...ครับ
🙏🙏🙏
เอาวัสถุอนามาสใส่บาตรพระที่ท่านใช้อยู่ไม่ได้หรอกถามแปลกๆ หรือบาตรที่เอามาตั้งตามศาลาถ้าพระมาตั้งเองก็ผิดแล้ว
สาธุๆๆ
เงินทองพระไม่รับ แต่ธนะบัตรใช้ได้ถูกต้องตามกฏหมายใส่ได้บาตรพระพระรับได้
ระเบียบปฏิบัติของภิกษุดูที่พระธรรมวินัย ไม่ใช่ที่กฏหมาย พระพุทธเจ้าให้ธรรมวินัยเป็นตัวแทนของท่าน
ฝ
ถ้าเป็นสมณศากยะบุตรจริง จะต้องปรับตนให้อยู่ในธรรมะ ท่านตรัสไว้ เมื่อ ๒๕๐๐ ปีปัจจุบันก็ยังทันสมัยอยู่เสมอ ไม่มีคำว่าล้าสมัยเด็ดขาด ทำได้เพียงแต่ไม่อยากปฏิบัติตามท่านเท่านั้นเองพระทุกวันนี้คิดจะบวชเพื่อหลุดพ้นน้อยนิด จริงๆนะ
ค่าน้ำค่าไฟต้องใช้เงิน บุญกระฐินมีแต่เงินทั้งนั้นครับ สร้างกุฏิศาลารถราก็ต้องใช้เมื่อมีกิจนิมนต์ บางวัดพระถึงขนาดต้องขับรถเอง ใครจะมาอาสาบริการพระ มันถือเป็นเรื่องปกติไปแล้วครับ เมื่อโลกเปลี่ยนไป
พระธรรมวินัยคืออะไรก็ต้องเข้าใจระเบียบก็คือระเบียบถ้าไม่เช่นนั้นก็ไม่ต้องมีระเบียบกฎเกณฑ์ใครจะทำอะไรก็ทำไปอย่างนั้นหรือ ยิ่งพระภิกษุที่เป็นผู้ประเสริฐและเป็นผู้ถือศีลคือต้องละสละกิเลสปลดปล่อยวางทุกสิ่งทุกอย่างตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะประพฤติปฏิบัติเหมือนเช่นเพศคฤหัสถ์ไม่ได้มิเช่นนั้นจะเรียกผู้ถือศีลได้อย่างไรแม้จะอ้างว่าจะจำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายก็ไม่ได้ถ้ายินดีในการรับเงินรับทองก็ขึ้นชื่อว่าภิกษุอลัชชี หากประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัยไม่ได้ก็ไม่ควรเข้ามาบวชจะทำให้ศาสนาต้องแปดเปื้อนท่านก็ต้องได้รับบาปอีกและอาจขึ้นชื่อเป็นมารศาสนาไปได้ เมื่อท่านตั้งใจบวชเพื่อเป็นผู้ถือศีลตามแนวทางของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วท่านจะต้องเข้าใจในพระธรรมวินัยนี้ด้วยเพื่อเป็นบุญกุศลและครอบครัวท่านทุกคนจะได้รับผลบุญที่เป็นกุศลอย่างแท้จริง และยังทะนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองต่อไป
จริงๆคะสายวัดป่าไม่รับเงินคะ
ไม่รับค่ะแต่มีตู้ที่เราจะทำบุญสาธุธรรมค่ะ
ขอทำความเข้าใจตรงให้นะครับเกี่ยวกับทาน.. " ภิกษุทั้งหลาย ทานที่ไม่มีอานิสงส์มีอยู่ ทานแล้วเป็นบาปมีอยู่"ข้อความนี้พูดถึงฝ่ายให้ไม่ได้พูดถึงผู้รับ..ทานํ ..ทานเป็นชื่อเจตนาด้วยเป็นชื่อวัตถุด้วยฉะนั้นจึงชื่อว่า ทาน วัตถุนั้นนั่นแหละเป็น อามิส จึงชื่อว่า อามิสทาน เพราะมีความหมายว่า จับต้องได้วยกิเลสมีตัณหาเป็นต้น อีกอย่างหนึ่ง เจตนาจาคะ ที่สละให้ ก็ชื่อ อามิสทาน นี้ว่าโดยความหมายคราวๆก่อนต่อไปนี้เป็นคำ อธิบาย ในทั้งสองคำนั้นคือ ทานที่ไม่มีอานิสงส์และมีบาป....ข้อความที่พรรณามีนั่นแหละทีไม่ประกอบกับบุคคลที่กำลังให้ทาน ชื่อว่าไม่มีอานิสงส์มาก..ส่วนว่าทานของบุคคลใดที่ไม่รู้ว่าสิ่งนี้ ผิดต่อสิกขาบทของภิกษุ ยังรักษาบาปกรรมนั้นได้ก่อน(คือ)ยังไม่เป็นบาปเพราะไม่มีเจตนาที่จะให้ภิกษุมีโทษ(เป็นอาบัติ)..ส่วนทานของบุคคลใดที่รู้(คือ)สิกขาบท(อยู่)แล้วมีความจงใจว่า"ขอภิกษุผู้นี้,พวกนี้,เหล่านี้,เป็นต้น จงได้รับโทษ(มีอาบัติ)เพราะเหตุแห่งวัตถุนี้..แล้วให้ทาน ทานอย่างนี้ชื่อว่า มีบาป..ฉะนี้
คนใส่นั้นบาปนะโยมถ้าหากน้อยกว่า 100 บาทลงมานะต้อง 100ขึ้นไปจึงจะไม่บาปนะ 😂😂😂ทุกวันนี้รับทุกสำนักรับทุกวัดรับทุกพระรับทุกสายครับไปเจอมาแล้วสัมผัสมาแล้วแต่เขามีวิธีการรับของเขาเอง
พระที่ไม่มีโยม อุปฐาก ก้ต้องใช้ เพราะค่าน้ำ ค่าไฟ ค่ารักษาพยาบาล พระที่ ท่านมีโยมอุปฐาก คอยดูแล ก้เป๋นเหมือนที่ หลวงพี่ท่านกล่าวมา
