Розмір відео: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Показувати елементи керування програвачем
Автоматичне відтворення
Автоповтор
โดยส่วนตัวมองว่า การจดทะเบียนสมรสแล้ว การใช้ชีวิตคู่การตัดสินใจเรื่องใหญ่ๆหรือเรื่องสำคัญใดๆมันควรตัดสินใจร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการซื้อบ้าน,ซื้อรถ,ลาออกจากงาน การที่เราอยู่ๆก็ทำไม่บอกไม่กล่าว มันส่งผลกระทบต่ออีกฝ่ายแน่นอน การที่เราตัดสินใจเองเออเองคนเดียวเหมือนการมองว่าคนที่จดทะเบียนสมรสเป็นสิ่งไม่สำคัญ
ผมมองได้ 2 ทาง 1.เห็นด้วยว่าการทำแท้งต้องถามคู่สมรสก่อนเสมอ ถ้าไม่อยากมีลูกจะสมรสกันทำไม 2.ถ้าไม่มีกฎหมายนี้ฝ่ายผญทำแท้งอิสระ ก็ต้องมีทางออกให้ฝ่ายชายเช่นกัน กำหนดขั้นต่ำไปเลย ถ้าทำแท้งเกินกี่ครั้ง สามารถฟ้องหย่าได้ข้อเสริม ถ้ารัฐออกกฎหมายไม่ต้องการให้ทำแท้งเลยในกรณีสมรสแล้ว(ตามความเห็นพี่บ่วง) 3.รัฐจะต้องเอื้อการเลี้ยงบุตร อย่างเต็มที่เรื่องนี้ผมเห็นต่างจากพี่บ่วงพอสมควรใน part ของลูกสาวที่เรียนอยู่ไม่ตั้งใจท้อง พี่บ่วงอาจจะมองภาพกว้างจริงๆ ถึงเลือกที่จะเก็บเด็กไว้ แต่ผมกลับมองว่าระหว่างทางมันยากเกินไปจริงๆ ถึงจะบอกว่าตายายเลี้ยงได้ก็ตาม ไม่ว่าจะ ลูกสาวยังไงก็ต้องให้เวลากับเด็กในฐานะแม่ ลูกสาวไม่สามารถทิ้งลูกไปเป็นปีๆเพื่อไปเรียนต่อ ลูกสาวหาคู่สมรสยากขึ้นเพราะเป็นแม่ลูกติด หรือว่าจะพ่อที่แท้จริงยังมีสิทธิในตัวบุตรอยู่ดี แม้จะกีดกันแค่ไหนก็ตาม อาจจะถูกใช้เป็นช่องทางหาผลประโยชน์ได้ กว่าจะมีความสุขได้มันทรมานอยู่นะ ทั้งที่ปัญหาทั้งหมดสามารถจบได้แค่ทำแท้ง
"ไม่อยากมีลูกจะสมรสกันทำไม" นี่มองต่อว่า หลายคนเค้าไม่ใช่ไม่อยากมี แต่สภาพการมันยังไม่พร้อม ขณะที่คู่ชีวิตชายไม่เข้าใจกดดันจะมีๆอย่างเดียวเพราะตัวเองไม่ต้องมาอุ้มท้อง แค่ก็กูพร้อมแล้วอยากมีแล้วอะๆ อันนี้ก็ไม่ใช่เรื่อง (มีจริงนะคนแบบนี้ พวกลูกคนจีน) แต่ ถ้าผู้ชายไม่โอเคควรสามารถให้ฟ้องศาล ขอหย่าได้เลย ข้อหาทำแท้งไม่บอก อยากปรับค่าเสียเวลาชีวิตก็ได้ /สรุปคิดว่าผู้หญิงมีสิทธิจะทำ แต่ ผู้ชายก็มีสิทธิฟ้อง จบ👌🏼
