ศาสนาพุทธ ในมุมมองของ "อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์"และเหล่านักวิทยาศาสตร์ระดับโลก
Вставка
- Опубліковано 2 січ 2023
- "ศาสนาในอนาคต จะต้องเป็นศาสนาสากล ศาสนานั้นควรอยู่เหนือพระเจ้าที่มีตัวตน
และควรจะเว้นคำสอนแบบสำเร็จรูปที่ให้เชื่อตามเพียงอย่างเดียว
ศาสนานั้น เมื่อครอบคลุมทั้งธรรมชาติและจิตใจ
จึงควรมีรากฐานอยู่บนสามัญสำนึกทางศาสนา ที่เกิดขึ้นจากประสบการณ์ต่อสิ่งทั้งปวง
คือ ทั้งธรรมชาติและจิตใจอย่างเป็นหน่วยรวมที่มีความหมาย
พระพุทธศาสนาตอบข้อกำหนดนี้ได้....
ถ้าจะมีศาสนาใดที่รับมือได้กับความต้องการทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ปัจจุบัน
ศาสนานั้นก็ควรเป็นพระพุทธศาสนา"
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์
นักฟิสิกส์ ชาวเยอรมัน ผู้เสนอทฤษฏีสัมพันธภาพ
ที่มา:
cutly.fun/omYTzFz
#ศาสนาพุทธ #มุมมองศาสนา #นักวิทยาศาสตร์
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
: สนับสนุนเราได้ทาง :
:: ธนาคาร กสิกรไทย ::
หมายเลขบัญชี : 0218-996-566
& TRUE Wallet number : 091-8063766
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
Facebook fanpage Link :
shorturl.asia/oHnSm
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
❤ Thank for watching & support ❤
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬ - Наука та технологія
ขอบคุณนะคะที่ทำคลิปนี้ให้ชม เราอีกคนที่เชื่อเรื่องพระพุทธศาสนา และวิทยาศาสตร์ และเราอึ้งที่หลายๆครั้งสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ มักสัมพันธ์กับวิทยาศาสตร์เสมอ Amazing มากคะ
❤❤❤
@@khonfairu มีข้อมูลและหลักฐานถึงคำพูดของไอสไตล์ไหมครับเห็นหลายคนพูดเหมือนๆกันแต่ไม่มีใครอ้างอิงสักคน
ที่สัมพันธ์เพราะสาวกพยายามโยงให้ศาสนามันเข้ากับวิทยาศาสตร์ ทั้งที่จริงมันไม่ใช่
ลองคิดดูศาสนาเกิดมากี่พันปี วิทยาศาสตร์เกิดมากี่ร้อยปี ถ้าศาสนาค้นพบสิ่งที่วิทยาศาสตร์ค้นพบ ทำไมมนุษย์ถึงไม่พัฒนาเลย ทั้งที่วิทยาศาสตร์เกิดมาแปปเดียวพัฒนามนุษย์ไประดับศึกษาอวกาศได้ แถมเผยแพร่ความรู้ให้มนุษย์ทัั่วไปศึกษาได้โดยไม่ต้องไล่ให้ไปค้นคว้าด้วยตัวเองได้อีก
ผมเคยถกเถียงเรื่องท่องอวกาศด้วยจิต ถามถึงหลักฐาน กลับโดนไล่ให้ไปปฎิบัติธรรมด้วยตัวเอง ผมท้าให้เขาส่งจิตมาหาผม จนปัจจุบันนี้เขาหายไปเลย ไม่ตอบเม้นท์ผมอีกเลย คิดเอาละกัน
@Gentlesomeoneelse ขอโทษครับ พุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์ มันสัมพันธ์กันตรงไหนครับ อยากรู้ครับ
ขอบคุณ *อัลเบิร์ตไอน์สไตน์* ขอบคุณที่ชอบศาสนาพุทธ ฟัง2รอบแล้วครับแอด
❤❤❤
ควานตัมมันยาขม...ศึกษาศาสนายังง่ายกว่า😢😢😢
แสงไม่สามารถส่องทะลุภูเขาหินได้ แต่จิตสามารถส่องทะลุภูเขาหินได้..จิตเร็วกว่าแสงและมีพลัง..
ภูมิใจ ที่ได้เกิดมา ใต้ร่มโพธิ์ พระพุทธศาสนา
ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากครับ
มาอีกรอบจ้า
ชอบมากครับ
พระพุทธเจ้า : มนุษย์เราเกิดจากเซลล์เดียว วิทยาศาสตร์ก็เพิ่งจะรู้ไม่นาน
พระพุทธเจ้า : โลกมีรูปร่างคล้ายมะขามป้อม วิทยาศาสตร์ก็เพิ่งมารู้ได้ไม่นาน ในขณะที่บางศาสนาอื่นยังมองว่าโลกมันแบน
ผมไม่ได้มองว่าพระพุทธเจ้าเป็นเทพเจ้า แต่มองว่าเป็นคนบุคคลธรรมดาผู้รอบทุกสิ่งอย่างแท้จริง โดยเฉพาะเรื่องจิต
พวกที่แต่งพระพุทธเจ้าต่างหากที่ไปลอกการบ้านวิทยาศาสตร์มา5555
@@BLACK__808085555พุทธเจ้าคัมภีร์มาก่อนวิทยาศาสตร์2566ปีเเล้วมันก็อปละ😂😂😂
@@BLACK__80808เดี๋ยวๆพระไตรปิฎกมาก่อนตั้ง2พันกว่าปี ไปดูน้นฉบับ เขียนไว้ทุกอย่าง
การวัดอายุวัดจากก๊าซคาบอนที่ติดตรงคำสอน ซึ่งมันโกงอายุไม่ได้ ใช้หบักการเดียวกันกับวัดอายุไดโนเสาว่าอายุกี่พันล้านปีแล้ว
@@pkn3805 พระไตรปิฎกที่สามารถแก้ไขได้นะหรอ กว่าจะมาถึงปัจจุบันจะรู้ได้ไงว่าโดนแก้ไขไปกี่ครั้งแล้ว
พุทธสอนให้ปล่อยวางอภัยต่อกันเเค่ทุกคนบนโลกรู้จักการให้อภัย คงสวยงาม
ถ้ามีคน มาข่มขืน หรือ ฆ่า เเม่ เมีย คุณจะให้อภัยตามที่พระพุทธเจ้าสอนไว้ไหมน้า???
ไม่จริงหรอก เพราะจะมีคนที่ฆ่า ข่มขืน ครอบครัวคุณ สร้างความเดือดร้อนให้สังคม จะกลับมาเรื่อยๆ เพราะไม่โดนลงโทษไง คนมันได้ใจ😂😂😂
คนที่ฉลาดที่สุด..จะเลือกสิ่งที่ดีที่สุด..!!
ชายคนดีสุดยอดจริงๆ พุทธศาสนา คือ ธรรมชาติเเละจิตใจ 😊
ภูมิใจในความเป็นชาวพุทธครับ
สาธุ ผมก็พุทธ พ่อผมคริส
แต่ผมก็ยังเข้าศาสนาเดียวกับแม่ จนได้บวชเป็นพระ ครับ
ทุกสิ่ง.. ทุกอย่าง.. ในโลก... ในจักรวาล.. มันมีอยู่แล้ว... ขึ้นอยู่กับว่าเราจะค้นพบหรือไม่.. เท่านั่นเองครับ
ติดตามตลอดมาครับ
ขอบคุณมากครับ ❤️
ศาสนาพุทธ ศาสนาที่ใกล้วิทยาศาสตร์ที่สุด
อิสลาม
@@ceeprae1248พระเจ้าของอิสลามพิสูจน์ได้มั้ย
@@ceeprae1248อดีตมุสลิมออกจากอิสลามทั่วอาหรับ เค้าบอกวิทยาศาสตร์ที่ผิดมั่วในกุรอ่านก็เหมือนหาหญ้าในสนามบอล ตัวอย่างโลกแบน ผญมีอสุจิ😂
พุทธเป็นศาสนาแค่หลักธรรมคำสอนครับพระพุทธเจ้าให้เชื่อในวิทยาศาสตร์หลักคำสอนให้เชื่อในพระพุทธเจ้า
น่าเสียดายที่ไอน์สไตน์ไม่ทันศึกษาพุทธศาสนาอย่างจริงจัง ดังนั้นจึงทำให้ไอสไตน์ไม่ทันได้ตระหนักถึงการค้นพบศิลาจารึกของพระพุทธองค์ กล่าวคือ ศิลาจารึกเหตุผลเกี่ยวเนื่องเป็นลูกโซ่ แท้จริงแล้ว ศิลาจารึกดังกล่าวนี้คือ ทฤษฎีสัมพันธภาพสิ่งตรงข้าม นอกจากนี้แล้ว พระพุทธองค์ทรงมีความรู้เรื่องเอกภพเชิงคณิตศาสตร์เรียบง่าย ซึ่งได้นำไปสู่สิ่งที่เรียกว่า เวลาไร้ขีดจำกัด อย่างไรก็ตาม ทฤษฎีดังกล่าวจะทำให้มีความรู้เรื่องจิตเชิงวิทยาศาสตร์ ทั้งนี้ ความรู้เรื่องจิตเชิงวิทยาศสาสตร์ที่เรียกว่า โปรแกรมจิต ซึ่งจะนำไปสู่การคิดค้นกระบวนการทางจิตเชิงคณิตศาสตร์เรียบง่ายตามทฤษฎีสัมพันธภาพสิ่งตรงข้ามเพื่อบรรลุเวลาไร้ขีดจำกัด อย่างไรก็ตาม พระพุทธองค์สามารถคิดค้นกระบวนการทางจิตดังกล่าว เรียกว่า การทำสมาธิ แท้จริงแล้ว การทำสมาธิคือ ปรากฏการณ์การเปิดประตูเวลา ดังนั้นในที่สุดแล้ว พระพุทธองค์ทรงบรรลุเวลาไร้ขีดจำกัด อย่างไรก็ตาม ผู้ที่บรรลุเวลาไร้ขีดจำกัด สำหรับศาสนาพุทธเรียกอีกนัยหนึ่งว่า ผู้ที่บรรลุนิพพาน ส่วนศาสนาฮินดูเรียกอีกนัยหนึ่งว่า ผู้ที่บรรลุอมตะ ดังที่กล่าวมาทั้งหมดตั้งแต่ต้นนั้นสามารถจับเอาประเด็นมาตอบคำถามของไอน์สไตน์ที่ว่า มนุษย์เกิดมาเพื่ออะไร ดังนั้นจึงขอตอบคำถามของไอสไตน์ว่า มนุษย์สามารถที่จะบรรลุอมตะนั่นเอง ทั้งนี้เพราะว่า มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีศูนย์รวมระบบกลไกเซลล์ประสาทสลับซับซ้อนจนถึงขีดจำกัดทำให้สามารถเรียนรู้กระบวนการทางคณิตศาสตร์ ดังนั้นผู้ใดสามารถเรียนรู้กระบวนการทางคณิตศาสตร์และเป็นผู้ที่มีพันธุกรรมตามทฤษฎีสัมพันธภาพสิ่งตรงข้าม ผู้นั้นสามารถเข้าถึงการทำสมาธิ(ผู้นั้นสามารถทำให้การทำสมาธิเป็นไปได้) แต่ว่า ผู้เขียนไม่สามารถเข้าถึงการทำสมาธิ เพราะว่า ผู้เขียนมิได้มีพันธุกรรมดังกล่าวนั่นเอง ดังนั้นจึงหวังไว้ในอนาคตอันใกล้บางทีอาจมีเทคโนโลยีที่จะมาปรับเปลี่ยนพันธุกรรมได้
ชื่นชอบครับ เม้นนี้
ผมอยากทราบว่ามันเป็นคณิตศาสตร์ตรงไหนครับ
เรามีชาตินี้ได้ เพราะเกิดจากชาติที่แล้ว
คำถามของท่านหมายถึง กระบวนการทางจิตเชิงคณิตศาสตร์เรียบง่ายฯ ใช่หรือไม่ครับ ถ้าใช่ผมจะเขียนต่อให้ทีหลังนะครับ
อยากทราบครับ ท่านจะอธิบายอย่างไรก็ได้ ให้มันดูมีเหตุมีผล ผมรอนะครับ
ศรัทธาในพระพุทธเจ้าและจะไม่นับถือศาสนาใดใดนอกจากพระองค์คำสอนของพระองค์เป็นสิ่งที่ถูกต้องเสมอ ขอให้คนทั้งโลกมีแต่ความสุขความสบายไม่เจ็บไม่ป่วยมีแต่สิ่งดีดีเข้ามาในชีวิตไม่ว่าจะเป็นศาสนาใดเป็นใครมาจากไหนขอให้มีแต่สิ่งดีดีในชีวิต ขอให้ปลอดภัยจากสิ่งที่ไม่ดีทุกสิ่งทุกอย่าง 🙏🙏🙏🙏🙏
ขอจากใครครับ
ทำไหมเข้าเว็บไซต์ที่มาไม่ได้ครับ
เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น คือเรื่องจริงของสัจธรรมโลกไม่เคยมีใครหนีรอดความตาย
นักวิทยาศาสตร์เป็นคนที่แสวงหาความรู้ที่ไม่รู้จบ และนักวิทยาศาสตร์ความคิดสร้างสรรค์สร้างสิ่งที่คนอื่นยังไม่ได้ทำ โลกที่เราอยู่มีสิ่งที่เรายังหาคำตอบไม่ได้อีกแยกแยะ อวกาศ สนามแม่เหล็ก ใต้สมุทรทะเลลึก อยากให้คนหันมาศึกษาหาความรู้และจิตวิทยาและ จิตใต้สำนึกของคนอื่น 🙏
อะไรที่ไม่มีจริง หาให้ตายก็พิสูจน์ไม่ได้ เช่นถ้าผมบอกว่ามีแอปเปิ้ลอยู่ในกล่องทั้งที่ไม่มีอยู่จริง ต่อให้หาให้ตาย ก็ไม่มีวันเจอ จิตก็เช่นกัน ถ้าคุณมั่นใจว่ามี งั้นเรียนเชิญอาจารย์ ครูบาทั้งหลายที่เชื่อว่าใช้จิตได้ เชิญไปให้ความรู้นักวิทยาศาสตร์ทีสิ มนุษย์จะได้สร้างเครื่องที่ใช้จิตได้ อย่าบอกว่าทำไม่ได้ล่ะ
@@samejorjo6216 ขนาดอะตอมคนยังมองไม่เห็นด้วยตาเปล่าเลย555นับประสาอะไรจะไปหาจิต ถ้าไม่ใช่จิตเวช555
@@samejorjo6216 อยากรู้อะไร คุณก็แค่ไปหาคำตอบ นักวิทยาศาสตร์อยากรู้เรื่องจิต ก็ต้องมาศึกษาเอง คนที่ฝึกจิตเป้าหมายคือแสวงหาการดับทุก ไม่ได้ฝึกเพื่อไปโอ้อวด คนฉลาดเก่งๆ ถ้าได้มาศึกษาธรรมะอย่างจริงจัง คนพวกนี้จะบรรลุได้ง่าย ก็มีมหาเศรษฐีเก่งๆรวยๆหลายคน ที่ชองมาศึกษาธรรมะจนเข้าใจ ทิ้งสมบัติมหาศาลเพื่อออกบวช บ่อน้ำไม่เคยวิ่งหาควาย ถ้าอยากรู้ว่าน้ำเย็นไหม ด็ต้องวิ่งมาลงเองนะครับ😁
@@user-ne4gk5ht3q ตอนแรกโอ้อวดซะใหญ่โตว่าฝึกจิตจะทำนู่นนี่ได้ พอเขาขอท้าพิสูจน์กลับอ้างว่าไม่อยากโอ้อวด มันเป็นผลดีซะอีกถ้าคุณพิสูจน์ได้ ทุกคนก็จะหันมาฝึกจิต
@@user-ne4gk5ht3q ตอนแรกโออ้วดว่าฝึกจิตจะทำนั่นนี่ได้ แต่พอเขาขอให้พิสูจน์กลับบอกไม่อยากโอ้อวด หรือทำไม่ได้จริงๆกันแน่
เทคโนโลยีนิวเคลียร์ น่าจะมีมาตั้งแต่โบราณ (ทุกอย่างมีในโลกอยู่แล้ว😊)
ดวงอาทิตย์ไง มีมานานแล้ว และการใช้พลังงานจากดวงอาทิตย์เทียม ควจะเป็นยุคใหม่ของมนุษย์ หลังจากที่มนุษย์เคยรู้จักใช้ไฟ (ซึ่งไฟก็เกิดขึ้นตามธรรมชาติด้วยเหมือนกัน)
Related
What was Einstein's viewpoint when he said "The more I study science, the more I believe in God"?
