Розмір відео: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Показувати елементи керування програвачем
Автоматичне відтворення
Автоповтор
เพลงประกอบน่ากล้ว รู้สึกวังเวง ส่วนเนื้อหาดีเยี่ยมค่ะ
เดิมทีกลุ่มชาวใต.และไทลื้อเป็นชนกลุ่มน้อยในแถบบ้านเราเมื่อชนอินเดียเหนืออพยพมาตั้งถิ่นฐานสร้างเขตปกครองขึ้นมาแล้วคนอินเดียเหนือไปยืมสำเนียงภาษาพวกใตมาใช้แต่รากศัพท์ต่างๆยังเป็นบาลีและสันสกฤต.ปัจจุบันคนพวกนี้ก็ยังเป็นคนกลุ่มน้อยในไทย..ความจริงต้องบอกว่าคนอินเดียอพยพที่มาตั้งดินแดนในไทยเรียกตนเองว่าชาวสยาม..ทวารวดีเป็นอารยะธรรมอินเดียเป็นคนอินเดียอพยพ(ยุคเดียวกับที่อพยพไปอินโดนีเซียฟิลิปปินมาเลย์แหละเพียงแต่พวกดราวีเดียนชอบบันทึกจึงมีหลักฐานการอพยพชัดเจนต่างจากคนตอนเหนือมีหลายกลุ่มหลายวัฒนธรรมเลยบันทึกใครบันทึกมันขาดๆหายๆ)..ย้อนไป5000ปีที่แล้ว.มีกลุ่มชนที่ปกครองแถบลาวรวมถึงบางส่วนไทยมาก่อนก็บ้านเชียงแหละ.เรียกว่าอารยะธรรมทุ่งไหหินมีศูณย์กลางปกครองที่เมืองทุ่งไหหินเมืองนี้ยังอยู่ในยุคหินใหม่และยุคสัมริดด้วย..แต่เป็นกลุ่มชนที่ไม่มากมายอะไรเมื่อเทียบกับพื้นที่ปกครอง.ต่อมาเมื่อ2300กว่าปีที่แล้วในยุคสมเด็จพระจักรพรรดิอโศกมหาราช.มีกลุ่มชนเชื้อสายชั้นปกครองนครรัฐเดิมในแคว้นต่างๆของจักรวรรดิเมาริยะได้อพยพมาในดินแดนแถบนี้แบ่งเป็นกลุ่มๆดังนี้..กลุ่มแคว้นโกศลตั้งรกรากที่พม่า.กลุ่มเมืองกบิลพัสดุ์(ในเขตเนปาลด้วย)และมคธรัฐ.กลุ่มแคว้นวัชชี แคว้นอวันตีตั้งดินแดนที่ไทย.เขมรซึ่งกลุ่มที่ไปเขมรก็ไปตีอณาจักรไหหินซึ่งยังอยู่ในยุคสัมริดแตกพ่ายไปและจับเอาคนเมืองนั้นมาสร้างอณาจักรเขมรในปัจจุบันนั่นแหละ...ส่วนกลุ่มที่ตั้งรกรากที่ไทยก็ยึดนครปฐมและลพบุรีและแถวล้านาสร้างเมืองกัน.ชาวเมืองกบิลพัสดุ์บางส่วนยังสร้างเมืองที่ศรีมหาโพธิ์ปราจีนบุรีอายุ2300กว่าปียังมีหลักฐานให้เห็นจนปัจจุบัน..ส่วนชนชาติลาวและสุโขทัยกำแพงเพชรปัจจุบันอพยพมาจากแคว้นมคธเป็นส่วนมาก(อาจมีคนแคว้นอื่นปนบ้าง)ในยุคที่กองทัพชาวเติร์กตีอินเดียใหม่ๆก่อนยุคสุโขทัยเล็กน้อยประมาณ1300ปีที่แล้วก็มาตั้งรกรากจีนแถวเสฉวนและเหนือเวียดนามแต่ถูกกองทัพจีนขับไล่เลยถอยมาตั้งรกรากที่ลาวและสุโขทัย..ซึ่งการอพยพมาของชาวอินเดียโบราณนั้นมันทำให้ชนแถบนี้จากยุคอารธรรมหินและสัมริดกลายเป็นยุคเหล็กทันทีด้วย
รานาาานฯาสาาาาสสสสาาสสาาาสสสสาาาาาาาาาาาสสสสสาาาาาาาสาาานาาาาาาานสนาสาาาานนาานนานานานาานาสาาาาาาสาาาสนนศาสนายสยยยบสสยยสสยสสยสยสยสวววววสวสยนชนชนนนขชชขชชขชขจขึ้นขณะฯ
ดีครับ
