Norwegian Wood เมื่อความตาย เป็นส่วนหนึ่งของการมีชีวิต | Readery EP.119
Вставка
- Опубліковано 30 лис 2024
- ถ้าพูดถึงนวนิยายของฮารูกิ มูราคามิ ที่ใครหลายคนชื่นชอบเป็นลำดับต้นๆ หนึ่งในนั้นต้องมี Norwegian Wood ด้วยรัก ความตาย และหัวใจสลาย ติดอันดับ ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันไป ทั้งเรื่องราวความสัมพันธ์ของตัวละครหลัก วาตานาเบะ, นาโอโกะ และมิโดริ, เพลงของเดอะ บีทเทิลส์ หรือความรู้สึกร้าวเป็นหลุมลึกหลังอ่านจบ
Readery Podcast เอพิโสดนี้ชวนแลกเปลี่ยนความประทับใจที่มีต่อ Norwegian Wood อีกครั้ง พร้อมชวนมองนวนิยายเรื่องนี้ในประเด็นของ ‘ความเป็น’ และ ‘ความตาย’ ที่ไม่ได้หมายถึงแค่การเสียชีวิต แต่รวมถึงการตายจากการเป็นที่รักซึ่งทำให้รู้สึกหัวใจสลายไม่แพ้กัน
สนใจสั่งซื้อหนังสือ Norwegian Wood ด้วยรัก ความตาย และหัวใจสลาย ได้ที่ bit.ly/3vy1lRm
---------------
ติดตาม Readery ในช่องทางต่างๆ
Website: thestandard.co...
Apple Podcasts: bit.ly/readery
Spotify: bit.ly/readery-...
SoundCloud: bit.ly/sc-readery
Facebook Group: / readerypodcast
#Readery #TheStandardPodcast #TheStandardco #TheStandardth
ผมมีโอกาสได้อ่านเรื่องนี้..ผมสารภาพเลยครับว่าตั้งแต่ผมเริ่มอ่านนิยายมาจนตอนนี้ผมอายุ39ปีแล้ว.ผมยกให้เรื่องนี้เป็นThe Best ในใจผมเลย มันคือนิยายเรื่องแรกที่ผมอ่านแล้วมันสุดมาก.เปนหนังสือเล่มแรกที่ดึงผมให้เข้าไปอยู่ในเนื้อเรื่องแบบRealมากผมอินมากและเปนหนังสือเล่มแรกอีกเช่นกันที่ผมอ่านรวดเดียวจบ..ผมรักมิโดริ.สงสารนาโอโกะ.แอบอิจฉาวาตานาเบะ ผมชอบนิยายเรื่องนี้มากกกกกกกก..ครับ
ป.ล.ผมอ่านเรื่องนี้ในเรือนจำครับ.ถ้าใครมีลิ้งค์หนังเรื่องนี้ช่วยเมตตาส่งให้ผมดูบ้างได้มั้ยครับ..จะเปนพระคุณอย่างมากเลยครับ🙏🙏🙏
เราสารภาพเลย เราอ่านเรื่องนี้แล้วเราดิ่งมากๆ เราร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร เราเข้าใจและรู้สึกถึงความเจ็บปวดของนาโอโกะ เราแตกสลายไปพร้อมกับเธอจริงๆ เราดิ่งไม้สามารถแล้วมันออกได้ ตอนนั้นเราป่วยแหละ เราแถบจะตบชีวิตไปพร้อมกับหนังสือเล่มนี้จริงๆ
พอมาฟังถึงเรื่องนี้อีกรอบ เรายังจำความเต็บปวดนั้นได้อยู่ ไม่กล้ากลับไปอ่านมันอีกรอบเลย
มันไม่มีรักสามเส้าสี่เส้าห้าเส้าอะไรทั้งนั้น มันเป็นรักเส้าเดียวเปล่าเปลี่ยวจิต ตัวละครแต่ละคนมีความเศร้าเป็นของตัวเองที่ไม่สามารถแบ่งปันให้ใครได้ สุดท้ายทุกคนโดนความเศร้าทำลายล้างจนราบพนาสูญ อ่านเมื่อสิบแปดปีที่แล้วยังจำอารมณ์ได้จนวันนี้