When he turned 50, Einstein granted an interview in which he was asked
point-blank, do you believe in God?
“I am not an atheist,” he began.
“The problem involved is too vast for our limited minds. We are in the
position of a little child entering a huge library filled with books in
many languages. The child knows someone must have written those books.
It does not know how. It does not understand the languages in which they
are written. The child dimly suspects a mysterious order in the
arrangement of the books but doesn't know what it is. That, it seems to
me, is the attitude of even the most intelligent human being toward God.
We see the universe marvelously arranged and obeying certain laws but
only dimly understand these laws.”
ไอน์สไตน์มีทัศนะอย่างไรเมื่อเขากล่าวว่า "ยิ่งฉันศึกษาวิทยาศาสตร์มากเท่าไร ฉันก็ยิ่งเชื่อในพระเจ้ามากขึ้นเท่านั้น"?
เมื่อเขาอายุ 50 ปี ไอน์สไตน์ให้สัมภาษณ์โดยมีคนถามเขา
ตรงประเด็น คุณเชื่อในพระเจ้าไหม?
“ผมไม่ใช่คนไม่เชื่อพระเจ้า” เขาเริ่ม
“ปัญหาที่เกี่ยวข้องนั้นกว้างใหญ่เกินไปสำหรับจิตใจที่มีข้อจำกัดของเรา เราอยู่ใน
ตำแหน่งของเด็กน้อยที่กำลังเข้าไปในห้องสมุดขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยหนังสือมากมาย
หลายภาษา เด็กรู้ว่าต้องมีคนเขียนหนังสือเหล่านั้น
มันไม่รู้ว่าเป็นยังไง มันไม่เข้าใจภาษาที่พวกเขาใช้
ถูกเขียน เด็กเกิดความสงสัยในคำสั่งลึกลับในนั้นอย่างเลือนลาง
จัดเรียงหนังสือแต่ไม่รู้ว่าคืออะไร ฉันก็เช่นกัน
คือทัศนคติของมนุษย์ที่ฉลาดที่สุดต่อพระเจ้า
เราเห็นจักรวาลจัดวางอย่างน่าอัศจรรย์และปฏิบัติตามกฎบางอย่างแต่.......
เพียงแต่ไม่เข้าใจกฎเหล่านี้เท่านั้น”
น่าจะสร้างคลิปมาเพื่อสร้างยอดวิวสร้างรายได้ มิได้มีวัตถุประสงค์เพื่อจรรโลงปัญญา เพราะขาดความรอบด้านของข้อมูล
การจินตนาการคือ ขบวนการของ"จิต"
จิตเร็วกว่าแสง ที่เกิดดับ เกิดดับหรือ ดับเกิด เกิดดับเร็วมากๆเหมือนกระแสไฟฟ้าสลับแต่เร็วกว่าไฟฟ้าเเลปหรือการสลับของกระแสไฟฟ้า.
...จิตมีความยาวคลื่น แสงก็มีความยาวคลื่น
...แสงมีความเร็ว จิตก็มีความเร็ว
...ความเร็วของจิตร่างกายทำไม่ทัน ในวาระจิตเดียว เปรียบความเร็วเเสงที่เดินทางจากแหล่งกำเนิด จิตก็เช่นนั้น.
...จิตของนักคิดวิทยาศาสตร์จึงเจอะหาทุกๆสรรพสิ่งธาตุวัตถุสะสารมวลสารที่เกิดจากพลังของจิตในอยากรู้ของวัตถุธาตุสะสารมวลสารที่เกิดสัมประยุตกันเกิดขึ้นจากพลังจิตที่คิดค้นหาเพื่อรู้ในปัจจัยที่จิตคิดทำขึ้นมาให้เป็นผลตอบแทนขึ้นฯลฯ
...จิตเป็นสะสารมวลสารที่มองไม่เห็นแฝงไปกับแสงก็ได้ ไม่แฝงไปกับแสงก็ได้ เป็นพลัง เป็นพลัส เป็นคลื่น เป็นแม่เหล็ก เป็นความถี่ เป็นต่างๆในทฤษฎีวิทยาศาสตร์ทั้งหมดคือธาตุ"จิต"ทั้งนั้นปัจจัยของ"จิต"ทั้งนั้น จึงบัญญัติสมมุตินามธรรมขึ้นมา เพราะเกิดรูปธรรม(ผล)ขึ้นมาใช้ นั้นๆล้วนเป็น เหตุปัจจัยของ"จิต"ที่สมมุติทฤษฎีขึ้นมาใช้
...ถ้าโลกนี้ไม่มีสมมุติ คอมพิวเตอร์ไม่เกิด มนุษย์จึงเป็นผู้ครองสมมุติ สร้างสมมุติ ลบสมมุติ โลกและจักวาลจึงเป็นการสมมุติรูปธรรมนามธรรมขึ้นจึงสื่อสารเปลี่ยนแปลงรู้กฏธรรม รู้กฏบัญญัติกันได้ กับการสมมุติ
...สมมุติที่เป็นจริง ก็คือสมมุติ
...สมมุติที่ไม่เป็นจริงก็คือสมมุติ
...พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งปัญญาในโลกและจักวาล เรื่อง จิต เจตสิก รูป นิพพาน เป็นเรื่องกฏธรรมชาติ กฏไตรลักษณ์ หรือกฏวิทยาศาสตร์ ที่ต้องมีเเละรู้เรื่องสมมุติบัญญัติของมวลหมู่มนุษย์ชาติตามธรรมส่วนสูงที่มีหัวข้อว่า
...จิต
...เจตสิก
...รูป
...นิพพาน
...ตามบัญญัติสมมุติขึ้นมาใช้
...พุทธศาสนาเป็นศาสตร์ของวิทยาศาสตร์ตั้งแต่อุบัติขึ้นในเช้าของวันเเรม๑ค่ำเดือน๖ ลบล้างความเชื่อต่างๆของทุกๆลัทธิเป็น"อนุสาสนีย์ปาฏิหาริย์ "จนถึงปัจจุบันนี้
...นี้คือ"ผลของจิต"
...จิตเดียวของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ขยายออกมาเป็นพลังล้างโลกได้
...จิตเดียวของนักคิดวิทยาการด้านต่างๆขยายสู่หลายๆจิตหาที่สุดไม่ได้
...นี่คือ"ผลของจิต"
🌾 จิต, เจตสิก, รูป, บัญญัติ, ๘๔๐๐๐หัวข้อยังตื้นนักกับพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์หาที่สุดได้.
...ปุถุชนคนกิเลสหนาหาที่สุดไม่ได้.
🌏ใดๆในโลกเเละจักรวาลล้วน สมมุติ
ส.ทับถม
@user-mb3pv4bk8k ผมกำลังหาผู้รู้อยู่พอดีเลย ผมสนใจพระพุทธศาสนา ผมกำลังศึกษาพระพุทธศาสนาอยู่ ผมอยากทราบว่ามนุษย์เกิดมาได้อย่างไร อะไรที่ทำให้มนุษย์เกิด ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
...เข้าใจว่าการกำเนิดขึ้นของโลกมาจากการกำเนิดขึ้นของจักรภพ จักรวาลฯ อันนี้ที่กล่าวมันไกลเกินกว่าจะหาที่สุดในความเริ่นต้นได้เป็นเหมือนใบไม้นอกกำมือพระพุทธเจ้าในความหมายของใบไม้ในกำมือพระองค์
...มาเรื่องในโลกกับคำถามที่ว่ามนุษย์เกิดขึ้นมาได้อย่างไร?
...ผมให้คำตอบที่เป็นความถูกที่สุดไม่ได้เพราะไม่รู้จริงในการเกิดขึ้นของสรรพสิ่งสัตว์ในโลก เพียงได้อธิบายตามหลักกฏธรรมชาติกฏไตรลักษณ์ตามตรัสรู้ธรรมจากพระพุทธเจ้าเท่าที่รู้และเข้าใจไว้
...การเกิดขึ้นของสรรพสัตว์ หรือกำเนิดมี๔ประเภททางคำสอนศาสนาพุทธ คือ
...กำเนิดขึ้นในไข่
...กำเนิดขึ้นในครรภ์
...กำเนิดขึ้นในเถ้าไคล
...กำเนิดผุดขึ้น
...กำเนิดเกิดขึ้นทั้ง๔ประเภทนี้ ก็มีเหตุปัจจัยของการเกิดทั้งสิ้นในสัตว์ทุกๆประเภทเป็นหลักทางวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันที่ตรงกับปริยัติ(ทฤษฎี)ศาสนาพุทธ อาจจะต่างกันที่"จิต" ที่วิทยาศาสตร์เข้าไม่ถึงความลึกลับเหมือนพระพุทธเจ้าอันเป็นผู้อุบัติศาสนา
...กำเนิดทั้ง๓นั้นพอเข้าใจในหลักทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์คู่คำสอนได้ แต่กำเนิดที่๔ เป็นอนันตนัยกับจิตทุกๆดวงจิต มีจิตมนุษย์เป็นต้นที่นำไปเกิดไปตายตามกฏแห่งกรรมของสรรพสัตว์ที่ทำขึ้นก่อนอดีต อดีต และปัจจุบันจากรู้ธรรมพระพุทธเจ้าขึ้นมาชี้วัดกับวิทยาศาสตร์ในปัจจุบัน คือทฤษฎีธรรมและทฤษฎีโลกที่จะต้องเรียนรู้คู่กันไป.
เพราะพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาในหลักวิทยาศาสตร์ให้คำตอบตามหลักกฏธรรมชาติได้แม้วิทยาศาสตร์ก็เดินตามทางพุทธศาสตร์ไป.
เมื่อรู้กำเนิดทั้ง๔ตามหลักธรรมท่านคงศึกษาหาความรู้ให้ยิ่งๆได้ในคัมภีร์ศาสนา ผมให้คำตอบที่ถูกที่สุดไม่ได้ เมื่อรู้ปริยัติในบัญญัติธรรมวินัยพุทธศาสนาท่านคงหายข้องใจมากขึ้นได้ในการเกิดขึ้นของมนุษย์
ปัตจัตตังเป็นความรู้เฉพาะตนในวาระจิตตัวเองมันหาที่สุดได้ตามรอยพระพุทธเจ้า.
ขอบคุณมากๆที่มีคำถาม นี้ๆคือการเสวนาธรรมครับ.
ขอบคุณ.
@@user-mb3pv4bk8kขอบคุณครับที่ตอบให้
ส่วนมากผมจะได้รับคำตอบแบบนี้
1 เฉย
2 รู้ไปมันจะช่วยให้หายทุกข์ได้ไหม
3 อจินไตย
มันก็ประมาณนี้ล่ะครับ
ตกลงพระพุทธศาสนาไม่มีคำตอบให้ คือเราไม่รู้อะไรเลย เรามาจากไหน แต่เรารู้ว่าเราต้องทำอะไร และเราก็ไม่รู้ว่าเราจะไปไหน
ส่วนเรื่องที่ยิ่งสร้างความสงสัยให้มากขึ้น คือเรื่อง "ความรู้ตถาคตมีมากมาย เหมือนใบไม้ทั้งป่า แต่หยิบเอามาสอนเพียงกำมือเดียว" มันจะเป็นไปได้อย่างไร ในเมื่อพระพุทธเจ้าเป็นสัพพัญญู ท่านอุบัติขึ้นมาเพื่อช่วยคนทั้งโลก ท่านจะไม่รู้เลยเหรอว่าคนทั้งโลก เป็นทุกข์ (ไม่รู้ )เรื่องกำเนิดจักรวาล กำเนิดโลก กำเนิดมนุษย์ และสรรพสัตว์ต่างๆ สวรรค์ นรก ชาติหน้ามีจริงไหม ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งมันยังไม่มีความชัดเจน ในคำตอบ บ้างก็ตอบอย่างนี้ บ้างก็ตอบอย่างนั้น บ้างก็ตอบว่าต้องรู้ด้วยตนเอง มันจะเป็นไปได้ยังไงครับ ความจริงมันมีมากมายขนาดนั้นเลยหรือ คนศึกษาก็สับสนครับ
อันนี้ทันตแพทย์ สมจรา ใช้มั้ยครับ
ตามมาจาก โหนกระแส ขอเสียงหน่อย😊
ทาเลส, พีทาโกรัส, อาร์คีมีดีส คลื่นลูกแรก
กาลิเลโอ, ไอแซก นิวตัน, เลโอนาร์โด ดาวินชี คลื่นลูกสอง
นิโคล่า เทสลา, โทมัส เอดิสัน, อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ คลื่นลูกที่สาม
สตีฟ จ็อบส์, บิลเกตส์, อีลอน มัก คลื่นลูกที่สี่
กรีนเวฟ
นักวิทยาศาสตร์ใช้หลักตรรกะและเหตุผลพิสูจน์ออกมาเป็นตัวเลขและทฤษฎีทางฟิสิกส์ ในขณะที่พระพุทธเจ้าใช้ปัญญาญาณในค้นคว้าความจริงแท้แห่งจักรวาล ซึ่งในคลิปก็บอกแล้วว่าทั้งสองฝ่ายต่างก็มองหาหรือตามหาความจริงแท้ที่คิดและเข้าใจว่า มีหนึ่งเดียว จึงเป็นเรื่องปกติของระบบควอนตัมหรืออนุภาคและคลื่นที่การใช้วิธีการที่แตกต่างกันสามารถนำไปสู่จุดหมายปลายทางเดียวกันได้กล่าวอีกนัยหนึ่ง อนุภาคที่ต่อมาถูกแยกออกจากกันในระบบควอนตัมถือเป็นองค์ประกอบของระบบเดียวกัน ซึ่งกระบวนการทำงานระหว่างอนุภาคและคลื่น ที่วิทยาศาสตร์จะใช้กระบวนการทำงานของอนุภาคมากกว่าคลื่น (ต้องมีกระบวนการค้นคว้าและทดลอง หรือ จากความจริงไปสู่ธรรมชาติ) แต่พระพุทธเจ้าจะใช้กระบวนการทำงานของคลื่นมากกว่า (ใช้การมีอยู่และไม่มีอยู่ตามธรรมชาติ หรือจากธรรมชาติไปสู่ความจริง) ซึ่งกระบวนการทั้งสองจะมีการทำงานอยู่บนระบบไม่เชิงเส้นที่ด้านหนึ่งจะมีความเหมือนหรือคล้ายคลึงกันมาก แต่อีกด้านหนึ่งกลับมีความแตกต่างกันและหรือตรงกันข้ามหรือสลับขั้วหรือกลับด้านกัน
แต่ความจริงในธรรมชาติในระบบควอนตัมสามารถกล่าวได้ว่ามีเพียงหนึ่งเดียวและหรือไม่ได้มีเพียงหนึ่งเดียว นัยอีกความหมายหนึ่งคือ ความจริงที่รวมเอาอนุภาคและคลื่นเข้าไว้เป็นหนึ่งด้วยกัน กับความจริงที่แยกระหว่างอนุภาคและคลื่นออกจากกัน ซึ่งจะทำให้ความจริงไม่ได้มีเพียงหนึ่งเดียวอีกต่อไปแต่มีสองความจริงคือ อนุภาคและคลื่น หรือ คลื่นและอนุภาค ถ้าหากมองจากการแสดงคุณสมบัติตามที่นักวิทยาศาสตร์ค้นพบจะบอกว่า ระบบจะไม่แสดงคุณสมบัติทั้งสองด้านพร้อมๆกัน แต่ถ้าหากมองจากการแสดงคุณสมบัติตามวิทยาศาสตร์จิตจะสามารถกล่าวได้ว่า ระบบจะแสดงและหรือไม่แสดงคุณสมบัติทั้งสองด้านพร้อมๆกัน กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ การแสดงคุณสมบัติระหว่างโลกยุคเก่ากับโลกยุคใหม่ ที่จะมีการแสดงคุณสมบัติความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงนั้นจะไม่เกิดขึ้นพร้อมๆกัน แต่โลกยุคเก่าที่มีช่วงเวลาคาบเกี่ยวกับโลกยุคใหม่จะมีการแสดงคุณสมบัติที่ดูเหมือนจะขัดแย้งหรือย้อนแย้งกัน แต่กลับไปในทิศทางเดียวกัน
ไม่ว่าจะเป็นวิทยาศาสตร์หรือศาสนาพุทธถ้าหากต่องการเข้าสู่โลกควอนตัมทุกคนทุกฝ่ายจำเป็นต้องรื้อโครงสร้างหรือโครงแบบเก่าหรือวิธีคิดวิเคราะห์และปฏิบัติแบบเก่าออกทั้งหมด (จากโลกสามมิติเข้าสูโลกสี่มิติ (บน4 ล่าง4) ที่สรรพสิ่งและเวลาจะแยกออกเป็นสองส่วนคือ เพิ่มขึ้น-ลดลง หรือ เร็ว ช้า โดยใช้ mc2 แบบย้อนกลับได้และไม่ได้หรือ กระบวนการอะเดียแบติกและกระบวนการไอเซนโทรปิก+คณิตศาสตร์ที่คำนวณผ่านกฏแรงโน้มถ่วงแบบนิวตันเข้ามาสร้างความแม่นยำในการค้นหาความจริง)
ขอโทษครับ ที่คุณพูดมาทั้งหมดนั้นมันเป็นกระบวนการ ที่วิเศษมากเลย มันดูซับซ้อน มันดูเยี่ยมมาก มันเกิดขึ้นมาเองใช่ไหมครับ มันสร้างตัวเองขึ้นมาใช่ไหมครับ มันกระทำตัวเองขึ้นมาใช่ไหมครับ ผมอยากทราบครับ คำว่ากระบวนการ คำว่าวิธีการ คำว่าระบบ มันจะเป็นเองไปได้อย่างไร
@@user-ic3uj5ru9v เป็นความสงสัยและเป็นคำถามที่ดีมากๆในเวลาเดียวกัน ในข้อมูลที่เรานำเสนอไปมีข้อความที่บอกว่า โลกยุคเก่าที่มีช่วงเวลาคาบเกี่ยวกับโลกยุคใหม่จะมีการแสดงคุณสมบัติที่ดูเหมือนจะขัดแย้งหรือย้อนแย้งกัน แต่กลับไปในทิศทางเดียวกัน เราขอเพิ่มเติมต่อท้ายประโยคออกมาที่นอกจากจะสามารถเกิดขึ้นและไปในทิศทางเดียวกันแล้วยังสามารถเกิดขึ้นและไปในทิศทางที่ตรงกันข้ามกัน (กับความรู้ความเข้าใจของเรา) ในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกันได้อีกด้วยที่ก่อให้เกิดเป็นความสงสัยและเป็นคำถามที่เกิดขึ้นจากข้อมูลหรือองค์ความรู้ที่คุณมีอยู่ + ข้อมูลหรือองค์ความรู้ที่เราได้นำเสนอไปที่ตั้งอยู่บนความน่าจะเป็นว่า จะสามารถและหรือไม่สามารถนำความรู้ความเข้าใจใหม่ๆมาสู่ตัวคุณเองได้ ซึ่งความสามารถและหรือไม่สามารถทั้งสองด้านนี้ขึ้นอยู่กับตัวของคุณเองที่ถ้าหากคุณจะยอมเปิดใจและลดระดับของคำตอบที่คุณได้ตั้งธงเอาไว้อยู่แล้ว ซึ่งเราได้บอกวิธีการอย่างคร่าวๆไปแล้วว่า ไม่ว่าจะเป็นวิทยาศาสตร์หรือศาสนาพุทธถ้าหากต้องการเข้าสู่โลกควอนตัม ( ที่มีสมมาตรยิ่งยวด Supersymmetry มากกว่า Symmetry Systems) ทุกคนทุกฝ่ายจำเป็นต้องรื้อโครงสร้างหรือโครงแบบเก่าหรือวิธีคิดวิเคราะห์และปฏิบัติแบบเก่าออกทั้งหมด ที่นักฟิสิกส์เรียกว่า Standard model ที่เป็นแค่ Symmetry Systems เท่านั้น (คำว่า รื้อโครงสร้างเก่าออกทั้งหมดอาจจะไม่ถูกต้องซะทีเดียวคือ เราไม่ได้รื้อโครงสร้างเก่าออก แต่เราเพิ่มโครงสร้างใหม่ซ้อนทับลงไปบนโครงสร้างเก่า เปรียบได้กับการเพิ่มช่องทางเดินรถโดยการสร้างสะพานคร่อมขึ้นไปบนทางเดินรถเดิมที่มีอยู่แล้วทำให้เรามีทางเดินรถเพิ่มขึ้นเดิมโดยใช้คู่ขนานไปกับทางเดินรถเดิม)
คำตอบของเราอาจดูเหมือนกับว่า ตอบไม่ตรงคำถามที่คุณสามารถนำไปใช้ได้ทันที (ทางตรงที่คุณคิดอาจไม่ใช่ทางตรง แต่เป็นทางอ้อม) เราอยากจะบอกว่า คำตอบของเราเป็นคำตอบที่เป็นทางตรงที่สุด (แต่คุณอาจจะคิดว่าเป็นทางอ้อมที่สุด) ที่ตรงกับคำถามหรือความต้องการรู้ของคุณที่ตัวของคุณเองจำเป็นต้องมีการศึกษาเรียนรู้และทำความเข้าใจกับข้อมูลใหม่ๆที่เราได้นำเสนอไปโดยใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์ 5 ขั้นตอนขอยกตัวอย่างการตั้งข้อสังเกตหนึ่งที่ได้จากการศึกษาเทคนิคคณิตศาสตร์ของนักฟิสิกส์ทั้งสองคือ Heisenberg พิจารณาอิเล็กตรอนในอะตอมว่าเป็นอนุภาค แต่ Schroedinger พิจารณาอิเล็กตรอนเป็นคลื่น แม้มุมมองจะแตกต่างกัน แต่ผลคำนวณให้คำตอบสุดท้ายที่ตรงกัน ทั้งๆ ที่ Heisenberg ใช้เทคนิคเมทริกซ์ (matrix) และ Schroedinger ใช้สมการอนุพันธ์ย่อย (partial differential equation) หลังจากนั้น Max Born ซึ่งเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของ Heisenberg ก็ได้แสดงให้เห็นว่า ฟังก์ชันคลื่นในสมการ Schroedinger มีความสัมพันธ์โดยตรงกับโอกาสการพบอนุภาคอิเล็กตรอน ที่สามารถอธิบายข้อมูลที่เรานำเสนอไปในขณะเดียวกันก็สามารถตอบคำถามของคุณได้เป็นอย่างดี