ขอแย้งการยกตัวอย่างของพี่บ่วงครับ กรณีขมขื่นการทำร้ายทางจิตใจเกิดขึ้นกับร่างกายของเหยื่อ ผู้ถูกขมขื่นโดนละเมิดทางร่างกายที่ตัวเขาเป็นเจ้าของร่างกายตัวเองแต่กรณีทารกในครรภ์แม้จะมีการทำร้ายจิตใจของฝ่ายชายจริง แต่เราไม่สามารถบอกได้ว่านั่นเป็นการละเมิดสิ่งที่ฝ่ายชายเป็นเจ้าของ(หลักการกฏหมายปัจจุบันยังถือหลักว่าทารกไม่มีสิทธิความเป็นมนุษย์นะครับ และองค์ประกอบของทารกทั้งตัวเนื้อเยื่อ ตัวรก สายสะดือยังถือว่าเป็นของมารดา)
ตามหลักการจริงเมื่อเกิดการปฏิสนธิเสร็จมนุษย์หรือสัตว์ก็เกิดแล้ว การคลอดคือการพร้อมการใช้ชีวิต
@@leprosyGHOSTถามกฎหมายไม่ใช่จ้า
@@leprosyGHOST ควรแยกการแต่งงานปกติกับการแค่เสียบแล้วท้องนะครับ ยิ่งเกี่ยวข้องกับกระทำชำเราแล้วด้วยนะครับ (หยุดใช้คำว่าความจริงดีกว่านะครับ เพราะมันเป็นแค่ความคิดเห็นของคุณ)
@sindale6366 เรากำลังถกกันแบบตั้งคำถามกับกฏหมาย ซึ่งผมว่า นิยามตรงคำว่าชีวิต มันเปลี่ยนแปลงตลอดเวลานะครับ ซึ่งถ้าตามมุมมองแบบวิทยาศาสตร์ ผมว่าพอการปฏิสนธิ (อสุจิเข้าไปในใข่แล้ว) มันเกิดขึ้นแล้ว คือชีวิตมันกำลังโตนะครับ การอุปโลก ให้ระยะ 14 วัน หรือ 3 เดือน ไม่ใช่คน เป็นก้อนเนื้องอกเอาออกได้ มันดูเป็นการ อุปโลกให้คนฆ่าสบายใจ ซึ่งฟังดูโหดร้ายไปหน่อย อีกอย่าง ใข่ยังคงเป็นใข่ ไม่พัฒนาเป็นรก หรือสายสายสะดือ ตราบใดที่อสุจิยังไม่เข้าไป
@@Ratta360 ฆ่าอสุจิก็โหดร้าย ในนิยามชีวิต
28:54 กรณีปมไม่มีพ่อแม่ ผมขอพูดในฐานะที่พ่อแม่ครบ แต่โตมาละเจอพ่อแม่ทเลาะกันรุนแรงละบ่อย บอกเลยว่า ยอมไม่มี พ่อแม่ เลยก้ได้
จากข้อเท็จจริงที่พี่บิ๊กกล่าวว่าเงื่อนไขที่จะต้องให้บิดาของบุตรให้ความยินยอมนั้นน่ะ คือจะต้องมีการจดทะเบียนสมรส ถึงจะให้ทำการแท้งบุตรได้ ฉะนั้นหากมีการจดทะเบียนสมรสแล้ว ในส่วนนี้ผมไม่แน่ใจเรื่องกฎหมายประเทศบ้านเขาเท่าไรแต่ถ้ามองคล้ายๆไทยก็คือ บุตรที่เกิดจากบิดามารดาที่จดทะเบียนสมรสกันโดยชอบด้วยกฎหมาย ย่อมเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของบิดาด้วย ( มาราดาเป็นมารดาที่ชอบด้วยกฎหมายเสมออยู่แล้ว ) ฉะนั้นการที่บุตรดังกล่าวเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย คุณจะไม่ให้บิดาเขามีสิทธิ์มีเสียงหน่อยเหรอ และความเห็นส่วนตัวอีกอย่างก็คือ ผมมองว่ากฎหมายดังกล่าวน่าจะไม่ได้ถูกบัญญัติมาเพื่อริดรอนสิทธิใครใดๆเลย แต่ผมมองว่าเจตนารมณ์ของกฎหมายดังกล่าวเนี่ยถูกบัญญํติมาเพื่อคุ้มครองตัวเด็กที่อยู่ในครรภ์เสียด้วยซ้ำ
