Розмір відео: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Показувати елементи керування програвачем
Автоматичне відтворення
Автоповтор
รองปฏิบัติดูจะรู้ว่าจริงไม่จริงครับพระธรรมพระวินัยของพุทธองค์ของแท้นั้นทนต่อการเพ่งพิสูทธ์เป็นปัจจัตตังรู้เฉพาะครับ. สาธุ
Sawat Saut ไม่ต้องพิสูตต้องเพ่งอะไรหรอกครับ ถ้ากล่าวหาว่า พระพุทธเจ้าเป็นสัตว์ ท่านว่าถูกต้องก็แล้วไป ประเด็นอยู่ตรงนี้
ຝົນຕົກຟ້າຮ້ອງຟ້າຜ່າ ມັນ ແມ່ນ ກ້ອນເມກທີມີ ບັນຈຸໄຟຟ້າ+ ກັບ+ມາ ຕໍາກັນ
มีแต่ผู้รู้ทั้งนั้น ไม่เห็นจะมีอาการเหมือนเป็นผู้ปฎิบัติสักคน ดำเนินไปบนรอยอะไรของคุณ โทสะ รับงับกันได้ดีนะเท่าที่ตามอ่านดูเนี่ย
jirun sommai เป็นใครถึงจะละความโกรธได้ครับ😁
+ดำเนินไป บนรอยธรรม ๘๔๐๐๐ เป็นอนาคามีแบบพี่ครึกไง 55555+
+jirun sommai เป็นผู้รู้ก็ยังดีกว่าเป็นผู้หลง แต่คิดว่าตัวเองรู้ อย่างพระคึกนะจ๊ะ... ก่อนจะเป็นผู้ปฏิบัติใด้ ต้องเริ่มจากการมีความรู้ที่ถูกต้องเสียก่อน... ถ้าปากก็เอาแต่อ้างคำศาสดา แต่ในทางปฏิบัติถือแต่อัตตาตัวตนเป็นที่ตั้ง ถึงที่สุดแล้ว ก็จะต้องพังในไม่ช้า ไม่เชื่อให้คอยดูว่าอนาคตของวัดนาจะเป็นยังไง... 5555555555555555555555555555555555+
คนที่เคยลุ่มหลง คงเข้าใจดีขึ้นนะครับ
ถ้าไม่หยั่งลงมั่นในคำตแถคึกเกินไป ก็พอถอนขึ้นได้ ถ้าลึกไปแล้ว ยากครับ ถึงพูดผิด ก็เป็นถูก
ฟ้าผ่านฝนตก ฟ้าร้องเป็นปรากฎการณ์ ธรรมชาติ อย่างหนึ่ง สามารถเห็นไปทั่วไป อย่าตั้งประเด้นที่มันไม่เกี่ยวกับแบบมั่วๆนะ
alexsa mark นึกว่ากล่าวหาพระพุทธองค์แล้วฟ้าผ่า😁😂
คลิปนี้สนุกมากหัวเราะกันท้องแข็งเลย 5555555555 ทั้งญาติโยมและพระอาจารย์ ขำกันทั้งวัด สนุกจริงๆๆๆ ไปเป็นคณะเลย ดูซิญาติโยมแน่นวัดเพื่อจะฟังธรรมะ ของพระศาสดา อิ่มในธรรมจริงๆ ไม่เห็นฟ้าผ่าใครตายสักคนเดียว ยังนั่งอยู่ครบ สาธุ สาธุ สาธุ
ฟ้าละอองดิน ที่ฟ้าผ่า ฟ้าร้อง คนหัวเราะ สนุกสนานนั้น ไม่ใช่ประเด็น สำคัญอยู่ที่ว่า พระคึก กล่าวหาว่า พระพุทธเจ้าก็เป็นสัตว์ ซึ่งหมายถึงว่า ยังเป็นผู้ที่ยังมีกิเลส มีตัณหา ราคะ นันทิ ความติดข้อง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สมควร เพราะเหตุว่า ไม่เป็นความจริง
ได้ยินว่า ท่านบอกว่าพระพุทธเจ้าก็เป็นสัตว์ ท่านก็เป็นสัุตว์ หนู เข้าใจว่าสัตว์โลก ไม่ใช่สัตว์เดรั้จฉานนะคะ พระโพธิสัตว์ ก็ใช้คำว่า สัตว์นี่คะ กว่าจะมาเป็นพุทธะ เข้่าใจอย่างนั้น คุณ แปดหมื่นสี่ กรรมใดใครก่อใครทำ ก็เป็นไปกรรม กัม-มุ-นา-วัต-ตะ-ติ-โล-โก lสัตว์โลกเป็นไปกรรมที่ตนทำไว้ ก็เท่านั้นเอง สักวันไม่ว่ากรรมใครที่ทำไว้ จะมีให้เห็นในชาตินี้ ไม่ต้องรอชาติหน้า และที่เขาบอกว่าจะได้เป็นพระอรหันต์ เคยเห็นกันหรือยังไม่ทราบ พระอรหันต์ หน้าตาเป็นอย่างไร ไม่รู้หรอก รู้แต่ว่า ต้องทำแต่ความดี ไม่เบียดเบียนผู้อื่นให้เดือดร้อน หนูทราบดี่ว่าประเด็นที่เขามาลง ต้องการเน้นและจับผิดว่า ท่านในแต่ละคลิปทำไรไว้บ้าง ก็ดีค่ะ ทุกอย่างที่มาถกเถียงกัน เพราะคัมภีร์ทั้งนั้นค่ะ ไม่จบหรอกชาติไหนๆ ก็ ความรู้เราน้อยเพราะเราไม่ใช่สัพพัญญู ให้ผู้รู้ท่านเสวนากันเอาเองเถิด สาธุ
ฟ้าละอองดิน ใช่ครับ พูดว่าอย่างนั้น พระพุทธเจ้า ไม่ใช่สัตว์ครับ ท่านคึกนั้นใช่ครับ ผมเองก็ใช่ครับ ถ้ายังเป็นผู้ที่ยังมีกิเลส มีความติดข้อง เรียกว่า สัตว์ครับ ไม่ได้หมายถึงเดรัจฉาน หมา แมว คำนี้ไม่ถูกไงครับ แต่มีบางท่าน ออกมาแก้ตัวแทนว่า ท่านคึกพูดว่า พระพุทธเจ้า ก็เคยเป็น สัตว์ อันนี้ถ฿กครับ แต่จริงๆท่านคึกไม่ได้พูดอย่างนั้น เจตนาจะพูด กล่าวตู่ ว่าพระพุทธเจ้าเป็นสัตว์ จริงๆแล้ว เมื่อถึงความเป็นพระอรหันต์แล้ว ดับกิเลสหมดเป็นสมุจเฉทแล้ว ไม่ใช่สัตว์แน่นอน ว่ากันตามที่พระพุทธองค์ตรัสรู้และทรงแสดงครับ ผมไม่ใช่พระอรหันต์
ค่ะ จะเก็บทุกอย่างไว้เป็นความรู้ สาธุ
ฟ้าละอองดิน 🙏🙏🙏
ใส่อังสะมาเทศให้ญาติโยมฟัง ดูไม่งาม
ผมก็ว่างั้นคนเบ
ฟ้ามันจะผ่าก็เรื่องของฟ้าเป็นธรรมชาติของมันไม่เกี่ยวไรกับพระคึก ผมว่าถ้าคนมีปัญญาหน่อยเขาจะเข้าใจที่พระคึกสอนพุทธวจน
Nut nuntawat แล้วทำมัยคนพวกนี้หาว่าฟ้าจะผ่าพระคึกริสเพราะพูดผิดละทำตัวไปหยั่งรู้ฟ้าดินอีกมองแบบเข้าข้างตัวเองนี่เกิดเป็นฟ้าอนุโมทนาสาทุดังเปรี้ยงขึ้นมาละไครจะไปรู้ใช่มั๊ยนี่อะไรมองโลกในแง่ร้ายจริงๆเลย
Nut nuntawat ประเด็นคือ พูดผิด ถ้ามีปัญญา จะรู้ว่าพระคึกพูดผิดหรือถูก ใช่แล้ว
พุทธวจนะหนะดี แต่ทำไมถึงเอาคำของพระองค์ไปทำให้เพี้ยน ด้วยทิจฐิและคำพูดของตน.?!! ถ้าเราเป็นพวกเทพเทวาที่สถิตอยู่แถวนั้น เป็นเราได้ยินเราก็ไม่ยอมรับ.......คนต่อไปภายหน้าจะไม่ว่าผู้มีอิทธิฤทธิ์บรรดาลมีจริง(ก็คือคนในยุคนี้เอง) เช่นแผ่นดินไหวเป็นต้น ! ไหวด้วยธรรมชาติมี ไหวด้วยฤทธิ์มี ผู้กระทำฤทธิ์ได้ไม่ใช่หมายถึงมนุษย์บางคนเท่านั้น อสูร เทวดา นาค เหล่านี้ เขาจะเชื่อว่าเป็นไปตามธรรมชาติของโลกเท่านั้น.
สัด สัตย์ สัตว์ สัตต์ ทั้ง 4 คำ ออกเสียงเหมือนกัน เป็นสมมุติบัญญัติ พระพุทธเจ้าทรงออกจากสมมุติและบัญญัติแล้ว จึงไม่น่าจะมีทั้ง 4 คำเกี่ยวกับพระพุทธเจ้า เข้าใจว่า สัตต์ สัตตะ สัตตา สัตโต หรือ สัตตานัง เป็นอันเดียวกัน แปลว่า ผู้ข้อง คือ ข้องกับขันธ์ 5 หรือข้องกับนามรูป ปัจจุบัน ทุกคนอยู่ในลักษณะ จิต+ขันธ์5+ธาตุ4(กาย)เมื่อตายไป ก็อยู่ในลักษณะ "จิต+ขันธ์5" รูปขันธ์ในขันธ์ 5 คือ กายละเอียด และกายหยาบ(ธาตุ 4) ว่าเฉพาะ"จิต+ขันธ์ 5"ที่เป็นอยู่ทั้งเกิดและตาย เรียกว่า สัตต์ หรือ สัตตานัง พระพุทธเจ้าทรงเป็นพระองค์แรกในยุคพระพุทธศาสนาปัจจุบัน ที่นำจิตของพระองค์ จากที่เคยเป็น "จิต+ขันธ์ 5" ไปเป็น "จิตบริสุทธ์ิดวงเดียวล้วนๆ" แม้ทรงมีพระชนชีพอยู่ ก็เป็น "ขันธวิมุตติ"คือ จิตหลุดพ้นจากขันธ์แล้ว เมื่อถึงการมรณะ ก็ชื่อว่า "เสด็จดับขันธปรินิพพาน" จึงไม่มีคำที่บัญญัติหรือสมมุติใดๆเกี่ยวกับพระพุทธเจ้า
เมื่อพระคึกฤทธิ์ผู้ไม่มีปริยัติบาลี ไม่ศึกษาอภิธรรม มิได้รู้จักโครงสร้างพระไตรปิฎก ประกาศตนเป็นผู้รู้ พระพุทธพจน์ ส่อเสียดนักเรียนบาลี นักเรียนนักธรรมว่าไม่เรียนพุทธวจนะทั้งๆที่เอาพุทธพจน์มาจากพระไตรปิฎก ที่พระมหาทั้งหลายแปลไว้ ซึ่งประชุมสังคายนาจนเป็นที่ยอมรับกันในหมู่สงฆ์แล้ว ซึ่งผิดกับแบนด์ พุทธวจนะ ที่เพียงแต่อ้างข้อมูลฝ่ายของตนเอาเองและยังไม่ได้รับการตรวจสอบ จากหน่วยงานหลายๆฝ่าย จนเป็นที่รับรอง และรับรอง ประกาศใช้กันคือการหยิบเอาเฉพาะส่วน ที่ขึ้นต้นด้วย ศัพท์ว่า “ ดูกร ” เป็นแต่คำพระตถาคต ส่วนธรรมที่อาศัยจดจำพระพุทธพจน์ แล้วนำมาแสดงต่อ แล้วกล่าวหา ตามความเข้าใจของตนว่าเป็นคำแต่งใหม่ ต่อต้านและขัดแย้ง คัดง้างคำสอนทุกสำนัก แม้กระทั่งครูบาอาจารย์ตัวเองพระคึกฤทธิ์ เอาความคิดดั้นเดาจากการหลงสังขาร ตามเข้าใจของตน มาเปิดเผย มาสอนผิดๆ การตีความพุทธพจน์ ของพระคึกฤทธิ์เป็นการขโมย คำสอนของพระศาสดา มาเป็นของตน โดยการตัดแต่ง บิดเบือน และต่อเติมจนผู้ที่ไม่ถ่องแท้ในคำสอน สับสน และเดินหลงทาง ไปกับคำสอนที่ หลุดโค้งจากอริยมรรค ( อย่างเช่นคำสอนในเรื่อง สภาวะนิพพาน ก็ไปยกประเด็นให้สภาวะนิพพานนั้น กลายเป็นสภาวะที่ เป็นอมตะ เป็นความไม่ตาย ซึ่งในความของสภาวะพระนิพพานนั้นพระพุทธองค์ก็ทรงชี้ชัดแล้วว่า “ เป็นสภาวะของความสิ้นเชื้อและ ดับไป เป็นแต่เพียงสภาวะที่เป็นสันติลักษณะ เท่านั้นไม่ใช่สิ่งที่มีไว้ ให้ปรารถนา ที่จะปีนป่ายให้เข้าถึง แต่เป็นสภาวะที่เมื่อปฏิบัติตามอริยะมรรคจนถึงจุดสูงสุดแล้ว สภาวะของความสิ้นเชื้อ และดับไปนั้นจะปรากฏ ขึ้นเอง” ) พระคึกฤทธิ์ เป็นผู้ที่เข้าถึงความเป็นมิจฉาทิฏฐิใหญ่ และแสดงธรรมโดย เอาสีลัพตุปาทาน ของตนเป็นที่ตั้ง โดยการเอาข้อประพฤติวัต เอาพระธรรมคำสอน มาใช้เป็นอาวุธ เพื่อทิ่มแทงผู้ ที่กำลังเดินทางอยู่ตามเหตุ ตามปัจจัย ในอินทรีย์ของแต่ละบุคคล (ซึ่ง ความหย่อน หรือตึงของอินทรีย์นั้น มันขึ้นอยู่ที่มาสั่งสมบารมีมา ไม่เท่ากัน ) ซึ่งการกระทำ ของพระคึกฤทธิ์ คือการเป็นผู้ที่กำลังทำลายศาสนาของตัวเองเหมือนสนิมที่กำลังกัดกินเนื้อเหล็ก ( “ ไม่ทราบว่าจะเห็นไหม ”ให้พิมพ์หัวข้อในยูทูบว่า / โยมช่วยถามให้ตรงคำตอบหน่อยสิเจริญพวง!!! เมื่อดูจบแล้ว ให้พิมพ์หัวข้อในยูทูบว่า / ฟ้าผ่าทันที แสดงธรรมผิดบิดเบือน จาบจ้วง กล่าวหาว่า พระพุทธเจ้าก็เป็นสัตว์ / แล้วจะเห็นตาม บทความที่ลงนี้ไม่ใช่เป็นไปเพื่อการกลั่นแกล้ง หรือโจมตี ด้วยความไม่ชอบใจ แต่ เพื่ออยากให้มหาชนได้หูตาสว่าง และได้เข้าใจความจริง ว่าบุคคลผู้เป็นอริยะนั้น การกล่าว วาจาที่สัมผัปปลาปวาทและกล่าววาจาสำรากนั้น ไม่เป็นฐานะ ของผู้มีสติบริบูรณ์ จะพึงกระทำ และเป็นไปได้ )สิริภัทโท/
เมื่อพระคึกฤทธิ์ ผู้ไม่มีปริยัติบาลี ไม่ศึกษาอภิธรรม มิได้รู้จักโครงสร้างพระไตรปิฎก ประกาศตนเป็นผู้รู้ พระพุทธพจน์ ส่อเสียดนักเรียนบาลี นักเรียนนักธรรมว่าไม่เรียนพุทธวจนะ ทั้งๆที่เอาพุทธพจน์มาจากพระไตรปิฎก ที่พระมหาทั้งหลายแปลไว้ ซึ่งประชุมสังคายนา จนเป็นที่ยอมรับกันในหมู่สงฆ์แล้ว ต่อต้านและขัดแย้ง คัดง้างคำสอนทุกสำนัก แม้กระทั่งครูบาอาจารย์ตัวเองพระคึกฤทธิ์ เอาความดั้นเดา จากการหลงสังขารตามเข้าใจของตน มาเปิดเผย มาสอนผิดๆ การตีความพุทธวจนะ ของพระคึกฤทธิ์ เป็นการขโมย คำสอนของพระศาสดา มาเป็นของตน โดยการตัดแต่ง บิดเบือน และต่อเติม จนผู้ที่ไม่ถ่องแท้ในคำสอน สับสนและเดินหลงทางไปกับคำสอนที่ หลุดโค้งจากอริยมรรค ( อย่างเช่นคำสอนในเรื่อง สภาวะนิพพาน ก็ไปยกประเดน ให้สภาวะนิพพานนั้น กลายเป็นสภาวะที่ เป็นอมตะเป็นความไม่ตาย ซึ่งในความของสภาวะพระนิพพานนั้น พระพุทธองค์ก็ทรงชี้ชัดแล้วว่า “ เป็นสภาวะของความ สิ้นเชื้อและ ดับไป เป็นแต่เพียงสภาวะที่เป็นสันติลักษณะ เท่านั้น ไม่ใช่สิ่งที่มีไว้ ให้ปรารถนา ที่จะปีนป่ายให้เข้าถึง แต่เป็นสภาวะที่ เมื่อปฏิบัติตามอริยะมรรคจนถึงจุดสูงสุดแล้ว สภาวะของความสิ้นเชื้อ และดับไปนั้นจะปรากฏ ขึ้นเอง” ) พระคึกฤทธิ์ เป็นผู้ที่เข้าถึงความเป็น มิจฉาทิฏฐิใหญ่ และแสดงธรรมโดย เอาสีลัพตุปาทาน ของตนเป็นที่ตั้ง โดยการเอาข้อประพฤติวัต เอาพระธรรมคำสอน มาใช้เป็นอาวุธ เพื่อทิ่มแทงผู้ที่ กำลังเดินทางอยู่ตามเหตุ ตามปัจจัย ในอินทรีย์ของแต่ละบุคคล ( ซึ่ง ความหย่อนหรือตึงของอินทรีย์นั้น มันขึ้นอยู่ที่มาสั่งสมบารมีมาไม่เท่ากัน ) ซึ่งการกระทำของพระคึกฤทธิ์ คือการเป็นผู้ที่กำลังทำลายศาสนาของตัวเอง เหมือนสนิมที่กำลังกัดกินเหล็ก( “ ไม่ทราบว่าจะเห็นไหม ” ให้พิมพ์หัวข้อในยูทูบว่า / โยมช่วยถามให้ตรงคำตอบหน่อยสิเจริญพวง!!! เมื่อดูจบแล้ว ให้พิมพ์หัวข้อในยูทูบว่า / ฟ้าผ่าทันที แสดงธรรมผิดบิดเบือน จาบจ้วง กล่าวหาว่า พระพุทธเจ้าก็เป็นสัตว์ / แล้วจะเห็นตาม บทความที่ลงนี้ไม่ใช่เป็นไปเพื่อการกลั่นแกล้ง หรือโจมตี ด้วยความไม่ชอบใจ แต่ เพื่ออยากให้มหาชนได้หูตาสว่าง และได้เข้าใจความจริง) สิริภัทโท/
สาธุธรรมครับท่าน
ฟ้าผ่าเป็นเรื่องของธรรมชาติครับ แต่หลวงเพ่ใจเต้นตุ๊บๆๆๆๆ...
Yod Asoke 😅😅😂
+Yod Asoke จริงๆแล้วหลวงเพ่ใจเต้นเพราะอยู่ใกล้พยาบาลนะ ไม่เกี่ยวกับฟ้าผ่าอะไรนั่นหรอก อิอิอิ
ที่อื่นก็มีฟ้าร้อง ต่างจังหวัดหรือต่างประเทศก็มีเช่นเดียวกัน
ประเด็นคือ พระคึก บอกว่า พระพุทธเจ้าเป็นสัตว์ครับ คือยังมีภาวะของ ตัณหา ราคะ นันทิ ความติดข้อง กิเลส
ติเตียน อริยะ ชีวิตจะหาความสุข หรือทุกข์ที่แท้จริงไม่ได้ การประกาศตนแบบนี้แสดงถึงความเป็นผู้ไม่มีปัญญา นะคะ
ถ้าไม่ชอบ จะไม่ดูก็ไม่เป็นไร
แสง ตามจิตเจริญ เป็นพุทธบริษัท จะปล่อยให้คนประเภทนี้ ทำลายคำสอน ก็เชิญ
พระทำผิดอารายยย
อย่าอ้างพุทธบริษัทเลย ก่อนอื่นต้องห่วงตัวเองก่อน ระวังนะ การกล่าวว่าผู้อื่น ถ้าเราใช้คำหยาบ ดูหมิ่นเสียดสีเสียดแทง บาปก็เกิดขึ้นกับเราเองนะคนที่ถูกด่าเขาก็ไม่มีกรรมอะไรเลย คิดดูแล้วกัน [๒๗๒] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย หากจะมีพวกโจรผู้มีความประพฤติต่ำช้า เอาเลื่อยที่มีด้ามสองข้าง เลื่อยอวัยวะใหญ่น้อยของพวกเธอ แม้ในเหตุนั้นภิกษุหรือภิกษุณีรูปใดมีใจคิดร้ายต่อโจรเหล่านั้น ภิกษุหรือภิกษุณีรูปนั้นไม่ชื่อว่าเป็นผู้ทำตามคำสั่งสอนของเรา เพราะเหตุที่อดกลั้นไม่ได้นั้น ภิกษุทั้งหลาย แม้ในข้อนั้น เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้ว่า จิตของเราจักไม่แปรปรวน เราจักไม่เปล่งวาจาที่ชั่ว เราจักอนุเคราะห์ผู้อื่นด้วยประโยชน์เราจักมีเมตตาจิตไม่มีโทสะในภายใน เราจักแผ่เมตตาจิตไปถึ่งบุคคลนั้น และเราจักแผ่เมตตาจิตอันไพบูลย์ ใหญ่ยิ่ง หาประมาณมิได้ ไม่มีเวร ไม่มีพยาบาทไปตลอดโลก ทุกทิศทุกทาง ซึ่งเป็นอารมณ์ของจิตนั้น ดังนี้ ภิกษุทั้งหลายพวกเธอพึงศึกษาด้วยอาการดังที่กล่าวมานี้แล.
พระพุทธเจ้า500ชาติ ก่อนที่จะมาเกิดชาติสุดท้ายนั้นพระองค์เคยเกิดมาเป็นอะไรบ้างครับ เพราะผู้ที่จะมาเกิดบนโลกนั้นทุกชีวิตต้องเรียกว่าสัตว์โลก... พระพุทธเจ้าไม่ได้เกิดจากการเนรมิตขึ้นมา แต่เกิดจากท้องพระมารดาเหมือนกับเราทุกๆคน และมีขันธ์ห้าเหมือนกันทุกประการ เพียงแต่องค์ท่านเป็นผู้มีสติปัญญาเลิศที่สุดในโลกและพิเศษกว่ามนุษย์ใดๆในโลกดังนั้นพระอาจารย์คึกฤทธิ์ท่านพูดนั้นไม่ได้พูดผิดแต่อย่างใด เพราะว่าการทำบาปนั้นอยู่ที่เจตนาและจงใจทำ แต่ถ้าทำถูกต้องและบริสุทธิ์ใจก็ไม่มีสิ่งใดๆจะทำอะไรได้
เราไม่ทราบคาวมเป็นจริง เพราะอะไรหนอฟ้าจึงผ่าเป็นเพราะเหตุอันได
Gdvg Fsgjtu จริงๆเป็นเช่นนั้นครับ ไม่มีใครรู้เรื่องฟ้าร้อง ฟ้าผ่า แต่คำพูดท่านคึกที่ว่าตนพูดแต่คำพระพุทธเจ้านั้นจริงหรือ พระพุทธเจ้าก็เป็นสัตว์จริงหรือ
+Gdvg Fsgjtu ฟ้าผ่าเป็นเรื่องของธรรมชาติ แต่ประกาศธรรมผิดพลาดเป็นเรื่องของอวิชชา
nuz wong 👍👌
เขากล้าพูดออกมาได้อย่างไร ความคิดเห็นอย่างนี้อันตรายยิ่งนัก
😂🙌
ไปปฏิบัติธรรมมาพระอาจารย์เล่าให้ฟังว่า วันหนึ่งหลวงพ่อใหญ่มาเยี่ยม พระอาจารย์กุลีกุจอไปต้อนรับโดยมีแค่อังสะกับสบง โดยไม่ได้คุมจีวรเข้าไปนมัสการหลวงพ่อ ต่อมาพรรษานั้นได้กลับไปจำพรรษากับหลวงพ่อใหญ่เป็นสำนักปฏิบัติธรรม ปฏิบัติอย่างไรจิตก็ฟุ้งซ่านไม่หยุด ท่านจึงอธิษฐานสมาธิดูกรรมอะไรที่ทำให้จิตฟุ้งซ่าน ก็เห็นเป็นนิมิตรตัวเองใส่อังสะกับสบงถวายงานหลวงพ่อใหญ่อยู่ พอดีหลวงพ่อใหญ่ก็เทศน์เรื่องการไม่สำรวมเหมือนรู้วาระจิตท่านพระอาจารย์ ต่อมาพระอาจารย์ก็ขอขมาลาโทษคืนธรรมต่อหลวงพ่อใหญ่ จึงผ่านสภาวะจิตฟุ้งซ่านไปได้ สำหรับคึกไม่ต้องพูดถึงขนาดแสดงธรรมมันยังใส่แต่อังสะดีนะมันใส่สบงด้วย เสขิยวัตร 75 นั่นละจะเป็นเครื่องกั้นไม่ให้ถึงธรรม ตะแถคึกใบลานเปล่า ปริยัติงูพิษ
นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง คือสุขที่ไม่มีปัจจัยปรุ่งแต่ง นิพพานจึงเป็นอัตตาๆ คือกายหรืออมตะ ที่ไม่มีปัจจัยปรุ่งแต่ง(พ้นจากกฏของไตรลักษณ์ )คำว่ากายกับคำว่าอัตตานั้นมีความหมายเหมือนกันต่างกันเพียงพยัญชนะ คำว่า กายและจิตที่เป็นวิสังขาร คือปราศจากสิ่งปรุงแต่ง มีหลักฐานในพระพุทธพจน์ ว่า ธมฺมกาโย อหํ อิติปิ เราพระตถาคตคือธรรมกาย หมายเอากายธรรมพระอรหัต ที่ไม่มีปัจจัยปรุงแต่ง (ไม่ใช่กายเนื้อ) และพระพุทธพจน์ที่ว่า เราแสวงหานายช่างผู้กระทำเรือนเมื่อไม่ประสบจึงได้ท่องเที่ยวไปในสงสาร มิใช่น้อย การเกิดบ่อยๆ เป็นทุกข์ ดูก่อนนายช่างผู้กระทำเรือน เราเห็นท่านแล้ว ท่านจักไม่ได้กระทำเรือนอีกต่อไป ซี่โครงทั้งหมดของท่าน เราหักเสียแล้ว ยอดเรือนเราก็กำจัดแล้ว จิตของเราถึงวิสังขาร (คือจิตปราศจากสิ่งปรุงแต่ง และคำว่า จิต ได้แก่ เห็น,จำ,คิด,รู้,หรือ เวทนา,สัญญา,สังขาร,วิญญาณ,) คือพระนิพพานแล้วเราได้ถึงความสิ้นตัณหาแล้วดังนี้(พอหมดตัณหากายกับจิตก็ปราศจากสิ่งปรุงแต่ง)
อนาคตต่อไป หุ่นยนต์จะเหมือนคนที่สุด ถ้าเป็นหุ่นยนต์ผู้หญิง สวยมาก หุ่นดี มีทุกอย่างที่ผู้หญิงมีมีเหงื่อ มีกลิ่นกายหอมรัญจวนใจ ถ้าไม่บอกไม่รู้ว่าเป็นหุ่น ถ้าภิกขุมีเพศสัมพันธ์ด้วยจะผิดศีลข้อไหน
ตลก ฟ้าผ่าเป็นเรื่องของธรรมชาติ คลิปนี้สนุกดี เกือบตายกันหมดแต่ไม่มีใครตายหวะ รอด ดูซิขนาดฟ้าผ่ายังเฮฮาาแบบไม่กลัวตาย เพราะเขาศรัทธาคำพระศาสดา ยังอยู่ไม่มีใครถอยไปไหน ความตายสำหรับพุทธวจนแล้วไม่ใช่เรื่องใหญ่ เรื่องใหญ่คือ ขอบคุณที่มันตัดต่อคลิปมาให้ดูตอนนี้ อยากดูพอดี ชอบๆๆๆ
ฟ้าละอองดิน หรอ
ทำไมไม่ นุ่งห่มผ้าจีวรให้เรียบร้อย..ห่ม อังสะ ก็เหมือนเรา นั่งถอดเสื้อนะ...