วิธีที่เราจะสามารถแก้ไขความซับซ้อนของความไม่รู้และหรือความรู้ที่เรามีอยู่ได้ดีที่สุดคือ หนามยอกเอาหนามบ่ง
@@user-ic3uj5ru9v จริงๆแล้วเราได้ตอบกลับคอมเม้นท์ของคุณไปแบบยาวๆตั้งแต่วันแรกแล้ว แต่นอกจากข้อมูลจะไม่แสดงแล้วข้อมูลต้นฉบับของเราก็หายไปอีกด้วย ดังนั้นเราจึงอยากจะตอบเพียงสั้นๆว่า กระบวนการและระบบต่างๆนี้มนุษย์เป็นผู้คิดค้นทั้งหมดตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เราเพียงแต่นำเอากระบวนการและระบบต่างๆที่ถูกคิดค้นและรับรองว่าจริงนี้มาขยายภาพของกระบวนการและระบบต่างๆที่ทุกคนอาจจะคิดและเข้าใจว่ามีอยู่ในหลักการ ทฤษฎี กฏเกณฑ์และข้อกำหนดทางวิชาการเท่านั้น แต่ให้ในความเป็นจริงมีอยู่ในทุกสิ่งทุกอย่าง
ขอโทษครับ แค่คนสงสัย และอยากศึกษาความรู้ ผมสนใจพุทธศาสนา ผมกำลังศึกษาพุทธศาสนาอยู่ ใครๆก็ว่า พุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งปัญญา
พุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งเหตุและผล
พุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งวิทยาศาสตร์
ผมเห็นว่าคุณเป็นคนมีความรู้ จึงอยากถามให้คลายความสงสัย ผมหวังว่าคุณคงจะเข้าใจความอยากรู้ของผมนะครับ
@@user-ic3uj5ru9v จริงๆแล้วเราได้ตอบกลับคอมเม้นท์ของคุณไปแบบยาวๆตั้งแต่วันแรกและครั้งแรกแล้ว แต่นอกจากข้อมูลจะไม่แสดงแล้วข้อมูลต้นฉบับของเราก็หายไปอีกด้วย ดังนั้นเราจึงอยากจะตอบเพียงสั้นๆว่า กระบวนการและระบบต่างๆนี้มนุษย์เป็นผู้คิดค้นทั้งหมดตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เราเพียงแต่นำเอากระบวนการและระบบต่างๆที่ถูกคิดค้นและรับรองว่าจริงนี้มาขยายภาพของกระบวนการและระบบต่างๆที่ทุกคนอาจจะคิดและเข้าใจว่ามีอยู่ในหลักการ ทฤษฎี กฏเกณฑ์และข้อกำหนดทางวิชาการเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงมีอยู่ในทุกสิ่งทุกอย่าง
ถ้าหากเราบอกว่า การศึกษาเรียนรู้ที่ทุกคนได้รับการบอกต่อหรือได้รับการสืบทอดต่อๆกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนี้เป็นความรู้ที่ล้าสมัย ความรู้ที่เกี่ยวกับศาสนาก็เช่นเดียวกันเหมือนกับโลกได้เดินทางไปสู่กลศาสตร์ควอนตัมแล้วแต่มนุษย์ยังใช้วิธีคิดรู้สึกและปฏิบัติที่อยู่ในโลกของกลศาสตร์คลาสสิกอยู่เลย
ในอดีตศาสนาพุทธและศาสนาอื่นๆอาจเป็นบันใดที่มนุษย์ใช้เพื่อบรรลุนิพพาน แต่ถ้าหากมนุษย์ต้องการเข้าถึงความจริงธรรมชาติที่แท้จริงในขณะที่ทุกคนยังมีชีวิตอยู่ การบรรลุนิพพานก็จะกลายเป็นความจำเป็นที่ไม่จำเป็นอีกต่อไป
การศึกษาเรียนรู้ก้าวต่อไปของมนุษย์โลกคือ ศาสนจักรวาล ที่นอกจากจะเป็นการรวมเอาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์เข้ามาอธิบายร่วมด้วยยังเป็นการรวมเอาคนทั้งโลกที่นับถือศาสนาอื่นๆมาเป็นศาสนาเดียว
จิต ไม่มีตัว ไม่มีตน ไม่มีเขา
ไม่มีเรา ไม่มีเพศ ไม่มีชาติ
กำเนิด (สภาวะจิตว่างเปล่า)
สิ่งมีชีวิต ทั้ง โลก ทั้ง จักรวาล
มีจุดกำเนิดเดียวกัน
(ถ้า ขาดตกบกพร่อง ต้องขออภัย มานะที่นี้ด้วยครับ)
มั่ว
จุดกำเนิดเดียวกันคืออะไรครับ ผมอยากรู้ครับ
ขอโทษครับ ไม่ยอมตอบผมเลย
ผ่านมาตั้งนาน ยังไม่มีนักวิทยาศาสตร์ที่มีความรู้ความสามารถคิดค้นต่อ หรือคิดใหม่ได้อีกหรือครับ
ผู้บรรยายเข้าใจไอน์สไตน์ผิดไปไกล “I am not an atheist,” “ผมไม่ใช่คนไม่เชื่อพระเจ้า” อย่าแปลผิดสิครับ
เหมือนกันที่ค้นพบความจริงด้วยตน ไม่ใช่ความเชื่อ
ต่างกันที่ค้นพบภายนอกกับภายใน
ใช่ ทอลองเเล้วนำไปใช้
จิตสุดท้าย❤
พุทธ เป็นวิทยาศาสตร์ทางจิต ศึกษาธรรมชาติผ่านกระบวนการทางจิต ต้องศึกษาด้วยตนเองโดยวิธีปฎิบัติ จะรู้ได้ด้วยตนเอง จึงอยู่เหนือเหตุผลธรรมดาสามัญ การค้นพบเรื่องทุกสิ่งทุกอย่างในธรรมชาติตามความเป็นจริง ตามเหตุปัจจัย ก็จะเชื่อได้ตามลำดับของการฝึก ทานศีลภาวนา ปฏิบัติต่อเนื่องแล้วจะเข้าใจมากขึ้นมากขึ้น จนกระทั่งลืมเรื่องวิทยาศาสตร์ไปโดยไม่รู้ตัว ใช้ประโยชน์ได้ทั้งทางโลกและทางธรรม
ไปเรียนทางจิตสะแล้ว พระพุทธเจ้าเค้ายังไปเห็นด้วยตนเองในบางเรื่อง การรับรู้ ตระหนักถึง ไม่ได้มีแค่ทางจิต ศึกษาให้ถ่องแท้ครับ เผยแพร่ผิดๆ
ค้นพบเรื่องอะไรครับ มนุษย์เกิดมาได้อย่างไรครับ ยังสงสัยอยู่
@@user-ic3uj5ru9vเพราะคุณมีความ อยาก ไงจึงได้มาเกิด เเละ พุทธ ก็ได้สอนหนทางเเห่งการดับทุกข์ไม่กลับมาเกิดอีกไว้เเล้ว พุทธวจนะมีสอนไม่ไปอ่าน ไม่ต้องเชื่อหรอกว่าจริงไหม เอาตามที่ใจตัวเองเรียกร้องเลยว่าชอบแบบไหน ไม่ห้าม ไม่บังคับ และก็ไม่ผิดด้วยต่อให้รู้เเล้วเเต่ไม่ทำตาม กรรม ของใครของมันจะเผชิญแบบไหนโลกไหนก็ตามสบายเลย
@@lasiotv5842 ขอโทษครับ ไม่ทราบว่าความอยากทำให้เกิดมนุษย์ได้ยังไงครับ เพราะว่ามนุษย์ยังไม่ได้เกิดขึ้นมาเลย ผมว่าความอยาก มันต้องมาหลังจากมนุษย์เกิดขึ้นมาแล้ว ถูกต้องไหมครับ
@@lasiotv5842ขอโทษครับ มันจะเป็นไปได้ไงครับ ความอยากทำให้มนุษย์มาเกิด มันต้องมีมนุษย์มาก่อนไม่ใช่เหรอครับ มันถึงจะมีความอยาก ฟังฟังแล้วมันจะขัดแย้งกันนะครับ
แสงเป็นพ่อ จิตเป็นลูกครับ อย่าเทียบว่าอะไรเร็วกว่ากัน
จิตในตัวเราคือขันธ์ ตา 1ขันธ์ หู 1ขันธ์ จมูก 1 ขันธ์ ลิ้น 1ขันธ์ กาย 1 ขันธ์ ใจ 1 ขันธ์
ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ คือวิญญาณที่คุยกัน เพื่อหาข้อสรุป แล้วเอาไปบอก ใจ ที่เรียกว่า มโนวิญญาณ
มโนวิญญาณ ยังต้องเถียงกับขันธ์5อีกว่ามันใช่ไหม
สรุปในใจจะรู้เหตุรู้ผลเอง
ทีหลังอย่าไปว่าคนที่พูดคนเดียวบ้านะครับ บาป
พุทธในไทยจริงๆไม่ใช่ศาสนานะ บางคนยังสับสนอยู่เลย ถ้าเอาคำสอนที่เป็นพุทธจริงๆ ก็มีของท่านพุทธทาสนี่แหล่ะ คือคำสอนเชิงพุทธจริงๆแล้วใกล้เคียงกับวิทยาศาสตร์มากครับ เพราะมันสามารถพิสูจน์ได้
ก็ศาสนานี่แหละครับ ไม่ศาสนายังไง
กฎแห่งธรรมชาติมันมีอยู่แล้ว. พระพุทธเจ้าทรงเป็นผู้ค้นพบ.
และแนวทางการเข้าถึง เรียกว่าศาสนาพุทธ
👍
ในจักรวาล /โลก มี คน/สัตว์ เกิดปรากฏอยู่ มาหลายล้านๆปี คนยุโรป/นักปรัชญา พยายาม "อธิบาย/ค้นหา" คนคืออะไร เกิดจากไหน มี "ศาสดา/นักปรัชญา อธิบาย/อ้างว่า God มาบอกไว้" พระพุทธเจ้า "ตรัสรู้ ธรรมชาติ การเกิดปรากฏของคน" ด้วย การ"ทำสมาธิ/วิปัสนา" เห็น "การสังขาร" ของ "ธรรมชาติ ปรมัตถ์ สังขาร เป็น ธรรมชาติสมมุติ" นักปรัชญา/นักวิทยาศาสตร์ ตะวันตก ไม่เชื่อว่า God สร้าง "คนและสรรพสิ่ง" จึงค้นคว้า /ทดลอง พบ แร่ธาตุ +พลังงาน มากมาย พบพลัง"ไฟฟ้า" ส่งตามสาย ต่อมา "พบพลังควันตัม"(ไฟฟ้า ทีแยกตัวได้) ไม่ต้องใช้สาย สร้าง ทีวี/วิทยุ/คอมส์/หุ่นยนต์ ไอสไสตย์พบ พลังงานต่างๆ/การทำงานของพลังงาน แสง /เสียง "สัมพัทธภาพ ของ อนุภาค/คลื่น "เกิดปรากฏการณ์ สร้างผลงาน วิทยาศาสตร์ แต่สร้าง "สัตว์โลก คน/เดรัจฉาน ยังไม่ได้" ธรรมชาติ สร้าง "คน/สัตว์ " ในตัวคน "สัตว์"ทั้งสิ้น มี "พลังงาน สร้างในตัวเอง" พุทธะเรียกว่า "พลังจิต พลังกรรม" ทำให้คน เคลื่อนที่+มีชีวิต คิด พูด จำ รู้สึก รู้สำนึกได้เอง นัวิทย/แพทย์ ตะวันตก ยัง"งุนงง" หลง/อวิชชา เรื่อง การเกิดของคน และ ความ เกิดอารมณ์ สุขทุกข์ ยังอธิบาย "ว่า สมอง" คือตัวการ /ตัวพลังงาน พระพุทธเจ้า สอนว่า "จิต ที่เป็น นาม พลังงาน " มาจาก "ธาต อากาศ และ ธาต วิญญาณ" สังขาร เป็น "พลังงาน" ให้ "ร่างกายคน มีชีวิต สร้าง กายกรรม มโนกรรม วจีกรรม" นักวิทยาศาสตร์ ยังเข้าไม่ถึง เอา "วิญญาณธาตุ" มาควบคุม สร้าง"ชีวิตคน" ไม่ได้ เพราะ มี "เป็น ธาต ว่าง" "สรรพเพอนัตตา" นั้นคือ ที่มา ของ สรรพสิ่ง เพื่อการ "สังขาร เกิดสังขารโลก สัตว์ พืช "สร้าง คน" คนสร้าง วิทยุ/คอมส์ มือถือ สุดยอดการพบ พลังงาน คือ พบ "ควันตัม~ ไฟฟ้า" ของนักวิทยาศาสตร์ พุทธะ พบพลัง จิต+พลังกรรม "ขันธ์๕ สร้างพลัง ที่ว่านี้" ผ่านการเกิด "สัตว์โลก" จึงมี จิตและกรรม?
