Розмір відео: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Показувати елементи керування програвачем
Автоматичне відтворення
Автоповтор
Introvert ค่ะ เป็นพวกโลกส่วนตัวสูง มีความสุขกับการอยู่คนเดียวได้ เช่น กินข้าวคนเดียว ดูหนังคนเดียว ทำอะไรคนเดียวก็ไม่ได้รู้สึกทุกข์ร้อน เหงา โดดเดี่ยวอะไร แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเข้าสังคมไม่ได้ เข้าสังคมไม่เป็นนะคะ สามารถทำได้ เพียงแต่จะ Happy มากกว่าถ้าไม่มีใครมายุ่งกับฉัน
ผมก็ Introvert ครับ ชอบอยู่คนเดียว ถ้ามี ผู้หญิงแท้ หญิงเทียม มาชอบผมจะอึดอัด ผมไม่ชอบให้ใครมาชอบ มารักผมแบบโรแมนติค ผมอึดอัด ผมรำคาญ อิอิอิ ผู้หญิงสวยๆ ระดับ 7 8 9 ยืนยิ้มให้ แต่ผมเดินหนีทุกครั้ง 😂😂😂😂😂 ไม่อยากยุ่ง ไม่อยากคุย ไม่ต้องการ Sex จากพวกเธอ 😂😂
มีจริงๆคนประเภทนี้
❤
เลอะเทอะ ไม่รู้อะไร พูดมั่วไปหมด
ตั้งแต่ผมเลิกกับเมียมาก็ไม่ได้คิดอยากมีใคร มาอยู่ด้วยเลย คนเดียวมันอิสระครับ
คิดว่าไม่ร้ายแรงมันก็ใช่แต่มันก็ส่งผลในการใช้ชีวิตอ้อมๆพอสมควร- เราไม่มีความสุขกับอะไรอย่างที่เคยมีแล้ว- เราไม่รู้สึกเศร้าจนสามารถร้องไห้เพื่อระบายความรู้สึกแบบเมื่อก่อนทำให้ต้องเก็บไว้และรอให้มันจางไป- เราไม่สามารถชื่นชมในความสำเร็จยินดีกับตัวเองและคนอื่นได้จากใจจริงต้องแสร้งประมาณนึง- เราไม่สามารถแสดงให้คนอื่นรู้ได้อย่างชัดเจนว่าเรารู้สึกแย่ไม่ไหว เพราะร้องไห้ไม่ออก- เราไม่สามารถรู้สึกเห็นอกเห็นใจคนที่กำลังรู้สึกแย่ได้อย่างเดิมเพราะไม่รู้ต้องรู้สึกยังไง- เราไม่มีแรงขับเคลื่อนมากอย่างแต่ก่อนเพราะไม่รู้สึกว่าสิ่งที่รออยู่มันทำให้เรารู้สึกดีได้ขนาดไหนนะไม่ได้รู้สึกว่ามันร้ายแรงอะไรขนาดนั้นแต่มันทำให้ราไม่ใช่เราที่เคยมีชีวิตชีวาอย่างเมื่อก่อน บางเวลาก็แปลกแยกจากสังคมทำให้คนอื่นไม่อยากปฏิสัมพันธ์ด้วยเพราะรู้สึกว่าเราเป็นพลังงานลบแบบที่ไม่ได้ toxic เราก็นอยนะที่เป็นแบบนี้ คิดถึงตัวเองเมื่อก่อนมากๆ
มันไม่ใช่ความรู้สึกปล่อยวาง ใจเบาแบบที่หลายคนเข้าใจ แต่มันคือภาวะที่ ไม่ใช่แค่รู้สึกเฉยๆ แต่เป็นความรู้สึก "เฉยชา" ไม่สนุกกับอะไรเลย ไม่สุขกับอะไรเลย แต่ก็ไม่เศร้า ไม่เสียใจ มันว่างเปล่า บางครั้งก็รู้สึกว่า ไม่รู้จะมีชีวิตไปทำไม อยู่ไปวันๆ อาจจะมาจากเรื่องราวในอดีต ที่เคยมีความสุข แต่แล้วก็มารับรู้ทีหลังว่ามันจอมปลอม เช่น พยายามทำงานจนมีตำแหน่งสูง เงินเดือนเยอะ แล้วก็พบว่าที่บ้านทำหนี้ก้อนโตที่เราต้องไปรับผิดชอบ หรือเจอคนที่ดีมากๆ ไว้ใจกัน ดีด้วยทุกอย่าง แต่สุดท้ายก็พบว่า ที่ผ่านแค่ผลประโยชน์นะ วนๆ เวียนๆ มานานแสนนาน จนชาชิน จนกลายเป็นความหมดอาลัยตายอยาก
จริงค่ะ เป็นอยู่เลย😢
@@PP-6699 ให้กำลังใจนะคะ ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้ว เมตตาตัวเองให้มาก ให้อภัยผู้อื่น ขอบคุณทุกอย่างที่เรามี ไม่ว่าจะธรรมดา เล็กน้อยแค่ไหน แล้วจะดีขึ้นค่ะ 😊
มันเบื่อครับ เบื่อทุกอย่างหนังมีดูก็ไม่สนุก เคยสนุกแบบเดิมๆ ทุกวันนี้ไม่สนุก เคยทำงานเคยสังสรรค์ ก็เริ่มไม่ไป เริ่มอยู่คนเดียว พอทำงานเจอแต่ปัญหาที่ทุกคนพร้อมเอามาฝากไว้ แล้วก็ไป แก้ปีัญหาเดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมา เพราะเราลองทำทุกอย่างแล้ว พอจะกลับมาทำให้ได้ feeling เดิมๆนะมันไม่เหมือนเดิม มากกว่า Introvert น้อยกว่า โรคซึมเศร้า ทุกอย่างเฉยๆ ผมรู้สึกแบบนี้มานานแล้วครับ วิธีแก้คืออยู่กับปัญจุบัน ไม่ยึดติดกับอดีต ไม่ฝันถึงอนาคตที่เป็นไปไม่ได้ ทุกอย่างจะค่อยๆดีขึ้น