น่าจะมีเรื่องนี้กับ south of border, west of the sun ที่ยังกลับมาอ่านอีกรอบจนถึงทุกวันนี้ เราชอบที่เราอ่านแล้ว เรารู้สึกว่ามันเหมาะมาapply กับตัวเราละมั่ง เราสวมตัวตนเป็นโทรุ ในโลกของโทรุ ที่ประเทศญี่ปุ่นสมัยที่ทุกคนฟังเพลงเก่าๆ ในโลกที่เทคโนโลยีเข้าไม่ถึง บรรยากาศของการที่เราเป็นแค่คนๆนึง ที่มีความสัมพันธ์กับคนแค่สามคน แล้วคนๆนึง ดันตายหรือหายไป เราหลังจากนั้นทุกอย่างในชีวิตเราก็พังทลายลง เเล้วเราก็ดำเนินชีวิตต่อไปด้วยความรู้สึกเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งทั้งกังวล สับสน และเสียใจ กับสิ่งที่เกิดขึ้น จนเรามาเจอกับอีกซีกในชีวิตเก่าๆของเรา เราก็ตามเธอไปด้วยความโหยหาถึงอดีตของเรา อดีตที่ทั้งเจ็บปวดและมีความสุข
กลับมาอ่านกี่ทีก็รู้สึกสงสัยว่าทำไมคิซึกืถึงฆ่าตัวตาย .. ทั้งๆที่ชีวิตวัยเรียนก็ดูมีความสุข มีเพื่อนสนิท3 คนในกลุ่ม จนมันดูเป็นจำนวนที่สมดุลที่เรารู้สึกว่าต่อไปนี้ชีวิตของเราๆเองก็อยากมีเพื่อนกลุ่มเล็กๆ เเบบนี้เหมือนกัน
นางาซาวะ ชอบที่บรรยายถึงความฉลาดของคนๆนี้ไว้ว่าเป็นคนที่เข้าใจถึงภาพรวม หรือเป้าหมายของสิ่งต่างๆ ได้ดี แม้ว่าคาแรคเตอร์เขาจะเหมือนพระเอกMV คนชั่ว2018 ของพาร์กินสันชัดๆ เลย มีช่วงนึงที่โทรุรู้สึกสงสารแฟนของนางาซาวะ แล้วพูดขึ้นมาว่า นางาซาวะช่างไม่เหมาะกับเธอเลยจริงๆ ซึ่งเราอ่านแล้วก็สงสารนางมาก
มิโดริ จริงมากก โทรุนายมาชอบมิโดริเท้อออ ชีวิตนายจะได้มีความสุขและสีสันกับเขามั่งเสียที เสียดายจริงๆ จนเรารู้สึกว่าพอเราโตขึ้น เราก็อยากมีผู้หญิงแบบนี้มั่งจัง
อีกเรื่องrealismที่เราชอบมากก south of the border, west of the sun มากก ชอบความผูกพันในวัยเด็ก แล้วมันก็มีความเจ็บปวดจากการพรากจากคนที่เราต่างก็เข้าใจตัวตนของกันและกัน กลายเป็นแผลลึกลงลงในใจของคนๆ นั้นไปตลอด จนพอเขาได้มาเจออีกซีกที่เขาโหยหาในอดีต มันก็คงเป็นแก่นนี้แหละที่เรารู้สึกว่าเป็นเสน่ห์ของเรื่อง
เวลาผมไปร้านหนังสือ ผมจะยืนดูหนังสือของMurakami บ่อยมากแต่ไม่กล้าจะซื้อมาอ่าซะที รู้สึกว่าหนังสือของMurakami มีความน่ากลัว อะไรบ่างอย่าง มันดูไม่น่าไว้ใจ แต่ก็ดึงดูดมาก
ผมที่อ่าน Norwegian ตอนอายุ15 ต้องรู้สึกยังไงเนี่ย
Norwegian wood เป็นหนังสือเล่มที่2ของมูราคามิที่ผมอ่าน มันเป็นเล่มที่ทำให้ผมต้องตามเก็บหนังสือทั้งหมดของมูราคามิเลยละ
อยากให้เอาเรื่อง South of the border,West of the sun มาแชร์ด้วยค่ะ รอฟังนะคะ
เล่มแรกของผมกับ Murakami ครับ โปรดมากที่สุด.
