Розмір відео: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Показувати елементи керування програвачем
Автоматичне відтворення
Автоповтор
งง นักเศรษฐศาสคร์ วิเคราะห์เรื่องจมเรือ
ตอนส่งรถถังเทพก้อพูดเชียว่า รัสเซีย แย่แน่โอกาศแพ้มากฯสุดท้าย ยูเครน เสียเมืองเพี่มอีกแล้วรถถังเทพพินาศหมดแพ้ราบคาบ
ไม่วิเคราห์ ยูเครนจมเรือ รัสเซียบ้างเหรอ
อาวุธอะไรที่สหรัฐจะส่ง รัสเซียแกมีอยู่แล้ว เขาไม่ได้กลัวอะไรเลย เว้นแต่ส่งเอฟ-35 , หรือเอฟ- 22 นั้นแหละที่รัสเซียถึงจะกลัว
ผมอยากให้ส่งจะได้รู้ไปเลยแต่ผมมั่นใจอเมริกาไม่ส่งถ้าโดนยิงตกจะส่งผลถึงความเชื่อมั่นหุ้นก็ตกอีกผลกระทบหลายอย่าง
ถ้ายูเครนลากสงครามยิ่งนาน โอกาสรัสเซียแพ้ยิ่งสูงครับ หลายเมืองที่รัสเซียเคยยึดได้ เริ่มโดนยูเครนยึดคืนได้เรื่อยๆตราบใดที่อเมริกากับยุโรปยังสนับสนุนทรัพยากรยูเครน สงครามคงยืดอีกนาน
ลุงนี่ยังอยู่ในความฝันเหมือนเดิม รู้หมดทุกเรื่องแต่ไม่จริงซักเรื่อง ส่วนรายการนี้ก็เชิญมาพูดตลอด 5555
รัสเซียอาจจะเปิดแนวรบใหม่โดยให้เกาหลีเหนือเล่นเกาหลีใต้
ฐานทัพ โอกินาว่า ญี่ปุ่น
ตราบที่รัฐบาลไทยยังยึดมั่นในนโยบาย "ดำรงรักษาความเป็นกลางอย่างเคร่งครัดและเป็นมิตรกับทุกประเทศ"ตราบนั้นทุกประเทศในภูมิภาคอาเซียนและอาจรวมไปถึงเอเชียทั้งหมดก็จะยังใช้ชีวิตกันได้อย่างเป็นปรกติสุข ปลอดสงคราม และค่อยๆเจริญรุ่งเรืองขึ้นเรื่อยๆแบบค่อยๆเป็นค่อยๆไป และไอ้ที่ซ้อมรบกันในทะเลจีนใต้ฮึ่มๆนั้นก็จะเป็นเพียงการรำไท้เก็กกันไปกันมา ไม่ได้มีพิษสงอะไร ลูกปืนสักนัดก็ไม่ได้ยิง อย่างเก่งก็เอาสายยางฉีดน้ำสูบน้ำทะเลฉีดใส่กันแค่นั้นแต่หากเมื่อไดก็ตามที่ประเทศไทยสูญเสียความกลาง หรือจีนรู้สึกว่าไทยเข้าข้างอเมริกามากเกินไป หรืออเมริการู้สึกว่าไทยเข้าข้างจีนมากเกินไป เมื่อนั้นแหละผู้คนกว่าหกร้อยล้านคนในภูมิภาคอาเซียนรวมทั้งไทยด้วยจะถูกแผดเผาตกอยู่ในไฟสงครามทันทีลองย้อนกลับไปดูประวัติศาสตร์ช่วงสงครามอินโดจีนเมื่อสี่สิบกว่าปีที่แล้วดูแล้วจะเข้าใจที่ผมพูดทั้งหมดมันไม่มีอะไรเลยถ้าหากสิงคโปร์ อินโด ฟิลิปปินส์ มาเลย์เซีย เวียตนาม จะเข้าข้างสหรัฐ แล้วพม่า ลาว กัมพูชา ปากีสถาน จะเข้าข้างจีน ล้วนไม่ส่งผลกระทบอะไร หรือประเทศที่กล่าวมาจะย้ายข้างไปมาวันละสามหน(ฉบับฟิลิปปินส์)ก็ไม่เกิดผลอะไรแต่เมื่อไหร่ที่ไอ้มหาอำนาจสองชาตินี้รู้สึกว่าไทยไม่เป็นกลางเมื่อไหร่ละก็สงครามระเบิดขึ้นแน่นอนเพราะทั้งสองฝ่ายซ่องสุมกำลังกันใว้แถวๆนี้เต็มที่แล้วสมัยที่ยังเป็นองค์การซีโต้(South