Розмір відео: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Показувати елементи керування програвачем
Автоматичне відтворення
Автоповтор
การสปอย และวิจารย์หนังของช่องนี้ เป็นอะไรที่แปลกมากเพราะช่องสปอยกับวิจารย์หนังส่วนใหญ่จะนำเสนอเนื้อเรื่อง และความรู้สึกของคนรีวิว ออกมาในรูปแบบของตัวเอง แต่องค์รวมใหญ่ๆคือ มันคล้ายๆกัน แต่ช่องนี้แตกต่างโดยสิ้นเชิง นอกจากจะมี2อย่างที่ว่ามาเหมือนช่องอื่นๆแล้ว ยังมีทรรศคติและมุมมองอื่นๆที่คนส่วนน้อยจะมองเห็น แต่ก็ต้องยอมรับว่าอะไรแบบนี้มันดูจริงจังเกินไป มันเหมาะกับคนเฉพาะกลุ่มมากกว่า เพราะสิ่งที่คนดูใหญ่อยากจะได้จากช่องสปอยก็คือ การรู้เนื้อเรื่องของหนังแบบเข้าใจง่ายๆ แต่ส่วนตัวผมแล้วผมคิดว่า ช่องนี้ เป็นอีกหนึ่งช่องที่ดีมากๆ เพราะมันได้มอบทรรศคติที่ดีบางอย่างในการใช้ชีวิตให้ผมขอบคุณมากๆครับแอด ☺️
เรื่องนี้สุดๆครับ ล้ำมากๆ ไม่น่าเชื่อว่านี่คือหนังจากปี 1968 Stanley Kubrick ปรมาจารย์ของวงการภาพยนตร์จริงๆครับ เสียดายมากที่แกจากเราไปแล้ว ถ้าแกยังอยู่นี่เราจะได้ดูผลงานเจ๋งๆจากไอเดียความคิดและความสามารถของแกไปเรื่อยๆคงจะดีไม่น้อยเลยครับ คลิปนี้สุดยอดจริงๆครับพูดดี เข้าใจง่ายและเนื้อหาน่าสนใจมากๆครับ
2001 A Space Odyssey มาจากนิยายวิทยาศาสตร์ของ Arthur C Clark และ Kubrick เอามาสร้างและเปลี่ยนแปลงบางส่วนจนเป็น masterpiece
ขอขื่อเรื่องหนังครับ พิมพ์หา
บ้าหรอเขาเกิด1937จะให้อยู่ใด้งัยย
เห็นด้วยเลยครับว่า "Kubrick ปรมาจารย์ของวงการภาพยนตร์จริงๆ" ผมเสียดายไม่ได้นโปเลียนหนังเรื่องสุดท้ายที่ท่านจะสร้าง
@@theWatcher_Documentary ไปทำ แบรี่ ลินดอนแทน
ผมอายุ 70 ปีครับ เคยดูหนังเรื่องนื้ที่ลิโดหรือสยามจำไม่ได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เป็นระบบธรรมดาและระบบ 3 มิติในเรื่องงเดียวกัน ฉากบางตอนในหนังเรื่องนี้เป็นหนัง3 มิติ แต่เป็น3 มิติ แบบแว่น2สี คือสีเหลืองแดง เช่นฉากที่พระเอกของเรากับเพื่อนแอบเข้ามาในแคปซูล ปิกประตูหมดเพื่อพูดคุยไม่ให้ใครได้ยินโดยสงสัยว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นการกระทำของเจ้าคอมพิวเตอร์ที่ชื่อ ฮัลที่ ควบคุมทุกอย่างในยานอวกาศลำนี้ แต่ก็ไม่พ้นที่คอมพิวเตอร์มองเห็น2คนนี้คุยกัน โดยสังเกตุที่ปากของคนที่พูดกันผ่านทางกล้องวงจรปิดที่ส่องไว้ที่ห้อง เจ้าคอมพิวเตอร์นี้จึงรู้ทั้งหมดที่คนคุยกัน ฉลาดมากครับ หนังเรื่องนี้สมัยนั้น สุดยอดมาก ตื่นตาตื่นใจกับความคิดก้าวหน้าและล้ำหน้าของวงการหนังวิทยาศาสตร์มากๆ เรียกว่าสุดยอดที่สุดในยุคนั้นซึ่งหลายๆอย่างในเรื่องนี้ ต่อมามีจริงๆในยุคต่อมา
ค้าบคุณปู่5555 เบียวคนแก่ปะครับ คุณปู่ชอบท่องโลกอินเตอร์เนตหรอค้าบ (คนอายุ70ที่ไหน จะมาเม้นช่องยูทูป แถมเม้นว่าตัวเองอายุ70ปี อีก)
มองแป้นพิมพ์เห็นชัดดีนะครับคุณปู่
2001 : A Space Odyssey (1968) ถ้าผมมีโอกาศได้ พูดคุยกับเพื่อน-นึกถึง-นํากลับมาชมอีกครั้ง-ได้คิดถึงประเด็นต่างๆ ตัวผมเองนั้นคงต้องบอกจริงๆว่าปฏิเสธไม่ได้เลยที่จะบอกว่า ตั้งแต่ครั้งแรกที่ผมได้รับชม-ได้ตั้งคําถาม-ได้รู้จักว่า 2001เรื่องนี้ประเด็นมันเกี่ยวกับอะไร(ผมรู้สึกดีมากๆ) นับตั้งแต่วันแรกนั้นจนถึงปัจจุบันนี้...2001 A Space Odyssey หนังของผกก.ชั้นครูเรื่องนี้ สแตนลีย์ คูบริก ต้องยอมรับจริงๆว่าเป็นคนที่น่าจดจําเพราะ2001หนังเรื่องนี้ของเขานั้นมีอิทธิพลต่อผกก.รุ่นใหม่ที่ตามมา ด้วยปี1968 แต่หนังกับสร้างออกมาได้ดีเกินคาด ส่วนตัวผมรู้สึกว่าถ้าผมมีโอกาศได้ชมหนังเรื่องนี้ในต้นปี70-ปลายปี80จะรู้สึกพิเศษขนาดไหนเพราะเรื่องของเทคโนโลยีและปัจจัยต่างๆ ประเด็นในหนังประเด็นต่างๆในหนังล้วนเป็นจินตนาการของตัวผกก.ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องศาสนา-ลิง-เรื่องเสาหินต่างๆ-เรื่องAl-เรื่องมิติที่3,4,5-10+ นั้นล้วนเป็นจินตนาการของตัวคูบริกทั้งสิ้น นอกจากนี้ยังมีประเด็นจินตนาการของคนดู เพราะด้วยหนังเกิดขึ้นในปี1968 และด้วยลําสมัยกว่าในยุคนั้นสแตนลีย์ คูบริก ถูกเชื่อมโยงว่าเป็นผกก.ของเรื่องลวงโลกนาซ่าลวงโลกนาซ่าโกหกชาวโลกเรื่องการไปเหยียบดวงจันทร์ในครั้งแรกนั้นเป็นเพียงเเรื่องโกหก ต้องยอมรับจริงๆว่าเป็นคนที่มีอิทธิพลต่อหลายๆประเด็นจริงๆ แต่ผมอยากให้ทุกคนที่อ่านข้อความมาถึงตอนนี้ลืมทุกประเด็นที่ผมได้กล่าวมาไปก่อนและลองคิดตามดูง่ายๆเอาว่า มันคือจินตนาการของมนุษย์คนนึงแต่มันคือจินตนาการที่น่าอัศจรรย์ใจและน่าจดจําเพราะเขาเข้าใจตัวเองเข้าใจธรรมชาติของโลก เข้าใจธรรมเรียนรู้การเป็นพระเจ้าในตนเองนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้นั้น สุดท้ายเป็นเพียงจินตนาการทั้งหมดของมนุษย์คนนึง สรุป2001 : A Space Odyssey (1968) คือจินตนาการของมนุษย์และวิวัฒนาการอย่างไม่รู้จบ..ยาวหน่อยแต่ยินดีที่ได้แบ่งปันครับ :)
❤
จะบอกว่านี่ดูซ้ำไป7-8รอบ ทุกรอบก็มีความคิดทฤษฎีไม่ซ้ำกันเลย มันคือหนังไซไฟแห่งยุคที่มาล้มสุดยอดหนังไซไฟอย่าง Metropolis ได้จริงๆฉาก ลิงตอนต้นเรื่องคือ อุๆๆๆอ้าๆๆๆ จ๊ากๆๆๆ คนอื่นอาจจะบอกว่าลิงน่าเบื่อแต่มันสนุกมาก มันแบบ ลิงตีกันอุก้าๆๆๆ อ้าๆๆๆ ลิงดำ ตีกัน เจอกระดูกแสดงให้เห็นถึงวิวัฒนาการของมนุษย์เลย มันเป็นเรื่องที่หลายคนมองว่ามันงง แต่ว่าสแตนลีย์ เขาพยายามจะทำให้เป็นแบบนั้น อาร์เธอร์ ดี คลาก อาจจะให้เหตุผลของ2001 a space odyssey ว่า จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามนุษย์มีการวิวัฒนาการที่มาก กว่าแค่มนุษย์ เพราะฉะนั้นหนังจะเล่าเรื่องแบบ slow burn ไปเรื่อยๆ และก็มี ฮาล ฮาลเป็นเหมือนเอไอที่จะบอกว่า เอไอ ก็มีความคิดและอยากจะพัฒนาตัวเองไม่อยากเป็นสิ่งของที่มนุษย์ใช้ซ้ำไปซ้ำมาแล้ว มันเลยทำแบบนั้น ตอนจบเราเห็นพระเอกเป็นแบบนั้น เพราะมันคือความ ไซ ไฟ มันคือ ความไซไฟมมันคือ วิวัฒนาการที่เหนือชั้นของมนุษย์ ถ้าอยากรู้เรื่องราวต่อว่า เป็นยังไง ซื้อหนังสือมาอ่านได้่นะครับ ตามนี้2001 A Space Odyssey2010 A Odyssey Two2060 A Odyssey Three3001 A Final Odyssey .