บางที พระ เล็ก เณน นอย้ ละ
คนวัดก็อไม่ใด้ดีทุกคน นะ
ทุกอย่าขึ้นอยุ่ที่เหตุและปัจจัย
คนดูแลวัดไว้ไจได้หรือคะ
จึงต้องคัดเลือกให้ดี ดูความประพฤติ นิสัยใจคอ อัธยาศัย มีศีล มีธรรม มีความอ่อนน้อม มีจิตอาสา เป็นต้น
พระท่านพิจารณาแล้วว่าควรเป็นคนนั้นๆ ถ้าเราไม่เขืีอใจเราจะไม่บริจาคให้ก็ได้
กราบสาธุอนุโมทนาเจ้าค่ะและกราบนมัสกราบท่านสมณปุติยศากยสาธุค่า
คำตอบคือบาปครับ ผมขออธิบายดังนี้ คนที่1คดข้าวสวยที่ตื่นเช้ามาหุงใส่บาตรถวายพระ คนที่2ใส่เงินลงไป ทำให้ข้าวสวยของคนแรกสกปรก มันคือความมักง่ายในการทำบุญ ทำให้ข้าวที่พระต้องฉันท์สกปรก จึงไม่ได้บุญ แต่ได้บาป และบาปจะหนักกว่านั้นถ้าพระเห็นข้าวเปื้อนด้วยเงิน และนำข้าวที่คนตั้งใจใส่ไปทิ้งเสีย กลายเป็นบาป2เท่า สิ่งนี้ปัญญาสอนผมมา ผมไม่ได้คิดเอง ควรนำเงินไปให้ที่คนดูแลวัด
สมัยปัจจุบันเงินเป็นปัจจัยสำคัญ
ในเมื่อสมัครใจมาในทางธรรมนี้ก็ต้องปฏิบัติตามธรรมวินัยให้ได้ งั้นก็อย่ามาบวชให้ศาสนาพุทธมัวหมอง
อย่าอ้างยุคสมัย สมัยพุทธกาลไม่ลำบากว่างั้น คิดดูดี ๆ อาหารและผ้าก็หายาก ไม่มีค่าไฟฟ้า ก็มีค่าน้ำมันจุดตะเกียง ผู้ศรัทธาก็มีน้อยกว่ายุคปัจจุบัน ท่านยังห้ามรับเงินทองกลัวลำบากอยู่เป็นคฤหัสดีกว่าคับ ไม่เสี่ยงนรกสารัตถทีปนีฎีกา (๓/๔๕๓)เตเนว “สาปตฺติกสฺส ภิกฺขเว นิรยํ วา วทามิ ติรจฺฉานโยนึ วา” ติ สาปตฺติกสฺเสว อปายคามิตา วุตฺตา.เพราะเหตุนั้นเอง พระผู้มีพระภาคจึงตรัสความที่ภิกษุผู้มีอาบัติติดตัวต้องไปสู่อบายว่า “ภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวนรกหรือกำเนิดสัตว์เดรัจฉานสำหรับภิกษุผู้มีอาบัติติดตัว”
จะไปฝากกับลูกศิษย์ เดี๋ยวลูกศิษย์เอาไปซื้อยาบ้าอีกครับ
เลือกไวยาวัจกร เลือกคนที่มีศีลธรรม ไม่ใช่ไปเลือกขี้ยามาเป็นไวยาวัจกร 😄
หลวงพี่ช่วยแก้สงสัยให้กระผมทีครับ ถ้าในกรณีเป็นเช็คเงินสด เช็คของขวัญ เข้าข่ายเงินหรือเป็นตัวแทนเงินชัดเจน แบบนี้ถวายโดยตรงพระรับหรือถือไปเลยได้ไหมครับ
ถ้าเป็นประเภทนั้น ก็จัดเป็นการรับเงิน เพราะในนั้นโยมตั้งใจถวายเป็นเงินอยู่แล้ว ซึ่งจะแตกต่างจากการปวารณาที่พระพุทธเจ้าทรงอนุญาต ให้ปวารณาถวายเป็นสิ่งของอันสมควร แต่สามารถระบุมูลค่าได้ เพื่อให้พระไม่ขอของเกินมูลค่านั้น
เรื่องการปวารณา ใบปวารณาua-cam.com/video/BQDyiRh8XD8/v-deo.html
แล้วถ้าโยม ไม่จ่ายให้พระ จะทำยังไง พระก็จะไม่มีของใช้ที่จำเป็น
@@MsnlinM ถ้าหมายถึงกรณีที่โยมที่เก็บเงินไว้ (ไวยาวัจกร) ไม่ไปซื้อของมาให้ตามที่พระต้องการ ก็ต้องไปแจ้งกับคนที่ปวารณาว่าเขาไม่ยอมซื้อของให้ตามที่โยมปวารณาไว้นะ เดี๋ยวโยมเขาก็จะไปจัดการต่อเอง
@@luangpeeomo1773 พระก็ทำตัวลำบากเหมือนกันเนอะหลวงพี่ อย่างในกรณีนี้โยมจรมาไม่รู้จะไปแจ้งเขาได้อย่างไรลำบากเลย ที่กระผมเจอมาไม่ให้ไครถือแต่เก็บไว้เป็นสัดส่วนไม่ได้เก็บไว้กับตัวเวลาปราถนาสิ่งใด ก็ให้บุคคลใดไปหยิบมาจัดการ อย่างนี้ถือว่าดีไหมครับ
สรุปแล้ว..ไม่สมควร นำเงิน ใส่บาตรพระ ครับ..บาตรพระ ใส่อาหาร สำหรับ ให้พระฉัน อาหารอย่างเดียว ครับ
ถวายเงินได้ แต่..ต้องเข้ากองกลาง เหรอ ไวยาวัขรกร ครับ ไม่ใช่ถวายเงินพระเป็นส่วนตัว
ไม่รับเงินมันลำบาก ทั้งพระ และ โยม ผู้ที่จะ ถวาย เงิน อย่างไงๆท่านก็ใช้เงินอยู่
ไม่ต้องไปเลี่ยง ให้มันมีเล่เหลี่ยม 😂ใช้ให้เป็น ปัจจัยสี่ ไม่ต้องยุ้งยากกับคนอื่นๆอีกที
ใส่ในบาตรไม่ได้แต่เลือกใส่ในย่ามดีกว่า.