พอมาฟังแล้วได้เห็นอีกมุมเลยค่ะ อาจจะเพราะส่วนตัว relate กับนาโอโกะ คือทุกการกระทำของนาโอโกะเราเข้าใจหมดเลย แล้วก็แปลกมากที่เราไม่ได้มองมิโดริเป็นด้านสดใสของเล่มขนาดนั้น เพราะปัญหาทางจิตใจของมิโดริก็เข้าใจ
เราแทบจะมองนาโอโกะเป็นตัวดำเนินเรื่องของเราเลยค่ะ นาโอโกะก็พยายามแล้วแต่สิ่งที่เธอเลือกคือความตาย ส่วนโทรุเลือกที่จะมีชีวิตอยู่ แค่นั้นเอง
พี่เน็ตพี่โจ้คะ หนูมีความในใจจะบอก ฟังพ็อดคาสของพวกพี่มานานมากกกกกก หนูเป็นคนชอบหนังสือ ชอบห้องสมุด แต่ไม่ค่อยซื้อหนังสือ 😅 ก็เน้นฟังพวกพี่ส่วนมากจะฟังตอนขับรถ คือฟังมานานมาก แต่ไม่เคยรู้ว่าพี่ๆหน้าตายังไง บุคลิกยังไง จนหนูจินตนาการพี่ๆจากน้ำเสียงการเล่า การถ่ายทอด พี่โจ้ในimagineคือหนุ่มมูจิ แต่งตัวเรียบๆ เสื้อลายขวาง กางเกงสีเอิร์ตโทน ใส่แว่น ส่วนพี่เน็ตคือผู้ชายที่ดูใจเย็น แล้ววันนึงนึกสงสัยว่าพี่ๆสองคนหน้าตาเป็นยังไง ก็เปิดกูเกิ้ลดู แต่ทุกครั้งที่ฟังพอ็ดคาสของพวกพี่ ได้ยินเสียงพวกพี่ หนูจะเห็นภาพในแบบที่หนูเคยคิดมากกว่าเป็นพี่ๆตัวจริง งงไหมคะ จริงๆที่อยากบอกคือชอบฟังเสียงพวกพี่ๆมาก วิธีการเล่าต่างๆ แล้วมันก็เติมเต็มคนที่ชอบหนังสือแต่ไม่ซื้อหนังสือหรืออ่านหนังสือแบบหนูมากๆ ยิ่งเวลาฟังepที่เป็นหนังสือของมูราคามิจากพี่ๆ หนูจะอินมาก อยากให้พวกพี่ทำต่อไปแบบนี้นะคะ
ผมชอบนาโอโกะ ผมรักมิโดนิ มันคือความสวยงาม ผมชอบทุกตัวละครในเรื่องนี้ มันคือมุมมอง มันคือความลงตัว ขาดไม่ได้ นายสะอาดเอย คนที่รับบท เชิญธง อาจารย์สอนละคร พ่อ มันดีจริงๆ มันคือทุกแง่มุม ยิ่งอ่านยิ่งพบ.