ภาสกร กุลจิรกรณ์ นี่หรือ สมณศากยบุตร ผู้มีอุปการะมาก
ท่านนำเรื่องราวในพระไตรปิฎกมาเล่าให้ฟังซึ่งผู้สนใจหาอ่านได้ซึ่งพระสาวกอรหันต์เรียกว่าธรรมภายนอก ถ้าปฏิบัติตามได้แล้วถึงเรียกว่าธรรมภายใน เป็นภูมิธรรมของผู้ปฏิบัติเป็นขั้นๆไปจะรู้ได้เป็นลำดับไป ส่วนผู้ที่จำคำสอนของพระพุทธเจ้าได้มากนำมาเล่าให้ฟังได้มากก็ไม่ได้หมายความว่าผู้นั้นต้องเป็นผู้บรรลุธรรมแล้วเท่านั้น ดังนั้นเมื่อได้ฟังสิ่งที่ไม่เคยฟังก็อย่าได้นึกตำหนิผู้อื่นว่าไม่รู้ธรรมหรือไม่เลิศเท่าเพราะอาจได้บาปมากกว่าบุญ
Sarirak Aitsara ถ้าคึกรู้ธรรม ไม่มั่วขนาดนี้ เพี้ยนหนักนะ ชัดเจนขนาดนี้ยังหลับหูหลับตายกหางกันได้
ดําเนินไป บนรอยธรรม ๘๔๐๐๐ หมายถึงผู้ฟังคำอ.ศึกฤทธิ์แล้วคิดว่าเลิศกว่าพระสาวกอื่นๆซึ่งมีทั้งอริยสาวกและปุถุชน เพราะตอนนี้อาจมีบางคนกำลังคิดว่าอ.ศึกฤทธิ์เท่านั้นที่สอนถูกต้องที่สุด ซึ่งความจริงไม่ได้เป็นตามที่เขาคิด พระอรหันตสาวกตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันท่านปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้าจนบรรลุถึงนิพพาน ท่านมีอุบายวิธีต่างๆกัน ท่านก็สอนลูกศิษย์ตามวิธีของท่านจนสำเร็จมรรคผลพ้นทุกข์ตามท่าน ไม่มีพระอรหันต์ขัดแย้งกันว่าวิธีของคุณผิดของผมถูกเพราะถึงนิพพานเหมือนกันไม่ต่างกัน. มีการจารึกคำสอนของพระพุทธเจ้าเรียกว่าพระไตรปิฎกสืบทอดมาจนถึงปัจจุบันซึ่งผู้ใดปฏิบัติตามอย่างถูกต้องก็ได้มรรคผลเหมือนเดิมโดยครูอาจารย์คอยแนะพร่ำสอนด้วยความสงบเรียบร้อยเสมอมา อยู่มาวันหนึ่งมีผู้เข้ามาอ่านพระไตรปิฎกแล้วบอกว่าไม่ถูกต้องตามคำสอนพระพุทธเจ้า ที่ผ่านมาปฏิบัติกันผิดโดยไม่รับฟังผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญอื่นๆ ทำให้เกิดความเห็นต่างอันนำไปสู่ความขัดแย้งโต้เถียงกับศิษย์ของอาจารย์สำนักต่างๆซึ่งเป็นสาวกของพระพุทธเจ้าด้วยกันนับวันเริ่มขยายตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขอท่านผู้มีปัญญาจงไต่ตรองดูเถิด
ไม่มีพระสงฆ์รูปไหนที่อธิบายให้ปชชได้เข้าใจได้ดีเท่าพระอาจารย์คึกเลย ฉันหูตาสว่างเรื่องธรรมก็ตอนมาฟังท่านนี้แหละ ส่วนคนอื่นจะคิดอย่างไรก็ช่างเขาเถอะ มะอยากต่อล้อต่อเถียง ตัวใครตัวมัน มีให้ฟังให้เรียนรู้แล้ว ใครไม่สนใจก็ช่างเถอะ
ใช่คับตัวใครตัวมันแล้วละ
ความคิดเห็นส่วนตัวล้วนครับพระพุทธเจ้าก่อนบรรลุธรรมก็คือคนทั่วไป หรือในหัวข้อนี้จะเรียกว่าสัตว์ แต่เมื่อพระพุทธเจ้าลุธรรม แล้วจะเรียกว่าอะไร ก็ขึ้นกับความคิดของแต่ละคน ก็ไปดูในคำสอนว่าท่านกล่าวถึงพระองค์ว่าอย่างไร ถ้าถามคนธรรมดาอย่างเราๆก็ตอบตามปัญญาของตนเอง แต่เมื่อพระองค์ปรินพานแล้วพระองค์ก็ไม่กลับมาในสังสารวัตรนี้อีกแล้ว
ถ้าเปลี่ยนเป็นกำลังทำพิธีปลุกเสก... เด๋วมันก็โพสว่าขลังจริงๆ
Sodaban Buddhist เดรัชฉานวิชา
จริง
สำนักวัดนาป่าพง ปทุมธานี คลองสิบ หมิ่นรอยพระพุทธบาท และพระบรมเดชานุภาพพระบรมวงค์ศานุวงค์ มั่นใจคนที่รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ต้องได้อ่าน ตอนนี้ สำนักวัดนาป่าพง ได้เดินทางเข้าสู่ การทำลายสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์อย่างเต็มตัวแล้ว ข่าวสารกำลังกระจายไปสู่พี่น้องเหล่าพุทธศาสนิกชนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ตามเพจต่างๆ เราเปิดเผยความจริง เราสู้เพื่อปกป้องรักษา พิทักษ์รักพระพุทธศาสนาและสถาบันของชาติบ้านเมือง ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือส่วนได้ส่วนเสีย ไม่มีการว่าจ้าง หรือ รับมีรับจ่าย หรือรับสิทธิ์สินบนใดๆ ให้กระทำการเปิดโปงหรือใส่ความใดๆแก่ สำนักวัดนาป่าพง หรือ อลัชชีคึกฤทธิ์ และศิษย์สำนัก มีแต่ความจริง กล่าวจริง ไม่มีข้อมูลอันเป็นเท็จ โจทก์จริง ด้วยโลกะวัชชะของเหล่าพุทธบริษัท ที่มีดวงตาไม่มืดบอด ไม่เคยตำหนิพระไตรปิฏกว่าไม่ได้เรื่อง ไม่สมบูรณ์ หรือไม่ดีอย่างหนึ่งอย่างใด เพราะอาศัยสติปัญญา มีความคิดอ่านพิจารณามากเพียงพอแก่การศึกษา ไม่ได้ตำหนิพระไตรปิฏก ไม่ได้ตำหนิพระสังฆราชและพระราชาคณะ ที่ทรงชำระพระไตรปิฏก แม้ฉบับหลวงก็ดี ฉบับสยามรัฐก็ดี หรือฉบับอื่นๆก็ดี ว่าเป็นชนรุ่นหลังแต่งคำปลอม ยัดเรื่องนอกแนวเข้าสู่พระไตรปิฏกอย่างที่ คึกฤทธิ์ชาวคณะสำนักวัดนาป่าพงพูดและกระทำอยู่ในทุกๆวันนี้ โดยมีเจตนาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของบรรพกษัตริย์ จนถึงพระบรมวงค์สานุวงค์ในราชกาลปัจจุบัน และอาณาประชาราฏร์ ที่พระองค์ทรงอุปถัมภ์พระพุทธศาสนาจัดสร้างจัดพิมพ์มาโดยตลอด จนถึงเมื่อปี ๒๕๕๕ ฉลอง ๒๖๐๐ปี แต่สำนักวัดนาป่าพงประกาศจะเอาหนังสือ พุทธวจนปิฏก ซึ่งเป็นสัทธรรมปฎิรูป โดยแอบอ้างว่ารู้พุทธวจนกว่าผู้ใด ที่ไม่ถูกต้องในระเบียบการชำระ มาแทนที่พระไตรปิฏกในประเทศไทยและในโลก เป็นการทำลายสถาบัน ชาติและบ้านเมืองให้เกิดความวุ่นวายสับสนแตกแยกในบวรพระพุทธศาสนา และได้หลอกลวงกลุ่มพุทธบริษัท ที่ยังอ่อนต่อการพิจารณาศึกษา ในการเจริญในพระสัทธรรม ด้วยจิตที่เปรียบประดุจลูกโคอ่อนแรกเกิด ลืมตาขึ้นมา ไม่ได้เห็นแม่วัว ได้ไปเห็นเสือก็คิดว่าเป็นพ่อแม่ของตน จึงต้องตกเป็นอาหารของเหล่าพยัคฆ์ราชสีห์ไปดังนี้แลขอท่านผู้อ่าน ที่มาด้วยมิตรก็ดีไม่ใช่มิตรก็ดี โปรดพิจารณา ช่วยกันตักเตือนญาติมิตรสหาย และบุตรหลานของท่าน อย่าได้หลงเชื่อ สำนักที่สร้างสัทธรรมปฎิรูปนี้ เพื่อความพ้นภัยในวัฎสงสาร ขอให้ท่านทั้งหลายเจริญในพระสัทธรรมอันสมเด็จพระบรมหาศาสดาทรงตรัสไว้ดีแล้วนั้นเทอญฯด้วยรักและปรารถนาดีว่าที่ พระธรรมบุตรขออนุโมทนาบุญฯ
เสขะ ปฎิสัมภิทา 🙏🙏🙏
"พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า ดูกรราธะ เพราะเหตุที่มี ความพอใจ ความกำหนัด ความเพลิดเพลิน ความทะยานอยากในรูปแล เป็นผู้ข้องในรูป เป็นผู้เกี่ยวข้องในรูปนั้น ฉะนั้น จึงเรียกว่า สัตว์เพราะเหตุที่มีความพอใจ ความกำหนัด ความเพลิดเพลิน ความทะยานอยากในเวทนา ... ในสัญญา ... ในสังขาร ... ในวิญญาณ เป็นผู้ข้องในวิญญาณ เป็นผู้เกี่ยวข้องในวิญญาณนั้น ฉะนั้น จึงเรียกว่า สัตว์..."www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=17&A=4433&Z=4459
ดําเนินไป บนรอยธรรม ๘๔๐๐๐
พระอาจารย์ท่านแสดงธรรมมาหลายครั้งแล้ว ในคลิปนั้นก็เป็นการแสดงกับลูกศิษที่ฟังประจำ การที่ท่านพูดลัดบ้างทุกคนก็เข้าใจ คุณจะจับผิดและนำมาเผื่อแพร่คนที่เขาไม่เคยฟังก็อาจเข้าใจผิด คุณกำลังเข้าข่ายใส่ร้ายผู้อื่นด้วยถ้อยคำที่ไม่จริง เจตนาคือกรรมนะคุณ คุณประเมิณได้หรือว่าพระอาจารย์เป็นอริยะบุคคลขั้นไหน ถ้าไม่ใช่ก็กรรมเบาหน่อยถ้าท่านเป็นจริง กรรมจะขนาดไหนผมไม่อยากจะคิดเลย อย่าพึงรับรองอย่าพึงคัดค้านให้เอาไปตรวจในพระธรรมและวินัยถ้าเข้ากันได้ลงกันได้ให้ถือเอาถ้าลงกันไม่ได้ก็ให้ละทิ้งเสีย แค่นี้ก็จบ ใช้เป็นหรือป่าวหลักมหประเทศสี่ ดีแต่พาลคนอื่นเขาจิตรใจยิ่งตกไปในฝ่ายอกุศล ถ้านี้ไม่ใช่คำสอนของพระศาสดาคุณไม่ต้องกังวนหลอก คนฟังเขามีปัญญาพอ
+ืnoname baba คึกคือพระอรหอย ในช่องแคบครับ
+noname baba เป็นอรหอยในช่องแคบยังไม่เท่าไหร่... กลัวแต่จะกลายเป็นอรหันในช่องคลอดน่ะซี พี่คึก... เดี๋ยวจะยิ่งดังไปกันใหญ่
nuz wong 😂😂😂😁
คนที่นั่งๆฟังอยู่ เขาคิดว่า เขากำลังจะได้ไปอยู่พรหมโลก อกนิษฐาอะไรสักอย่าง....การกล่าวล่วงเกินพระรัตนตรัย ....ไม่มีผลเป็นสุข ถ้าได้กล่าวไปแล้ว ควรขอขมาพระรัตนตรัยแล้วสำรวมระวัง อย่าทำอีก......
เขาคงเป็นเศษดินปลายเล็บมั้งครับ ถึงได้ทนนั่งฟัง ฝนตกไม่กลับบ้านกลับช่อง ไม่กลัวฟ้าผ่าตาย
ตามพจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์ สัตว์ = “ผูติดของในรูปารมณเปนต้น” สิ่งที่มีความรูสึกและเคลื่อนไหวไปไดเองรวมตลอดทั้งเทพ มาร พรหม มนุษย์ เปรต อสุรกาย ดิรัจฉาน และสัตวนรก ในบาลีเพงเอามนุษย์กอนอยางอื่น, ไทยมักเพงเอาดิรัจฉานเจ้าชายสิทธัตธะ อาจถือว่าเป็นผู้ติดข้องในรูปปารมณ์แต่ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านตรัสรู้แล้ว ผู้เทศนาควรใช้คำที่ถูกต้อง ชัดเจน เพื่อมิให้ผู้มีศรัทธา ผู้รับฟังเทศนา มีความเข้าใจผิด และผู้เทศนา พึงระวังตน ให้มีสัมมาทิฐฐิ เป็นสำคัญ
สาธุ สาธุขอบพระคุณครับ🙏🙏🙏
sunhakit chugumnord สาธุ สาวกคึกฤทธิ์จิงๆแล้วดีนะเพราะเชื่อคำพระพุทธเจ้าแต่คำที่ออกจากคึกฤทธิ์นี่นะสิมันไม่ใช่ทั้งหมดผู้คนที่ไม่รู้ก็พากันคิดว่าสิ่งที่คึกฤทธิ์พูดถูกต้องพากันไม่เชื่อเรื่องต่างๆที่มันถูกต้องจริงๆ
jeerapan singkaeo 😁😁😂
พระอาจารย์คึกฤทธิ์ท่านเทศน์ว่า ("...พระพุทธเจ้าเรียกทุกคนเป็นสัต_ พระพุทธเจ้าเองก็เป็น... ในเมื่อทุกคนเป็นสัต_คือผู้ยึดติด...ผู้ยึดติดคือใคร...ที่กำลังไปมีฉันทะ ราคะ นันทิ ตัณหา...") //อาตมาเห็นว่าพระอาจารย์คึกฤทธิ์ท่านน่าจะพูดไม่ถูกนะ พระพุทธเจ้าพระพุทธองค์ไม่ใช่ผู้ยึดติดไม่มีฉันทะ ราคะ นันทิ ตัณหาแล้วนะ จึงไม่ใช่เหมือนทุกคนแล้วนะ จะใช้คำว่า"พระพุทธเจ้าเองก็เป็น___ไม่ได้เเล้วนะ" ไม่ควรอย่างยิ่ง จะกล่าวถึงพระพุทธองค์ผู้บริสุทธิ์สูงสุดควรระวังอย่างยิ่งเจริญพร
ปริเยศ ปัญญา นมัสการครับ สาธุๆๆ🙏
ฟังครั้งเเรกก็ยังเข้าใจ เข้าใจว่า พระอาจารย์คงหมายถึงก่อนพระองค์จะตรัสรู้ พระองค์ก็ยังเป็นผู้ยึดติดเหมือนเราทุกคน
ในคลิปกล่าวว่า เคยมีฟ้าผ่ามาแล้วอย่างน้อยหนึ่งครั้งเป็นการผ่าเสาต้นนั้น......ท่านทั้งหลาย ควรมานั่งไตร่ตรองว่าสิ่งที่ท่านกับลังทำนั้น ถูกต้องหรือยังไม่ถูก....การที่ฟ้าผ่ามากกว่าหนึ่งครั้ง มันไม่ใช่นิมิตดีที่จะมานั่งหัวเราะกันคิกๆคัก แล้วคิดว่าตนจะไปสุขดติ...
😂😁😀
ฟ้าผ่ามันก็เป็นเรื่องธรรมดาของธรรมชาติไม่เห็นจะเกี่ยวกับที่ท่านสอนตรงไหนมิจฉาเยอะนะคุณ
พวกนี้ปฏิเสธของตาไม่เห็น เอาความมืดบอดของตนมาป้ายสีศาสนา ! พระพุทธองค์ตรสไว้แล้วว่า ตอไปภายหน้าหมู่มนุษย์จะไม่เชื่อว่าผู้มีอิทธิฤทธิ์บรรดาลมีจริง. จะเชื่อเอาแค่ว่าเป็นธรรมชาติเท่านั้น ! ตรัสไว้จริงๆ ไม่ต้องถามว่าพระสูตรไหน ตามันบอด มันก็คลำไปอย่างบอดๆ กล่าวตู่ไปหลายๆอย่างแล้ว....แถมเอาเรื่องมรรคผลมาหัวเราะกันลั่น......เป็นไปตามพุทธพยากรณ์.
+ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย ไม่มีใครทําลายได้ ใครบันดาลให้สมหวังคับขอหวยรางวัลย์ที่หนึ่งแต่เทวดาคงจะรู้หรอกนะคับพระพุทธเจ้าไม่ขอพรอ้อนวรในพระเจ้าเทวดาต้นไม้บัญญัติชัดเจนโสดาบันเลิกทำแล้วคับหาทางดับกิเลสคือความทุกข์อย่างเดียว
อ่อ โสดาบันเค้าคงยึดติดมากๆว่าเขาเป็นโสดาบันหละซิหนะ โถเอ้ย ประสาชื่อเฉยๆ..........อวดรู้ "สอนสังฆราช"!!! เตือนและชี้แนะด้วยคำหวังดีน่ะ...........ใช่แหละที่เธอกล่าวมาว่าไม่ควรอ้อนวอน ขอพร. แต่ ! เธอเก่งมาแต่ไหนไปด่าเทพเทวา? เธอวิเศษมาแต่ไหนไปประมาทเค้า? เทวาที่เป็นอริยมีตั้งแต่โสดาบันไม่น้อย ! พรหมที่เป็นอริยมี ! ประมาทได้หรือ ดูตัวเองนั่น อย่าอวดเก่ง อวดภูมิ ! ว่าตนนี่รู้นี่เก่ง อย่าคิดว่าคนอื่นไม่รู้อะไรซะเลย.....คนเค้าได้เค้าถึงจริงๆเค้าไม่อวดอะไรมากมายให้เหม็นขี้ฟันหรอก........พิจารณาตนเอง เชือตัวเองได้เหรอว่าบรรลุเป็นพระโสดาบันแล้ว? ถ้าได้แล้วก็ดีน่ะ เราขอโมทนา......