สวัสดีครับคุณ Well-Light On The Road รบกวนติดต่อกลับทางเพจหน่อยครับ facebook.com/AdminWatcher
ในมุมมองของผม เมื่อเราถูกสภาพเเวดล้อมบีบบังคับให้เจอกับสถานะการที่ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ยากลำบาก เราก็ต้องเปลี่ยนเเปลงเพื่อความอยู่รอด(ความสะดวกสบายในชีวิต)ซึ่งเป็นเหมือนสัญชาตญาณที่มีอยู่ในตัว เมื่อเราเห็นสิ่งที่เราไม่เข้าใจทำให้เราเกิดการตั้งคำถามกับสิ่งนั้น เมื่อตั้งคำถามเราจึงเกิดความอยากรู้ สู่ความอยากลอง เเละนำพาไปสู่การค้นพบสิ่งใหม่ ทั้ง 3 สิ่งนี้ทำให้เราสั่งสมประสบการณ์เเละสติปัญญามากขึ้น เพื่อให้เราเองได้รับซึ่งความปลอดภัยในสภาพเเวดล้อมที่ตนเองอยู่ มนุษย์จึงสร้าง เครื่องมือมากมายเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด เเละไม่ว่าจะผ่านไปนานมากเเค่ไหน มนุษย์ก็จะสร้างเครื่องมืออีกมากมายขึ้นมา เพื่อความอยู่รอดของตัวเอง เเละนั้นเเหละอาจจึงทำให้ลิงเหล่านั้นในอดีตวิวัฒนาการตัวเองมาเป็นมนุษย์ในปัจจุบัน
สวัสดีครับคุณ EVM TH รบกวนติดต่อกลับทางเพจหน่อยนะครับ facebook.com/AdminWatcher
ถ้าสรุปด้วยคำพูดของบุคคลต่างๆองค์ที่ 1 ความรู้ของเราช่างจำกัด แต่ความไม่รู้มีอย่างไร้ขีดจำกัด และในทุกรุ่นเราจะค้นพบความรู้ใหม่และส่งต่อไปยังรุ่นสู่รุ่น ผ่านการขยายขอบเขตไปสู่ความไม่รู้ Thomas Henry Huxley (นำความรู้มาใช้ประโยชน์)องค์ที่ 2 เราล้วนอาศัยอยู่อย่างสงบบนเกาะแห่งความโง่งม รายล้อมไปด้วยทะเลดำอันไร้ที่สิ้นสุด และเรายังไม่พร้อมที่จะแล่นเรือออกไป H.P. Lovecraft (การเผชิญหน้ากับสิ่งไม่รู้)องค์ที่ 3 เครื่องจักรอัจฉริยะจะเป็นสิ่งที่มนุษย์คิดค้นสิ่งสุดท้ายที่จำเป็น Nick Bostrom (ความผิดพลาดจากการนำความรู้มาใช้)องค์ที่ 4 ในยามที่ข้าพเจ้ามองกลับไปยังโลกที่เล็กดั่งถั่วสีน้ำเงินที่ใช้นิ้วโป้งก็บังจนมิด มันไม่ได้ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกยิ่งใหญ่ แต่ทำให้ข้าพเจ้ารู้ว่าตัวเองนั่นเล็ก และช่างต่ำต้อยเสียเหลือเกิน Neil Armstrong (การรับรู้ความจริงที่ไม่อาจยอมรับได้ว่าตนเองเป็นแค่สัตว์เลี้ยงที่ถูกเฝ้ามองของFirst born)ตอนจบ ความสำเร็จที่สูงที่สุดของมนุษยชาติจะไม่สร้างประโยชน์อันใดให้กับมนุษย์ H.P. Lovecraft (การกลายเป็น Star child ไม่ได้ทำให้เดฟได้ประโยชน์อันใด)
ชอบมากครับ รบกวนคุณ Nyarlathotep The Crawling Chaos ติดต่อกลับทางเพจหน่อยครับ facebook.com/AdminWatcher
เป็น1ในคลิปที่ใส่เพลง fur elise ได้เหมาะจังหวะมากคลิปคุณนอกจากน้ำเสียงน่าฟังการตัดต่อน่าดู ยังมีเรื่องของการเลือกเพลงประกอบที่เลือกได้ดีมากๆจากที่ดูมาหลายๆคลิป เออลืมอีกเรื่องคนที่มาคอมเม้นท์ก็จะเป็นพวกมีสติปัญญา ไม่เลอะเทอะไร้สาระ ชอบครับ
สุดทั้งคนเขียนหนังสือสุดทั้งผู้กำกับ หนังเรื่องนี้เลยสุดยอดตลอดกาล
14:40 จะมีฉากนึงที่เดฟสั่ง Hal ให้หันยานบิน แต่ Hal ไม่ทำตามเดฟจึงคิดว่าเขาไม่ได้ยิน แต่จริงๆมันรู้ว่าเดฟสั่ง แค่ไม่ทำตาม เพื่อไม่ให้รู้ว่าเขารู้ทุกคำที่เดฟพูด ก่อนมาถึงดาวพฤหัสมันเคยทำสิ่งผิดพลาดคือเดินหมากผิด และทำให้ตัวเองแพ้ บ่งบอกถึงความรวดเร็วในการพัฒนาตัวเองของมัน เพราะเพียงแค่ไม่นาน มันก็เริ่มที่จะมีความสามารถมากขึ้นและฉากที่เดฟค่อยๆปลดเมโมรี่ของ Hal ออก มันอ้อนวอนขอชีวิตและมีความรู้สึกกลัว จนสุดท้ายมันก็รับชะตากรรม มันรู้ว่าตัวเองกำลังค่อยๆต่ำลงเรื่อยๆ และเดฟกำลังพัฒนาขึ้น จนสุดท้ายมันก็กลับไปเป็น Hal 9000 ที่ยังไม่มีความจำ มันรู้แค่ว่าตัวเองเป็นปัญญาประดิษฐ์ มันถูกสร้างมาเพื่อรับใช้มนุษย์ มันจึงร้องเพลงให้เดฟฟังก่อนที่จะถูกปิดตัวลงในภาค 2010 มันเคยถามกับลูกเรือในยานว่า "ผมฝันได้มั้ย" บ่งบอกว่ามันกำลังเริ่มมีความขี้สงสัยเหมือนกับมนุษย์
มันล้ำซะเหลือเกิน ชอบบมากๆ รักมากๆ คิดถึงเธอมากๆ แม้จะวิ่งแค่ไหนสสุดท้ายก็พักเหนื่อย ขอบคุณครับ
พยายามลองแล้ว สมองไม่ถึง หลับซะหลายรอบ ขอบคุณที่อธิบายให้เข้าใจครับ
สุดยอดฝีมือทั้งทีมงานและผู้กำกับ หนังได้ท้าทายความเชื่อของมนุษย์ชาติ ชีวิตกำเนิดโดนมีผู้สร้างหรือไม่คือมหาอภิปรัชญา สุดยอดผลงานโดนสุดยอดฝีมือ
ขอบคุณ The Watcher ที่ทำคลิป คุณภาพดีๆ ใหได้รับชม มาตลอด ..สำหรับคลิปนี้ ขอให้ข้อมูลในส่วนSupercomputer บนยาน Discovery One นั้น คือ“HAL 9000” ที่เป็นระบบ AI สุดลํ้าแต่ The Watcher เรียกเป็นHALL 9000 .. L เกินมาตัว 😮HAL = Heuristically programmed ALgorithmic computerและก็เคยมีคนให้ข้อสังเกตว่าที่ใช้ตัวย่อ “HAL” ก็เพื่อบัฟ บารมี ของ “IBM” ในสมัยนี้น ที่เป็นผู้นำระบบ Computer ยุคนั้นทำไมถึงบัฟ IBM? งงไหมครับลองสังเกต ลำดับตัวอักษร H,A และ Lในภาษาอัังกฤษนั้น นําหน้า ตัวอักษร I,B และ Mอยู่ทั้งสิ้น 😅Thanks & Appreciates
โอ้ว ขอบคุณมากเลยครับ เพิ่งทราบเรื่อง IBM คูบริกลึกและแสบมากครับ 😅
ประทับใจผลงานชิ้นนี้มากครับ ฟังแล้วได้คิดต่อยอดมากมายเลยครับ
มาแล้วช่องที่บรรยายมีสาระที่สุด
เป็นเนื้อหาที่ดีมากเลยครับ แต่ที่ดีกว่าคือคุณอธิบายได้ดีมากไม่มีติดขัด เวลาที่ผ่านไป 30 นาทีกว่าไม่มีความรู้สึกเบื่อหน่ายหรือต้องรอ มีแต่ความ ต้องการรับรู้เพิ่มขึ้น ซึ่งดีมาก
วิเคราะห์ได้ลึกซึ้งมาก.ชอบๆ
เพราะคำว่า "บ้าน" ของแต่ละคนแตกต่างกัน #ขอบคุุณมากคับบ
ขอบคุณที่จัดทำคลิปนี้นะคร้าบ
ชอบช่องนี้มากครับ สุดยอด อธิบายลึกซึ้งมาก
ชอบการนำเสนอ ที่สุดล้ำลึกรอบรู้ของคุณจังเลย
การใช้คำของช่องนี้ ผมขอยอมรับเลยว่า นวล ลื่น และมีความสัมผัสกันมาก แถมยังไม่นับการใช้เสียงที่เว้น ใส่จังหวะ และอารมณ์ได้ลงตัวจริงๆ
ผมชอบการตีความมากเลยครับ เป็นความจริงของชีวิตและปรัชญา
ชอบมากครับ ผมหลับจริงๆกับเรื่องนี้ แต่ยอมรับเรื่อง special effect ล้ำก่อนกาลจริงๆ ไม่แพ้ทุกวันนี้เลยทั้งที่หนังทำก่อนหน้ามานานมาก
ไม่เคยดูเรื่องนี้ครับ แต่แค่ดูคลิบก็ไปหามาดูเลยครับ
ชอบทุกคลิปครับ มีสาระ ได้รู้แง่มุมต่างๆผมได้เรียนรู้หลายอย่างจากช่องนี้เลยครับ
Spaceodessyสำหรับผมในตอนดูครั้งแรกตอนนั้นผมรู้สึกว่าตัวเองจับต้องไม่ได้ไม่รู้เพราะว่าผมตอนนั้นยังความรู้ไม่พอรึเปล่าวันนี้พอผมกลับมาดูอีกครั้งผมรู้สึกว่าผมเข้าใจมากขึ้นรู้เลยว่าทำไมstanleykubrickถึงถูกยกย่องต้องขอบคุณThewatcherมากน่ะครับที่ทำการค้นหาแง่มุมเรื่องนี้ป.ล.ผมอยากคุณค้นหาแง่มุมเรื่องclockwork orangeไม่ก็มหาลัยเหมืองแร่ครับ
อยากให้ช่วงทำคลิปหนังแบบนี้ หนังช่วงยุค60-90 หนังแนวปรัชญา ให้คิดคนคิดเองเยอะมาก
ส่วนตัวคิดว่ามนุษย์เราน่าจะถูกสร้างขึ้นมาจริงๆแหละ เราตอนนี้เหมือนอ้างว้างในจักรวาลเอาซะมากๆ ในความมืดของอวกาศอันไร้ที่สิ้นสุด ทำไมเราจึงโดดเดี่ยว ทำไมเราถึงอ้างว้าง ดูห่างไกล เราเป็นอะไรกันแน่ เราอยู่ที่นี่ทำไม เราอยู่ไปเพื่ออะไร
เราเกิดยุคแรกเริ่มครับ. ยุคดึกดำบรรพ์ของจักรวาลของแท้เราไม่เคยเห็นเอเลี่ยน. เพราะมีแค่เราจริงๆ. คงต้องรอหลายล้านๆๆๆๆๆปีถึงจะมีอนานิคม อวาวาศจาก ต่างดาวหลายสายพันแบบในหนัง
เราอยู่ตรงไหนในกระบวนการนี้? สิ่งที่ผมตั้งคำถามกับตัวเองคือมีพระเจ้าหรือไม่ หากมี พระองค์ดำรงอยู่ในสถานะใด เป็นผู้สร้าง เป็นสิ่งมีชีวิตทรงภูมิ เป็นพลังงาน สสาร เป็นจักรวาล เป็นรูปธรรมหรือไร้ตัวตนคูบริกเปรียบเปรยทุกสิ่ง ท้าทายทุกความเชื่อ และสร้างคำถามขึ้นอีกเป็นพันๆคำถาม ท้ายสุด ผมยอมแพ้ต่อความใคร่รู้ของตนและยอมจำนนต่อวัฏจักร จนกว่ามนุษยชาติจะไปถึงสุดขอบความรู้ คำถามนี้ก็คงไม่ได้รับคำตอบ
18:10 backroom มาก่อนการ จริงๆ น่ะ
2001 a space odyssey ได้เปิดมุมมองต่อคำถาม ถึงการเกิด และการวิวัฒนทางความคิด ก้าวถัดไปของความเป็นไปได้ใหม่ๆ ที่มนุษย์จะดำรงอยู่ในจักรวาลนี้ และความยอดเยี่ยมของผู้กำกับอย่าง Stanley Kubrick ศิลปินผู้อยู่เบื้องหลังผลงานล้ำค่านี้แต่ผมก็ขอขอบพระคุณ The watcher ผู้ไขกุญแจของความคิดและส่งต่อคำถามปลายเปิดให้ผู้ชมอย่างผมได้ขบคิด ตั้งคำถามต่อยอด อย่างไม่รู้จบ การตั้งคำถามคงเป็นสิ่งยืนยันถึงความเป็นมนุษย์ แม้ในชั่วขณะของความคิด ก็ยังคงส่งผลต่อความเบิกบานภายในจิตใจ ….