สั่งเล่มนี้พึ่งได้เมื่อวานวันนี้มี podcast เลย😱🎊❤️
เราซื้อหนังสือเล่มนี้เป็นเล่มแรกที่อยากจะทำความรู้จักของมุราคามิ แต่เราอ่านไม่ผ่านบทแรก เพราะรู้สึกเวียนหัวจนอยากอาเจียน แปลกมาก ไม่รู้เพราะไม่ได้อ่านหนังสือนาน หรือการใช้ภาษาของมุราคามิที่มีความละเมียดละไมมากเสียจนเราจินตนาการไม่ทัน แต่เราตั้งใจว่าจะลองกลับมาอ่านอีกครั้ง
ขออีพี South of the Border, West of the sun ด้วยได้มั้ยคะ อยากฟังค่าา
ชอบเล่มนี้เหมือนกันค่ะ รอฟังนะคะ
รอเล่มนี้ด้วยค่าาา
รอเล่มนี้เหมือนกันค่ะ
ผมอ่านเรื่องนี้จบแล้วครับ ตอนแรกผมดีใจมากที่ได้เล่มนี้มา แต่เมื่ออ่านจบแล้ว ความรู้สึกของผมคือท้องโหวงๆอ่ะ สุดท้ายแล้วหนังสือเล่มนี้มันพูดถึงความสูญเสียอ่ะ ผมเสียใจไปกับผู้เขียนด้วยอ่ะ มันคงเป็นความรู้สึกที่ทำใจยากมากอ่ะ นี่คงเป็นเหตุผลที่เขาเขียนเล่มนี้ขึ้นมาr.i.p.นาโอโกะ&คิซึกิ
มีคนแนะนำให้ลองอ่านงานของมุราคามิ เราเลยสุ่มเอาเรื่องนี้มาเพราะคิดเหมือนกันเลยค่ะ ว่าน่าจะอ่านง่าย ... เพิ่งอ่านจบเมื่อวาน แล้วเอาออกจากหัวไม่ได้เลยหาข้อมูลเพิ่มเติมมาเจอคลิปนี้ ฟังไปแปลกมากที่ฟังไปน้ำตาก็ซึม
เรื่องแรกที่อ่านเลยค่ะ มันจะนึกถึงสมัยมหาลัย ไปแอบชอบรุ่นน้องแล้วเค้าอ่านหนังสือเล่มนี้ก็ไปหามาอ่านเพราะอยากจะคุยกับเค้ารู้เรื่อง 😂 สรุปอ่านจบอินไปเกินเบอร์ เจ็บปวดเสมือนอกหักมาตลอด
FC นัมจุนด้วยค่ะ ติดตามฟังพี่ๆในเล่มต่อๆไปนะคะ
อยากให้พี่โจ้พี่เน็ตลองอ่านเรื่อง สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคน ของวินทร์ เลียววารินทร์ ดูค่ะ เป็นซีไรต์ด้วยนะคะ เป็นเรื่องสั้น สลับกับบทความ นำเสนอออกมาได้แปลกแตกต่างมาก
ชอบประโยคสุดสุดท้ายมากๆครับ สรุปทั้งเรื่องได้ดีเลยครับ
เพิ่งอ่านจบเมื่อวานเลยครับ อ่านเพลินจนไม่ได้เเตะหนังสือสอบเลย555อาทิตย์หน้าสอบเเล้ว ปล.ชอบ บทพูดของนางาซาวะมากๆที่บอกว่า “Don't feel sorry for yourself. Only assholes do that.”
