นางวิสาขา อุบาสิกา Top Spender (กับ ปาย เนะ ยิปซี ไหนเล่าซิ๊) | Myth Universe EP51
Вставка
- Опубліковано 9 лют 2025
- แขกรับเชิญมาไม่หยุด คราวนี้เป็นสาวๆ จากรายการ ไหนเล่าซิ๊ ช่อง ANO and Friends ทั้งปาย เนะ และยิปซี! ที่มาฟังนายโจ้บองโก้เล่าตำนานปรัมปราให้ฟังกันแบบครบก๊วน
อีพีนี้เลยนำเอาเรื่องสาวสวยสมัยพุทธกาลอย่าง นางวิสาขา ที่หลายคนน่าจะคุ้นชื่อกันดี มาเล่าตั้งแต่ประวัติตอนเด็ก กระทั่งออกเรือนแต่งงาน วีรกรรมกับพ่อผัว การทำทานครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตอย่างการถวายปราสาท! จนได้รับขนานนามจากพระพุทธเจ้าให้เป็นอุบาสิกาผู้เป็นเลิศด้านถวายทาน (เพราะถวายทุกสิ่งทุกอย่างเท่าที่หาได้แล้วจริงๆ) ไปถึงวาระสุดท้ายของชีวิต ที่ว่ากันว่านางมีชีวิตอยู่ถึง 120 ปีเลยทีเดียว ไปดูกันว่าสาวๆ เอ็นจอยขนาดไหนกัน
#SalmonPodcast #MythUniverse
ผมพูดผิดไปในตอนที่บอกว่าพระมหาปชาบดีเป็นผู้หญิงคนแรกที่บรรลุธรรมในพุทธศาสนานะครับ จริงๆ ต้องเป็นนางสุชาดา และภรรยาของยสกุลบุตร ที่บรรลุโสดาบันเป็นท่านแรกครับ
มีข้อมูลพูดผิดพลาดตรงไหน ผู้ฟังแจ้งกันเข้ามาได้นะครับ ขอบคุณมากๆ ครับ
พี่โจ้ครับ ตอนแรกพี่โจ้เล่าว่าปู่เป็นเศรษฐีแคว้นอังคะ แต่อีกครั้งพี่โจ้เล่าว่าอยู่ในแคว้นมคธ ขอพี่โจ้รีเช็คให้หน่อยครับ😊
สาวๆ รีแอคสนุกมาก 55555 และเป็นนักเรียนหน้าห้องมาก มียกมือก่อนถามด้วย
จริงครับ ฮ่าๆ
เห็นด้วยค่ะ จังหวะก็ชอบ เสียงก็ชอบ มีทวนด้วย 🙂🙂
พระอริยะ มี 4 ขั้น
1 พระโสดาบัน เกิดอีกไม่เกิน 7 ชาติ
2 พระสกิทาคามี เกิดอีกครั้งเดียว
3 พระอนาคามี จะไม่เกิดบนโลกแล้ว แต่ไปเกิดในพรหมโลกอีกครั้งเดียว แล้วจะนิพพานในพรหมโลกเลย (ขั้นนี้ขึ้นไปถึงจะหมดเรื่องกามราคะ)
4 พระอรหันต์ ไปนิพพาน ไม่กลับมาเกิดอีก
ซึ่งขั้น 1-3 ปลายทางก็คือจะเป็นพระอรหันต์ในที่สุด และสามารถบรรลุอรหันต์ก่อนครบกำหนดได้ ถ้าชาตินั้นปฏิบัติให้ถึงขั้น4ไปเลย ก็ขึ้นอยู่กับอุปนิสัยของแต่ละคน
*ถ้าเป็นอริยะแล้ว จะไม่มีทางตกอบายภูมิอีก ต่ำสุดคือเกิดเป็นมนุษย์
อตาคามี ผู้ไม่เกิดใหม่ คุ้นๆน่ะ😂😂😂 ไม่พูดเยอะ
โสดาบัน เอกพีชี ....ละสังโยชน์ ๓ ประการสิ้นไป เป็นโสดาบัน ไม่มีทางตกต่ำ มีความแน่นอนที่จะสำเร็จสัมโพธิในวันข้างหน้า บุคคลนั้นเกิดเป็นมนุษย์ภพเดียวเท่านั้นก็จะทำที่สุดแห่งทุกข์ได้ บุคคลนี้เรียกว่า ผู้เป็นเอกพีชี
สาธุครับ ขอบคุณสำหระบความรู้
@@honghao_wuใช่ครับ ผู้ไม่มาเกิดอีก ไม่มาเกิดในกามาวจรภูมิอีก แต่ พรหม มิได้อยู่ใน กามาวจร ครับผม
สงสัยค่ะว่า ถ้าพระสกิทามาเกิดบนโลกมนุษย์ แล้วก็บรรลุเป็นพระอนาคามี ในชาตินั้น แสดงว่า มนุษย์ก็เป็นพระอนาคามีได้ถูกมั้ยคะ
คนที่เกิดในยุคพุทธกาลแล้วได้เจอพระพุทธเจ้า คือคนที่ทำบุญมาเยอะสังสมบุญมาสมบูรณ์แล้ว ถึงได้พบพระพุทธเจ้าคนพวกนี้แค่สกิดนิดเดียวก็บันลุธรรมได้ทันที ไม่แปลกหรอกคับ เราเกิดทันแค่ได้ฟังธรรมของพระพุทธเจ้าก็ถือว่ามีบุญมากแล้วคับ ไปเทียบกับคนยุคพุทธกาลไม่ได้นะพี่
ที่นางวิสาขาตั้งชื่อลูกว่ามิคาร เหมือนพ่อสามี เพราะความฉลาดของนางด้วย นางลำบากใจว่าพ่อสามีที่ปกติลูกสะใภ้ต้องเคารพ มาเคารพนาง ผิดธรรมเนียม แต่นางห้ามพ่อสามีไม่ได้ เลยแก้เกมด้วยชื่อลูก กลายเป็นมิคารมารดาจริงๆ
ใช่ครับนางชาญฉลาดจริงๆ