ในทางพุทธศาสนา นี่บรรลุธรรมเลยนะครับ ไม่ยินดีทั้งสุขทั้งทุกข์ คนที่ชอบอยู่คนเดียว ก็เป็นนิสัยทางธรรม สันโดษ สรปมันคือ ความเบื่อโลก ต้องไปปฎิบัติธรรม คนกลุ่มนี้ น่าจะมีบุญนะครับ ถ้าอยู่ในสมัยพุทธกาล ได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้า บรรลุธรรมไปเลย. ผู้ที่จะบรรลุธรรม ก็เริ่มจาก จุดนี้ทั้งนั้น ถูกมองจากคน ทางโลก ว่าแปลก ว่าผิดปกติแม้แต่พระพุทธเจ้า ยังถูกมองว่าเป็นขอทานขอข้าวเค้ากิน ญาติพี่น้องรับไม่ได้ เพราะมาจากชาติตระกูลสูง ถ้าจะดูกันทางธรรมแล้ว ต้องวัดกันที่สภาวะ ความทุกข์ ใคร มีทุกข์น้อยกว่ากันในสภาวะที่เหมือนกัน เพราะในโลกสมมุติ ที่เราอยู่เราเรียนรู้ ด้วยการทำความเข้าใจเอา จากหลัการและเหตุผล มันไม่ใช่ที่สุดในทางธรรม แต่สิ่งที่มันเกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ ที่ปราศจากการปรุ่งแต่ง การคิด วิเคราะห์ ตามหลัก วิชาการ ต่างๆนาๆ นั้นคือสัจจธรรม
ใกล้จะนิพพาน😂
ทางโลกกลายเป็นคนป่วยไปซะงั้น
คิดเหมือนกันเลยค่ะ ภาวะนี้น่าจะเป็นสิ่งที่ดีคือไม่ถูกกระทบด้วยโลกธรรม 8 ในทางโลกกลับมองว่ากลายเป็นคนป่วยไปซะงั้น555
ผมผ่านจุดนี้มาแล้วครับ ฟังธรรม ถือศีล นั่งสมาธิ ทำให้เกิดปัญญา แล้วเราจะเข้าใจตัวเองมากขึ้น จะแนะนำว่าปฏิบัติธรรมซิ อินทรีย์ได้ เพราะบุคคลที่มีบุญพอจะทำให้เราตื่นรู้จากกาม และกิเลส สิ่งแรกที่เกิดคือเบื่อ ทางโลก เบื่อมนุษย์ที่มีแต่ความโลภและกิเลส เบื่อการแก่งแย่ง โกรธ เกลียด เบื่อการมีชีวิตทางโลก พอเราเริ่มปฏิบัติ และศึกษาอย่างถูกต้อง ความทุกข์จะลดน้อยลง
อาการอาจคล้าย แต่ผมเชื่อว่าป่วยก็ส่วนป่วย บรรลุธรรมก็ส่วนบรรลุธรรมครับ น่าจะเอามาใช้ประโยชน์ไม่ได้ พระพุทธองค์แนะให้มนุษย์เราเจริญวิปัจสนา ตอนร่างกายปกติมากกว่าตอนป่วยด้วยซ้ำ เพราะมันจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าตอนร่างกายป่วยไข้ไม่ปกติ มองว่าคนที่มีอาการสิ้นยินดี สารเคมีในสมองหลั่งผิดปกติ ยากที่จะบรรลุธรรม การบรรลุธรรมไม่ใช่การสิ้นยินดี แต่มันเป็นการรู้ทันทั้งทุกข์และสุขจนสามารถละทุกอย่างทางโลกไปได้
ฟังแล้วอาการสิ้นยินดีไม่น่าห่วง ห่วงแต่โรคยุ่งเรื่องชาวบ้าน คนที่คอยกล่าวหาให้ร้ายคนที่ไม่ทำเหมือนตัวเอง
พิธีกรกับแขกรับเชิญให้ข้อมูลได้ดีเลยค่ะ จังหวะการพูด ข้อมูลแน่น จับประเด็นได้ดี ตอบคำถามได้ดี สรุปได้ดี ดีงามไปหมดเลยค่ะ
Introvert ไม่ใช่โรคทางจิตเวช นะคุณวิทยากร มันเป็นบุคลิกภาพประเภทหนึ่ง เอามาเปรียบเทียบกับ burn out ไม่ได้
บริษัทเก่าเรา มองคนintrovert เป็นคนแปลกแยก เราลาออกเพราะโดนบังคับทำกิจกรรม
@@ShortLifeMinimal เสียใจด้วยนะคะที่องค์กรไม่สนับสนุนและยอมรับความหลากหลาย ดีใจด้วยที่ออกจากองค์ที่ toxic แบบนั้น บางที่ไม่ย่อมเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กร เรามีสิทธิ์เลือกที่จะเดินออกไป เพื่อสุขภาวะทีดีของเราคะ
Extrovert มักรวมกลุ่มกัน เเละทำให้ Introvert เป้นพวกผิดปกติ ผมบอกตรงๆนะ นั่นคือพฤติกรรมที่เเย่มาก เพราะคุณกำลังทำให้เพื่อนรวมสังคมคุณพบกับปัญหาทางจิตใจโดยไม่รุ้ตัว
เป็นไปตามกฏธรรมชาติ. ไม่ใช่เรื่องแปลก. คนเราถ้ารู้มากขึ้นแล้ว จนไม่มีอะไรที่อยากจะเรียนรู้แล้ว. ก็เหลืออยู่อย่างเดียวคือ การเรียนรู้ตนเอง. ไม่อยากคบคน. ไม่อยากเข้าสังคม. ปลีกวิเวก. ไม่อยากให้เรียกว่า โรค. มันเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากกว่า. การอยู่กับตัวเอง. จะเริ่มเห็นตัวเอง.
