เจาะข่าวเด่น คุย 3 ตำนานมวยไทย (6เม.ย.58)

เขาทราย แกแล็คซี่ แชมป์โลกที่ไม่เคยแพ้ใคร ป้องกันตำแหน่ง19ครั้ง เจ้าของฉายา "ซ้ายทะลวงไส้" ยอมรับว่ามองผิดคาดที่คิดว่าเกมวันที่สมรักษ์ชกกับวันเผด็จน่าจะสนุกดุเดือด เพราะวันเผด็จไม่ได้ออกอาวุธเต็มที่ ส่วนสมรักษ์ก็ชกได้อย่างเดียว เข่าและศอกไม่ได้เลย แต่คิดอีกมุมหนึ่งว่าผลตัดสินที่ออกมา กรรมการอาจจะอยากให้เกิดความสมานฉันท์
สามารถ พยัคฆ์อรุณ แชมป์มวยไทย4รุ่นคนดังแห่งยุค อดีตแชมป์โลกมวยอาชีพ เจ้าของฉายา "พยัคฆ์หน้าหยก" กล่าวว่านัดที่สมรักษ์ชกกับวันเผด็จถูกห้ามออกอาวุธทุกอย่าง ใช้ได้แค่หมัด ส่วนคู่ต่อสู้ใช้มือและเท้าได้หมด
ตนมองว่ากรรมการเดี๋ยวนี้ไม่ต้องดูมวยเป็นก็สามารถให้คะแนนนักมวยได้ เพราะขาดความเป็นตัวของตัวเอง ต้องแบกรับความกดดันจากเซียนมวยใหญ่ บวกกับชอบมาตัดสินที่ยกสุดท้าย ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ดูการชกทุกยก พลิกกันชนะได้ ซึ่งแตกต่างจากมวยเมืองนอกที่ตัดสินตรงไปตรงมา
ส่วนอีกสาเหตุที่มวยไทยซบเซา เพราะไม่มี "มวยแฟน" หรือ "แฟนคลับ" ที่ตามมาดูศิลปะแม่ไม้มวยไทยที่นักชกใช้ต่อสู้ รวมทั้งยุคนี้นักมวยตัวดังมีไม่กี่คนชกเวียนกันไปจน "จำกลิ่น" กันได้ แตกต่างจากยุคตนที่มีคนดังหลายคน ทั้งนี้หากกรรมการยังตัดสินไม่ตรงไปตรงมา ตนขอทายว่าวงการมวยไทยจะอยู่ได้อีกแค่ 5-10 ปีเท่านั้น ซึ่งก็สอดคล้องกับความคิดของสมรักษ์
สมรักษ์ คำสิงห์ แชมป์เหรียญทองโอลิมปิกคนแรกของไทย เจ้าของวลี "ไม่ได้โม้" ระบุว่าสำหรับเกมวันนั้นสามารถขายบัตรได้เงินถึง 3 ล้านบาท ตนยอมรับคำตัดสินของกรรมการ หลังผลออกมาเสมอกัน แม้เงื่อนไขตนจะเสียเปรียบทุกอย่าง ส่วนตัวมองว่าคำตัดสินที่ออกมาจะทำให้วงการมวยซบเซายิ่งกว่าเดิม
อ่านรายละเอียดต่อได้ที่ bit.ly/1C6asGL
-------------------------
ติดตามความเคลื่อนไหวข่าวสารได้ก่อนใครได้ที่นี่
เรื่องเล่าเช้านี้.com : morning-news.be...
facebook : / morningnewstv3
Twitter : / morningnewstv3