ชัดเจนครับผมไม่ไว้ใจไวยาวัจกรณ์ใส่ให้พระในย่ามดีที่สุด
แต่บางวัดท่านให้ไวยาวัจกรเป็นผู้ดูแลการเงิน เช่นวัดที่ปฏิบัติแนวพุทธจน
หลวงพี่ นี้ยุคไหนแล้ว ควรศึกษามหาปเทศ 4 ให้เข้าใจก่อนนะ
@@Realme-r9j ต้องศึกษาให้ดีนะครับว่า มหาปเทศ 4 ไว้ใช้กับสิกขาบทที่ไม่มีการบัญญัติไว้โดยตรง จึงให้เทียบเคียง สิกขาบทใดมีโดยตรงอยู่แล้ว ไม่ได้ทรงอนุญาตให้ใช้มหาปเทศ 4
อย่ายึดติดตํารา
สาธุ
แล้วถ้าฝากไว้แล้วโยมก็ไม่ให้ก็บอกว่าเงินหายแล้วจะให้ทำยังไงครับผมว่าที่โยมเอาเงินใส่บาตรมันอยู่ที่เจตนาเพราะทุกวันนี้สังคมมันเปลี่ยนไปป๋าก็ต้องปรับเปลี่ยนไปตามสังคมบ้าง
หากไวยาวัจกรไม่จัดหาสิ่งของให้ตามที่มีผู้ปวารณาเอาไว้ ก็แจ้งกับโยมที่ปวารณาว่า อาตมาไม่สามารถขอสิ่งของใด ๆ จากไวยาวัจกรได้เลย บอกเพียงเท่านี้ โยมเขาก็คงหาวิธีจัดการเองและหากไวยาวัจกรผู้นี้ เป็นคนไม่ดี ก็ไม่สมควรให้รับหน้าที่เป็นไวยาวัจกรต่อไปหากหามิได้ โยมผู้ถวายสามารถกล่าวคำปวารณาและเป็นผู้จัดหาสิ่งของมาเองได้เลย ตย. กล่าวว่า "หากพระคุณเจ้าประสงค์สิ่งใดอันสมควรแก่สมณะบริโภค พึงบอกแก่โยมได้ โยมจะจัดหาสิ่งนองนั้นมาให้ ภายในมูลค่าเท่านั้นเท่านี้ อย่างนี้ก็ได้
พระพุทธเจ้าท่านวางแนวทางผ่อนปรนโดยให้มี ไวยาวัจกรและกัปปิยการกให้ช่วยเหลือพระด้านนี้แล้ว หากภิกษุมีใจเคารพในพระพุทธเจ้า ก็ไม่สมควรที่จะละเมิดพุทธบัญญัติ แต่พึงทำตามพุทธบัญญัติ ภิกษุก็จะมีแต่ความเจริญทั้งในศีล สมาธิ และปัญญา เพื่อทำที่สุดแห่งทุกข์ต่อไปได้
ผมถวายพระประธานตอนใส่บาตรได้ไหมครับจะผิดไหมครับ
ุูถูกต้องเจ้าค่ะพระวัดป่าท่านไม่รับเลย
พระที่ถือตามพุทธวจน ก็ไม่รับ-จับเงิน
นำเงินใส่บาตรเท่ากับเอาเหล้าใส่บาตรเช่นกัน
มันเป็นไปใม่ใด้ครับ
เงินกับเหล้าเหมือนกันตรงไหนเดี่ยวนี่ไปไหนมาไหนพระไม่ได้เดินเหมือนหลวงตาชื่นนะครับ
ผิดอะไรพระก็ใช่เงินพระก็คนไม่ใช่เงินก็มีแต่พระพระพุทธรูปในโบสถ์นั่นแหละที่ใช้เงินไม่เป็น😊😊
พระพุทธเจ้าสอนเรื่องนี้อยู่ครับ โภควิภาค4 ส่วนเงินที่ไม่ควรรับคือเงินที่สร้างปัญหา เป็นเงื่อนไข สินบน หรือเงินที่สนองความโลภ ทำนองนั้น แต่ถ้าเก็บไว้ยามจำเป็นยามเดือดร้อน เช่นค่ารักษาพยาบาล รับเก็บไว้แต่พอดี ปรับตัวตามสมัย อย่ารับเอาจนร่ำรวยมีฐานะ อันนั้นมันก็ไม่ควร วิเคราะห์พระธรรมวินัยกับยุกสมัย ไม่ใช่ยึดติด อดีตกาลอยู่ไงอยู่งั้น
พระใช้เงินแต่เพียงน้อย เพราะอยู่กินกับคนที่ทำทาน หรือใส่บาตรเป็นวันวันไป ไม่ต้องสะสม ไม่คิดอยากได้-อยากมั่งมี
@@ดินสถานะ ล่าสุด เจ้าคณะจังหวัดป่วยมะเร็ง ยาโดสละ2แสน7โดส ทางวัดช่วยได้แค่แสนเดียว แต่ยังดี ได้รับ เป็นคนไข้ในอุปถัมภ์ในหลวง ไม่งั้นยาวเพราะในสมัยปัจจุบันไม่มีหมอเถื่อนแล้ว แต่ถ้าเป็นพระหลวงตาธรรมดาๆ ก็คงปล่อยตายตามยถากรรม คุณคิดยังไง อย่ามองแต่ธรรมวินัย พระพุทธเจ้า พระองค์์ทรงไม่ให้เรายึดติดเลย อะไรคือแก่นคำสอน ชี้ถูกชี้ผิด ในความเห็นตนเอง ยกเอาความถูกต้องไปไล่บี้คนที่เห็นต่างกว่า รู้เพื่อสอนตน อย่ารู้เพื่อประกาศว่าตนรู้มากกว่าผู้อื่น
ศีล227ข้อมีอยู่หนึ่งข้อที่ห้ามพระภิกษุรับเงินถ้าภิกษุทำผิดพระธรรมวินัยข้อนี้จะได้ไหมตอบทำได้แต่เป็นพระอลัชชีลงนรกและคนถวายเงินพระก็บาปลงนรกไปกับพระเหมือนกัน
ใช่ครับในศีลศีลปาฏิโมกข์ มีบัญญัติภิกษุรับเงิน-ทอง แต่ในศีลปาฏิโมกข์ มี150ข้อครับไม่ใช่227ข้อ 227ภิกษุรุ่นหลังนำวินัยหมวดอื่นมาแปะไว้เท่านั้น(จริงๆแล้วศีลมี3,328ข้อ/3ระบบ ครับ )ซึ่งภิกษุทุกรูปต้องรักษาให้ครบทั้ง3328ข้อ จึงจะเป็นภิกษุบริสุทธิ(ไม่ใช่ภิกษุอลัชชี)