บางครั้งการเกิดภาวะนี้ก็อาจจะมาจากสิ่งแวดล้อมก็ได้ ความไม่เท่าเทียมกันในที่ทำงาน ระบบเส้นสายต่างๆ ระบบการวัดผลการทำงานของคนแบบปลายปากกา ซึ่งมีมาแต่ไหนแต่ไร อย่าลืมนะว่า 24 ชั่วโมงของมนุษย์เราใช้เวลาไปกับการทำงานเท่าไหร่ มันอาจจะมากพอที่จะสั่งสมภาวะอะไรบางอย่างได้ เด็กที่เริ่มต้นทำงานใหม่ๆไฟแรง มีความคาดหวังต่อความเจริญก้าวหน้า อาจจะตั้งใจทำงานมากและคาดหวังว่า ผลงานของตัวเองจะทำให้ตัวเองเจริญก้าวหน้า แน่นอนเขามีพลังในการทำงาน ในการใช้ชีวิต แต่พออยู่ไป 1 ปี 2 ปี 3 ปี เห็นระบบองค์กรมันบิดเบี้ยวผิดเพี้ยนไป ประกอบกับยุคสมัยนี้การหางานใหม่ก็ยากขึ้น จึงทำให้ต้องทนอยู่กับสภาวะแบบนั้น ทนเห็นความไม่ยุติธรรมต่างๆในที่ทำงานทุกวัน ทุกวัน เป็นเดือน เป็นปี...จนในที่สุด พวกเขาอาจจะรู้สึกว่า ฉันก็ไม่รู้จะยินดีกับสิ่งต่างๆไปเพื่ออะไร ทำไมฉันต้องยินดีกับโลกบิดเบี้ยวใบนี้ ฉันก็แค่ทำงานหาเงินเลี้ยงชีพ เริ่มรู้สึกว่าการปฏิสัมพันธ์กับคนมันก็เหมือนกับใส่หน้ากากใส่กัน......สำหรับเราไม่ใช่เป็นภาวะทางจิต แท้จริงแล้วเราควรใช้ชีวิตอยู่กับตัวเอง รักตัวเองยินดีกับการนิ่งเฉยของจิตตัวเองดีที่สุด ดีกว่าที่จะไปยินดีพอใจกับของนอกกายแบบนั้นซะอีกนะ
+1 เลยค่ะ แต่คุณหมอก็บอกอยู่ว่า อาการแบบนี้มาจากสารในสมองด้วยค่ะ การได้รับผลกระทบทางจิตใจมากๆก็มีผลให้เกิดภาวะนี้ได้ แต่เราเห็นด้วยทุกประโยคที่พิมมาเลยค่ะ แทนใจคนอย่างเราที่สุด เลิฟเล่ยยย
เห็นด้วยค่ะ
ภาวะสิ้นยินดีตรงกับ ถีนะ ที่มีสภาพไม่ขวนขวาย มีหน้าที่ละความเพียร มีความถดถอยเป็นอาการที่ปรากฏ สามารถเกิดกับปุถุชนเรา ๆ และเป็นสภาวะที่เกิดร่วมกับโมหมูลจิตส่วนผู้ที่เป็นพระอริยบุคคลสิ้นยินดีเพราะเกิดนิพพิทาญาณ คือปัญญาที่เห็นขันธ์ 5 เป็นสิ่งน่ากลัว เป็นทุกข์ มีโทษ แล้วเบื่อหน่ายไป จากนั้นก็พัฒนาต่อไปเป็นมรรคญาณ ผลญาณ ละกิเลสทั้งหมดได้เด็ดขาดจนอารมณ์ที่น่ายินดีหรือไม่ดีไม่สามารถกระทบกระเทือนจิตใจได้ที่ปุถุชนเรารู้สึกสิ้นยินดีเพราะ ถีนะ ไม่ได้หมายความว่าบรรลุธรรม
มีความเห็นเช่นเดียวกันค่ะ แต่ไม่สามารถอธิบายได้ดีอย่างคุณ ขอบคุณสำหรับความเห็นค่ะ
เราโชคดีที่ถูกส นให้รักตัวเอง ภูมิใจในตัวเอง และมีความสุขดับเรื่องเล็กๆน้อยๆ ทั้งนี้มาจากครอบครัวที่อบอุ่น
ภาวะสิ้นยินดี... โห.. แค่ฟังชื่อก้รู็ละว่า.. ทำให้ องค์กรทุกองค์กรไม่น่าอยู่เลย
เราเลยค่ะ เรียนหนัก>ซึมเศร้า>เบิร์นเอาท์>ตอนนี้น่าจะเป็นอาการนี้แหละ มันเป็นอึนๆ เฉยๆ เคยติ่งแล้วไม่ฟินเท่าเดิม เคยกินแล้วมีความสุขแต่ก็ไม่ขนาดนั้น มันพูดยากมาก ไม่ได้อยู่ไม่ได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าอยู่ได้ไรงี้ 😅
เป็นเหมือนกันเลยค่ะ เราก็เรียนหนักต้องเรียนในคณะที่ตัวเองไม่ถนัดทำให้เครียดสุดๆตอนเรียน ที่บ้านไม่ให้ซิ่วต้องทนมาจนตอนนี้จะจบปี 4 แล้ว จากที่ชอบดูซีรีส์เกาหลี มีแรงบันดาลใจในการเรียนภาษาเกาหลี ตอนนี้ไม่มีแพชชั่นเลย burnout มากๆ 😢 ต้องรีบหาทางแก้เพราะว่าต้องไม่หางานทำต่อ
@@mylollipop537 ทางนี้คือจะจบเอกแล้วแต่ยังไม่จบซักทีเพราะเบิร์นเอาท์ไปก่อน มีแต่คนเร่งให้จบแต่เราอึนมาก ตระหนักแต่ไม่ตระหนกสุดๆ 😰
@@Winkingmom เป็นกำลังใจให้นะคะ พี่ลองทบทวนดูอีกครั้งไหมคะว่าจริงๆเป้าหมายที่เรียนต่อป.เอกคืออะไรและจะนำไปใช้ประโยชน์อะไรต่อเผื่อว่าจะมีแรงฮึดสู้ค่ะ ถึงหนูจะไม่รู้จักพี่แต่อยากส่งต่อกำลังใจให้ เพราะว่ายุคนี้เศรษฐกิจมันไม่ดี คนเครียดและป่วยซึมเศร้ากันเยอะแต่ถึงยังไงอย่าหยุดฝันและอย่ายอมแพ้นะคะ พี่เก่งมากเลยที่มาอยู่ในจุดนี้ได้✌️🩷❤️
@@mylollipop537 ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ถึงเราไม่รู้จักกันแต่คำให้กำลังใจของน้องเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่เราเคยรับได้มาเลยค่ะ เข้าใจ ไม่ตัดสิน ไม่เบลมผู้ป่วย เป็นสิ่งที่หลายคนไม่รู้และถึงรู้ก็ทำไม่ได้ จริงๆสาเหตุที่เรียนต่อเป็นเพราะได้ทุนตั้งแต่ปอตรีแล้วค่ะ เป็นทุนตรีโทเอกที่บังคับให้เรียนยาวๆ ไม่สามารถพักมาทำงานหรือหาประสบการณ์ได้ ก็เลยเป็นไฟลท์บังคับว่าต้องทำและต้องจบค่ะ ยังไงก็อยากส่งต่อกำลังใจดีๆให้น้องเหมือนกันนะคะ ให้เข้มแข็งเสมอแม้ว่ารอบข้างมันจะแย่แค่ไหนเราจะไม่เป็นไรค่ะ ฮึบๆนะคะ 🥰
การไม่ยินดียินร้าย คือการฝึกจิตเพื่อหนทางสู่การพ้นทุกข์อย่างหนึ่งครับ เพราะเราต่างก็ทราบดีว่าการยินดียินร้าย ก็แค่ความรู้สึกแค่ชั่ววูบเท่านั้น ความว่างเปล่านี่แหละคือสัจธรรมอันแท้จริง
คนที่ไม่เข้าใจ ไม่ศึกษา จะไม่รู้เรื่องเลยครับ เเต่คนที่ศึกษาธรรมะ อาจจะมองได้ว่าผู้ที่สิ้นยินดีเข้าขั้นเป็นอริยะบุคคลไปเเล้ว
การเข้าถึงธรรม มันคือยินดีในบุญกุศลแต่อาการนี้มันไม่ยินดียินร้ายในอะไรสักอย่างแยกให้ออกด้วย
ใช่ค่ะ ถ้าไม่กระทบผู้อื่น
จิตวิทยาฝรั่งมันตื้นมาก ไปโฟกัสที่อารมณ์แย่ ๆ แล้วพยายามแก้ปัญหา ส่วนในทางพุทธมองว่าอารมณ์แย่ ๆ มันเป็นแค่ความไม่รู้ เราสามารถกระโดดข้ามมันไปได้เลย จิตวิทยาฝรั่งมันดีตรงที่ทำให้นักจิตวิทยาได้มีอาชีพ มีกินมีใช้ ตื่นรู้กันถ้วนหน้าไม่มีคนเข้าวัด ไม่มีใครจ้างนักจิตวิทยา
ต้องดูว่า การไม่ยินดียินร้าย เพราะความผิดปกติของสมอง หรือเพราะปัญญาทางธรรม มันอาจดูเหมือน มันอาจคล้าย แต่ไม่เหมือนกันโดยสิ้นเชิง
ทางนี้เป็นอยู่ค่ะ พยายามดึงตัวเองขึ้น พาตัวเองไปหาความสุขที่ตัวเองชอบ บางทีดูไปก็เป็นฝืนๆ แต่พยายามบิ้วตัวเองค่ะ
เก่งทั้งคู่เลยครับ (*C ¥ เตรียมข้อมูล ถาม-ตอบ มาได้กระชับเข้าใจง่าย ขอบคุณครับ
เป็นผู้พ้นแล้วจากสิ่งพันธนาการ ไม่ใช่มาอย่างไม่รู้ อยู่อย่างหลง จากไปอย่างอาลัย แต่มาอย่างรู้ อยู่อย่างเข้าใจ ไปอย่างแจ่มแจ้ง..