East Asia Treaty's Organisation) มีข้อตกลงกันว่าถ้าประเทศใดๆในกลุ่มซีโต้โดนรุกราน ชาติสมาชิกที่เหลือจะพร้อมใจกันส่งกำลังทหาร-อาวุท เข้าไปช่วยกันต่อสู้ปกป้องแบบเดียวกับนาโต้แต่พอเอาเข้าจริงพอไทยโดนกองทัพเวียตกงบุกข้ามพรมแดน กลับไม่มีหมาหรือทหารจากซีโต้มาช่วยไทยรบสักตัว ไม่ว่าจะเป็น สหรัฐฯ ออสเตรเลีย สิงคโปร์ มาเลย์เซีย ฟิลิปปินส์ มีอินโดฯส่งกระสุนปืนใหญ่มาข่วยนิดหน่อยดังนั้นเลิกบ้า เลิกส่งทหารไปตายเพื่อประเทศอื่นเสียที จีนอยู่ในสถานะพี่น้องครอบครัวไม่ใช่ศรัตรู ส่วนสหรัฐก็อยู่ในฐานะเพื่อนฐานะชาติมหามิตร ไม่ใช่ศรัตรูเช่นกัน เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ให้พวกมันไปคุยกันเอง ถ้ามันคุยกันไม่รู้เรื่องก็ปล่อยให้มันฆ่ากันเอง อย่าไปเสือกเรื่องของพวกมันครับ เดี๋ยวมันเหนื่อยมันก็เลิกทะเลาะกันเอง ทำยังไงก็ได้ที่จะเอาประเทศเราให้รอดก็พอThasspong Thapsang
จมเรือ uav. สุดยอดเลย
ดีชอบทำเยอะๆเลยเติมใจให้ทำตามสบายเลยชอบๆๆๆ
ถ้าพูดถึงความพ่ายแพ้ในสงครามเย็นของสหภาพโซเวียต ต่อสหรัฐฯ มันมาจากระบอบการเมืองการปกครองจริงๆอย่างที่ไอน์สไตน์เคยกล่าวไว้ "จินตนาการสำคัญกว่าความรู้"ถามว่าหลังสงครามโลกครั้งที่สอง สหภาพโซเวียตไม่มีความรู้หรือ...???เปล่าเลย ตรงกันข้าม งานวิทยาศาสตร์ของโลกคอมมิวนิสต์โซเวียตก้าวหน้าที่สุดในโลก อันมาจากหลักการสังคมนิยม ที่บังคับไม่ให้ประชาชนเชื่อถือเรื่องงมงายที่พิสูจน์ไม่ได้ส่งผลให้งานด้านวิทยาศาสตร์ของโซเวียตก้าวล้ำนำหน้าทุกประเทศในโลก (สหภาพโซเวียตส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรได้เป็นชาติแรกของโลก, โซเวียตส่งมนุษย์อวกาศไปโคจรรอบโลกได้เป็นชาติแรกของโลก)แล้วถามว่าอะไรทำให้โซเวียตพ่ายแพ้อเมริกาคำตอบคือ "จินตนาการ" ครับโซเวียตมีแต่ความรู้ แต่ด้วยกฏเกณฑ์ของระบอบสังคมนิยม ทำให้นักวิทยาศาสตร์โซเวียตขาดจินตนาการ การส่งดาวเทียม, การส่งมนุษย์ไปโคจรรอบโลก ล้วนแต่เป็นจินตนาการของชาติตะวันตกมาก่อน แล้วโซเวียตก็เอามาทำให้เป็นจริงด้วยนักวิทยาศาสตร์ของโซเวียต ที่รัฐบาลคอมมิวนิสต์ทุ่มเทสนับสนุนการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์อย่างเต็มที่ งบประมาณค้นคว้าวิจัย ส่งเสริมวิทยาศาสตร์ พอๆกับงบประมาณด้านกลาโหม(อันที่จริงมันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน)แต่นั่นก็ยังไม่ใช่ตัวชี้ขาดผลแพ้ชนะทางด้านเทคโนโลยีตัวชี้ขาดผลแพ้ชนะ มันอยู่ตรงที่อุปกรณ์ตัวเล็กๆที่รู้จักกันในชื่อ "ทรานซิสเตอร์" นี่เองเมื่อตอนเริ่มต้นการแข่งขันเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐฯ กับสหภาพโซเวียตนั้น อุปกรณ์อิเลคโทรนิคทั้งอเมริกาโลกเสรี กับสหภาพโซเวียตโลกคอมมิวนิสต์ มีจุดเริ่มต้นจากหลอดสูญญากาศ (Nixie Tube) ที่ทำหน้าที่เป็นทรานซิสเตอร์ เหมือนๆกัน(บ้านใครมีวิทยุธานินทร์รุ่น 70-80 ปีก่อนจะเห็นว่ามีหลอดสูญญากาศอยู่ข้างใน เปิดใช้งานที ต้องหาพัดลมตัวเล็กๆมาเป่าให้ความเย็น เพราะมันร้อนมาก กินไฟมาก)พอถึงช่วงราวๆปี 50-60 ห้องวิจัยเบลแลบของสหรัฐค้นพบวิธีการที่จะนำเอาแร่ชนิดอื่นมาสร้างเป็นทรานซิสเตอร์ทดแทนหลอดสูญญากาศได้ ประกอบกับช่วงนั้นทั้งเกาหลีใต้ ไต้หวัน ญี่ปุ่น ที่บอบช้ำมาจากสงครามโลกเพิ่งจะเริ่มฟื้นตัวจากสงครามอเมริกาก็เลยแบ่งปันเทคโนโลยีทรานซิสเตอร์ให้ประเทศเหล่านี้ ไปรังสรรค์เป็นอุปกรณ์อิเลคโทรนิคต่างๆ เป็นวิทยุที่มีขนาดเล็กลงพกพาไปไหนมาไหนได้ แล้วแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งเกิดอารยธรรม "Walkman" ของ Sony จากญี่ปุ่นที่แพร่ระบาดไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว แต่โซเวียตก็ยังคงติดอยู่กับดักอยู่ในเทคโนโลยีหลอดสูญญากาศเหมือนเดิมในอีกทางหนึ่ง นักวิจัยของสหรัฐฯก็จินตนาการต่อไปว่า ถ้าทำให้ทรานซิสเตอร์มีขนาดเล็กลง แล้วมีทรานซิสเตอร์หลายๆตัวทำงานร่วมกันอยู่ในวงจรเดียว ก็จะทำให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มีประสิทธิภาพดีขึ้นโดยมีไอ้พวกผิวเหลืองสติปัญญาดีสามชาติ(ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ไค้หวัน),ช่วยกันพัฒนาต่อยอดจินตนาการนี้ ผลที่ได้คือชิพไอซี ชิพประมวลผล เซ็นทรัลโปรเซสซิ่งยูนิต) แล้วก็เข้าสู่ยุค Home computer โดยสมบูรณ์ (แต่โซเวียตก็ยังยึดติดอยู่กับหลอดสูญญากาศต่อไป พัฒนาหลอดสูญญากาศจนเอามาเป็นอินดิเคเตอร์(ตัวแสดงผล)ได้แต่อเมริกากับบริวารก็ไปใกลสุดกู่จนโซเวียตตามไม่ทันและในที่สุดสหภาพโซเวียตก็ล่มสลายลงไปในยุค 80แต่มรดกล้ำค่าที่สหภาพโซเวียตทิ้งไว้ให้แก่ประเทศบริวาร ก็คืองานด้านวิทยาศาสตร์แขนงอื่นๆที่ไม่ใช่คอมพิวเตอร์ หลากหลายสาขาวิชาการ ที่เป็นมรดกตกทอดจากสภาพโซเวียตมอบให้แก่ประเทศรัสเซียและเหล่าอดีตประเทศบริวารของสหภาพโซเวียต.มีอีกหลายเทคโนโลยีที่สหรัฐฯและประเทศโลกเสรียังตามไม่ทันประเทศอดีตบริวารของสหภาพโซเวียต..