ใจคอไม่ดีเลยนะ หึหึหึ
vail vailor 😆😆😂
+vail vailor ไม่ตกใจจนโดดกอดพยาบาล ก็บุญเท่าไหร่แล้ว หึหึหึ
{ หากอาศัยรูป... เห็นเรา อาศัยเสียง... วอนเราบุคคลนี้คือผู้เจริญ มิจฉาธรรม ย่อมไม่อาจเห็นตถาคตได้...}{ สังขตธรรมทั้งปวง ดุจฝัน..มายา..ฟองน้ำ..รูปเงา...ดุจนิศาชล อสนี....ควรพินิจด้วยอาการอย่างนี้แล}
ความเข้าใจ 2 คำที่มีความหมายต่างกัน คือ คำว่า สัตว์ หมายถึง สัตว์เดรัจฉานในเดรัจฉานภูมิ และ สัตต์ หมายถึง ผู้ข้องกับขันธ์ 5 (จิต+ขันธ์ 5=สัตต์) เป็นคำเดียวกับ สัตตะ สัตตา สัตโต สัตตานัง พระพุทธเจ้าและพระอรหันต์สาวก ทำจิตให้หลุดพ้นจากขันธ์ 5 ได้แล้ว เรียกว่า ขันธวิมุติ จึงพ้นความเป็นสัตต์ และสัตว์ด้วย
Sukrip Lar สาธุ สาธุครับ🙏🙏🙏
นัมเมียวโฮเร็งเงเคียว
เหตุใดท่านเทศน์ไม่ครองจีวร เหตุใดฟ้าจึงผ่า เพราะท่านเปรียบเอาพระตถาคต ว่ายังเป็นสัตว์อยู่
samphan samrit เคยเป็นสัตว์แต่หลุดพ้นแล้วไง
แสง ตามจิตเจริญ คึกไม่ได้พูดว่า เคยเป็น ฟังดีๆ ลิ้งใต้คลิปมี เต็มๆ กลับไปฟัง
พระพุทธเจ้าคือพระผู้เป็นอรหัน คำว่าอรหันในที่นี้ ถ้ามองในทางวิทยาศาสตร์ คือ ผู้อยู่เหนือแสง เหนือการเวลา พระพุทธเจ้าท่านทำอะไรก็แล้วแต่จะทำด้วยความเร็วที่คงที่ เพราะฉะนั้นท่านจึงอยู่เหนือแสง สามารถรู้ล่วงหน้าได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หรือสามารถย้อนอดีตกลับไปได้ เพราะคนเรามีเวลาเป็นของตัวเอง คนเรามีเงลาไม่เท่ากัน ไม่ใช้หมายความว่าเวลาโลก แต่หมายความว่าเวลาในจิตของเรา เช่น เวลาที่คุณมีความสุขเวลาช่วงนั้นจะผ่านไปเร็ว แต่เวลาที่ท่านเบื่อเวลาก็จะผ่านไปอย่างช้า ที่พระพุทธเจ้าสามาถรขึ้นไปโปรดเทวดาบนสวรรค์ได้ก็เพราะท่านสามารถเดินทางความเร็วเหนืองแสงไปได้จึงทำให้เหมือนว่าท่านเดินทางได้แปปเดียวแต่ความจริงแล้วเวลาที่ท่านไปมันเป็นแสนปีแสง ผมมองในมุมวิทยาศาสตร์นะครับ
มนุษย์ยังเป็นโลกียะ คิดว่าสัตว์เป็นคำหยาบ ถ้าเปลี่ยนบอกว่าพระพุทธเจ้าเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่าตอบ ยังเป็น เพราะยัง หายใจ กินข้าว เจ็บป่วยได้ ความเป็นพุทธะ เป็นที่จิต ไม่ใช่ร่างกาย จิตของพระองค์เป็นอรหันต์ ถ้าถามว่าพระพุทธเจ้าเป็นเลิศที่สุดถูกต้องในทางโลกียะ แต่ถ้าโลกุตระ พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์ ต่างก็ไปนิพพานเหมือนกัน จึงถือว่าเสมอกัน
สมชัย จิระพรกุล เป็นมนุษแต่ไม่มีกิเลส ไม่เรียกว่าสัตว์ คำว่าสัตว์ไม่หยาบ เป็นคำเรียกผู้ที่ยังมีกิเลส ตัณหา ราคะ นันทิ ความติดข้อง พระพุทธเจ้าไม่มีแล้วครับ เรายังเป็นสัตว์ พระพุทธองค์ ไม่เป็นสัตว์ครับ
ถกทางธรรมนะครับ พระปัจเจกพุทธเจ้า ถ้าท่านละสังขาร ในป่า แล้วมีคนไปพบท่าน เขาไม่รู้ว่าท่านเป็นพระปัจเจกชาวโลกเห็นก็จะบอกว่า มนุษย์ตาย ถามว่ามนุษย์เป็นสัตว์หรือเปล่าครับ คำว่ามนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐเพราะมนุษย์สามารถที่จะบรรลุธรรมได้ สัตว์ในทางโลกคือ คนที่หายใจกินข้าว เจ็บป่วย ร่างกายเน่าเปื่อย เหม็น และก็ตายได้ พระพุทธเจ้ายังเกิด แก่ เจ็บ ตาย ในชาตินี้ครับ แต่เขาจะไม่พูดกันเพราะท่านเลิศที่สุดแล้วที่บอกว่าสัตว์ไม่หยาบก็ไม่จริง เพราะถ้ามีคนด่าว่าไอ้สั... เรายังโกรธทั้งที่เราก็เป็นสัตว์จริงๆ แต่ถ้าด่าว่าไอ้มนุษย์ กับไม่โกรธ เพราะเรายังติดโลกธรรม 8 อยู่ครับ
ถามใหม่นะครับ พระอรหันต์เป็นสัตว์หรือเปล่า พระอรหันต์มี 1.พระพุทธเจ้า2.พระปัจเจกพุทธเจ้า 3.พระอรหันต์สาวก จิตของท่านเหล่านั้นก็ละกิเลสเหมือนกัน ถ้าเราบอกว่าพระอรหันต์ยังเป็นสัตว์อยู่ เราจะพอจะยอมรับได้จิตเป็นประธาน ไม่อยากก้าวล่วงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มันเป็นเรื่องสมมติทั้งนั้นคุณ
สมชัย จิระพรกุล facebook.com/groups/antikukrit/permalink/1857297487862843/
ผมไม่ใช่ลูกศิษย์ท่านคึกฤทธิ์ ผมเห็นประวัติเมื่อท่านเป็นฆราวาสเป็นถึงพันตรีตั้งแต่ อายุ 29 เรียนเก่ง อาจารย์ท่านก็องค์หลวงปู่ชา การที่ท่าน อจ.สอนลูกศิษย์อย่างนั้น โดยเน้นพุทธวัจนะ ผมดูที่เจตนา ท่านไม่ลบหลู่พระพุทธเจ้า ท่านต้องการคำสอนของพระพุทธเจ้าโดยตรง ที่นี้เรื่องจะจบยังไงก็ให้เป็นหน้าที่ของพระผู้ใหญ่ ซึ่งถ้าสมัยพุทธกาล ก็ให้พระองค์ตัดสิน ก็จบใช่มั๊ยครับ เราเป็นฆราวาสไปว่าให้ท่าน ถ้าเราถูกก็เสมอตัวถ้าผิดก็ถือว่าเราด่าลูกพระพุทธเจ้า การตีความทางธรรมนั้นลึกซึ่งหลวงตามหาบัวท่านเลยสอนธรรม ให้ฆราวาสตอนกลางวัน ถ้ากลางคืนท่านก็สอนพระ ซึ่งหลักธรรมต่างกันมาก เหมือนวิชาเลข ตอนมัธยมต้นตอบแบบนี้ถูก แต่พอขึ้น ม.ปลายถ้าตอบแบบเดิมถือผิด ปุถุชน คำว่าเป็นสัตว์ ก็จะมองที่ร่างกาย ยังเป็นสัตว์อยู่ (เปรียบยังชั้นอนุบาล) ถ้าสอนพระ พระอรหันต์หลุดพ้นจากสัตว์โลก ( ระดับปริญญา ) แต่ที่นี้ถ้าเราไปเรียนธรรมชั้นสูง มันก็ไม่เกิดประโยชน์ เหมือนให้เด็กอนุบาลไปเรียนแคลคูลัส เด็กมันก็ตอบแบบนกแก้วนกขุนทอง ดิฟโนนดิฟนี้แต่ไม่รู้เรื่องอะไร ผู้ปกครองก็ดีใจตบมือ คุณไปอ่านในพระไตรปิฏก เปรียบหนังสือจบด๊อกเตอร์เลย ศีลห้าเรายังไม่ครบเลยบางวัน แล้วเราไปด่าพระที่ท่านบวชมาหลายสิบปี แล้วครูบาอาจารย์(หลวงปู่ชา) ก็สอนหลักธรรมให้ ไม่งันท่านคงไม่บวช ถ้ามีสติแล้วมอง ตอนเป็นฆราวาส ท่านเป็นคนหน้าตาดียศพันตรีตอนอายุ 29 จบนอก เป็นคุณคุณจะบวชตลอดชีวิตหรือเปล่า.ธรรมเป็นสิ่งลึกซึ่ง คุณดูสมัยพุทธกาล พระเจ้าอชาตศัตรูได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้า ไม่บรรลุธรรม เพราะมีจิตคิดฆ่าบิดา กรรมหนัก ผมฟังก็ถูกแต่องคุลีมาลฆ่าคนตาย 999 คนที่พันคิดจะฆ่าพ่อแม่ พระพุทธเจ้าก็เลยไปหาเพราะกลัวจะเป็นกรรมหนัก(แต่ท่านก็คิดไปแล้ว) เห็นพระพุทธเจ้าก็เลยคิดจะฆ่าแทน(คิดฆ่าพระพุทธเจ้าหนักกว่าอีก) แต่สุดท้ายท่านเป็นพระอรหันต์. ผมเป็นปุถุชนถือศีลห้าดีครับ
เจ้าคนที่โพสต์บิดเบือนคำว่าสัตต สัตตา สัตตานังไม่ใช่คำว่าสัตว์นี้จงเข้าใจใหม่ปรามาสผู้อื่นไปทำไม
ไร้ตัว ไร้ตน ใช่ครับ แต่พระพุทธเจ้าไม่ใช่สัตว์
+ไร้ตัว ไร้ตน ถึงคนโพสท์คลิปนี้ จะบิดเบือนยังไง ก็ยังเทียบไม่ใด้แม้เศษหนึ่งส่วนร้อย ที่คึกริดพลิกลิ้น บิดคำของพระพุทธเจ้า ให้เข้ากันใด้กับความเห็นผิดของตัวเอง... ถึงคนโพสท์คลิปนี้ จะปรามาสผู้อื่นยังไง ก็ยังเทียบไม่ใด้แม้เศษหนึ่งส่วนล้าน ที่คึกริดปรามาสพระอรหันตสาวก ทั้งในยุคก่อนๆและในยุคปัจจุบัน จงเข้าใจเสียใหม่ แล้วกรุณากลับไปถามคึกริดด้วย ว่าจะลงทุนแผ้วถางทางลงนรกให้ตัวเองไปเพื่ออะไร... ถ้าเพียงเพื่อความสะใจ ที่ใด้ประกาศให้โลกรู้ ว่าตัวกูคือผู้ที่ใด้รับสัมปทาน ให้มีสิทธ์ผูกขาดคำสอนของพระศาสดาแต่เพียงผู้เดียว มันก็ไม่คุ้มนะ... หึหึหึ
ฟังแล้วครับ ท่านหมายถึงก่อนพระพุทธเจ้าก่อนตรัสรู้ ว่าตอนนั้นก็เป็นผู้ที่ยังติดข้อง (สัตตานัง) เอาคำว่าพ้องเสียงมาเขียน อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดนะครับ ฟ้าผ่า ฝนตก ลมพัด มันก็เป็นแค่เหตุธรรมชาติไม่มีใครดลบันดาลหรอกครับ อาเพศต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติไม่น่ากลัวเท่า อาเพศที่จิตของมนุษย์สร้างขึ้น
ฟ้าผ่าถึงบ้านแล้วยังพาไม่รู้ตัวพหุธาตุกสูตรข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้-สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ที่พระวิหารเชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี สมัยนั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเหล่านั้นทูลรับพระดำรัสแล้ว ฯพระผู้มีพระภาคได้ตรัสดังนี้ว่า "ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภัยไม่ว่าชนิดใดๆ ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้น ย่อมเกิดขึ้นแต่คนพาล ไม่ใช่เกิดขึ้นแต่บัณฑิตอุปัทวะไม่ว่าชนิดใดๆ ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้น ย่อมเกิดขึ้นแต่คนพาล ไม่ใช่เกิดขึ้นแต่บัณฑิต อุปสรรคไม่ว่าชนิดใดๆ ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้น ย่อมเกิดขึ้นแต่คนพาลไม่ใช่เกิดขึ้นแต่บัณฑิต ดูกรภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนไฟลุกลามแล้วแต่เรือนไม้อ้อ หรือเรือนหญ้า ย่อมไหม้ได้กระทั่งเรือนยอดที่โบกปูน มีบานประตูสนิทปิดหน้าต่างไว้ ฉันใด ดูกรภิกษุทั้งหลาย ฉันนั้นเหมือนกันแล ภัยไม่ว่าชนิดใดๆที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้น ย่อมเกิดขึ้นแต่คนพาล ไม่ใช่เกิดขึ้นแต่บัณฑิต อุปัทวะไม่ว่าชนิดใดๆ ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้น ย่อมเกิดขึ้นแต่คนพาล ไม่ใช่เกิดขึ้นแต่บัณฑิตอุปสรรคไม่ว่าชนิดใดๆ ที่เกิดขึ้น ทั้งหมดนั้นย่อมเกิดขึ้นแต่คนพาล ไม่ใช่เกิดขึ้นแต่บัณฑิต ดูกรภิกษุทั้งหลาย ดังนี้แล คนพาลจึงมีภัยเฉพาะหน้า บัณฑิตไม่มีภัยเฉพาะหน้า คนพาลจึงมีอุปัทวะ บัณฑิตไม่มีอุปัทวะ คนพาลจึงมีอุปสรรคบัณฑิตไม่มีอุปสรรค ภัย อุปัทวะ อุปสรรค ไม่มีแต่บัณฑิต ดูกรภิกษุทั้งหลายเพราะฉะนั้นแล พวกเธอพึงศึกษาไว้อย่างนี้เถิดว่า จักเป็นบัณฑิต ฯ
อ่านหลายความคิดเห่นล่ะไม่ใช่ปัญญาเลย พระอาจาคึกฤกธิ์ ความหมายของท่านน่ะคือ ก่อนพระพุทธเจ้าตรัสรู้เป็นสัมมาสัมโพธิญาณ ท่านก๊ยังเป่นพระโพธิสัตว์อยู่เข้าใจป่าว ความหมายท่านแบบนี้ พวกคุณไม่พิจารณาไห้ดี ไม่ได้เข้าข้างหรอก โถ่เก่งแต่ติเตียน
ทำไมพอพูดถึงพระพุทธเจ้าต้องชี้้เข้าหาตัวเอง ไม่ควร
บาปกรรมๆๆๆๆๆๆ
ผิด ไม่ถูกใจท่านที่อ่านตรงไหนก็ขออโหสิด้วยนะครับ
ท่านพลาดไปนิดนึง ตรงช่วงที่ "เราก็เป็นสัตว์ พระพุทธเจ้าก็เป็นสัตว" ท่านน่าจะพูดว่า " ชาติที่เคยสร้างบารมีผ่านมานั้น ท่านเองก็ยังได้ชื่อว่าเป็น พระโพธิสัตว์อยู่ " ถ้าพูดแบบนี้ฟ้าไม่ ผ่า ชัวร์
ปราณบุรีสอนขับรถยนต์ ออโต้-ธรรมดา ใช่ครับ พลาดไปนิดเดียว จริงๆ อันที่จริง ถึงไม่พลาด หรือพูดถูก ฟ้าก็อาจจะผ่าได้เหมือนเดิม ขณะนั้นฝนมันตก ฟ้าร้องอยู่แล้ว ประเด็นตรงที่ว่า พูดผิดนี่ล่ะครับ จะว่าพลาดหรือตั้งใจก็ตามแต่ ถือว่าคุยกันตรงประเด็นดีครับ สาวกท่านคึกคนอื่นๆ ออกมาแก้ตัวแทนหมด ไม่เห็นมีใครยอมรับว่าพลาดเลย
ขอบคุณครับ อ่อฝนตกเหรอครับผมไม่รุ้จิงๆ
บาปกรรมมากยังไม่สำนึกอีกเดียวดับหมู่
Utit Pasonthi 😁😁😅
ตอนฟ้าผ่าเสร็จบอกถ้าตายเพราะฟ้าผ่าจะไปฟังธรรมชั้น อะกะนิฏฐา แสดงว่ามีแต่พระอนาคามีนั่งอยู่ตรงนั้น ว้าววววๆๆๆๆๆๆๆๆขนาดนั้นเลยเหรอท่านคึกคัก
คนเลี้ยงวัวคนหนึ่ง รีดนมจากวัวของเขาจากนั้น เขาได้ฝากนม ไว้กับเพื่อนที่เขาไว้ใจหนึ่งคน แล้วจาก ไป เพื่อนของเขา บีบมะนาวแล้วใส่นมทำให้กลายเป็นนมข้น จากนั้นแล้ว ก็เอามาทำ จนกลายเป็นเนย เมื่อคนเลียงวัวกับมาเห็นนม ที่กลายเป็นเนย แต่เพื่อนของเขานั้น อ้างว่าเนยเป็นของตัวเองท่านจะสำคัญ ความข้อนั้นเป็นไฉน ? ถ้าหากไม่มีนมตั้งแต่แรกมันจะมีเนยได้อย่างไร พระพุทธเจ้าของเรา ท่านทรงตรัสรู้ และงดงาม ท่านทรงตรัสสอนความจริงอันสูงสุด ให้แก่ทุกคน และไม่เคยอ้างถึงสิทธิ์ อะไรในความรู้ความจริงอันสูงสุดนั้น พระองค์ทรงตรัสแต่ว่า “ เราตถาคตเองเป็นแต่เพียงผู้บอกทาง แต่ที่เหลือพวกท่าน ต้องเดินไปตามสายเอก เส้นทางนั้นเพียงลำพังผู้เดียว ” ในยุคกาลสมัยปัจจุบันนี้ ได้มีการหยิบยกเอา พระธรรมคำสอน ใจความสำคัญในพระศาสนา มาแอบอ้างว่าเป็นคำสอนจากพระพุทธพจน์ โดยการหยิบพระสูตร ใจความความบางตอน ขึ้นมาอ้าง แต่..... เนื้อหาภาย ในนั้น ได้มีการ ตัด เสริม เติมแต่ง บิดเบือนพระพุทธพจน์ ถ้อยความบางคำ ตามความเห็นของตน ลงไปในเนื้อหา ของพระสูตร โดยการเลี่ยงคำบางคำไป ( อย่างเช่น คำว่าพระพุทธดำรัสที่ทรงตรัส โดยการเปลี่ยนเป็นมาใช้คำว่า พุทธวจนะ ) ซึ่งดูเผินๆแล้ว ก็ไม่ได้แตกต่างกันตรงไหน แต่ในความเป็นจริง เป็นบัญญัติศัพท์ขึ้นมาใหม่ โดยนำมาใช้เป็นเเบรนด์ของตน เพื่อหาผลประโยชน์ ในด้านชื่อเสียง ลาภสักการะ และยังได้ใช้หลอกลวง เป็นการค้าบุญ โดยการเรี่ยรายบอกบุญโดยอ้างว่า จะเอามาพิมพ์เป็นหนังสือ เพื่อพิมพ์แจกเป็นธรรมทาน แต่เมื่อได้ปัจจัยนั้นมาแล้ว กลับไม่มีการแจก ซ้ำร้ายไปกว่านั้น หนังสือที่พิมพ์ออกมานั้น ยังได้มีการจำหน่าย ให้กับผู้ที่ต้องการโดยการสั่งจองอีกด้วย ซึ่งนั้นไม่ตรงกับ การฎีกาบอกบุญในเจตนาเดิม “ ดูกร กสิภารชวารพราหมณ์ เราไม่บริโภคโภชนะที่ เปรียบเสมือนหนึ่งว่า แสดงธรรมเป็นค่าจ้างแล้วได้มา ข้อนี้ ไม่ใช่ธรรม ของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ผู้เห็นอยู่โดยชอบ พระพุทธเจ้าทั้งหลาย ย่อมทรงห้ามโภชนะที่ขับกล่อมได้มา ”และที่เป็นปัญหาก็คือในคำสอนที่บิดเบือนนั้น จะกระทำให้ผู้ที่มาใหม่ ที่ยังไม่ได้เข้าใจหลักของเส้นทางนั้น หลุดโค้งจากทาง สายเส้นอริยะ ( อัฏฐังคิมรรค )นี้ได้ง่ายๆโดยเพราะความไม่รู้ เขาเหล่านั้นจะ หลงคล้อยตามคำสอนที่บิดเบือนนั้น ซึ่งนั่นก็คือความเสียหายอย่างใหญ่ หลวงต่อมหาชนที่ตามมา และที่สำคัญ อายุกาลของพระศาสนา ในบ้านเมืองของเราก็จะเสื่อมถอยไป ก่อนที่จะถึง 5,000 ปีและยังมีอีกกรณีหนึ่งอยากขอให้ช่วยตรวจสอบด้วย คือว่ามี การเผยแผ่ธรรมะในยูทูบ อีกคนหนึ่ง เขาคนนั้นเผยแผ่ธรรมะโดย การอ้างตัวว่าตัวเองนั้นจบกิจในพระศาสนาแล้ว และคำสอนของเขานั้นจะมีหลักอยู่ในสูตร หลักมหาประเทศ, วัชระสูตร ( ความคิดคือมายา )และยังผสมกับคำสอนแบบ เซนอีกด้วยแต่เขาพยายามเลี่ยงถ้อยคำที่เป็นหลักคำสอนในนั้นอยู่ โดยการกล่าวลบลู่ไม่เชื่อในคุณครูบาอาจารย์ ไม่เชื่อในทสพลญาณของพระพุทธเจ้า ว่ากล่าวตำหนิสงฆ์พร้อมกับทั้งขู่ให้กลัวในการที่จะสาปแช่งเขา ถึงโทษหนักในการการอกุศลกรรมบถกับพระอรหันต์ในการแสดงธรรมนั้น ยังได้มีการกล่าวถ้อยคำอันหยาบโลน เป็นว่าเล่นซึ่งการกระทำดังกล่าวนั้น ก็จะอยู่ในทำนองที่กล่าวข้างต้น คือการขโมยคำสอนแล้วก็เอามาบิดเบือน สร้างความเชื่อแบบใหม่ให้มหาชน ได้หลงเชื่อการกระทำดังกล่าวนั้น หากจะเป็นการตั้งลัทธินิกาย อะไรใหม่ๆ ก็ไม่ได้ว่าอะไรแต่นี่ เป็นการเอาพระพุทธศาสนาเข้ามาเป็นหลักซึ่งการกระทำอย่างนั้นจะเป็นอันตรายกับพระพุทธศาสนาในบ้านเมืองของเรา จึงอยากฝากหน่วยงานโดยตรงเข้าไปตรวจสสอบด้วย ( เขาอ้างว่า เขาเป็นพระอรหันต์ ปฏิสัมภิทาแต่เมื่อเราเอาหลักพระโสดาบันไปเช็คดู เรากลับเห็นว่าเข้ากันไม่ได้ เขาพูดถึงเรื่องการทำสมาธิการเข้าฌาน แต่ในส่วนละเอียดของฌานนั้นเขาว่ามันไม่มี (พิมพ์ในยูทูบว่า..... อาจารย์แดง กีร์ต้าหมดฤทธิ์ ) สิริภัทโท/
น่าจะผ่ากลางกระบาลคึกฤทธิ์
5555+
555++
ไอ้คนลงคลิปนี่มันฟังอะไรไม่ค่อยเข้าใจนะ อายุเท่าไหร่ ฟังอะไรไม่ฟังทั้งประโยค ทั้งเรื่อง สรุปเอาคำบางคำมาตัดต่อ.ห้คนดจ้าใจผิด
littlebug cuit 😁😁😂
คงจะขาดรายได้จากการขายพระมั้ง ใครจะรู้ ผมเดาเอานะ
Nino Iris คิดเหมือนกันเรยรึเขียนหนังสือธรรมขายรึป่าว จิงพระอองนี้ก้ทำพุทธวจนมากนานแร้วนะ ยังไม่เหนเปนไรเรย ยุเฉยสบายๆๆ มีแต่คนที่โจมตี ท่ดิ้นทุรนทุบายไปเอง
ทำมัยแต่ละคอมเม้นหยาบลามกจัง อ่านแล้วก็สงสาร ไม่รู้เลยว่าตนได้จุดไฟเผาตนไปแล้ว
การแสดงธรรมแก่อนุปสัมบัน ทั้งหมวดธรรมนี้ก็เกี่ยวข้องกับอภิธรรม ท่านควรสำรวมกาย วาจา ใจมากกว่านี้ครับ นิมนต์ถ้าท่าน หรือลูกลูกศิษย์ อ่านคลิปและกระทู้ นิมนต์ไปสวมจีวร ไม่ควรเทศน์ด้วยอังสะ การใช้วาจาในหมู่ธรรมนี้ควรเป็นไปด้วยมีใช่อาการหรรษา เป็นอาการไม่สำรวมยิ่ง
สมมุติต้องบอกว่าเจ้าชาย สิทธัตถะ ยังเป็นสัตว์ เหมือนพวกเรา เหตุเพราะยังไม่ได้บรรลุอรหันต์ ยังสามารถเวียนว่ายตายเกิดได้อีก แบบนี้ใช่มั้ยครับ เพราะถ้าใช้คำพูดพูดว่า "พระพุทธเจ้า"นั่นหมายถึงท่านพ้นจาก วัฏสงสารแล้ว จะบอกว่าท่านเป็นสัตว์ จึงดูไม่ควร ผมเข้าใจถูกมั้ย