พึ่งจะได้ยินคนที่เป็นโรคนี้ ส่วนผมมองว่าสติสำคัญมากครับ เพราะบางคนตัดสินใจอะไรบางอย่างผิด อย่างผมมีโอกาสได้ศึกษาธรรมะแต่เด็ก เจอเรื่องร้ายๆมาก็อาศัยหลักธรรมเข้าช่วย ของแบบนี้ผมเชื่อว่ากรรมเป็นตัวกำหนด ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ
เรายินดีที่จะถูกรางวัลที่1นะคะ😅
คุณหมอ พูดสำเนียงน่ารักมาก พูดเรื่อยๆ
มีสติรู้ตัวทุกอย่าง รับรู้ทุกเรื่อง แต่ต้องใช้อุเบกขาสัมโพชฌงค์ เพื่อปล่อยวาง ไม่ผูกจิตติดกับอารมณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ฯ
เริ่มเป็นตั้งแต่อายุ 13 ตอนนั้นข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้น้อยมาก เราหาวิธีลองผิดลองถูกมาแปดปี สุดท้ายก็แก้ได้ด้วยวิธีง่ายๆ เราพึ่งจะพ้นมาแค่สองปีเอง เหมือนเกิดใหม่อ่ะ แต่นิสัยนิ่งๆยังคงอยู่ อารมณ์มากระทบก็รู้สึกแค่แป๊บเดียว แต่ก็ดีกว่าแต่ก่อน
เป็นโรคสิ้นใจ ทุกๆสิ่นเดือน😂
ทุกวันนีัเฉฉพาะทีีทำงาน ไม่รู้สึกอะไร ทำงานไปวันๆทัั้งที่เมื่อก่อนต้องมีแพทชั่น มีแรงมีบางอย่างผลักดันเพื่อทำงาน เฉยๆ ไม่รูัสึกอะไร ใครด่าใครชม ก็เฉย ไม่เก็บไปคิด ไม่เครียด ไม่มีอะไรในหัวจะว่าดีก็ไม่ใช่จะว่าไม่ดีก็ไม่ใช่ เหมือนว่างเปล่า ไม่มีความรู้สึก แต่กับคนในครอบครัวปกติ
ก็แค่ความเบื่อ แต่ยังไม่หน่าย อยากหาอะไรใหม่ ๆ ทำ แต่ยังหาอะไรทำไม่ได้ เพราะวนอยู่แค่สิ่งที่ชอบและไม่มีโอกาสออกไปเจอสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ เท่านั้นเอง
เราที่อยู่ในภาวะนี้ตั้งแต่เด็ก ถูกสังคมมองว่าแปลก เป็น Extrovert ที่อยู่กับตัวเองได้อย่างสุขใจมันสงบ เคยโกรธเป็นฟืนเป็นไฟด้วยเรื่องเล็กน้อย บัดนี้นิ่งเฉยแค่รับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแล้วปล่อยวางได้ไม่ยึดติดใจมันก็เบา ไม่ทุกข์อย่างเมื่อก่อน เมื่อใจสงบความสุขก็เกิดขึ้นง่าย
น่ารักทั้งคู่เลยครับ
ใดๆคือ คุณหมอน่ารักมากเลยครับ😳
ผมอยากเป็นแบบนี้ จะได้ไม่ต้องกังวล
ได้ยินทั้งเสียงแอร์ เสียงคนคุยกันข้างหลัง ฟังแล้วมันรำคานมากเลยนะครับ
คุณหมอน่ารักมากครับ😊
ใช่เลย รู้สึกว่างเปล่า ไม่ยินดี ไม่เศร้า ไม่อะไรเลย เหมือนปล่อยวางเรื่องจอมปลอมทุกเรื่อง ไม่ดีใจ ไม่เสียใจ จะไปเที่ยวก็ไม่สุนกเหมือนเมื่อก่อน เหมือนเราผ่านเรื่องทุกเรื่องที่ดีและแย่ มองแค่ผ่านมาและผ่านไป มองเรื่องในอดีต เป็นแค่เรื่องราวที่ผ่านมา และผ่านไป
เป็นอยู่ตอนนี้ค่ะ ไปหาหมอจิตเวชผู้ป่วยอธิบายกับก็ไม่ถูกค่ะ
ประสบการณ์ที่เราได้รับมาในแต่ละวันที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้เราเกิดสภาวะสิ้นยินดีได้หรือไม่ครับ เช่น เราเคยเห็นเรื่องบางเรื่องจนเราเกิดความเคยชิน เราก็จะรู้สึกๆเฉยๆไปโดยปริยาย ในมุมมองผมๆมองว่ามันไม่ได้เป็นโรค แต่ถ้าสภาวะนี้เกิดจนถึงระดับนึงที่รุนแรง เช่น เฉยชาในเรื่องที่ไม่ควรจะเป็นมากๆ กรณีนี้จึงจะมองว่ามันเป็นโรคที่ต้องรักษา
เป็นมนุษย์ที่แบกภาระหนักมาก รู้สึกสิ้นหวัง
เราเคยเป็น และน่าจะยังเป็นอยู่แต่น้อนลงกว่าเมื่อก่อนนี้ มันเกิดจากทุกคนให้ภาระเรามาก เราแบกมานานเหลือเกิน เราเหนื่อย และพี่น้องก็ไม่เข้าใจเรา