มีใครทราบมั้ยคะว่า พี่โจ้ พี่เน็ตยังทำ podcast เล่าเรื่องหนังสืออยู่มั้ย? อยากให้ทำต่อค่ะเหมือนมีเพื่อนอ่านหนังสือค่ะ
อ่าน Norwegian Wood ตอนกำลังบินไปเยอรมันเหมือนกับตอนฉากเปิดเลย เริ่มบทแรกก็โดน Hooked ละ แต่ถามว่าชอบเล่มนี้ของคุณ Murakami มั้ย เล่มนี้ยังไม่เป็นเบอร์หนึ่งของเรา แต่เล่มนี้ทำให้อ่านงานเขียนของ Murakami เล่มอื่นๆ ค่ะ
ขอบคุณ podcast ตอนนี้ที่ทำให้ได้เห็นมุมมองด้านอื่นๆ ของ Norwegian Wood ที่เรามองไม่เห็นตอนอ่านเมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้ว คงต้องอ่านอีกรอบซะละ 😊
อ่านจบเมื่อ2สัปดาห์ที่แล้วอ่านจบแล้วซึมเป็นวันๆเลยครับ แต่ได้อะไรจากเล่มนี้เยอะมากจริงๆ
ผมว่าทุกคน เคยซ่อนใครคนนึง ใว้ในเพลงใดเพลงนึง หรือ ประโยคใด ประโยคหนึ่งในหนังสือโปรด
I love Haruki Murakami. ผมชอบเรื่อง Underground ครับ ลึกมาก
ตอนเรโกะมาหา
แล้วก็ หลับนอนกับวานาตาเบะ คุง
นั่ง งง เหวอ เลย 555
เคยแอบศึกษาดูนะคะ จากแฟนๆ ในสามภาษา แฟนมูราคามิ จะชอบเล่มแรกที่ตัวเองอ่านค่ะ แต่ Norwegian Wood ต้องเป็นหนึ่งในเล่มทร่ปฏิเสธไม่ได้ว่าต้องประทับใจ
ผมอ่าน Underground เรื่องแรก เนื้อหาสุดโต่งมากกก
9:55 เริ่มพูดถึงหนังสือ เกริ่นนานมากจะ10นาทีแล้วครับพี่เน็ตพี่โจ้
🙏ขอบคุณมากครับ🙏
หนังสือเล่มนี้ได้สร้างซีรี่ส์หรือยังคะ เรื่องราวฟังสนุกน่าค้นหา น่าอ่านมากๆ
ฟังจบคืออยากตามไปอ่านเลยค่ะ
ฟังแล้วแบบ... นี่มันฉันนิ และก็ร้องไห้ไปหนึ่งกรุบจากนั้นไม่นาน ฝนดันตก มันคือโมเม้นต์ที่บอกตัวเองว่า ฉันต้องซื้อเล่มนี้!
I once had a girl, or should I say she once had me. จริงๆ แล้ว คืนนั้นจอห์นเลนนอนกับสาวนอร์เวย์ ไม่ได้มี one night stand กัน จอห์นแต่งเพลงอารมณ์ว่าสาวพาขึ้นห้อง สุดท้ายต้องไปนอนในอ่าง ฉันเลยไม่ได้หล่อน แต่หล่อนแหละ ที่ "หลอก (had)" ฉัน
อ๊อกกก😖
ขอพูดถึงเวอร์ชั่นหนังหน่อย เราแนะนำว่าให้อ่านหนังสือก่อนไปดูนะคะ เพราะตัวหนังมันคัดเอาซีนไฮไลท์ๆมาต่อกันตามเรื่อง แล้วถ้าคนไม่อ่านหนังสือจะไม่เก็ทเลยว่าตัวละครมันรู้สึกยังไงคิดอะไรอยู่ เพราะหนังเล่าข้ามฉากที่น่าประทับใจไปในหนังสือเยอะมาก อ่านแล้วค่อยมาดูจะทำให้เราเห็นฉากที่เราจินตนาการในหัวตอนอ่านชัดขึ้น เราว่าหนังแคสตัวละครได้โอเคอยู่ แต่พระเอกนี่คิดว่าจะหน้าตาดีกว่าที่คิดไว้ในหนังสือ ส่วนตัวเราไบแอสมิโดริ แถมคนที่มารับบทก็คือ กิโกะ มิซุฮาระ (คนนี้ชอบเป็นส่วนตัว) การแสดงก็ดี มีชีวิตชีวา เป็นคนแบกเรื่อง 5555 ส่วน นาโอโกะในหนังคือเราดูแล้วรู้สึก awkward ไปหมด ส่วนเรโกะนี่สวยกว่าที่เราคิดไว้ในหัว