จริงๆแล้วที่คนสมัยพุทธกาลเค้าบรรลุธรรมง่ายๆมีพระโสดบัน เป็นต้นเพราะพวกเค้าเหล่านั้นฟังคำสั่งสองของพระพุทธเจ้ามาหลายพระองค์และ หลายภพชาติแล้ว เมื่อถึงคราวที่บุญกุศลเต็มพร้อม พระพุทธเจ้าท่านก็จะเทศนาธรรมะที่ผู้คนนั้นๆสั่งสมมาแตกต่างกันจนบรรลุธรรม เหมือนพวกเราตอนนี้งัย😊😊😊😊
ใช่ครับ อบรมบารมีมาเต็มกันหมดแล้ว ได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าจึงสำเร็จโดยพลัน
ทำบุญมาเยอะถึงได้เกิดพร้อมพระพุทธเจ้า
พระพุทธเจ้าท่านรู้ว่าใครอินทรีย์มากหรือน้อยครับ ท่านรู้ว่าคนนี้ใช้พระสูตรไหนสอนถึงจะบรรลุธรรม บางคนบรรลุพระอรหันต์ง่ายๆเลยบางคนก็ยากเต็มที่ก็โสดาบันขั้นต่ำสุดแต่สุดท้ายก็จะนิพพานในอนาคต
อยากเห็นแขกรับเชิญคู่นั้นอ่ะ ในคลิป ประวัติ เฮรา อ่ะ รีแอคคือแรงสะใจ ประทับใจมาก5555
คู่นั้นน้องชมพูกับอ้อแอ้ ทีมงาน Salmon Podcast ครับ ไว้พามาฟังอีกนะฮะ
ผู้หญิงไทย ส่วนมากอธิษฐานอยากเป็นคนสวย รวย เป็นดารา ราชินี ...แต่ผู้หญิงพม่าที่เคยพูดกับเขา ทุกคนเวลาทำบุญ จะอธิษฐานอยากเป็นนางวิสาขา นี่คือจุดแตกต่างกัน
โหลดแบบ 6 ชั่วโมงไว้แล้วด้วย ไว้ฟังตอนบินไปอินเดีย ชอบฟังมากหลายปีก่อนได้มีโอกาสพาหลวงตาตาบอด 1 ข้าง ไป รพ สงฆ์ อยู่บ่อยครั้ง ต้องไปตั้งแต่ตี 5 จาก นฐ และรอรับกลับเป็นบ้างครั้ง หลังๆ นานเกิน หลวงตาเลยให้กลับไปก่อนเดี๋ยวหลวงตาติดรถคนอื่นกลับ ทุกครั้งที่อยู่ในรถหลวงตาคงกลัวเราง่วง หลวงตาจะเราพระไตรปิฎกให้ฟังตลอด หลวงตาเหมือนหลับไปเล่าไป ตอนนี้หลวงตามรณภาพแล้ว คิดถึงท่านมากๆ
เปล่งสาธุการไป 8,420 ครั้ง 🙏🙏🙏 ฟินมากค่าาา❤
พี่โจ้เล่าสนุกจริง แขกรับเชิญก็น่ารักมาก เพราะมีคำถามแต่จังหวะถามก็มีจังหวะที่พี่โจ้กำลังจะไปเรื่องถัดไป กลมกล่อมจริง Ep.นี้
กุดุมภี คือ บอดี้การ์ด 5555 คุ้มครอง แต่ละคนเก่ง ฉลาด รอบรู้ เอาไว้ดูแล นางวิสาขา คุ้มครอง
อยากเห็นแกงค์นี้รีแอคตำนานแนวๆอีหยังวะแบบพวกตำนานเทพกรีกโน่นนี่นั่นไรงี้ 5555 น่าจะบันเทิง 55555
เป็นรายการที่สนุกและได้ความรู้มากครับ ครั้งถัดๆไป request พระอุบลวรรณาเถรีนะครับ เนื้อเรื่องอาจมีความดาร์คนิดๆอยากให้คนอื่นได้ฟังด้วย พี่โจ้เล่าน่าจะได้อรรถรส แถมได้เห็น reaction ผู้ร่วมรายการด้วยครับ
ทำให้เกิดข้อบัญญัติขึ้นหชายข้อด้วยครับ
ที่บรรลุธรรมได้ง่าย เพราะมีปัจจัยเสริมส่งมาจากชาติก่อนๆ ถ้าไม่ทำอนันตริยกรรมก็บรรลุแน่นอน และที่บรรลุง่ายอีกข้อเพราะคนเทศนาคือพระพุทธเจ้าเอง
พี่โจ้ คือ คนที่ทำให้เรื่องเล่าทางพุทธศาสนาได้กลมกล่อมมากจริงๆค่ะ ❤ ติดตามต่อไปนะคะ
ตอนเด็กเรียนธรรมมะพระชอบไซโคให้กลัวบาปกลัวผีกลัวโน่นกลัวนี่เลยไม่ชอบพระ ไม่ชอบวัด ไม่ชอบศาสนาใดๆเลย จนเราได้มาฟังรายการพี่โจ้ เรารู้สึกสนุกกับเรื่องเล่า แล้วรู้สึกศาสนาพุทธดีมาก มุมมองเราเปลี่ยนไปเลยค่ะ ชอบฟังมากกกก ต้องได้ฟังชอบฟังได้ความรู้กว่าตอนเรียนอีกค่ะ 😅
ที่คิดว่า คนสมัยก่อนบรรลุธรรมง่าย ก็เพราะว่าได้ฟังธรรมโดยตรงจากพระพุทธเจ้า ผู้เป็นออริจินอล แล้วถ้าใครไม่ได้ฟังจากพระพุทธเจ้าก็ได้ฟังจากศิษย์ก้นกุฏิ ก็คือพระสาวกที่ฟังจากพระพุทธเจ้าโดยตรงอีก เคยมีคนบรรลุเยอะ
อารมณ์ประมาณหลักสูตร original แล้วมันใหม่อยู่ คนฟังก็ว่าฟังง่าย เพราะว่าไม่ได้มีใครมาสังคายนา ไม่ต้องมามีใครแปล คนสมัยก่อนเขาอยู่กับธรรมชาติ สิ่งเราก็ไม่ได้เราให้สมาธิสั้นมากเหมือนสมัยนี้ เขาก็น่าจะมีความเข้าใจอะไรๆในชีวิตมากกว่าสมัยนี้ด้วย