พี่พูดไปใครจะเชื่อขนาดเมกาซื้อจรวดรัสเซียพวกรักเมกาเข้ากระดูกดำยังไม่เชื่อผมพิมพ์จนมือหงิกเลยเขาไม่สงสัยเลยหรือทำไมนักบินอวกาศรวมถึงคนของรัสเซียทำงานกับนาซ่าแต่ผมชอบองค์ความรู้พี่นะครับขอให้พี่แสดงความคิดเห็นต่อไปครับถ้าจำไม่ผิดคนที่คิดค้นเชื้อเพลิงแข็งเป็นคนรัสเซียใช่ไหมครับ🙏
@@พี่อาย-ผ9ฅ หนักกว่านั้นครับ สหรัฐฯสูญเสียเจ้าหน้าที่หน่วยสืบราชการลับไปหลายสิบนายในราชการ เพื่อขโมยสูตรเชื้อเพลิงขับดันจรวดนี้มาจากสหภาพโซเวียต ตอนหลังโซเวียตเลยย้ายศูนย์วิจัยอวกาศทั้งหมดไปไว้ที่ไบโคนูร์ คาซัคสถาน แล้วสั่ง คนในห้ามออก คนนอกห้ามเข้า เพื่อปกป้องรักษาความรู้ด้านเทคโนโลยีอวกาศของโซเวียตแม้แต่สถานีอวกาศ ISS ในปัจจุบันก็เหลือระยะเวลาหดสั้นลงเพียงอีกไม่กี่ปีก็โหม่งโลกแล้ว เพราะไม่มีวิศวกรของรัสเซียไปคอยปรับวิถีวงโคจรของสถานี เนื่องจากไปคว่ำบาตรรัสเซีย แทนที่น่าจะใช้งานต่อไปได้อีก 20-30 ปี
@@พี่อาย-ผ9ฅ มีเรื่องสนุกเม้าแตกอีกเรื่องหลังเหตุการณ์ 6 ตุลา 19 นักศึกษาหนีเข้าป่าไปเปิดหน้าเป็นคอมมิวนิสต์กันเต็มตัวแต่พวกอาจารย์อีแอบเป็นคอมมิวนิสต์แบบลับๆ ได้โอกาศเดินทางไปมอสโคว์ หวังว่าจะเอาพรรคคอมมิวนิสต์ไทยไปสมัครเข้าองค์การโคมินเทิร์น(Comintern องค์การคอมมิวนิสต์สากล)พอไปถึง มีเจ้าหน้าที่ของโซเวียตมาต้อนรับ พูดคุยทักทายกันพอเป็นพิธี แล้วเจ้าหน้าที่โซเวียตยิงคำถามว่าพวกคุณมีแนวทางในการเปลี่ยนแปลงประเทศคุณไปเป็นคอมมิวนิสต์อย่างไรบ้างพวกคอมมิวนิสต์จากมหาวิทยาลัยไทยรีบตอบสวนทันที "เราจะโค่นล้มระบอบศักดินา เราจะกำจัดชนชั้นนายทุน เราจะโค่นล้มสถาบันกษัตริย์ทิ้งไปเจ้าหน้าที่โซเวียตอึ้งไปพักนึง แล้วตอบนิ่มๆว่า "พวกคุณรู้ไหม ในเวลาที่คุณยืนสอนหนังสือเด็กในห้องปรัยอากาศเย็นสบายนั้น สิ่งที่พวกคุณต้องการจะโค่นล้มที่คุณเรียกว่าสถาบันกษัตริย์นั้น พระมหากษัตริย์ของประเทศคุณใช้เวลาเกือบทั้งหมดอยู่ในถิ่นทุรกันดารกับประชาชนของพระองค์ กันดารขนาดไหนรู้ไหม ขนาดเจ้าหน้าเคจีบีของผมยังไม่มีปัญญาตามพระองค์ไปได้ เพราะมันไม่มีถนน ไม่มีสะพาน ไม่มีไฟฟ้า และกษัตริย์ของคุณพยามทำให้มีสิ่งเหล่านี้ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนของท่าน ท่านซื้อใจประชาชนของประเทศคุณไปหมดแล้วพวกคุณกลับไปเถอะ การปฏิวัติของคุณไม่มีทางสำเร็จเป็นจริงได้แน่นอน กลับไปกับเที่ยวบินที่คุณบินมานี้เลย จะได้ไม่เสียเวลาไอ้ที่ตลกร้ายก็คือ มหาวิทยาลัยไทยที่บ้าคลั่งลัทธิคอมมิวนิสต์ในตอนนั้น มาตอนนี้กำลังบ้าคลั่งลัทธิประชาธิปไตยแบบไม่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขกันอย่างเอาเป็นเอาตาย มหาวิทยาลัยเดียวกันนี้เลย