ยังไม่เคยอ่านเล่มนี้นะคะ จำได้ว่าเล่มที่ซื้อและอ่านเล่มแรกๆ ของมูราคามิคือ Sputnik ซึ่งเหวอดีชอบ จากนั้นก็ตามเก็บเรื่อยๆ พักหลังห่างไปนานมาก หลายเล่มยังไม่ได้อ่าน รวมถึง Norwegian ด้วย แต่น่าสนใจดีค่ะ
ชอบ Sputnik Sweetheart เหมือนกันค่ะ ตอนจบ surreal ดี
อ่านแล้วคาใจมากว่าทำไม Kizuki ถึงฆ่าตัวตาย ในมุมมองของเราคือเป็นหนัง coming of age ที่ถ่ายทอดการก้าวข้ามผ่านความรู้สึกของแต่ละตัวละคร แต่ละคนก็มีปมต่างกันไป ส่วนตัวรู้สึกว่าอยากจะเข้าใจความรู้สึก Naoko เหมือน Naoko เป็นตัวละครที่น่าค้นหา น่าทำความเข้าใจ เป็นการตีแผ่เรื่องราวของคนที่เป็นโรคซึมเศร้า + suicidal แล้ว Struggle มากๆ ทำให้ไม่สามารถที่จะใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ รึมีความรักแบบคนทั่วไปได้ คิดว่าเป็นเพราะว่า Naoko รู้สึกว่าตัวเองผูกพันกับ Kizuki มากๆ มากกว่าการเป็นคนรักและไม่เข้าใจว่าทำไมคนที่รักและสนิทกันมากๆๆๆถึงฆ่าตัวตายโดยที่ตัวเองไม่เคยสังเกตเห็นสิ่งนี้มาก่อนเลย ประเด็นที่คิดไว้คือ 1 Naoko ไม่สามารถมี sex กับ Kizuki ได้ 2 Naoko ไม่รู้ว่าทำไม Kizuki ถึงฆ่าตัวตาย อาจจะคิดโทษตัวเองที่ไม่สามารถจะมี sex แบบคนปกติกับ Kizuki เลยอาจคิดว่าเพราะสิ่งนี้รึว่าสิ่งนี้รึป่าวที่ Kizuki ฆ่าตัวตาย การที่ตัวเองมีชีวิตอยู่ในขณะที่คนที่เป็นมากกว่าคนรักต้องตายมันรู้สึกผิดมากๆๆๆ เหมือนความรู้สึกว่าตัวเองไม่สมควรมีชีวิตอยู่ต่อไป 3 การได้เจอกับ Toru เป็นการรู้สึกเชื่อมโยงถึง exiting ของ Kizuki มันน่าจะให้ความรู้ที่คุ้นเคยแบบ Nostogic เหมือนสองคนนี้รู้ถึงการมีตัวตนของ Kizuki เหมือนเป็นที่พักใจให้กันและกัน แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นตอกย้ำถึง Kizuki 4 Naoko งงที่ตัวเองสามารถมี sex กับ Toru ได้ แต่ไม่สามารถมี sex กับ Kizuki ได้ คิดว่าเป็นเพราะปมนี้ Naoko เลยจากไปตั้งแต่วันนั้น น่าจะรู้สึกผิดต่อ Kizuki