กดดันเรื่องงาน ถูกนายว่าซ้ำซากแบบบางทีก็ไร้เหตุผล เครียด กินนอนไม่เป็นเวลา รวมทั้งห่างเหินจากครอบครัว,คนรัก คนรักไม่เข้าใจ ทะเลาะกัน กลายเป็นถูกกดดันเพิ่ม ตอนนี้ผมเป็นอยู่ครับ 😢
ฉันว่าฉันเป็น เพราะนอนไม่หลับไม่อยากทำงานไม่อยากกินข้าวไม่อยากอาบน้ำไม่อยากทำอะไร เพราะทำไปก็เหมือนใช้หนี้ไม่หมดสักที 😢😢😢
ท่านพิธีกร เสียงเพราะ ออกเสียงชัดเจนมากครับ
😅😅😅 คุณหมอคะ ดิฉันอายุ53 ปีผ่านช่วงจิตตก มาแล้ว😢 แต่หลังจากนั้น เป็นแบบหมอว่าเลยค่ะ ยังเคยถามตัวเองว่า ทำไมไม่รู้สึกเหมือนเดิม ไม่รู้สึกยินดียินร้ายอะไรเลยเฉยๆ ไม่มีอนาคต ไม่มีอดีต ไม่มีตื่นเต้น ไม่สนุกกับอะไรเลย ทุกอย่างที่หมอพูดมา แบบนี้เลยค่ะ ปกติเป็นคน สนุกสนาน เฮฮาค่ะ หลุดจากคนเดิมเลยค่ะ
ขอบคุณครับ
อาการแบบหมอบอก สิ้นยินดี คือการบรรลุถึงนิพพาน
ไม่เหมือนกันค่ะ
ถ้าเกิดขึ้นเองน่าจะไม่ดี แต่หากเกิดจากการฝึกและปฏิบัตินั่นสุดยอดเลยคือ เขาตัด เวทนา สัญญา สังขาร ทำให้มี ปฏิฆะ เบาบางลง จิตสงบแต่มีความเบิกบานในจิตมากขึ้น และไม่ใช่การสิ้นยินดี หรือซึมเศร้า
300 กว่าบาทต่อวันมันไม่มีอะไรน่ายินดีเลย ถ้า 300 ต่อชั่วโมง ชีวิตมันจะโชติช่วงชัชวาลมาก
ทรมานมากครับ
โรคสิ้นคิด ครับ คือ คนที่ไม่ชอบทำงาน คอยผลาญเงินพ่อแม่ใช้อย่างเดียว คนสิ้นคิด จะคิดเสมอว่า คนที่ประสบความสำเร็จ คือ คนที่ไม่ต้องทำงาน คนสิ้นคิดจะคิดว่า ถ้าพ่อแม่ของเรารวยมากๆ ตัวเราไม่จำเป็นต้องทำงานให้เหนื่อย 😂😂😂😂😂 ลูกคนรวยๆ เป็นกันเยอะ รักษาไม่หาย 😅😅😅😅
ลองเป็นดูสิครับ เงินก็ไม่มีความหมาย ว่างเปล่าจนทรมาณไปหมด ใช้แต่ปาก ไม่ใช้สมองเลยนะครับ เค้าก็บอกอยูาว่าไม่มีความรู้สึก
@@ธนวันต์พิพัฒน์กฤตย์เมธี-ธ5ผ ผมหมายถึง โรคสิ้นคิด รุนแรงกว่า โรคสิ้นยินดี ครับ
เป็นมนุษย์เงินเดือนที่อิจฉาคนรวยว่างั้น
@@chatnarin007 คนเราจะรวย จะจนแค่ไหน ก็ต้องทำงานให้หนักครับ ถึงจะเกิดมามีคุณค่า สังคมยอมรับ นอกเสียจาก จะทำอะไรไม่เป็น ไม่มีความอดทน ก็ต้องนอนอยู่บ้านเฉยๆ ครับ คุณอยากให้ลูกของคุณขยัน หรือ ขี้เกียจ ละครับ
โยคีตามป่าก็อยู่คนเดียว สุขใจดี
ต้องลองบวชดูครับ แค่7วัน ชีวิตรู้สึกโล่งดี ไม่ต้องคิดอะไร
เราก็เป็นนะภาวะเช่นนี้ แต่เรารับผิดชอบโดยน่าที่ เลยทำในสิ่งที่ตอ้งรับผิดชอบ
ยอมรับมีนิสัยIntrovert แต่อยู่ร่วมกับสังคมได้ปกติ..ส่วนภาวะสิ้นยินดีส่วนตัวคือปล่อยวาง..ใช้ชีวิตเหนือสุขเหนือทุกข์..ชีวิตที่ผ่านมามันอิ่มกับทุกสิ่งทุกอย่างเกินพอแล้ว..เวลานี้ดูแลตัวเองทั้งใจกายให้ดีที่สุดเท่านี้ก็พอเพียงกับลมหายใจที่เหลืออยู่❤❤❤
ของเราไม่น่าเป็นหรอก เราน่าจะออกแนวยินดีเยอะเกินไป อารมณ์มาเต็มโวยวายแหลกลานจนอยากจะเบาลงมากกกว่า^^
ผมเป็นโรคทรัพจางชนิดรุนแรงครับหมอ😊😊😊
พิธีกรเก่งมากครับ
พิธีกร น่ารักมากครับ
ที่แน่นอนเราขอเทสกับตัวเอง เมื่อเราเห็นผู้ประสบความสำเร็จหรือเขากำลังประสบสุขกับกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่งเรากลับอยากตะโกนออกไปว่ายินดีด้วยยินดีที่สุดกับเขาคนนั้น เราจริงใจและมีความสุขทุกครั้งที่ได้บอกกับเขาพวกนั้นอย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ อย่างใสจริงๆ ซึ่งแม้ตัวเราเองไม่ค่อยประสบความสำเร็จในชีวิตนักผิดพลาดในชีวิตก็หลายหน เราแยกแยะออกนะ ห้วงชีวิตแบบนี้😂❤😂❤😂❤