@hellomobile4986 ตกลงมนุษย์เกิดจากอะไรครับ และอะไรทำไมมนุษย์เกิดครับ
@@user-ic3uj5ru9v พุทธะ ตรัสรู้/พัฒนา "จิต/อายตนะตัวที่๖" จนมี "ญาณทัศนะวิสุทธิ์=หยั่งรู้" จักรวาล เดิมแท้/ปรมัตถ์สัจจะ มี "ธาตุ มีอนุภาคและ ธาตุพลังงาน " ดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศ วิญญาณ (ธาตุ) แสง สี เสียง กลิ่น โอชะ ความสั่นสะเทือน แรงดีง/แรงดัน/แรงเหวี่ยง จาก ธาตุ+ดวงดาว =สรุป เกิด รูป นาม ในความว่าง (รูป นาม นิพพาน) ต่อมา ธาต สังขาร ตาม "หลัก/กฏอิทัปปัจยตา"(วิทยาศาสตร์/ธรรมชาติ) =เมื่อมี สิ่งหนึ่งๆๆ ก็ สังขาร เป็น สิ่งใหม่ๆ" จักรวาล ยาวนาน สังขาร มี "สรรพสิ่ง อุตุนิยาม และ พีชนิยาม" ในพีชนิยาม มี พวก พืช มีชีวิตเติบโต แต่ ไม่มี จิตวิญญาณ(ขันธ์) คน+สัตว์ อีก ๖ พวก รวมเดรัจฉาน มี "รูป +นาม" การเกิด คนต้องเกิด ในมดลูกแม่ ? สัตว์ เกิด ๔ วิธี? ยุคแรกๆ เกิดแบบ โอปาติกะ =ธาตุมารวมกัน แล้วเกิดปรากฏ ก็ได้ ?
ถ้าไม่นับเรื่องคำสอนศาสดาหรือพระเจ้า
พุทธศาสนา สอดคล้องกับวิทยาศาสตร์ตรงที่ สิ่งที่สอนสิ่งที่เหลือเชื่อเป็นไปไม่ได้ื เพื่อให้นักวิทยาศาสตร์พิสูจน์สังเกตุเรียนรู้ ในแบบการใช้เครื่องมือเทคโนโลยี เช่นเรื่อง ธรรมชาติ จิตใต้สำนึก อดีตชาติ จักรวาล เป็นต้น
สรรพสิ่งในธรรมชาติเกี่ยวเนื่องและสัมพันธ์กันอย่างมีเหตุและผล เพราะสิ่งนี้มีสิ่งนี้จึงมี อยู่ที่ว่าใครจะมีปัญญาเห็นในรายละเอียดมากกว่ากัน ท่านเรียกว่าอิทิปปัจจัยตา เห็นจิตอย่างแจ่มแจ้ง ก็เข้าใจสรรพสิ่งอื่นอย่างแจ่มแจ้งเช่นกัน เพราะจิตละเอียดที่สุด ต้องใช้ปัญญาระดับสูงสุดในการรู้และการเห็น อย่างอื่นรองลงมา ท่านที่เข้าใจจิตอย่างแจ่มแจ้ง ก็จะเข้าใจธรรมชาติอย่างอื่นอย่างแจ่มแจ้งเช่นกัน
สิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี
" สิ่งนี้มี " มันมีมาได้เลยครับ ผมสงสัยอยู่ครับ
@@user-ic3uj5ru9v เพราะมีอวิชา (ความไม่รู้ ไม่รู้กำเหนิด ไม่รู้ที่ไป ไม่สาเหตุ ) ความปรุงแต่ง รวมถึงความเชื่อต่างๆจึงมี นี้คือที่มาของพระเจ้า
มีหลายศาสนาบอกพระเจ้าเป็นผู้สร้างโลก?? แต่ขอถามว่าถ้าพระเจ้าเป็นผู้สร้างโลกจริงทำไมพระเจ้าไม่สร้างโลกให้สงบสุขละ!!!?
มันอยู่ที่มนุษย์ไหมละที่ทำให้โลกไม่สงบ
@@user-yc5jg2dr2d แล้วทำไมพระเจ้าไม่สร้างมนุษย์ให้มีจิตใจดีมีเมตตาไม่ฆ่ากันเองละ
ผมว่าคงไม่น่าใช่พุธที่นิยมนับถือ ในแบบแถวบ้านเรา
น่าจะเป็น แบบที่ อาจาร loy สอนอะ เข้าใจยากสุด
อาจารย์ลอยสอนไม่เข้าใจยากครับ เข้าใจได้เลยว่าแกไม่รู้จริง ศึกษาไปผิดทาง ถ้าสอนเรื่องพุทธแต่บอกบาปบุญไม่มี ชีวิตหลังความตายไม่มี ก็ไม่ใช่เข้าใจยากครับแต่เป็นเข้าใจผิด เพราะ บาปบุญชีวิตหลังความตาย ภพหน้านี่คือแก่นของพุทธเลย
นั้นอะ พุทธแท้ พุทธไทย มัน ไทยผสมพราหมณ์ฮินดู/ศาสนาผี
วิทยผิดได้แย้งได้ทดลองให้เห็นประจักได้ แต่ศาสนาผิดไม่ได้ทดลองไม่ได้
ศาสนาคือความเชื่อ แล้วไม่มีศาสนาไหนใกล้เคียงวิทยาศาสตร์ มันใช้งานคนละแบบนะ
ก็มีการพิสูจน์นะ พิศูจน์ได้ เพียงแต่คุณไม่ยอมพิศูจน์เองแล้วคุณรีบตัดสินเลยไม่แฟร์เลยนะ
@@user-og3wu5hp8s อย่างไร เรื่องอะไร บอกทีครับ
...คำว่ารู้ได้เฉพาะตน เอามาใช้ไม่ได้นะครับถ้าจะให้พิสูจน์อะไร
แค่ยอมรับว่าศาสนาคือความเชื่อ เอาไปใช้ให้ถูกก็จบ
@@blackonigiri คุณเป็นคนมีเหตุและผลน่าจะพอคุยกันได้ในระดับหนึ่ง
พระพุทธเจ้าคือบัคครับ😊
สายตาล่ะครับมองเห็นในไม่ถึงหนึ่งวิ (ดวงอาทิตย์)
สำหรับผมเป็นคนไม่นับถือศาสนารู้แค่ว่าใช้ชีวิตให้มีความสุขโดยไม่เบียดเบียนใครไม่ทำอะไรที่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนกินข้าวอิ่มนอนหลับตื่นมาทำงานหรือทำสิ่งที่ตัวเองชอบ(แบบที่ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน)คิดบวกดูแลสุขภาพอยู่กับคนที่เรารักและเขาก็รักเราและมีน้ำใจต่อคนอื่นคิดแค่นี้ผมก็พอใจกับชีวิตแล้วครับชีวิตก็แค่นี้แหละครับใช้ชีวิตให้มีความสุขคิดบวกเยอะๆไม่ทำให้ใครเดือดร้อนคิดดีทำดีแค่นี้ก็พอครับ
คุณไม่นับถือศาสนา แต่คุณมีศีล๕ ปฎิบัติตาม ความสุขก็จะตามมา
👍💞💕
ສຸດຍອດເລີຍຄັບ ຄລິບມີສາລະທີ່ນ່າຄິດ ສຶກສາໄປເລື້ອຍໆຄັບ ມະນຸດຢ່າຫຍຸດຄົ້ນຫາ
😍😍😍
พระพุทธศาสนา เป็นศาสนาที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานความจริง และมีเหตุมีผลมากที่สุด
ผมไม่เชื่อศาสนาใดทั้งสิ้นครับ ศาสนา ก็แค่คนเราสร้างขึ้นมา มโนภาพ มโนทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นมาเอง (ความจริง คือ อยู่กับปัจจุบัน เชื่อในตัวเอง
@Shuuuuu!!!! แต่มึงก็เชื่อคำสอนไปแล้ว!!
@@kimbomcrdchannel4279 ตายไปเดี๋ยวก็รู้เอง โชคดี
@@kimbomcrdchannel4279 มโน เป็นคำยืมจากภาษาสันสกฤต แปลว่า ลึกซึ้ง นะครับ
เเล้วพญานาศมาจากไหนพระพุทธเจ้าเคยพูดถึงไหม
ผมเป็นผู้หนึ่งที่ต้องการต่อยอดไอน์สไตนน์ มีจุดหนึ่งที่ไอน์สไตนน์ต้องการศึกษาศาสนาพุทธแต่เสียชีวิตก่อนจึงอาสาศึกษาแทนให้โดยใช้หลักการทางพุทธศาสนาที่ว่า"ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นก็แต่เหตุ"ตรงกับหลักการสากล"cause&effect" เมื่อนำมาตรวจสอบทฤษฎีของไอน์สไตนน์ต้องแก้ไขให้ตรงกับความเป็นจริง ความมีอยู่จริง เช่น e=mc2 หมายถึงพลังงานมาจากมวลและความเร็วแสง หรือการสลายตัวของมวลและแสงก่อให้เกิดพลังงาน ซึ่งความเป็นจริงแล้วการเกิดระเบิดปรมาณูเกิดพลังงานมากมายหลายประเภทเช่นความร้อน รังสีต่างๆ คลื่นต่างๆ แสงหลากหลายชนิด เกิดปฏิกิริยาต่อเนื่อง ฯลฯ ในทางกลับกันการเกิดมวลไม่จำเป็นต้องพึ่งแสงแต่การเกิดแสงจำเป็นต้องพึ่งมวล แก้ไขทฤษฎีเป็นมวลมาจากพลังงานและพลังงานเกิดจากการสลายตัวของมวล ทฤษฎีสัมพันธภาพทั่วไปนำเอาอวกาศและเวลานำมารวมเป็นสิ่งเดียวกันทั้งที่ความเป็นจริงเป็นของสองสิ่ง ทฤษฎีสัมพันธภาพพิเศษนำเอาเวลามาเป็นมิติที่สี่ซึ่งความเป็นจริงเป็นไปไม่ได้ต้องแก้ไขเป็นวัตถุต่างๆความสัมพันธ์กัน และวัตถุสองสิ่งอาจมีความสัมพันธ์พิเศษต่อกันได้ เมื่อนำสิ่งที่ไม่มีอยู่จริงมาสร้างทฤษฎีก็กลายเป็นเท็จทั้งหมดเช่นรูหนอนต้องการขุดอวกาศเพื่อย้อนเวลาซึ่งเป็นไปไม่ได้ เวลาที่แท้จริงคือปฏิกิริยาของอวกาศที่กระทำต่อกันอย่างต่อเนื่องเดินหน้าไม่อาจถอยหลังได้ สิ่งที่ได้มานี้ใช้เหตุและผล(cause&effect)มาวิเคราะห์ทั้งสิ้น.
@user-tr1dg1pf2r ขอโทษครับ ตอนนี้หาเจอยังครับ ผมก็สนใจพระพุทธศาสนาอยู่ และผมก็กำลังศึกษาพระพุทธศาสนาอยู่ ไม่ทราบว่าผมถามได้ไหม ผมอยากทราบว่ามนุษย์เกิดมาได้อย่างไร และอะไรที่ทำให้มนุษย์เกิด ขอบคุณครับ
@@user-ic3uj5ru9v การศึกษานี้เป็นการศึกษาทางฟิสิกส์โดยใช้เหตุและผลทางพุทธศาสนา ประสบความสำเร็จในการค้นหาต้นกำเนิดของจักรวาล และทฤษฎีทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาลที่ยังไม่มีนักฟิสิกส์ค้นพบมาก่อน สำหรับมนุษย์เกิดมาได้อย่างไร ขอใช้ทฤษฎีสัมพันธภาพพิเศษที่แก้ไขทฤษฎีของไอสไตยเป็นวัตถุสองสิ่งอาจมีความสัมพันธภาพพิเศษต่อกันได้วัตถุสองสิ่งนี้คือดวงอาทิตย์กับโลก เมื่อดวงอาทิตย์ระเบิดตัวเองให้พลังงานความร้อนส่องมายังโลกซึ่งเป็นดาวน้ำแข็งจึงเกิดปฏิกิริยาต่อกันเกิดเซลส์มีชีวิตมากมายหลายรูปแบบทั้งพืชและสัตว์ สำหรับสัตว์ทุกประเภทต้นกำเนิดเหมือนกันคือเกิดเซลส์ไข่กับเซลส์เสปิร์มมากมายหลายชนิดผสมกันมั่วจนเกิดความเหมาะสมสามารถขยายเซลส์และกินอาหารได้พัฒนาไปตามสิ่งแวดล้อมจนเกิดเป็นสัตว์ชนิดต่างๆรวมถึงมนุษย์ด้วย ซึ่งสิ่งมีชีวิตบนโลกก็มีชีวิตอยู่ได้ระยะหนึ่งเท่านั้น เมื่อดวงอาทิตย์ร้อนขึ้นหรือดับลงก็จะทำลายสิ่งมีชีวิตบนโลกด้วย หลักการเกิดแก่เจ็บตายก็นำมาใช้กับความเป็นไปของจักวาลได้ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนอนิจจัง มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา พุทธเจ้าตรัสรู้ได้เพราะเสวยอาหารมธุปายาทของนางสุชาดา อาหารจึงเป็นต้นกำเนิดของความคิดมนุษย์ด้วย.