เดี๋ยวนี้พระรับเงินเป็นว่าเล่นยิ่งเป็นวัดพาณิชย์ด้วยแล้วกลายเป็นเรื่องธรรมดา
งั้นผมรับมาแล้วเอาให้โยมญาติก็ถือว่าสละใช่ไหมครับ
@@Kehloiu_12345 ใช่แบบนั้น ก็ถือว่าสละเช่นกัน แต่ก็ต้องพึงระวังว่า อาจจะกลายเป็นการประจบคฤหัสถ์ไปได้ด้วยเช่นกัน
@@luangpeeomo1773 ถ้าผมคิดว่ายายเป็นคนเลี้ยงผมมาผมเลยอยากช่วยแบ่งเบาภาระของยายบ้างอะครับ
หลวงพี่คะขอถามคะของทีคนอื่นเขาทำบุญถวายพระไปแล้วถ้าพระไห้ยอมมาเราจะเอาจะเอาไปถวายพระวัดอื่นจะได้มั๊ยคะ
@@อภิชฌาเพียรงาน-ฏ8ฅ ได้
ทา่นจ้าวคะบ้างครั้งยายเจอพระบิทบาทไม่มีอะไรใส่เอาปัจัยใส่จะปาบใหมจ้าวคะ๊
@@chandeeluesuwan1908 ตอบไปในวิดีโอแล้ว ฟังดู แต่ถ้าเจตนาดีก็ไม่บาปหรอก
ถามว่าปัจจัย4ถ้าไม่มีเงินจะหามาได้ไหมทุกวันนี้โยมปวารณาตนด้วยปัจจัย4หายากแล้วทุกวันนี้ถวายตังค์มาเลยเดี๋ยวพระไปจัดเองปัจจัย4จีวรบิณฑบาตเสนาสนะคิลานเภสัชชะโยมก็ได้บุญเหมือนกันเพราะถวายมาแล้วพระได้ใช้สอย
รับผมไปสวดมาแล้วกับสายธรรมยุตรับเงินทั้งนั้นแหละ
หลวงพี่องค์รู้แน่นมาก...เป็นกำลังหลักสำคัญของพระสงฆ์สายกรรมฐาน สุรินทร์ในปัจจุบันและอนาคต สาธุๆๆๆ
กราบพระอาจารย์ ผมได้ความรู้...สาธุ
สาธุสาธุสาธุค่ะ
กราบในธรรมของหลวงสาธุค่ะ
เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน ผมรีบไปทำงาน เร่งรีบมาก เช้าๆเดินผ่านพระ (ตอนนั้นยังไม่มีรถหรือยานพาหนะใดๆ ใช้ ต้องเดินออกจากซอยไปขึ้นรถประจำทาง) พอผมเห็นพระท่านเดินบิณฑบาตรมา ผมก็อยากทำบุญ มักจะหยิบเงินส่งถวายให้พระท่านเเล้วกล่าวว่า หลวงพี่/หลวงพ่อ ผมไม่มีเวลาซื่อของใส่บาตร ผมขอถวายปัจจัยให้ท่านไว้ใช้สอย พระท่านก็รับ ปรกติ เเละให้พร ตอนขณะกำลังให้ ผมรู้สึกดี เเบบว่า เราได้ทำบุญ ตอนนั้นผมไม่ทราบว่า การให้เงินกัยพระโดยตรงเเบบนั้น เป็นเรื่องผิดพระวินัย ..เเต่ต่อมาหลังจากนั้น ก้ค่อยๆ เรียนรู้ อย่างที่หลวงพี่โอโม่บอก ผมก็เปลี่ยนวิธี คือหาเวลาใส่บาตรในวันหยุด บวกกับ ทำสังฆทานบ้าง หากเป็นเรื่องเงิน นี่ ผมนำไปหยอดตู้ ค่ำน้ำ ค่าไฟ ซะเป็นส่วนใหญ่ไปเลย บางทีก็ซื้อธูปเทียน ไฟเเช็ค ไปถวายวัด ไปวางไว้ที่ฐานที่มีพระประธานตั้งอยู่เลยครับ วัดน่ะมีค่าใช้จ่าย ผมเลยเลี่ยงทำเเบบนี้มาตลอดถ้าอยากทำบุญด้วยเงินกับวัด กับพุทธศาสนา....สาธุครับ....🙏🙏🙏
กราบอนุโมทนาในพระธรรมวินัยที่มีความชัดเจน ในการทำนุบำรุงพระธรรมให้คงอยู่สืบไป สาธุๆๆ
แจ่มแจ้งครับผม🙏🙏🙏
สาธุๆๆๆด้วยนะอาวุโสโอโม้
เห็นเป็นไปตามยุค ตามสมัยนั้นๆ เพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่พระจะจับเงินไม่ได้ ไหนจะค่าเรียน ค่ายานพาหนะ ค่าน้ำ ค่าไฟ อุปกรณ์การศึกษาล้วนใช้เงินทั้งสิ้น
👍
ผมก็ค่ดเช่นนั้นครับ ยุคนี้ พระท่านต้องจ่ายค่า น้ำ ไฟ ค่ารักษาตัวเอง มากมาย ถ้าไม่มีเงินนี้ลำบาคมากๆ ใน กทม. 😮💨🙏🏼🤗
ผมใส่บาตรข้าวน้ำแกงขนมตามไปด้วย20บาทแต่ทำด้วยใจนะครับ
เพราะเองไม่ได้บวชมาเพื่อปฏิบัติมีรค 8 ไง เองบวชมาเพื่อแสวงหาความเจริญก้าวหน้า จึงเรียนมียศมีตำแหน่ง เป็นมหาเปรียญ เป็น ดร. เหล่านี้ไม่ใช่กิจของพระ เป็นของชาวบ้านเขา บวชมาหาอยู่หากิน จึงไม่เคร่งพระวินัย ลงนรก ทั้งหมดนะ บอกตรงๆ
พระพุทธเจ้าบัญญัติศาสนามีพระธรรมวินัย ให้ภิกษุผู้ยินดีออกบวชประพฤติปฏิบัติตาม ครับ มิใช่ให้ละเมิด
เป็นภิกษุจะต้องจ่ายค่าเรียนอะไรอีกครับ? ในวัดไม่มีอาจารย์ไม่มีอุปัชฌาหรือครับ?
กราบสาธุๆๆครับ
สาธุครับ
ສາທຸຂະນ້ອຍ.
สาธุ 🙏🙏🙏
กราบสาธุเจ้าค่ะ
ถ้านักบวชคนใดตีความไม่แตก หย่อนยานวินัย ควรออกมาทำมาหากิน... ไม่จับเงินนั่นถูกที่สุด
ใช่คะมีโยมดูแลค่ะ
ภิกษุที่รับเงินรับทองผิดพระธรรมวินัยไม่ใช่ภิกษุในพระพุทธศานนา "พระปลอมไม่สมควรกราบไหว้บูชา"
สาธุครับ
รับใช้เฉพาะพระใหญ่ๆ
พระก็ต้องฉันต้อง
ใช้เงินจับจ่ายใช้
สอยเหมือนกัน
เราถวายใส่ฝา
บาตร🙏🙏🙏
ถ้ามันลำบาก ก็สึกไป ทางเดินนี้เป็นของคนผู้มักน้อยสันโดษ สละเรือน สละห่วงกังวลแล้ว ไม่ใช่ของคนมักมากรักสบาย สึกครับจบ
ต้องถามใจตัวเองก่อนออกบวชเป็นภิกษุ เราออกบวชเพื่ออะไร ?
สายวัดป่าบางรูปก็รับเจ้าค่ะ
พระปฏิบัติแนวพุทธจนไม่รับเงินครับ
@@ดินสถานะ:สาธุครับ
มีครับมีมาฝากไว้ให้ก็มีทีละ 4,000 5,000 บาทก็มีครับแต่หายจ้อยครับหายจ้อยหายจ้อย😂😂😂
คนมักง่าย ควักเงินให้พระจบๆไป
พระวินัยท่านก็บัญญัติไว้ ว่าให้กับใครได้ แต่คนมักง่าย มีเงินควักให้จบง่ายดี
อยากได้บุญแต่มักง่าย ไม่ขวนขวาย ไม่ศึกษา
ผมเคยบวช อยู่6พรรษา และก็ไม่ได้สนใจเรื่องเงินทอง วันหนึ่งผมรู้สึกไม่ดีที่มุมท้องตรงสดือ ผมเป็นใส้ติ่งครับ ปวดทรมานมากๆ ได้แต่อธิฐานนึกถึงบุญที่บวชอยู่ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่ก็ปวดขึ้นเรื่อยๆ จึงไปหาหมอประจำอำเภอแต่ หมอบอกต้องส่งหลวงพี่ไปผ่าที่นครสวรรค์ มีค่าใช้จ่าย50000บ. แต่ในย่ามมีแค่400บ. จึงติดต่อไปที่ไวยาวัจกร ที่วัด เขาช่วยได้แค่10000 เพราะเรี่ยไรได้แค่นั้นจริงๆ ผมจึงตัดสินใจขอกู้เงินกำนัน อีก50000บ. จนได้ผ่าตัดจนหาย หลังจากนั้นผมเป็นพระมีหนี้ใช้ชีวิตก็ไม่สะดวกเพราเขาทวงเงินบ่อยๆ จึงได้ขอลาสิกขา มาทำงานใช้หนี้เขาครับ ถ้าผมเก็บออมเงินไว้ตั้งแต่บวชแรกๆบ้าง ผมคงไม่เป็นหนี้ ผมอยากบอกว่าพระสมัยนี้ กับสมัยก่อนไม่เหมือนกัน อย่าโลกสวยครับ ให้ท่านเก็บเงินไว้บ้าง มีไว้พอดี เพื่อไม่เป็นภาระคนอื่น แต่อย่าสะสมจนดูรวยมีฐานะ ไม่มีใครดูแลพระสงฆ์ได้จริงๆหรอกครับ นอกจากตัวของท่านเอง ผมเผชิญมาแล้ว ปัญหากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ตัวพระเองนั่นและที่รู้ ว่าควรปรับตัวอย่างไร จะถือรึไม่ถือเงิน
อย่ายึดติดพระธรรมวินัย จนตัวเองเป็นทุกข์ พุทธศาสนาสอนให้พ้นทุกข์ ไม่ใช่สอนให้มีแต่ผู้รู้ธรรมะอย่างเดียว รู้มากก็กดข่มคนที่รู้น้อย โจมตีคนรู้น้อยว่าเป็นพวกไม่ปฏิบัติ พวกนอกคำสอน อย่าลืมจริตคนไม่เท่ากัน อัตลักษณ์ นิสัยใจคอ ต่างกันจงดูเหตุและผล ไม่ใช่ยืนหยัดความถูกต้องอย่างเดียว จนลืมมวลมนุษย์ ไม่ได้ว่าและด่าใคร จงใช้ปัญญา...ครับ
🙏🙏🙏
เอาวัสถุอนามาสใส่บาตรพระที่ท่านใช้อยู่ไม่ได้หรอกถามแปลกๆ หรือบาตรที่เอามาตั้งตามศาลาถ้าพระมาตั้งเองก็ผิดแล้ว
สาธุๆๆ
เงินทองพระไม่รับ แต่ธนะบัตรใช้ได้ถูกต้องตามกฏหมาย
ใส่ได้บาตรพระพระรับได้
ระเบียบปฏิบัติของภิกษุดูที่พระธรรมวินัย ไม่ใช่ที่กฏหมาย พระพุทธเจ้าให้ธรรมวินัยเป็นตัวแทนของท่าน
ฝ
ถ้าเป็นสมณศากยะบุตรจริง จะต้องปรับตนให้อยู่ในธรรมะ ท่านตรัสไว้ เมื่อ ๒๕๐๐ ปีปัจจุบันก็ยังทันสมัยอยู่เสมอ ไม่มีคำว่าล้าสมัยเด็ดขาด ทำได้เพียงแต่ไม่อยากปฏิบัติตามท่านเท่านั้นเองพระทุกวันนี้คิดจะบวชเพื่อหลุดพ้นน้อยนิด จริงๆนะ
ค่าน้ำค่าไฟต้องใช้เงิน บุญกระฐินมีแต่เงินทั้งนั้นครับ สร้างกุฏิศาลารถราก็ต้องใช้เมื่อมีกิจนิมนต์ บางวัดพระถึงขนาดต้องขับรถเอง ใครจะมาอาสาบริการพระ มันถือเป็นเรื่องปกติไปแล้วครับ เมื่อโลกเปลี่ยนไป
