คุณรวิศ - มุมมองต่อกระแส 'Anti-Productive' และภารกิจนำศรีจันทร์สู่ IPO | Chief's Table EP.7
Вставка
- Опубліковано 3 сер 2024
- พูดคุยกับผู้จุดกระแสคำว่า “Productive” ในไทย คุณรวิศ-หาญอุตสาหะ CEO บริษัทศรีจันทร์ และ Mission To The Moon ในวันที่สังคมคนรุ่นใหม่เริ่ม Burnout จนเกิดเทรนด์ “Anti-Productive” ในฐานะเจ้าพ่อ Super Productive อย่างคุณรวิศ มีมุมมองต่อเรื่องนี้อย่างไร
พร้อมเจาะลึกวิธีวางกลยุทธ์และแนวทางบริหารคนในองค์กร กับภารกิจนำบริษัทศรีจันทร์สู่ IPO รวมถึงเคล็ดลับพัฒนาทักษะสำคัญในโลกยุคใหม่ ที่ต้องบาลานซ์ทั้งการทำงานและคุณภาพชีวิต
00:00 ไฮไลท์รายการ
00:56 เกริ่นเข้ารายการ
02:11 ก่อนคุณรวิศจะมาเป็น CEO ศรีจันทร์
03:35 จุดเริ่มต้นที่ศรีจันทร์
06:57 การใช้ Tech ในการตลาดที่ศรีจันทร์
12:26 การใช้ Tech ในการ Transform ศรีจันทร์
14:33 บทเรียนที่เคย ‘เจ็บ’ กับการใช้ Tech ในองค์กร
15:14 แชร์ Tool ที่เอามาใช้ และมีประโยชน์กับองค์กรที่สุด
17:30 กลยุทธ์ธุรกิจของศรีจันทร์
19:07 บทเรียน Product ที่ ‘แป้ก’ ที่สุดของศรีจันทร์
20:45 ศรีจันทร์สร้างความแตกต่างจากคู่แข่งอย่างไร
25:06 บริหารทีมยังไง ในการเร่งเข้า IPO
27:19 มุมมองต่อเรื่อง Productive ในยุคที่มีกระแส Anti-Productive
33:18 คำแนะนำในการเพิ่ม Productivity อย่างมีสมดุล
37:28 Mission To The Moon Forum 2023
ย้อนดูเนื้อหาสุด Exclusive จากผู้บริหารชั้นนำในรายการ Chief's Table ทั้งรูปแบบวิดีโอ, บทความ และ Podcast ได้เลยที่นี่: skooldio.com/originals/chiefs...
ฟังคุณแท็ปให้สัมภาษณ์มาหลายรายการ แต่ชอบรายการนี้มากๆ สัมภาษณ์ละเอียด ถามแทนผู้ฟังได้ดีมากๆ เห็นภาพเลยค่ะ
ขอบคุณมากครับ ❤️
ในหัวข้อเรื่อง anti-productive ผมเห็นด้วยกับคุณแท็บมากๆ จากสิ่งที่เจอด้วยตัวเองเลยคือ
1 ตอนโควิดมามันทำให้รู้ว่าชีวิตเรามันพร้อมจะตายได้แค่ไหน ตายไปแล้วมันก็จบ คนอื่นก็เดินไปข้างหน้าต่อ บริษัทก็แค่หาพนักงานคนใหม่ เลยทำให้ผมนึกขึ้นมาว่าเราอาจไม่ต้องทุ่มให้กับการทำงานจนเกินร้อยก็ได้ แต่ทำตามหน้าที่ให้เต็มประสิทธิภาพ และตามเวลาที่เราตกลงกันก็ดีแล้ว ไม่ต้องมาทำโอที อยู่ดึก จนไม่ได้ใช้เวลาชีวิดของตัวเอง