ผมสงสัยครับ แล้วอะไรคือเหตุครับ
ผมได้ตอบเรื่องการศึกษาฟิสิกส์โดยใช้หลักการทางพุทธศาสนาว่าด้วยเหตุและผลจนสามารถหาต้นกำเนิดของจักรวาลได้ แต่ถูกลบทิ้งไป จึงไม่ทราบว่าเหตุอะไร เนื่องจากเหตุและผลเป็นเหมือนไม่บรรทัดที่วางปลายข้างหนึ่งไปที่เหตุปลายอีกข้างชี้ไปที่ผล หรือวางที่ผลก่อนก็สามารถหาเหตุได้.
ขอบคุณครับ ก็นั่นแหละครับที่ผมสงสัย อะไรเป็นสาเหตุแรกครับ
ไอน์สไตน์พบพระพุทธเจ้าเห็น
ชื่อปกหนังสือใช่มั้ยครับ555ผมมีอยู่เล่ม1อยู่บ้าน
อัลเบิร์ต ไอสไตล์ มี พ่อ และแม่ เขาเป็นชาวยิว
รอปฎิทินฝนดาวปี 66 อยู่นะครับ
คนดีเท่านั้น ผมรู้ หรือไม่รู้ แล้วแต่
พี่ทำเกี่ยวกับศาสนาอิสลามด้วยได้ไหม
ไอสไตน์เคยพูดไว้ว่า "ศาสนาพุทธ คือ ศาสนาแห่งจักรวาล" แต่เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งศาสนาในสมัยนั้น ไอสไตน์จึงไม่ได้เขียนไว้ในหนังสือส่วนตัว
เมื่อไอน์สไตน์และวิทยาศาสตร์พูดถึงพุทธจะหมายุถึง ‘ปรัชญา’ พุทธมหายานหรือวัชรยานซึ่งแพร่หลายในต่างประเทศ ในแง่ความเป็น ‘ศาสนา’ เช่น ธรรมวินัย หรือ การปฏิบัติ พุทธเถรวาทไม่มีบทบาทต่อวงการวิทยาศาสตร์เลย พุทธเถรวาทในอดีตมักโจมตีหรือวิจารณ์มหายานอย่างเผ็ดร้อนด้วยซ้ำ แต่ภายหลังมหายานแพร่หลายกว่า จริง ๆ แล้วปรัชญาพุทธเถรวาทเป็นสายสุดโต่ง คล้ายคริสต์สาย extremism หรือ fundamentalism เน้น conservative ไม่แต่งตัวตามแฟชัน แยกชาย-หญิง ไม่เปิดโอกาสในการตีความคัมภีร์ หรือการทดลองเพื่อเข้าถึงความรู้ใหม่
ไม่น่าใช่ครับ ไอน์สไตน์รู้จักพุทธผ่านโชเปนฮาวเอ่อร์ซึ่งเรียนรู้ปรัชญาแห่งทุกข์..ปรัชญาพุทธที่เผยแพร่ในยุโรปช่วงดังกล่าวเป็นพุทธศาสนาแบบเถรวาทครับ
มั่วแล้วครับ สายเถรวาทนี่แหละครับ ที่เป็นสายที่ตรงกับคำสอนของพระพุทธเจ้ามากที่สุด สายมหายานจะมีความหลากหลาย แต่สายมหายานก็ไม่ได้เป็นแค่ปรัชญา สายมหายานก็มีความเชื่อเรื่องชีวิตหลังความตายบาปบุญเหมือนกัน
พระไตรปิฎกก็ถูกบิดเบือนด้วยพราหมณ์ฮินดู แต่ถ้าคนที่เรียนรู้แก่นศาสนาออกจริงๆแยกแยะได้อันไหนพุทธแท้อันไหนพราหมณ์ฮินดู แค่นี้ก็รู้แล้วครับว่าพุทธแท้ใกล้เคียงหรือแถบจะอิงตามธรรมชาติมากๆ พุทธแท้คือสิ่งที่พระพุทธเจ้าองค์เดียวชื่อสิทธัตถะตรัสรู้แล้วนำมาสอน ไม่ได้แบ่งแยกเป็นนิกายใดๆ
ท่านควรรู้ความจริงจาก 2 ส่วน เมื่อท่านรู้แล้ว จะได้ไม่กล่าวร้ายในทั้ง 2 ส่วน อย่างน้อยๆ ก็ไม่เป็นบาปติดตัว พยายามเรียนรู้และแก้ไขไปนะ
@@AliceAliveขอโทษนะครับ การเข้าถึงความรู้ ใช้วิธีการเรียนรู้แบบไหนครับ
ยิ่งพัฒนาเร็วโลกก็ยิ่งนับถอยหลังเร็วขึ้นเพียงเพราะมนุษย์ต้องการแค่สนองความสะดวกสบายของตนเองสุดท้ายก็ต้องจากไปกันทุกคน
แล้วถ้า สามารถสร้างจักวาลเองได้ ตามทีโรเบิดได้แล้วละ
ข้อความที่ว่ามันอยู่หน้าไหนบรรทัดไหนของหนังสือ The Human Side หรอครับ
สุดยอดมากครับความคิดของเอาเบอร์ไอสตายสุดยอดทางความคิด
คนที่ผ่านการฝึกฌานและสติปัฏฐานสูตรได้สำเร็จเท่านั้นจึงจะคิดทฤษฏีแกรนด์ยูนิไฟน์ได้, ติดตามการรวมแรงในช่องพุทธะนอกวัดฟิสิกส์นอกตำรา
คำคมวันนี้ อย่าทำทรงเป็นห้าว ถ้าเกิดมาเดิน7ก้าวยังไม่ได้
😂😂😂
ดวงอาทิตย์ ไม่มีเกิด ไม่มีดับ ยังคงอยู่ต่อไปเป็นเวลาอนันต์
มีครับอีก 5พันล้านล้านล้านปี ลองไปดูช่องพี่หนุ่มคงกระพัน EP6 ช่วงท้ายๆคลิป
ได้เรียนวิทยาศาสตร์บ้างไหมก่อนนู๋ สอบตกนะตอบครูแบบนี้
ไม่มีเกิด เอ้า แล้วดวงอาทิตย์มันเกิดได้ไงอ่ะ
ไอสตาร์คือพุทธเจ้า
คิดผิดคิดใหม่ ไม่ควรปล่อยความผิดไว้นาน
🌟ชาวยิวไม่ใช่เหรอ "อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์" ‼️
แกเป็นยิวครับ เเต่ไม่นับถือศาสนา ชื่นชมเเต่พุทธ เพราะพุทธเป็นวิทยาศาสตร์
การบรรลุธรรมคือการเห็นความจริงของโลกและทุกอย่างว่ามันไม่มีตัวตน เอาจริงๆไม่ใช่ว่าคนทั่วไปจะเข้าถึงได้ง่ายๆ ผมก็เป็นอีกคนที่เหมือนจะเข้าใจ แต่ก็ไม่เข้าใจ ความรู้ของพุทธศาสนา มันเข้าถึงยากมากนะครับ
เพราะเราปล่อยให้อวิชชาครอบงำจึงทำให้ไม่เห็นไตรลักษณ์ครับ
จะบรรลุได้ไง ในเมื่อความจริงตามธรรมชาติหลายอย่างยังไม่เคยเห็นหรือเข้าใจได้เลย
เข้าสอนหรือว่าให้ไว้ปูนซีเมนสงใส
(\_/)
( • .•)
/ > 💖 Fc จาก ลาว
สะบายดีเด้อครับ ❤️
สะบายดีดาวเพัด
พระพุทธเจ้าองค์ใหม่จะมาแล้ว
ขอโทษนะครับ พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ผมยังไม่ ทราบเลยว่าจะเชื่อฝ่ายไหนดี บ้างก็ว่าเกิดที่ประเทศไทย (ฝ่ายพระอรหันต์) บ้างก็ว่าเกิดที่ประเทศอินเดีย ( ฝ่ายนักวิทย์ตะวันตก) ผมไม่รู้ควรจะเชื่อฝ่ายไหนดี
วิทยาศาสตร์เจริญแต่จิตรใจตกตำ่ถึงขั้นวิกฤต
ชอบและศรัทธาในพระพุทธศาสนาที่หลักคำสอนและคำเปรียบเปรย อุปมาอุปมัย ง่ายๆ ผมดูที่กฏทอง หรือหลักข้อควรปฏิบัติที่ศาสดา ของศาสนานั้นท่านบอกกล่าวและดำริไว้สั้นๆแต่เต็มไปด้วยความหมายที่เราต้องศึกษาและทำตามครับ ง่ายๆสั้นๆข ององค์สัมมาสัมพุทธะ ก็คือ "ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำใจให้เบิกบาน" สั้นๆ ได้ใจความ และมันบอกทุกสิ่งทุกอย่าง และก็คงไม่แตกต่างจาก กฏทอง วลีทองของศาสนาคริสต์ ที่กล่าวว่า "ท่านจงทำดีต่อผู้อื่น ดุจดั่งที่ท่านต้องการผู้อี่นทำดีต่อท่าน" สั้นๆ แค่นี้ก็สามารถ สร้างความสุข สงบ ให้กับชีวิตที่ดำรงอยู่ได้แล้ว ?