ก็จงจำไว้ ว่าคนที่เขียนข้อความนี้ขึ้นมา เป็นผู้ต้องวิมุตติ และเป็นผู้ทุศีลตามกาล เป็นผู้มีราคะกล้าตามกาล เป็นผู้มักโกรธตามกาล เป็นผู้ฟุ้งซ่านตามกาล แต่เป็นผู้ต้องวิมุตติ อดีตชาติ เป็นผู้ครองปราสาทมุกสวรรค์ทั้งชั้นฟ้าก็ดี เป็นพระภิกษุในสมัยพุทธกาลชื่อว่า พระราชปาลก็ดี เป็นผู้รู้เห็นธรรมตามธรรมโดย ปฎิสัมภิทา เสกขภูมิ มีหน้าที่ ปกป้องรักษา อภยปริตร และ มหาสุบินชาดก ตามกาล ที่ถูกทำลายโดย คึกฤทธิ์แห่งสำนักวัดนาป่าพง จำเอาไว้ใส่กระโหลกเสีย พวกสำนักวัดนาป่าพงที่สร้าง สัทธรรมปฎิรูป ลบหลู่ดูหมิ่นครูบาอาจารย์ตายกันสนั่นหวั่นไหวทั้งสำนักเพราะโดนธาตุทัณฑ์หรือ ไพรีพินาศ จนต้องขายโปรตายด่วนผิดวิสัยมรณะ ๔ ตายตัวเหลืองให้ลูกศิษย์ ฮ่าๆ ยังไม่รู้ตัวกันอีก !!จงพังพินาศไปเสีย สัทธรรมปฎิรูป
เรื่องธรรมะของพระพุทธเจ้าหมาไม่เกี่ยว เพราะหมาเป็นสัตว์ เป็น เดรัจฉาน พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า สัตว์หรือเดรัจฉานบรรลุธรรมไม่ได้ จึงไม่แสดงธรรมให้สัตว์เรื่องธรรมะของพระพุทธเจ้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ มนุษย์ เทวดา พรหมณ์ ล้วนก็เป็น สัตน์ ทั้งนั้นมนุษย์ เทวดา พรหมณ์ เป็นสัตน์โลก สามารถบรรลุธรรม นิปพานได้หมู หมา กา ไก่ ฯลฯ ล้วน เป็น สัตว์โลก ไม่สามารถบรรลุธรรม นิปพานไม่ได้สาเหตุ ที่ ทำ ให้ คน ฟัง ธรรม ไม่ เข้า ใจ เพราะ การ บัญญัตคำิ จาก บาลี-ไทย นั้น เอง เช่น คำ ว่า ตรัสรู้ ดันไปแปลว่า รู้ได้ด้วยตนเอง ที่ถูกต้องหมายถึง พูดเรื่องที่รู้จริง ส่วนปัตจัตตัง หมายถึงรู้ได้ด้วยตนเอง และอันนี้สำคัญยิ่งยวด คือคำที่มีความหมายตรงข้ามกับคำว่า ทุกข์ คือ สุกข์ ไม่ไช่ สุขเพราะ ทุกข์ คือ เวทนา คือทุกขเวทนา + สุขเวทนา + อทุกขอสุข(อุเบกขา)+สัญญา+สังขาร+วิญญาน+รูป-นาม ส่วน สุกข์ คือ แห้ง, แล้ง หรือ ความว่างอย่างยิ่งยวด คือวิมุต คือนิปพาน สรุป...สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงรู้แจ้งเห็นจริง(ตรััสรู้)เรื่อง วิธีการดับทุกข ์ จึงบอกสอนสัตน์ทั่งหลายด้วย อริยสัจธรรม คือ มรรค ด้วยอนิสงค์จาก ภาวนามัยปัญญา ช่วยให้สัตน์เป็นสุกข์ คือสภาวะนิปพาน นั่น เอง " นิปพานัง ปะระมัง สุกขัง " แปลไทยว่า " นิปพานเป็นบรมสุกข์ " สรุป..เรื่องธรรมะของพระพุทธเจ้าหมาไม่เกี่ยว เพราะหมาเป็นสัตว์ เป็นสัตตะวัง เป็น เดรัจฉาน เป็นสัตว์โลก แต่..ในกาลสมัยพระพุทธเจ้ากำลังทรง่แสดงธรรมเพื่อโปรดสัตน์ แล้วบังเอิญมีสัตว์มาได้ยินได้ฟัง และแอบเงี่ยหูฟังด้วยความตั้งใจ ท่านก็ยินดี เพราะอนิสงค์ในการได้ฟังธรรมไม่ยกเ่้ว้นแม้เดรัจฉานกล่าวคือทำให้เวลาในการถูกจองจำอยู่ในอบายภูมิของสัตว์นั้นสั้นลงหมู หมา กา ไก่ ฯลฯ...คือ สัตว์ สัตตะวัง เป็นเดรัจฉาน สัตว์โลกทั้งหลายมนุษย์ เทวดา พรหมณ์...คือ สัตน์ สัตตะนัง สัตน์โลกทั้งหลาย เป็น วิมุตติญานทัศนะ ความว่างอันบิ่งยวด นิปพาน สติ จิตเกษม อมตะธรรม หลังจากประสบความสำเร็จด้วยการฝึกตน(สติ สัตตะ สัตตา สัตตะนัง สัตตานัง) "อนุตตะโร ปุริสทรรมะสาระถิ " แปลไทยว่า... พระ พุทธเจ้า เป็น สารถี ผู้ฝึกคน(สัตน์) ที่ต้องฝึกไม่มีใครยิ่งกว่า.เขียนให้ถูก บัญญัติให้ถูก บาลี-ไทย ไม่ งั้น คำของพระพุทธเจ้าจะขัดกันอยู่รำ่ไปเมือ่ฟังเกจิอาจารย์ที่ประมาทพูด เช่น ที่พบบ่อยไม่ว่าพูดหรือเขียน คือ เอา ทุกข ์กับความทุกข์มารวมเป็นตัวเดียวกัน แล้วเอาทุกข์ กับความสุข แยกออกจากกัน กล่าว คือ ทุกข์ กับความทุกข์หรือทุกขเวทนา ความหมายไม่เหมือนกัน แต่เป็นพวกเดียวกันคือเป็นทุกข์ ในส่วนของความสุขหรือสุขเวทนาก็เป็นทุกข์เป็น พวก เดียว กัน คือ เป็นสังคตะธรรม เป็นธรรมดาที่เปลี่ยนแปลงได้
Bhuvadol Wisavarakul ปัตจัตตัง รู้ได้เฉพาะตน ไม่ใช่ตรัสรู้ ประเด็น ไม่ได้หมายถึง สัตว์ เดรัจฉาน แต่หมายถึง ผู้ข้อง ติดข้อง ผู้ที่ยังมีกิเลส ตัณหา ราคะ นันทิ โลภะฯ ซึ่งไม่ใช่พระพุทธเจ้า แต่ผู้แสดงธรรม บอกว่า พระพุทธเจ้า ก็เป็นสัตว์ หมายถึง ยังมีกิเลสอยู่ ซึ่งไม่เป็นความจริง
ปัตจัตตัง รู้ได้เฉพาะตน รู้ได้ด้วยตนเอง หมาย ถึง ไม่ต้องมีคนสอน ไม่ต้องมีอาจารย์ ธรรมะปัตจัตตัง เกิดขึ้นได้กับสัตน์โลกทั้งหลาย โดยการฟังธรรมะ เรียก สุตมัยปัญญา โดยการมะโนใคร่ครวญธรรมที่ถูกต้อง เรียก จิตมัยปัญญา และโดยการปฏิบัติธรรม เรียก ภาวนามัยปัญญา ความรู้เฉพาะตน รู้ได้ด้วยตนเอง ด้วยการปฏิบัติด้วยตนเอง ไม่ต้องมีอาจารย์ ดังนั้นพระพุทธเจ้าจึงเป็นศาสดา ต่อมาเมื่ออนิจจังสังขาราพุทธเจ้า มีผู้นำความรู้ของพระพุทธเจ้ามาบอกต่อ เรียกผู้บอกต่อว่า สาวก เอาละ...ผู้ี่ที่ รู้ได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องมีใครสอน เรียกว่า ศาสดา ผู้ที่นำความรู้ของศาสดามาบอกต่อ เรียก ว่า สาวก ประเด็น คือ คำ ว่า สัตว์ กับ สัตน์ แตกต่างกันอย่างไร? สัตว์ คือ สัตตะวัง คือ สัตว์ โลก สัตว์ เดรัจฉาน แปลว่า ไม่สามารถบรรลุธรรม เพราะวิบากกรรมสัตน์ คือ สัตตะนัง คือ สัตน์โลก พระ พุทธเจ้า ตรัส ว่า สิ่งๆหนึ่งที่อะวิชชาเป็นเครื่องกั้น มีตันหาเป็นเคื่องร้อยรัด ทำให้ไปหลงเพลินติดไปกับวิญญาน คุณสมบัติของวิญญานคือ เกิด-ดับ ด้วยความเร็วแสง ตั้งอยู่กับธรรมชาติเดิมคือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร สี่ตัวนี้เรียกขันธ์สี่ เป็นทุกข์ เกิด- ดับ ตามวิญญานูพระ พุทธเจ้า ท่าน ตรัส ว่า ท่าน รู้ วิธี(ตรัสรู้) การไม่ให้สัตน์ไปเพลินไปกับวิญญาน คือ อริยะ อัตถัง จิกกะมรรคแปล ว่า แปดทางอันประเสริฐ นิโรตะคามะนิปฏิปทา การปฏิบัติเพื่อดับไม่เหลือทุกข์ทั้งปวงประเด็น คือ คำที่ความหมาย ตรงกันข้ามกับ ทุกข์ คือ สุกข์ ไม่ใช่ สุข ตัว อย่างเขียนผิด โลกธรรมแปด ประกอบ ด้วย.... ยศ - เสื่อมยศ ลาภ - เสื่อม ลาภ สรรเสริญ - นินทา ทุกข์ - สุข ✋ตัว อย่างเขียนถูก โลกธรรมแปด ประกอบ ด้วย.... ยศ - เสื่อมยศ ลาภ - เสื่อม ลาภ สรรเสริญ - นินทา ทุกข์ - สุกข์👌 สรุป... ทั้ง สัตน์ และ สัตว์ ล้วนแต่ ชอบสุขเวทนา เกลียด ทุกขเวทนา นี้เป็นเรื่องไม่ต้องสอน เป็นสัญชาติญานถามว่าทำไม คำ ตอบ คือ พระ พุทธเจ้า ตรัส ว่า มันเป็นธรรมธาตุเดิมที่มีอยู่แล้ว มันเป็น ตะถะตา อิทัปปัจยะตา ปฏิจสมุปบาท, เกิด ตั้งอยู่ ดับ , อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา, สมุไท ทุกข์ นิโรธา , สมาธิ ศิล ปัญญา, สมถะ วิปัสสนา, อานาปานสติ, สติปฐานสี่, โพธิชงค์เจ็ด, สำเร็จสมาธิเก้าฌาน , พระปัจเจค, พระ พุทธเจ้า และสูงสุดคือ พระ สัมมาสัมพุทธเจ้า องค์ ปัจจุบัน คือ โคตะมะ แห่งศากยวงค์ก่อนจะเป็นพระพุทธเจ้า ต้องเป็นสัตน์มาก่อน เรียก ว่า โพธิสัตน์ แปล..ไทย ผู้ที่บำเพ็ญบารมีเพื่อไปเป็นพระพุทธเจ้า ส่วนคำเขียนผิดว่า โพธิสัตว์ แปล..ไทย เดรัจฉานที่บำเพ็ญบารมีเพื่อไปเป็นพระพุทธเจ้า เมื่อบัญญัติคำผิด จึงทำให้ไทยพุทธฟังแล้วอ่านแล้วไม่มีสุตมัยปัญญา มีมิสฉาฐิถิ อยู่รำ่ไป ไม่รู้จัก ทุกข์ สุกข์ สุข ว่าที่เข้าใจถูกคือ อะไร อย่าง ไร จึงไม่เข้าใจอริยะสัจธรรมสี่ประการ ง่าย ๆ หลักของพุทธ เพื่อปิดทางไปเกิดในอบายภูมิ(นรก เดรัจฉาน เปรตวิสัย)ต้อง รู้จักตน รู้จักธรรม เพื่อเป็นตัวช่วย แต่ว่าตน คืออะไ? ก็ใหนบอกว่า มรรค 8 คือวิธีปฏิบัติเพื่อละตัวตน ปล่อยวางตัวตน... ส่วนธรรมะ คือ พุทธศาสตร์ เอาแค่ลัดนิ้วมือ เพื่อไม่ต้องไปเกิดในอบายภูมิ ไม่ต้องไปเจอกับกับเทวดาชื่อ ยะมะสะ (ยมบาล) " Trust is good, but the best is controllation " เชื่อ ศรัทธา สูงสุด ในพระพุทธเจ้า องค์เดียวเท่านั้น(อถาคเต เอตคะโต อภิปสันโน) ดี ... แต่ให้ดีที่สุดต้องควบคุมไม่ให้ใครมาแก่ไข เปลี่ยนแปลง แปลธรรมผิดๆ ทำให้มหาชนเดินไปลงนรก เพราะเข้าใจผิด Bhuddha Word... " Don't Worry be Nipphann "
ไม่ได้มีอคติ แต่งงทำไมท่านแต่งกายแบบนั้นล่ะครับ
เทดยังไม่ใส่ผ้า
Kinoy Sokkham 😂👆
มีเเต่มานั่งพูดนอนแอเยันแต่ไม่ลงมือเเสวงหาทุก
พระคึกฤทธิ์บอกพระพุทธเจ้าก็เป็นสัตว์ พระพุทธเจ้ามิได้เป็นสัตว์ครับ พระพุทธเจ้าคือพระพุทธเจ้า ผู้ที่ยังเป็นสัตว์คือเจ้าชายสิทธัตถะผู้โพธิสัตว์ ก่อนที่จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า นี่แสดงให้เห็นถึงความบกพร่อง หรือความขาดสติในก่รแสดงธรรม
พ่ออวดฉลาด ก่อนหน้านั้นท่านก็พูดว่า ทุกคนเป็นสัตว์แม่แต่พระพุทธเจ้า ก็เปน (หมายถึง ตอนมาเกิดนะ ไม่ใช่ตอนตรัสรู้) เพราะถ้าพระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้วก็คงไม่มีเกิด หรอกจริงไหม เพราะภพแม่รัดนิ้วมือก็เปนของมูดรคูด (ตถาคตทรงตรัสไว้) ได้ฟังเทปเต็มแล้วหรือยัง
Nino Iris จะอวดฉลาดยังไงล่ะท่าน ก็เราว่าตามความจริง ในคลิปท่านพูดว่าพระพุทธเจ้าก็เป็นสัตว์ ทำไมไม่พูดว่าก่อนตรัสรู้รึใช้ชื่อเจ้าชายสิทธัตถะล่ะ ทำไมว่า"พระพุทธเจ้าเป็นสัตว์"เข้าใจคำว่า"พระพุทธเจ้า"ไหม จะถามหาคลิปเต็มทำไมกัน
เคยเป็นสัตว์แต่หลุดพ้นแล้วไง!
สงสารทุกคนค่ะที่ตายังมืดบอดมองเห็นกรงจักรเปนดอกบัวข้าพเจ้าขอให้ทุกท่านจงหลุดพ้นจากความเห็นผิดนี้ทั้งปวงและเดินสุ่ทางปฏิบัติของพระพุทธเจ้าอย่างแท้จริง สาธุ
แอ้ว่ะ!! อย่ากวนตีน ถามคุณนะ ว่า พระพุทธเจ้า ยังเป็นสัตว์ไหม ยังมีตัณหา ราคะ นันทิ ความเพลิน ความยินดีพอใจ ความติดข้องไหม
แอ้ว่ะ!! อย่ากวนตีน คุณเก้า ศิษคึก ลองตามดูในเพจนี้นะfacebook.com/groups/antikukrit/permalink/1866983836894208/
แอ้ว่ะ!! อย่ากวนตีน ua-cam.com/video/OTOwlNoheyk/v-deo.html
คลิปนี้ผมก็ได้ดู ท่านกำลังเปิดเผยความลับของจักรวาลต่างหากเราทุกคนล้วนเป็นความว่างอันเป็นอมตะ เพียงแต่มาติดข้องกับขันธ์5 คนเราจะเห็นความไม่เที่ยงเป็นทุกข์ของขันธ์ได้ดีที่สุดตอนใกล้ตายจึงบรรลุธรรมได้ง่าย เป็นตรรกะที่มีเหตุผลแยกแยะดีๆครับ ดูคนให้เป็น เพราะถ้าดูไม่เป็น มันจะซวยตามเขาได้
ตอนที่ ตะแถคด คึกฤทธิ์ กล่าวถึง พุทธเจ้าเองก็เป็นสัตว์ สังเกตดี ๆ คึกฤทธิ์เอามือชี้เข้ามาที่ตนเองคือ พุทธเจ้า..!
ฟ้าจะผ่าพุดเจ้าสิ😲
วินยฺ วินยฺ ฮ่าๆชั่งสังเกตุ
วินยฺ วินยฺ พระพุทธเจ้าเคยเป็นสัตว์แต่หลุดพ้นแล้วไง
แสง ตามจิตเจริญ คึกไม่ได้พูดอย่างนั้น ฟังดีๆ
การที่ฟ้าผ่าลงมา คนเราก็คิดได้ 3 แบบ ถ้าไม่เห็นด้วยกับ พอจ.คึกฤทธิ์ ก็บอกฟ้าพิโรธ ถ้าเห็นด้วยก็บอกฟ้าอวยชัย เห็นด้วย คนเป็นกลางก็เฉยๆ เป็นเรื่องของธรรมชาติ
ถ้าผ่าบ่อยขนาดนั้น ก็เป็นเพราะอำนาจทางจิตของผู้ใดผู้หนึ่ง เป็นแน่แท้ ถ้าเป็นไปด้วยอำนาจจากการทำฌาน งั้นก็จัดให้จัดหนักบ่อยๆไปเลย
ผมเคยทำให้สำนักชั่วอย่างของมันบ่อยครับ แต่ไม่เคยที่จะติดตามผล รอฟังข่าวถ้ามีอีกมีคนตาย ก็พิจารณาได้เลยครับ ว่าฝีมือผมแน่ เคยทำมาแล้วได้หามกันเลยทีเดียว คนนับร้อยตะลึง กรรมมันคงลงตัวพอดี หรือไม่ก็ บังเอิญ
คือว่าตัวเราเองไม่ได้เกลียดพระอาจารย์น่ะหรือว่าชอบภิกษุรูปใดรูปใดรูปหนึ่งก็หาไม่ แต่คำพูดที่พระอาจารย์บอกว่าพระพุทธเจ้าเป็นสัตว์นั้นใช้คำพูดผิดน่ะ พระตถาคตตรัสไว้ว่าพระองค์ไม่ยึดติดแล้ว จะเอาอะไรมาเรียกว่า พรหม เทวดา หรือมนุษย์ เพราะสัตว์ยึดติดอยู่ในขันธ์ทั้ง5 แต่พระผู้มีพระภาคไม่ยึดติดแล้ว จะเอาอะไรมาเรียกว่าสัตว์ จริงมั้ย?.
Alangkara Pikku ถูกครับ ในคลิปนี้ ประเด็นมีอยู่แค่นั้น ผมก็เข้าใจอย่างนั้น ว่าโลภะ ตัณหา ราคะ นันทิ ความติดข้อง กิเลสทั้งหลาย พระพุทธเจ้าดับได้เป็นสมุจเฉทแล้วครับ
พวกเธอทั้งหลายที่กล่าวดูหมิ่น พระอาจารย์คึกฤทธิ์ อย่าพยายาม ฟังไม่สับจับไปกระเดียด
Matthew Yung แล้วเข้าใจว่าไงครับ
หลงธรรมหนักครับ บิดเบือนคำสอน
ฟ้าลง ไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ตอนพูดเรื่องไม่มีตัวให้มันดับ คิดเอา ยังกล่าวถึงฟ้าเคยผ่าลงก่อนหน้านี้ด้วย ยังจะคิดว่าเป็นเรื่องดีอีก พากันพูดจาหัวเราะชอบใจ ไม่พิจารณาว่าเกิดอะไรขึ้น ความเชืเรื่องฟ้าผ่าไม้เคยได้ยินกันเหรอ จะมาชมว่ามฟ้าผ่าสว่างวาบเลยอพื่ออะไรครับ คนที่เข้าใจธรรมมากพอ จะไม่เปล่งคำว่า พระพุทธเจ้าก็เป็นสัตว์เช่นกัน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆก็แล้วแต่ สอบถามคร้บ ควรห่มจีวรป่าวครับ แสดงธรรมในชุดนี้ต่ิผน้าคนอยอะไอหมทะสมหรือไม่คร้บ
สมจริงดังที่พระพุทธองค์ทรงตรัส "ต่อไปภายหน้าภิกษุจะสนทนาว่าด้วยเรื่องการหลุดพ้น มรรคผลเป็นเรื่องตลกเฮฮา" !!
ตาล ยอดกุดหรือไม่นั้น ดูกันที่ผล ....
ท่านจะแสดงพระธรรม ที่พูดเน้นนักหนาว่า พุทธพจน์ แต่ทำไมท่านไม่เคารพพระธรรมเลย เทศนาแต่ไม่ห่มคลุมจีวรให้เรียบร้อยเลย ใส่แค่อังสะ คนมาฟังเยอะแยะ เหอะ
เทศน์ตลกคะนอง...ผิดพระวินัย...มั๊ย
ผุดเป็นตัวคือโอปกาติกะ...จะเปรตวิสัยหรือเทวดาดี...
อยากให้ทุกท่านฟังด้วยใจเปนกลางและฟังให้จบ คลิบนี้เหมือนตั้งใจจะสื่อให้คนเข้าใจผิดนะ ลองไปฟังคลิบเต็มนะ แล้วค่อยว่าติเตียนยังไม่สายครับ สาธุครับ ทุกคนที่นับถือพระพุทธเจ้า เรามีอาจารย์เดียวกัน อย่าทะเลาะกันนะ
ฟังจบ บิดอบือนครับ
ทำไมแสดงธรรมไม่ห่มจีวร แบบนี้ก็ได้เหรอ
องค์ชาย ไรสำนัก 😁😁😂
เมื่อท่านตำหนิอรรถกถา ท่านจะมาอธิบายทำไมคึก ให้เขาไปอ่านเองเข้าใจเอาเองสิ หนังสือพุทธวจนก้มี ปลาใหญ่ตายนำตื้นจิงๆ
ไร้สาระมากเป็นการให้ร้ายอย่างไร้เหตุผลและไม่มียางอายจ้องแต่จะทำลายกันฟ้ามันก็ผ่าของมันตามธรรมชาติครับที่ท่านพูดคือก่อนจะตรัสรู้พระพุทธเจ้าก็เป็นสัตหรือสัตตานัง(ผู้มีอวิชาเป็นเครื่องกั้นมีตัญหาเป็นเครื่องผูก)เหมือนกับเราแต่เมื่อท่านตรัสรู้แล้วความเป็นสัตก็หมดไปก็แค่นั้นเองและไม่ว่าจะเป็นมนุษย์เทวดาเปรตเดรัจฉานสัตว์นรกก็เป็นสัตกันหมดครับถ้ายังไม่ได้เป็นพระอรหันต์เอวังฯ
สันติ เซี่ยงเจ้น ก็ถ้ายังไม่ได้ถึงความเป็นพระอรหันต์ ก็ยังเป็นสัตว์ ก็ถูกแล้ว พระพุทธเจ้า เป็นใคร ไม่ใช่พระอรหันต์รึ ถึงได้พูดว่า ท่านยังเป็นสัตว์
คุณไม่คิดจะเข้าใจเลยนี่เนอะเลยทำตัวให้เข้าใจอะไรยาก
สันติ เซี่ยงเจ้น บังคับกันได้รึ จะเข้าใจว่าพระพุทธเจ้ายังเป็นสัตวยังมีโลภะ ตัณหา ราคะ นันทิ ก็ตามสะบายสไตคึกครับท่าน
รูปาทีสุ สญชตีติ สตฺโต
ก่อนหน้านี้ก็ผ่าจนสว่างวาบ ยังจะพูดเหมือนมีคุณวิเศษ ไปศึกษสคำโบราณด้วยว่า ทำไมฟ้าถึงผ่าคน ผ่าบ้านคน นี่ถึงขนาดผ่าที่วัด คนที่อขื่อเรืาองสิ่งศักดิ์สิทธิ์เขาจะไม่สงสัย แต่ลัทธิที่สอนไม่ให้เขืาอสิ่งศักเิ์สิทธิ์ยังไงพูดไปก็ไร้ความหมทย
สงสารคนจับผิด
น่าสงสารคงไม่พ้นอเวจีแน่นอน กรรมหลงทางกันแล้ว
มองอีกมุม..ท่านคงพูดได้ถูกต้อง เทวดาจึงแสดงอาการรับรู้ ผ่าน สายฟ้า น่ะ !
จริงๆ ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ฟ้าผ่าครับ ขึ้นหัวเรื่องแบบนั้นเฉยๆ แต่ที่สำคัญท่านคึกบอกว่า พระพุทธองค์ก็เป็นสัตว์นั้นไม่ถูกครับ
+แรม นาคา รับรู้ผ่านสายฟ้า??? ดีว่าไม่บันดาลให้ผ่าลงหัวกบาลพี่คึกด้วย 5555555555555555555555555555555555+
nuz wong 😂
แหม๋ ... นายก๊ !
พระอาจารย์พูด ก็ถูกแล้วหนิครับ เพราะก่อนที่พระพุทธเจ้าจะตรัสรู้ พระพุทธเจ้าก็เป็นมนุษย์ เหมือนกันครับ เพราะฉะนั้น สัตว์ ซึ่งมีอวิชชา เป็นปัจจัย จึงมีสังขารทั้งหลาย ครับ ส่วนเรื่องที่ฟ้าผ่า อย่าเอามาเกี่ยวกันเลยครับ เพราะฟ้าผ่า ก็เป็นเพียงปรากฎการณ์ทางธรรมชาติอย่างหนึ่งเท่านั้นครับ
hung940thailand ท่านคึกไม่ได้พูดว่า ก่อนตรัสรู้ ก่อนตรัสรู้นั้นใช่ ยังเป็นสัตว์ แต่ท่านคึกว่า พระพุทธเจ้าก็เป็นสัตว์ มันคนละอย่างกัน ถึงตรัสรู้แล้ว พระองค์ก็ยังเป็นมนุษ แต่เป็นมนุษที่ไม่มีกิเลส เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ไม่ใช่สัตว์ เพราะไม่มีกิเลสแล้ว
เป็นพระถือศีลอยู่ปฏิบัติเพื่อให้มีสติแค่ฟ้าฝ่ายังตกใจเลย ผู้ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบจิงๆเขามีสติเพื่อรอความตายเพื่อระรึกถึงความตาย
ฟ้าผ่าดั่งเป็นเหมือนคำเตือนจากสวรรค์
ีริลณี กิจวิจารณ์ 😂😂😃
เรื่องนี้อาจจะจริง ! ถ้าเป็นเราได้ยินเราก็รับไม่ได้ ถ้าเราเป็นเทพเทวาเราจะเปร่งอุทานว่า มลทินเกิดขึ้นแล้วหนอๆ....