ฝั่งคนที่ออกมาต่อต้านเรื่องห้ามทำแท้งนี่มีแต่พวกที่ที่ดูๆแล้วไม่ได้อยากมีลูก แถมสภาพนั้นมีลูกคงเลี้ยงลูกให้ออกมาดีไม่ได้ ออกมาดิ้นว่าตัวเองเสียสิทธิ์แต่สุดท้ายแล้วมันก็ไม่ได้เกิดการตั้งครรภ์จนตัวเองต้องใช้สิทธินั้น
พวกนี้ชอบตีตราว่าผู้ชายทุกคนเป็นเครื่องจักรข่มขืนด้วยนะ แต่สภาพแบบนั้นใครจะเx็ดลงวะย้อมผมสีมั่วไปหมดแถมน้ำหนักเกินกว่าคนทั่วไปอีก(ไปใส่not allเอาเอง)แค่mindsetไม่เข้ากันคนมันก็ไม่ค่อยอยากมีปฏิสัมพันธ์ด้วยแล้ว
ไม่เห็นด้วยกับกฎหมายใหม่การทำแท้งของไต้หวันครับ ต่อให้พ่อและแม่อยากทำแห้งก็ไม่ควรให้สิทธิทำแท้ง ยกเว้นจะเข้าเงื่อนไขอื่น ๆ
ทำไม
รบกวนบอกเงื่อนไขในการทำแท้งในความคิดเห็นคุณมาหน่อยครับ
@ อย่างเช่น ในกรณีที่ ร่างกายเด็กมีความผิดปกติ หรือร่างกายผู้หญิงไม่สามารถรองรับการตั้งครรภ์ เป็นต้น แต่ถ้าจะให้กำหนดละเอียดกว่านี้ก็คงอยากเพราะผมไม่ได้ทำงานด้านการออกกฎหมาย
ในกรณที่ผู้หญิงเป็นซึมเศร้าเรียกร้องความสนใจหรืออยากประชดฝ่ายชายก็ช่วยยับยั้งได้
โดยส่วนตัวมองว่า การจดทะเบียนสมรสแล้ว การใช้ชีวิตคู่การตัดสินใจเรื่องใหญ่ๆหรือเรื่องสำคัญใดๆมันควรตัดสินใจร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการซื้อบ้าน,ซื้อรถ,ลาออกจากงาน การที่เราอยู่ๆก็ทำไม่บอกไม่กล่าว มันส่งผลกระทบต่ออีกฝ่ายแน่นอน การที่เราตัดสินใจเองเออเองคนเดียวเหมือนการมองว่าคนที่จดทะเบียนสมรสเป็นสิ่งไม่สำคัญ
ผมมองได้ 2 ทาง
1.เห็นด้วยว่าการทำแท้งต้องถามคู่สมรสก่อนเสมอ ถ้าไม่อยากมีลูกจะสมรสกันทำไม
2.ถ้าไม่มีกฎหมายนี้ฝ่ายผญทำแท้งอิสระ ก็ต้องมีทางออกให้ฝ่ายชายเช่นกัน กำหนดขั้นต่ำไปเลย ถ้าทำแท้งเกินกี่ครั้ง สามารถฟ้องหย่าได้
ข้อเสริม ถ้ารัฐออกกฎหมายไม่ต้องการให้ทำแท้งเลยในกรณีสมรสแล้ว(ตามความเห็นพี่บ่วง)
3.รัฐจะต้องเอื้อการเลี้ยงบุตร อย่างเต็มที่