อย่างสมัยนั้นเท่าที่ศึกษาประวัติศาสตร์มา จะมีการเรียนหลายสาขาวิชาที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตจริงๆ ขนาดวิชาโหราศาสตร์ยังได้เรียนกันเลย ถึงแม้จะเป็นพื้นฐานก็เถอะ แล้วยุคนั้นมันเป็นยุคทองของศาสนาและปรัชญา เหมือนสมัยกรีกโบราณที่มีนักปราชญ์เยอะแยะไปหมด สมัยนั้นเลยมีคนคิดค้นเริ่มต้นอะไรใหม่ๆเยอะ ทางฝั่งชมพูทวีปก็คงไม่ต่างกัน บรรลุธรรมกันง่ายเพราะว่าเป็นยุคทองของศาสนาและปรัชญา อารมณ์เจอคนที่ใช่ในเวลาที่ใช่พอดี
ล่าสุด วันวิสาขบูชาได้ไปฟังธรรมที่มาจากพุทธวจน เรื่องรู้หรือไม่ว่าทำไมนั่งสมาธิแล้วจิตฟุ้งซ่านไปคิดสิ่งนั้น ใครบันดาลให้คิด
สุดท้ายได้คำตอบว่า ความเคยชินจนติดเป็นนิสัยทำให้เรากลับไปยึดสิ่งนั้น
แค่นั้นแหละ รู้สึกเหมือนได้ขี่จรวดทะลุดาวอังคาร จากที่อ่านหนังสือจิตวิทยาพัฒนาตนเองมาเป็นหลายปี คาดว่าอยากจะรู้จักตัวเองแต่ก็ไม่เคยรู้จักเลย มาฟังเทศน์แค่วันนั้นแค่คำนั้น ได้รู้จักตัวเองหมดเลยว่าจริงๆแล้วตัวเองเป็นคนยังไง จากการที่เรากลับไปคิดถึงมันซ้ำๆ ตอนที่นั่งสมาธินี่แหละ ถึงเชื่อเลยว่าทำไมคนสมัยนั้นถึงบรรลุธรรมง่าย เพราะจริงๆแล้วมันง่าย เพียงแต่ว่าพระส่วนมากในประเทศสมัยนี้เขาไม่เอามาเทศน์ เอามาเทศน์แต่เรื่องบริจาคเงินเรื่องทำของขลัง คนจะไปบรรลุได้ยังไง
เห็นด้วยมากๆเลยครับ
ยุคนั้นเป็นยุคช่วงเวลาแห่งการถือกำเนิดแห่งปรัชญาและการค้นหาความหมายของชีวิตจริงๆ เพราะมีนักปราชญ์ ศาสดามากมายเกิดในช่วงเวลาเดียวกัน ทั้งจีน ยุโรป อินเดีย รวมถึงความเชื่อย่อยๆ อื่นๆอีกมากมาย มักจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาประมาณ 2000-3000 ปีที่แล้วเกือบทั้งหมดเลย ยกเว้นอียิปต์ ถ้าพูดตามแบบพุทธคือ มันเป็นช่วงเวลาที่เหตุปัจจัยเหมาะสม มนุษย์มีอินทรีย์แก่กล้า เหมาะสมกับการพัฒนาปัญญา
มนุษย์เข้าใจธรรมชาติ ของความสุขและความทุกข์มากกว่าปัจจุบันแน่ๆ
มีนักเรียนหญิงเข้ามานั่งฟังด้วยสามคน บรรยากาศน่ารักมาก สนุกมากค่ะเทปนี้ ขอบคุณทั้งสามสาวที่มาเป็นผู้ฟังที่น่ารักของเทปนี้ด้วยนะคะ
พี่โจ้ช่วยเมตตาทำ พุทธยูนิเวิส ได้ไหม ฟังแล้วไม่อิ่ม สนุกมากกกก 👏🏼👏🏼👏🏼👏🏼
เนี่ย คือข้อดีของการอัพเกรดมาเป็นวีดีโอพอดแคสท์ มีสาวๆมามันก็จะสดชื่นแบบนี้ 😁
ชอบมากกกกกก เนื้อเรื่องเรียบเรียงได้ดีมากกกกก ฟังเข้าใจง่าย มีแขกรับเชิญช่วยชงอีก อย่างเข้ากันนน😊
แขกรายการคนละแนวแต่ชอบมากๆ เห็นมุมมองสามสาวมากขึ้นเลยแหะ พี่ยิปคงชอบแนวนี้มากๆแน่เลย
ฟังเรื่องนี้แล้วมีแพชชั่นในการทำบุญทำทานเลยค่ะ เป็นหญิงสาวที่เริ่ดมาก
EP แห่งความสดใส
สาวๆสดใสมากค่า เป็นคอลแลปที่ค่อนข้างเซอร์ไพร์ส รอพี่โจ้ไปไหนเล่าซิน้าา
ตั้งใจฟังกล่อมนอน แต่อีพีนี้สนุกจนข่มตานอนไม่ได้จริง ๆ สาว ๆ เป็นเกสท์ที่น่ารักมาก ขอบคุณที่มาทำให้รายการนี้มีสีสันนะคะ ❤
Ep นี้สนุกมาก แขกรับเชิญมีชง มีตบ สนุกมาก เล่าเรื่องเรียงลำดับ เหมือนละครเวที เห็นภาพมาก
เริ่ดอ่ะ แขกที่เชิญมา สร้างสีสันให้รายการสนุกขึ้นมากเลยครับ
บรรยากาศสดใสขึ้นมาทันทีเหมือนอยู่ในทุ่งดอกไม้ epนี้ฟังเพลินมากค่ะ สาวๆกลมกล่อมสุดถามถูกจังหวะไม่มากไม่น้อยตั้งใจฟังจริงๆตอบรับกับพี่โจ้ดีมาก มาออกอีกน้าชอบบ❤️
ฟังเรื่องพุทธจากที่นี่ ไม่เคยผิดหวังเลยจริงๆ ขอบคุณงานดีๆนะคะ น้องๆแขกรับเชิญก็น่ารัก สร้างสีสรร ถามได้ใจ
หนูชอบที่พี่เลือกเรื่องราวที่เข้ากะแขกรับเชิญ เก่งมากๆค่ะ
ขอขอบคุณ สนุกมากครับคุณโจ้และแขกรับเชิญ