ไม่ได้เป็นซึมเศร้าแต่เบื่อสังคมในประเทศนี้ ยกตัวอย่างเช่นหากวันนี้มีข่าวดังทุกรายการของช่วงข่าวพูดเรื่องเดียวตั้งแต่เช้ายันดึก เฮ้อ😢😢😢😢😢😢
เป็น อยู่คะ ไม่ ยินดียินร้าย กับ ชีวิต
ผมเป็นมาตั้งแต่เกิด เวลาทุกข์ก็ไม่มาก เวลาสุขก็ไม่มาก เหมือนมันไม่ยินดียินร้าย ใช้ชีวิตเหมือนโปรแกรมมา
เป็นอยู่ ค่ะ
ตอนนี้ฉันสิ้นยินดีไปแล้ว
ผมว่า มันเป็นแค่ช่วงอารมณ์นึงมากกว่า ปีนึงผมเป็นแบบนี้ประมาณ 3-4 เดือน แล้วก็กลับมาเหมือน เดิม
จริงครับผมก็ประมาณนั้นอ่ะ เดือนครั้งเเล้วก็หายกลับมาเป็นอีก
เหมือนมีคนคุยกัน เสียงเข้าไมค์ตลอด
เป็นอยู่เลย สิ้นยินดี ตอนนี้อยู่บอไทย เมื่อก่อนอยู่บอต่างชาติ วัฒนธรรมองค์กรไทยทำให้ทำงานไม่สนุก สมัยก่อนทำอะไรแล้วยินดี? สมัยก่อนทำงานบอต่างชาติ ได้เที่ยวยุโรป
กำลังเป็นอยู่เลย
ฟังดูคล้ายๆกับสิ้นหวัง
สิ้นยินดีแสดงว่า ผมผ่านมาได้ละ พึงรู้ว่าตัวเองเคยเป็น
คล้ายๆอารมณ์บรรลุธรรม ถ้าปล่อยวางไม่ได้ ไม่เห็นด้วยปัญญา ยังไม่เข้าใจถึงการเกิดและการดับ ก็ยังไม่ได้บรรลุธรรมครับ ถ้าน้อมจิตศึกษาธรรมอาจปลดล็อกจิตใจค้นหาหนทางที่ตามหาก็ได้ครับ แค่ต้องเจอใครสักคนแนะนำ
บางทีก็เหมือนเฉยๆเฉพาะบางเรื่อง
อารมณ์อุเบกขา ต่อยอดปฏิยัติธรรมตัดนิวรณ์ไปเลย น่ากลัวตรงไหนก่อน
จิตแปรเปลี่ยนตามอารมย์ที่จิตไปกระทบ มันจะเป็นอาการอะไรก็ได้ครับ ทางคำสอนพุทธศาสนามี3อาการคือ รู้สึกสุข รู้สึกทุกข์ และรู้สึกอุเบกขา(เฉยๆ) มันเป็นอาการของคนทั้งโลกครับ ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย แปลกตรงที่ว่าหมอเรื่องจิต จิตแพทย์ทำไมไม่ศึกษาจิตทางพุทธบ้างครับ จะได้เห็นคำตอบ
อารมณ์ ไม่ใช่ อารมย์ ตั้งใจเรียนบ้าง
กิจกรรมน่าสนใจ ท่านว่าเมื่อพิจารณาแล้วจึงวาง แต่คนวัยทำงาน ฉันยุ่ง ฉันไม่ว่าง ฉันไม่มีเวลาพิจารณาอื่นหรือใดๆหรอกคนที่มีการดำรงค์ตนแบบสันโดษ มีประโยชน์และความสุข คงถูกกาหัวว่า อินโทรเวิร์ท ตามหลักที่คนบางกลุ่มยึดถือครั้งนั้นเมื่อท่าน....แล้ว ท่านมีคุณลักษณะคือ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ครับ ฉะนั้น ไม่เบิกบานเพราะยังไม่รู้ ยังไม่ตื่น ซึ่งถือว่าเป็นปกติสามัญแต่เมื่อ ผู้รู้ด้านอื่น มาแบบตื่นๆ เห็นว่าไม่เบิกบาน อาจชี้ว่าผิดปกติเพราะถนัดในการเปรียบเทียบเพื่อจับผิด
จร้าาา แม่คน extrovert
บรรลุนิพาน.. คิดดี ทำดี. พุดดี
เพราะสังคม สร้างภาวะแบบนี้
ที่ว่าว่างเปล่านี้เหมือน นิพพาน ไหมคุณหมอนัฏ
อาการปลง เป็นโรค มั๊ยครับ พระพุทธเจ้าเป็นโรคมั๊ยครับ
คำเดียว.. เบื่อ... แต่ถ้ามีเงินก็หายเบื่อนะ😃
ภาวะนี้ เกิดได้ส่วนใหญ่น่าจะ คนวัยทำงาน 40+ คือมองอนาคตแล้ว ยังหาจุดลงตัวของวัยเกษียณไม่ได้หนะครับ ลองคิดให้ยาว ๆ หนะ อิ ๆ
ถ้าในวงราชการคือระบบอุปถัมภ์ที่ทำให้คนทำงานรู้สึกเฉยชา ทำดีก็เท่านั้น ทำไม่ดีก็โดนด่า ความก้าวหน้าอย่าหวัง
ภาวะสิ้นยินดี(ignorance)=ความละเลยละทิ้งตัวตนเพราะการไม่มีครอบครัวในสมองและในจิตใจของตน
ไม่รู้สึกใดๆ ไม่ว่าเจอเรื่องดี หรือ เรื่องร้าย แสดงว่าบรรลุธรรมแล้ว เข้าใจความเป็นไป มองทุกอย่างเกิดจากเหตุปัจจัย
แต่ก่อนยิมดีเวลาเจอสิ่งที่ชอบ แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิม
รุ่นนี้มีหลายภาวะ...