บักปูเริ่มขึ้นหัวแล้วล่ะครับศึกครั้งนี้จะไม่ได้อะไรติดมือไปด้วยแถมจะเสียใครเมียของเก่าด้วย555😂😂😂😂😂
ໄດ້ກະດູກນະຢູ່ລາວບໍ່ຢາກໄດ້ກໍ່ໄຫ້ກະດູກໄທກັບອາເມລິກາຍັງໄຫ້ລາວຈົນເຖີງດຽວນີ້
😂😂😂ไปดูข่าวจริงๆบ้าง วันนี้ก็โดนยึดเพิ่มอีกแล้ว
งง นักเศรษฐศาสคร์ วิเคราะห์เรื่องจมเรือ
ตอนส่งรถถังเทพก้อพูดเชียว่า รัสเซีย แย่แน่โอกาศแพ้มากฯสุดท้าย ยูเครน เสียเมืองเพี่มอีกแล้วรถถังเทพพินาศหมดแพ้ราบคาบ
ไม่วิเคราห์ ยูเครนจมเรือ รัสเซียบ้างเหรอ
อาวุธอะไรที่สหรัฐจะส่ง รัสเซียแกมีอยู่แล้ว เขาไม่ได้กลัวอะไรเลย เว้นแต่ส่งเอฟ-35 , หรือเอฟ- 22 นั้นแหละที่รัสเซียถึงจะกลัว
ผมอยากให้ส่งจะได้รู้ไปเลยแต่ผมมั่นใจอเมริกาไม่ส่งถ้าโดนยิงตกจะส่งผลถึงความเชื่อมั่นหุ้นก็ตกอีกผลกระทบหลายอย่าง
ถ้ายูเครนลากสงครามยิ่งนาน โอกาสรัสเซียแพ้ยิ่งสูงครับ หลายเมืองที่รัสเซียเคยยึดได้ เริ่มโดนยูเครนยึดคืนได้เรื่อยๆ
ตราบใดที่อเมริกากับยุโรปยังสนับสนุนทรัพยากรยูเครน สงครามคงยืดอีกนาน
ลุงนี่ยังอยู่ในความฝันเหมือนเดิม รู้หมดทุกเรื่องแต่ไม่จริงซักเรื่อง ส่วนรายการนี้ก็เชิญมาพูดตลอด 5555
รัสเซียอาจจะเปิดแนวรบใหม่โดยให้เกาหลีเหนือเล่นเกาหลีใต้
ฐานทัพ โอกินาว่า ญี่ปุ่น
ตราบที่รัฐบาลไทยยังยึดมั่นในนโยบาย "ดำรงรักษาความเป็นกลางอย่างเคร่งครัดและเป็นมิตรกับทุกประเทศ"
ตราบนั้นทุกประเทศในภูมิภาคอาเซียนและอาจรวมไปถึงเอเชียทั้งหมดก็จะยังใช้ชีวิตกันได้อย่างเป็นปรกติสุข ปลอดสงคราม และค่อยๆเจริญรุ่งเรืองขึ้นเรื่อยๆแบบค่อยๆเป็นค่อยๆไป และไอ้ที่ซ้อมรบกันในทะเลจีนใต้ฮึ่มๆนั้นก็จะเป็นเพียงการรำไท้เก็กกันไปกันมา ไม่ได้มีพิษสงอะไร ลูกปืนสักนัดก็ไม่ได้ยิง อย่างเก่งก็เอาสายยางฉีดน้ำสูบน้ำทะเลฉีดใส่กันแค่นั้น
แต่หากเมื่อไดก็ตามที่ประเทศไทยสูญเสียความกลาง หรือจีนรู้สึกว่าไทยเข้าข้างอเมริกามากเกินไป หรืออเมริการู้สึกว่าไทยเข้าข้างจีนมากเกินไป เมื่อนั้นแหละผู้คนกว่าหกร้อยล้านคนในภูมิภาคอาเซียนรวมทั้งไทยด้วยจะถูกแผดเผาตกอยู่ในไฟสงครามทันที
ลองย้อนกลับไปดูประวัติศาสตร์ช่วงสงครามอินโดจีนเมื่อสี่สิบกว่าปีที่แล้วดูแล้วจะเข้าใจที่ผมพูดทั้งหมด
มันไม่มีอะไรเลยถ้าหากสิงคโปร์ อินโด ฟิลิปปินส์ มาเลย์เซีย เวียตนาม จะเข้าข้างสหรัฐ แล้วพม่า ลาว กัมพูชา ปากีสถาน จะเข้าข้างจีน ล้วนไม่ส่งผลกระทบอะไร หรือประเทศที่กล่าวมาจะย้ายข้างไปมาวันละสามหน(ฉบับฟิลิปปินส์)ก็ไม่เกิดผลอะไร