หยุดเถอะทุกท่านหยุดการกระทำสิ่งนี้เถอะค่ะ ฟ้าผ่าครั้งนี้เปนครั้งที่2แล้วอย่าให้มีครั้งที่3
ตัดต่อคลิปเพื่อใส่ร้ายพระดีๆที่ทำตามคำสอนของพระพุทธเจ้าระวังนรกนะครับ
ท่านคึก พูดว่า 👉 เราก็เป็นสัตว์✔👉พระพุทธเจ้าก็เป็นสัตว์❌อ้างอิงในพระสูตรนี้นะครับว่า พระผู้มีพระภาค ตรัสตอบราธะ ว่าอย่างไร เหตุใดจึงเรียกว่าสัตว์ เหตุใดพระผู้มีพระภาคจึงไม่ใช่สัตว์👇"พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า ดูกรราธะ เพราะเหตุที่มี ความพอใจ ความกำหนัด ความเพลิดเพลิน ความทะยานอยากในรูปแล เป็นผู้ข้องในรูป เป็นผู้เกี่ยวข้องในรูปนั้น ฉะนั้น จึงเรียกว่า สัตว์เพราะเหตุที่มีความพอใจ ความกำหนัด ความเพลิดเพลิน ความทะยานอยากในเวทนา ... ในสัญญา ... ในสังขาร ... ในวิญญาณ เป็นผู้ข้องในวิญญาณ เป็นผู้เกี่ยวข้องในวิญญาณนั้น ฉะนั้น จึงเรียกว่า สัตว์..."นี่คือคลิปที่ผมอัพ👇 ua-cam.com/video/I-UYWs-fcY4/v-deo.htmlนี่คือคลิป ที่ผมโหลดมา เนื้อหา ความยาว เท่ากันไม่มีการ แก้ไข ดัดแปลงใดๆทั้งสิ้น👇นี่คือพระสูตร อ้างอิง 👇www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=17&A=4433&Z=4459
ທໍາອິດຄິດວ່າຟ້າຜ່າແລ້ງ
ขนาดฟ้าฝ่ายังไม่รู้สึกตัวอีกเวรกรรม
ใส่ร้ายผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบนรกรออยุ่นะคับ
รองปฏิบัติดูจะรู้ว่าจริงไม่จริงครับพระธรรมพระวินัยของพุทธองค์ของแท้นั้นทนต่อการเพ่งพิสูทธ์เป็นปัจจัตตังรู้เฉพาะครับ. สาธุ
Sawat Saut
ไม่ต้องพิสูตต้องเพ่งอะไรหรอกครับ ถ้ากล่าวหาว่า พระพุทธเจ้าเป็นสัตว์ ท่านว่าถูกต้องก็แล้วไป ประเด็นอยู่ตรงนี้
ຝົນຕົກຟ້າຮ້ອງຟ້າຜ່າ ມັນ ແມ່ນ ກ້ອນເມກທີມີ ບັນຈຸໄຟຟ້າ+ ກັບ+ມາ ຕໍາກັນ
มีแต่ผู้รู้ทั้งนั้น ไม่เห็นจะมีอาการเหมือนเป็นผู้ปฎิบัติสักคน ดำเนินไปบนรอยอะไรของคุณ โทสะ รับงับกันได้ดีนะเท่าที่ตามอ่านดูเนี่ย
jirun sommai
เป็นใครถึงจะละความโกรธได้ครับ😁
+ดำเนินไป บนรอยธรรม ๘๔๐๐๐ เป็นอนาคามีแบบพี่ครึกไง 55555+
+jirun sommai เป็นผู้รู้ก็ยังดีกว่าเป็นผู้หลง แต่คิดว่าตัวเองรู้ อย่างพระคึกนะจ๊ะ... ก่อนจะเป็นผู้ปฏิบัติใด้ ต้องเริ่มจากการมีความรู้ที่ถูกต้องเสียก่อน... ถ้าปากก็เอาแต่อ้างคำศาสดา แต่ในทางปฏิบัติถือแต่อัตตาตัวตนเป็นที่ตั้ง ถึงที่สุดแล้ว ก็จะต้องพังในไม่ช้า ไม่เชื่อให้คอยดูว่าอนาคตของวัดนาจะเป็นยังไง... 5555555555555555555555555555555555+
คนที่เคยลุ่มหลง คงเข้าใจดีขึ้นนะครับ
ถ้าไม่หยั่งลงมั่นในคำตแถคึกเกินไป ก็พอถอนขึ้นได้ ถ้าลึกไปแล้ว ยากครับ ถึงพูดผิด ก็เป็นถูก
ฟ้าผ่านฝนตก ฟ้าร้องเป็นปรากฎการณ์ ธรรมชาติ อย่างหนึ่ง สามารถเห็นไปทั่วไป อย่าตั้งประเด้นที่มันไม่เกี่ยวกับแบบมั่วๆนะ
alexsa mark
นึกว่ากล่าวหาพระพุทธองค์แล้วฟ้าผ่า😁😂
คลิปนี้สนุกมากหัวเราะกันท้องแข็งเลย 5555555555 ทั้งญาติโยมและพระอาจารย์ ขำกันทั้งวัด สนุกจริงๆๆๆ ไปเป็นคณะเลย ดูซิญาติโยมแน่นวัดเพื่อจะฟังธรรมะ ของพระศาสดา อิ่มในธรรมจริงๆ ไม่เห็นฟ้าผ่าใครตายสักคนเดียว ยังนั่งอยู่ครบ สาธุ สาธุ สาธุ
ฟ้าละอองดิน
ที่ฟ้าผ่า ฟ้าร้อง คนหัวเราะ สนุกสนานนั้น ไม่ใช่ประเด็น สำคัญอยู่ที่ว่า พระคึก กล่าวหาว่า พระพุทธเจ้าก็เป็นสัตว์ ซึ่งหมายถึงว่า ยังเป็นผู้ที่ยังมีกิเลส มีตัณหา ราคะ นันทิ ความติดข้อง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สมควร เพราะเหตุว่า ไม่เป็นความจริง
ได้ยินว่า ท่านบอกว่าพระพุทธเจ้าก็เป็นสัตว์ ท่านก็เป็นสัุตว์ หนู เข้าใจว่าสัตว์โลก ไม่ใช่สัตว์เดรั้จฉานนะคะ พระโพธิสัตว์ ก็ใช้คำว่า สัตว์นี่คะ กว่าจะมาเป็นพุทธะ เข้่าใจอย่างนั้น คุณ แปดหมื่นสี่ กรรมใดใครก่อใครทำ ก็เป็นไปกรรม กัม-มุ-นา-วัต-ตะ-ติ-โล-โก lสัตว์โลกเป็นไปกรรมที่ตนทำไว้ ก็เท่านั้นเอง สักวันไม่ว่ากรรมใครที่ทำไว้ จะมีให้เห็นในชาตินี้ ไม่ต้องรอชาติหน้า และที่เขาบอกว่าจะได้เป็นพระอรหันต์ เคยเห็นกันหรือยังไม่ทราบ พระอรหันต์ หน้าตาเป็นอย่างไร ไม่รู้หรอก รู้แต่ว่า ต้องทำแต่ความดี ไม่เบียดเบียนผู้อื่นให้เดือดร้อน หนูทราบดี่ว่าประเด็นที่เขามาลง ต้องการเน้นและจับผิดว่า ท่านในแต่ละคลิปทำไรไว้บ้าง ก็ดีค่ะ ทุกอย่างที่มาถกเถียงกัน เพราะคัมภีร์ทั้งนั้นค่ะ ไม่จบหรอกชาติไหนๆ ก็ ความรู้เราน้อยเพราะเราไม่ใช่สัพพัญญู ให้ผู้รู้ท่านเสวนากันเอาเองเถิด สาธุ
ฟ้าละอองดิน
ใช่ครับ พูดว่าอย่างนั้น พระพุทธเจ้า ไม่ใช่สัตว์ครับ ท่านคึกนั้นใช่ครับ ผมเองก็ใช่ครับ ถ้ายังเป็นผู้ที่ยังมีกิเลส มีความติดข้อง เรียกว่า สัตว์ครับ ไม่ได้หมายถึงเดรัจฉาน หมา แมว คำนี้ไม่ถูกไงครับ แต่มีบางท่าน ออกมาแก้ตัวแทนว่า ท่านคึกพูดว่า พระพุทธเจ้า ก็เคยเป็น สัตว์ อันนี้ถ฿กครับ แต่จริงๆท่านคึกไม่ได้พูดอย่างนั้น เจตนาจะพูด กล่าวตู่ ว่าพระพุทธเจ้าเป็นสัตว์ จริงๆแล้ว เมื่อถึงความเป็นพระอรหันต์แล้ว ดับกิเลสหมดเป็นสมุจเฉทแล้ว ไม่ใช่สัตว์แน่นอน ว่ากันตามที่พระพุทธองค์ตรัสรู้และทรงแสดงครับ ผมไม่ใช่พระอรหันต์
ค่ะ จะเก็บทุกอย่างไว้เป็นความรู้ สาธุ
ฟ้าละอองดิน
🙏🙏🙏
ใส่อังสะมาเทศให้ญาติโยมฟัง ดูไม่งาม
ผมก็ว่างั้นคนเบ
ฟ้ามันจะผ่าก็เรื่องของฟ้าเป็นธรรมชาติของมันไม่เกี่ยวไรกับพระคึก ผมว่าถ้าคนมีปัญญาหน่อยเขาจะเข้าใจที่พระคึกสอนพุทธวจน
Nut nuntawat แล้วทำมัยคนพวกนี้หาว่าฟ้าจะผ่าพระคึกริสเพราะพูดผิดละทำตัวไปหยั่งรู้ฟ้าดินอีกมองแบบเข้าข้างตัวเองนี่เกิดเป็นฟ้าอนุโมทนาสาทุดังเปรี้ยงขึ้นมาละไครจะไปรู้ใช่มั๊ยนี่อะไรมองโลกในแง่ร้ายจริงๆเลย
Nut nuntawat
ประเด็นคือ พูดผิด ถ้ามีปัญญา จะรู้ว่าพระคึกพูดผิดหรือถูก ใช่แล้ว
พุทธวจนะหนะดี แต่ทำไมถึงเอาคำของพระองค์ไปทำให้เพี้ยน ด้วยทิจฐิและคำพูดของตน.?!! ถ้าเราเป็นพวกเทพเทวาที่สถิตอยู่แถวนั้น เป็นเราได้ยินเราก็ไม่ยอมรับ.......คนต่อไปภายหน้าจะไม่ว่าผู้มีอิทธิฤทธิ์บรรดาลมีจริง(ก็คือคนในยุคนี้เอง) เช่นแผ่นดินไหวเป็นต้น ! ไหวด้วยธรรมชาติมี ไหวด้วยฤทธิ์มี ผู้กระทำฤทธิ์ได้ไม่ใช่หมายถึงมนุษย์บางคนเท่านั้น อสูร เทวดา นาค เหล่านี้ เขาจะเชื่อว่าเป็นไปตามธรรมชาติของโลกเท่านั้น.
สัด สัตย์ สัตว์ สัตต์ ทั้ง 4 คำ ออกเสียงเหมือนกัน เป็นสมมุติบัญญัติ พระพุทธเจ้าทรงออกจากสมมุติและบัญญัติแล้ว จึงไม่น่าจะมีทั้ง 4 คำเกี่ยวกับพระพุทธเจ้า เข้าใจว่า สัตต์ สัตตะ สัตตา สัตโต หรือ สัตตานัง เป็นอันเดียวกัน แปลว่า ผู้ข้อง คือ ข้องกับขันธ์ 5 หรือข้องกับนามรูป ปัจจุบัน ทุกคนอยู่ในลักษณะ จิต+ขันธ์5+ธาตุ4(กาย)
เมื่อตายไป ก็อยู่ในลักษณะ "จิต+ขันธ์5" รูปขันธ์ในขันธ์ 5 คือ กายละเอียด และกายหยาบ(ธาตุ 4) ว่าเฉพาะ
"จิต+ขันธ์ 5"ที่เป็นอยู่ทั้งเกิดและตาย เรียกว่า สัตต์ หรือ สัตตานัง พระพุทธเจ้าทรงเป็นพระองค์แรกในยุคพระพุทธศาสนาปัจจุบัน ที่นำจิตของพระองค์ จากที่เคยเป็น "จิต+ขันธ์ 5" ไปเป็น "จิตบริสุทธ์ิดวงเดียวล้วนๆ" แม้ทรงมีพระชนชีพอยู่ ก็เป็น "ขันธวิมุตติ"คือ จิตหลุดพ้นจากขันธ์แล้ว เมื่อถึงการมรณะ ก็ชื่อว่า "เสด็จดับขันธปรินิพพาน" จึงไม่มีคำที่บัญญัติหรือสมมุติใดๆเกี่ยวกับพระพุทธเจ้า
เมื่อพระคึกฤทธิ์
ผู้ไม่มีปริยัติบาลี ไม่ศึกษาอภิธรรม มิได้รู้จักโครงสร้างพระไตรปิฎก ประกาศตนเป็นผู้รู้ พระพุทธพจน์ ส่อเสียดนักเรียนบาลี นักเรียนนักธรรมว่าไม่เรียนพุทธวจนะ
ทั้งๆที่เอาพุทธพจน์มาจากพระไตรปิฎก ที่พระมหาทั้งหลายแปลไว้ ซึ่งประชุมสังคายนา
จนเป็นที่ยอมรับกันในหมู่สงฆ์แล้ว ซึ่งผิดกับแบนด์ พุทธวจนะ ที่เพียงแต่อ้างข้อมูลฝ่ายของตนเอาเอง
และยังไม่ได้รับการตรวจสอบ จากหน่วยงานหลายๆฝ่าย จนเป็นที่รับรอง และรับรอง ประกาศใช้กัน
คือการหยิบเอาเฉพาะส่วน ที่ขึ้นต้นด้วย ศัพท์ว่า “ ดูกร ” เป็นแต่คำพระตถาคต ส่วนธรรม
ที่อาศัยจดจำพระพุทธพจน์ แล้วนำมาแสดงต่อ แล้วกล่าวหา ตามความเข้าใจของตนว่า
เป็นคำแต่งใหม่ ต่อต้านและขัดแย้ง คัดง้างคำสอนทุกสำนัก แม้กระทั่งครูบาอาจารย์ตัวเอง
พระคึกฤทธิ์ เอาความคิดดั้นเดา
จากการหลงสังขาร ตามเข้าใจของตน มาเปิดเผย มาสอนผิดๆ การตีความพุทธพจน์ ของพระคึกฤทธิ์
เป็นการขโมย คำสอนของพระศาสดา มาเป็นของตน โดยการตัดแต่ง บิดเบือน และต่อเติม
จนผู้ที่ไม่ถ่องแท้ในคำสอน สับสน และเดินหลงทาง ไปกับคำสอนที่ หลุดโค้ง
จากอริยมรรค ( อย่างเช่นคำสอนในเรื่อง สภาวะนิพพาน ก็ไปยกประเด็น
ให้สภาวะนิพพานนั้น กลายเป็นสภาวะที่ เป็นอมตะ เป็นความไม่ตาย ซึ่งในความของสภาวะพระนิพพานนั้น
พระพุทธองค์ก็ทรงชี้ชัดแล้วว่า “ เป็นสภาวะของความ
สิ้นเชื้อและ ดับไป เป็นแต่เพียงสภาวะที่เป็นสันติลักษณะ เท่านั้น
ไม่ใช่สิ่งที่มีไว้ ให้ปรารถนา ที่จะปีนป่ายให้เข้าถึง แต่เป็นสภาวะที่
เมื่อปฏิบัติตามอริยะมรรคจนถึงจุดสูงสุดแล้ว สภาวะของความสิ้นเชื้อ และดับไป
นั้นจะปรากฏ ขึ้นเอง” ) พระคึกฤทธิ์ เป็นผู้ที่เข้าถึงความเป็น
มิจฉาทิฏฐิใหญ่ และแสดงธรรมโดย เอาสีลัพตุปาทาน ของตนเป็นที่ตั้ง โดย
การเอาข้อประพฤติวัต เอาพระธรรมคำสอน มาใช้เป็นอาวุธ เพื่อทิ่มแทงผู้ ที่กำลังเดินทางอยู่ตามเหตุ
ตามปัจจัย ในอินทรีย์ของแต่ละบุคคล (
ซึ่ง ความหย่อน หรือตึงของอินทรีย์นั้น มันขึ้นอยู่ที่มาสั่งสมบารมีมา ไม่เท่ากัน ) ซึ่งการกระทำ ของพระคึกฤทธิ์ คือการเป็นผู้ที่กำลังทำลายศาสนาของตัวเอง
เหมือนสนิมที่กำลังกัดกินเนื้อเหล็ก ( “ ไม่ทราบว่าจะเห็นไหม ”
ให้พิมพ์หัวข้อในยูทูบว่า / โยมช่วยถามให้ตรงคำตอบหน่อยสิ
เจริญพวง!!! เมื่อดูจบแล้ว ให้พิมพ์หัวข้อในยูทูบว่า / ฟ้าผ่าทันที แสดงธรรมผิดบิดเบือน จาบจ้วง กล่าวหาว่า พระพุทธเจ้า
ก็เป็นสัตว์ / แล้วจะเห็นตาม บทความที่ลงนี้
ไม่ใช่เป็นไปเพื่อการกลั่นแกล้ง หรือโจมตี ด้วยความไม่ชอบใจ แต่ เพื่ออยากให้มหาชน
ได้หูตาสว่าง และได้เข้าใจความจริง ว่าบุคคลผู้เป็นอริยะนั้น การกล่าว วาจาที่สัมผัปปลาปวาท
และกล่าววาจาสำรากนั้น ไม่เป็นฐานะ ของผู้มีสติบริบูรณ์ จะพึงกระทำ และเป็นไปได้ )
สิริภัทโท/
เมื่อพระคึกฤทธิ์ ผู้ไม่มีปริยัติบาลี ไม่ศึกษาอภิธรรม มิได้รู้จักโครงสร้างพระไตรปิฎก ประกาศตนเป็นผู้รู้ พระพุทธพจน์ ส่อเสียดนักเรียนบาลี นักเรียนนักธรรมว่าไม่เรียนพุทธวจนะ ทั้งๆที่เอาพุทธพจน์มาจากพระไตรปิฎก ที่พระมหาทั้งหลายแปลไว้ ซึ่งประชุมสังคายนา จนเป็นที่ยอมรับกันในหมู่สงฆ์แล้ว ต่อต้านและขัดแย้ง คัดง้างคำสอนทุกสำนัก แม้กระทั่งครูบาอาจารย์ตัวเอง
พระคึกฤทธิ์ เอาความดั้นเดา จากการหลงสังขารตามเข้าใจของตน มาเปิดเผย มาสอนผิดๆ การตีความพุทธวจนะ ของพระคึกฤทธิ์ เป็นการขโมย คำสอนของพระศาสดา มาเป็นของตน โดยการตัดแต่ง บิดเบือน และต่อเติม จนผู้ที่ไม่ถ่องแท้ในคำสอน สับสนและเดินหลงทางไปกับคำสอนที่ หลุดโค้งจากอริยมรรค ( อย่างเช่นคำสอนในเรื่อง สภาวะนิพพาน ก็ไปยกประเดน ให้สภาวะนิพพานนั้น กลายเป็นสภาวะที่ เป็นอมตะเป็นความไม่ตาย ซึ่งในความของสภาวะพระนิพพานนั้น พระพุทธองค์ก็ทรงชี้ชัดแล้วว่า “ เป็นสภาวะของความ สิ้นเชื้อและ ดับไป เป็นแต่เพียงสภาวะที่เป็นสันติลักษณะ เท่านั้น ไม่ใช่สิ่งที่มีไว้ ให้ปรารถนา ที่จะปีนป่ายให้เข้าถึง แต่เป็นสภาวะที่ เมื่อปฏิบัติตามอริยะมรรคจนถึงจุดสูงสุดแล้ว สภาวะของความสิ้นเชื้อ และดับไป
นั้นจะปรากฏ ขึ้นเอง” ) พระคึกฤทธิ์ เป็นผู้ที่เข้าถึงความเป็น มิจฉาทิฏฐิใหญ่ และแสดงธรรมโดย เอาสีลัพตุปาทาน ของตนเป็นที่ตั้ง โดยการเอาข้อประพฤติวัต เอาพระธรรมคำสอน มาใช้เป็นอาวุธ เพื่อทิ่มแทงผู้ที่ กำลังเดินทางอยู่ตามเหตุ ตามปัจจัย ในอินทรีย์ของแต่ละบุคคล ( ซึ่ง ความหย่อนหรือตึงของอินทรีย์นั้น มันขึ้นอยู่ที่มาสั่งสมบารมีมาไม่เท่ากัน ) ซึ่งการกระทำของพระคึกฤทธิ์ คือการเป็นผู้ที่กำลังทำลายศาสนาของตัวเอง เหมือนสนิมที่กำลังกัดกินเหล็ก
( “ ไม่ทราบว่าจะเห็นไหม ” ให้พิมพ์หัวข้อในยูทูบว่า / โยมช่วยถามให้ตรงคำตอบหน่อยสิ
เจริญพวง!!! เมื่อดูจบแล้ว ให้พิมพ์หัวข้อในยูทูบว่า / ฟ้าผ่าทันที แสดงธรรมผิดบิดเบือน จาบจ้วง กล่าวหาว่า พระพุทธเจ้า
ก็เป็นสัตว์ / แล้วจะเห็นตาม บทความที่ลงนี้
ไม่ใช่เป็นไปเพื่อการกลั่นแกล้ง หรือโจมตี ด้วยความไม่ชอบใจ แต่ เพื่ออยากให้มหาชนได้หูตาสว่าง และได้เข้าใจความจริง)
สิริภัทโท/
สาธุธรรมครับท่าน
ฟ้าผ่าเป็นเรื่องของธรรมชาติครับ แต่หลวงเพ่ใจเต้นตุ๊บๆๆๆๆ...
Yod Asoke
😅😅😂
+Yod Asoke จริงๆแล้วหลวงเพ่ใจเต้นเพราะอยู่ใกล้พยาบาลนะ ไม่เกี่ยวกับฟ้าผ่าอะไรนั่นหรอก อิอิอิ
ที่อื่นก็มีฟ้าร้อง ต่างจังหวัดหรือต่างประเทศก็มีเช่นเดียวกัน
ประเด็นคือ พระคึก บอกว่า พระพุทธเจ้าเป็นสัตว์ครับ คือยังมีภาวะของ ตัณหา ราคะ นันทิ ความติดข้อง กิเลส
ติเตียน อริยะ ชีวิตจะหาความสุข หรือทุกข์ที่แท้จริงไม่ได้ การประกาศตนแบบนี้แสดงถึงความเป็นผู้ไม่มีปัญญา นะคะ
ถ้าไม่ชอบ จะไม่ดูก็ไม่เป็นไร
แสง ตามจิตเจริญ
เป็นพุทธบริษัท จะปล่อยให้คนประเภทนี้ ทำลายคำสอน ก็เชิญ
พระทำผิดอารายยย
อย่าอ้างพุทธบริษัทเลย ก่อนอื่นต้องห่วงตัวเองก่อน ระวังนะ การกล่าวว่าผู้อื่น ถ้าเราใช้คำหยาบ ดูหมิ่นเสียดสีเสียดแทง บาปก็เกิดขึ้นกับเราเองนะคนที่ถูกด่าเขาก็ไม่มีกรรมอะไรเลย คิดดูแล้วกัน [๒๗๒] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย หากจะมีพวกโจรผู้มีความประพฤติต่ำช้า เอาเลื่อยที่มีด้ามสองข้าง เลื่อยอวัยวะใหญ่น้อยของพวกเธอ แม้ในเหตุนั้นภิกษุหรือภิกษุณีรูปใดมีใจคิดร้ายต่อโจรเหล่านั้น ภิกษุหรือภิกษุณีรูปนั้นไม่ชื่อว่าเป็นผู้ทำตามคำสั่งสอนของเรา เพราะเหตุที่อดกลั้นไม่ได้นั้น ภิกษุทั้งหลาย แม้ในข้อนั้น เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้ว่า จิตของเราจักไม่แปรปรวน เราจักไม่เปล่งวาจาที่ชั่ว เราจักอนุเคราะห์ผู้อื่นด้วยประโยชน์เราจักมีเมตตาจิตไม่มีโทสะในภายใน เราจักแผ่เมตตาจิตไปถึ่งบุคคลนั้น และเราจักแผ่เมตตาจิตอันไพบูลย์ ใหญ่ยิ่ง หาประมาณมิได้ ไม่มีเวร ไม่มีพยาบาทไปตลอดโลก ทุกทิศทุกทาง ซึ่งเป็นอารมณ์ของจิตนั้น ดังนี้ ภิกษุทั้งหลายพวกเธอพึงศึกษาด้วยอาการดังที่กล่าวมานี้แล.
พระพุทธเจ้า500ชาติ ก่อนที่จะมาเกิดชาติสุดท้ายนั้นพระองค์เคยเกิดมาเป็นอะไรบ้างครับ เพราะผู้ที่จะมาเกิดบนโลกนั้นทุกชีวิตต้องเรียกว่าสัตว์โลก... พระพุทธเจ้าไม่ได้เกิดจากการเนรมิตขึ้นมา แต่เกิดจากท้องพระมารดาเหมือนกับเราทุกๆคน และมีขันธ์ห้าเหมือนกันทุกประการ เพียงแต่องค์ท่านเป็นผู้มีสติปัญญาเลิศที่สุดในโลกและพิเศษกว่ามนุษย์ใดๆในโลก
ดังนั้นพระอาจารย์คึกฤทธิ์ท่านพูดนั้นไม่ได้พูดผิดแต่อย่างใด เพราะว่าการทำบาปนั้นอยู่ที่เจตนาและจงใจทำ แต่ถ้าทำถูกต้องและบริสุทธิ์ใจก็ไม่มีสิ่งใดๆจะทำอะไรได้
เราไม่ทราบคาวมเป็นจริง เพราะอะไรหนอฟ้าจึงผ่าเป็นเพราะเหตุอันได
Gdvg Fsgjtu
จริงๆเป็นเช่นนั้นครับ ไม่มีใครรู้เรื่องฟ้าร้อง ฟ้าผ่า แต่คำพูดท่านคึกที่ว่าตนพูดแต่คำพระพุทธเจ้านั้นจริงหรือ พระพุทธเจ้าก็เป็นสัตว์จริงหรือ
+Gdvg Fsgjtu ฟ้าผ่าเป็นเรื่องของธรรมชาติ แต่ประกาศธรรมผิดพลาดเป็นเรื่องของอวิชชา
nuz wong
👍👌
เขากล้าพูดออกมาได้อย่างไร ความคิดเห็นอย่างนี้อันตรายยิ่งนัก
😂🙌
ไปปฏิบัติธรรมมาพระอาจารย์เล่าให้ฟังว่า วันหนึ่งหลวงพ่อใหญ่มาเยี่ยม พระอาจารย์กุลีกุจอไปต้อนรับโดยมีแค่อังสะกับสบง โดยไม่ได้คุมจีวรเข้าไปนมัสการหลวงพ่อ ต่อมาพรรษานั้นได้กลับไปจำพรรษากับหลวงพ่อใหญ่เป็นสำนักปฏิบัติธรรม ปฏิบัติอย่างไรจิตก็ฟุ้งซ่านไม่หยุด ท่านจึงอธิษฐานสมาธิดูกรรมอะไรที่ทำให้จิตฟุ้งซ่าน ก็เห็นเป็นนิมิตรตัวเองใส่อังสะกับสบงถวายงานหลวงพ่อใหญ่อยู่ พอดีหลวงพ่อใหญ่ก็เทศน์เรื่องการไม่สำรวมเหมือนรู้วาระจิตท่านพระอาจารย์ ต่อมาพระอาจารย์ก็ขอขมาลาโทษคืนธรรมต่อหลวงพ่อใหญ่ จึงผ่านสภาวะจิตฟุ้งซ่านไปได้ สำหรับคึกไม่ต้องพูดถึงขนาดแสดงธรรมมันยังใส่แต่อังสะดีนะมันใส่สบงด้วย เสขิยวัตร 75 นั่นละจะเป็นเครื่องกั้นไม่ให้ถึงธรรม ตะแถคึกใบลานเปล่า ปริยัติงูพิษ
นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง คือสุขที่ไม่มีปัจจัยปรุ่งแต่ง นิพพานจึงเป็นอัตตาๆ คือกายหรืออมตะ ที่ไม่มีปัจจัยปรุ่งแต่ง(พ้นจากกฏของไตรลักษณ์ )คำว่ากายกับคำว่าอัตตานั้นมีความหมายเหมือน
กันต่างกันเพียงพยัญชนะ คำว่า กายและจิตที่เป็นวิสังขาร คือปราศจากสิ่งปรุงแต่ง มีหลักฐานในพระพุทธพจน์ ว่า ธมฺมกาโย อหํ อิติปิ เราพระตถาคตคือธรรมกาย หมายเอากายธรรมพระอรหัต ที่ไม่มีปัจจัยปรุงแต่ง (ไม่ใช่กายเนื้อ) และพระพุทธพจน์ที่ว่า เราแสวงหานายช่างผู้กระทำเรือนเมื่อไม่ประสบจึงได้ท่องเที่ยวไปในสงสาร มิใช่น้อย การเกิดบ่อยๆ เป็นทุกข์ ดูก่อนนายช่างผู้กระทำเรือน เราเห็นท่านแล้ว ท่านจักไม่ได้กระทำเรือนอีกต่อไป ซี่โครงทั้งหมดของท่าน เราหักเสียแล้ว ยอดเรือนเราก็กำจัดแล้ว จิตของเราถึงวิสังขาร (คือจิตปราศจากสิ่งปรุงแต่ง และคำว่า จิต ได้แก่ เห็น,จำ,คิด,รู้,หรือ เวทนา,สัญญา,สังขาร,วิญญาณ,) คือพระนิพพานแล้วเราได้ถึงความสิ้นตัณหาแล้วดังนี้(พอหมดตัณหากายกับจิตก็ปราศจากสิ่งปรุงแต่ง)
อนาคตต่อไป หุ่นยนต์จะเหมือนคนที่สุด ถ้าเป็นหุ่นยนต์ผู้หญิง สวยมาก หุ่นดี มีทุกอย่างที่ผู้หญิงมี
มีเหงื่อ มีกลิ่นกายหอมรัญจวนใจ ถ้าไม่บอกไม่รู้ว่าเป็นหุ่น ถ้าภิกขุมีเพศสัมพันธ์ด้วยจะผิดศีลข้อไหน
ตลก ฟ้าผ่าเป็นเรื่องของธรรมชาติ คลิปนี้สนุกดี เกือบตายกันหมดแต่ไม่มีใครตายหวะ รอด ดูซิขนาดฟ้าผ่ายังเฮฮาาแบบไม่กลัวตาย เพราะเขาศรัทธาคำพระศาสดา ยังอยู่ไม่มีใครถอยไปไหน ความตายสำหรับพุทธวจนแล้วไม่ใช่เรื่องใหญ่ เรื่องใหญ่คือ ขอบคุณที่มันตัดต่อคลิปมาให้ดูตอนนี้ อยากดูพอดี ชอบๆๆๆ
ฟ้าละอองดิน หรอ
ทำไมไม่ นุ่งห่มผ้าจีวรให้เรียบร้อย..