เรื่องนี้ผมเห็นต่างจากพี่บ่วงพอสมควรใน part ของลูกสาวที่เรียนอยู่ไม่ตั้งใจท้อง พี่บ่วงอาจจะมองภาพกว้างจริงๆ ถึงเลือกที่จะเก็บเด็กไว้ แต่ผมกลับมองว่าระหว่างทางมันยากเกินไปจริงๆ ถึงจะบอกว่าตายายเลี้ยงได้ก็ตาม ไม่ว่าจะ ลูกสาวยังไงก็ต้องให้เวลากับเด็กในฐานะแม่ ลูกสาวไม่สามารถทิ้งลูกไปเป็นปีๆเพื่อไปเรียนต่อ ลูกสาวหาคู่สมรสยากขึ้นเพราะเป็นแม่ลูกติด หรือว่าจะพ่อที่แท้จริงยังมีสิทธิในตัวบุตรอยู่ดี แม้จะกีดกันแค่ไหนก็ตาม อาจจะถูกใช้เป็นช่องทางหาผลประโยชน์ได้ กว่าจะมีความสุขได้มันทรมานอยู่นะ ทั้งที่ปัญหาทั้งหมดสามารถจบได้แค่ทำแท้ง
"ไม่อยากมีลูกจะสมรสกันทำไม" นี่มองต่อว่า หลายคนเค้าไม่ใช่ไม่อยากมี แต่สภาพการมันยังไม่พร้อม ขณะที่คู่ชีวิตชายไม่เข้าใจกดดันจะมีๆอย่างเดียวเพราะตัวเองไม่ต้องมาอุ้มท้อง แค่ก็กูพร้อมแล้วอยากมีแล้วอะๆ อันนี้ก็ไม่ใช่เรื่อง (มีจริงนะคนแบบนี้ พวกลูกคนจีน)
แต่ ถ้าผู้ชายไม่โอเคควรสามารถให้ฟ้องศาล ขอหย่าได้เลย ข้อหาทำแท้งไม่บอก อยากปรับค่าเสียเวลาชีวิตก็ได้ /สรุปคิดว่าผู้หญิงมีสิทธิจะทำ แต่ ผู้ชายก็มีสิทธิฟ้อง จบ👌🏼
ขอแย้งการยกตัวอย่างของพี่บ่วงครับ กรณีขมขื่นการทำร้ายทางจิตใจเกิดขึ้นกับร่างกายของเหยื่อ ผู้ถูกขมขื่นโดนละเมิดทางร่างกายที่ตัวเขาเป็นเจ้าของร่างกายตัวเอง
แต่กรณีทารกในครรภ์แม้จะมีการทำร้ายจิตใจของฝ่ายชายจริง แต่เราไม่สามารถบอกได้ว่านั่นเป็นการละเมิดสิ่งที่ฝ่ายชายเป็นเจ้าของ(หลักการกฏหมายปัจจุบันยังถือหลักว่าทารกไม่มีสิทธิความเป็นมนุษย์นะครับ และองค์ประกอบของทารกทั้งตัวเนื้อเยื่อ ตัวรก สายสะดือยังถือว่าเป็นของมารดา)
ตามหลักการจริงเมื่อเกิดการปฏิสนธิเสร็จมนุษย์หรือสัตว์ก็เกิดแล้ว การคลอดคือการพร้อมการใช้ชีวิต
@@leprosyGHOSTถามกฎหมายไม่ใช่จ้า
@@leprosyGHOST ควรแยกการแต่งงานปกติกับการแค่เสียบแล้วท้องนะครับ ยิ่งเกี่ยวข้องกับกระทำชำเราแล้วด้วยนะครับ (หยุดใช้คำว่าความจริงดีกว่านะครับ เพราะมันเป็นแค่ความคิดเห็นของคุณ)
@sindale6366 เรากำลังถกกันแบบตั้งคำถามกับกฏหมาย ซึ่งผมว่า นิยามตรงคำว่าชีวิต มันเปลี่ยนแปลงตลอดเวลานะครับ ซึ่งถ้าตามมุมมองแบบวิทยาศาสตร์ ผมว่าพอการปฏิสนธิ (อสุจิเข้าไปในใข่แล้ว) มันเกิดขึ้นแล้ว คือชีวิตมันกำลังโตนะครับ การอุปโลก ให้ระยะ 14 วัน หรือ 3 เดือน ไม่ใช่คน เป็นก้อนเนื้องอกเอาออกได้ มันดูเป็นการ อุปโลกให้คนฆ่าสบายใจ ซึ่งฟังดูโหดร้ายไปหน่อย อีกอย่าง ใข่ยังคงเป็นใข่ ไม่พัฒนาเป็นรก หรือสายสายสะดือ ตราบใดที่อสุจิยังไม่เข้าไป