ก่อนอื่นนะครับ คุณหมอด้าน "จิตเวช" คุณไม่ได้เป็นนักจิตวิทยาเพราะฉะนั้น คุณอย่าไปทำเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา เพราะจิตเวชกับจิตวิทยา มันคนละเรื่องกันเลย
เพิ่งทราบ😮
ขอเสริมด้วยนะครับ ด้วยภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่จึงต้องอยู่ในโหมดสิ้นรู้ประสาต่อการทายทักครับ อีกทั้งสิ้นยินดีในการบรรเทาหรือรักษาผู้ป่วยจำนวนมาก แต่ยังมีความยินดีกับผู้ป่วยแค่บางคนอยู่บ้างครับด้วยอาชีพจึงมีบัฟความน่าเชื่อถือติดมาเป็นแพ็คเกจในตัว ด้วยพื้นฐานด้านอายุรกรรมที่มีกันทุกคน หากนำมาช่วยรณรงค์ให้คนรอบตัวหรือจะคนทั่วไปลดแป้งและน้ำตาลอย่างจริงจัง จะเกิดประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมมากจนยากประเมินได้ แต่ทายว่าคงน้อยมากที่จะยินดี
โรค นิพพานการปล่อยวาง
เอาจริงๆ แม่ชีสอนไม่ให้เรายินดี เพราะเมื่อยินดียินร้ายจะตามมา ทีนี้ทำไม่ได้ แต่คนที่ทำได้กลับถูกมองเป็นความแปลกไปซะงั้น 😅
เค้าเรียกว่า ปลง ถ้าเข้าวัดปฏิบัติธรรมจะเหมาะมากก
เสียงเข้าไมค์เยอะมากเลยครับแจ้งทีมงานระวังหน่อยนะครับ
จริงค่ะ มีเสียงแทรกเข้ามา ทั้งเสียงแอร์และเสียงคนคุยกัน
มันไม่ใช่โรค เป็นสิ่งที่ดีด้วยซ้ำ หมอนั้นล่ะที่เป็นโรค ที่ตั้งนิยามนี้ขึ้นมา
กำลังสงสัยตัวเองพอดีว่าเดี๋ยวนี้เป็นอะไรเพราะก็คิดว่าไม่เข้าข่ายอะไร แต่เรื่องนี้ก็ไม่แน่ อาจจะต้องไปหาหมอจริงๆ
ขออนุญาตนะคะ น้องพิธีกรมองเผินๆคล้ายน้องแตงโมเลยค่ะ
คิดเหมือนกันเลย
ฝึกนั่งสมาธิสิ ทางออกที่ดีที่สุด
แล้วโดนด่าอีกว่าเป็นพวกไม่มี ❤
อยากอยู่คนเดียว มีความสุขเบื่อสังคมจอมปลอมต่อหน้าเรียกพี่น้อง หันหลังก็ว่ากันล่ะ เห็นแล้วเซ็ง
ติฉิน. นินทา เป็นเรื่องปกติ ที่ทุกคนต้องเจอ. แม้แต่พระพุทธเจ้า ก็ ยังเคยโดน ติฉินนินทา โดนให้ร้าย. คนเดินดิน หรือจะสิ้นการนินทา
ผมเป็นครับ
กำลังเป็นเหมือนกัน
สรุปว่า สามารถ บรรลุธรรมได้ทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย 55555
อย่าไปเชื่อมาก อาจมีพวกเสียผลประโยชน์จากคนที่สิ้นยินดี? วิธีแก้ให้ดูหนัง?ให้เข้ากิจกรรม?ให้มีความสุขเท่าเดิม?ใครที่ทำอะไรเดิมๆแล้วมีความสุขเท่าเดิมผิดปกติกว่าคนที่เบื่อน่ะ เพราะปกติแล้วคนที่ทำอะไรเดิมๆย่อมมีความเบื่อเป็นธรรมดา ความว่างเปล่าอันตรายที่สุด? จริงๆแล้วความเห็นผิดต่างหากที่อันตรายที่สุด เช่น เห็นผิดเป็นถูก เห็นชั่วเป็นดี เห็นทุกข์เป็นสุข
ตอนนี้กำลังเป็น
อยากได้? ทุกข์มากก็หลบ
ทำไมดูซีรีย์แล้วต้องตื่นเต้น? 😅 เห็นผู้ชายแล้วต้องกริ๊ด? ... บางทีเจอเหตุการณ์ต่างๆ ที่ถาโถมในชีวิต ก็ทำให้รู้สึกยอมรับ และสงบกับสิ่งที่เข้ามามากขึ้น เหมือนโตขึ้น ..การไม่ดีใจเกินไป ไม่เสียใจจนเกินไป เป็นเหตุให้เรามีสติ มองเห็นสิ่งต่างๆ ได้ดีขึ้นนะ
Introvert ค่ะ เป็นพวกโลกส่วนตัวสูง มีความสุขกับการอยู่คนเดียวได้ เช่น กินข้าวคนเดียว ดูหนังคนเดียว ทำอะไรคนเดียวก็ไม่ได้รู้สึกทุกข์ร้อน เหงา โดดเดี่ยวอะไร แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเข้าสังคมไม่ได้ เข้าสังคมไม่เป็นนะคะ สามารถทำได้ เพียงแต่จะ Happy มากกว่าถ้าไม่มีใครมายุ่งกับฉัน
ผมก็ Introvert ครับ ชอบอยู่คนเดียว ถ้ามี ผู้หญิงแท้ หญิงเทียม มาชอบผมจะอึดอัด ผมไม่ชอบให้ใครมาชอบ มารักผมแบบโรแมนติค ผมอึดอัด ผมรำคาญ อิอิอิ ผู้หญิงสวยๆ ระดับ 7 8 9 ยืนยิ้มให้ แต่ผมเดินหนีทุกครั้ง 😂😂😂😂😂 ไม่อยากยุ่ง ไม่อยากคุย ไม่ต้องการ Sex จากพวกเธอ 😂😂
มีจริงๆคนประเภทนี้
❤
เลอะเทอะ ไม่รู้อะไร พูดมั่วไปหมด
ตั้งแต่ผมเลิกกับเมียมาก็ไม่ได้คิดอยากมีใคร มาอยู่ด้วยเลย คนเดียวมันอิสระครับ
คิดว่าไม่ร้ายแรงมันก็ใช่แต่มันก็ส่งผลในการใช้ชีวิตอ้อมๆพอสมควร
- เราไม่มีความสุขกับอะไรอย่างที่เคยมีแล้ว
- เราไม่รู้สึกเศร้าจนสามารถร้องไห้เพื่อระบายความรู้สึกแบบเมื่อก่อนทำให้ต้องเก็บไว้และรอให้มันจางไป
- เราไม่สามารถชื่นชมในความสำเร็จยินดีกับตัวเองและคนอื่นได้จากใจจริงต้องแสร้งประมาณนึง
- เราไม่สามารถแสดงให้คนอื่นรู้ได้อย่างชัดเจนว่าเรารู้สึกแย่ไม่ไหว เพราะร้องไห้ไม่ออก
- เราไม่สามารถรู้สึกเห็นอกเห็นใจคนที่กำลังรู้สึกแย่ได้อย่างเดิมเพราะไม่รู้ต้องรู้สึกยังไง
- เราไม่มีแรงขับเคลื่อนมากอย่างแต่ก่อนเพราะไม่รู้สึกว่าสิ่งที่รออยู่มันทำให้เรารู้สึกดีได้ขนาดไหนนะ