ขอบคุณมากนะครับ
พอดแคสต์โปรดกับสามสาวไหนเล่าซิที่เรารัก ดีงามที่สุดดดด❤❤
ขอบคุณมากนะคะ...คุณทำให้พุทธกาลกับปัจจุบัน อยู้ใกล้ๆกันนิดเดียว❤❤❤❤
นอกจากพี่โจ้และเนื้อเรื่องที่สนุกสนานแล้ว สามสาวก็ทำให้บรรยากาศรายการแปลกไป(ในทางที่ดี) เทปนี้กลมกล่อมมาก ชอบมากๆคะ
รู้จักช่องนี้เพราะแก๊งนี้รีวิวเลยค่ะ ตามมาจากคุณยิปซี ขอบคุณที่แนะนำช่องดีๆแบบนี้นะคะ ❤
แขกรับเชิญรีแอคสนุกมากกกกก ทำให้เรื่องยิ่งสนุกขึ้นไปอีก
คนสมัยนั้นต้องมีบุญมากจริงๆถึงเกิดทันพระพุทธเจ้า
ดังนั้นการที่ฟังแปบๆแล้วบรรลุไม่แปลกครับ
แต่สมัยเรานั้นต้องพยามยามมากกว่าสมัยนั้นเยอะถึงจะบรรลุ
แต่บรรลุได้เช่นกัน ตามที่เราเห็น เช่น หลวงปู่มั่น,หลวงตามหาบัว เป็นต้น
ชอบการเล่าของช่องนี้มากครับ เอาพุทธประวัติมาเล่าให้สนุก,เข้าใจง่าย
รายการที่รอคอยมาแล้วววว ชอบที่มีการพูดคุยแลกเปลี่ยน ช่วยกันแก้ไขให้ถูกต้องในคอมเม้นท์เนี่ยคอนเทนต์คุณภาพ ❤❤❤
เห็นด้วยกับสาวๆค่ะ พี่โจ้เล่าเกี่ยวกับศาสนาสนุกมาก ฟังเพลินทุกepเลย
เล่าสนุกแต่จุดผิดเยอะมากกก
พยายามจะให้ไม่ผิดแล้วนะครับ ถ้าเห็นว่าผิดจุดไหน ท้วงได้เลยนะครับ
@@SalmonPodcast4อย่างที่วิ่งแล้วไม่งาม ตรงช้างมงคล ที่ว่าวิ่งแล้วดูไม่งาม ช้างในที่นี้คือช้างที่ประดับด้วยเครื่องราชอิสสริยาภรณ์ต่างๆครับ เวลาวิ่งจะดูไม่สง่างาม ไม่ใช่แค่ช้างวิ่งเฉยๆนะครับ👍❤️
ขอบคุณที่เสริมนะครับ เสริมกันได้ครับ
@@SalmonPodcastผู้หญิงที่บรรลุธรรมคนแรกตามที่บันทึกไม่ใช่พระนางปชาบดีโคตมี แต่เป็นแม่ของพระยสกุลบุตรคือนางสุชาดา คนเดียวกับที่ถวายข้าวมธุปายาสก่อนพระพุทธเจ้าตรัสรู้ ภายหลังพระยสกุลบุตรบรรลุอรหันต์แล้ว และบิดาของพระยสบรรลุโสดาบัน ได้นิมนต์พระพุทธเจ้าไปฉันที่บ้าน พระพุทธเจ้าได้แสดงธรรมให้นางสุชาดาและอดีตภรรยาของพระยสกุลบุตร แล้วบรรลุโสดาบันตามแล้วแสดงตนเป็นอุบาสิกาคนแรกของพระพุทธศาสนา
ปกติติดตามฟังอยู่แล้ว แต่วันนี้มีสาวๆมารีแอคยิ่งสนุกไปใหญ่ เหมือนฟังเพื่อนๆเม้าท์มอย ขอบคุณนะคะ
ขอขอบคุณ
ความเห็นส่วนตัวน่ะครับ ผมคิดว่า ยุคนั้นบรนลุธรรมง่ายเพราะ บารมีเต็มเกิดร่วมยุคพระพุทธเจ้าเหมือนบัว4เหล่า จากนั้นก็มีบารมีลดๆมาตามลำดับ ถ้าผู้มีบุญมาเกิดยุคใดยุคนึงถ้าได้ฟังธรรม และ ปฏิบัติธรรมก็สามารถบรรลุขั้นใดขั้นนึงได้
จนถึงยุคเรา บารมีปานกลาง ถึงจะได้ยินธรรมเยอะจากหลายช่องทาง แต่ไม่บันลุธรรม ก็มีหลายปัจจัย อย่างมากแคาเหลื่อมใสที่สุดยกเป็น สรณะที่พึ่งทางกายวาจาใจฯลฯ
เเขกรับเชิญสร้างสีสันสนุกดีครับ ไม่มากไม่น้อยเกินไป ตัวเลข 500 ที่ปรากฏตามคัมภีร์ต่างๆ เป็นการประมาณจำนวน อาจไม่เป๊ะตามนั้นครับ ถ้าจะมากหรือน้อยกว่า 500 ก็คงไม่มาก
Thanks!
EP. นี้นักเรียนในคลาสตั้งใจเรียนมาก รีแอคสนุกมาก 👍
ชอบรีแอคชั่น 3 สาวมากๆค่ะ
รีแอคแบบเด็กเรียน นั่งหน้าห้องสุดๆ 🫶🏻💕
เคยฟังเคยอ่านมาหลายเว่อร์ชั่นแล้ว แต่เว่อร์ชั่นนี้ก็สนุกๆๆมากค่ะ คนเล่าเและผู้ฟังทำให้เรารู้สึกตามได้จริงๆๆ😊
พอแขกรับเชิญเยอะแบบนี้ แล้วชอบพาออกนอกเรื่องบ่อยๆ มันไม่ค่อยได้ความรู้แบบเดิมสักเท่าไหร่
ดีใจ.. ที่เห็น เด็กรุ่นใหม่ สนใจ และเข้ามาศึกษา
ในพุทธศาสนา
ยังมีเรื่องสนุกๆ ให้ติดตามกันอีกเยอะค่ะ
ปล.สาวๆ นอกจากสวยแล้ว ยังมีความฉลาดอีกด้วย... ขอชื่นชมค่ะ
สนุกมากในอีก version ในการเล่าเรื่อง สำหรับคนรุ่นใหญ่ที่สมควรเรียนรู้มีครบรส มีสาระ ได้ความรู้ และสนุกสนาน.
