ภาพเก่าเล่าเรื่อง : วังสงัด เมืองอุบลฯ Wang Sangad at Ubon Ratchathani province,Thailand
Вставка
- Опубліковано 5 лют 2025
- ภาพเก่าเล่าเรื่อง : วังสงัด เมืองอุบลฯ Wang Sangad at Ubon Ratchathani province,Thailand
แก้ไขนามสกุล จำปาศักดิ์ เป็น จัมปาศักดิ์ครับ
ตำหนักวังสงัด หรือที่คนทั่วไปรู้จัก เรียกสั้นๆ ว่า "วังสงัด" ตั้งอยู่ทิศเหนือ ถนนพโลรังฤทธิ์ ทิศตะวันออกเฉียงเหนือของทุ่งศรีเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี (บริเวณสามแยกถนนผาแดงบรรจบกับถนนพโลรังฤทธิ์ ทิศเหนือทุ่งศรีเมือง อุบลราชธานี) วังสงัดมีเนื้อที่ 7 ไร่ ลักษณะวัง เป็นอาคารไม้สักและไม้เนื้อแข็ง มี 3 ชั้น มีมุขกลางซึ่งกว้างมาก มีบันไดกว้างประมาณ 7 เมตร มีบันไดประมาณ 15 ขั้น มีห้องโถงชั้นที่ 2 และชั้นที่ 3 กว้างขวางมาก หลังคามุงด้วยสังกะสีอย่างหนา ตัวอาคารเป็นสีน้ำตาล ห้องบรรทมอยู่ทางทิศตะวันออก มีบันไดเวียนอยู่ทางทิศตะวันตก มีประตูหน้าต่างมากมาย อากาศถ่ายเทได้ วังสงัดนั้นตั้งอยู่ใกล้ค้อย กกมะแงว (เนินต้นลิ้นจี่ป่า)
ตำหนักวังสงัด สร้างขึ้นเมื่อ ร.ศ.112 เป็นที่ประทับของพลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์และหม่อมเจียงคำ ชุมพล ณ อยุธยา ตลอดระยะเวลาที่ประทับอยู่ที่เมืองอุบลราชธานี เป็นเวลา 17 ปี ก่อนที่จะนิวัติคืนสู่กรุงเทพมหานคร จนกระทั่งสิ้นพระชนม์ ทำไมจึงได้ชื่อว่า ตำหนักวังสงัด ก็เพราะว่าเป็นที่สงบเงียบ อากาศดี มีต้นไม้นานาพันธุ์ สวนผลไม้มากมาย และตั้งอยู่ใจกลางเมืองอุบลฯ ด้วย ผลไม้ที่อยู่รอบบริเวณวังสงัด อาทิ ต้นมะม่วง, ต้นกระท้อน, ต้นมะพร้าว, ต้นไผ่ตง ต่างๆ ผลไม้เหล่านี้ ท่านโปรดให้เก็บและแจกญาติ พี่น้อง ลูกหลานได้ทานกันอย่างทั่วถึง หม่อมเจียงคำ ชุมพล ณ อยุธยา ได้ถึงแก่อนิจกรรมเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2481 ที่บ้านพักของคุณพระวิภาคย์พจนกิจ ถนนพิชิตรังสรรค์ ใกล้กับวัดป่าน้อย
ที่ดินบริเวณวังสงัด จำนวน 7 ไร่นี้ เป็นกรรมสิทธิ์ของท้าวสุรินทร์ชมภู (หมั้น บุตโรบล) ซึ่งเป็นบิดาของหม่อมเจียงคำ ชุมพล ณ อยุธยา วังสงัดเป็นสถานที่ประสูติของหม่อมเจ้าบุญจิราธร จุฑาธุชที่ประสูติเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2440 เป็นพระธิดาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าชุมพลสมโภช กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ ประสูติแต่หม่อมบุญยืน ชุมพล ณ อยุธยา เมื่อแรกประสูติมีพระนามว่า “หม่อมเจ้าจิรบุญนี ชุมพล” ครั้นเสด็จเข้ามาประทับในพระนคร พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระนามใหม่ว่า "บุญจิราธร" ในเวลาที่ทรงพระมหากรุณาเปลี่ยนพระนามใหม่พระราชทานนั้น ได้ทรงแสดงพระราชจริยาให้ประจักษ์ว่า ไม่ได้ทรงเพ่งเล็งแต่จะให้ไพเราะ แต่ทรงเรียกปฏิทินมาตรวจอย่างถี่ถ้วนแล้ว จึงตกลงพระราชทานนามว่า "บุญจิราธร”
หม่อมเจ้าหญิงบุญจิราธรโดยละเอียดอีกครั้งเพราะท่านเป็นผู้มอบที่ดิน 16 ไร่ 23 ตารางวา เพื่อก่อสร้างวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อกรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์และหม่อมเจียงคำ ชุมพล ณ อยุธยา และพระโอรส ได้เสด็จนิวัติกลับกรุงเทพฯ พระองค์ท่าน ได้มอบหมายให้คุณพระวิภาคย์พจนกิจ (เล็ก สิงหัษฐิต) เป็นผู้ดูแลเก็บผลประโยชน์ ต่อมาในปี พ.ศ.2478 อาจารย์ A.P. เอเบิล ฝรั่งมิชชันนารี ได้มาขอเช่าเพื่อจัดการศึกษาระดับประถม เรียกว่า โรงเรียนมิชชัน มีนายเปรย โทณะสุต เป็นครูใหญ่ ค่าเช่าเดือนละ 500 บาท ต่อมาประมาณปี พ.ศ.2483 เกิดสงครามอินโดจีน โรงเรียนมิชชันจึงเลิกราไป
อุบลฯในขณะนั้นมีโรงเรียนราษฎร์เกิดขึ้น เป็นโรงเรียนราษฎร์ระดับประถมศึกษา ตั้งขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. 2480 สถาน ที่ตั้งคือ บริเวณบ้านเจ้าศรีรัฐ ณ จัมปาศักดิ์ ถนนพิชิตรังสรรค์ อำเภอเมืองอุบลราชธานี (ปัจจุบันคือ “ บ้านกมลชนก ” เลขที่ 486 ถนนพิชิตรังสรรค์ ใกล้สี่แยกสำนักงานที่ดินจังหวัดอุบลราชธานี โรงเรียนแห่งนี้มีชื่อว่า “ โรงเรียนราษฎร์วิไล ” ที่มีชื่อเช่นนี้ เพื่อระบุให้ชัดเจนว่าเป็น “ โรงเรียนราษฎร์ ” ไม่ใช่โรงเรียน ส่วน คำว่า “ วิไล ” ต่อท้ายนั้นเป็นเป็นชื่อของ “ เจ้านางวิไลพรรณ ณ จัมปาศักดิ์ ” ครูใหญ่โรงเรียนนี้ซึ่งเป็นเจ้าน้องของเจ้าศรีรัฐ ณ จัมปาศักดิ์ ผู้เป็นเจ้าของและผู้จัดการโรงเรียนราษฎร์วิไล..........
............................
Playlist bit.ly/3C5ZGHc
ตระกูลของหนู มาจากชมภู แม่เล่าให้ฟัง เทียดหนีมาจากประเทศลาวแล้วมาตั้งฐิ่นฐานที่อีสาน ยังใช้นามสกุลชมภูเท่าทุกวันนี้ค่ะ