ส่วน Toru เป็นตัวละครที่เรียบๆ แต่การที่ Toru โหยหา Naoko ทำให้เรื่องนี้น่าสนใจ น่าประทับใจ เป็นตัวละครที่ก้าวข้ามผ่านวัยไปได้ แต่เรากลับไม่อินกับตัวละคร Midori นะ เพราะโทนของเรื่องนี้มันเป็นสีขาว+เทา เหมือน Midori เข้ามาปรับสมดุล ปรับโทนที่หม่นๆไปเป็นโทนที่สดๆ แต่ก็ทำให้เห็นถึงความแตกต่าง เหมือนเปิดโลกอีกใบของ Toru ทำให้ Toru ก้าวไปสู่โลกของคนปกติ ตอนนั้นอ่านเรื่อง Norwegian Wood ไปพร้อมกับเรื่อง The Virgin Suicides เลยอินมากไปหน่อย อ่านจบแต่อารมณ์ไม่จบ 555
ฝั่งของ Naoko มัน ค่อนข้างจะลึกกว่านั้นค่ะ ประเด็นเรื่อง sex Naoko อาจจะแค่เป็น asexual
Naoko ใช้ชีวิตด้วยการหาสิ่งยึดเกาะมาทั้งเรื่องเลยค่ะ แต่มันหนักเกินไป อยากจะอธิบายแต่มันจะยาวมากๆเลย🥲สำหรับคนที่ relateกับ Naoko ทั้งเรื่องแบบเรา
@@BB-bubbletea มันเป็นเรื่องที่ซับซ้อนจริงๆ เราไม่สามารถเข้าใจความรู้สึกและอารมณ์ของตัวละครได้ ได้แต่คาดเดาไปเอง ตอนเรียนจะมีวิชานึงที่ต้องอ่านนิยายหลายเรื่องมาก แล้วเขียนบรรยายเนื้อหากับตัวละคร วิชานี้สนุกมากๆ
เพิ่งอ่านจบ มันแบบอึนๆโล่งๆ ยังไงไม่ทราบ แต่อยากอ่านหนังสือของมูราคามิอีก
จริงๆไม่สนใจมุราคามิเลย แต่เพราะชือเรืองเหมือนเพลงของ the Beatles เลยทำให้สนใจขึ้นมาแต่ไม่กล้าอ่าน ปกติเราไม่ชอบนิยายญี่ปุ่นเลย หลายปีี่ได้ยินชื่อมุราคามิเริ่มโด่งดังขึ้นเรื่อยๆคงต้องลองซื้อมาอ่าบ้าง
นกไขลานซักepได้ไหมครับ❤
ติดตามทุกคลิปนะคะเป็นกำลังใจให้ค่ะ
ขออนุญาตถามนะคะ🙋...การปรากฏตัวของหญิงสาวในคืนฝนตก พิมพ์ครั้งที่ 1 // พิมพ์ครั้งที่ 2 // คือสงสัยว่า การพิมพ์ใหม่แต่ละครั้ง เนื้อเรื่องก็จะต่อกัน เหมือนภาค 1 ภาค 2 รึป่าวคะ ถ้าจะอ่านต้องเรียงตั้งแต่พิมพ์ครั้งที่ 1 เลยไหมคะ...ใครผ่านไปผ่านมาเจอ รบกวนขอความรู้เพิ่มเติมด้วยนะคะ 😅 ... จากหญิงสาวผู้ที่พึ่งเข้าวงการการอ่านค่ะ 🙏
เรื่องเดิมนะครับ เล่มเดียวจบ เล่มแรกของผมเลย
@@215EEL ขอบคุณค่ะ
@@หนอนน้อย-ด3ฌ ด้วยความสัตย์จริงขอตอบเลยว่าไม่ เนื้อเรื่องเหมือนเดิม แต่มีการแก้ไขคำผิดหรือคำบางคำที่ดูไม่เข้าที ให้ดีขึ้น
@@tata-dd6yz ขอบคุณค่ะ
เรื่องนี้ประทับใจมากค่ะ
ผมมีความรู้สึก Passive death wish มานานมากจนมันจะถึงจุดแมกซิมั่มแล้ว😑
โอ้ยย รู้สึกสั่น จะร้องไห้เลย T_T
ความรู้สึกคือดิ่งสุดหลังอ่านจบ อันนี้เป็นเรื่องแรกที่ได้อ่านของมุราคามิ South of the Border, West of the sun และ Kafka on the Shore ต้องมาแล้ว คนอายุสี่สิบอัพอย่างข้าพเจ้าก็อินมากๆเหมือนกันค้า
takashi murakami กับ haruki murakami เขาเป็นอะไรกันรึเปล่าครับ
“I’d love to cook a stew for you
But I have no pot.