2 เรื่องการทำงานจากที่บ้าน อันนี้คือมันดีจริงๆ แน่นอนว่าตอนเริ่มใหม่ๆ งานมันอาจจะออกมาไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่พอเราทำแบบนั้นมาได้ 2-3 ปี เราก็ปรับตัวได้ และงานมันก็มีประสิทธิภาพเท่าเดิมแล้ว อีกเรื่องที่ได้ประโยชน์คือ ไม่ต้องเอาเวลาไปเสียกับรถติดบนถนนวันละหลายชั่วโมงด้วย ประหยัดค่าเดินทางไปมากๆ หลังเลิกงานก็สามารถเปลี่ยนมาใช้ชีวิตของตัวเองได้เลย ไม่ต้องเอาเวลาไปทิ้งบนถนนตอนเดินทางกลับ กว่าจะถึงบ้านก็มืดแล้ว แต่ว่าตอนนี้หลายบริษัทเริ่มให้กลับไปทำงานที่ออฟฟิศแล้วซึ่งผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมและตอนนี้มันทำให้ผมกำลังเริ่มมองหางานใหม่ที่ไม่ต้องเข้าออฟฟิศทุกวันแล้ว
3 เรื่องชีวิตติดจอนี่จริงเลย มันเหมือนเรามองเห็นแต่ความสำเร็จของคนอื่นตลอดเวลาแล้วเกิดความเปรียบเทียบโดยไม่รู้ตัว ซึ่งเราไม่รู้ตัวจริงๆ (เอาจริงๆมันอาจจะเป็นความอิจฉาด้วยแหละ ถ้าพูดตรงๆ) มาถึงจุดหนึ่งเราจะรู้สึกหมดไฟง่ายมากๆ ทำให้ผมต้องลดการเล่นโซเชียลหรือลดการอ่านบทความเกี่ยวกับความสำเร็จลงจริงๆ เพราะบางทีแรงบันดาลใจจากคนอื่นดันมาทำร้ายเราแทน
รู้สึกได้ถึงคนที่นำความรู้มาประยุกต์ใช้ในงานจริงๆ มีการสรุปผล จากการนำไปใช้
มีวิวัฒนาการของความคิด ร่างกาย จิตวิญญาณ ของคนที่นำความรู้และเทคโนโลยีไปใช้ประโยชน์
ข้อดี ข้อเสีย ไม่ใช่แค่พูดตามตำรา หรือแค่อ่านหนังสือมาพูด
พิธีกรก็เข้าใจและทันกันมาก เป็นการสนธนาที่ลื่นไหล เป็นตอนที่มีประโยชน์มากๆครับ
ฟังคุณแท็ป ลังเลจะไปวิ่งดีไม่ดี pause แป๊บ พุ่งออกไปวิ่งเลอ กราบงามๆ
Productive ยุคใหม่ต้องสมดุลทุกด้านครับ 🥰
เป็นการสัมภาษณ์ที่ให้มุมมองได้รอบด้านจริงเลยค่ะ (งาน+ชีวิต+ความสุข)
ขอบคุณมากนะครับ
จากเป็นคนsuper productiveจนถึงจุด1 เป็นanti productive ครับ
#พี่แท้ป❤️❤️❤️❤️
มาฟังงับบ🎉❤ื
ขอบคุณ คุณ tap มากนะคะ
สัมภาษณ์ดี คำถามดีมาก มีประโยชน์มากครับ
Oho มีมุมมองการตลาดที่ดีมากๆ
เป็น 40 นาทีที่สั้นมากๆๆ เลยค่ะ ฟังเพลินมากเลย ขอบคุณที่นำมาแชร์กันนะคะ
“Tight Tight Tight!”
Tugo Breaking Bad
ผู้ที่เรียนสายวิศวกรรมศาสตร์จะทำงานเป็นระบบมีขั้นตอนวิเคราะห์แยกแยะมีเหตุมีผลคิดแบบตรรกะ คุณรวิศนำความรู้ของสายที่ได้เรียนมาใช้แก้ปัญหาของครอบครัว
เหมือนเดอะแสตนตาทเลยคับ
💕
พูดเร็วไปและไม่ชัด
ชอบแบบ starter เริ่มจาก 0 มากกว่า เก่งกว่าทำกิจการที่รับต่อจากครอบครัวมาเย๊อะ