ดีใจที่ได้ฟังเร่ืองราวของร ร วิไล ซึ่งเป็นลูกศิษย์ อ ปรียา ถิรกิจ อาจารยใหญ่ และ อ เฉวียน อ สัมสัมฤทธิ์ อ นิภา วิสเพ็ญ เป็นโรงเรียนพื้นฐาน เข้า ๆ ออกๆ หลายรอบ เพราะพ่อแม่ย้ายทีอยู่บ่อย
ขอเล่าต่อ อ ซ่อนกลิ่นอีกคน อ โพธิ์ คิดถึง เคารพพวกท่านเสมอ
ฝั่งวารินมีป่างิ้ว ฝั่งเมืองมีวังสงัด แหล่งอย่างว่าของคนหนุ่มๆ
สาธุหม่อมเจียงคำ ดิฉันเคยฝันเห็นท่านเมื่อหลายปีก่อน โดยไม่เคยทราบว่าท่านมีตัวตน จึงหาในกลูเกิ้ลจึงทราบว่าท่านมีตัวตน
ขอบคุณมากนะคะ ที่ทำให้ได้ความรู้ในอดีตที่ไม่เคยรู้มาก่อน
ขอบพระคุณท่าน ที่ได้ฟังเรื่องราวละเอียดยิ่งขึ้นของวังสงัดเพิ่มเติม
ขอบคุณที่มาเล่าเกร็ดประวัติเมืองอุบลให้ฟังนะครับ สนุกมาก ชอบครับ อยากฟังอีก ครับผม
เสียดายอาคารโบราณเก่าแก่สวยงาม
ขอบคุณที่นำเรื่องเมืองอุบล มาเล่าให้ฟัง "วังสงัด"ได้ยินคุณแม่เล่าให้ฟังคะ
ยอดเยี่ยมเลยครับ ติดตามชมแล้วได้ความรู้มากๆเลย ผมเองก็ลูกหลานชาวอุบลเช่นกัน สมัยเด็กน้อยไม่กี่ขวบจำได้ยังได้ยินเสียงเครื่องบินยักษ์บินสนั่นลั่นเมืองบินขึ้นลงตรงกองบินหลังสงครามเวียตนาม....ได้เรียนรู้ซึมซับประวัติศาสตร์ของเมืองอุบลในยุคปัจจุบันด้วย ขอบคุณครับ
ตอนเป็นเด็ก แม่ห้ามให้มาเดินแถวนี้ (บ้านอยู่โรงหนังไต้) ผู้ใหญ่จะชอบขู่ว่า ถ้าไม่เรียนหนังสือ จะถูกจับมาอยู่วังสงัด ความเป็นเด็กก็สงสัยว่าวังสงัดคืออะไร ทำไมไม่เห็นมีวัง ทำไมห้ามเข้าไป แต่ก็ไม่มีใครตอบให้เข้าใจ พออยู่ สัก ป6 เลยพอจะเข้าใจว่าวังสงัดคือที่ที่มี ผู้หญิงหากินเยอะประมาณนั้นอะค่ะ เสียดายนะคะ จากวังสวยงามกลายเป็นสถานที่อีกแบบไป
สวัสดีครับมาชม มาฟัง เรื่อง วังสงัด ด้วยคนครับ
เป็นกำลังใจให้ท่านอาจารย์ครับ❤️
ใช่อะตามิ สมัยผมเป็นเด็ก เดินผ่านทุกวันเวลากลับจากโรงเรียนศรีทองวิไล
ขอบคุณครับ ข้อมูลละเอียดดีมากครับผมเป็นชาววารินชำราบพอเกิดทัน พอรู้เรื่องอยู่ช่วงหลังตอนที่เป็นที่เที่ยวของผู้ชายแต่ได้รู้เรื่องเก่าๆเกี่ยวกับสมเด็จในกรมและเจ้านายที่เกี่ยวข้องด้วยหลายท่าน ขอบคุณครับ.
ดีมากเลยครับ อาจารย์
สุดยอดครับ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลประวัติศาสตร์ที่มีค่า น่าสนใจมากๆค่ะ
คิดถึงอุบลจัง..จะนั่งรถไฟไปเล่น
อยากรู้ว่าผู้ชายยุคก่อนเขาชอบไปเที่ยวกลางคืน ที่ไหนบ้างครับ ใช่อะตามิ กับ นิกโก้ไหมครับ ขอบคุณครับท่าน 😊
โลตัส ซีซอง ครับ ผมเด็กๆ
วังสงัดอีกที่หนึ่งครับ