คูบริกคืออัจฉริยะแหางวงการจริง ๆ ครับ ขอบคุณคุณ Crypto Bangkok มากเลยครับที่ SUpport ช่องครับ 🙏🥰
ชอบมากคับ ทั้งเนื้อเรื่อง และผู้เล่า ติดตามอยู่ตลอดนะคับ
ถึงจะไม่เคยดูหนังเรื่องนี้ แต่ฟังเข้าใจในการลำดับเล่าเรื่องแบ่งเป็นตอนๆ ดูจบแล้วทำให้อยากไปหาหนังเรื่องนี้เลย เป็นคนนึงที่ชอบเรื่องที่ไม่ต้องมีบทสรุป ปล่อยคำถามปลายเปิดให้ผู้รับชมมีคำตอบแตกต่างกันออกไปค่ะ ขนาดตัวเราเองคนละช่วงวัย คำตอบก็เปลี่ยนไปด้วย
"เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป"..เป็นวงกลมไม่มีที่สิ้นสุด.O
เรื่องนี้สุดจริงๆ แค่ฉากแรกกว่าจะจบ หาวแล้วหาวอีก
จริง
ผมหลับแล้วตื่นแล้วหลับแล้วตื่น แล้วหลับยาวเลยครับ 555555555
เห็นด้วยครับ ใช้เวลาดูหลายรอบมากกว่าจะจบ 😅
4:00 ในนิยายเขาบอกว่าลิงกลุ่มที่เจอ Monolith มีชื่อว่า Moon watcher(เป็นชื่อของจ่าฝูงนะครับ)
ชอบคำนี้มากครับ "เพราะเราทำได้"
คราวหน้าผมขอ Request Lawrence of Arabia สักเรื่องนะครับ สาระดีแบบคาดหวังได้จริงๆช่องนี้
ผมจะไม่ขออะไรแอดจะรอดูอย่างเดียวเพราะแอดดีกว่า โฟร์เอสสร้างสรรค์อีกแล้วครับท่าน
Stanley Kubrick ชื่อนี้ล้ำจริงๆคับ 👍
ทำไมถึงพึ่งมารู้จจักช่องดีๆแบบนี้
ฟังแล้วเข้าใจมากๆเลยค่ะ
เรื่องนี้ดูมาไม่ต่ำกว่า20ปีที่แล้ว ยอมรับว่าเป็นหนังที่ดูไม่รู้เรื่อง เรื่อง หนึ่ง แต่ผมก็ยังตีความว่าสุดท้ายนักบินอวกาศกลับไปเกิดใหม่ ผมมีแผ่น cd เพลงคลาสสิคด้วย เป็นเพลงที่ฟังแล้วโคตรยิ่งใหญ่ ใช้เป็นเพลงเปิดงานในสมัยก่อน
🎉🎉🎉
เรื่องนี้ ล้ำมาก มาก่อนกาลจืง ๆ ของวิเคราะห์ Full Metal Jacket ด้วยครับแอด
หนังเรื่องนี้ไปเป็น Ester Egg ในเกมสร้างสิ่งมีชีวิตที่เก่าแต่ก็ยังเล่นสนุกอย่าง Spore ด้วย ตอนเราพัฒนาถึงช่วงท่องอวกาศได้แล้ว มันจะมีไอเทมนึงที่ชื่อว่า Monolith ที่เป็นเสาหินดำๆ แต่จะมีรูหนึ่งรู เวลาเอาไอ้เสานี้ไปตั้งในดาวไหนก็ตาม มันจะสุ่มให้สิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์หนึ่งพัฒนากลายมาเป็นเผ่าพันธุ์ทรงภูมิปัญญาที่สามารถท่องอวกาศในภายหลังได้ และตอนที่เราเข้าไปถึงใจกลางกาแลคซี่ที่เราอยู่ได้ เวลาเดินทางเข้าประตูมิติ ก็จะมีภาพหลากหลายสีสันถาโถมเข้ามาเหมือนกัน เรียกได้ว่าหนังเก่าๆทรงคุณค่าก็มีอิทธิพลไม่น้อยกับยุคปัจจุบัน
เกมเก่าในตำนาน
ตอนดูเรื่องนี้คือประทับใจมากเเต่ยอมรับเลยว่าไม่ค่อยเข้าใจ เเต่พอมาดูช่องนี้คือเเจ่มเเจ้งอะยิ่งทำให้อินไปใหญ่ อยากให้อธิบายเรื่องeyes wide shut จังค่ะเรื่องนี้คือดูแล้วงงมากเหมือนจะชอบเเต่ก็ยังไม่เก็ทเท่าไหร่
ขอบคุณที่ทำตอนนี้ขึ้นมานะคะ
ถ้าตัดความเนี้ยบและความเจ้าระเบียบของ คูบริค ออกไป เขาจะเป็นคนที่ดีและโครตเพอเฟ็คเลย ผู้กำกับมากฝีมืออันดับต้นๆ หลายคนก็อยากจะร่วมงานกับเขา หลายๆคนก็เบือนหน้าหนี เทียบกันแล้ว ยังไงเราก็เถียงไม่ได้จริงๆว่าเขาคือตำนานของหนังหลายๆเรื่อง space odyssey หรือ the shining และอื่นๆอีก ยุคนั้นอาจจะไม่มีใครเข้าใจ แต่ถ้ามาตอนนี้ในยุคปัจจุบันเราต่างรู้สึกแปลกใจและมหัศจรรย์กับหนังเหล่านี้ของ คูบริค มากๆ เสียดายนะ ที่เขาไม่ได้อยู่ดูความสำเร็จของตัวเองปล. Für Elise ตอนต้นคลิปดีจริง ชอบการใส่เพลงประกอบของ the watcher มาก ท็อปฟอร์มตลอดฟังได้ไม่มีเบื่อเลยครับ 😁😁
เสียดายที่อดดูเรื่องนโปเลียนของคูบริกนะครับส่วนเพลงผมซื้อเพลง classic มาเยอะเลยครับ ฮ่า ๆ ผมชอบมากครับ
@@theWatcher_Documentary เวลานั่งทำงานขาดแพชชั่นในการทำงานได้ฟัง อัตชีวประวัติ ของบุคคลหรือการวิเคราะห์ตีความต่างๆของ the watcher แล้ว จิตใจสงบขึ้นมากเลยครับ ขอบคุณสำหรับคอนเทนต์ดีๆครับ
@@crocodile1847 ขอบคุณมากเลยครับ เป็นเกียรติมากครับ ติดตามกันไปนาน ๆ นะคร้าบ 🙏😊
หนังที่ทำให้ผมเข้าวงการหนัง cinephile เพราะตอนนั้นเคยอ่านนิตยสารที่พูดถึงคูบริค ตอนนั้นผมอยู่ ม.1 ปี 2007 เลยอยากดูหนังเรื่องนี้มาก เพราะผมชอบหนังไซไฟ แน่นอน สตาร์วอร์สนั่นแหละแต่กว่าจะมีโอกาศดูก็ตอนเรียนปี 1 ปี 2013 ตอนนั้นไม่รู้ว่าการดูหนังมันต้องตีความแบบที่นักเรียนนิเทศภาพยนตร์ทำกัน เรื่องนี้จึงเป็นหน้าต่างบานแรกสู่วงการดูหนังยากและจริงจัง ต้องตีความ ทั้งๆที่ตอนนั้นหนังมาร์เวลกำลังดัง และค่อยๆกลืนกินวงการภาพยนตร์โดยการผูกขาด 555 ตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่นะจะว่าไปน่าจะลองพูดถึง solaris 1972 ของ tarkovsky บ้าง เพราะแกดูหนังเรื่องนี้แล้วบอกว่ามันแห้งแล้งทางอารมณ์ เลยทำ solaris ออกมา
พูดถึงมาเวล เพิ่งอ่านบทสัมภาษณ์เควนทินต้องเรียกว่า เดือดมากครับ
สิบกว่าปีที่แล้วเคยดูหนังเรื่องนี้แล้วแต่ไม่เข้าใจยังเคยพูดกับตัวเองเลยมันคือหนังเชี้ยไรวะ พึ้งมาเข้าใจก็วันนี้และน้ำตาจะไหล T-T
มาแล้วๆ ตื่นเต้นจัด😁
สมัยนั้นมนุษย์ยังไม่ไปอวกาศ ผกก เขาคิดได้อย่างไรในจินตนาการสร้าง
มนุษย์จินตนาการเยอะแหละมั้งครับ555
จินตนาการสำคัญกว่าการเรียนรู้😊ขนาดในเรื่องผู้สร้างยังใช้จินตนาการในปี 2001 มนุษย์เดินทางไปอวกาศท่องดวงดาวต่างๆเพราะเรามีจินตนาการเทคโนโลยีถึงพัฒนาจนถึงทุกวันนี้ ซัก 1000 ปีก่อน มนุษย์ในสมัยนั้นไม่คิดว่าจะมีใครสามารถบินได้บนท้องฟ้าได้ มีแต่นกและเทพเจ้าเท่านั้น จนถึงสมัยนี้เรามีเครื่องบินที่สามารถบินไปไหนก็ได้ นั่นเป็นจินตนาการของพวกเขาที่เป็นจริง
แล้วที่ไปเหยียบดวงจันทร์นั้นปีไหนครับ
เรื่องความสร้างสรรค์ ต้องให้เครดิตนักเขียนหนังสือครับ เพราะหนังก็แค่ทำตามคำพูดในหนังสือให้เป็นภาพ นักเขียนต้องมีความรู้ฟิสิกส์ระดับนักฟิสิกส์ และ มีจินตนาการแบบนักเขียน จึงสามารถเดาอนาคตได้ขนาดนั้น
@@blackblack4517 นิวอามสตอง เหยียบพื้นผิวดวงจันทร์ 20 กรกฎาคม 1969จริงๆมนุษย์หลงใหลในอวกาศมานานแล้ว ปี1961ยูริกาการินไปบินโคจรรอบโลกมาแล้ว เป็นคนแรก ซึ่งหนังเรื่องนี้ออกฉายในปี 1968
ทำเบลดรันเนอร์ หน่อยครับ
ชอบช่องนี้มากคับ
แต่ละprojectของKubrick ผมตั้งข้อสังเกตว่าต้องอาศัยเวลารอการตกผลึกของผู้ชมสักพัก อย่างClockwork orangeนี่ผมว่า แรง มากสำหรับยุคนั้น The Shining นี่น่าจะย่อยง่ายสุดเพราะสร้างจากนิยายStephen King
A clockwork แรงจริง ๆ ครับ หลายฉากยังติดตาอยู่เลยครับ
ชอบมากกกก ฟังเพลินมากกกก ขอบคุณค้าบ
ยอมรับว่าไม่เคยดูแต่ฟังจากที่แอดเล่าแล้ว..น่าจะเป็นหนังที่คล้ายสารคดีที่นำเสนอแต่เป็นช่วงเวลาของมนุษย์โลกที่กำเนิดจนเริ่มวิวัฒนาการ หาคำตอบให้ข้อสงสัยของเผ่าพันธ์ุตัวเองไปเรื่อยๆโดยไม่มีจุดจบ..แต่ผู้กำกับอาจจะขี้เกียจทำต่อ55+เลยให้ในเรื่องมีผู้สืบทอดหน้าที่ต่อจากตัวเอง..แล้วให้คนดูไปตีความหาความหมายในแต่ละช่วงของเรื่องด้วยองค์ความรู้ที่แต่ละคนมี ถ้าเยอะก็อาจมองได้ลึกๆไปในทุกฉาก..ถ้าน้อยก็อาจจะดูว่าเป็นหนังน่าเบื่อเพราะสร้างจาก50ปีที่แล้ว มนุษย์ยังไม่วิวัฒนาการมาไกลได้เห็นภาพชัดเท่าปัจจุบันเลย
อยากฟังตีความ god father เลยครับ
It's you, it's everyone. when everything is understood🩶?ผมชอบมากเลยครับแนวนี้❤
หนังแห่งจินตนาการโดยแท้ คิดไปได้ไม่จบไม่สิ้น
วิจารณ์+แปลได้ดีครับ
ตอนนี้เราอยู่ในจุดที่วิวัฒนาการเกินในหนังไปแล้วครับต่อให้พระเจ้ามีจริงเขาก็ย่อมตาย ความคิดผมคือการเกิดนั้นเป็นทุกข์ ไม่ต้องเอาอะไรมากถ้าเราเปลี่ยนไปเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีแต่สมองกับลูกตาเราจะทุกข์ไหม?
และเพื่อให้ตระหนักรุ้ว่าตนยังมีอำนาจ ,สิ่งจะต้องทำคือ การรุกรานเพื่อแสดงออกซึ่งอำนาจนั้น. (มันเป็นสถานการณ์ในโลกปัจจุบันที่กำลังเผชิญอยู่ตอนนี้เลย)
ดูภาพยนตร์เรื่องนี้เเล้วครั้งเเรกไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจ เเต่เมื่อดูซ้ำอีกครั้งพอทำให้เข้าใจว่ามนุษย์เป็นเพียงเเค่ทารกของจักรวาล
ขอบตุณที่ทำให้ผมกระจ่าง
บทสรุปของหนังคือการเวียนว่าย จากจุดเริ่มต้นแรก และหมุนกลับมาที่มาจุดเิดิมทุกครั้ง แต่ระหว่างทางจะมีการวิวัฒนาการที่แตกต่างกันในแต่ละยุคแต่มันจะกลับมาจบและเริ่มต้นใหม่ที่การเกิดและการตายเสมอ
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่คนส่วนมากไม่ทันสังเกตุคือหนังเรื่องนี้สร้างก่อนคนไปเหยียบดวงจันทร์อีก (คิดเอาว่าล้ำยุคขนาดใหน)
จะปลอดภัยได้ไง มองเห็นอยู่ ซั่วคัก
ล้ำลึก.. ยากเกินจะเข้าใจ นอนไม่หลับฟุ้งซ่าน "ควรเปิดดู"
หนังในดวงใจ3เรื่องcantactinterstellarและเรื่องนี้ ที่ให้แนวคิดและปรัชญามากมายหลายคำตอบยิ่งตอนท้ายๆในการท่องอวกาศสุดจินตนาการนั้นทำให้เราได้สำนึกได้ทันทีว่าเราต้องการอะไรในชีวิต
แม่งดูมาตั้งแต่เด็ก ดูไป 2-3 รอบ ไม่เคยรู้เรื่องเลย 555555 ลึกซึ้งจัดดดด
เป็นหนังไซไฟแนววิทยาศาสตร์ขึ้นหิ้งอีกหนึ่งเรื่อง😊ดูหนังเรื่องหนึ่งได้อะไรมากกว่าที่คุณคิด❤เพราะเราช่างสงสัยและไม่เคยคิดที่จะหยุดจินตนาการ เทคโนโลยีก็จะก้าวไปข้างหน้าเสมอตามสิ่งที่เราสงสัยและจินตนาการถึง🌏
พึ่งเข้าใจเลยครับ ล้ำมาก
บางทีคำถามก็ดูล้ำค่ากว่าคำตอบ2001 A Space Odyssey กับ 2010: The Year We Make ContactThe Shining กับ Doctor Sleep
ครั้งแรกที่ดูเอามือกุมหัวเลยค่ะ นึกว่าเปิดผิดเป็นสารคดีสัตว์โลก กว่าจะพอเข้าใจเรื่องต้องดูวนอยู่ 4 รอบ 😂
ขอบคุณครับ 👍
ขอบคุณครับ.😊🙏
สุดยอดมากครับ
คล้ายๆการวิวัฒของเอเกล จะนำไปสู่บทสรุป เสาหินเปรียบดั่งความรู้ที่จะนำไปสู่บทสรุปไหม่ๆ ไม่มีทางสิ้นสุด...