พระธรรมวินัยคืออะไรก็ต้องเข้าใจระเบียบก็คือระเบียบถ้าไม่เช่นนั้นก็ไม่ต้องมีระเบียบกฎเกณฑ์ใครจะทำอะไรก็ทำไปอย่างนั้นหรือ ยิ่งพระภิกษุที่เป็นผู้ประเสริฐและเป็นผู้ถือศีลคือต้องละสละกิเลสปลดปล่อยวางทุกสิ่งทุกอย่างตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะประพฤติปฏิบัติเหมือนเช่นเพศคฤหัสถ์ไม่ได้มิเช่นนั้นจะเรียกผู้ถือศีลได้อย่างไรแม้จะอ้างว่าจะจำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายก็ไม่ได้ถ้ายินดีในการรับเงินรับทองก็ขึ้นชื่อว่าภิกษุอลัชชี หากประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัยไม่ได้ก็ไม่ควรเข้ามาบวชจะทำให้ศาสนาต้องแปดเปื้อนท่านก็ต้องได้รับบาปอีกและอาจขึ้นชื่อเป็นมารศาสนาไปได้ เมื่อท่านตั้งใจบวชเพื่อเป็นผู้ถือศีลตามแนวทางของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วท่านจะต้องเข้าใจในพระธรรมวินัยนี้ด้วยเพื่อเป็นบุญกุศลและครอบครัวท่านทุกคนจะได้รับผลบุญที่เป็นกุศลอย่างแท้จริง และยังทะนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองต่อไป
สาธุครับ
จริงๆคะสายวัดป่าไม่รับเงินคะ
ไม่รับค่ะแต่มีตู้ที่เราจะทำบุญสาธุธรรมค่ะ
ขอทำความเข้าใจตรงให้นะครับเกี่ยวกับทาน.. " ภิกษุทั้งหลาย ทานที่ไม่มีอานิสงส์มีอยู่ ทานแล้วเป็นบาปมีอยู่"ข้อความนี้พูดถึงฝ่ายให้ไม่ได้พูดถึงผู้รับ..ทานํ ..ทานเป็นชื่อเจตนาด้วยเป็นชื่อวัตถุด้วยฉะนั้นจึงชื่อว่า ทาน วัตถุนั้นนั่นแหละเป็น อามิส จึงชื่อว่า อามิสทาน เพราะมีความหมายว่า จับต้องได้วยกิเลสมีตัณหาเป็นต้น อีกอย่างหนึ่ง เจตนาจาคะ ที่สละให้ ก็ชื่อ อามิสทาน นี้ว่าโดยความหมายคราวๆก่อนต่อไปนี้เป็นคำ อธิบาย ในทั้งสองคำนั้นคือ ทานที่ไม่มีอานิสงส์และมีบาป..
..ข้อความที่พรรณามีนั่นแหละทีไม่ประกอบกับบุคคลที่กำลังให้ทาน ชื่อว่าไม่มีอานิสงส์มาก..ส่วนว่าทานของบุคคลใดที่ไม่รู้ว่าสิ่งนี้ ผิดต่อสิกขาบทของภิกษุ ยังรักษาบาปกรรมนั้นได้ก่อน(คือ)ยังไม่เป็นบาปเพราะไม่มีเจตนาที่จะให้ภิกษุมีโทษ(เป็นอาบัติ)..ส่วนทานของบุคคลใดที่รู้(คือ)สิกขาบท(อยู่)แล้วมีความจงใจว่า"ขอภิกษุผู้นี้,พวกนี้,เหล่านี้,เป็นต้น จงได้รับโทษ(มีอาบัติ)เพราะเหตุแห่งวัตถุนี้..แล้วให้ทาน ทานอย่างนี้ชื่อว่า มีบาป..ฉะนี้
คนใส่นั้นบาปนะโยมถ้าหากน้อยกว่า 100 บาทลงมานะต้อง 100ขึ้นไปจึงจะไม่บาปนะ 😂😂😂ทุกวันนี้รับทุกสำนักรับทุกวัดรับทุกพระรับทุกสายครับไปเจอมาแล้วสัมผัสมาแล้วแต่เขามีวิธีการรับของเขาเอง
พระที่ไม่มีโยม อุปฐาก ก้ต้องใช้ เพราะค่าน้ำ ค่าไฟ ค่ารักษาพยาบาล
พระที่ ท่านมีโยมอุปฐาก คอยดูแล ก้เป๋นเหมือนที่ หลวงพี่ท่านกล่าวมา
บางที พระ เล็ก เณน นอย้ ละ
คนวัดก็อไม่ใด้ดีทุกคน นะ
ทุกอย่าขึ้นอยุ่ที่เหตุและปัจจัย
คนดูแลวัดไว้ไจได้หรือคะ
จึงต้องคัดเลือกให้ดี ดูความประพฤติ นิสัยใจคอ อัธยาศัย มีศีล มีธรรม มีความอ่อนน้อม มีจิตอาสา เป็นต้น
พระท่านพิจารณาแล้วว่าควรเป็นคนนั้นๆ ถ้าเราไม่เขืีอใจเราจะไม่บริจาคให้ก็ได้
กราบสาธุอนุโมทนาเจ้าค่ะและกราบนมัสกราบท่านสมณปุติยศากยสาธุค่า
คำตอบคือบาปครับ ผมขออธิบายดังนี้ คนที่1คดข้าวสวยที่ตื่นเช้ามาหุงใส่บาตรถวายพระ คนที่2ใส่เงินลงไป ทำให้ข้าวสวยของคนแรกสกปรก มันคือความมักง่ายในการทำบุญ ทำให้ข้าวที่พระต้องฉันท์สกปรก จึงไม่ได้บุญ แต่ได้บาป และบาปจะหนักกว่านั้นถ้าพระเห็นข้าวเปื้อนด้วยเงิน และนำข้าวที่คนตั้งใจใส่ไปทิ้งเสีย กลายเป็นบาป2เท่า สิ่งนี้ปัญญาสอนผมมา ผมไม่ได้คิดเอง ควรนำเงินไปให้ที่คนดูแลวัด
สมัยปัจจุบันเงินเป็นปัจจัยสำคัญ
ในเมื่อสมัครใจมาในทางธรรมนี้ก็ต้องปฏิบัติตามธรรมวินัยให้ได้ งั้นก็อย่ามาบวชให้ศาสนาพุทธมัวหมอง
อย่าอ้างยุคสมัย สมัยพุทธกาลไม่ลำบากว่างั้น คิดดูดี ๆ อาหารและผ้าก็หายาก ไม่มีค่าไฟฟ้า ก็มีค่าน้ำมันจุดตะเกียง ผู้ศรัทธาก็มีน้อยกว่ายุคปัจจุบัน ท่านยังห้ามรับเงินทอง
กลัวลำบากอยู่เป็นคฤหัสดีกว่าคับ ไม่เสี่ยงนรก
สารัตถทีปนีฎีกา (๓/๔๕๓)
เตเนว “สาปตฺติกสฺส ภิกฺขเว นิรยํ วา วทามิ ติรจฺฉานโยนึ วา” ติ สาปตฺติกสฺเสว อปายคามิตา วุตฺตา.