ป่าบักแงว ป่าบักเขียบ ป่าบักม่วง ป่าหมาก สวนคูณ บ้านหลังสูง หลังต่ำ สามแยกสวรรค์ ชอยแสตนดาส หนองศาลา วังสงัด เมื่อก่อนผมเคยปั่นสามล้อครับ
หลายหม่อง ป่าม่วง พลแพนใ
สงสัยมานานแล้วครับ ขอบคุณข้อมูลครับท่าน เยี่ยมมากครับท่าน 👍😍
ลืมไปแล้ววังสงัด คลิปนี้ทำให้นึกได้
ช่วงปี22 อยู่อุบล
เคยไปครับเป็นบ้านกะท่อมยกสูง
มีคนแก่กินหมากด้วย
ไม่มีไฟฟ้า จุดตะเกียง
เงียบสงัด
เข้าไปเที่ยวเล่นยุคนั้นนะไม่ยักจะเหนวังเหนแต่บ้านไม้เหมือนสลัมนี่ละติดกันมีผู้ญิงหากินตามบ้านนะผมก็ยุในช่วงวั่ยรุ่นแต่ไม่เที่ยวนะเข้าไปเที่ยวเดินเล่นกับพี่ๆขาโจ๋ยุคนั้นคนบุ่งกาแซวมาได้เมียคนบ้านแสนตอแกพาไปตลุยนะแกรุจังผู้ญิงหากินแทบทุกบ้านเสร็จแล้วพวกเราก็พากันไแเที่ยวงานกาชาติที่ทุ่งศรีเมืองกันนะยุคนั้นเดินกันไปเปนหลถ่มใหญ่คับ มาคิดวังสงัดมันก็เหมือนแหล่งสลัมดีๆนี่เองถ้าไม่รุจังใครเก๋าๆหน่อยนะโดนดีแน่คับผม
สิงหัษฐิต สกุลนี้ที่บ้านมีค่ะ
ช่วงวัยรุ่นเคยไปเที่ยวมันเปนเหมือนชุมชนแออัดในคับคนยุหนาแน่นมากเหมือนแหล่งเสื่อมโทรมกลางเมืองอุบลนะมีผุ้หญิงหากินนะตอนกลางคืนจะมีชีวิตขฃชีวานะตอนเข้าไปเล่นนะมีผู้ญิงหากินตามบ้านนะชอบมากคับคำพูดที่ว่าพอได้ค่าหมากค่าพลูนะคำนี่ยังจำติดปากพสกรุ่นพี่เล่าให้ฟังยุคนั้นยุในยุคพ.ศ2527+28นี่ละที่ผมไปเที่ยวดุนะ
สาย110.ชอบไปที่สุด
บ้านวิภาคย์พจนกิจ ปัจจุบันยังอยู่ไหมครับอาจารย์
ตำแหน่งเดิม สร้างอาคารใหม่แล้วครับ
สวัสดีครับ ผมชื่อ ตะวัน เป็น นศ.ป.โท สาขาประวัติศาสตร์ครับ, ผมต้องการข้อมูลของวังสงัดเพิ่ม เพื่อเขียนประวัติศาตร์ของพื้นที่แถบนี้ ผมจะขออนุญาตสอบถามกับผู็ทำคลิปนี้ได้ทางใดครับ? ขอบคุณครับ
sanit2001@hotmail.com
@@ThaiEsan2 ขอบคุณมากๆครับ ผมส่งอีเมล์ไปแล้วครับ
@@tumtawan ครับ
ทำไมเมื่อประมาณสี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา ถึงปล่อยเป็นชุมชนแออัด ผู้ชายทั้งหลายชอบไปเที่ยวหญิงแถวๆนั้น
ที่อื่นไม่มีครับ ที่นี่ราคาชาวบ้านครับ
อยากให้เล่าถึงเรื่องค่านิยมสมัยก่อนการเรียนโรงเรียนเบ็ญจะมะ กับ โรงเรียนนารีนุกูล ว่ามีการแยกหญิงแยกชายเรียนอย่างไรบ้าง นารีนุกูลเคยตั้งที่ไหนครับ ผมศิษย์เก่าเบ็ญจะมะรุ่น 81 ครับท่าน อยากฟังแนวคิดคนรุ่นเก่าว่ามีแนวคิดอย่างไรบ้างครับ กับการเรียนระดับมัธยมครับ ขอบคุณท่านครับ 👍😍
แสดงว่า นามสกุล....โรบล เป็นนามสกุลเก่าแก่เชื้อจุนน้ำขุนนาง กล่าวแบบนี้ได้มั้ยคะ??