สนุกมากกกก made my day สุดๆ ค่า
รีแอคของพี่ๆ ทั้งสามคือดีมาก เสียงเพราะมาก 55555 (ปกติดูไหนเล่าซิ แล้วเสียงจากไมค์กล้อง จะคนละแบบกับไมค์อัดพอดแคส)
ปล. ยิ่งดูยิ่งตอกย้ำว่าพี่โจ้เนิร์ดเรื่องพุทธพอๆ กับเนิร์ดวันพีช 😂😂😂
กระฎุมพี ชนชั้นผู้มั่งมี ตอนเด็กผมเข้าใจว่าคนใส่ กระดุมที่อ้วนๆ
เก่งมากเลยครับ เล่าสนุกฟังง่าย ❤❤❤❤❤
เล่าเรื่องได้สนุกมากค่ะ และสามสาวก็อินกับเนื้อเรื่อง ผู้ฟังก็รู้สึกสนุกตามไปอีกค่ะ
สนุกมากกกกกกกก จริงๆค่ะ ปกติฟังแต่ UC พึ่งมาลองฟัง ตอนแรกๆก็คิดอยู่ว่าจะจูนติดไหม สรุปสนุกมากเลยค่ะพี่โจ้ ติดตามค่า
1:04:40 ตรงนี้เป็นคำถามที่ดีมาก... เพราะเป็นคำถามที่เป็นไปเพื่อการปรารภความเพียร , เป็นไปเพื่อมรรค , เพื่อทางไปสู่ความเป็นอย่างนั้น
คำว่า “ทำยังไงให้ไม่รัก” มันก็จะไปตรงกับเรื่องของ “ปฏิจจสมุปบาท” (ฝ่ายดับ)
เพราะความรัก ก็คือ “ตัณหา” ในวงจร “ปฏิจจสมุปบาท”
ตัณหา ความอยาก มันจะมีลักษณะ ๓ อย่างคือ..
๑.อยากได้สิ่งนั้นมา (กามตัณหา)
๒.อยากรักษาสิ่งนั้นไว้ (ภวตัณหา)
๓.อยากผลักสิ่งนั้นออกไป หรือ อยากที่จะไม่อยาก (วิภวตัณหา)
ผู้ที่อ่านมาถึงตรงนี้ เทียบเคียงวงจร “ปฏิจจสมุปบาท” ตามนะครับ และในวงจรนั้น สิ่งที่ท่านเห็นท่อนนึงก็คือ “เวทนา ปัจจะยา ตัณหา” หรือแปลว่า เวทนา เป็นปัจจัย ให้เกิดตัณหา นั้นปฏิจจสมุปบาท (ฝ่ายเกิด)
แต่ทีนี้ว่า ปฏิจจสมุปบาท มันจะมี ๒ ส่วน คือ ปฏิจจสมุปบาท (ฝ่ายเกิด) และ ปฏิจจสมุปบาท (ฝ่ายดับ)
ตรง ปฏิจจสมุปบาท (ฝ่ายดับ) ก็จะต้องย้อนกลับไปที่เหตุของมันว่า ”ตัณหา“ เกิดจากอะไร ?
ตัณหา , ความรัก , ความอยาก ฯลฯ มีอะไรเป็นแดนเกิด มีอะไรเป็นเหตุ มีอะไรเป็นปัจจัย มีอะไรเป็นอาหาร ?
พอไปดูวงจร (ปฏิจจสมุปบาท) ก็ “เวทนา” นั้นแหละ เป็นแดนเกิด เป็นเหตุปัจจัย เป็นอาหาร ของตัณหา
ฉะนั้น.. เมื่อเวทนามี ตัณหา ย่อมมี และ เมื่อเวทนาดับ ตัณหา ย่อมดับ ใน “ปฏิจจสมุปบาท” (ฝ่ายดับ)
เรื่องของธรรมะ ท่านเลยกล่าวแต่ส่วนเหตุ ชี้มาที่เหตุ ที่มรรค ที่ทางไปสู่ความเป็นอย่างนั้นว่า เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี เมื่อสิ่งนี้ดับไป สิ่งนี้จึงดับไป นี้เป็นเรื่องของ ”อิทัปปัจจยตา“ นี้คือเรื่องของ ”ปฏิจจสมุปบาท“ นี้คือเรื่องของเหตุและผลที่ตรงกัน
เพราะถ้าจะดับสิ่งใด ก็ต้องดับไปที่เหตุ เมื่อเหตุของมันดับ ตัวมันย่อมดับ ผลมันย่อมดับ สิ่งที่เกิดเนื่องด้วยเหตุนั้นย่อมดับ
นี้คือเรื่องของการเห็นเหตุเกิด , เหตุดับ ที่เป็นทางไปสู่ ”ปฏิสัมภิทามรรค“ ที่แท้จริง สมดังที่พระอัสสชิ กล่าวธรรมแก่ ” อุปติสสะว่า...
“ธรรมเหล่าใด เกิดแต่เหตุ พระตถาคตเจ้า แสดงเหตุ แห่งธรรมนั้น และ แสดงความดับไป แห่งธรรมนั้น พระตถาคตเจ้า มีปกติ กล่าวอย่างนี้”
แล้วทีนี้ จะมีคำถามที่ว่า แล้วจะดับเวทนายังไงหละ ?
เวทนาคืออะไร ? ดับเวทนาอย่างไร ? เอาอะไร ไปดับ ? หรือจะดับที่ตัวตัณหาเลย แล้วจะดับตัณหา ได้อย่างไร ? เอาอะไรไปดับ ?