ห่ม อังสะ ก็เหมือนเรา นั่งถอดเสื้อนะ...
ภาสกร กุลจิรกรณ์
นี่หรือ สมณศากยบุตร ผู้มีอุปการะมาก
ภาสกร กุลจิรกรณ์
นี่หรือ สมณศากยบุตร ผู้มีอุปการะมาก
ท่านนำเรื่องราวในพระไตรปิฎกมาเล่าให้ฟังซึ่งผู้สนใจหาอ่านได้ซึ่งพระสาวกอรหันต์เรียกว่าธรรมภายนอก ถ้าปฏิบัติตามได้แล้วถึงเรียกว่าธรรมภายใน เป็นภูมิธรรมของผู้ปฏิบัติเป็นขั้นๆไปจะรู้ได้เป็นลำดับไป ส่วนผู้ที่จำคำสอนของพระพุทธเจ้าได้มากนำมาเล่าให้ฟังได้มากก็ไม่ได้หมายความว่าผู้นั้นต้องเป็นผู้บรรลุธรรมแล้วเท่านั้น ดังนั้นเมื่อได้ฟังสิ่งที่ไม่เคยฟังก็อย่าได้นึกตำหนิผู้อื่นว่าไม่รู้ธรรมหรือไม่เลิศเท่าเพราะอาจได้บาปมากกว่าบุญ
Sarirak Aitsara
ถ้าคึกรู้ธรรม ไม่มั่วขนาดนี้ เพี้ยนหนักนะ ชัดเจนขนาดนี้ยังหลับหูหลับตายกหางกันได้
ดําเนินไป บนรอยธรรม ๘๔๐๐๐ หมายถึงผู้ฟังคำอ.ศึกฤทธิ์แล้วคิดว่าเลิศกว่าพระสาวกอื่นๆซึ่งมีทั้งอริยสาวกและปุถุชน เพราะตอนนี้อาจมีบางคนกำลังคิดว่าอ.ศึกฤทธิ์เท่านั้นที่สอนถูกต้องที่สุด ซึ่งความจริงไม่ได้เป็นตามที่เขาคิด พระอรหันตสาวกตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันท่านปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้าจนบรรลุถึงนิพพาน ท่านมีอุบายวิธีต่างๆกัน ท่านก็สอนลูกศิษย์ตามวิธีของท่านจนสำเร็จมรรคผลพ้นทุกข์ตามท่าน ไม่มีพระอรหันต์ขัดแย้งกันว่าวิธีของคุณผิดของผมถูกเพราะถึงนิพพานเหมือนกันไม่ต่างกัน. มีการจารึกคำสอนของพระพุทธเจ้าเรียกว่าพระไตรปิฎกสืบทอดมาจนถึงปัจจุบันซึ่งผู้ใดปฏิบัติตามอย่างถูกต้องก็ได้มรรคผลเหมือนเดิมโดยครูอาจารย์คอยแนะพร่ำสอนด้วยความสงบเรียบร้อยเสมอมา อยู่มาวันหนึ่งมีผู้เข้ามาอ่านพระไตรปิฎกแล้วบอกว่าไม่ถูกต้องตามคำสอนพระพุทธเจ้า ที่ผ่านมาปฏิบัติกันผิดโดยไม่รับฟังผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญอื่นๆ ทำให้เกิดความเห็นต่างอันนำไปสู่ความขัดแย้งโต้เถียงกับศิษย์ของอาจารย์สำนักต่างๆซึ่งเป็นสาวกของพระพุทธเจ้าด้วยกันนับวันเริ่มขยายตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขอท่านผู้มีปัญญาจงไต่ตรองดูเถิด
ไม่มีพระสงฆ์รูปไหนที่อธิบายให้ปชชได้เข้าใจได้ดีเท่าพระอาจารย์คึกเลย ฉันหูตาสว่างเรื่องธรรมก็ตอนมาฟังท่านนี้แหละ ส่วนคนอื่นจะคิดอย่างไรก็ช่างเขาเถอะ มะอยากต่อล้อต่อเถียง ตัวใครตัวมัน มีให้ฟังให้เรียนรู้แล้ว ใครไม่สนใจก็ช่างเถอะ
ใช่คับตัวใครตัวมันแล้วละ
ความคิดเห็นส่วนตัวล้วนครับพระพุทธเจ้าก่อนบรรลุธรรมก็คือคนทั่วไป หรือในหัวข้อนี้จะเรียกว่าสัตว์ แต่เมื่อพระพุทธเจ้าลุธรรม แล้วจะเรียกว่าอะไร ก็ขึ้นกับความคิดของแต่ละคน ก็ไปดูในคำสอนว่าท่านกล่าวถึงพระองค์ว่าอย่างไร ถ้าถามคนธรรมดาอย่างเราๆก็ตอบตามปัญญาของตนเอง แต่เมื่อพระองค์ปรินพานแล้วพระองค์ก็ไม่กลับมาในสังสารวัตรนี้อีกแล้ว
ถ้าเปลี่ยนเป็นกำลังทำพิธีปลุกเสก... เด๋วมันก็โพสว่าขลังจริงๆ
Sodaban Buddhist
เดรัชฉานวิชา
จริง
สำนักวัดนาป่าพง ปทุมธานี คลองสิบ หมิ่นรอยพระพุทธบาท และพระบรมเดชานุภาพพระบรมวงค์ศานุวงค์
มั่นใจคนที่รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ต้องได้อ่าน ตอนนี้ สำนักวัดนาป่าพง ได้เดินทางเข้าสู่ การทำลายสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์อย่างเต็มตัวแล้ว ข่าวสารกำลังกระจายไปสู่พี่น้องเหล่าพุทธศาสนิกชนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ตามเพจต่างๆ เราเปิดเผยความจริง เราสู้เพื่อปกป้องรักษา พิทักษ์รักพระพุทธศาสนาและสถาบันของชาติบ้านเมือง ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือส่วนได้ส่วนเสีย ไม่มีการว่าจ้าง หรือ รับมีรับจ่าย หรือรับสิทธิ์สินบนใดๆ ให้กระทำการเปิดโปงหรือใส่ความใดๆแก่ สำนักวัดนาป่าพง หรือ อลัชชีคึกฤทธิ์ และศิษย์สำนัก มีแต่ความจริง กล่าวจริง ไม่มีข้อมูลอันเป็นเท็จ โจทก์จริง ด้วยโลกะวัชชะของเหล่าพุทธบริษัท ที่มีดวงตาไม่มืดบอด ไม่เคยตำหนิพระไตรปิฏกว่าไม่ได้เรื่อง ไม่สมบูรณ์ หรือไม่ดีอย่างหนึ่งอย่างใด เพราะอาศัยสติปัญญา มีความคิดอ่านพิจารณามากเพียงพอแก่การศึกษา ไม่ได้ตำหนิพระไตรปิฏก ไม่ได้ตำหนิพระสังฆราชและพระราชาคณะ ที่ทรงชำระพระไตรปิฏก แม้ฉบับหลวงก็ดี ฉบับสยามรัฐก็ดี หรือฉบับอื่นๆก็ดี ว่าเป็นชนรุ่นหลังแต่งคำปลอม ยัดเรื่องนอกแนวเข้าสู่พระไตรปิฏก
อย่างที่ คึกฤทธิ์ชาวคณะสำนักวัดนาป่าพงพูดและกระทำอยู่ในทุกๆวันนี้ โดยมีเจตนาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของบรรพกษัตริย์ จนถึงพระบรมวงค์สานุวงค์ในราชกาลปัจจุบัน และอาณาประชาราฏร์ ที่พระองค์ทรงอุปถัมภ์พระพุทธศาสนาจัดสร้างจัดพิมพ์มาโดยตลอด จนถึงเมื่อปี ๒๕๕๕ ฉลอง ๒๖๐๐ปี แต่สำนักวัดนาป่าพงประกาศจะเอาหนังสือ พุทธวจนปิฏก ซึ่งเป็นสัทธรรมปฎิรูป โดยแอบอ้างว่ารู้พุทธวจนกว่าผู้ใด ที่ไม่ถูกต้องในระเบียบการชำระ มาแทนที่พระไตรปิฏกในประเทศไทยและในโลก เป็นการทำลายสถาบัน ชาติและบ้านเมืองให้เกิดความวุ่นวายสับสนแตกแยกในบวรพระพุทธศาสนา และได้หลอกลวงกลุ่มพุทธบริษัท ที่ยังอ่อนต่อการพิจารณาศึกษา ในการเจริญในพระสัทธรรม ด้วยจิตที่เปรียบประดุจลูกโคอ่อนแรกเกิด ลืมตาขึ้นมา ไม่ได้เห็นแม่วัว ได้ไปเห็นเสือก็คิดว่าเป็นพ่อแม่ของตน จึงต้องตกเป็นอาหารของเหล่าพยัคฆ์ราชสีห์ไปดังนี้แล
ขอท่านผู้อ่าน ที่มาด้วยมิตรก็ดีไม่ใช่มิตรก็ดี โปรดพิจารณา ช่วยกันตักเตือนญาติมิตรสหาย และบุตรหลานของท่าน อย่าได้หลงเชื่อ สำนักที่สร้างสัทธรรมปฎิรูปนี้ เพื่อความพ้นภัยในวัฎสงสาร ขอให้ท่านทั้งหลายเจริญในพระสัทธรรมอันสมเด็จพระบรมหาศาสดาทรงตรัสไว้ดีแล้วนั้นเทอญฯ
ด้วยรักและปรารถนาดี
ว่าที่ พระธรรมบุตร
ขออนุโมทนาบุญฯ
เสขะ ปฎิสัมภิทา
🙏🙏🙏
"พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า ดูกรราธะ เพราะเหตุที่มี ความพอใจ ความกำหนัด ความเพลิดเพลิน ความทะยานอยากในรูปแล เป็นผู้ข้องในรูป เป็นผู้เกี่ยวข้องในรูปนั้น ฉะนั้น จึงเรียกว่า สัตว์
เพราะเหตุที่มีความพอใจ ความกำหนัด ความเพลิดเพลิน ความทะยานอยากในเวทนา ... ในสัญญา ... ในสังขาร ... ในวิญญาณ เป็นผู้ข้องในวิญญาณ เป็นผู้เกี่ยวข้องในวิญญาณนั้น ฉะนั้น จึงเรียกว่า สัตว์..."
www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=17&A=4433&Z=4459
ดําเนินไป บนรอยธรรม ๘๔๐๐๐
พระอาจารย์ท่านแสดงธรรมมาหลายครั้งแล้ว ในคลิปนั้นก็เป็นการแสดงกับลูกศิษที่ฟังประจำ การที่ท่านพูดลัดบ้างทุกคนก็เข้าใจ คุณจะจับผิดและนำมาเผื่อแพร่คนที่เขาไม่เคยฟังก็อาจเข้าใจผิด คุณกำลังเข้าข่ายใส่ร้ายผู้อื่นด้วยถ้อยคำที่ไม่จริง เจตนาคือกรรมนะคุณ คุณประเมิณได้หรือว่าพระอาจารย์เป็นอริยะบุคคลขั้นไหน ถ้าไม่ใช่ก็กรรมเบาหน่อยถ้าท่านเป็นจริง กรรมจะขนาดไหนผมไม่อยากจะคิดเลย อย่าพึงรับรองอย่าพึงคัดค้านให้เอาไปตรวจในพระธรรมและวินัยถ้าเข้ากันได้ลงกันได้ให้ถือเอาถ้าลงกันไม่ได้ก็ให้ละทิ้งเสีย แค่นี้ก็จบ ใช้เป็นหรือป่าวหลักมหประเทศสี่ ดีแต่พาลคนอื่นเขาจิตรใจยิ่งตกไปในฝ่ายอกุศล ถ้านี้ไม่ใช่คำสอนของพระศาสดาคุณไม่ต้องกังวนหลอก คนฟังเขามีปัญญาพอ
+ืnoname baba
คึกคือพระอรหอย ในช่องแคบครับ
+noname baba เป็นอรหอยในช่องแคบยังไม่เท่าไหร่... กลัวแต่จะกลายเป็นอรหันในช่องคลอดน่ะซี พี่คึก... เดี๋ยวจะยิ่งดังไปกันใหญ่
nuz wong
😂😂😂😁
คนที่นั่งๆฟังอยู่ เขาคิดว่า เขากำลังจะได้ไปอยู่พรหมโลก อกนิษฐาอะไรสักอย่าง
....
การกล่าวล่วงเกินพระรัตนตรัย ....ไม่มีผลเป็นสุข
ถ้าได้กล่าวไปแล้ว ควรขอขมาพระรัตนตรัย
แล้วสำรวมระวัง อย่าทำอีก
...
.
..
เขาคงเป็นเศษดินปลายเล็บมั้งครับ ถึงได้ทนนั่งฟัง ฝนตกไม่กลับบ้านกลับช่อง ไม่กลัวฟ้าผ่าตาย
ตามพจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
สัตว์ = “ผูติดของในรูปารมณเปนต้น” สิ่งที่มีความรูสึกและเคลื่อนไหวไปไดเองรวมตลอดทั้งเทพ มาร พรหม มนุษย์ เปรต อสุรกาย ดิรัจฉาน และสัตวนรก ในบาลีเพงเอามนุษย์กอนอยางอื่น, ไทยมักเพงเอาดิรัจฉาน
เจ้าชายสิทธัตธะ อาจถือว่าเป็นผู้ติดข้องในรูปปารมณ์
แต่ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านตรัสรู้แล้ว ผู้เทศนาควรใช้คำที่ถูกต้อง ชัดเจน เพื่อมิให้ผู้มีศรัทธา ผู้รับฟังเทศนา มีความเข้าใจผิด
และผู้เทศนา พึงระวังตน ให้มีสัมมาทิฐฐิ เป็นสำคัญ
สาธุ สาธุขอบพระคุณครับ
🙏🙏🙏
sunhakit chugumnord สาธุ สาวกคึกฤทธิ์จิงๆแล้วดีนะเพราะเชื่อคำพระพุทธเจ้าแต่คำที่ออกจากคึกฤทธิ์นี่นะสิมันไม่ใช่ทั้งหมดผู้คนที่ไม่รู้ก็พากันคิดว่าสิ่งที่คึกฤทธิ์พูดถูกต้องพากันไม่เชื่อเรื่องต่างๆที่มันถูกต้องจริงๆ
jeerapan singkaeo
😁😁😂
พระอาจารย์คึกฤทธิ์ท่านเทศน์ว่า ("...พระพุทธเจ้าเรียกทุกคนเป็นสัต_ พระพุทธเจ้าเองก็เป็น... ในเมื่อทุกคนเป็นสัต_คือผู้ยึดติด...ผู้ยึดติดคือใคร...ที่กำลังไปมีฉันทะ ราคะ นันทิ ตัณหา...")
//อาตมาเห็นว่าพระอาจารย์คึกฤทธิ์ท่านน่าจะพูดไม่ถูกนะ พระพุทธเจ้าพระพุทธองค์ไม่ใช่ผู้ยึดติดไม่มีฉันทะ ราคะ นันทิ ตัณหาแล้วนะ จึงไม่ใช่เหมือนทุกคนแล้วนะ จะใช้คำว่า"พระพุทธเจ้าเองก็เป็น___ไม่ได้เเล้วนะ" ไม่ควรอย่างยิ่ง จะกล่าวถึงพระพุทธองค์ผู้บริสุทธิ์สูงสุดควรระวังอย่างยิ่ง
เจริญพร
ปริเยศ ปัญญา
นมัสการครับ สาธุๆๆ🙏
ฟังครั้งเเรกก็ยังเข้าใจ เข้าใจว่า พระอาจารย์คง
หมายถึงก่อนพระองค์จะตรัสรู้ พระองค์ก็ยังเป็นผู้ยึดติดเหมือนเราทุกคน
ในคลิปกล่าวว่า เคยมีฟ้าผ่ามาแล้ว
อย่างน้อยหนึ่งครั้ง
เป็นการผ่าเสาต้นนั้น......
ท่านทั้งหลาย ควรมานั่งไตร่ตรองว่า
สิ่งที่ท่านกับลังทำนั้น ถูกต้องหรือยังไม่ถูก
....
การที่ฟ้าผ่ามากกว่าหนึ่งครั้ง มันไม่ใช่นิมิตดี
ที่จะมานั่งหัวเราะกันคิกๆคัก แล้วคิดว่าตนจะไปสุขดติ
...
😂😁😀
ฟ้าผ่ามันก็เป็นเรื่องธรรมดาของธรรมชาติไม่เห็นจะเกี่ยวกับที่ท่านสอนตรงไหนมิจฉาเยอะนะคุณ
พวกนี้ปฏิเสธของตาไม่เห็น เอาความมืดบอดของตนมาป้ายสีศาสนา ! พระพุทธองค์ตรสไว้แล้วว่า ตอไปภายหน้าหมู่มนุษย์จะไม่เชื่อว่าผู้มีอิทธิฤทธิ์บรรดาลมีจริง. จะเชื่อเอาแค่ว่าเป็นธรรมชาติเท่านั้น ! ตรัสไว้จริงๆ ไม่ต้องถามว่าพระสูตรไหน ตามันบอด มันก็คลำไปอย่างบอดๆ กล่าวตู่ไปหลายๆอย่างแล้ว....แถมเอาเรื่องมรรคผลมาหัวเราะกันลั่น......เป็นไปตามพุทธพยากรณ์.
+ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย ไม่มีใครทําลายได้ ใครบันดาลให้สมหวังคับขอหวยรางวัลย์ที่หนึ่งแต่เทวดาคงจะรู้หรอกนะคับพระพุทธเจ้าไม่ขอพรอ้อนวรในพระเจ้าเทวดาต้นไม้บัญญัติชัดเจนโสดาบันเลิกทำแล้วคับหาทางดับกิเลสคือความทุกข์อย่างเดียว
อ่อ โสดาบันเค้าคงยึดติดมากๆว่าเขาเป็นโสดาบันหละซิหนะ โถเอ้ย ประสาชื่อเฉยๆ..........อวดรู้ "สอนสังฆราช"!!! เตือนและชี้แนะด้วยคำหวังดีน่ะ...........ใช่แหละที่เธอกล่าวมาว่าไม่ควรอ้อนวอน ขอพร. แต่ ! เธอเก่งมาแต่ไหนไปด่าเทพเทวา? เธอวิเศษมาแต่ไหนไปประมาทเค้า? เทวาที่เป็นอริยมีตั้งแต่โสดาบันไม่น้อย ! พรหมที่เป็นอริยมี ! ประมาทได้หรือ ดูตัวเองนั่น อย่าอวดเก่ง อวดภูมิ ! ว่าตนนี่รู้นี่เก่ง อย่าคิดว่าคนอื่นไม่รู้อะไรซะเลย.....คนเค้าได้เค้าถึงจริงๆเค้าไม่อวดอะไรมากมายให้เหม็นขี้ฟันหรอก........พิจารณาตนเอง เชือตัวเองได้เหรอว่าบรรลุเป็นพระโสดาบันแล้ว? ถ้าได้แล้วก็ดีน่ะ เราขอโมทนา......
ใจคอไม่ดีเลยนะ หึหึหึ
vail vailor
😆😆😂
+vail vailor ไม่ตกใจจนโดดกอดพยาบาล ก็บุญเท่าไหร่แล้ว หึหึหึ
{ หากอาศัยรูป... เห็นเรา อาศัยเสียง... วอนเรา
บุคคลนี้คือผู้เจริญ มิจฉาธรรม ย่อมไม่อาจเห็นตถาคตได้...}
{ สังขตธรรมทั้งปวง ดุจฝัน..มายา..ฟองน้ำ..รูปเงา...
ดุจนิศาชล อสนี....ควรพินิจด้วยอาการอย่างนี้แล}
ความเข้าใจ 2 คำที่มีความหมายต่างกัน คือ คำว่า สัตว์ หมายถึง สัตว์เดรัจฉานในเดรัจฉานภูมิ และ สัตต์ หมายถึง ผู้ข้องกับขันธ์ 5 (จิต+ขันธ์ 5=สัตต์) เป็นคำเดียวกับ สัตตะ สัตตา สัตโต สัตตานัง พระพุทธเจ้าและพระอรหันต์สาวก ทำจิตให้หลุดพ้นจากขันธ์ 5 ได้แล้ว เรียกว่า ขันธวิมุติ จึงพ้นความเป็นสัตต์ และสัตว์ด้วย
Sukrip Lar
สาธุ สาธุครับ
🙏🙏🙏
นัมเมียวโฮเร็งเงเคียว
เหตุใดท่านเทศน์ไม่ครองจีวร เหตุใดฟ้าจึงผ่า เพราะท่านเปรียบเอาพระตถาคต ว่ายังเป็นสัตว์อยู่
samphan samrit เคยเป็นสัตว์แต่หลุดพ้นแล้วไง
แสง ตามจิตเจริญ
คึกไม่ได้พูดว่า เคยเป็น ฟังดีๆ ลิ้งใต้คลิปมี เต็มๆ กลับไปฟัง
พระพุทธเจ้าคือพระผู้เป็นอรหัน คำว่าอรหันในที่นี้ ถ้ามองในทางวิทยาศาสตร์ คือ ผู้อยู่เหนือแสง เหนือการเวลา พระพุทธเจ้าท่านทำอะไรก็แล้วแต่จะทำด้วยความเร็วที่คงที่ เพราะฉะนั้นท่านจึงอยู่เหนือแสง สามารถรู้ล่วงหน้าได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หรือสามารถย้อนอดีตกลับไปได้ เพราะคนเรามีเวลาเป็นของตัวเอง คนเรามีเงลาไม่เท่ากัน ไม่ใช้หมายความว่าเวลาโลก แต่หมายความว่าเวลาในจิตของเรา เช่น เวลาที่คุณมีความสุขเวลาช่วงนั้นจะผ่านไปเร็ว แต่เวลาที่ท่านเบื่อเวลาก็จะผ่านไปอย่างช้า ที่พระพุทธเจ้าสามาถรขึ้นไปโปรดเทวดาบนสวรรค์ได้ก็เพราะท่านสามารถเดินทางความเร็วเหนืองแสงไปได้จึงทำให้เหมือนว่าท่านเดินทางได้แปปเดียวแต่ความจริงแล้วเวลาที่ท่านไปมันเป็นแสนปีแสง ผมมองในมุมวิทยาศาสตร์นะครับ
มนุษย์ยังเป็นโลกียะ คิดว่าสัตว์เป็นคำหยาบ ถ้าเปลี่ยนบอกว่าพระพุทธเจ้าเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า
ตอบ ยังเป็น เพราะยัง หายใจ กินข้าว เจ็บป่วยได้ ความเป็นพุทธะ เป็นที่จิต ไม่ใช่ร่างกาย จิตของ
พระองค์เป็นอรหันต์ ถ้าถามว่าพระพุทธเจ้าเป็นเลิศที่สุดถูกต้องในทางโลกียะ แต่ถ้าโลกุตระ พระ
พุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์ ต่างก็ไปนิพพานเหมือนกัน จึงถือว่าเสมอกัน
สมชัย จิระพรกุล
เป็นมนุษแต่ไม่มีกิเลส ไม่เรียกว่าสัตว์ คำว่าสัตว์ไม่หยาบ เป็นคำเรียกผู้ที่ยังมีกิเลส ตัณหา ราคะ นันทิ ความติดข้อง พระพุทธเจ้าไม่มีแล้วครับ เรายังเป็นสัตว์ พระพุทธองค์ ไม่เป็นสัตว์ครับ
ถกทางธรรมนะครับ พระปัจเจกพุทธเจ้า ถ้าท่านละสังขาร ในป่า แล้วมีคน
ไปพบท่าน เขาไม่รู้ว่าท่านเป็นพระปัจเจกชาวโลกเห็นก็จะบอกว่า มนุษย์
ตาย ถามว่ามนุษย์เป็นสัตว์หรือเปล่าครับ คำว่ามนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐ
เพราะมนุษย์สามารถที่จะบรรลุธรรมได้ สัตว์ในทางโลกคือ คนที่หายใจ
กินข้าว เจ็บป่วย ร่างกายเน่าเปื่อย เหม็น และก็ตายได้ พระพุทธเจ้ายัง
เกิด แก่ เจ็บ ตาย ในชาตินี้ครับ แต่เขาจะไม่พูดกันเพราะท่านเลิศที่สุด
แล้วที่บอกว่าสัตว์ไม่หยาบก็ไม่จริง เพราะถ้ามีคนด่าว่าไอ้สั... เรายังโกรธ
ทั้งที่เราก็เป็นสัตว์จริงๆ แต่ถ้าด่าว่าไอ้มนุษย์ กับไม่โกรธ เพราะเรายัง
ติดโลกธรรม 8 อยู่ครับ
ถามใหม่นะครับ พระอรหันต์เป็นสัตว์หรือเปล่า พระอรหันต์มี 1.พระพุทธเจ้า
2.พระปัจเจกพุทธเจ้า 3.พระอรหันต์สาวก จิตของท่านเหล่านั้นก็ละกิเลส
เหมือนกัน ถ้าเราบอกว่าพระอรหันต์ยังเป็นสัตว์อยู่ เราจะพอจะยอมรับได้
จิตเป็นประธาน ไม่อยากก้าวล่วงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มันเป็นเรื่องสมมติ
ทั้งนั้นคุณ
สมชัย จิระพรกุล
facebook.com/groups/antikukrit/permalink/1857297487862843/
ผมไม่ใช่ลูกศิษย์ท่านคึกฤทธิ์ ผมเห็นประวัติเมื่อท่านเป็นฆราวาสเป็นถึง
พันตรีตั้งแต่ อายุ 29 เรียนเก่ง อาจารย์ท่านก็องค์หลวงปู่ชา การที่ท่าน อจ.