ครับ
ตอนนี้เหลือแต่ชื่อ.ครับ
เมืองอุบลราชธานีมีประวัติความเป็นมาที่เป็นประวัติศาสตร์ของไทยเลยครับและเป็นจังหวัดเดียวของไทยที่มีคำว่าราชธานีอยู่ในชื่อของจังหวัดบรรพบุรุษที่เป็นผู้นำเป็นที่เคารพรักนับถืออย่างสูงของชาวอุบลราชธานี
ขอบคุณที่นำเสนอประวัติศาสตร์เมืองอุบลราชธานี ผมคนวาริน
ทันเจ็กหวื่อไหมครับ ผมไปกินเป็นประจำ ผมทำคลิปเจ็กหวื่อไว้ด้วย
ใช่หลังแดงมั๊ย(คนสมัยนั้นจะรู้กันดี)
เหลือชื่อเสียดาย
ขออนุญาตแชร์
ยินดีครับ
5
ขอบคุณครับดีมากๆเลยที่เอาประวัติของวังเวียงจ้าวฟ้าจ้าวแผ่นดินมาเล่าให้คนรุ่นหลังได้รู้ได้ศึกษา ขอโทษบางคนเข้าใจว่าเป็นสถานที่ที่ผู้หญิงค้าประเวณีแต่ไม่ใช่ คือเป็นวังของจ้าวฟ้าจ้าวแผ่นดิน ที่คนรุ่นหลังไม่ผมอายุ74 75 สมัยเป็นวัยรุ่นเดินเที่ยวทุกตรอกชอกซอยแต่ก่อนมีสามล้อปั่นรับจ้างเที่ยวละ1บาทถ้าไกลหน่อยก็2บาทแล้วแต่จะตกลงกันส่วนโรงหนังมี2โรงค่าดู1บาทชั้นสามชั้นสองก็2บาทชั้นหนึ่ง5บาทแต่ก่อนชุมชนไม่หนาแน่นไม่เหมือนทุกวันนี้มีตึกรางผุดขึ้นเยอะจนจำแทบไม่ได้ว่าอะไรอยู่ไหน
เคยไปเยี่ยมญาติป่วยที่โรงบาลสรรพสิทธิ์เห็นรูปท่านหม่อมเจียงคำตรงทางเข้าด้านหน้าโรงบาลก็ยกมือไหว้.แต่ไม่รู้ประหวัดท่าน.เพิ่งรู้จากคลิปนี้แหละขอบคุณที่เอามาเผยแพร่ให้ฟัง
มีหลายตอนที่คลาดเคลื่อน.จากควาเป็นจริงมากแม้นแต่ที่ไปที่มาของ1.)การเริ่มสร้างตพำหนักฯที่วังสงัด/2)..ที่ดินที่วังมีการแบ่งการดูแล 3)การมอบการดูแลรักษาที่หม่อมเสียงคำ ชุมพล ณ.อยุธยา(โดยทางการฯมอบหมายให้"พระวิภาคพจนกิจ(ต้นสกุลสิงหัษฐิต[เล็ก สิงหัษฐิต]).ตั้งแต่การเดินทางไปรับท่านที่"พระนครฯ(กรุงเทพฯ)และมาทำนักประทับที่.ที่บ้านของ"พระวิภาคพจน์กิจ..โดยคุณพระวิภาคฯได้สร้างบ้านโดยเฉพาะให้"หม่อมเจียงคำฯ//**การที่ให้คุณพระวิภาคฯดูแลนั้น..เพราะเกี่ยวดองเป็นพระญาติ.ตั้งสองสาย[ถ้านักทางทางสาย.บิดาของหม่อมเจียงคำ.ท่านเป็นน้องชายพระบิดาท่าน(แต่แต่งมารดา)ก็อยู่ในฐานะเป็นอา"//ถ้านับทางภริยาของคุณพระวิภาคฯท่านก็เป็นหลานเขย//เพราะแม่ของภริยาท่าน.เป็นบุตรีของพี่สาวของหม่อมเจียงคำ//ผู้ที่ได้ดูแลรักษาสุขภาพ"หม่อมเจียงคำ..บุตรชายคนโตของคุณพระวิภาคฯ..คือ"ท่านเผดิม สิงหัษฐิต"..และผู้ใกล้ชิดหม่อมท่านท่านที่สุดคือ"คุณผลา สิงหัษฐิต ณ.อุบล(ขณะนี้ยังมีชีวิตอยู่ด้วยอายุ 92ปี)คำทรงจำดีเยี่ยม..ถ้าอยากทราบรายละเอียด.สามารถไปสอบถามได้..ท่านอยู่ที่เดิม.ซอย6/4(วิภาคพจนกิจ)ถนน พิชิตรังสรรค์ //ถ้าอยากทราบประวัติเมืองอุบลฯและอีสานไปดูได้ที่หนังสือ"ฝั่งขวาแม่น้ำโขง "เดิม สิงหัษฐิต /และประวัติศาสตร์อีสาน ของเดิม วิภาคพจนกิจ//
ส่วนที่ๆเป็นที่สร้างโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์.นั้นเป็นที่ของ"หม่อมเจียงคำ"(เรื่องจริง)แต่เพื่อ เป็นพระเกียรติฯของพระสวามี//เครือญาติเห็นพ้องกัน.ควรใช้พระนามของพระสวามีคือ"สรรพสิทธิประสงค์"(ไปดูที่ศาลา.รพ.ฯได้)
..ส่วนโรงเรียนวิไลฯ..โรงเรียนสีทอง/..เป็นโรงเรียนในกลุ่มเครือญาติก็จริงก็ไม่เห็นจะเกี่ยวข้องอะไรกับ"วังสงัดฯเลยนะ..ยิ่งคุณศักดิ์ศรีสีอักษร..ญาติห่างมาก(เรารู้จักนะ).สามีเป็นช่างถ่ายรูปมีร้าน..และดังในสมัยนั้น.