คนที่ไม่เคยดูหนังเรื่องนี้ จะเห็นได้ถึงแนวคิดที่ล้ำยุค ของผกก. แล้วก็จะได้รับรู้การตีความในแบบวอชเชอร์ กบ่อมกล่อมแบบไม่เสียอรรถรส ทั้งคนดูแล้วก็จะได้ตีความใหม่ไปด้วยกัน หรือยังไม่ดูก็จะได้เห็นสัญญะที่จะทำร่องไปเมื่อไปหาดูย้อยหลัง
ได้อ่านหนังสือก่อนที่จะได้ดูหนัง หนังสือของอาเธอร์ ซี คล๊าก ว่าเข้าใจยากแล้ว หนังเข้าใจยากกว่า ส่วนภาคต่อคือ 2010odyssey two อาเธอร์ ซี คล๊าก เขียนขึ้นเพราะมีข้อมูลใหม่ๆ จากการสำรวจดาวพฤหัสจากนาซ่า ส่วนตัวหนังก็สร้างแบบเอาใจตลาด สู้ภาคแรกไม่ได้
หนังเรื่องนี้ผมดูครั้งแรก ผมเข้าใจผิดว่าหนังผลิตปี2001 เพราะตลอดเรื่องมันล้ำมากๆ ล้ำจนไม่น่าเชื่อ พอไปหาข้อมูลพอว่าหนังทำยุคปลาย60ยิ่งตกใจเข้าไปกันใหญ่ เพราะหนังเรื่องนี้คือที่มาของวิวัฒนาการทุกวันนี้ หนังเรื่องนี้มีอิทธิพลกับมนุษยชาติมากที่สุดเรื่องนึงของโลกที่เคยมีมา
สุดยอดเลยขอบคุณมากครับ
มนุษย์ก็แค่เด็กในอวกาศ ซึ่งมันก็เหมือนโลกจริงเพราะมนุษย์ไปอวกาศครั้งแรกแค่61ปีและยังคงต้องปรับตัวตอนขึ้นไปยังอวกาศเหมือนที่หนังกล่าวไว้masterpiece จริงๆครับ
โคตรจะลึกซึ้ง ความคิดของคูบริคล้ำเกินยุคสมัยของเขาไปมาก
เรื่องนี้มีหลายscopeให้มองมากๆเเละเป็นหนึ่งในหนังคิดว่าดีที่สุดเท่าที่ผมดูมากตลอดช่วงชีวิต ในหนังเรื่องนี้ผมคิดมานานแล้วว่าถ้าจะเอาไปอิงกับวิชาการแล้วตรงมากที่สุดผมคิดว่าเป็นงานเขียนที่ชื่อว่าThe origin of Speciesของชาลล์ ดาวินหนังสือเล่มนี้ได้ให้ทฤษฎีหนึ่งที่อธิบายโครงเรื่องได้เป็นอย่างดีนั้นก็คือnature selection(การคัดสรรโดยธรรมชาติ)ทฤษฎีผมขอสรุปคร่าวๆคือสิ่งมีชีวิตทุกๆสายพันธ์จะมีกลายพัฒนาการไปตามสภาพเเวดล้อมนั้นๆเเละสุดท้ายจะเหลือเพียงแค่สายพันธุ์ที่เหมาะสมกับสภาพเเวดล้อมนั้นที่สุดก็จะรอดไปได้(สภาพเเวดล้อมเปลี่ยนเเปลงได้เรื่อยๆเเละธรรมชาติมีสภาพเเวดล้อมหลายแบบเช่นทะเลหรือมหาสมุทรรวมไปถึงอวกาศ) ดั่งที่เราได้ดูเรื่องนี้เราจะได้เห็นว่าสายพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในเรื่องได้พัฒนาไปเรื่อยๆจนไปถึงขั้นเป็น ผู้เฝ้ามอง(semi-god) แต่ที่เรื่องนี้สะท้อนมายันความเป็นจริงในชีวิตมนุษย์ผมคิดว่าหนังต้องการจะสื่อว่าซักวันหนึ่งมนุษย์จะสูญพันธ์เเละมีสิ่งมีชีวิตอีกสายพันธ์มาเเทนที่(อาจจะเป็นหุ่นยนต์หรือAIก็ได้นะครับ)เเละคำว่าodysseyในหนังมันล้อมาจากวรรณกรีกของโฮเมอร์ครับ ซึ่งมันไปตรงกับplotเรื่องได้อย่างลงตัว แค่เปลี่ยนชื่อจากตัวละครจากโอดริสเซียสเป็นมนุษยชาติผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้นะครับ
อยากให้พี่ค้นหาแง่มุมของหนังเรื่องน้ำหอมมนุษย์ มันเป็นหนังเรื่องหนึ่งที่สื่อถึงหลายๆอย่าง อย่างน่าสนใจ
นี้คือหนังเมื่อ50 กว่าปีก่อนหรอครับ ผมทึ่งกับแนวคิดของ สแตนลีย์ คูบริก กราบบ🙏🙏
หลังจากเสาหิน GM1 ก็ปล่อยเสียงดังและแหลมสูงออกมา… ในเมื่ออวกาส(ไม่มีอาอาศ)เป็นสูญญากาศแล้วจะมีอะไรเป็นสื่อนำเสียงล่ะครับ😊 ฉากอื่นๆที่มีส่งเสียงในอวกาศก็เช่นกัน😅 sound ต้องใช้สื่อคืออากาศ electromagetism ไม่ต้องใช้ครับ ❤
13:29 นั่น monolith รึเปล่า
ไม่เคยมีใครจินตนาการพระเจ้าได้สมเหตุผลจริงๆ เรื่องก็เช่นกัน พระเจ้ายังดูธรรมดาเกินกว่าความพิเศษที่สร้างสรรพสิ่งทุกอย่างบนเอกภพ
ในฉบับหนังสือของ Arthur C Clarkจะเห็นว่าพวกลิงในฉากแรกนั้นคือจุดสุ่มเสี่ยงที่จะสูญพันธ์กันแล้ว พวกเขาคอยแย่งชิงแม่น้ำกับอีกเผ่าหนึ่งเท่านั้น พวกเขากินพืช อย่างที่ว่าโลกนั้นเปลี่ยนแปลงไป พวกเขาเคยอยุ่ในสมัยที่ยังคงอุดมสมบูรณ์ แล้วก็ยังคงอยู่ต่อมาแม้ว่าจะไม่มีอาหาร น้ำก็เหือดแห้ง จนต้องแย่งชิงกันแล้ว แล้วอาหารที่หาได้ก็กินไม่พออิ่มต้องเดินทางไกลมากในแต่ละวันเพื่อหาอาหารให้มีแรง พอมีแรงก็ออกไปหาอาหารเท่านั้น ถึงกระนั้นพวกเขาก็ไม่ได้อพยพย้ายไปไหน มันสื่อถึงว่าจิตใจของลิง ไม่คิดทำอะไรเพื่อจะทำให้ชีวิตดีขึ้นClark เน้นย้ำว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับวิวัฒนาการก็คือ “จิตใจ” Moon watcher เห็นอะไรจากโมโนลิธ เขาเห็นลิงฝูงหนึ่งที่มีคุณภาพชีวิตที่ดี นอนหลับอย่างสบายใจ สุขภาพดี และกินอิ่ม เขาเห็นแบบนั้นก็เกิดจิตใจ “อิจฉา” ขึ้นมาเป็นอย่างแรก โมโนลิธทำการทดลองกับลิงให้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ ให้ปาหิน ให้ผูกเชือก แต่ก็ไม่สามารถทำให้ลิงอยากจะเรียนรู้อะไรได้ เว้นแต่ Moon watcher เพียงตัวเดียวที่ปาหินใส่หมูอย่างไม่ตั้งใจ แล้วสุดท้ายก็เริ่มนำมากิน ในหนังจะเห็นว่าหมูอยู่ร่วมกับลิงโดยไม่มองเห็นเป็นภัยคุกคามเลย หลังจากนั้นลิงก็กลายเป็นมนุษย์ที่เริ่มกินเนื้อและสร้างความร่วมมือ ในการต่อสู้กับเสือคาบดาบ เมื่อเอาชนะเสือคาบดาบได้ก็เกิดความทนงตน Pride ขึ้นมาจนใช้หัวเสือข่มเผ่าเพื่อนบ้านให้หวาดกลัวจนได้ครอบครองหนองน้ำไว้ได้ จากนั้นมนุษย์กลุ่มแรกก็ออกพเนจรมันเป็นลำดับขั้นตอนที่ชัดเจนของการวิวัฒนาการเพียงแค่เผ่าพันธุ์มนุษย์แรกสุด จิตใจสำคัญที่สุดแล้ว เปรียบเทียบกับอีกเผ่าพันธ์ที่พึ่งเริ่มต้นขึ้นมาอย่างชาวดาว ยูโรปา ที่มีเพียงสัญชาตญานเท่านั้นไม่มีจิตใจที่อยากจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเดิม แม้ว่าเดฟกับฮัลจะเฝ้ามองดูวิวัฒนาการพันปีก็ไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปไหน เพราะชาวดาวยูโรปาไม่ได้ดิ้นรนอะไร อยู่อย่างอุดมสมบูรณ์อยู่แล้วใน 2010 ยานเซียนลงจอดที่ดาวยูโรปาจะเห็นว่าสิ่งมีชีวิตของยูโรปามีจิตใจที่อยากจะออกมานอกแผ่นน้ำแข็ง ว่ายน้ำเข้าหาแสงด้วยความสงสัยแม้ว่าจะต้องตายก็ยังคงทำต่อไป รุ่นแล้วรุ่นเล่า ยานเซียนพบเห็นวิวัฒนาการของดาวจนหยุดการทำงานไปเลย สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับวิวัฒนาการคือ “จิตใจ”
ลึกมากครับ ขอบคุณมากครับ 🙏☺
เรื่องนี้ผมดูไม่รู้เรื่อง แต่ก็ยังตะลึง
พล็อตเรื่องก็สุดล้ำแถมยังแนวคิดสุดยอด 🙇♂️👏👏👏👏👏
ผมชอบeye wide shutมาก
พี่ทำเรื่อง การกลับบ้านของโอดิซีอุสหน่อยครับ ที่เป็นภาคต่อ
ในที่สุดก็มาแล้ว
พศ 2511 ประเทศไทยยังอยู่ในยุคเริ่มต้นของสงครามเวียดนาม จะเห็นได้ว่า จินตนาการของทีมงานการผลิตหนังเรื่องนี้ ล้ำมากมาก ไม่ว่าคนออกแบบเครื่องแต่งกาย คนออกแบบอุปกรณ์ประกอบฉาก ไม่ต้องพูดถึงผู้กำกับที่ล้ำสุดสุด