สอนลูกศิษย์อย่างนั้น โดยเน้นพุทธวัจนะ ผมดูที่เจตนา ท่านไม่ลบหลู่
พระพุทธเจ้า ท่านต้องการคำสอนของพระพุทธเจ้าโดยตรง ที่นี้เรื่องจะ
จบยังไงก็ให้เป็นหน้าที่ของพระผู้ใหญ่ ซึ่งถ้าสมัยพุทธกาล ก็ให้พระองค์
ตัดสิน ก็จบใช่มั๊ยครับ เราเป็นฆราวาสไปว่าให้ท่าน ถ้าเราถูกก็เสมอตัว
ถ้าผิดก็ถือว่าเราด่าลูกพระพุทธเจ้า การตีความทางธรรมนั้นลึกซึ่ง
หลวงตามหาบัวท่านเลยสอนธรรม ให้ฆราวาสตอนกลางวัน ถ้ากลางคืนท่าน
ก็สอนพระ ซึ่งหลักธรรมต่างกันมาก เหมือนวิชาเลข ตอนมัธยมต้นตอบแบบนี้
ถูก แต่พอขึ้น ม.ปลายถ้าตอบแบบเดิมถือผิด
ปุถุชน คำว่าเป็นสัตว์ ก็จะมองที่ร่างกาย ยังเป็นสัตว์อยู่ (เปรียบยังชั้นอนุบาล)
ถ้าสอนพระ พระอรหันต์หลุดพ้นจากสัตว์โลก ( ระดับปริญญา )
แต่ที่นี้ถ้าเราไปเรียนธรรมชั้นสูง มันก็ไม่เกิดประโยชน์ เหมือนให้เด็กอนุบาล
ไปเรียนแคลคูลัส เด็กมันก็ตอบแบบนกแก้วนกขุนทอง ดิฟโนนดิฟนี้แต่ไม่รู้
เรื่องอะไร ผู้ปกครองก็ดีใจตบมือ คุณไปอ่านในพระไตรปิฏก เปรียบหนังสือ
จบด๊อกเตอร์เลย ศีลห้าเรายังไม่ครบเลยบางวัน แล้วเราไปด่าพระที่ท่าน
บวชมาหลายสิบปี แล้วครูบาอาจารย์(หลวงปู่ชา) ก็สอนหลักธรรมให้ ไม่งัน
ท่านคงไม่บวช ถ้ามีสติแล้วมอง ตอนเป็นฆราวาส ท่านเป็นคนหน้าตาดี
ยศพันตรีตอนอายุ 29 จบนอก เป็นคุณคุณจะบวชตลอดชีวิตหรือเปล่า.
ธรรมเป็นสิ่งลึกซึ่ง คุณดูสมัยพุทธกาล พระเจ้าอชาตศัตรูได้ฟังธรรมจาก
พระพุทธเจ้า ไม่บรรลุธรรม เพราะมีจิตคิดฆ่าบิดา กรรมหนัก ผมฟังก็ถูก
แต่องคุลีมาลฆ่าคนตาย 999 คนที่พันคิดจะฆ่าพ่อแม่ พระพุทธเจ้าก็เลย
ไปหาเพราะกลัวจะเป็นกรรมหนัก(แต่ท่านก็คิดไปแล้ว) เห็นพระพุทธเจ้า
ก็เลยคิดจะฆ่าแทน(คิดฆ่าพระพุทธเจ้าหนักกว่าอีก) แต่สุดท้ายท่านเป็น
พระอรหันต์. ผมเป็นปุถุชนถือศีลห้าดีครับ
เจ้าคนที่โพสต์บิดเบือนคำว่าสัตต สัตตา สัตตานังไม่ใช่คำว่าสัตว์นี้จงเข้าใจใหม่ปรามาสผู้อื่นไปทำไม
ไร้ตัว ไร้ตน
ใช่ครับ แต่พระพุทธเจ้าไม่ใช่สัตว์
+ไร้ตัว ไร้ตน ถึงคนโพสท์คลิปนี้ จะบิดเบือนยังไง ก็ยังเทียบไม่ใด้แม้เศษหนึ่งส่วนร้อย ที่คึกริดพลิกลิ้น บิดคำของพระพุทธเจ้า ให้เข้ากันใด้กับความเห็นผิดของตัวเอง... ถึงคนโพสท์คลิปนี้ จะปรามาสผู้อื่นยังไง ก็ยังเทียบไม่ใด้แม้เศษหนึ่งส่วนล้าน ที่คึกริดปรามาสพระอรหันตสาวก ทั้งในยุคก่อนๆและในยุคปัจจุบัน จงเข้าใจเสียใหม่ แล้วกรุณากลับไปถามคึกริดด้วย ว่าจะลงทุนแผ้วถางทางลงนรกให้ตัวเองไปเพื่ออะไร... ถ้าเพียงเพื่อความสะใจ ที่ใด้ประกาศให้โลกรู้ ว่าตัวกูคือผู้ที่ใด้รับสัมปทาน ให้มีสิทธ์ผูกขาดคำสอนของพระศาสดาแต่เพียงผู้เดียว มันก็ไม่คุ้มนะ... หึหึหึ
ฟังแล้วครับ ท่านหมายถึงก่อนพระพุทธเจ้าก่อนตรัสรู้ ว่าตอนนั้นก็เป็นผู้ที่ยังติดข้อง (สัตตานัง) เอาคำว่าพ้องเสียงมาเขียน อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดนะครับ ฟ้าผ่า ฝนตก ลมพัด มันก็เป็นแค่เหตุธรรมชาติไม่มีใครดลบันดาลหรอกครับ อาเพศต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติไม่น่ากลัวเท่า อาเพศที่จิตของมนุษย์สร้างขึ้น
ฟ้าผ่าถึงบ้านแล้วยังพาไม่รู้ตัว
พหุธาตุกสูตร
ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้-
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ที่พระวิหารเชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี สมัยนั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเหล่านั้นทูลรับพระดำรัสแล้ว ฯ
พระผู้มีพระภาคได้ตรัสดังนี้ว่า "ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภัยไม่ว่า
ชนิดใดๆ ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้น ย่อมเกิดขึ้นแต่คนพาล ไม่ใช่เกิดขึ้นแต่บัณฑิต
อุปัทวะไม่ว่าชนิดใดๆ ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้น ย่อมเกิดขึ้นแต่คนพาล ไม่ใช่เกิดขึ้น
แต่บัณฑิต อุปสรรคไม่ว่าชนิดใดๆ ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้น ย่อมเกิดขึ้นแต่คนพาล
ไม่ใช่เกิดขึ้นแต่บัณฑิต ดูกรภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนไฟลุกลามแล้วแต่เรือน
ไม้อ้อ หรือเรือนหญ้า ย่อมไหม้ได้กระทั่งเรือนยอดที่โบกปูน มีบานประตูสนิท
ปิดหน้าต่างไว้ ฉันใด
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ฉันนั้นเหมือนกันแล ภัยไม่ว่าชนิดใดๆ
ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้น ย่อมเกิดขึ้นแต่คนพาล ไม่ใช่เกิดขึ้นแต่บัณฑิต อุปัทวะไม่
ว่าชนิดใดๆ ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้น ย่อมเกิดขึ้นแต่คนพาล ไม่ใช่เกิดขึ้นแต่บัณฑิต
อุปสรรคไม่ว่าชนิดใดๆ ที่เกิดขึ้น ทั้งหมดนั้นย่อมเกิดขึ้นแต่คนพาล ไม่ใช่
เกิดขึ้นแต่บัณฑิต
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ดังนี้แล คนพาลจึงมีภัยเฉพาะหน้า บัณฑิต
ไม่มีภัยเฉพาะหน้า คนพาลจึงมีอุปัทวะ บัณฑิตไม่มีอุปัทวะ คนพาลจึงมีอุปสรรค
บัณฑิตไม่มีอุปสรรค ภัย อุปัทวะ อุปสรรค ไม่มีแต่บัณฑิต ดูกรภิกษุทั้งหลาย
เพราะฉะนั้นแล พวกเธอพึงศึกษาไว้อย่างนี้เถิดว่า จักเป็นบัณฑิต ฯ
อ่านหลายความคิดเห่นล่ะไม่ใช่ปัญญาเลย พระอาจาคึกฤกธิ์ ความหมายของท่านน่ะคือ ก่อนพระพุทธเจ้าตรัสรู้เป็นสัมมาสัมโพธิญาณ ท่านก๊ยังเป่นพระโพธิสัตว์อยู่เข้าใจป่าว ความหมายท่านแบบนี้ พวกคุณไม่พิจารณาไห้ดี ไม่ได้เข้าข้างหรอก โถ่เก่งแต่ติเตียน
ทำไมพอพูดถึงพระพุทธเจ้าต้องชี้้เข้าหาตัวเอง ไม่ควร
บาปกรรมๆๆๆๆๆๆ
ผิด ไม่ถูกใจท่านที่อ่านตรงไหนก็ขออโหสิด้วยนะครับ
ท่านพลาดไปนิดนึง ตรงช่วงที่ "เราก็เป็นสัตว์ พระพุทธเจ้าก็เป็นสัตว" ท่านน่าจะพูดว่า " ชาติที่เคยสร้างบารมีผ่านมานั้น ท่านเองก็ยังได้ชื่อว่าเป็น พระโพธิสัตว์อยู่ " ถ้าพูดแบบนี้ฟ้าไม่ ผ่า ชัวร์
ปราณบุรีสอนขับรถยนต์ ออโต้-ธรรมดา ใช่ครับ พลาดไปนิดเดียว จริงๆ อันที่จริง ถึงไม่พลาด หรือพูดถูก ฟ้าก็อาจจะผ่าได้เหมือนเดิม ขณะนั้นฝนมันตก ฟ้าร้องอยู่แล้ว ประเด็นตรงที่ว่า พูดผิดนี่ล่ะครับ จะว่าพลาดหรือตั้งใจก็ตามแต่ ถือว่าคุยกันตรงประเด็นดีครับ สาวกท่านคึกคนอื่นๆ ออกมาแก้ตัวแทนหมด ไม่เห็นมีใครยอมรับว่าพลาดเลย
ขอบคุณครับ อ่อฝนตกเหรอครับผมไม่รุ้จิงๆ
บาปกรรมมากยังไม่สำนึกอีกเดียวดับหมู่
Utit Pasonthi
😁😁😅
ตอนฟ้าผ่าเสร็จบอกถ้าตายเพราะฟ้าผ่าจะไปฟังธรรมชั้น อะกะนิฏฐา แสดงว่ามีแต่พระอนาคามีนั่งอยู่ตรงนั้น ว้าววววๆๆๆๆๆๆๆๆขนาดนั้นเลยเหรอท่านคึกคัก
คนเลี้ยงวัวคนหนึ่ง รีดนมจากวัวของเขา
จากนั้น เขาได้ฝากนม ไว้กับเพื่อนที่เขาไว้ใจหนึ่งคน แล้วจาก ไป เพื่อนของเขา บีบมะนาวแล้วใส่นม
ทำให้กลายเป็นนมข้น จากนั้นแล้ว ก็เอามาทำ จนกลายเป็นเนย เมื่อคนเลียงวัว
กับมาเห็นนม ที่กลายเป็นเนย แต่เพื่อนของเขานั้น อ้างว่าเนยเป็นของตัวเอง
ท่านจะสำคัญ ความข้อนั้นเป็นไฉน ?
ถ้าหากไม่มีนมตั้งแต่แรก
มันจะมีเนยได้อย่างไร พระพุทธเจ้าของเรา ท่านทรงตรัสรู้ และงดงาม ท่านทรงตรัสสอน
ความจริงอันสูงสุด ให้แก่ทุกคน และไม่เคยอ้างถึงสิทธิ์ อะไรในความรู้
ความจริงอันสูงสุดนั้น พระองค์ทรงตรัสแต่ว่า “ เราตถาคตเอง
เป็นแต่เพียงผู้บอกทาง แต่ที่เหลือพวกท่าน ต้องเดินไปตามสายเอก เส้นทางนั้นเพียง
ลำพังผู้เดียว ”
ในยุคกาลสมัยปัจจุบันนี้ ได้มีการหยิบยกเอา พระธรรมคำสอน ใจความสำคัญในพระศาสนา มาแอบอ้างว่าเป็นคำสอนจากพระพุทธพจน์ โดยการหยิบพระสูตร ใจความความบางตอน ขึ้นมาอ้าง แต่..... เนื้อหาภาย ในนั้น ได้มีการ ตัด เสริม เติมแต่ง บิดเบือนพระพุทธพจน์ ถ้อยความบางคำ ตามความเห็นของตน ลงไปในเนื้อหา ของพระสูตร โดยการเลี่ยงคำบางคำไป ( อย่างเช่น คำว่าพระพุทธดำรัสที่ทรงตรัส โดยการเปลี่ยนเป็นมาใช้คำว่า พุทธวจนะ ) ซึ่งดูเผินๆแล้ว ก็ไม่ได้แตกต่างกันตรงไหน แต่ในความเป็นจริง เป็นบัญญัติศัพท์ขึ้นมาใหม่ โดยนำมาใช้เป็นเเบรนด์ของตน เพื่อหาผลประโยชน์ ในด้านชื่อเสียง ลาภสักการะ และยังได้ใช้หลอกลวง เป็นการค้าบุญ โดยการเรี่ยรายบอกบุญโดยอ้างว่า จะเอามาพิมพ์เป็นหนังสือ เพื่อพิมพ์แจกเป็นธรรมทาน แต่เมื่อได้ปัจจัยนั้นมาแล้ว กลับไม่มีการแจก ซ้ำร้ายไปกว่านั้น หนังสือที่พิมพ์ออกมานั้น ยังได้มีการจำหน่าย ให้กับผู้ที่ต้องการโดยการสั่งจองอีกด้วย ซึ่งนั้นไม่ตรงกับ การฎีกาบอกบุญในเจตนาเดิม “ ดูกร กสิภารชวารพราหมณ์ เราไม่บริโภคโภชนะที่ เปรียบเสมือนหนึ่งว่า แสดงธรรมเป็นค่าจ้างแล้วได้มา ข้อนี้ ไม่ใช่ธรรม ของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ผู้เห็นอยู่โดยชอบ พระพุทธเจ้าทั้งหลาย ย่อมทรงห้ามโภชนะที่ขับกล่อมได้มา ”
และที่เป็นปัญหาก็คือ
ในคำสอนที่บิดเบือนนั้น จะกระทำให้ผู้ที่มาใหม่ ที่ยังไม่ได้เข้าใจ
หลักของเส้นทางนั้น หลุดโค้งจากทาง สายเส้นอริยะ ( อัฏฐังคิมรรค )นี้ได้ง่ายๆ
โดยเพราะความไม่รู้ เขาเหล่านั้นจะ หลงคล้อยตามคำสอนที่บิดเบือนนั้น ซึ่งนั่นก็คือ
ความเสียหายอย่างใหญ่ หลวงต่อมหาชนที่ตามมา และที่สำคัญ อายุกาลของพระศาสนา ในบ้านเมืองของเรา
ก็จะเสื่อมถอยไป ก่อนที่จะถึง 5,000 ปี
และยังมีอีกกรณีหนึ่ง
อยากขอให้ช่วยตรวจสอบด้วย คือว่ามี การเผยแผ่ธรรมะในยูทูบ อีกคนหนึ่ง เขาคนนั้น
เผยแผ่ธรรมะโดย การอ้างตัวว่าตัวเองนั้นจบกิจในพระศาสนาแล้ว และคำสอนของเขานั้น
จะมีหลักอยู่ในสูตร หลักมหาประเทศ, วัชระสูตร ( ความคิดคือมายา )
และยังผสมกับคำสอนแบบ เซนอีกด้วย
แต่เขาพยายามเลี่ยงถ้อยคำที่เป็นหลักคำสอนในนั้นอยู่ โดยการกล่าวลบลู่
ไม่เชื่อในคุณครูบาอาจารย์ ไม่เชื่อในทสพลญาณของพระพุทธเจ้า ว่ากล่าวตำหนิสงฆ์
พร้อมกับทั้งขู่ให้กลัวในการที่จะสาปแช่งเขา ถึงโทษหนักในการการอกุศลกรรมบถกับพระอรหันต์
ในการแสดงธรรมนั้น ยังได้มีการกล่าวถ้อยคำอันหยาบโลน เป็นว่าเล่น
ซึ่งการกระทำดังกล่าวนั้น ก็จะอยู่ในทำนองที่กล่าวข้างต้น คือการ
ขโมยคำสอนแล้วก็เอามาบิดเบือน สร้างความเชื่อแบบใหม่ให้มหาชน ได้หลงเชื่อ
การกระทำดังกล่าวนั้น หากจะเป็นการตั้งลัทธินิกาย อะไรใหม่ๆ ก็ไม่ได้ว่าอะไร
แต่นี่ เป็นการเอาพระพุทธศาสนาเข้ามาเป็นหลัก
ซึ่งการกระทำอย่างนั้นจะเป็นอันตรายกับพระพุทธศาสนาในบ้านเมืองของเรา จึงอยากฝาก
หน่วยงานโดยตรงเข้าไปตรวจสสอบด้วย ( เขาอ้างว่า เขาเป็นพระอรหันต์ ปฏิสัมภิทา
แต่เมื่อเราเอาหลักพระโสดาบันไปเช็คดู เรากลับเห็นว่าเข้ากันไม่ได้ เขาพูดถึงเรื่อง
การทำสมาธิการเข้าฌาน แต่ในส่วนละเอียดของฌานนั้นเขาว่ามันไม่มี (
พิมพ์ในยูทูบว่า..... อาจารย์แดง กีร์ต้าหมดฤทธิ์ )
สิริภัทโท/
น่าจะผ่ากลางกระบาลคึกฤทธิ์
5555+
555++
ไอ้คนลงคลิปนี่มันฟังอะไรไม่ค่อยเข้าใจนะ อายุเท่าไหร่ ฟังอะไรไม่ฟังทั้งประโยค ทั้งเรื่อง สรุปเอาคำบางคำมาตัดต่อ.ห้คนดจ้าใจผิด
littlebug cuit
😁😁😂
คงจะขาดรายได้จากการขายพระมั้ง ใครจะรู้ ผมเดาเอานะ
Nino Iris คิดเหมือนกันเรยรึเขียนหนังสือธรรมขายรึป่าว จิงพระอองนี้ก้ทำพุทธวจนมากนานแร้วนะ ยังไม่เหนเปนไรเรย ยุเฉยสบายๆๆ มีแต่คนที่โจมตี ท่ดิ้นทุรนทุบายไปเอง
ทำมัยแต่ละคอมเม้นหยาบลามกจัง อ่านแล้วก็สงสาร ไม่รู้เลยว่าตนได้จุดไฟเผาตนไปแล้ว
การแสดงธรรมแก่อนุปสัมบัน ทั้งหมวดธรรมนี้ก็เกี่ยวข้องกับอภิธรรม ท่านควรสำรวมกาย วาจา ใจมากกว่านี้ครับ นิมนต์ถ้าท่าน หรือลูกลูกศิษย์ อ่านคลิปและกระทู้ นิมนต์ไปสวมจีวร
ไม่ควรเทศน์ด้วยอังสะ การใช้วาจาในหมู่ธรรมนี้ควรเป็นไปด้วยมีใช่อาการหรรษา เป็นอาการไม่สำรวมยิ่ง
สมมุติต้องบอกว่าเจ้าชาย สิทธัตถะ ยังเป็นสัตว์ เหมือนพวกเรา เหตุเพราะยังไม่ได้บรรลุอรหันต์ ยังสามารถเวียนว่ายตายเกิดได้อีก แบบนี้ใช่มั้ยครับ เพราะถ้าใช้คำพูดพูดว่า "พระพุทธเจ้า"นั่นหมายถึงท่านพ้นจาก วัฏสงสารแล้ว จะบอกว่าท่านเป็นสัตว์ จึงดูไม่ควร ผมเข้าใจถูกมั้ย
ก็จงจำไว้ ว่าคนที่เขียนข้อความนี้ขึ้นมา เป็นผู้ต้องวิมุตติ และเป็นผู้ทุศีลตามกาล เป็นผู้มีราคะกล้าตามกาล เป็นผู้มักโกรธตามกาล เป็นผู้ฟุ้งซ่านตามกาล แต่เป็นผู้ต้องวิมุตติ
อดีตชาติ เป็นผู้ครองปราสาทมุกสวรรค์ทั้งชั้นฟ้าก็ดี เป็นพระภิกษุในสมัยพุทธกาลชื่อว่า พระราชปาลก็ดี
เป็นผู้รู้เห็นธรรมตามธรรมโดย ปฎิสัมภิทา เสกขภูมิ มีหน้าที่ ปกป้องรักษา อภยปริตร และ มหาสุบินชาดก ตามกาล ที่ถูกทำลายโดย คึกฤทธิ์แห่งสำนักวัดนาป่าพง
จำเอาไว้ใส่กระโหลกเสีย พวกสำนักวัดนาป่าพงที่สร้าง สัทธรรมปฎิรูป ลบหลู่ดูหมิ่นครูบาอาจารย์
ตายกันสนั่นหวั่นไหวทั้งสำนักเพราะโดนธาตุทัณฑ์หรือ ไพรีพินาศ จนต้องขายโปรตายด่วนผิดวิสัยมรณะ ๔ ตายตัวเหลืองให้ลูกศิษย์ ฮ่าๆ ยังไม่รู้ตัวกันอีก !!