@@Ratta360 ฆ่าอสุจิก็โหดร้าย ในนิยามชีวิต
28:54 กรณีปมไม่มีพ่อแม่ ผมขอพูดในฐานะที่พ่อแม่ครบ แต่โตมาละเจอพ่อแม่ทเลาะกันรุนแรงละบ่อย บอกเลยว่า ยอมไม่มี พ่อแม่ เลยก้ได้
จากข้อเท็จจริงที่พี่บิ๊กกล่าวว่าเงื่อนไขที่จะต้องให้บิดาของบุตรให้ความยินยอมนั้นน่ะ คือจะต้องมีการจดทะเบียนสมรส ถึงจะให้ทำการแท้งบุตรได้ ฉะนั้นหากมีการจดทะเบียนสมรสแล้ว ในส่วนนี้ผมไม่แน่ใจเรื่องกฎหมายประเทศบ้านเขาเท่าไรแต่ถ้ามองคล้ายๆไทยก็คือ บุตรที่เกิดจากบิดามารดาที่จดทะเบียนสมรสกันโดยชอบด้วยกฎหมาย ย่อมเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของบิดาด้วย ( มาราดาเป็นมารดาที่ชอบด้วยกฎหมายเสมออยู่แล้ว ) ฉะนั้นการที่บุตรดังกล่าวเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย คุณจะไม่ให้บิดาเขามีสิทธิ์มีเสียงหน่อยเหรอ และความเห็นส่วนตัวอีกอย่างก็คือ ผมมองว่ากฎหมายดังกล่าวน่าจะไม่ได้ถูกบัญญัติมาเพื่อริดรอนสิทธิใครใดๆเลย แต่ผมมองว่าเจตนารมณ์ของกฎหมายดังกล่าวเนี่ยถูกบัญญํติมาเพื่อคุ้มครองตัวเด็กที่อยู่ในครรภ์เสียด้วยซ้ำ
ฝั่งคนที่ออกมาต่อต้านเรื่องห้ามทำแท้งนี่มีแต่พวกที่ที่ดูๆแล้วไม่ได้อยากมีลูก แถมสภาพนั้นมีลูกคงเลี้ยงลูกให้ออกมาดีไม่ได้ ออกมาดิ้นว่าตัวเองเสียสิทธิ์แต่สุดท้ายแล้วมันก็ไม่ได้เกิดการตั้งครรภ์จนตัวเองต้องใช้สิทธินั้น
พวกนี้ชอบตีตราว่าผู้ชายทุกคนเป็นเครื่องจักรข่มขืนด้วยนะ แต่สภาพแบบนั้นใครจะเx็ดลงวะย้อมผมสีมั่วไปหมดแถมน้ำหนักเกินกว่าคนทั่วไปอีก(ไปใส่not allเอาเอง)แค่mindsetไม่เข้ากันคนมันก็ไม่ค่อยอยากมีปฏิสัมพันธ์ด้วยแล้ว
ไม่เห็นด้วยกับกฎหมายใหม่การทำแท้งของไต้หวันครับ ต่อให้พ่อและแม่อยากทำแห้งก็ไม่ควรให้สิทธิทำแท้ง ยกเว้นจะเข้าเงื่อนไขอื่น ๆ
ทำไม
ทำไม
รบกวนบอกเงื่อนไขในการทำแท้งในความคิดเห็นคุณมาหน่อยครับ
@ อย่างเช่น ในกรณีที่ ร่างกายเด็กมีความผิดปกติ หรือร่างกายผู้หญิงไม่สามารถรองรับการตั้งครรภ์ เป็นต้น แต่ถ้าจะให้กำหนดละเอียดกว่านี้ก็คงอยากเพราะผมไม่ได้ทำงานด้านการออกกฎหมาย
ในกรณที่ผู้หญิงเป็นซึมเศร้าเรียกร้องความสนใจหรืออยากประชดฝ่ายชายก็ช่วยยับยั้งได้