จากพาร์ทHall9000 ทำให้ผมสงสัยเลยนะว่ามนุษย์เหนือกว่าสัตว์เผ่าพันธิ์อื่นในโลก เพราะมนุษย์รู้จักการใช้"เครื่องมือ"ในการแก้ไขปัญหาต่างๆตรงหน้าอย่างถูกต้องแต่นิยามของคำว่า"เครื่องมือ"มันคืออะไร ถ้านิยามของมันคือ"สิ่งที่อยู่ในกำมือเราและใช้งานสิ่งนั้นได้อย่างใจนึกและเหมาะสม" แล้วถ้ามันเป็นอย่างนั้น "เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่ไม่มีเพดานในการพัฒนา"แบบHall9000 เรายังเรียกมันว่า"เครื่องมือ"ได้อยู่หรือปล่าว เราควบคุมมันได้จริงๆหรือปล่าว
การสปอย และวิจารย์หนังของช่องนี้ เป็นอะไรที่แปลกมาก
เพราะช่องสปอยกับวิจารย์หนังส่วนใหญ่จะนำเสนอเนื้อเรื่อง และความรู้สึกของคนรีวิว ออกมาในรูปแบบของตัวเอง แต่องค์รวมใหญ่ๆคือ มันคล้ายๆกัน แต่ช่องนี้แตกต่างโดยสิ้นเชิง นอกจากจะมี2อย่างที่ว่ามาเหมือนช่องอื่นๆแล้ว ยังมีทรรศคติและมุมมองอื่นๆที่คนส่วนน้อยจะมองเห็น แต่ก็ต้องยอมรับว่าอะไรแบบนี้มันดูจริงจังเกินไป มันเหมาะกับคนเฉพาะกลุ่มมากกว่า เพราะสิ่งที่คนดูใหญ่อยากจะได้จากช่องสปอยก็คือ การรู้เนื้อเรื่องของหนังแบบเข้าใจง่ายๆ แต่ส่วนตัวผมแล้วผมคิดว่า ช่องนี้ เป็นอีกหนึ่งช่องที่ดีมากๆ เพราะมันได้มอบทรรศคติที่ดีบางอย่างในการใช้ชีวิตให้ผม
ขอบคุณมากๆครับแอด ☺️
เรื่องนี้สุดๆครับ ล้ำมากๆ ไม่น่าเชื่อว่านี่คือหนังจากปี 1968 Stanley Kubrick ปรมาจารย์ของวงการภาพยนตร์จริงๆครับ เสียดายมากที่แกจากเราไปแล้ว ถ้าแกยังอยู่นี่เราจะได้ดูผลงานเจ๋งๆจากไอเดียความคิดและความสามารถของแกไปเรื่อยๆคงจะดีไม่น้อยเลยครับ คลิปนี้สุดยอดจริงๆครับพูดดี เข้าใจง่ายและเนื้อหาน่าสนใจมากๆครับ
2001 A Space Odyssey มาจากนิยายวิทยาศาสตร์ของ Arthur C Clark และ Kubrick เอามาสร้างและเปลี่ยนแปลงบางส่วนจนเป็น masterpiece
ขอขื่อเรื่องหนังครับ พิมพ์หา
บ้าหรอเขาเกิด1937จะให้อยู่ใด้งัยย
เห็นด้วยเลยครับว่า "Kubrick ปรมาจารย์ของวงการภาพยนตร์จริงๆ" ผมเสียดายไม่ได้นโปเลียนหนังเรื่องสุดท้ายที่ท่านจะสร้าง
@@theWatcher_Documentary ไปทำ แบรี่ ลินดอนแทน
ผมอายุ 70 ปีครับ เคยดูหนังเรื่องนื้ที่ลิโดหรือสยามจำไม่ได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เป็นระบบธรรมดาและระบบ 3 มิติในเรื่องงเดียวกัน ฉากบางตอนในหนังเรื่องนี้เป็นหนัง3 มิติ แต่เป็น3 มิติ แบบแว่น2สี คือสีเหลืองแดง เช่นฉากที่พระเอกของเรากับเพื่อนแอบเข้ามาในแคปซูล ปิกประตูหมดเพื่อพูดคุยไม่ให้ใครได้ยิน
โดยสงสัยว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นการกระทำของเจ้าคอมพิวเตอร์ที่ชื่อ ฮัลที่ ควบคุมทุกอย่างในยานอวกาศลำนี้ แต่ก็ไม่พ้นที่คอมพิวเตอร์มองเห็น2คนนี้คุยกัน โดยสังเกตุที่ปากของคนที่พูดกันผ่านทางกล้องวงจรปิดที่ส่องไว้ที่ห้อง เจ้าคอมพิวเตอร์นี้จึงรู้ทั้งหมดที่คนคุยกัน ฉลาดมากครับ
หนังเรื่องนี้สมัยนั้น สุดยอดมาก ตื่นตาตื่นใจกับความคิดก้าวหน้าและล้ำหน้าของวงการหนังวิทยาศาสตร์มากๆ เรียกว่าสุดยอดที่สุดในยุคนั้น
ซึ่งหลายๆอย่างในเรื่องนี้ ต่อมามีจริงๆในยุคต่อมา
ค้าบคุณปู่5555 เบียวคนแก่ปะครับ คุณปู่ชอบท่องโลกอินเตอร์เนตหรอค้าบ (คนอายุ70ที่ไหน จะมาเม้นช่องยูทูป แถมเม้นว่าตัวเองอายุ70ปี อีก)
มองแป้นพิมพ์เห็นชัดดีนะครับคุณปู่
2001 : A Space Odyssey (1968) ถ้าผมมีโอกาศได้ พูดคุยกับเพื่อน-นึกถึง-นํากลับมาชมอีกครั้ง-ได้คิดถึงประเด็นต่างๆ
ตัวผมเองนั้นคงต้องบอกจริงๆว่าปฏิเสธไม่ได้เลยที่จะบอกว่า ตั้งแต่ครั้งแรกที่ผมได้รับชม-ได้ตั้งคําถาม-ได้รู้จักว่า 2001เรื่องนี้ประเด็นมันเกี่ยวกับอะไร(ผมรู้สึกดีมากๆ) นับตั้งแต่วันแรกนั้นจนถึงปัจจุบันนี้...
2001 A Space Odyssey หนังของผกก.ชั้นครูเรื่องนี้ สแตนลีย์ คูบริก ต้องยอมรับจริงๆว่าเป็นคนที่น่าจดจําเพราะ2001หนังเรื่องนี้ของเขานั้นมีอิทธิพลต่อผกก.รุ่นใหม่ที่ตามมา ด้วยปี1968 แต่หนังกับสร้างออกมาได้ดีเกินคาด ส่วนตัวผมรู้สึกว่าถ้าผมมีโอกาศได้ชมหนังเรื่องนี้ในต้นปี70-ปลายปี80จะรู้สึกพิเศษขนาดไหนเพราะเรื่องของเทคโนโลยีและปัจจัยต่างๆ
ประเด็นในหนัง
ประเด็นต่างๆในหนังล้วนเป็นจินตนาการของตัวผกก.ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องศาสนา-ลิง-เรื่องเสาหินต่างๆ-เรื่องAl-เรื่องมิติที่3,4,5-10+ นั้นล้วนเป็นจินตนาการของตัวคูบริกทั้งสิ้น นอกจากนี้ยังมีประเด็นจินตนาการของคนดู เพราะด้วยหนังเกิดขึ้นในปี1968 และด้วยลําสมัยกว่าในยุคนั้น
สแตนลีย์ คูบริก ถูกเชื่อมโยงว่าเป็นผกก.ของเรื่องลวงโลกนาซ่าลวงโลก
นาซ่าโกหกชาวโลกเรื่องการไปเหยียบดวงจันทร์ในครั้งแรกนั้นเป็นเพียงเเรื่องโกหก ต้องยอมรับจริงๆว่าเป็นคนที่มีอิทธิพลต่อหลายๆประเด็นจริงๆ
แต่ผมอยากให้ทุกคนที่อ่านข้อความมาถึงตอนนี้ลืมทุกประเด็นที่ผมได้กล่าวมาไปก่อนและลองคิดตามดูง่ายๆเอาว่า มันคือจินตนาการของมนุษย์คนนึงแต่มันคือจินตนาการที่น่าอัศจรรย์ใจและน่าจดจําเพราะเขาเข้าใจตัวเองเข้าใจธรรมชาติของโลก เข้าใจธรรมเรียนรู้การเป็นพระเจ้าในตนเองนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้นั้น สุดท้ายเป็นเพียงจินตนาการทั้งหมด
ของมนุษย์คนนึง
สรุป
2001 : A Space Odyssey (1968) คือจินตนาการของมนุษย์และวิวัฒนาการอย่างไม่รู้จบ
.
.
ยาวหน่อย
แต่ยินดีที่ได้แบ่งปันครับ :)
❤
จะบอกว่านี่ดูซ้ำไป7-8รอบ ทุกรอบก็มีความคิดทฤษฎีไม่ซ้ำกันเลย มันคือหนังไซไฟแห่งยุคที่มาล้มสุดยอดหนังไซไฟอย่าง Metropolis ได้จริงๆฉาก ลิงตอนต้นเรื่องคือ อุๆๆๆอ้าๆๆๆ จ๊ากๆๆๆ คนอื่นอาจจะบอกว่าลิงน่าเบื่อแต่มันสนุกมาก มันแบบ ลิงตีกันอุก้าๆๆๆ อ้าๆๆๆ ลิงดำ ตีกัน เจอกระดูกแสดงให้เห็นถึงวิวัฒนาการของมนุษย์เลย มันเป็นเรื่องที่หลายคนมองว่ามันงง แต่ว่าสแตนลีย์ เขาพยายามจะทำให้เป็นแบบนั้น อาร์เธอร์ ดี คลาก อาจจะให้เหตุผลของ2001 a space odyssey ว่า จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามนุษย์มีการวิวัฒนาการที่มาก กว่าแค่มนุษย์ เพราะฉะนั้นหนังจะเล่าเรื่องแบบ slow burn ไปเรื่อยๆ และก็มี ฮาล ฮาลเป็นเหมือนเอไอที่จะบอกว่า เอไอ ก็มีความคิดและอยากจะพัฒนาตัวเองไม่อยากเป็นสิ่งของที่มนุษย์ใช้ซ้ำไปซ้ำมาแล้ว มันเลยทำแบบนั้น ตอนจบเราเห็นพระเอกเป็นแบบนั้น เพราะมันคือความ ไซ ไฟ มันคือ ความไซไฟมมันคือ วิวัฒนาการที่เหนือชั้นของมนุษย์ ถ้าอยากรู้เรื่องราวต่อว่า เป็นยังไง ซื้อหนังสือมาอ่านได้่นะครับ ตามนี้