จงพังพินาศไปเสีย สัทธรรมปฎิรูป
เรื่องธรรมะของพระพุทธเจ้าหมาไม่เกี่ยว เพราะหมาเป็นสัตว์ เป็น เดรัจฉาน พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า สัตว์หรือเดรัจฉานบรรลุธรรมไม่ได้ จึงไม่แสดงธรรมให้สัตว์เรื่องธรรมะของพระพุทธเจ้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ มนุษย์ เทวดา พรหมณ์ ล้วนก็เป็น สัตน์ ทั้งนั้นมนุษย์ เทวดา พรหมณ์ เป็นสัตน์โลก สามารถบรรลุธรรม นิปพานได้หมู หมา กา ไก่ ฯลฯ ล้วน เป็น สัตว์โลก ไม่สามารถบรรลุธรรม นิปพานไม่ได้สาเหตุ ที่ ทำ ให้ คน ฟัง ธรรม ไม่ เข้า ใจ เพราะ การ บัญญัตคำิ จาก บาลี-ไทย นั้น เอง เช่น คำ ว่า ตรัสรู้ ดันไปแปลว่า รู้ได้ด้วยตนเอง ที่ถูกต้องหมายถึง พูดเรื่องที่รู้จริง ส่วนปัตจัตตัง หมายถึงรู้ได้ด้วยตนเอง และอันนี้สำคัญยิ่งยวด คือคำที่มีความหมายตรงข้ามกับคำว่า ทุกข์ คือ สุกข์ ไม่ไช่ สุขเพราะ ทุกข์ คือ เวทนา คือทุกขเวทนา + สุขเวทนา + อทุกขอสุข(อุเบกขา)+สัญญา+สังขาร+วิญญาน+รูป-นาม ส่วน สุกข์ คือ แห้ง, แล้ง หรือ ความว่างอย่างยิ่งยวด คือวิมุต คือนิปพาน สรุป...สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงรู้แจ้งเห็นจริง(ตรััสรู้)เรื่อง วิธีการดับทุกข ์ จึงบอกสอนสัตน์ทั่งหลายด้วย อริยสัจธรรม คือ มรรค ด้วยอนิสงค์จาก ภาวนามัยปัญญา ช่วยให้สัตน์เป็นสุกข์ คือสภาวะนิปพาน นั่น เอง " นิปพานัง ปะระมัง สุกขัง " แปลไทยว่า " นิปพานเป็นบรมสุกข์ " สรุป..เรื่องธรรมะของพระพุทธเจ้าหมาไม่เกี่ยว เพราะหมาเป็นสัตว์ เป็นสัตตะวัง เป็น เดรัจฉาน เป็นสัตว์โลก แต่..ในกาลสมัยพระพุทธเจ้ากำลังทรง่แสดงธรรมเพื่อโปรดสัตน์ แล้วบังเอิญมีสัตว์มาได้ยินได้ฟัง และแอบเงี่ยหูฟังด้วยความตั้งใจ ท่านก็ยินดี เพราะอนิสงค์ในการได้ฟังธรรมไม่ยกเ่้ว้นแม้เดรัจฉานกล่าวคือทำให้เวลาในการถูกจองจำอยู่ในอบายภูมิของสัตว์นั้นสั้นลงหมู หมา กา ไก่ ฯลฯ...คือ สัตว์ สัตตะวัง เป็นเดรัจฉาน สัตว์โลกทั้งหลายมนุษย์ เทวดา พรหมณ์...คือ สัตน์ สัตตะนัง สัตน์โลกทั้งหลาย เป็น วิมุตติญานทัศนะ ความว่างอันบิ่งยวด นิปพาน สติ จิตเกษม อมตะธรรม หลังจากประสบความสำเร็จด้วยการฝึกตน(สติ สัตตะ สัตตา สัตตะนัง สัตตานัง) "อนุตตะโร ปุริสทรรมะสาระถิ " แปลไทยว่า... พระ พุทธเจ้า เป็น สารถี ผู้ฝึกคน(สัตน์) ที่ต้องฝึกไม่มีใครยิ่งกว่า.เขียนให้ถูก บัญญัติให้ถูก บาลี-ไทย ไม่ งั้น คำของพระพุทธเจ้าจะขัดกันอยู่รำ่ไปเมือ่ฟังเกจิอาจารย์ที่ประมาทพูด เช่น ที่พบบ่อยไม่ว่าพูดหรือเขียน คือ เอา ทุกข ์กับความทุกข์มารวมเป็นตัวเดียวกัน แล้วเอาทุกข์ กับความสุข แยกออกจากกัน กล่าว คือ ทุกข์ กับความทุกข์หรือทุกขเวทนา ความหมายไม่เหมือนกัน แต่เป็นพวกเดียวกันคือเป็นทุกข์ ในส่วนของความสุขหรือสุขเวทนาก็เป็นทุกข์เป็น พวก เดียว กัน คือ เป็นสังคตะธรรม เป็นธรรมดาที่เปลี่ยนแปลงได้
Bhuvadol Wisavarakul
ปัตจัตตัง รู้ได้เฉพาะตน ไม่ใช่ตรัสรู้ ประเด็น ไม่ได้หมายถึง สัตว์ เดรัจฉาน แต่หมายถึง ผู้ข้อง ติดข้อง ผู้ที่ยังมีกิเลส ตัณหา ราคะ นันทิ โลภะฯ ซึ่งไม่ใช่พระพุทธเจ้า แต่ผู้แสดงธรรม บอกว่า พระพุทธเจ้า ก็เป็นสัตว์ หมายถึง ยังมีกิเลสอยู่ ซึ่งไม่เป็นความจริง
ปัตจัตตัง รู้ได้เฉพาะตน รู้ได้ด้วยตนเอง หมาย ถึง ไม่ต้องมีคนสอน ไม่ต้องมีอาจารย์ ธรรมะปัตจัตตัง เกิดขึ้นได้กับสัตน์โลกทั้งหลาย โดยการฟังธรรมะ เรียก สุตมัยปัญญา โดยการมะโนใคร่ครวญธรรมที่ถูกต้อง เรียก จิตมัยปัญญา และโดยการปฏิบัติธรรม เรียก ภาวนามัยปัญญา ความรู้เฉพาะตน รู้ได้ด้วยตนเอง ด้วยการปฏิบัติด้วยตนเอง ไม่ต้องมีอาจารย์ ดังนั้นพระพุทธเจ้าจึงเป็นศาสดา ต่อมาเมื่ออนิจจังสังขาราพุทธเจ้า มีผู้นำความรู้ของพระพุทธเจ้ามาบอกต่อ เรียกผู้บอกต่อว่า สาวก
เอาละ...ผู้ี่ที่ รู้ได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องมีใครสอน เรียกว่า ศาสดา
ผู้ที่นำความรู้ของศาสดามาบอกต่อ เรียก ว่า สาวก
ประเด็น คือ คำ ว่า สัตว์ กับ สัตน์ แตกต่างกันอย่างไร?
สัตว์ คือ สัตตะวัง คือ สัตว์ โลก สัตว์ เดรัจฉาน แปลว่า ไม่สามารถบรรลุธรรม เพราะวิบากกรรม
สัตน์ คือ สัตตะนัง คือ สัตน์โลก พระ พุทธเจ้า ตรัส ว่า สิ่งๆหนึ่งที่อะวิชชาเป็นเครื่องกั้น มีตันหาเป็นเคื่องร้อยรัด ทำให้ไปหลงเพลินติดไปกับวิญญาน คุณสมบัติของวิญญานคือ เกิด-ดับ ด้วยความเร็วแสง ตั้งอยู่กับธรรมชาติเดิมคือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร สี่ตัวนี้เรียกขันธ์สี่ เป็นทุกข์ เกิด- ดับ ตามวิญญานู
พระ พุทธเจ้า ท่าน ตรัส ว่า ท่าน รู้ วิธี(ตรัสรู้) การไม่ให้สัตน์ไปเพลินไปกับวิญญาน คือ อริยะ อัตถัง จิกกะมรรค
แปล ว่า แปดทางอันประเสริฐ นิโรตะคามะนิปฏิปทา การปฏิบัติเพื่อดับไม่เหลือทุกข์ทั้งปวง
ประเด็น คือ คำที่ความหมาย ตรงกันข้ามกับ ทุกข์ คือ สุกข์ ไม่ใช่ สุข
ตัว อย่างเขียนผิด โลกธรรมแปด ประกอบ ด้วย....
ยศ - เสื่อมยศ
ลาภ - เสื่อม ลาภ
สรรเสริญ - นินทา
ทุกข์ - สุข ✋
ตัว อย่างเขียนถูก โลกธรรมแปด ประกอบ ด้วย....
ยศ - เสื่อมยศ
ลาภ - เสื่อม ลาภ
สรรเสริญ - นินทา
ทุกข์ - สุกข์👌
สรุป... ทั้ง สัตน์ และ สัตว์ ล้วนแต่ ชอบสุขเวทนา เกลียด ทุกขเวทนา นี้เป็นเรื่องไม่ต้องสอน เป็นสัญชาติญาน
ถามว่าทำไม คำ ตอบ คือ พระ พุทธเจ้า ตรัส ว่า มันเป็นธรรมธาตุเดิมที่มีอยู่แล้ว มันเป็น ตะถะตา อิทัปปัจยะตา
ปฏิจสมุปบาท, เกิด ตั้งอยู่ ดับ , อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา, สมุไท ทุกข์ นิโรธา , สมาธิ ศิล ปัญญา, สมถะ วิปัสสนา, อานาปานสติ, สติปฐานสี่, โพธิชงค์เจ็ด, สำเร็จสมาธิเก้าฌาน , พระปัจเจค, พระ พุทธเจ้า และสูงสุดคือ พระ สัมมาสัมพุทธเจ้า องค์ ปัจจุบัน คือ โคตะมะ แห่งศากยวงค์
ก่อนจะเป็นพระพุทธเจ้า ต้องเป็นสัตน์มาก่อน เรียก ว่า โพธิสัตน์ แปล..ไทย ผู้ที่บำเพ็ญบารมีเพื่อไปเป็นพระพุทธเจ้า
ส่วนคำเขียนผิดว่า โพธิสัตว์ แปล..ไทย เดรัจฉานที่บำเพ็ญบารมีเพื่อไปเป็นพระพุทธเจ้า เมื่อบัญญัติคำผิด จึงทำให้ไทยพุทธฟังแล้วอ่านแล้วไม่มีสุตมัยปัญญา มีมิสฉาฐิถิ อยู่รำ่ไป ไม่รู้จัก ทุกข์ สุกข์ สุข ว่าที่เข้าใจถูกคือ อะไร อย่าง ไร จึงไม่เข้าใจอริยะสัจธรรมสี่ประการ
ง่าย ๆ หลักของพุทธ เพื่อปิดทางไปเกิดในอบายภูมิ(นรก เดรัจฉาน เปรตวิสัย)ต้อง รู้จักตน รู้จักธรรม เพื่อเป็นตัวช่วย แต่ว่าตน คืออะไ? ก็ใหนบอกว่า มรรค 8 คือวิธีปฏิบัติเพื่อละตัวตน ปล่อยวางตัวตน...
ส่วนธรรมะ คือ พุทธศาสตร์ เอาแค่ลัดนิ้วมือ เพื่อไม่ต้องไปเกิดในอบายภูมิ ไม่ต้องไปเจอกับกับเทวดาชื่อ ยะมะสะ (ยมบาล)
" Trust is good, but the best is controllation " เชื่อ ศรัทธา สูงสุด ในพระพุทธเจ้า องค์เดียวเท่านั้น(อถาคเต เอตคะโต อภิปสันโน) ดี ... แต่ให้ดีที่สุดต้องควบคุมไม่ให้ใครมาแก่ไข เปลี่ยนแปลง แปลธรรมผิดๆ ทำให้มหาชนเดินไปลงนรก เพราะเข้าใจผิด
Bhuddha Word... " Don't Worry be Nipphann "
ไม่ได้มีอคติ แต่งงทำไมท่านแต่งกายแบบนั้นล่ะครับ
เทดยังไม่ใส่ผ้า
Kinoy Sokkham
😂👆
มีเเต่มานั่งพูดนอนแอเยันแต่ไม่ลงมือเเสวงหาทุก
พระคึกฤทธิ์บอกพระพุทธเจ้าก็เป็นสัตว์ พระพุทธเจ้ามิได้เป็นสัตว์ครับ พระพุทธเจ้าคือพระพุทธเจ้า ผู้ที่ยังเป็นสัตว์คือเจ้าชายสิทธัตถะผู้โพธิสัตว์ ก่อนที่จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า นี่แสดงให้เห็นถึงความบกพร่อง หรือความขาดสติในก่รแสดงธรรม
พ่ออวดฉลาด ก่อนหน้านั้นท่านก็พูดว่า ทุกคนเป็นสัตว์แม่แต่พระพุทธเจ้า ก็เปน (หมายถึง ตอนมาเกิดนะ ไม่ใช่ตอนตรัสรู้) เพราะถ้าพระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้วก็คงไม่มีเกิด หรอกจริงไหม เพราะภพแม่รัดนิ้วมือก็เปนของมูดรคูด (ตถาคตทรงตรัสไว้) ได้ฟังเทปเต็มแล้วหรือยัง
Nino Iris จะอวดฉลาดยังไงล่ะท่าน ก็เราว่าตามความจริง ในคลิปท่านพูดว่าพระพุทธเจ้าก็เป็นสัตว์ ทำไมไม่พูดว่าก่อนตรัสรู้รึใช้ชื่อเจ้าชายสิทธัตถะล่ะ ทำไมว่า"พระพุทธเจ้าเป็นสัตว์"เข้าใจคำว่า"พระพุทธเจ้า"ไหม จะถามหาคลิปเต็มทำไมกัน
เคยเป็นสัตว์แต่หลุดพ้นแล้วไง!
สงสารทุกคนค่ะที่ตายังมืดบอดมองเห็นกรงจักรเปนดอกบัวข้าพเจ้าขอให้ทุกท่านจงหลุดพ้นจากความเห็นผิดนี้ทั้งปวงและเดินสุ่ทางปฏิบัติของพระพุทธเจ้าอย่างแท้จริง สาธุ
แอ้ว่ะ!! อย่ากวนตีน
ถามคุณนะ ว่า พระพุทธเจ้า ยังเป็นสัตว์ไหม ยังมีตัณหา ราคะ นันทิ ความเพลิน ความยินดีพอใจ ความติดข้องไหม
แอ้ว่ะ!! อย่ากวนตีน
คุณเก้า ศิษคึก ลองตามดูในเพจนี้นะ
facebook.com/groups/antikukrit/permalink/1866983836894208/
แอ้ว่ะ!! อย่ากวนตีน
ua-cam.com/video/OTOwlNoheyk/v-deo.html
คลิปนี้ผมก็ได้ดู ท่านกำลังเปิดเผยความลับของจักรวาลต่างหาก
เราทุกคนล้วนเป็นความว่างอันเป็นอมตะ เพียงแต่มาติดข้องกับขันธ์5
คนเราจะเห็นความไม่เที่ยงเป็นทุกข์ของขันธ์ได้ดีที่สุดตอนใกล้ตายจึงบรรลุธรรมได้ง่าย เป็นตรรกะที่มีเหตุผล
แยกแยะดีๆครับ ดูคนให้เป็น เพราะถ้าดูไม่เป็น มันจะซวยตามเขาได้
ตอนที่ ตะแถคด คึกฤทธิ์ กล่าวถึง พุทธเจ้าเองก็เป็นสัตว์ สังเกตดี ๆ คึกฤทธิ์เอามือชี้เข้ามาที่ตนเองคือ พุทธเจ้า..!
ฟ้าจะผ่าพุดเจ้าสิ😲
วินยฺ วินยฺ ฮ่าๆชั่งสังเกตุ
วินยฺ วินยฺ พระพุทธเจ้าเคยเป็นสัตว์แต่หลุดพ้นแล้วไง
แสง ตามจิตเจริญ
คึกไม่ได้พูดอย่างนั้น ฟังดีๆ
การที่ฟ้าผ่าลงมา คนเราก็คิดได้ 3 แบบ ถ้าไม่เห็นด้วยกับ พอจ.คึกฤทธิ์ ก็บอกฟ้าพิโรธ ถ้าเห็นด้วย
ก็บอกฟ้าอวยชัย เห็นด้วย คนเป็นกลางก็เฉยๆ เป็นเรื่องของธรรมชาติ
ถ้าผ่าบ่อยขนาดนั้น ก็เป็นเพราะอำนาจทางจิตของผู้ใดผู้หนึ่ง เป็นแน่แท้ ถ้าเป็นไปด้วยอำนาจจากการทำฌาน งั้นก็จัดให้จัดหนักบ่อยๆไปเลย
ผมเคยทำให้สำนักชั่วอย่างของมันบ่อยครับ แต่ไม่เคยที่จะติดตามผล รอฟังข่าวถ้ามีอีกมีคนตาย ก็พิจารณาได้เลยครับ ว่าฝีมือผมแน่ เคยทำมาแล้วได้หามกันเลยทีเดียว คนนับร้อยตะลึง กรรมมันคงลงตัวพอดี หรือไม่ก็ บังเอิญ
คือว่าตัวเราเองไม่ได้เกลียดพระอาจารย์น่ะหรือว่าชอบภิกษุรูปใดรูปใดรูปหนึ่งก็หาไม่ แต่คำพูดที่พระอาจารย์บอกว่าพระพุทธเจ้าเป็นสัตว์นั้นใช้คำพูดผิดน่ะ พระตถาคตตรัสไว้ว่าพระองค์ไม่ยึดติดแล้ว จะเอาอะไรมาเรียกว่า พรหม เทวดา หรือมนุษย์ เพราะสัตว์ยึดติดอยู่ในขันธ์ทั้ง5 แต่พระผู้มีพระภาคไม่ยึดติดแล้ว จะเอาอะไรมาเรียกว่าสัตว์ จริงมั้ย?.
Alangkara Pikku
ถูกครับ ในคลิปนี้ ประเด็นมีอยู่แค่นั้น ผมก็เข้าใจอย่างนั้น ว่าโลภะ ตัณหา ราคะ นันทิ ความติดข้อง กิเลสทั้งหลาย พระพุทธเจ้าดับได้เป็นสมุจเฉทแล้วครับ
พวกเธอทั้งหลายที่กล่าวดูหมิ่น พระอาจารย์คึกฤทธิ์ อย่าพยายาม ฟังไม่สับจับไปกระเดียด
Matthew Yung
แล้วเข้าใจว่าไงครับ
หลงธรรมหนักครับ บิดเบือนคำสอน
ฟ้าลง ไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ตอนพูดเรื่องไม่มีตัวให้มันดับ คิดเอา ยังกล่าวถึงฟ้าเคยผ่าลงก่อนหน้านี้ด้วย ยังจะคิดว่าเป็นเรื่องดีอีก พากันพูดจาหัวเราะชอบใจ ไม่พิจารณาว่าเกิดอะไรขึ้น ความเชืเรื่องฟ้าผ่าไม้เคยได้ยินกันเหรอ จะมาชมว่ามฟ้าผ่าสว่างวาบเลยอพื่ออะไรครับ คนที่เข้าใจธรรมมากพอ จะไม่เปล่งคำว่า พระพุทธเจ้าก็เป็นสัตว์เช่นกัน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆก็แล้วแต่ สอบถามคร้บ ควรห่มจีวรป่าวครับ แสดงธรรมในชุดนี้ต่ิผน้าคนอยอะไอหมทะสมหรือไม่คร้บ
สมจริงดังที่พระพุทธองค์ทรงตรัส "ต่อไปภายหน้าภิกษุจะสนทนาว่าด้วยเรื่องการหลุดพ้น มรรคผลเป็นเรื่องตลกเฮฮา" !!
ตาล ยอดกุดหรือไม่นั้น ดูกันที่ผล ....
ท่านจะแสดงพระธรรม ที่พูดเน้นนักหนาว่า พุทธพจน์ แต่ทำไมท่านไม่เคารพพระธรรมเลย เทศนาแต่ไม่ห่มคลุมจีวรให้เรียบร้อยเลย ใส่แค่อังสะ คนมาฟังเยอะแยะ เหอะ
เทศน์ตลกคะนอง...ผิดพระวินัย...มั๊ย
ผุดเป็นตัวคือโอปกาติกะ...จะเปรตวิสัยหรือเทวดาดี...
อยากให้ทุกท่านฟังด้วยใจเปนกลางและฟังให้จบ คลิบนี้เหมือนตั้งใจจะสื่อให้คนเข้าใจผิดนะ ลองไปฟังคลิบเต็มนะ แล้วค่อยว่าติเตียนยังไม่สายครับ สาธุครับ ทุกคนที่นับถือพระพุทธเจ้า เรามีอาจารย์เดียวกัน อย่าทะเลาะกันนะ
ฟังจบ บิดอบือนครับ
ทำไมแสดงธรรมไม่ห่มจีวร แบบนี้ก็ได้เหรอ
องค์ชาย ไรสำนัก
😁😁😂
เมื่อท่านตำหนิอรรถกถา ท่านจะมาอธิบายทำไมคึก ให้เขาไปอ่านเองเข้าใจเอาเองสิ หนังสือพุทธวจนก้มี ปลาใหญ่ตายนำตื้นจิงๆ
ไร้สาระมากเป็นการให้ร้ายอย่างไร้เหตุผลและไม่มียางอายจ้องแต่จะทำลายกันฟ้ามันก็ผ่าของมันตามธรรมชาติครับที่ท่านพูดคือก่อนจะตรัสรู้พระพุทธเจ้าก็เป็นสัตหรือสัตตานัง(ผู้มีอวิชาเป็นเครื่องกั้นมีตัญหาเป็นเครื่องผูก)เหมือนกับเราแต่เมื่อท่านตรัสรู้แล้วความเป็นสัตก็หมดไปก็แค่นั้นเองและไม่ว่าจะเป็นมนุษย์เทวดาเปรตเดรัจฉานสัตว์นรกก็เป็นสัตกันหมดครับถ้ายังไม่ได้เป็นพระอรหันต์เอวังฯ
สันติ เซี่ยงเจ้น
ก็ถ้ายังไม่ได้ถึงความเป็นพระอรหันต์ ก็ยังเป็นสัตว์ ก็ถูกแล้ว พระพุทธเจ้า เป็นใคร ไม่ใช่พระอรหันต์รึ ถึงได้พูดว่า ท่านยังเป็นสัตว์
คุณไม่คิดจะเข้าใจเลยนี่เนอะเลยทำตัวให้เข้าใจอะไรยาก
สันติ เซี่ยงเจ้น
บังคับกันได้รึ จะเข้าใจว่าพระพุทธเจ้ายังเป็นสัตวยังมีโลภะ ตัณหา ราคะ นันทิ ก็ตามสะบายสไตคึกครับท่าน
รูปาทีสุ สญชตีติ สตฺโต
ก่อนหน้านี้ก็ผ่าจนสว่างวาบ ยังจะพูดเหมือนมีคุณวิเศษ ไปศึกษสคำโบราณด้วยว่า ทำไมฟ้าถึงผ่าคน ผ่าบ้านคน นี่ถึงขนาดผ่าที่วัด คนที่อขื่อเรืาองสิ่งศักดิ์สิทธิ์เขาจะไม่สงสัย แต่ลัทธิที่สอนไม่ให้เขืาอสิ่งศักเิ์สิทธิ์ยังไงพูดไปก็ไร้ความหมทย
สงสารคนจับผิด
น่าสงสารคงไม่พ้นอเวจี
แน่นอน กรรมหลงทางกันแล้ว
มองอีกมุม..ท่านคงพูดได้ถูกต้อง เทวดาจึงแสดงอาการรับรู้ ผ่าน สายฟ้า น่ะ !
จริงๆ ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ฟ้าผ่าครับ ขึ้นหัวเรื่องแบบนั้นเฉยๆ แต่ที่สำคัญท่านคึกบอกว่า พระพุทธองค์ก็เป็นสัตว์นั้นไม่ถูกครับ
+แรม นาคา รับรู้ผ่านสายฟ้า??? ดีว่าไม่บันดาลให้ผ่าลงหัวกบาลพี่คึกด้วย 5555555555555555555555555555555555+
nuz wong
😂
แหม๋ ... นายก๊ !
พระอาจารย์พูด ก็ถูกแล้วหนิครับ เพราะก่อนที่พระพุทธเจ้าจะตรัสรู้ พระพุทธเจ้าก็เป็นมนุษย์ เหมือนกันครับ เพราะฉะนั้น สัตว์ ซึ่งมีอวิชชา เป็นปัจจัย จึงมีสังขารทั้งหลาย ครับ ส่วนเรื่องที่ฟ้าผ่า อย่าเอามาเกี่ยวกันเลยครับ เพราะฟ้าผ่า ก็เป็นเพียงปรากฎการณ์ทางธรรมชาติอย่างหนึ่งเท่านั้นครับ
hung940thailand
ท่านคึกไม่ได้พูดว่า ก่อนตรัสรู้ ก่อนตรัสรู้นั้นใช่ ยังเป็นสัตว์ แต่ท่านคึกว่า พระพุทธเจ้าก็เป็นสัตว์ มันคนละอย่างกัน ถึงตรัสรู้แล้ว พระองค์ก็ยังเป็นมนุษ แต่เป็นมนุษที่ไม่มีกิเลส เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ไม่ใช่สัตว์ เพราะไม่มีกิเลสแล้ว
เป็นพระถือศีลอยู่ปฏิบัติเพื่อให้มีสติแค่ฟ้าฝ่ายังตกใจเลย ผู้ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบจิงๆเขามีสติเพื่อรอความตายเพื่อระรึกถึงความตาย
ฟ้าผ่าดั่งเป็นเหมือนคำเตือนจากสวรรค์
ีริลณี กิจวิจารณ์
😂😂😃
เรื่องนี้อาจจะจริง ! ถ้าเป็นเราได้ยินเราก็รับไม่ได้ ถ้าเราเป็นเทพเทวาเราจะเปร่งอุทานว่า มลทินเกิดขึ้นแล้วหนอๆ....
หยุดเถอะทุกท่านหยุดการกระทำสิ่งนี้เถอะค่ะ ฟ้าผ่าครั้งนี้เปนครั้งที่2แล้วอย่าให้มีครั้งที่3
ตัดต่อคลิปเพื่อใส่ร้ายพระดีๆที่ทำตามคำสอนของพระพุทธเจ้าระวังนรกนะครับ
ท่านคึก พูดว่า
👉 เราก็เป็นสัตว์✔
👉พระพุทธเจ้าก็เป็นสัตว์❌
อ้างอิงในพระสูตรนี้นะครับว่า พระผู้มีพระภาค ตรัสตอบราธะ ว่าอย่างไร เหตุใดจึงเรียกว่าสัตว์ เหตุใดพระผู้มีพระภาคจึงไม่ใช่สัตว์👇
"พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า ดูกรราธะ เพราะเหตุที่มี ความพอใจ ความกำหนัด ความเพลิดเพลิน ความทะยานอยากในรูปแล เป็นผู้ข้องในรูป เป็นผู้เกี่ยวข้องในรูปนั้น ฉะนั้น จึงเรียกว่า สัตว์
เพราะเหตุที่มีความพอใจ ความกำหนัด ความเพลิดเพลิน ความทะยานอยากในเวทนา ... ในสัญญา ... ในสังขาร ... ในวิญญาณ เป็นผู้ข้องในวิญญาณ เป็นผู้เกี่ยวข้องในวิญญาณนั้น ฉะนั้น จึงเรียกว่า สัตว์..."
นี่คือคลิปที่ผมอัพ👇
ua-cam.com/video/I-UYWs-fcY4/v-deo.html
นี่คือคลิป ที่ผมโหลดมา เนื้อหา ความยาว เท่ากัน
ไม่มีการ แก้ไข ดัดแปลงใดๆทั้งสิ้น👇
นี่คือพระสูตร อ้างอิง 👇
www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=17&A=4433&Z=4459
ທໍາອິດຄິດວ່າຟ້າຜ່າແລ້ງ
ขนาดฟ้าฝ่ายังไม่รู้สึกตัวอีกเวรกรรม
ใส่ร้ายผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบนรกรออยุ่นะคับ