ส่วน ที่จากสกุล"ณ.จำปาศักดิ์"..ท่านเหล่านั้นเป็นญาติใกล้พอสมควร..//แต่ท่านๆก็ไม่ได้เกี่ยวกับตำนาน"ยังสงัด"นะ
ยังมีข้อมูลที่เป็นจริงๆ..อาจจะไม่ได้บันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร//#"มี.ร.ว.พฤติสาน ชุมพล"..ท่านสนิทและรู้จักพวกเราดี"
ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมครับ เกี่ยวกับคุณศักดิ์ศรี พูดถึงเพราะเป็นศิษย์เก่า ร.ร.ศรีทองวิไลวัฒนา ที่เก่าของ ร.ร.วิไลวัฒนาเคยอยู่ที่วังสงัดมาก่อน ขอบคุณครับ
ไม่ทราบว่าพอจะมีภาพเก่าตำหนักวังสงัดไหมครับ
เรียน ป.3ที่ ร.ร.ศรีทองวิไลวัฒนา เคยเดินไปเล่นที่ ทุ่งศรีเมือง ผ่านวังสงัด มองเข้าไปเป็นบ้านไม้ และมีสามล้อถีบจอดเยอะแยะ และมีผู้หญิงมีอายุ ยืนคุยกัน
พวกเราก็จะวิ่ง เพราะกลัวกัน พึ่งรู้ตอนโตว่าเป็นวังเก่า มีเรืองเล่ามากมาย ตอนนี้อายุก็60กว่าแล้วค่ะ ขอบคุณค่ะที่เล่าทึ่มาให้ทราบ
เกิดไม่ทัน น่าจะฟื้นฟู เพราะเป็นประวัติศาสตร์ของเมือง
เคยไป
รุ่นพ่อก็วังสงัด รุ่นลูกก็ซอยสแตนดาร์ด
ผมขอถามเป็นความรู้หน่อยครับทำไมอัฐิของหม่อมเจียงคำไม่ถูกนำไปบรรจุที่สุสานหลวงวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามล่ะครับผมเห็นมีแต่ของเสด็จในกรมหลวงสรรพสิทธิ์ประสงค์เท่านั่นส่วนหม่อมเจียงคำอัฐิบรรจุไว้ที่วัดสุทัศ เท่านั้นครับ
ญาติพี่น้องและบรรพบุรุษท่านบรรจุที่วัดสุทัศนารามครับ คงแยกบรรจุครับ
ถ้ามีการถ่ายรูปเอาไว้ก็จะดีมากครับจะได้รู้ว่ารูปแบบและโครงสร้างของพระตำหนักเป็นเช่นไร
@@โสภณคําพูล-ภ6ช ภาพถ่ายไม่มี มีแต่ภาพสเก็ตเท่านั้นครับ
ปมโตไม่ทันอาตะมิกับนิกโก้จำได้แต่บ้านหลังสูงกับซอยสแตนดาร์ด555 เมาคัก
แต่วัดสุทัศนารามก็ยังเป็นวัดเล็กๆ ตรงข้ามทุ่งศรีเมือง
ทำไมหม่อมเจียงคำ ถึงไมไดนิวัตกลับ พร้อมสามี
สามีไม่ได้กลับครับ
@@ThaiEsan2 งง ไหนว่ากรม สรรพสิทนิวัตกลับ กทม
คำถามไม่ทราบว่ากลับมาอุบลหรือกลับกรุงเทพ ไปกรุงเทพพร้อมกัน เมื่อสามีสิ้นพระชนม์ หม่อมก็กลับอุบลฯครับ
พ่อผมก็เป็นศิษย์เก่าโรงเรียนศรีทองวิทยารุ่นที่สองครับ
น่าเสียดายตำหนักนี้มากค่ะถ้ารักษาไว้คงมีค่าทางจิตใจกับชาวอุบลเรามากพอสมควร