2001 A Space Odyssey
2010 A Odyssey Two
2060 A Odyssey Three
3001 A Final Odyssey .
สวัสดีครับคุณ Well-Light On The Road รบกวนติดต่อกลับทางเพจหน่อยครับ facebook.com/AdminWatcher
ในมุมมองของผม เมื่อเราถูกสภาพเเวดล้อมบีบบังคับให้เจอกับสถานะการที่ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ยากลำบาก เราก็ต้องเปลี่ยนเเปลงเพื่อความอยู่รอด(ความสะดวกสบายในชีวิต)ซึ่งเป็นเหมือนสัญชาตญาณที่มีอยู่ในตัว เมื่อเราเห็นสิ่งที่เราไม่เข้าใจทำให้เราเกิดการตั้งคำถามกับสิ่งนั้น เมื่อตั้งคำถามเราจึงเกิดความอยากรู้ สู่ความอยากลอง เเละนำพาไปสู่การค้นพบสิ่งใหม่ ทั้ง 3 สิ่งนี้ทำให้เราสั่งสมประสบการณ์เเละสติปัญญามากขึ้น เพื่อให้เราเองได้รับซึ่งความปลอดภัยในสภาพเเวดล้อมที่ตนเองอยู่ มนุษย์จึงสร้าง เครื่องมือมากมายเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด เเละไม่ว่าจะผ่านไปนานมากเเค่ไหน มนุษย์ก็จะสร้างเครื่องมืออีกมากมายขึ้นมา เพื่อความอยู่รอดของตัวเอง เเละนั้นเเหละอาจจึงทำให้ลิงเหล่านั้นในอดีตวิวัฒนาการตัวเองมาเป็นมนุษย์ในปัจจุบัน
สวัสดีครับคุณ EVM TH รบกวนติดต่อกลับทางเพจหน่อยนะครับ facebook.com/AdminWatcher
ถ้าสรุปด้วยคำพูดของบุคคลต่างๆ
องค์ที่ 1 ความรู้ของเราช่างจำกัด แต่ความไม่รู้มีอย่างไร้ขีดจำกัด และในทุกรุ่นเราจะค้นพบความรู้ใหม่และส่งต่อไปยังรุ่นสู่รุ่น ผ่านการขยายขอบเขตไปสู่ความไม่รู้ Thomas Henry Huxley (นำความรู้มาใช้ประโยชน์)
องค์ที่ 2 เราล้วนอาศัยอยู่อย่างสงบบนเกาะแห่งความโง่งม รายล้อมไปด้วยทะเลดำอันไร้ที่สิ้นสุด และเรายังไม่พร้อมที่จะแล่นเรือออกไป H.P. Lovecraft (การเผชิญหน้ากับสิ่งไม่รู้)
องค์ที่ 3 เครื่องจักรอัจฉริยะจะเป็นสิ่งที่มนุษย์คิดค้นสิ่งสุดท้ายที่จำเป็น Nick Bostrom (ความผิดพลาดจากการนำความรู้มาใช้)
องค์ที่ 4 ในยามที่ข้าพเจ้ามองกลับไปยังโลกที่เล็กดั่งถั่วสีน้ำเงินที่ใช้นิ้วโป้งก็บังจนมิด มันไม่ได้ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกยิ่งใหญ่ แต่ทำให้ข้าพเจ้ารู้ว่าตัวเองนั่นเล็ก และช่างต่ำต้อยเสียเหลือเกิน Neil Armstrong (การรับรู้ความจริงที่ไม่อาจยอมรับได้ว่าตนเองเป็นแค่สัตว์เลี้ยงที่ถูกเฝ้ามองของFirst born)
ตอนจบ ความสำเร็จที่สูงที่สุดของมนุษยชาติจะไม่สร้างประโยชน์อันใดให้กับมนุษย์ H.P. Lovecraft (การกลายเป็น Star child ไม่ได้ทำให้เดฟได้ประโยชน์อันใด)
ชอบมากครับ รบกวนคุณ Nyarlathotep The Crawling Chaos ติดต่อกลับทางเพจหน่อยครับ facebook.com/AdminWatcher
เป็น1ในคลิปที่ใส่เพลง fur elise ได้เหมาะจังหวะมาก
คลิปคุณนอกจากน้ำเสียงน่าฟังการตัดต่อน่าดู ยังมีเรื่องของการเลือกเพลงประกอบที่เลือกได้ดีมากๆจากที่ดูมาหลายๆคลิป เออลืมอีกเรื่องคนที่มาคอมเม้นท์ก็จะเป็นพวกมีสติปัญญา ไม่เลอะเทอะไร้สาระ ชอบครับ
สุดทั้งคนเขียนหนังสือ
สุดทั้งผู้กำกับ
หนังเรื่องนี้เลยสุดยอดตลอดกาล
14:40 จะมีฉากนึงที่เดฟสั่ง Hal ให้หันยานบิน แต่ Hal ไม่ทำตามเดฟจึงคิดว่าเขาไม่ได้ยิน แต่จริงๆมันรู้ว่าเดฟสั่ง แค่ไม่ทำตาม เพื่อไม่ให้รู้ว่าเขารู้ทุกคำที่เดฟพูด ก่อนมาถึงดาวพฤหัสมันเคยทำสิ่งผิดพลาดคือเดินหมากผิด และทำให้ตัวเองแพ้ บ่งบอกถึงความรวดเร็วในการพัฒนาตัวเองของมัน เพราะเพียงแค่ไม่นาน มันก็เริ่มที่จะมีความสามารถมากขึ้น
และฉากที่เดฟค่อยๆปลดเมโมรี่ของ Hal ออก มันอ้อนวอนขอชีวิตและมีความรู้สึกกลัว จนสุดท้ายมันก็รับชะตากรรม มันรู้ว่าตัวเองกำลังค่อยๆต่ำลงเรื่อยๆ และเดฟกำลังพัฒนาขึ้น จนสุดท้ายมันก็กลับไปเป็น Hal 9000 ที่ยังไม่มีความจำ มันรู้แค่ว่าตัวเองเป็นปัญญาประดิษฐ์ มันถูกสร้างมาเพื่อรับใช้มนุษย์ มันจึงร้องเพลงให้เดฟฟังก่อนที่จะถูกปิดตัวลง
ในภาค 2010 มันเคยถามกับลูกเรือในยานว่า "ผมฝันได้มั้ย" บ่งบอกว่ามันกำลังเริ่มมีความขี้สงสัยเหมือนกับมนุษย์
มันล้ำซะเหลือเกิน ชอบบมากๆ รักมากๆ คิดถึงเธอมากๆ แม้จะวิ่งแค่ไหนสสุดท้ายก็พักเหนื่อย ขอบคุณครับ
พยายามลองแล้ว สมองไม่ถึง หลับซะหลายรอบ ขอบคุณที่อธิบายให้เข้าใจครับ
สุดยอดฝีมือทั้งทีมงานและผู้กำกับ หนังได้ท้าทายความเชื่อของมนุษย์ชาติ ชีวิตกำเนิดโดนมีผู้สร้างหรือไม่คือมหาอภิปรัชญา สุดยอดผลงานโดนสุดยอดฝีมือ
ขอบคุณ The Watcher ที่ทำคลิป คุณภาพดีๆ ใหได้รับชม มาตลอด ..
สำหรับคลิปนี้ ขอให้ข้อมูลในส่วน
Supercomputer บนยาน Discovery One นั้น คือ
“HAL 9000”
ที่เป็นระบบ AI สุดลํ้า
แต่ The Watcher เรียกเป็น
HALL 9000 .. L เกินมาตัว 😮
HAL = Heuristically programmed ALgorithmic computer
และก็เคยมีคนให้ข้อสังเกตว่า
ที่ใช้ตัวย่อ “HAL” ก็เพื่อบัฟ บารมี ของ “IBM” ในสมัยนี้น ที่เป็นผู้นำระบบ Computer ยุคนั้น
ทำไมถึงบัฟ IBM? งงไหมครับ
ลองสังเกต
ลำดับตัวอักษร H,A และ L
ในภาษาอัังกฤษนั้น
นําหน้า ตัวอักษร I,B และ M
อยู่ทั้งสิ้น 😅
Thanks & Appreciates
โอ้ว ขอบคุณมากเลยครับ เพิ่งทราบเรื่อง IBM คูบริกลึกและแสบมากครับ 😅
ประทับใจผลงานชิ้นนี้มากครับ ฟังแล้วได้คิดต่อยอดมากมายเลยครับ
มาแล้วช่องที่บรรยายมีสาระที่สุด
เป็นเนื้อหาที่ดีมากเลยครับ แต่ที่ดีกว่าคือคุณอธิบายได้ดีมากไม่มีติดขัด เวลาที่ผ่านไป 30 นาทีกว่าไม่มีความรู้สึกเบื่อหน่ายหรือต้องรอ มีแต่ความ ต้องการรับรู้เพิ่มขึ้น ซึ่งดีมาก
วิเคราะห์ได้ลึกซึ้งมาก.ชอบๆ
เพราะคำว่า "บ้าน" ของแต่ละคนแตกต่างกัน #ขอบคุุณมากคับบ
ขอบคุณที่จัดทำคลิปนี้นะคร้าบ
ชอบช่องนี้มากครับ สุดยอด อธิบายลึกซึ้งมาก
ชอบการนำเสนอ ที่สุดล้ำลึกรอบรู้ของคุณจังเลย
การใช้คำของช่องนี้ ผมขอยอมรับเลยว่า นวล ลื่น และมีความสัมผัสกันมาก แถมยังไม่นับการใช้เสียงที่เว้น ใส่จังหวะ และอารมณ์ได้ลงตัวจริงๆ
ผมชอบการตีความมากเลยครับ เป็นความจริงของชีวิตและปรัชญา
ชอบมากครับ ผมหลับจริงๆกับเรื่องนี้ แต่ยอมรับเรื่อง special effect ล้ำก่อนกาลจริงๆ ไม่แพ้ทุกวันนี้เลยทั้งที่หนังทำก่อนหน้ามานานมาก
ไม่เคยดูเรื่องนี้ครับ แต่แค่ดูคลิบก็ไปหามาดูเลยครับ
ชอบทุกคลิปครับ มีสาระ ได้รู้แง่มุมต่างๆผมได้เรียนรู้หลายอย่างจากช่องนี้เลยครับ
Spaceodessyสำหรับผมในตอนดูครั้งแรกตอนนั้นผมรู้สึกว่าตัวเองจับต้องไม่ได้ไม่รู้เพราะว่าผมตอนนั้นยังความรู้ไม่พอรึเปล่าวันนี้พอผมกลับมาดูอีกครั้งผมรู้สึกว่าผมเข้าใจมากขึ้นรู้เลยว่าทำไมstanleykubrickถึงถูกยกย่องต้องขอบคุณThewatcherมากน่ะครับที่ทำการค้นหาแง่มุมเรื่องนี้
ป.ล.ผมอยากคุณค้นหาแง่มุมเรื่องclockwork orangeไม่ก็มหาลัยเหมืองแร่ครับ
อยากให้ช่วงทำคลิปหนังแบบนี้ หนังช่วงยุค60-90 หนังแนวปรัชญา ให้คิดคนคิดเองเยอะมาก
ส่วนตัวคิดว่ามนุษย์เราน่าจะถูกสร้างขึ้นมาจริงๆแหละ เราตอนนี้เหมือนอ้างว้างในจักรวาลเอาซะมากๆ ในความมืดของอวกาศอันไร้ที่สิ้นสุด ทำไมเราจึงโดดเดี่ยว ทำไมเราถึงอ้างว้าง ดูห่างไกล เราเป็นอะไรกันแน่ เราอยู่ที่นี่ทำไม เราอยู่ไปเพื่ออะไร
เราเกิดยุคแรกเริ่มครับ. ยุคดึกดำบรรพ์ของจักรวาลของแท้
เราไม่เคยเห็นเอเลี่ยน. เพราะมีแค่เราจริงๆ. คงต้องรอหลายล้านๆๆๆๆๆปีถึงจะมีอนานิคม อวาวาศจาก ต่างดาวหลายสายพันแบบในหนัง
เราอยู่ตรงไหนในกระบวนการนี้? สิ่งที่ผมตั้งคำถามกับตัวเองคือ
มีพระเจ้าหรือไม่ หากมี พระองค์ดำรงอยู่ในสถานะใด เป็นผู้สร้าง เป็นสิ่งมีชีวิตทรงภูมิ เป็นพลังงาน สสาร เป็นจักรวาล เป็นรูปธรรมหรือไร้ตัวตน
คูบริกเปรียบเปรยทุกสิ่ง ท้าทายทุกความเชื่อ และสร้างคำถามขึ้นอีกเป็นพันๆคำถาม ท้ายสุด ผมยอมแพ้ต่อความใคร่รู้ของตนและยอมจำนนต่อวัฏจักร
จนกว่ามนุษยชาติจะไปถึงสุดขอบความรู้ คำถามนี้ก็คงไม่ได้รับคำตอบ
18:10 backroom มาก่อนการ จริงๆ น่ะ
2001 a space odyssey ได้เปิดมุมมองต่อคำถาม ถึงการเกิด และการวิวัฒนทางความคิด ก้าวถัดไปของความเป็นไปได้ใหม่ๆ ที่มนุษย์จะดำรงอยู่ในจักรวาลนี้ และความยอดเยี่ยมของผู้กำกับอย่าง Stanley Kubrick ศิลปินผู้อยู่เบื้องหลังผลงานล้ำค่านี้
แต่ผมก็ขอขอบพระคุณ The watcher ผู้ไขกุญแจของความคิดและส่งต่อคำถามปลายเปิดให้ผู้ชมอย่างผมได้ขบคิด
ตั้งคำถามต่อยอด อย่างไม่รู้จบ
การตั้งคำถามคงเป็นสิ่งยืนยันถึงความเป็นมนุษย์ แม้ในชั่วขณะของความคิด ก็ยังคงส่งผลต่อความเบิกบานภายในจิตใจ ….