วิทยาศาสตร์:พระพุทธศาสนา
@@@@@@@@@@@@@@@@
สามยุคของคำอธิบายเรื่องโลกและจักรวาล
1.ยุคเทววิทยา(theological stage) เป็นคำสอนของ
ศาสนาเทวนิยมที่เน้นว่าพระเจ้าสร้างโลก
2.ยุคอภิปรัชญา(metaphysical stage) เป็นยุค
ของปรัชญาที่มีอิทธิพลต่อความเชื่อของมนุษย์
3.ยุควิทยาศาสตร์(scientific stage) เป็นยุคที่อ้าง
ข้อมูลแบบรูปธรรมที่ได้มาจากการสังเกตและ
พิสูจน์ทดลองไว้อย่างเป็นระบบ
####################################
ระหว่างพระพุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์
1.พระไตรปิฎกของพุทธศาสนาใช้วิทยาศาสตร์
มาเป็นเครื่องมือสำหรับประกอบคำสอนธรรมะ
โดยพระไตรปิฎกยังคงใช้อธิบายธรรมะ
2.ทั้งพุทธศาสนาและวิทยาศาสตร์ต่างก็ศึกษา
เรื่องของ “ธรรม” ก็คือ “ธรรมชาติ” เพียงต่างกัน
ที่พุทธศาสนามุ่งเรื่องความพ้นทุกข์ แต่วิทยาศาสตร์
นำมาประยุกต์ให้เป็นประโยชน์กับมนุษย์
ที่เหมือนกันคือ พุทธศาสนาสอนให้รู้ทันตามเหตุ
ปัจจัยหรือหลักปฏิจจสมุปบาท โดยวิทยาศาสตร์
ต้องสามารถพิสูจน์ของที่มาที่ไปได้อย่างมีเหตุผล
ซึ่งเราเรียกว่า algorithm
$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$
ปฏิจจสมุปบาทเป็นธรรมนิยาม
1.อุตุนิยาม(physical laws) ได้แก่กฎธรรมชาติที่ครอบ
คลุมความเป็นไปของปรากฏการณ์ในธรรมชาติของ
สิ่งที่ไร้ชีวิตทุกชนิด
2.พืชนิยาม(biological laws) ได้แก่กฎธรรมชาติที่ครอบ
คลุมความเป็นไปของสิ่งมีชีวิตทั้งพืชและสัตว์ หรือก็คือ
กฎของพันธุกรรม
3.จิตตนิยาม(psychic laws) ได้แก่กฎธรรมชาติที่ครอบ
คลุมความเป็นไปของจิต(รายละเอียดอ่านที่พระอภิธรรม
ปิฎก)
4.กรรมนิยาม(karmic laws) ได้แก่กฎธรรมชาติที่ครอบ
คลุมความเป็นไปของชีวิตมนุษย์โดยรวม คือกฎแห่งกรรม
5.ธรรมนิยาม(general laws) ได้แก่กฎธรรมชาติเกี่ยวกับ
ความเป็นเหตุเป็นผลของสิ่งทั้งหลาย เป็นกฎสากลที่ครอบ
คลุมความเป็นไปทั้งฝ่ายจิตและฝ่ายวัตถุ
พระพุทธเจ้าทรงสอนธรรมนิยามที่มุ่งเน้นในส่วนเกี่ยวกับ
จิตตนิยามและกรรมนิยาม นักวิทยาศาสตร์ศึกษาธรรม
นิยามที่มุ่งเน้นในส่วนที่เกี่ยวกับอุตุนิยามและพืชนิยาม
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
การศึกษาหาสาเหตุในธรรมชาติเป็นลักษณะสำคัญของ
พระพุทธศาสนา แต่ก็มีสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง
ลักษณะคำสอนที่ไม่ใช่พระพุทธศาสนาไว้ - ประเภท คือ
1.ปุพเพกตวาท คือลัทธิที่ถือว่าสิ่งที่เคยเกิดหรือเคยทำไว้
ในอดีตกำหนดความเป็นไปในปัจจุบันอย่างชนิดที่ว่าอะไร
จะเกิดก็ต้องเกิด ไม่มีทางหลีกเลี่ยง เข้าลักษณะที่เรียกว่า
กรรมลิขิต คำสอนนี้เป็นนิยัตินิยม(determinism)
2.อิสสรนิมมานวาท คือลัทธิที่ถือว่าพระเจ้าหรือพระพรหม
สร้างโลกและมนุษย์พร้อมกับกำหนดอนาคตของโลกและโชค
ชะตาของมนุษย์ไว้ล่วงหน้าในลักษณะที่เรียกว่าพรหมลิขิต
คำสอนนี้เป็นนิยัตินิยมอีกประเภทหนึ่ง
3.อเหตุอปัจจยวาท คือลัทธิที่ถือว่าสิ่งต่างๆเกิดขึ้นลอยๆ
ไม่มีเหตุปัจจัย ไม่มีใครสร้าง ไม่มีระเบียบกฎเกณฑ์ใดๆ
ทั้งสิ้น โลกนี้เป็นเอกภพที่ไร้ระเบียบ(chaos)
&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&
พระพุทธศาสนากับปรัชญา
พระพุทธศาสนาเหมือนกับปรัชญาตรงที่การแสวงหา
ความจริง โดยการแสวงหาความจริงในทางพุทธศาสนา
คือการใช้หลักกาลามสูตร การแสวงหาความจริงในทาง
ปรัชญาคือ หลักตรรกศาสตร์ และที่ต่างกันอีกก็คือ
การค้นพบของปรัชญาอยู๋ในขั้นทฤษฎี แต่ในทางพุทธศาสนา
ศึกษาธรรมที่นำไปสู่การปฏิบัติเสมอ
((((((((((((((((((((((((((((((((((((((((((((((((((((((((((((((((((
วิธีการทางวิทยาศาสตร์กับวิธีแก้ปัญหาแบบอริยสัจ
1.วิธีการทางวิทยาศาสตร์ :: การกำหนดปัญหา
วิธีแก้ปัญหาแบบอริยสัจ :: ขั้นกำหนดรู้ทุกข์
2.วิธีการทางวิทยาศาสตร์ :: การตั้งสมมุติฐาน
วิธีแก้ปัญหาแบบอริยสัจ :: ขั้นสืบสาวสมุทัย
3.วิธีการทางวิทยาศาสตร์ :: การสังเกตและการทดลอง
วิธีแก้ปัญหาแบบอริยสัจ :: ขั้นเก็งนิโรธ
4.วิธีการทางวิทยาศาสตร์ :: การวิเคราะห์ข้อมูล
วิธีแก้ปัญหาแบบอริยสัจ :: ขั้นเจริญมรรค
5.วิธีการทางวิทยาศาสตร์ :: การสรุปผล
ขอโทษครับ เขียนมาตั้งเยอะ ไม่เห็นบอกว่า สิ่งมีชีวิตเกิดแรกขึ้นมาได้อย่างไร แล้วพุทธศาสนาจะอธิบายชีวิตแรกเกิดขึ้นมาได้อย่างไรครับ
อจินไตย
@@user-wz4rw7tn7g ขอโทษครับ ไม่ทราบว่าผมเข้าใจถูกหรือเปล่าครับ คุณเขียนวิธีการแก้ปัญหาต่างๆมาตั้งเยอะ แล้วคุณก็มาสรุปว่า ไม่มีคำตอบ
ไม่ใช่ ตอบเฉพาะเรื่องชีวิตแรก ครับ
เรื่องการแก้ปัญหามาจากพระอาจารย์สายกรรมฐานครับ
@@user-wz4rw7tn7g ครับ คือผมเข้าใจถูกไหมครับ ชีวิตแรก ศาสนาพุทธไม่มีคำตอบให้
แต่อัลเบิร์ตไอน์สไตน์เป็นคนต่างชาติ ไม่ได้นับถือพุธ อาจเป็นคริสเตียนหรือ ยิว
ในคลิปหรือหนังสือเล่มไหนก็ไม่ได้บอกว่าไอสไตน์นับถือพุทธศาสนานะไอ้ทิด นี่ไม่รู้หรอไอสไตน์คนประเทศอะไร😅
เรื่องนั้นของแท้ ทฤษฎีสัมพัทธภาพ คือสิ่งสูงสุดของมวลภพเพราะกำเนิดมวลสารกับมวลธาตุทั้งหมด ฝีมือของผู้สร้างสรรค์ คือนิพพานถอยหลังที่ไม่มีสิ้นสุด สุดยอดมาก อจินไตย เพราะไม่ควรคิดที่ทำให้บ้า
..
ขอโทษครับ ผู้สร้างสรรค์มันคืออะไร
และนิพพานถอยหลังมันคืออะไรครับ รบกวนช่วยตอบหน่อยนะครับ ผมอยากรู้ครับ
คนฉลาดระดับนั่นมักไม่นับถือศาสนาเพราะทุกการค้นพบมันยิ่งย้อนแย้งแต่พุทธกับวิทดันไปด้วยกัน90%เรยถุกยอมรับว่ามันตรงกับทฤษฎีเขาเองคล้ายเจอคนที่คิดแบบเดียวกันก้จะชอบถุกคอ
พุทธ=คือการทดลองเเล้วนำไปใช้
วิท=การทำลองเเล้วนำไปใช้
ผมคิดเเบบนั้น จึงสรุปได้ว่าเหมือนกัน
ดิฉันขออนุญาติ ชี้แจงตามที่ค้นมา นะคะ ว่าจริงๆแล้ว ไอสไตน์ไม่ได้เขียนไว้แบบนั้นค่ะ ในหนังสือ Human Side ที่รวบรวมงานเขียนต่างๆของเค้าโดยเลขาและเพื่อนร่วมงาน เพื่อเสนอแง่มุม ความเป็นมนุษย์คนนึงของไอสไตน์ ในหน้า 70 เค้าเขียนว่า "What humanity owes to personalities like Buddha, Moses, and Jesus ranks for me higher than all the achievements of the enquiring and constructive mind."
แปล:
มนุษยชาติได้รับประโยชน์มหาศาสจากบุคคลสำคัญ เช่น พระพุทธเจ้า โมเสส และ พระเยซู มากกว่าประโยชน์ที่ได้รับจากทุกความสำเร็จที่คิดค้นมาจากความคิดเชิงตรรกะและวิทยาศาสตร์" เค้าแค่พูดรวมๆว่าศาสนาให้ประโยชน์กับมนุษย์แต่เค้าไม่ได้จำกัดว่าเป็น ศาสานาพุทธ เค้าเขียนแบบรวมๆ เชิงเปรียบเทียบ
เกิดทันไง
@@user-vb9nc3zb8vพอคนให้ข้อมูลไม่ตรงกับสิ่งที่ตัวเองเชื่อและอยากจะให้เป็นก็ไปว่าเขาเกิดทันไหมอีกเห้อน่าสงสาร เค้าก็มีแหล่งอ้างอิงชัดเจนอยู่นะ
ถ้าเปรียบเสมือนคำเหตุการณ์ต่างๆไบเบิล ตั้งแต่แรกปฐมกาล คำพูดของไอน์สไตน์ เขียนคำว่าพุทธก่อนศาสนาหน้าอื่น สิ่งที่เค้าให้ความสำคัญกว่า นักวทศ.จะเรียงลำดับความสำคัญเสมอ
@@user-qn9yz6ji7t จะเคลมให้ได้เลยใช่ไหม ว่าศาสนาพุทธเจ๋งกว่าศาสนาอื่น55555
@@BLACK__80808ไอน์สไตน์เกิดในสังคมคริสต์ ถ้าเขาไม่ประทับใจศาสนาพุทธจริงๆเขาคงไม่พูดถึง เพราะคนแนวนี้ผมว่าเขาคงศึกษาแนวคิดของศาสนาต่างๆมาทุกศาสนาแล้วล่ะ คำสอนของพุทธหลายอย่าง เกิดจากมีคนถาม แล้วพระพุทธเจ้าตอบ ซึ่ง เป็นการตอบที่มีเหตุผลและครอบคลุม จะไม่มีลักษณะที่ว่า เอ๊ยพูดผิดไปจริงๆไม่ได้จะหมายความอย่างนั้น หรือ พูดเพ้อเจ้อไปตามจินตนาการ หรือเดาสุ่ม จริงๆผมก็อยากให้คนศาสนาอื่นศึกษาเรื่อง การรู้ด้วยญาณนะครับ ผมไม่สามารถ แต่เคยเจอคนที่สามารถมากกว่าหนึ่งคน แต่ก่อนผมก็คิดว่า เนื้อหาศาสนาบางส่วนเป็นเรื่องจินตนาการของคน แต่พอผมได้สัมผัสเรื่องพวกนี้แล้วทำให้รู้ว่า ชีวิตหลังความตาย วิญญาณ บาปบุญมีจริง เพราะคนที่มีญาณที่ผมเคยได้พบ ไม่มีใครปฏิเสธเรื่องพวกนี้ คือ คุณไม่ต้องเปลี่ยนศาสนาก็ได้ แต่อยากให้ลองมาสัมผัส จะได้เข้าใจที่คนพุทธที่เป็นพุทธจริงๆเขาพูดกันว่ามันเป็นยังไง ซึ่ง คนที่ผมเคยเจอมีญาณระดับนี้ แล้วพระพุทธเจ้าจะมีญาณระดับไหน เพียงแต่คนไปตีความสับสนกับเรื้อง อาคม อะไรต่างๆ เลยมองเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติซึ่งไม่ใช่ มันเป็นเรื่องธรรมชาตินี่แหละ
ผมรุ้แค่ว่ามีกัญชาดีๆสูบ พร้อมชาเย็นหอมๆ เปลผูกเสา ลมเย็นๆ หนังสือ พอแล้วครับ สวรรค์บนดินแท้ๆ
😂😂😂😂😂😂คับ
ลงทำทำปฏิบัติภาวนาคือคำตอบครับ จะได้รู้แจ้งเห็นจริงว่าสิ่งที่พระพุทธเจ้าได้กล่าวมาจริงไหม
ขอโทษครับ ความหมายคือ คนที่ปฏิบัติแล้ว คนที่รู้แล้ว นี่ไม่สามารถตอบได้ใช่ไหมครับ
@@user-ic3uj5ru9v ตอบให้คนไม่ปฏิบัติฟังคิดว่าคนทำกับคนไม่ทำ จะเข้าใจเหมือนกันไหม
@@famous577 ที่ผมศึกษามา นั่นแหละปัญหาครับ การปฏิบัติไม่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นท่านั่งสมาธิ ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดจิต กำหนดลมหายใจ แล้วที่บอกว่ รู้แจ้งเห็นจริงเป็นแบบไหนครับ เพราะต่างคนที่ปฏิบัติก็ล้วนบอกว่าของตัวเองนั้นถูกต้อง
@@user-ic3uj5ru9v ถ้าเรื่องสภาวะตอบให้กันไม่ได้เพราะ ผมจะทำท่านหลงได้ครับแนะนำไปหาครูบาอาจารย์ วัดแถวบ้านก็ได้ครับท่าน ผมกลัวบอกแล้วพากันลงนรก
@@famous577 ถ้าเป็นเรื่องนี้ตอบได้ไหมครับ อะไร เป็นสาเหตุที่ทำให้มนุษย์เกิดครับ
ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นอย่างที่มันเป็นเกิดอย่างที่มันเกิดนั้นละครับผม
ศาสนาคือหลักธรรมคำสอนไม่ใช้เอาวิชาการมาอ้างเหมือน….