ขะแมร์กัมพูชา ก่อสร้างปราสาทบนเขาพระวิหารติดต่อกันมายาวหลายรัชสมัย กว่า 300 ปี ในรัชกาลของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 ตามศักราชที่ปรากฏในจารึกกรอบประตูมหามนเทียนชั้นที่ 5 ตกราว พ.ศ.1581 พระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 เขียนพระนามไว้ในศิลาจารึกว่า สูรยวรรมเทวะ อาจจะใกล้กับที่เขียนตามสำเนียงไทยว่า สุริยพรหมเทพ กษัตริย์พระองค์นี้มีตำนานอ้างว่าเป็นราชนัดดาของพระยาชีวกแห่งนครศ รีธรรมราช ซึ่งยกกองทัพมาตีได้กรุงละโว้(ลพบุรี) เมื่อ พ.ศ.1446 อาจจะได้สืบสันตติวงศ์ครองกรุงละโว้หรือเป็นรัชทายาท แล้วไปอภิเษกสมรสกับพระนางศรีวีรลักษมีมหาเทวี และได้ครองประเทศกัมพูชาเมื่อราว พ.ศ.1545 ตามจารึกกรอบประตูมหามนเทียนชั้นที่ 5 ว่าพระองค์สืบราชสกุลมาแต่พระเจ้าศรีนทรวรรมเทวะ (หรือศรีนทรพรหมเทพ พ.ศ.969-993) ส่วนพระนางศรีวีรลักษมีมหาเทวีนั้น นัยว่าสืบราชสกุลมาแ ต่พระเจ้าชัยวรมันที่ 2 (พ.ศ.1323-1397) เป็นเชื้อสายราชวงศ์ไศเลนทรแห่งราชอาณาจักรศรีวิชัย ซึ่งปกครองดินแดนทั้งที่แถบแหลมมลายูและประเทศชวา ตั้งแต่ราวพุทธศตวรรษที่ 12-18 พระยาชีวกแห่งนครศรีธรรมราชก็เป็นเชื้อสายราชวงศ์นี้เหมือนกัน พระเจ้าสุรยวรมันกับพระอัครมเหสีทรงสร้างปูชนียสถาน เขาพระวิหารเพราะเหตุไร ข้อนี้มีเค้าอยู่ในศิลาจารึกอักษรและภาษาสันสกฤ ต ซึ่งประดิษฐานอยู่ในคูหาปรางค์ที่เขาพระวิหารและที่ปราสาทหินตาแก้วเมืองเสียมราบว่า มีแม่เมืองผู้หนึ่งชื่อนางพิณสวัณครามวดี ปกครองบ้านเมืองแถบเขาพระวิหารมีโอรส 3 องค์ ธิดา 4 องค์ โอรสองค์หนึ่งชื่อวิษณุพล หรือลักษมีนทร์ ธิดาองค์หนึ่งชื่อปราน พระเจ้าชัยวรมันที่ 2 ได้ธิดาชี่อปราณเป็นอัครมเหสี เฉลิมพระนามใหม่ว่าพระนางกัมโพชลักษมี ส่วนวิษณุพลหรือลักษมีนทร์ ได้เ คยทำยุทธสงครามกับพระเจ้าชัยวรมันที่ 2 ตั้งแต่กษัตริย์ “ยโสวรมันที่ 1” ถึง “สุริยวรมันที่ 1” เรื่อยมาจน “ชัยวรมันที่ 5-6”จนกระทั่งท้ายสุด “สุริยวรมันที่ 2”และ“ชัยวรมันที่ 7” จากปลายคริสต์ศตวรรษที่ 9 จนถึงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 12 (หรือจากพุทธศตวรรษที่ 15 ถึง 18 หรือก่อนสมัยสุโขทัย 300 ปีนั่นเอง)
ขอบคุณมากๆๆๆครับ เอามาอีกนะครับ ชอบประวัติศาสตร์ครับ
@อสุจิ จ้าหนีข้าทําไม แบบนี้คับของเก่าจริงๆ
ขอบคุณครับ ผมกำลังศึกษาเหรียญวิกโตรินุช แห่งโรมัน ในสมัยทวารวดีอยุ่พอดีครั
กิตติชัย ใจสม บช
ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะหนูต้องทำคะแนนสอบได้ดีแน่ๆเลยค่ะ :)
ของเก่าของจริงที่สมบูรณ์คนของกรมศิลปากรเปลี่ยนไปขายเรียบร้อยเเล้วเหลือแต่ของเลียนแบบ.
เก็บเกี่ยวความรู้ไว้เล่าต่อไห้ลูกหลานเราฟัง
้เห็นของพวกนี้แล้วหลงไหล
อ่านว่า ทะ- วาน - วะ - ดี ? 555
อ่านว่า ทะ-วา-ระ-วะ-ดี หรือ ทะ-วา-รา-วะ-ดี นะคะ
อันนี้แกล้งพูดเล่นหรือตั้งใจมั่ว?