แต่เมื่อไหร่ที่ไอ้มหาอำนาจสองชาตินี้รู้สึกว่าไทยไม่เป็นกลางเมื่อไหร่ละก็สงครามระเบิดขึ้นแน่นอนเพราะทั้งสองฝ่ายซ่องสุมกำลังกันใว้แถวๆนี้เต็มที่แล้ว
สมัยที่ยังเป็นองค์การซีโต้(South East Asia Treaty's Organisation) มีข้อตกลงกันว่าถ้าประเทศใดๆในกลุ่มซีโต้โดนรุกราน ชาติสมาชิกที่เหลือจะพร้อมใจกันส่งกำลังทหาร-อาวุท เข้าไปช่วยกันต่อสู้ปกป้องแบบเดียวกับนาโต้
แต่พอเอาเข้าจริงพอไทยโดนกองทัพเวียตกงบุกข้ามพรมแดน กลับไม่มีหมาหรือทหารจากซีโต้มาช่วยไทยรบสักตัว ไม่ว่าจะเป็น สหรัฐฯ ออสเตรเลีย สิงคโปร์ มาเลย์เซีย ฟิลิปปินส์ มีอินโดฯส่งกระสุนปืนใหญ่มาข่วยนิดหน่อย
ดังนั้นเลิกบ้า เลิกส่งทหารไปตายเพื่อประเทศอื่นเสียที จีนอยู่ในสถานะพี่น้องครอบครัวไม่ใช่ศรัตรู ส่วนสหรัฐก็อยู่ในฐานะเพื่อนฐานะชาติมหามิตร ไม่ใช่ศรัตรูเช่นกัน เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ให้พวกมันไปคุยกันเอง ถ้ามันคุยกันไม่รู้เรื่องก็ปล่อยให้มันฆ่ากันเอง อย่าไปเสือกเรื่องของพวกมันครับ เดี๋ยวมันเหนื่อยมันก็เลิกทะเลาะกันเอง ทำยังไงก็ได้ที่จะเอาประเทศเราให้รอดก็พอ
Thasspong Thapsang
จมเรือ uav. สุดยอดเลย
ดีชอบทำเยอะๆเลยเติมใจให้ทำตามสบายเลยชอบๆๆๆ
ถ้าพูดถึงความพ่ายแพ้ในสงครามเย็นของสหภาพโซเวียต ต่อสหรัฐฯ มันมาจากระบอบการเมืองการปกครองจริงๆ
อย่างที่ไอน์สไตน์เคยกล่าวไว้ "จินตนาการสำคัญกว่าความรู้"
ถามว่าหลังสงครามโลกครั้งที่สอง สหภาพโซเวียตไม่มีความรู้หรือ...???
เปล่าเลย ตรงกันข้าม งานวิทยาศาสตร์ของโลกคอมมิวนิสต์โซเวียตก้าวหน้าที่สุดในโลก อันมาจากหลักการสังคมนิยม ที่บังคับไม่ให้ประชาชนเชื่อถือเรื่องงมงายที่พิสูจน์ไม่ได้
ส่งผลให้งานด้านวิทยาศาสตร์ของโซเวียตก้าวล้ำนำหน้าทุกประเทศในโลก (สหภาพโซเวียตส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรได้เป็นชาติแรกของโลก, โซเวียตส่งมนุษย์อวกาศไปโคจรรอบโลกได้เป็นชาติแรกของโลก)
แล้วถามว่าอะไรทำให้โซเวียตพ่ายแพ้อเมริกา
คำตอบคือ "จินตนาการ" ครับ
โซเวียตมีแต่ความรู้ แต่ด้วยกฏเกณฑ์ของระบอบสังคมนิยม ทำให้นักวิทยาศาสตร์โซเวียตขาดจินตนาการ การส่งดาวเทียม, การส่งมนุษย์ไปโคจรรอบโลก ล้วนแต่เป็นจินตนาการของชาติตะวันตกมาก่อน แล้วโซเวียตก็เอามาทำให้เป็นจริงด้วยนักวิทยาศาสตร์ของโซเวียต ที่รัฐบาลคอมมิวนิสต์ทุ่มเทสนับสนุนการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์อย่างเต็มที่ งบประมาณค้นคว้าวิจัย ส่งเสริมวิทยาศาสตร์ พอๆกับงบประมาณด้านกลาโหม(อันที่จริงมันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน)