จริงๆ คำว่า“ดับ” หรือ นิโรธ เป็นผล คำว่าดับ จึงไม่ใช่ไปดับมัน แต่เหตุ หรือ “มรรค“ คือ รู้ทุกข์ นั้นแหละ แจ้งนิโรธ คือ ความดับ ในทางปฏิบัติจริง จึงไม่ใช่ไปดับมัน เพียงแค่รู้ทุกข์ หรือ รู้สติปัฏฐาน นั้นแหละ มันดับลงไปแล้ว แล้วตามเห็นความดับ เป็นเพียงแค่“สัญญา” อย่างนึง ที่เรียกว่า “นิโรธานุปัสสนา“
พุทธศาสนา จึงเป็นเรื่องของเหตุและผล ที่ตรงกัน ไม่ใช่เรื่องที่กล่าวผล ขึ้นมาลอยๆ โดยไร้เหตุ ถ้าอย่างนั้น พระพุทธเจ้า จะไม่ได้ชื่อว่า เป็นศาสดาเอกของโลก
เช่น..เมื่อรักในสิ่งใด ก็ย่อมทุกข์เพราะสิ่งนั้น ถ้าไม่รัก ไม่ยึดถือ ก็ไม่ทุกข์ ฯลฯ แต่การกล่าวจะไม่จบลงแค่นั้น ไม่ใช่มีเฉพาะใครผู้ใดผู้นึงที่ทำได้ แล้วไปพยากรณ์ ไปสรรเสริญ ผู้ปราศจาก กิเลส ปราศจากตัณหา ราคะ ฯลฯ โดยไม่บอกอุบาย วิธี How to ว่า... ทำอย่างไรหละ จึงก้าวไปสู่ความเป็นอย่างนั้น ?
อุบาย วิธีพิสูจน์ มีอยู่ ไม่ใช่ไม่มี
อุบาย วิธีพิสูจน์ นี้แหละ เรียกว่า ”มรรค“ หรือ ทาง ที่จะก้าวไปสู่ ความเป็นอย่างนั้น พิสูจน์ได้ ทุกรูป ทุกนาม
มันก็จะคล้ายๆ กับการที่เราเรียน ”วิทยาศาสตร์“ ในทางโลกนั้นแหละ จะยังไม่เชื่อก่อน แต่จะมีการตั้งสมติฐานขึ้นมา แล้วมีการค้นคว้า ทดลอง วิจัย พิสูจน์ เมื่อวิจัย ทดลอง พิสูจน์แล้ว ให้ผลเป็นอย่างไร ก็เป็นจริงตามนั้น เมื่อผลปรากฏขึ้นมาแล้ว มันจึงพ้นจากความเชื่อ หรือ ความไม่เชื่อ แต่มันคือ ความจริง หรือ ”สัจจะธรรม“
ดังที่อุปมาทางโลกฉันใด ในทางธรรมก็ฉันนั้น..
พระพุทธเจ้าจะยังไม่ให้เชื่อก่อน ดังมีหลักฐานอยู่ใน ”กาลามสูตร”
แต่ให้ทำการ พิสูจน์ ทดลอง วิจัย เมื่อมีผลเป็นอย่างไร มันจึงรู้เอง เห็นเอง เป็น“ปัจจัตตัง” และการวิจัยในทางธรรม ก็มีชื่อเพราะๆ ว่า “ธัมมวิจยะ” ในข้อหนึ่งของโพชฌงค์ ซึ่งคำว่า ธัมมวิจยะ ก็มาจากคำว่า วิ-จะ-ยะ หรือ วิจัย + ธรรมมะ ก็เท่ากับ การวิจัยธรรมะ นั่นเอง
ธรรมและวินัยนี้ จึงไม่มีเรื่องของการกล่าวอะไรขึ้นมาลอยๆ โดยได้เหตุ โดยไม่มีวิธีพิสูจน์ แต่จะกล่าวมาจากเหตุ กล่าวไปที่เหตุ ที่มรรค เพราะเมื่อเหตุถูก เหตุตรง ”ผล“ ย่อมเป็นเช่นนั้นเอง ด้วยเหตุนั้น ฉันนั้น..
ว่าด้วยเรื่องของ “เวทนา” ก็มีตั้งแต่ทเวทนา ๒ ไปจนถึง เวทนา ๑๐๘
เวทนา ๒ ก็แยกออกเป็น เวทนาทางกาย และ เวทนาทางใจ
เวทนาทางกาย ก็จะมี ๒ คือ สุขเวทนาทางกาย และ ทุกขเวทนาทางใจ
ส่วนเวทนาทางใจ มี ๓ คือ สุข ทุกข์ และ เฉยๆ (ทางใจ)
วิธีการก็ง่ายๆ ครับ ให้มีสติ ระลึกรู้เวทนา(ทางใจ) อย่างใดอย่างนึง เช่น..
ขณะ ตา มองเห็น รูป จิตใจ สุข หรือ จิตใจทุกข์ หรือ จิตใจเฉยๆ ให้รู้ทันความรู้สึกของเวทนานั้นๆ
ขณะ หู ได้ยิน เสียง จิตใจ สุข หรือ จิตใจทุกข์ หรือ จิตใจเฉยๆ ให้รู้ทันความรู้สึกของเวทนานั้นๆ
ขณะ จิตใจ คิด นึก ปรุงแต่ง ไปถึงอดีต อนาคต คิดไปถึงเรื่องราวต่างๆ จิตใจ สุข หรือ จิตใจทุกข์ หรือ จิตใจเฉยๆ ให้รู้ทันความรู้สึกของเวทนานั้นๆ
ด้วยเหตุเพียงแค่นี้ ก็เรียกว่า มีสติ สมาธิ ตั้งมั่น รู้ทันเวทนานั้นๆ
ทีนี้ เมื่อเวทนา เป็นสิ่งที่ถูกรู้ มันก็จะรู้สึกว่า (สิ่งนึงรู้ , สิ่งนึงถูกรู้)
ก็ในเมื่อ สิ่งนึงรู้ , สิ่งนึงถูกรู้ แล้วทั้งสองสิ่งนั้น มันจะเป็นอย่างเดียวกันได้อย่างไร ? ถ้าเห็นอย่างนี้มากเข้า ต่อไปมันจะมีปัญญาเห็นว่า เวทนา และ สิ่งที่ถูกรู้ทั้งหลาย ไม่ใช่เรา อย่างนี้เรียกว่า เห็น”อนัตตา“
มันก็เหมือน เราหันไปเห็นโต๊ะ หันไปเห็นเก้าอี้อะ ใครเห็นว่าโต๊ะ เก้าอี้เป็นตัวเราของเรา ก็บ้าไปแล้ว เพราะมันแค่ ”สิ่งที่ถูกรู้ แค่นั้นเอง“
แล้วอีกอย่าง เมื่อมีสติ รู้เท่าทัน เวทนา ๓ อย่างเหล่านี้อยู่ ตัณหา คือ ความอยาก ความรัก ต่างๆ จะเกิดขึ้นไปได้เลย เพราะมันจะมีสติเห็น เวทนา ๓ อย่างเหล่านี้ เกิดดับ สลับกัน เพราะ สุข ทุกข์ เฉยๆ มันจะไม่เกิดพร้อมกัน มันเกิดขึ้นได้ทีละอย่าง
หรือถ้า ตัณหา ความรัก ความอยาก เกิดขึ้นมา ก็มีสติ ระลึก รู้เท่าทันตัณหาเหล่านั้น ตัณหาเหล่านั้น ก็จะเป็นแค่สิ่งที่ถูกรู้ มันจะมีอำนาจมาครอบงำจิตใจ ไม่ได้เลย.
