🔴จตุพร พรหมพันธุ์ ⭕แพทยสภาเดินเกมส์ จี้! ส่งหลักฐาน 'ทักษิณ'

Поділитися
Вставка
  • Опубліковано 18 гру 2024

КОМЕНТАРІ • 5

  • @suradech3132
    @suradech3132 3 години тому +2

    รมติ.รักเกียรติ แพทย์ได้กวาดบ้านครั้งสำคัญ วันนี้ แพทยสภา กำลังกวาดล้างครั้งสำคัญอีกครั้ง

  • @กมลทิพย์อินทร
    @กมลทิพย์อินทร 3 години тому +2

    บารมีตางตัวเดียวใช่รักประเท๙แค่ขออ้างทำเพื่อประชาชน
    แต่เรื่องสวนตัวเอวเพ่

  • @panaswiwatpanachat9166
    @panaswiwatpanachat9166 3 години тому +1

    กรณีที่หน่วยงานของรัฐ เช่น โรงพยาบาลตำรวจ ไม่ส่งหลักฐานเวชระเบียนของนักโทษชายชั้น 14 ที่ชื่อ ทักษิณ ไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) เพื่อใช้ในกระบวนการไต่สวน อาจถือเป็นการขัดขวางการทำงานของ ปปช. และอาจเข้าข่ายความผิดทางกฎหมาย ขั้นตอนและโทษที่อาจเกิดขึ้นสามารถอธิบายได้ดังนี้:
    ขั้นตอน
    การสอบสวนภายใน: โรงพยาบาลตำรวจอาจต้องดำเนินการสอบสวนภายในเพื่อตรวจสอบสาเหตุที่ไม่ส่งหลักฐาน และหากมีการกระทำที่ผิดกฎหมายจริง จะต้องมีการดำเนินการต่อไป.
    การตั้งข้อหา: หากพบว่ามีการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย อาจมีการตั้งข้อหาต่อบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่รับผิดชอบการตัดสินใจไม่ส่งหลักฐาน.
    การดำเนินคดีทางกฎหมาย: กระบวนการนี้อาจนำไปสู่การดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญา ขึ้นอยู่กับลักษณะของการกระทำ.
    โทษ
    โทษทางวินัย: ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการตัดสินใจไม่ส่งหลักฐานอาจต้องเผชิญกับโทษทางวินัยภายในหน่วยงานตำรวจ.
    โทษทางอาญา: หากการกระทำนั้นมีผลกระทบต่อกระบวนการยุติธรรมและพิจารณาว่าเป็นการขัดขวางการทำหน้าที่ของ ปปช. อย่างเจตนา, ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอาจถูกดำเนินคดีทางอาญา.
    สถานการณ์นี้เป็นตัวอย่างของการที่หน่วยงานของรัฐต้องปฏิบัติตามหน้าที่อย่างเคร่งครัด โดยต้องรักษาความโปร่งใสและความเที่ยงธรรมของกระบวนการยุติธรรม เพื่อไม่ให้การกระทำของหน่วยงานหนึ่งส่งผลกระทบต่อการดำเนินคดีหรือการตรวจสอบของหน่วยงานอื่น.
    You said:
    ปปช สามารถเอาผิดทางอาญากับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลตำรวจกรณีอ้างความเป็นส่วนตัวของคนไข้ กรณี ชั้น 14 ได้หรือไม่อย่างไร
    ChatGPT said:
    ChatGPT
    กรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ต้องการเอกสารหรือหลักฐานจากโรงพยาบาลตำรวจเพื่อใช้ในการไต่สวนและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลอ้างถึงความเป็นส่วนตัวของคนไข้เพื่อไม่ส่งมอบหลักฐานนั้น การดำเนินการทางอาญากับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลมีความเป็นไปได้ แต่ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย:
    กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล: ในไทยมีกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความเข้มงวด และข้อมูลทางการแพทย์ของคนไข้ถือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับการคุ้มครองสูงสุด โรงพยาบาลต้องปฏิบัติตามกฎหมายนี้อย่างเคร่งครัด
    ข้อยกเว้นทางกฎหมาย: มีบางกรณีที่กฎหมายอนุญาตให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยเฉพาะเมื่อมีความจำเป็นตามกระบวนการยุติธรรมหรือเพื่อประโยชน์สาธารณะ
    คำสั่งศาล: ถ้า ปปช. เห็นว่าจำเป็นต้องใช้ข้อมูลเหล่านั้นในการไต่สวน อาจขออนุมัติจากศาลเพื่อให้โรงพยาบาลเปิดเผยข้อมูลนั้น
    การพิจารณาของ ปปช.: ปปช. อาจพิจารณาว่าการไม่เปิดเผยข้อมูลเป็นการขัดขวางกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ และสามารถเริ่มต้นกระบวนการทางกฎหมายเพื่อเรียกร้องข้อมูลหรือดำเนินการต่อเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
    การดำเนินการทางอาญา
    การดำเนินการทางอาญากับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลที่ไม่ส่งมอบหลักฐานโดยอ้างความเป็นส่วนตัวของคนไข้สามารถเกิดขึ้นได้หาก:
    พบว่าการไม่เปิดเผยข้อมูลเป็นการกระทำโดยเจตนาเพื่อขัดขวางการทำงานของ ปปช.
    ไม่มีคำสั่งศาลหรือข้อกฎหมายที่รองรับการไม่เปิดเผยข้อมูลนั้น
    ในท้ายที่สุด การตัดสินใจดำเนินการทางอาญาขึ้นอยู่กับการพิจารณาคดีเฉพาะกิจและความชอบด้วยกฎหมายในแต่ละกรณี และอาจต้องผ่านการตรวจสอบและวินิจฉัยของศาล.