แต่นั่นก็ยังไม่ใช่ตัวชี้ขาดผลแพ้ชนะทางด้านเทคโนโลยี
ตัวชี้ขาดผลแพ้ชนะ มันอยู่ตรงที่อุปกรณ์ตัวเล็กๆที่รู้จักกันในชื่อ "ทรานซิสเตอร์" นี่เอง
เมื่อตอนเริ่มต้นการแข่งขันเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐฯ กับสหภาพโซเวียตนั้น อุปกรณ์อิเลคโทรนิคทั้งอเมริกาโลกเสรี กับสหภาพโซเวียตโลกคอมมิวนิสต์ มีจุดเริ่มต้นจากหลอดสูญญากาศ (Nixie Tube) ที่ทำหน้าที่เป็นทรานซิสเตอร์ เหมือนๆกัน(บ้านใครมีวิทยุธานินทร์รุ่น 70-80 ปีก่อนจะเห็นว่ามีหลอดสูญญากาศอยู่ข้างใน เปิดใช้งานที ต้องหาพัดลมตัวเล็กๆมาเป่าให้ความเย็น เพราะมันร้อนมาก กินไฟมาก)
พอถึงช่วงราวๆปี 50-60 ห้องวิจัยเบลแลบของสหรัฐค้นพบวิธีการที่จะนำเอาแร่ชนิดอื่นมาสร้างเป็นทรานซิสเตอร์ทดแทนหลอดสูญญากาศได้
ประกอบกับช่วงนั้นทั้งเกาหลีใต้ ไต้หวัน ญี่ปุ่น ที่บอบช้ำมาจากสงครามโลกเพิ่งจะเริ่มฟื้นตัวจากสงคราม
อเมริกาก็เลยแบ่งปันเทคโนโลยีทรานซิสเตอร์ให้ประเทศเหล่านี้ ไปรังสรรค์เป็นอุปกรณ์อิเลคโทรนิคต่างๆ เป็นวิทยุที่มีขนาดเล็กลงพกพาไปไหนมาไหนได้ แล้วแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งเกิดอารยธรรม "Walkman" ของ Sony จากญี่ปุ่นที่แพร่ระบาดไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว แต่โซเวียตก็ยังคงติดอยู่กับดักอยู่ในเทคโนโลยีหลอดสูญญากาศเหมือนเดิม
ในอีกทางหนึ่ง นักวิจัยของสหรัฐฯก็จินตนาการต่อไปว่า ถ้าทำให้ทรานซิสเตอร์มีขนาดเล็กลง แล้วมีทรานซิสเตอร์หลายๆตัวทำงานร่วมกันอยู่ในวงจรเดียว ก็จะทำให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มีประสิทธิภาพดีขึ้น
โดยมีไอ้พวกผิวเหลืองสติปัญญาดีสามชาติ(ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ไค้หวัน),ช่วยกันพัฒนาต่อยอดจินตนาการนี้ ผลที่ได้คือชิพไอซี ชิพประมวลผล เซ็นทรัลโปรเซสซิ่งยูนิต) แล้วก็เข้าสู่ยุค Home computer โดยสมบูรณ์ (แต่โซเวียตก็ยังยึดติดอยู่กับหลอดสูญญากาศต่อไป พัฒนาหลอดสูญญากาศจนเอามาเป็นอินดิเคเตอร์(ตัวแสดงผล)ได้
แต่อเมริกากับบริวารก็ไปใกลสุดกู่จนโซเวียตตามไม่ทัน
และในที่สุดสหภาพโซเวียตก็ล่มสลายลงไปในยุค 80
แต่มรดกล้ำค่าที่สหภาพโซเวียตทิ้งไว้ให้แก่ประเทศบริวาร ก็คืองานด้านวิทยาศาสตร์แขนงอื่นๆที่ไม่ใช่คอมพิวเตอร์ หลากหลายสาขาวิชาการ ที่เป็นมรดกตกทอดจากสภาพโซเวียตมอบให้แก่ประเทศรัสเซียและเหล่าอดีตประเทศบริวารของสหภาพโซเวียต.
มีอีกหลายเทคโนโลยีที่สหรัฐฯและประเทศโลกเสรียังตามไม่ทันประเทศอดีตบริวารของสหภาพโซเวียต..