เพลงประกอบน่ากล้ว รู้สึกวังเวง ส่วนเนื้อหาดีเยี่ยมค่ะ
เดิมทีกลุ่มชาวใต.และไทลื้อเป็นชนกลุ่มน้อยในแถบบ้านเราเมื่อชนอินเดียเหนืออพยพมาตั้งถิ่นฐานสร้างเขตปกครองขึ้นมาแล้วคนอินเดียเหนือไปยืมสำเนียงภาษาพวกใตมาใช้แต่รากศัพท์ต่างๆยังเป็นบาลีและสันสกฤต.ปัจจุบันคนพวกนี้ก็ยังเป็นคนกลุ่มน้อยในไทย..ความจริงต้องบอกว่าคนอินเดียอพยพที่มาตั้งดินแดนในไทยเรียกตนเองว่าชาวสยาม..ทวารวดีเป็นอารยะธรรมอินเดียเป็นคนอินเดียอพยพ(ยุคเดียวกับที่อพยพไปอินโดนีเซียฟิลิปปินมาเลย์แหละเพียงแต่พวกดราวีเดียนชอบบันทึกจึงมีหลักฐานการอพยพชัดเจนต่างจากคนตอนเหนือมีหลายกลุ่มหลายวัฒนธรรมเลยบันทึกใครบันทึกมันขาดๆหายๆ)..ย้อนไป5000ปีที่แล้ว.มีกลุ่มชนที่ปกครองแถบลาวรวมถึงบางส่วนไทยมาก่อนก็บ้านเชียงแหละ.เรียกว่าอารยะธรรมทุ่งไหหินมีศูณย์กลางปกครองที่เมืองทุ่งไหหินเมืองนี้ยังอยู่ในยุคหินใหม่และยุคสัมริดด้วย..แต่เป็นกลุ่มชนที่ไม่มากมายอะไรเมื่อเทียบกับพื้นที่ปกครอง.ต่อมาเมื่อ2300กว่าปีที่แล้วในยุคสมเด็จพระจักรพรรดิอโศกมหาราช.มีกลุ่มชนเชื้อสายชั้นปกครองนครรัฐเดิมในแคว้นต่างๆของจักรวรรดิเมาริยะได้อพยพมาในดินแดนแถบนี้แบ่งเป็นกลุ่มๆดังนี้..กลุ่มแคว้นโกศลตั้งรกรากที่พม่า.กลุ่มเมืองกบิลพัสดุ์(ในเขตเนปาลด้วย)และมคธรัฐ.กลุ่มแคว้นวัชชี แคว้นอวันตีตั้งดินแดนที่ไทย.เขมรซึ่งกลุ่มที่ไปเขมรก็ไปตีอณาจักรไหหินซึ่งยังอยู่ในยุคสัมริดแตกพ่ายไปและจับเอาคนเมืองนั้นมาสร้างอณาจักรเขมรในปัจจุบันนั่นแหละ...ส่วนกลุ่มที่ตั้งรกรากที่ไทยก็ยึดนครปฐมและลพบุรีและแถวล้านาสร้างเมืองกัน.ชาวเมืองกบิลพัสดุ์บางส่วนยังสร้างเมืองที่ศรีมหาโพธิ์ปราจีนบุรีอายุ2300กว่าปียังมีหลักฐานให้เห็นจนปัจจุบัน..ส่วนชนชาติลาวและสุโขทัยกำแพงเพชรปัจจุบันอพยพมาจากแคว้นมคธเป็นส่วนมาก(อาจมีคนแคว้นอื่นปนบ้าง)ในยุคที่กองทัพชาวเติร์กตีอินเดียใหม่ๆก่อนยุคสุโขทัยเล็กน้อยประมาณ1300ปีที่แล้วก็มาตั้งรกรากจีนแถวเสฉวนและเหนือเวียดนามแต่ถูกกองทัพจีนขับไล่เลยถอยมาตั้งรกรากที่ลาวและสุโขทัย..ซึ่งการอพยพมาของชาวอินเดียโบราณนั้นมันทำให้ชนแถบนี้จากยุคอารธรรมหินและสัมริดกลายเป็นยุคเหล็กทันทีด้วย
รานาาานฯาสาาาาสสสสาาสสาาาสสสสาาาาาาาาาาาสสสสสาาาาาาาสาาานาาาาาาานสนาสาาาานนาานนานานานาานาสาาาาาาสาาาสนนศาสนายสยยยบสสยยสสยสสยสยสยสวววววสวสยนชนชนนนขชชขชชขชขจขึ้นขณะฯ
ดีครับ