คุณเชื่อว่าไอสไตรเก่งจริงๆหรือได้ข่าวว่าเขามีทีมงาน
ต่อให้ไม่มีทั้ง 2 ก็ไม่ใช่ปัญหา โลกไม่ได้พัฒนาจาก 2 คน แต่ทุกยุคทุกสมัยล้วนอาศัยทฤษฎีที่ส่งต่อกันมาให้รุ่นใหม่ๆได้คิดค้นเสมอ
ไอน์สไตน์ เขาเป็นยิวนะ เขาเชื่อในการมีอยู่ของพระเจ้าองค์เดียว หนทางแห่งการปฏิเสธพระเจ้าหรือตั้งภาคีคือหนทางที่ผิด มันคือความผิดแบบเรียบง่ายที่สุด แต่มันกลับกลายเป็นบาปที่ร้ายแรงที่สุด มองดูจุดจบของพวกเขาคือโดนเผาในกองไฟที่ลุกโชน ไอน์สไตน์ไม่เอ๋ยถึงชื่อศาสนาพุทธด้วยซ้ำ อย่าเอามาโยงมั่วซั่ว
ที่ว่าไอน์สไตน์เป็นยิวนั้นหมายถึงชนชาติของเค้าเหมือการบอกว่าเป็นคนไทยเชื้อจีน ส่วนที่บอกว่าเค้าไม่เคยพูดถึงพุทธคือไม่เคยใช้คำว่าพูทธใช้คำว่าศาสนาแห่งปัญญาหรือศาสนาจากตะวันออก แล้วเราเอามาตีความกันว่าไอน์สไตน์หมายถึงพุทธ
ไอน์สไตน์ กล่าวว่า พระเจ้าคงไม่ทอยลูกเต๋า..คงเข้าใจความหมายนะ
ถูกต้องไอสไตน์พูดเรื่องศาสนาพุทธนิดเดียวเอง โดยพูดว่าถ้าจะมีศาสนาใดที่เป็นมิตรกับวิทยาศาสตร์ ศาสนานั้นคือศาสนาพุทธ ส่วนเรื่องอื่นเป็นการเสริมเติมเต็ม ไอสไตน์นับถือศาสนายูดาห์เขาแค่เอ่ยเรื่องพุทธเท่านั้นเอง เขาไม่ได้นับถือศาสนาพุทธ ส่วนที่ไอสไตน์บอกว่าพระเจ้าจะไม่โยนลูกเต๋า คือเขาเกิดจากการสร้างที่สมบูรณ์ ไม่ได้เกิดจากการสุ่มของธรรมชาติ และที่สำคัญศาสนาพุทธที่ไอสไตน์ศึกษาคือพุทธทั่วไป ไม่ใช่ธรรมยุตแบบไทยๆ
@@docdate7515 ฮอว์กิง นักวิทยาศาสตร์แห่งยุคก็กล่าวว่าพระเจ้าคงไม่เล่นการพนัน
(เล่นหวยเสี่ยงโชคนะ)คือคงไม่สร้างอะไรที่หาความไม่แน่นอน หรอกนะ
ก็หมายถึงไม่มีพระเจ้าสร้าง
อย่าให้ถึงพระพุทธเจ้าเลย แม้แต่ไอ้ใข่วัดเจฎี ยังเป็นที่พึ่งให้คนถูกหวยได้ทุกงวดเจ๋งกว่าพระเจ้า ที่ช่วยอะไรไม่ได้อีก ไม่ต่างจากเรื่องอุปโลก ไอน์สไตน์ไม่เอ่ยถึงอิสลามโลกแบนด้วยซ้ำ😂
พลัง ไฟฟ้า ควันตัม พลังจิต+พลังกรรม เป็น "คลื่น" ขนาดต่างๆๆๆๆ เปลี่ยน "จาก ธาตุ/อนุภาค เป็น เคลื่อน พลังงาน " ตาม ทฤษฎี ไอสไตย์ E=mc ยกกำลัง๒ เหมือนกัน แต่ ขนาดความถ่ ต่างกัน นัก วิทย์ ยังไม่ถึง พลังจิต พลังกรรม บางพวกยังหลงว่า God สร้าง สมองสร้าง ก็ไม่ค้นหา แบบพุทธะ ค้นหา สรรพสิ่งในสมอง ยาบำรุงสมอง์
ทฤษฎีของไอน์สไตน์จะมาหลังคัมภีร์อัลกุรอ่านพันกว่าปี สิ่งทึ่ไอน์สไตนกล่าวอัลกุรอ่านได้กล่าวมาก่อนแล้ว
ส่วนพระไตรปิฎกก็กล่าวไว้ก่อนอัลกุรอานนานแล้วเช่นกัน เรื่องความนาน มาก่อนกาลต้องยกให้เลย
หรือไม่จริงที่พระเจ้าสร้างจักรวาล จักรวาลสร้าง กลุ่มดาว แล้วก็ดาวสร้างสิ่งมีชีวิตขึ้นมาเอง🤔 พระเจ้าคงไม่มาไล่สร้างดาวทีละดวงหรอกมั้ง
ดูตอนตายก็รู้ว่าใครกันแน่ผิด ถูกเผาในกองไฟที่ลุกโชน ทรมานแสนสาหัส(บางคนว่าเส้นกระตุก)ก็จะโดนไม้เสียบผีแทงเข้าแทงเข้าไป เหรียญที่ร้อนจนแทบละลายอยู่ในปากเสมือนน้ำในกะทะทองแดง โดนเฉาะหน้าผากก่อนเอาเข้ากองไฟ(ปัจจุบันเฉาะลูกมะพร้าวแทนเพราะมันอุจาดตาเกินไป) คนทำพิธีอยู่ในชุดสีแดงเพลิง พวกนั้นแหละที่เผากันเอง😢
ธาตุ4เป็นแค่เปลือก ตัวตนจริงคือจิตที่ซ่อนอยู่ภายใน🤭
ศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่มีคำสอนดีที่สุดในโลกนี้
เสียดายมากที่พยาบาลฟังไอสไตล์ไม่ออก😢
ตะวันตกส่วนใหญ่นับถือ วชิรญาณ ตามท่านดาไลลามะ พุทธแท้ ไม่มีพราหมณ์ ผี ปนมาด้วย
อย่ากระหยิ่มยิ้มย่องไป พุทธศาสนาที่ว่าเขาหมายถึงพุทธมหายาน เขาไม่ใช่หมายถึงแนวกราบไหว้แบบไทย
จิตเดินทางเร็วกว่าแสง ตามความเข้าใจของผมครับ
แสงมีมวล จิตไม่มีมวล จิตเร็วกว่า ถูกต้องแล้วครับ
@@user-cl6nv7eq2nขอเห็นต่างครับ และขออธิบายยกตัวอย่างช่วงท้าย.. แสงเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าชนิดหนึ่ง
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ตั้งแต่ความยาวขึ้นสั้นไปถึงความยาวคลื่นสูง มี แกรมม่า-> เอกซเรย์-> UV-> แสงขาว(RGBตาคนมองเห็น)-> อินฟราเรด-> ไมโครเวฟ-> radio
.....แสงหรือ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า อนุภาคโฟตอนเป็นอนุภาคที่ไม่มีมวล (Massless particle) หรือ มีมวลเป็นศูนย์ และ ยังมีประจุไฟฟ้าเป็นศูนย์ด้วย
... ถ้าแสงจากดวงอาทิตย์เดินทางไปถึงดาวพลูโต ตำแหน่งที่แสงตกกระทบจะมีความสว่างเกิดขึ้น
... แต่ถ้าเราใช้จิตนึกถึงพื้นผิวดาวพลูโต เราจะนึกภาพไม่ออก และมโนภาพพื้นผิวดาวพลูโตไม่ได้ ด้วยจิต แสดงว่าจิตเรายังเดินทางไปไม่ถึง ที่ว่าไปถึงเร็วแค่การจำเอาภาพเก่ามาโชว์
@@user-cl6nv7eq2n แสงไม่มีมวลครับ ถึงมีความเร็วเท่าแสงได้ ส่วน จิต มี มวลแบบปฏิสสารครับ คือมวลที่มีประจุตรงกันข้ามกับ สสาร หรือ ร่างกาย หรือ วัตถุ ครับ!
จิตมีความเร็วมากกว่าแสงครับถูกต้องแล้วครับ จึงจำ อดีต ได้!
@@user-iw1is1zy6g ก็ที่นอนหลับฝันกันทุกคืนหรือฝันขณะหลับนั่นแหละค่ะจิตพาไปรับรู้อดีต หรือความคิด ถ้าคิดแล้วเกิดภาพเสมือนภาพเคลื่อนไหวได้ทั้งๆที่ไม่เคยเห็นด้วยตาเปล่าหรือจับต้องได้ นั่นแหละค่ะเคยเกิดขึ้นมาแล้ว แล้วจิตวิญญาณนั่นแหละค่ะตัวรับรู้และจัดเก็บอดีตเป็นไฟล์เมมเมอรี่หรือความทรงจำค่ะ มีวิญญาณเชื่อมต่อจิต วิญญาญแปลว่ารับรู้ แต่ในความคิดเราจิตคือsd การ์ดมั้งคะ🤣
อิสลามคือศาสนาดีที่สุดในโลก ไม่กราบไหว้สื่งที่ปั้นรูปมาเอง😍😍
เหรอ
ดีที่สุด? อิสลามเอาอะไรมาบอกว่าสิ่งมีชีวิตหรือการเกิดสิ่งต่างๆใหม่คือจากพระเจ้าหรอ ศาสนาเป็นหลักคำสอนไม่ใช่เอาหลักวิชามาอ้างว่าอิสลามเป็นคนสร้าง วิทยาศาสตร์เกิดก่อนอิสลามด้วยซ่ำ คลื่นน้ำ อสุจิ บอก พระเจ้าเป็นสร้าง สร้างทุกอย่าง?งี้?
พราม ฮินดู นะเหรอที่กราบไหว้รูปปั่น รึ อ้อนวอนขอพรจากสิ่งที่ไม่เคยมีอยู่จริง
พรามเป็นศาสนาที่เก่าแก่ที่สุดในโลกเกิด 4000 ปีมาแล้ว เราอาจไม่รู้ก็ได้ว่าเขามีพระเจ้าหรือศาสดากันรึป่าวไม่มีบันทึกเพราะอย่างที่บอกมันเก่าแก่ที่สุดในโลกและอาจเก่ากว่านั้น
ทำไมผมคิดว่าพระพุทธเจ้าคืมนุษย์ต่างดาวผู้ทรงภูมิปัญญา😂
@@user-kl7ur6xo8y อันนี้จริงคิดไปทั่วจะรั่วแล้วเนี้ยพอๆ5555
ผมว่าพระพุทธเจ้าเป็นนักวิทยาศาสตร์ผู้มาก่อนกาล
ผมว่าพระพุทธเจ้าเป็นนักวิทยาศาสตร์ผู้มาก่อนกาล
@@puriphattt ผมก็คิดงั้น😅เ
เพราะสะ-หนาหูฟังดังได้ดูกับหูได้ดูกับตา ฟังหลังจากได้ยินเป้าดรุนพันธลงการรผ่านแดงงินงิน
ศาสนาชอบโหนวิทยาศาสตร์ ไอน์สไตน์ไปศึกษาพุทธตอนไหนไม่ทราบ ในหนังสือThe human side ไม่มีนะ
ศาสนาใหม่ถือกำเนิดแล้วแต่ศาสดามีมากมายแยกไปตามสาขา นั่นคือศาสนาวิทยาศาสตร์ ยอมรับเถอะว่าคนที่ไม่มีศาสนามากขึ้น แต่จริงๆเขาไม่รู้ตัวว่าเขากำลังเป็นสาวกของศาสนาวิทยาศาสตร์ (อันนี้ตั้งชื่อเองเฉยๆ) ศาสดาของศาสนาใหม่ใช้เทคโนโลยีโซเชียลมีเดียเพื่อเผยแผ่ มีผู้คนติดตามมากมาย อย่างที่บอกไม่ได้มีคนเดียว มีศาสดาหลายคน ไม่รวมถึงพวกไอดอลเพราะระดับไอดอลจะเป็นแค่ผู้นำทางพฤติกรรมเฉยๆ
ไอน์สไตน์พูดผิดศาสนาในอนาคตไม่น่าใช่พุทธศาสนา เพราะพุทธศาสนาเกิดมาก่อนแล้วมีมาแล้วนับพันปีจากยุคสมัยของไอน์สไตน์ พุทธศาสนาคือปัจจุบัน(ณ.ช่วงเวลาของไอน์สไตน์พูด เกิดแล้วเผยแผ่แล้วมีคนนับถือมากมาย ถ้าจะกล่าวว่ามันดีมาก ไอน์สไตน์ต้องพูดในทำนองว่าศาสนาพุทธจะยิ่งใหญ่ที่สุดมีผู้นับถือมากที่สุด ไม่ใช่กล่าวว่าจะเป็นศาสนาใหม่ แต่แน่นอนแนวคิดอเทวนิยมและการเผยแผ่แบบพุทธ(จงมาดูเถิด ไม่ได้บังคับให้เชื่อ) ได้เป็นแรงบันดาลใจให้กับไอน์สไตน์อย่างมาก ทั้งในมิติของรูปธรรมและนามธรรม และส่วนผสมนี้จะต้องเป็นส่วนประกอบของศาสนาใหม่
อย่าโหนเพื่อให้ดูดี มันคนละเรื่องกัน ความเชื่อกับวิทยาศาสร์
ไม่ใช่ความเชื่อกับวิทยาศาสตร์
พุทธศาสนาคือการทดลองก่อนนำไปใช้จริง ก็เหมือนกับวิทยาศาสตร์