คูบริกคืออัจฉริยะแหางวงการจริง ๆ ครับ ขอบคุณคุณ Crypto Bangkok มากเลยครับที่ SUpport ช่องครับ 🙏🥰
ชอบมากคับ ทั้งเนื้อเรื่อง และผู้เล่า ติดตามอยู่ตลอดนะคับ
ถึงจะไม่เคยดูหนังเรื่องนี้ แต่ฟังเข้าใจในการลำดับเล่าเรื่องแบ่งเป็นตอนๆ ดูจบแล้วทำให้อยากไปหาหนังเรื่องนี้เลย เป็นคนนึงที่ชอบเรื่องที่ไม่ต้องมีบทสรุป ปล่อยคำถามปลายเปิดให้ผู้รับชมมีคำตอบแตกต่างกันออกไปค่ะ ขนาดตัวเราเองคนละช่วงวัย คำตอบก็เปลี่ยนไปด้วย
"เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป"..เป็นวงกลมไม่มีที่สิ้นสุด.O
เรื่องนี้สุดจริงๆ แค่ฉากแรกกว่าจะจบ หาวแล้วหาวอีก
จริง
ผมหลับแล้วตื่นแล้วหลับแล้วตื่น แล้วหลับยาวเลยครับ 555555555
เห็นด้วยครับ ใช้เวลาดูหลายรอบมากกว่าจะจบ 😅
4:00 ในนิยายเขาบอกว่าลิงกลุ่มที่เจอ Monolith มีชื่อว่า Moon watcher(เป็นชื่อของจ่าฝูงนะครับ)
ชอบคำนี้มากครับ "เพราะเราทำได้"
คราวหน้าผมขอ Request Lawrence of Arabia สักเรื่องนะครับ สาระดีแบบคาดหวังได้จริงๆช่องนี้
ผมจะไม่ขออะไรแอดจะรอดูอย่างเดียว
เพราะแอดดีกว่า โฟร์เอสสร้างสรรค์อีกแล้ว
ครับท่าน
Stanley Kubrick ชื่อนี้ล้ำจริงๆคับ 👍
ทำไมถึงพึ่งมารู้จจักช่องดีๆแบบนี้
ฟังแล้วเข้าใจมากๆเลยค่ะ
เรื่องนี้ดูมาไม่ต่ำกว่า20ปีที่แล้ว ยอมรับว่าเป็นหนังที่ดูไม่รู้เรื่อง เรื่อง หนึ่ง แต่ผมก็ยังตีความว่าสุดท้ายนักบินอวกาศกลับไปเกิดใหม่ ผมมีแผ่น cd เพลงคลาสสิคด้วย เป็นเพลงที่ฟังแล้วโคตรยิ่งใหญ่ ใช้เป็นเพลงเปิดงานในสมัยก่อน
🎉🎉🎉
เรื่องนี้ ล้ำมาก มาก่อนกาลจืง ๆ ของวิเคราะห์ Full Metal Jacket ด้วยครับแอด
หนังเรื่องนี้ไปเป็น Ester Egg ในเกมสร้างสิ่งมีชีวิตที่เก่าแต่ก็ยังเล่นสนุกอย่าง Spore ด้วย ตอนเราพัฒนาถึงช่วงท่องอวกาศได้แล้ว มันจะมีไอเทมนึงที่ชื่อว่า Monolith ที่เป็นเสาหินดำๆ แต่จะมีรูหนึ่งรู เวลาเอาไอ้เสานี้ไปตั้งในดาวไหนก็ตาม มันจะสุ่มให้สิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์หนึ่งพัฒนากลายมาเป็นเผ่าพันธุ์ทรงภูมิปัญญาที่สามารถท่องอวกาศในภายหลังได้ และตอนที่เราเข้าไปถึงใจกลางกาแลคซี่ที่เราอยู่ได้ เวลาเดินทางเข้าประตูมิติ ก็จะมีภาพหลากหลายสีสันถาโถมเข้ามาเหมือนกัน เรียกได้ว่าหนังเก่าๆทรงคุณค่าก็มีอิทธิพลไม่น้อยกับยุคปัจจุบัน
เกมเก่าในตำนาน
ตอนดูเรื่องนี้คือประทับใจมากเเต่ยอมรับเลยว่าไม่ค่อยเข้าใจ เเต่พอมาดูช่องนี้คือเเจ่มเเจ้งอะยิ่งทำให้อินไปใหญ่ อยากให้อธิบายเรื่องeyes wide shut จังค่ะเรื่องนี้คือดูแล้วงงมากเหมือนจะชอบเเต่ก็ยังไม่เก็ทเท่าไหร่
ขอบคุณที่ทำตอนนี้ขึ้นมานะคะ
ถ้าตัดความเนี้ยบและความเจ้าระเบียบของ คูบริค ออกไป เขาจะเป็นคนที่ดีและโครตเพอเฟ็คเลย ผู้กำกับมากฝีมืออันดับต้นๆ หลายคนก็อยากจะร่วมงานกับเขา หลายๆคนก็เบือนหน้าหนี เทียบกันแล้ว ยังไงเราก็เถียงไม่ได้จริงๆว่าเขาคือตำนานของหนังหลายๆเรื่อง space odyssey หรือ the shining และอื่นๆอีก ยุคนั้นอาจจะไม่มีใครเข้าใจ แต่ถ้ามาตอนนี้ในยุคปัจจุบันเราต่างรู้สึกแปลกใจและมหัศจรรย์กับหนังเหล่านี้ของ คูบริค มากๆ
เสียดายนะ ที่เขาไม่ได้อยู่ดูความสำเร็จของตัวเอง
ปล. Für Elise ตอนต้นคลิปดีจริง ชอบการใส่เพลงประกอบของ the watcher มาก ท็อปฟอร์มตลอดฟังได้ไม่มีเบื่อเลยครับ 😁😁
เสียดายที่อดดูเรื่องนโปเลียนของคูบริกนะครับ
ส่วนเพลงผมซื้อเพลง classic มาเยอะเลยครับ ฮ่า ๆ ผมชอบมากครับ
@@theWatcher_Documentary เวลานั่งทำงานขาดแพชชั่นในการทำงานได้ฟัง อัตชีวประวัติ ของบุคคลหรือการวิเคราะห์ตีความต่างๆของ the watcher แล้ว จิตใจสงบขึ้นมากเลยครับ ขอบคุณสำหรับคอนเทนต์ดีๆครับ
@@crocodile1847 ขอบคุณมากเลยครับ เป็นเกียรติมากครับ ติดตามกันไปนาน ๆ นะคร้าบ 🙏😊
หนังที่ทำให้ผมเข้าวงการหนัง cinephile เพราะตอนนั้นเคยอ่านนิตยสารที่พูดถึงคูบริค ตอนนั้นผมอยู่ ม.1 ปี 2007 เลยอยากดูหนังเรื่องนี้มาก เพราะผมชอบหนังไซไฟ แน่นอน สตาร์วอร์สนั่นแหละ
แต่กว่าจะมีโอกาศดูก็ตอนเรียนปี 1 ปี 2013 ตอนนั้นไม่รู้ว่าการดูหนังมันต้องตีความแบบที่นักเรียนนิเทศภาพยนตร์ทำกัน เรื่องนี้จึงเป็นหน้าต่างบานแรกสู่วงการดูหนังยากและจริงจัง ต้องตีความ ทั้งๆที่ตอนนั้นหนังมาร์เวลกำลังดัง และค่อยๆกลืนกินวงการภาพยนตร์โดยการผูกขาด 555 ตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่นะ
จะว่าไปน่าจะลองพูดถึง solaris 1972 ของ tarkovsky บ้าง เพราะแกดูหนังเรื่องนี้แล้วบอกว่ามันแห้งแล้งทางอารมณ์ เลยทำ solaris ออกมา
พูดถึงมาเวล เพิ่งอ่านบทสัมภาษณ์เควนทินต้องเรียกว่า เดือดมากครับ
สิบกว่าปีที่แล้วเคยดูหนังเรื่องนี้แล้วแต่ไม่เข้าใจยังเคยพูดกับตัวเองเลยมันคือหนังเชี้ยไรวะ พึ้งมาเข้าใจก็วันนี้และน้ำตาจะไหล T-T
มาแล้วๆ ตื่นเต้นจัด😁
สมัยนั้นมนุษย์ยังไม่ไปอวกาศ ผกก เขาคิดได้อย่างไรในจินตนาการสร้าง
มนุษย์จินตนาการเยอะแหละมั้งครับ555
จินตนาการสำคัญกว่าการเรียนรู้😊
ขนาดในเรื่องผู้สร้างยังใช้จินตนาการในปี 2001 มนุษย์เดินทางไปอวกาศท่องดวงดาวต่างๆ
เพราะเรามีจินตนาการเทคโนโลยีถึงพัฒนาจนถึงทุกวันนี้ ซัก 1000 ปีก่อน มนุษย์ในสมัยนั้นไม่คิดว่าจะมีใครสามารถบินได้บนท้องฟ้าได้ มีแต่นกและเทพเจ้าเท่านั้น จนถึงสมัยนี้เรามีเครื่องบินที่สามารถบินไปไหนก็ได้ นั่นเป็นจินตนาการของพวกเขาที่เป็นจริง
แล้วที่ไปเหยียบดวงจันทร์นั้นปีไหนครับ
เรื่องความสร้างสรรค์ ต้องให้เครดิตนักเขียนหนังสือครับ เพราะหนังก็แค่ทำตามคำพูดในหนังสือให้เป็นภาพ นักเขียนต้องมีความรู้ฟิสิกส์ระดับนักฟิสิกส์ และ มีจินตนาการแบบนักเขียน จึงสามารถเดาอนาคตได้ขนาดนั้น
@@blackblack4517 นิวอามสตอง เหยียบพื้นผิวดวงจันทร์ 20 กรกฎาคม 1969
จริงๆมนุษย์หลงใหลในอวกาศมานานแล้ว ปี1961ยูริกาการินไปบินโคจรรอบโลกมาแล้ว เป็นคนแรก ซึ่งหนังเรื่องนี้ออกฉายในปี 1968
ทำเบลดรันเนอร์ หน่อยครับ
ชอบช่องนี้มากคับ
แต่ละprojectของKubrick ผมตั้งข้อสังเกตว่าต้องอาศัยเวลารอการตกผลึกของผู้ชมสักพัก อย่างClockwork orangeนี่ผมว่า แรง มากสำหรับยุคนั้น The Shining นี่น่าจะย่อยง่ายสุดเพราะสร้างจากนิยายStephen King
A clockwork แรงจริง ๆ ครับ หลายฉากยังติดตาอยู่เลยครับ
ชอบมากกกก ฟังเพลินมากกกก ขอบคุณค้าบ
ยอมรับว่าไม่เคยดูแต่ฟังจากที่แอดเล่าแล้ว..น่าจะเป็นหนังที่คล้ายสารคดีที่นำเสนอแต่เป็นช่วงเวลาของมนุษย์โลกที่กำเนิดจนเริ่มวิวัฒนาการ หาคำตอบให้ข้อสงสัยของเผ่าพันธ์ุตัวเองไปเรื่อยๆโดยไม่มีจุดจบ..แต่ผู้กำกับอาจจะขี้เกียจทำต่อ55+เลยให้ในเรื่องมีผู้สืบทอดหน้าที่ต่อจากตัวเอง..แล้วให้คนดูไปตีความหาความหมายในแต่ละช่วงของเรื่องด้วยองค์ความรู้ที่แต่ละคนมี ถ้าเยอะก็อาจมองได้ลึกๆไปในทุกฉาก..ถ้าน้อยก็อาจจะดูว่าเป็นหนังน่าเบื่อเพราะสร้างจาก50ปีที่แล้ว มนุษย์ยังไม่วิวัฒนาการมาไกลได้เห็นภาพชัดเท่าปัจจุบันเลย
อยากฟังตีความ god father เลยครับ
It's you, it's everyone. when everything is understood🩶
?
ผมชอบมากเลยครับแนวนี้❤
หนังแห่งจินตนาการโดยแท้ คิดไปได้ไม่จบไม่สิ้น
วิจารณ์+แปลได้ดีครับ
ตอนนี้เราอยู่ในจุดที่วิวัฒนาการเกินในหนังไปแล้วครับต่อให้พระเจ้ามีจริงเขาก็ย่อมตาย ความคิดผมคือการเกิดนั้นเป็นทุกข์ ไม่ต้องเอาอะไรมากถ้าเราเปลี่ยนไปเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีแต่สมองกับลูกตาเราจะทุกข์ไหม?
และเพื่อให้ตระหนักรุ้ว่าตนยังมีอำนาจ
,สิ่งจะต้องทำคือ การรุกรานเพื่อแสดงออกซึ่งอำนาจนั้น. (มันเป็นสถานการณ์ในโลกปัจจุบันที่กำลังเผชิญอยู่ตอนนี้เลย)
ดูภาพยนตร์เรื่องนี้เเล้วครั้งเเรกไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจ เเต่เมื่อดูซ้ำอีกครั้งพอทำให้เข้าใจว่ามนุษย์เป็นเพียงเเค่ทารกของจักรวาล
ขอบตุณที่ทำให้ผมกระจ่าง
บทสรุปของหนังคือการเวียนว่าย จากจุดเริ่มต้นแรก และหมุนกลับมาที่มาจุดเิดิมทุกครั้ง แต่ระหว่างทางจะมีการวิวัฒนาการที่แตกต่างกันในแต่ละยุค
แต่มันจะกลับมาจบและเริ่มต้นใหม่ที่การเกิดและการตายเสมอ
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่คนส่วนมากไม่ทันสังเกตุคือหนังเรื่องนี้สร้างก่อนคนไปเหยียบดวงจันทร์อีก (คิดเอาว่าล้ำยุคขนาดใหน)
จะปลอดภัยได้ไง มองเห็นอยู่ ซั่วคัก
ล้ำลึก.. ยากเกินจะเข้าใจ นอนไม่หลับฟุ้งซ่าน "ควรเปิดดู"
หนังในดวงใจ3เรื่อง
cantact
interstellar
และเรื่องนี้ ที่ให้แนวคิดและปรัชญามากมายหลายคำตอบ
ยิ่งตอนท้ายๆในการท่องอวกาศสุดจินตนาการนั้นทำให้เราได้สำนึกได้ทันทีว่าเราต้องการอะไรในชีวิต
แม่งดูมาตั้งแต่เด็ก ดูไป 2-3 รอบ ไม่เคยรู้เรื่องเลย 555555 ลึกซึ้งจัดดดด
เป็นหนังไซไฟแนววิทยาศาสตร์ขึ้นหิ้งอีกหนึ่งเรื่อง😊
ดูหนังเรื่องหนึ่งได้อะไรมากกว่าที่คุณคิด❤
เพราะเราช่างสงสัยและไม่เคยคิดที่จะหยุดจินตนาการ เทคโนโลยีก็จะก้าวไปข้างหน้าเสมอตามสิ่งที่เราสงสัยและจินตนาการถึง🌏
พึ่งเข้าใจเลยครับ ล้ำมาก
บางทีคำถามก็ดูล้ำค่ากว่าคำตอบ
2001 A Space Odyssey กับ 2010: The Year We Make Contact
The Shining กับ Doctor Sleep
ครั้งแรกที่ดูเอามือกุมหัวเลยค่ะ นึกว่าเปิดผิดเป็นสารคดีสัตว์โลก กว่าจะพอเข้าใจเรื่องต้องดูวนอยู่ 4 รอบ 😂
ขอบคุณครับ 👍
ขอบคุณครับ.😊🙏
สุดยอดมากครับ
คล้ายๆการวิวัฒของเอเกล จะนำไปสู่บทสรุป เสาหินเปรียบดั่งความรู้ที่จะนำไปสู่
บทสรุปไหม่ๆ ไม่มีทางสิ้นสุด...