ขะแมร์กัมพูชา ก่อสร้างปราสาทบนเขาพระวิหารติดต่อกันมายาวหลายรัชสมัย กว่า 300 ปี ในรัชกาลของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 ตามศักราชที่ปรากฏในจารึกกรอบประตูมหามนเทียนชั้นที่ 5 ตกราว พ.ศ.1581 พระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 เขียนพระนามไว้ในศิลาจารึกว่า สูรยวรรมเทวะ อาจจะใกล้กับที่เขียนตามสำเนียงไทยว่า สุริยพรหมเทพ กษัตริย์พระองค์นี้มีตำนานอ้างว่าเป็นราชนัดดาของพระยาชีวกแห่งนครศ รีธรรมราช ซึ่งยกกองทัพมาตีได้กรุงละโว้(ลพบุรี) เมื่อ พ.ศ.1446 อาจจะได้สืบสันตติวงศ์ครองกรุงละโว้หรือเป็นรัชทายาท แล้วไปอภิเษกสมรสกับพระนางศรีวีรลักษมีมหาเทวี และได้ครองประเทศกัมพูชาเมื่อราว พ.ศ.1545 ตามจารึกกรอบประตูมหามนเทียนชั้นที่ 5 ว่าพระองค์สืบราชสกุลมาแต่พระเจ้าศรีนทรวรรมเทวะ (หรือศรีนทรพรหมเทพ พ.ศ.969-993) ส่วนพระนางศรีวีรลักษมีมหาเทวีนั้น นัยว่าสืบราชสกุลมาแ ต่พระเจ้าชัยวรมันที่ 2 (พ.ศ.1323-1397) เป็นเชื้อสายราชวงศ์ไศเลนทรแห่งราชอาณาจักรศรีวิชัย ซึ่งปกครองดินแดนทั้งที่แถบแหลมมลายูและประเทศชวา ตั้งแต่ราวพุทธศตวรรษที่ 12-18 พระยาชีวกแห่งนครศรีธรรมราชก็เป็นเชื้อสายราชวงศ์นี้เหมือนกัน
พระเจ้าสุรยวรมันกับพระอัครมเหสีทรงสร้างปูชนียสถาน เขาพระวิหารเพราะเหตุไร ข้อนี้มีเค้าอยู่ในศิลาจารึกอักษรและภาษาสันสกฤ ต ซึ่งประดิษฐานอยู่ในคูหาปรางค์ที่เขาพระวิหารและที่ปราสาทหินตาแก้วเมืองเสียมราบว่า มีแม่เมืองผู้หนึ่งชื่อนางพิณสวัณครามวดี ปกครองบ้านเมืองแถบเขาพระวิหารมีโอรส 3 องค์ ธิดา 4 องค์ โอรสองค์หนึ่งชื่อวิษณุพล หรือลักษมีนทร์ ธิดาองค์หนึ่งชื่อปราน
พระเจ้าชัยวรมันที่ 2 ได้ธิดาชี่อปราณเป็นอัครมเหสี เฉลิมพระนามใหม่ว่าพระนางกัมโพชลักษมี ส่วนวิษณุพลหรือลักษมีนทร์ ได้เ คยทำยุทธสงครามกับพระเจ้าชัยวรมันที่ 2
ตั้งแต่กษัตริย์ “ยโสวรมันที่ 1” ถึง “สุริยวรมันที่ 1” เรื่อยมาจน “ชัยวรมันที่ 5-6”จนกระทั่งท้ายสุด “สุริยวรมันที่ 2”และ“ชัยวรมันที่ 7” จากปลายคริสต์ศตวรรษที่ 9 จนถึงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 12 (หรือจากพุทธศตวรรษที่ 15 ถึง 18 หรือก่อนสมัยสุโขทัย 300 ปีนั่นเอง)
ขอบคุณมากๆๆๆครับ เอามาอีกนะครับ ชอบประวัติศาสตร์ครับ
@อสุจิ จ้าหนีข้าทําไม แบบนี้คับของเก่าจริงๆ
ขอบคุณครับ ผมกำลังศึกษาเหรียญวิกโตรินุช แห่งโรมัน ในสมัยทวารวดีอยุ่พอดีครั
กิตติชัย ใจสม บช
ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ
หนูต้องทำคะแนนสอบได้ดีแน่ๆเลยค่ะ :)
ของเก่าของจริงที่สมบูรณ์คนของกรมศิลปากรเปลี่ยนไปขายเรียบร้อยเเล้วเหลือแต่ของเลียนแบบ.
เก็บเกี่ยวความรู้ไว้เล่าต่อไห้ลูกหลานเราฟัง
้เห็นของพวกนี้แล้วหลงไหล
อ่านว่า ทะ- วาน - วะ - ดี ? 555
อ่านว่า ทะ-วา-ระ-วะ-ดี หรือ ทะ-วา-รา-วะ-ดี นะคะ
อันนี้แกล้งพูดเล่นหรือตั้งใจมั่ว?