พี่พูดไปใครจะเชื่อขนาดเมกาซื้อจรวดรัสเซียพวกรักเมกาเข้ากระดูกดำยังไม่เชื่อผมพิมพ์จนมือหงิกเลยเขาไม่สงสัยเลยหรือทำไมนักบินอวกาศรวมถึงคนของรัสเซียทำงานกับนาซ่าแต่ผมชอบองค์ความรู้พี่นะครับขอให้พี่แสดงความคิดเห็นต่อไปครับถ้าจำไม่ผิดคนที่คิดค้นเชื้อเพลิงแข็งเป็นคนรัสเซียใช่ไหมครับ🙏
@@พี่อาย-ผ9ฅ หนักกว่านั้นครับ สหรัฐฯสูญเสียเจ้าหน้าที่หน่วยสืบราชการลับไปหลายสิบนายในราชการ เพื่อขโมยสูตรเชื้อเพลิงขับดันจรวดนี้มาจากสหภาพโซเวียต ตอนหลังโซเวียตเลยย้ายศูนย์วิจัยอวกาศทั้งหมดไปไว้ที่ไบโคนูร์ คาซัคสถาน แล้วสั่ง คนในห้ามออก คนนอกห้ามเข้า เพื่อปกป้องรักษาความรู้ด้านเทคโนโลยีอวกาศของโซเวียต
แม้แต่สถานีอวกาศ ISS ในปัจจุบันก็เหลือระยะเวลาหดสั้นลงเพียงอีกไม่กี่ปีก็โหม่งโลกแล้ว เพราะไม่มีวิศวกรของรัสเซียไปคอยปรับวิถีวงโคจรของสถานี เนื่องจากไปคว่ำบาตรรัสเซีย แทนที่น่าจะใช้งานต่อไปได้อีก 20-30 ปี
@@พี่อาย-ผ9ฅ มีเรื่องสนุกเม้าแตกอีกเรื่อง
หลังเหตุการณ์ 6 ตุลา 19 นักศึกษาหนีเข้าป่าไปเปิดหน้าเป็นคอมมิวนิสต์กันเต็มตัว
แต่พวกอาจารย์อีแอบเป็นคอมมิวนิสต์แบบลับๆ ได้โอกาศเดินทางไปมอสโคว์ หวังว่าจะเอาพรรคคอมมิวนิสต์ไทยไปสมัครเข้าองค์การโคมินเทิร์น(Comintern องค์การคอมมิวนิสต์สากล)
พอไปถึง มีเจ้าหน้าที่ของโซเวียตมาต้อนรับ พูดคุยทักทายกันพอเป็นพิธี แล้วเจ้าหน้าที่โซเวียตยิงคำถามว่าพวกคุณมีแนวทางในการเปลี่ยนแปลงประเทศคุณไปเป็นคอมมิวนิสต์อย่างไรบ้าง
พวกคอมมิวนิสต์จากมหาวิทยาลัยไทยรีบตอบสวนทันที "เราจะโค่นล้มระบอบศักดินา เราจะกำจัดชนชั้นนายทุน เราจะโค่นล้มสถาบันกษัตริย์ทิ้งไป
เจ้าหน้าที่โซเวียตอึ้งไปพักนึง แล้วตอบนิ่มๆว่า "พวกคุณรู้ไหม ในเวลาที่คุณยืนสอนหนังสือเด็กในห้องปรัยอากาศเย็นสบายนั้น สิ่งที่พวกคุณต้องการจะโค่นล้มที่คุณเรียกว่าสถาบันกษัตริย์นั้น พระมหากษัตริย์ของประเทศคุณใช้เวลาเกือบทั้งหมดอยู่ในถิ่นทุรกันดารกับประชาชนของพระองค์ กันดารขนาดไหนรู้ไหม ขนาดเจ้าหน้าเคจีบีของผมยังไม่มีปัญญาตามพระองค์ไปได้ เพราะมันไม่มีถนน ไม่มีสะพาน ไม่มีไฟฟ้า และกษัตริย์ของคุณพยามทำให้มีสิ่งเหล่านี้ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนของท่าน ท่านซื้อใจประชาชนของประเทศคุณไปหมดแล้ว
พวกคุณกลับไปเถอะ การปฏิวัติของคุณไม่มีทางสำเร็จเป็นจริงได้แน่นอน กลับไปกับเที่ยวบินที่คุณบินมานี้เลย จะได้ไม่เสียเวลา
ไอ้ที่ตลกร้ายก็คือ มหาวิทยาลัยไทยที่บ้าคลั่งลัทธิคอมมิวนิสต์ในตอนนั้น มาตอนนี้กำลังบ้าคลั่งลัทธิประชาธิปไตยแบบไม่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขกันอย่างเอาเป็นเอาตาย มหาวิทยาลัยเดียวกันนี้เลย
บักปูเริ่มขึ้นหัวแล้วล่ะครับศึกครั้งนี้จะไม่ได้อะไรติดมือไปด้วยแถมจะเสียใครเมียของเก่าด้วย555😂😂😂😂😂
ໄດ້ກະດູກນະຢູ່ລາວບໍ່ຢາກໄດ້ກໍ່ໄຫ້ກະດູກໄທກັບອາເມລິກາຍັງໄຫ້ລາວຈົນເຖີງດຽວນີ້
😂😂😂ไปดูข่าวจริงๆบ้าง วันนี้ก็โดนยึดเพิ่มอีกแล้ว