เพราะเหตุนั้นเอง พระผู้มีพระภาคจึงตรัสความที่ภิกษุผู้มีอาบัติติดตัวต้องไปสู่อบายว่า “ภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวนรกหรือกำเนิดสัตว์เดรัจฉานสำหรับภิกษุผู้มีอาบัติติดตัว”
จะไปฝากกับลูกศิษย์ เดี๋ยวลูกศิษย์เอาไปซื้อยาบ้าอีกครับ
เลือกไวยาวัจกร เลือกคนที่มีศีลธรรม
ไม่ใช่ไปเลือกขี้ยามาเป็นไวยาวัจกร 😄
หลวงพี่ช่วยแก้สงสัยให้กระผมทีครับ ถ้าในกรณีเป็นเช็คเงินสด เช็คของขวัญ เข้าข่ายเงินหรือเป็นตัวแทนเงินชัดเจน แบบนี้ถวายโดยตรงพระรับหรือถือไปเลยได้ไหมครับ
ถ้าเป็นประเภทนั้น ก็จัดเป็นการรับเงิน เพราะในนั้นโยมตั้งใจถวายเป็นเงินอยู่แล้ว ซึ่งจะแตกต่างจากการปวารณาที่พระพุทธเจ้าทรงอนุญาต ให้ปวารณาถวายเป็นสิ่งของอันสมควร แต่สามารถระบุมูลค่าได้ เพื่อให้พระไม่ขอของเกินมูลค่านั้น
เรื่องการปวารณา ใบปวารณา
ua-cam.com/video/BQDyiRh8XD8/v-deo.html
แล้วถ้าโยม ไม่จ่ายให้พระ จะทำยังไง พระก็จะไม่มีของใช้ที่จำเป็น
@@MsnlinM ถ้าหมายถึงกรณีที่โยมที่เก็บเงินไว้ (ไวยาวัจกร) ไม่ไปซื้อของมาให้ตามที่พระต้องการ ก็ต้องไปแจ้งกับคนที่ปวารณาว่าเขาไม่ยอมซื้อของให้ตามที่โยมปวารณาไว้นะ เดี๋ยวโยมเขาก็จะไปจัดการต่อเอง
@@luangpeeomo1773 พระก็ทำตัวลำบากเหมือนกันเนอะหลวงพี่ อย่างในกรณีนี้โยมจรมาไม่รู้จะไปแจ้งเขาได้อย่างไรลำบากเลย ที่กระผมเจอมาไม่ให้ไครถือแต่เก็บไว้เป็นสัดส่วนไม่ได้เก็บไว้กับตัวเวลาปราถนาสิ่งใด ก็ให้บุคคลใดไปหยิบมาจัดการ อย่างนี้ถือว่าดีไหมครับ
สรุปแล้ว..ไม่สมควร นำเงิน ใส่บาตรพระ ครับ..บาตรพระ ใส่อาหาร สำหรับ ให้พระฉัน อาหารอย่างเดียว ครับ
ถวายเงินได้ แต่..ต้องเข้ากองกลาง เหรอ ไวยาวัขรกร ครับ ไม่ใช่ถวายเงินพระเป็นส่วนตัว
ไม่รับเงินมันลำบาก ทั้งพระ และ โยม ผู้ที่จะ ถวาย เงิน อย่างไงๆท่านก็ใช้เงินอยู่
ไม่ต้องไปเลี่ยง ให้มันมีเล่เหลี่ยม 😂ใช้ให้เป็น ปัจจัยสี่ ไม่ต้องยุ้งยากกับคนอื่นๆอีกที
ใส่ในบาตรไม่ได้แต่เลือกใส่ในย่ามดีกว่า.
ชัดเจนครับผมไม่ไว้ใจไวยาวัจกรณ์ใส่ให้พระในย่ามดีที่สุด
แต่บางวัดท่านให้ไวยาวัจกรเป็นผู้ดูแลการเงิน เช่นวัดที่ปฏิบัติแนวพุทธจน
หลวงพี่ นี้ยุคไหนแล้ว ควรศึกษามหาปเทศ 4 ให้เข้าใจก่อนนะ
@@Realme-r9j ต้องศึกษาให้ดีนะครับว่า มหาปเทศ 4 ไว้ใช้กับสิกขาบทที่ไม่มีการบัญญัติไว้โดยตรง จึงให้เทียบเคียง สิกขาบทใดมีโดยตรงอยู่แล้ว ไม่ได้ทรงอนุญาตให้ใช้มหาปเทศ 4
อย่ายึดติดตํารา
สาธุ
🙏🙏🙏
แล้วถ้าฝากไว้แล้วโยมก็ไม่ให้ก็บอกว่าเงินหายแล้วจะให้ทำยังไงครับผมว่าที่โยมเอาเงินใส่บาตรมันอยู่ที่เจตนาเพราะทุกวันนี้สังคมมันเปลี่ยนไปป๋าก็ต้องปรับเปลี่ยนไปตามสังคมบ้าง
หากไวยาวัจกรไม่จัดหาสิ่งของให้ตามที่มีผู้ปวารณาเอาไว้ ก็แจ้งกับโยมที่ปวารณาว่า อาตมาไม่สามารถขอสิ่งของใด ๆ จากไวยาวัจกรได้เลย บอกเพียงเท่านี้ โยมเขาก็คงหาวิธีจัดการเอง
และหากไวยาวัจกรผู้นี้ เป็นคนไม่ดี ก็ไม่สมควรให้รับหน้าที่เป็นไวยาวัจกรต่อไป
หากหามิได้ โยมผู้ถวายสามารถกล่าวคำปวารณาและเป็นผู้จัดหาสิ่งของมาเองได้เลย ตย. กล่าวว่า "หากพระคุณเจ้าประสงค์สิ่งใดอันสมควรแก่สมณะบริโภค พึงบอกแก่โยมได้ โยมจะจัดหาสิ่งนองนั้นมาให้ ภายในมูลค่าเท่านั้นเท่านี้ อย่างนี้ก็ได้