รอบหน้า ขอเรื่อง พระอุปคุต ครับ น่าจะแปลกใหม่ คนรู้จักไม่มาก
สนุกมากกกกก ชอบเอเนอจี้ 3 สาวมาก พามาอีกได้มุ้ยย
เอหิภิกขุอุปสัมปทา เป็นชื่อเรียกวิธีอุปสมบท โดยพระพุทธเจ้าทรงประทานบวชให้ด้วยพระองค์เอง โดยการตรัสว่า "เธอจงเป็นภิกษุมาเถิด ธรรมอันเรากล่าวดีแล้ว ท่านจงประพฤติพรหมจรรย์เพื่อทำที่สุดแห่งทุกข์โดยชอบเถิด" ไม่ใช่ "มาเป็นภิกษุเถิด"
นางคือตัวตึงที่วางฐานพระพุทธศาสนา ฝ่ายมหาอุบาสิกา
ชอบมากครับ เหมาะกับยุคสมัยดีมาก
ขอบคุณที่มีรายการดีดีแบบนี้ จะติตามดูตลอดไป❤❤
กรี๊ดดด ไหนเล่าซิ๊มาาา ชอบมากแบบเห็นภาพ ep เก่าๆ คือมองไม่เห็นภาพ
ดีใจจังเลย รายการ to the moon มาก น่าจะเป็นรายการที่ target audience กว้างสุดในช่องแล้วรึป่าวเนี่ย
ที่คนฟังเยอะสุดตอนนี้คือ Untitled Case ครับ ยอมให้นายยชญ์นายธัญไปก่อน
ชอบดูช่องนี้จังเลยค่ะ ขอบคุณที่ผลิตรายการดีๆนะคะ😊❤
สนุกมากครับ ขอให้พี่โจ้ สุขภาพแข็งแรง มีแรงมาเล่าให้ฟังอีกนานๆ
ติดตามมาทุก EP ชอบมากๆ และ EP นี้ชอบเป็นพิเศษเลยค้าบ
แขกรับเชิญดูน่ารัก ถามตอบ สนุก ฟังเพลิน
เล่า สุดยอด ฟังแล้ว ซึ้งน้ำตาไหล
จากท่านพุทธทาสว่าไว้ คนจะได้ตำแหน่งเศรษฐี ต้องมีโรงทาน ไม่ใช่รวยอย่างเดียวได้ตำแหน่งนา...
ขอบคุณที่เสริมข้อมูลครับ
เล่าสนุกมาก ชอบ ฟังง่ายได้ความรู้ แบบสนุก น่าติดตามต่อ
ชอบรายการนี้มากๆครับ ขอให้มีรายการให้เราได้รับชมกันต่อไปยาวๆนะครับ
ฟังธรรมมะ No
มาดูสาวๆ Yes
หูยยยย ร้องและขนลุกพร้อมสามสาว 😮
พี่โจ้บองโก้ พี่เก่งมากๆเลย ยิ่งเห็นไหวพริบ ครั้งนี้ พี่สุดยอด แต่อาจจะแพ้พี่วิชัยนิดนึง
เรื่องสนุกมากคะ แอบเข้าใจได้ว่าสมัยก่อน คนจะบรรลุธรรม ได้ง่าบ คนเหล่านั้นคง ได้ทำบุญ เป็นต้นทุนใหญ่ ที่ทำให้ได้เกิดในสมัยพระพุทธองค์ ทำให้บรรลุธรรมได้ง่าย บางคนที่มีบุญพอประมาณ พอได้เจอ พระพุทธองค์ คงเหมือนคนป่วย เล็กน้อยเจอหมอ ที่เก่ง รักษาโรคได้ตรงจุด น่าจะ ประมาณนั้นนะคะ
สาธุๆค่ะ
อยากไปรวมรายการ ไปนั่งฟัง นั่งถาม ชอบการเล่ามาก
ชอบแขกรับเชิญมากกกกก รีแอดได้สนุก ชวนมาอีกนะครับ รอเลยยยยยย
ทำไมพี่บจก.ไม่แต่หญิงด้วยหละครับ จะได้เนียนๆกันไป
พี่โบ้จองโก้ใช่ไหมครับ😂😂😂
@@azneeix713ทำไมเราอ่านได้เหมือนกัน 55555555
Yes ใช่ตามนั้นเลย🤣🤣🤣
ถ้าสวยกว่า สาวๆจะลำบากเอานะครับ
😊😊
สตรีตัว TOP แห่งยุคพุทธกาล🎉❤😊.