I’d love to knit a scarf for you
But I have no wool.
I’d love to write a poem for you
But I have no pen.”
It's called ‘I Have Nothing’.
จนชาวบ้านชาวช่องเปลี่ยนปกอีกรอบ
หยุดไว้ที่นามีที่ 7 เดี๋ยวไปซื้อมาอ่านก่อนแล้วกลับมาฟังใหม่
ไปอ่านมาแล้วครับ กลับมาฟังอีกครั้ง
ดูคลิปพี่นี้และถืงรู้สืกว่าด้ายกำไลคืนมา.....F.Cສປປ
ລາວ
ผมว่านาโอโกะเห็นแก่ตัวมากนะ มันเป็นความสัมพีนธ์ที่ toxic แต่มันก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงกับใครหลายคน
เห็นแก่ตัวยังไงเอ่ยยย แฟนที่คบตั้งแต่เด็กตายเนอะ จะไม่ให้มีแผลในใจบ้างเหรอ ถ้ามองในแง่เห็นแก่ตัวมิโดริไม่เห็นแก่ตัวกว่าเหรอ เลิกแฟนเพื่อจะมาคบกับพระเอก ก่อนหน้านี้มีแฟนก็จุ๊บกับพระเอก นาโอโกะ มีบาดแผล ไม่ได้ดึงพระเอกเข้ามาในชีวิตแต่พระเอกต่างหากที่โหยหานาโอโกะ สติ
Netflix
ฃ>
ช่วยแนะนำหนังสือ Bury my heart at wounded knee ผมซื้อหนังสือมาแล้วแต่อยากได้แรงบันดาลใจในการอ่านครับ.
กำลังอ่านพอดี เพื่อนชาวอเมริกันให้มาจะ 20 กว่าปีตอนอยู่ที่นั่น ถ้าคุณอยู่ที่สหรัฐคุณจะเห็นชื่อเมืองเปลี่ยนเป็นภาษาอินเดียเเดงเช่นเมืองหลวงมิลวอคคีของรัฐวิสคอนซิน มีมากมายที่เราไม่รู้เเละเข้าใจผิด เเผ่นดินที่กว้างใหญ่ไพศาลเเม้เเต่อินเดียเเดงเองก็ไม่รู้ว่าทั้งหมดมันคืออะไร ดังนั้นที่คนไทยเข้าใจว่าคนอเมริกันไล่ล่าชนเผ่าอินเดียเเดงเเล้วครอบครองนั้นมันไม่ถูกต้องทั้งหมด เเรงบันดาลใจคือเเผ่นดินนี้ดำรงอยู่มาได้อย่างไร ต้องอ่านการสำรวจสหรัฐเริ่มเเรกสมัยประธานาธิบดีจอร์จวอชิงตันบันทึกโดยลูอิสเเละคลากไปด้วยต่อด้วยสงครามปลดแอกจากบริติชเอ็มไพรส์ สงครามเหนือใต้ สงครามเม็กซิกัน จึงจะรู้จักอินเดียเเดงมากขึ้นว่าเขารักหวงเเหนเเผ่นดินนี้ จนถึงปัจจุบันที่สังคมเขาหลอมเบ้าเข้าด้วยกัน
@@jero5662 ได้อ่านคอมเมนท์แล้วชักอยากจะแกะกล่องอ่านแล้ว
เรื่องนี้ดูเวอร์ชั่นหนังแล้วไม่ค่อยเก๊ต
Netflix
ผมอ่านนานมากพอมาฟังเหมือนกลับไปนึกเรื่องเก่าๆ
ผมอ่านแล้วรู้สึกว่าเหมือนตัวเองจนน่ากลัวในบางตอน