พระพุทธเจ้าท่านวางแนวทางผ่อนปรนโดยให้มี ไวยาวัจกรและกัปปิยการกให้ช่วยเหลือพระด้านนี้แล้ว หากภิกษุมีใจเคารพในพระพุทธเจ้า ก็ไม่สมควรที่จะละเมิดพุทธบัญญัติ แต่พึงทำตามพุทธบัญญัติ ภิกษุก็จะมีแต่ความเจริญทั้งในศีล สมาธิ และปัญญา เพื่อทำที่สุดแห่งทุกข์ต่อไปได้
ผมถวายพระประธานตอนใส่บาตรได้ไหมครับจะผิดไหมครับ
ุูถูกต้องเจ้าค่ะพระวัดป่าท่านไม่รับเลย
พระที่ถือตามพุทธวจน ก็ไม่รับ-จับเงิน
นำเงินใส่บาตรเท่ากับเอาเหล้าใส่บาตรเช่นกัน
มันเป็นไปใม่ใด้ครับ
เงินกับเหล้าเหมือนกันตรงไหนเดี่ยวนี่ไปไหนมาไหนพระไม่ได้เดินเหมือนหลวงตาชื่นนะครับ
ผิดอะไรพระก็ใช่เงินพระก็คนไม่ใช่เงินก็มีแต่พระพระพุทธรูปในโบสถ์นั่นแหละที่ใช้เงินไม่เป็น😊😊
พระพุทธเจ้าสอนเรื่องนี้อยู่ครับ โภควิภาค4 ส่วนเงินที่ไม่ควรรับคือเงินที่สร้างปัญหา เป็นเงื่อนไข สินบน หรือเงินที่สนองความโลภ ทำนองนั้น แต่ถ้าเก็บไว้ยามจำเป็นยามเดือดร้อน เช่นค่ารักษาพยาบาล รับเก็บไว้แต่พอดี ปรับตัวตามสมัย อย่ารับเอาจนร่ำรวยมีฐานะ อันนั้นมันก็ไม่ควร วิเคราะห์พระธรรมวินัยกับยุกสมัย ไม่ใช่ยึดติด อดีตกาลอยู่ไงอยู่งั้น
พระใช้เงินแต่เพียงน้อย เพราะอยู่กินกับคนที่ทำทาน หรือใส่บาตรเป็นวันวันไป ไม่ต้องสะสม ไม่คิดอยากได้-อยากมั่งมี
@@ดินสถานะ ล่าสุด เจ้าคณะจังหวัดป่วยมะเร็ง ยาโดสละ2แสน7โดส ทางวัดช่วยได้แค่แสนเดียว แต่ยังดี ได้รับ เป็นคนไข้ในอุปถัมภ์ในหลวง ไม่งั้นยาวเพราะในสมัยปัจจุบันไม่มีหมอเถื่อนแล้ว แต่ถ้าเป็นพระหลวงตาธรรมดาๆ ก็คงปล่อยตายตามยถากรรม คุณคิดยังไง อย่ามองแต่ธรรมวินัย พระพุทธเจ้า พระองค์์ทรงไม่ให้เรายึดติดเลย อะไรคือแก่นคำสอน ชี้ถูกชี้ผิด ในความเห็นตนเอง ยกเอาความถูกต้องไปไล่บี้คนที่เห็นต่างกว่า รู้เพื่อสอนตน อย่ารู้เพื่อประกาศว่าตนรู้มากกว่าผู้อื่น
ศีล227ข้อมีอยู่หนึ่งข้อที่ห้ามพระภิกษุรับเงินถ้าภิกษุทำผิดพระธรรมวินัยข้อนี้จะได้ไหมตอบทำได้แต่เป็นพระอลัชชีลงนรกและคนถวายเงินพระก็บาปลงนรกไปกับพระเหมือนกัน
ใช่ครับในศีลศีลปาฏิโมกข์ มีบัญญัติภิกษุรับเงิน-ทอง
แต่ในศีลปาฏิโมกข์ มี150ข้อครับไม่ใช่227ข้อ
227ภิกษุรุ่นหลังนำวินัยหมวดอื่นมาแปะไว้เท่านั้น(จริงๆแล้วศีลมี3,328ข้อ/3ระบบ ครับ )ซึ่งภิกษุทุกรูปต้องรักษาให้ครบทั้ง3328ข้อ จึงจะเป็นภิกษุบริสุทธิ(ไม่ใช่ภิกษุอลัชชี)
เดี๋ยวนี้พระรับเงินเป็นว่าเล่นยิ่งเป็นวัดพาณิชย์ด้วยแล้วกลายเป็นเรื่องธรรมดา
งั้นผมรับมาแล้วเอาให้โยมญาติก็ถือว่าสละใช่ไหมครับ
@@Kehloiu_12345 ใช่แบบนั้น ก็ถือว่าสละเช่นกัน แต่ก็ต้องพึงระวังว่า อาจจะกลายเป็นการประจบคฤหัสถ์ไปได้ด้วยเช่นกัน
@@luangpeeomo1773 ถ้าผมคิดว่ายายเป็นคนเลี้ยงผมมาผมเลยอยากช่วยแบ่งเบาภาระของยายบ้างอะครับ
@@luangpeeomo1773 ถ้าผมคิดว่ายายเป็นคนเลี้ยงผมมาผมเลยอยากช่วยแบ่งเบาภาระของยายบ้างอะครับ
หลวงพี่คะขอถามคะของทีคนอื่นเขาทำบุญถวายพระไปแล้วถ้าพระไห้ยอมมาเราจะเอาจะเอาไปถวายพระวัดอื่นจะได้มั๊ยคะ
@@อภิชฌาเพียรงาน-ฏ8ฅ ได้
ทา่นจ้าวคะบ้างครั้งยายเจอพระบิทบาทไม่มีอะไรใส่เอาปัจัยใส่จะปาบใหมจ้าวคะ๊
@@chandeeluesuwan1908 ตอบไปในวิดีโอแล้ว ฟังดู แต่ถ้าเจตนาดีก็ไม่บาปหรอก
ถามว่าปัจจัย4ถ้าไม่มีเงินจะหามาได้ไหมทุกวันนี้โยมปวารณาตนด้วยปัจจัย4หายากแล้วทุกวันนี้ถวายตังค์มาเลยเดี๋ยวพระไปจัดเองปัจจัย4จีวรบิณฑบาตเสนาสนะคิลานเภสัชชะโยมก็ได้บุญเหมือนกันเพราะถวายมาแล้วพระได้ใช้สอย
รับผมไปสวดมาแล้วกับสายธรรมยุตรับเงินทั้งนั้นแหละ