บางคนอาจจะสงสัยทำไมบรรลุแล้วเกิดอีก ทำไมมีจำนวนชาติกำกับ ทำไมบรรลุแล้วติดตัวไปชาติหน้า
จริง ๆ แล้วการบรรลุธรรม คือการมีปัญญาตัดกิเลสหรือความเห็นผิดออกไปได้อย่างสิ้นเชิง ซึ่งมันมีกระบวนการทางจิตอธิบายใจตำราไว้ด้วย (ขอยกไว้ก่อน) โดยคร่าว ๆ จะแบ่งความเห็นผิด หรือกิเลสเป็น 10 กลุ่ม เรียกสังโยชน์ 10 ถ้าตัดได้หมดคือพระอรหันต์ แต่ถ้าปัญญายังไม่แจ่มแจ้ง ตัดได้ไม่หมด ก็จะเป็นพระอริยะระดับรอง ๆ ลงมา (ซึ่งถ้าวันนึงปัญญาแก่รอบ ก็ตัดครบหมดเป็นพระอรหันต์ได้) โดยการตัดกิเลสแบบบรรลุธรรม จะตัดกิเลสนั้น ๆ ได้ถาวร เพราะจิตเกิดปัญญาละความเข้าใจผิด ๆ นั้นไปแล้ว
พุทธเชื่อว่าการที่เรายังเกิดอยู่เพราะเรามีกิเลสหลงยึดติดในสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด โดยไม่รู้ พอเราละกิเลสได้ไม่หมด (ไม่ใช่อรหันต์) ต่อให้บรรลุแล้ว ก็ยังมีกิเลสยึดถืออะไรบางอย่างที่เหนี่ยวนำเราไปเกิดต่ออีกได้ เช่น ถ้าเรายังหลงในรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส จิตเราก็ยังยึดสิ่งเหล่านี้ เมื่อเราตาย จิตก็จะพยายามหาที่เกิดเพื่อให้ได้เสพรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส (=กาม) อีก โดยมีกามภพ (ภพที่สิ่งมีชีวิตยังเสพกามได้) เป็นที่หมาย
ดังนั้นพระโสดาบัน ซึ่งยังตัดเลสได้ไม่หมด ยังยึดบางสิ่งอยู่ ก็ยังต้องไปเกิดต่อ แต่จิตก็จะมีปัญญาไม่หลงไปกับกิเลสที่ได้ละไปแล้วในชาตินั้น ๆ พอเกิดมาในชาติใหม่ด้วยฐานความเข้าใจเดิมในจิต ก็มีแต่จะทำให้ก้าวหน้าในธรรมขึ้นไปเรื่อย ๆ แม้จะยังพลั้งเผลอหลงไปกับกิเลสที่ตัวเองยังละไม่ได้บ้าง แต่สุดท้ายก็จะมีปัญญาเข้าใจได้ ละได้ทั้งหมด ซึ่งพระโสดาบันจะหลงโลกได้ยาวนานสุดคือ 7 ชาติ
แต่ถ้าพระอริยะขั้นสูงขึ้นมา ก็จะเกิดน้อยชาติลง ก็จะมีปัญญาเข้าใจละวางได้ โดยพระสกิทาคามี เกิดต่อในกามภพได้มากสุดแค่ 1 ชาติ พระอนาคามี (ซึ่งละความยึดถือในกายแล้ว) ก็จะไม่เกิดในกามภพอีก จะไปเกิดเป็นพรหมอีก 1 ชาติแล้วนิพพาน
ส่วนตัวเลข 7 นี้จริง ๆ อาจเป็นแค่เลขตามสำนวนแขก เหมือน ๆ กับ "โจร 500", "แช่งให้วิบัติใน 3 วัน 7 วัน" ฯลฯ ซึ่งถ้าอนุมานเอา จะพบว่าเลข 3 และ 7 มักใช้สื่อถึงสิ่งที่มีน้อย ๆ ส่วน 500 มักสื่อถึงสิ่งที่มีมาก ๆ เฉย ๆ
ดังนั้นที่กล่าวว่า "เกิดอีก 7 ชาติ" ก็อาจจะหมายความแค่ว่า "เกิดอีกไม่กี่ชาติก็จะบรรลุอรหันต์ในที่สุด" แค่นั้นก็ได้
เอาจริงป๊ะ นี่เห็นว่าวันนี้เป็นวันวิสาขบูชา ละคลิปนี้ยูทูปแนะนำมาพอดีเลยเอ๊อะ กดดูวันนี้เลยดีกว่า จนมาเงิบตอนที่สาวๆ บอกว่านางวิสาขาไม่เกี่ยวกับวันวิสาข ถถถถถถ แต่สนุกมาก ยิ่งสามสาวอินมากกว่าที่คิด มีการถามรายละเอียดเราก็รู้สึกยิ่งอินตามไปด้วย
สนุกมากค่า ชอบแขกรับเชิญด้วยเพื่อนหญิงพลังหญิงมาก ปล.คุณเนะน่ารักมากค่ะ ^ ^
ทำเรื่องเกี่ยวกับพุทธศาสนาต่ออีกนะครับ จะติดตามต่อๆไปครับ
อยากให้พี่ทำนางสุชาดา ให้หน่อยได้มั้ยครับฟังเพลินมากๆ
สามสาวน่ารักมากค่ะ แต่ขอชมน้องเนะเป็นพิเศษ น้องพูดเพราะมากค่ะ ชื่นชม ❤
อีพีนี้พี่โจ้เหมือนมาเทศนาธรรมให้สามสาวจริงๆ เลยค่ะ5555555555555 จังหวะที่สาวๆ เอ๊ะ หรือนี่จะบรรลุแล้ว พี่โจ้=พระพุทธเจ้า
เริ่ดมาก เอาอาเจ่เจ้มาออก😂😂😂❤
ขอบคุณสำหรับการเปิดประสบการณ์มากค่ะ ทำอีกหลายๆ EP.นะคะ
สามสาวตั้งใจฟังมากกกกก น่ารักอ่ะ
พี่โจ้เล่าสนุกมาก สาวๆก็รีแอคดีมาก ^^
คุณภาพมากครับ ทำการบ้านมาดีมาก ชื่นชม เป็นกำลังใจให้ทำต่อไปนะครับ
เป็นเรื่องพุทธที่ฟังเพลินมาก ชอบค่ะ
พี่คนเล่า เล่าได้สมู้ดมั้กๆๆ เพลินอ่าา ส่วนเอนเทนชั่นของพี่ๆสาวๆโคตรเริส นี่ถ้าเป็นคนเล่าเองนะ เเล้วมีคนตั้งใจฟังขนาดนี้โคตรดีใจจจ
45:46 กรี้ด ดู the believers ด้วย สนุกมากกกก ซีรี่ส์ไทยอันดับ1❤❤❤
มาแว้ววววสตรีตัวท๊อปปปปป
ชอบยิปซีจัง เท่มาก