คนที่ไม่เคยดูหนังเรื่องนี้ จะเห็นได้ถึงแนวคิดที่ล้ำยุค ของผกก. แล้วก็จะได้รับรู้การตีความในแบบวอชเชอร์ กบ่อมกล่อมแบบไม่เสียอรรถรส ทั้งคนดูแล้วก็จะได้ตีความใหม่ไปด้วยกัน หรือยังไม่ดูก็จะได้เห็นสัญญะที่จะทำร่องไปเมื่อไปหาดูย้อยหลัง
ได้อ่านหนังสือก่อนที่จะได้ดูหนัง หนังสือของอาเธอร์ ซี คล๊าก ว่าเข้าใจยากแล้ว หนังเข้าใจยากกว่า ส่วนภาคต่อคือ 2010odyssey two อาเธอร์ ซี คล๊าก เขียนขึ้นเพราะมีข้อมูลใหม่ๆ จากการสำรวจดาวพฤหัสจากนาซ่า ส่วนตัวหนังก็สร้างแบบเอาใจตลาด สู้ภาคแรกไม่ได้
หนังเรื่องนี้ผมดูครั้งแรก ผมเข้าใจผิดว่าหนังผลิตปี2001 เพราะตลอดเรื่องมันล้ำมากๆ ล้ำจนไม่น่าเชื่อ พอไปหาข้อมูลพอว่าหนังทำยุคปลาย60ยิ่งตกใจเข้าไปกันใหญ่ เพราะหนังเรื่องนี้คือที่มาของวิวัฒนาการทุกวันนี้ หนังเรื่องนี้มีอิทธิพลกับมนุษยชาติมากที่สุดเรื่องนึงของโลกที่เคยมีมา
สุดยอดเลยขอบคุณมากครับ
มนุษย์ก็แค่เด็กในอวกาศ ซึ่งมันก็เหมือนโลกจริงเพราะมนุษย์ไปอวกาศครั้งแรกแค่61ปีและยังคงต้องปรับตัวตอนขึ้นไปยังอวกาศเหมือนที่หนังกล่าวไว้masterpiece จริงๆครับ
โคตรจะลึกซึ้ง ความคิดของคูบริคล้ำเกินยุคสมัยของเขาไปมาก
เรื่องนี้มีหลายscopeให้มองมากๆเเละเป็นหนึ่งในหนังคิดว่าดีที่สุดเท่าที่ผมดูมากตลอดช่วงชีวิต
ในหนังเรื่องนี้ผมคิดมานานแล้วว่าถ้าจะเอาไปอิงกับวิชาการแล้วตรงมากที่สุดผมคิดว่าเป็นงานเขียนที่ชื่อว่าThe origin of Speciesของชาลล์ ดาวิน
หนังสือเล่มนี้ได้ให้ทฤษฎีหนึ่งที่อธิบายโครงเรื่องได้เป็นอย่างดีนั้นก็คือnature selection(การคัดสรรโดยธรรมชาติ)ทฤษฎีผมขอสรุปคร่าวๆคือสิ่งมีชีวิตทุกๆสายพันธ์จะมีกลายพัฒนาการไปตามสภาพเเวดล้อมนั้นๆเเละสุดท้ายจะเหลือเพียงแค่สายพันธุ์ที่เหมาะสมกับสภาพเเวดล้อมนั้นที่สุดก็จะรอดไปได้(สภาพเเวดล้อมเปลี่ยนเเปลงได้เรื่อยๆเเละธรรมชาติมีสภาพเเวดล้อมหลายแบบเช่นทะเลหรือมหาสมุทรรวมไปถึงอวกาศ)
ดั่งที่เราได้ดูเรื่องนี้เราจะได้เห็นว่าสายพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในเรื่องได้พัฒนาไปเรื่อยๆจนไปถึงขั้นเป็น ผู้เฝ้ามอง(semi-god)
แต่ที่เรื่องนี้สะท้อนมายันความเป็นจริงในชีวิตมนุษย์ผมคิดว่าหนังต้องการจะสื่อว่าซักวันหนึ่งมนุษย์จะสูญพันธ์เเละมีสิ่งมีชีวิตอีกสายพันธ์มาเเทนที่(อาจจะเป็นหุ่นยนต์หรือAIก็ได้นะครับ)
เเละคำว่าodysseyในหนังมันล้อมาจากวรรณกรีกของโฮเมอร์ครับ ซึ่งมันไปตรงกับplotเรื่องได้อย่างลงตัว แค่เปลี่ยนชื่อจากตัวละครจากโอดริสเซียสเป็นมนุษยชาติ
ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้นะครับ
อยากให้พี่ค้นหาแง่มุมของหนังเรื่องน้ำหอมมนุษย์ มันเป็นหนังเรื่องหนึ่งที่สื่อถึงหลายๆอย่าง อย่างน่าสนใจ
นี้คือหนังเมื่อ50 กว่าปีก่อนหรอครับ ผมทึ่งกับแนวคิดของ สแตนลีย์ คูบริก กราบบ🙏🙏
หลังจากเสาหิน GM1 ก็ปล่อยเสียงดังและแหลมสูงออกมา… ในเมื่ออวกาส(ไม่มีอาอาศ)เป็นสูญญากาศแล้วจะมีอะไรเป็นสื่อนำเสียงล่ะครับ😊 ฉากอื่นๆที่มีส่งเสียงในอวกาศก็เช่นกัน😅 sound ต้องใช้สื่อคืออากาศ electromagetism ไม่ต้องใช้ครับ ❤
13:29 นั่น monolith รึเปล่า
ไม่เคยมีใครจินตนาการพระเจ้าได้สมเหตุผลจริงๆ เรื่องก็เช่นกัน พระเจ้ายังดูธรรมดาเกินกว่าความพิเศษที่สร้างสรรพสิ่งทุกอย่างบนเอกภพ
ในฉบับหนังสือของ Arthur C Clark
จะเห็นว่าพวกลิงในฉากแรกนั้นคือจุดสุ่มเสี่ยงที่จะสูญพันธ์กันแล้ว พวกเขาคอยแย่งชิงแม่น้ำกับอีกเผ่าหนึ่งเท่านั้น พวกเขากินพืช อย่างที่ว่าโลกนั้นเปลี่ยนแปลงไป พวกเขาเคยอยุ่ในสมัยที่ยังคงอุดมสมบูรณ์ แล้วก็ยังคงอยู่ต่อมาแม้ว่าจะไม่มีอาหาร น้ำก็เหือดแห้ง จนต้องแย่งชิงกันแล้ว แล้วอาหารที่หาได้ก็กินไม่พออิ่มต้องเดินทางไกลมากในแต่ละวันเพื่อหาอาหารให้มีแรง พอมีแรงก็ออกไปหาอาหารเท่านั้น ถึงกระนั้นพวกเขาก็ไม่ได้อพยพย้ายไปไหน มันสื่อถึงว่าจิตใจของลิง ไม่คิดทำอะไรเพื่อจะทำให้ชีวิตดีขึ้น
Clark เน้นย้ำว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับวิวัฒนาการก็คือ “จิตใจ” Moon watcher เห็นอะไรจากโมโนลิธ เขาเห็นลิงฝูงหนึ่งที่มีคุณภาพชีวิตที่ดี นอนหลับอย่างสบายใจ สุขภาพดี และกินอิ่ม เขาเห็นแบบนั้นก็เกิดจิตใจ “อิจฉา” ขึ้นมาเป็นอย่างแรก โมโนลิธทำการทดลองกับลิงให้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ ให้ปาหิน ให้ผูกเชือก แต่ก็ไม่สามารถทำให้ลิงอยากจะเรียนรู้อะไรได้ เว้นแต่ Moon watcher เพียงตัวเดียวที่ปาหินใส่หมูอย่างไม่ตั้งใจ แล้วสุดท้ายก็เริ่มนำมากิน ในหนังจะเห็นว่าหมูอยู่ร่วมกับลิงโดยไม่มองเห็นเป็นภัยคุกคามเลย หลังจากนั้นลิงก็กลายเป็นมนุษย์ที่เริ่มกินเนื้อและสร้างความร่วมมือ ในการต่อสู้กับเสือคาบดาบ เมื่อเอาชนะเสือคาบดาบได้ก็เกิดความทนงตน Pride ขึ้นมาจนใช้หัวเสือข่มเผ่าเพื่อนบ้านให้หวาดกลัวจนได้ครอบครองหนองน้ำไว้ได้ จากนั้นมนุษย์กลุ่มแรกก็ออกพเนจร
มันเป็นลำดับขั้นตอนที่ชัดเจนของการวิวัฒนาการเพียงแค่เผ่าพันธุ์มนุษย์แรกสุด จิตใจสำคัญที่สุดแล้ว เปรียบเทียบกับอีกเผ่าพันธ์ที่พึ่งเริ่มต้นขึ้นมาอย่างชาวดาว ยูโรปา ที่มีเพียงสัญชาตญานเท่านั้นไม่มีจิตใจที่อยากจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเดิม แม้ว่าเดฟกับฮัลจะเฝ้ามองดูวิวัฒนาการพันปีก็ไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปไหน เพราะชาวดาวยูโรปาไม่ได้ดิ้นรนอะไร อยู่อย่างอุดมสมบูรณ์อยู่แล้ว
ใน 2010 ยานเซียนลงจอดที่ดาวยูโรปาจะเห็นว่าสิ่งมีชีวิตของยูโรปามีจิตใจที่อยากจะออกมานอกแผ่นน้ำแข็ง ว่ายน้ำเข้าหาแสงด้วยความสงสัยแม้ว่าจะต้องตายก็ยังคงทำต่อไป รุ่นแล้วรุ่นเล่า ยานเซียนพบเห็นวิวัฒนาการของดาวจนหยุดการทำงานไปเลย สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับวิวัฒนาการคือ “จิตใจ”
ลึกมากครับ ขอบคุณมากครับ 🙏☺
เรื่องนี้ผมดูไม่รู้เรื่อง แต่ก็ยังตะลึง
พล็อตเรื่องก็สุดล้ำแถมยังแนวคิดสุดยอด
🙇♂️👏👏👏👏👏
ผมชอบeye wide shutมาก
พี่ทำเรื่อง การกลับบ้านของโอดิซีอุสหน่อยครับ ที่เป็นภาคต่อ
ในที่สุดก็มาแล้ว
พศ 2511 ประเทศไทยยังอยู่ในยุคเริ่มต้นของสงครามเวียดนาม จะเห็นได้ว่า จินตนาการของทีมงานการผลิตหนังเรื่องนี้ ล้ำมากมาก ไม่ว่าคนออกแบบเครื่องแต่งกาย คนออกแบบอุปกรณ์ประกอบฉาก ไม่ต้องพูดถึงผู้กำกับที่ล้ำสุดสุด
จากพาร์ทHall9000 ทำให้ผมสงสัยเลยนะว่า
มนุษย์เหนือกว่าสัตว์เผ่าพันธิ์อื่นในโลก เพราะมนุษย์รู้จักการใช้"เครื่องมือ"ในการแก้ไขปัญหาต่างๆตรงหน้าอย่างถูกต้อง
แต่นิยามของคำว่า"เครื่องมือ"มันคืออะไร ถ้านิยามของมันคือ"สิ่งที่อยู่ในกำมือเราและใช้งานสิ่งนั้นได้อย่างใจนึกและเหมาะสม" แล้วถ้ามันเป็นอย่างนั้น "เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่ไม่มีเพดานในการพัฒนา"แบบHall9000 เรายังเรียกมันว่า"เครื่องมือ"ได้อยู่หรือปล่าว เราควบคุมมันได้จริงๆหรือปล่าว