ไม่ได้รู้สึกว่ามันร้ายแรงอะไรขนาดนั้นแต่มันทำให้ราไม่ใช่เราที่เคยมีชีวิตชีวาอย่างเมื่อก่อน บางเวลาก็แปลกแยกจากสังคมทำให้คนอื่นไม่อยากปฏิสัมพันธ์ด้วยเพราะรู้สึกว่าเราเป็นพลังงานลบแบบที่ไม่ได้ toxic เราก็นอยนะที่เป็นแบบนี้ คิดถึงตัวเองเมื่อก่อนมากๆ
มันไม่ใช่ความรู้สึกปล่อยวาง ใจเบาแบบที่หลายคนเข้าใจ แต่มันคือภาวะที่ ไม่ใช่แค่รู้สึกเฉยๆ แต่เป็นความรู้สึก "เฉยชา" ไม่สนุกกับอะไรเลย ไม่สุขกับอะไรเลย แต่ก็ไม่เศร้า ไม่เสียใจ มันว่างเปล่า บางครั้งก็รู้สึกว่า ไม่รู้จะมีชีวิตไปทำไม อยู่ไปวันๆ อาจจะมาจากเรื่องราวในอดีต ที่เคยมีความสุข แต่แล้วก็มารับรู้ทีหลังว่ามันจอมปลอม เช่น พยายามทำงานจนมีตำแหน่งสูง เงินเดือนเยอะ แล้วก็พบว่าที่บ้านทำหนี้ก้อนโตที่เราต้องไปรับผิดชอบ หรือเจอคนที่ดีมากๆ ไว้ใจกัน ดีด้วยทุกอย่าง แต่สุดท้ายก็พบว่า ที่ผ่านแค่ผลประโยชน์นะ วนๆ เวียนๆ มานานแสนนาน จนชาชิน จนกลายเป็นความหมดอาลัยตายอยาก
จริงค่ะ เป็นอยู่เลย😢
@@PP-6699 ให้กำลังใจนะคะ ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้ว เมตตาตัวเองให้มาก ให้อภัยผู้อื่น ขอบคุณทุกอย่างที่เรามี ไม่ว่าจะธรรมดา เล็กน้อยแค่ไหน แล้วจะดีขึ้นค่ะ 😊
มันเบื่อครับ เบื่อทุกอย่างหนังมีดูก็ไม่สนุก เคยสนุกแบบเดิมๆ ทุกวันนี้ไม่สนุก เคยทำงานเคยสังสรรค์ ก็เริ่มไม่ไป เริ่มอยู่คนเดียว พอทำงานเจอแต่ปัญหาที่ทุกคนพร้อมเอามาฝากไว้ แล้วก็ไป แก้ปีัญหาเดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมา เพราะเราลองทำทุกอย่างแล้ว พอจะกลับมาทำให้ได้ feeling เดิมๆนะมันไม่เหมือนเดิม มากกว่า Introvert น้อยกว่า โรคซึมเศร้า ทุกอย่างเฉยๆ ผมรู้สึกแบบนี้มานานแล้วครับ วิธีแก้คืออยู่กับปัญจุบัน ไม่ยึดติดกับอดีต ไม่ฝันถึงอนาคตที่เป็นไปไม่ได้ ทุกอย่างจะค่อยๆดีขึ้น
ในทางพุทธศาสนา นี่บรรลุธรรมเลยนะครับ ไม่ยินดีทั้งสุขทั้งทุกข์ คนที่ชอบอยู่คนเดียว ก็เป็นนิสัยทางธรรม สันโดษ สรปมันคือ ความเบื่อโลก ต้องไปปฎิบัติธรรม คนกลุ่มนี้ น่าจะมีบุญนะครับ ถ้าอยู่ในสมัยพุทธกาล ได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้า บรรลุธรรมไปเลย. ผู้ที่จะบรรลุธรรม ก็เริ่มจาก จุดนี้ทั้งนั้น ถูกมองจากคน ทางโลก ว่าแปลก ว่าผิดปกติ
แม้แต่พระพุทธเจ้า ยังถูกมองว่าเป็นขอทานขอข้าวเค้ากิน ญาติพี่น้องรับไม่ได้ เพราะมาจากชาติตระกูลสูง ถ้าจะดูกันทางธรรมแล้ว ต้องวัดกันที่สภาวะ ความทุกข์ ใคร มีทุกข์น้อยกว่ากันในสภาวะที่เหมือนกัน เพราะในโลกสมมุติ ที่เราอยู่เราเรียนรู้ ด้วยการทำความเข้าใจเอา จากหลัการและเหตุผล มันไม่ใช่ที่สุดในทางธรรม แต่สิ่งที่มันเกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ ที่ปราศจากการปรุ่งแต่ง การคิด วิเคราะห์ ตามหลัก วิชาการ ต่างๆนาๆ นั้นคือสัจจธรรม
ใกล้จะนิพพาน😂
ทางโลกกลายเป็นคนป่วยไปซะงั้น
คิดเหมือนกันเลยค่ะ ภาวะนี้น่าจะเป็นสิ่งที่ดีคือไม่ถูกกระทบด้วยโลกธรรม 8 ในทางโลกกลับมองว่ากลายเป็นคนป่วยไปซะงั้น555
ผมผ่านจุดนี้มาแล้วครับ ฟังธรรม ถือศีล นั่งสมาธิ ทำให้เกิดปัญญา แล้วเราจะเข้าใจตัวเองมากขึ้น จะแนะนำว่าปฏิบัติธรรมซิ อินทรีย์ได้ เพราะบุคคลที่มีบุญพอจะทำให้เราตื่นรู้จากกาม และกิเลส สิ่งแรกที่เกิดคือเบื่อ ทางโลก เบื่อมนุษย์ที่มีแต่ความโลภและกิเลส เบื่อการแก่งแย่ง โกรธ เกลียด เบื่อการมีชีวิตทางโลก พอเราเริ่มปฏิบัติ และศึกษาอย่างถูกต้อง ความทุกข์จะลดน้อยลง
อาการอาจคล้าย แต่ผมเชื่อว่าป่วยก็ส่วนป่วย บรรลุธรรมก็ส่วนบรรลุธรรมครับ น่าจะเอามาใช้ประโยชน์ไม่ได้ พระพุทธองค์แนะให้มนุษย์เราเจริญวิปัจสนา ตอนร่างกายปกติมากกว่าตอนป่วยด้วยซ้ำ เพราะมันจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าตอนร่างกายป่วยไข้ไม่ปกติ มองว่าคนที่มีอาการสิ้นยินดี สารเคมีในสมองหลั่งผิดปกติ ยากที่จะบรรลุธรรม การบรรลุธรรมไม่ใช่การสิ้นยินดี แต่มันเป็นการรู้ทันทั้งทุกข์และสุขจนสามารถละทุกอย่างทางโลกไปได้
ฟังแล้วอาการสิ้นยินดีไม่น่าห่วง ห่วงแต่โรคยุ่งเรื่องชาวบ้าน คนที่คอยกล่าวหาให้ร้ายคนที่ไม่ทำเหมือนตัวเอง
พิธีกรกับแขกรับเชิญให้ข้อมูลได้ดีเลยค่ะ จังหวะการพูด ข้อมูลแน่น จับประเด็นได้ดี ตอบคำถามได้ดี สรุปได้ดี ดีงามไปหมดเลยค่ะ
Introvert ไม่ใช่โรคทางจิตเวช นะคุณวิทยากร มันเป็นบุคลิกภาพประเภทหนึ่ง เอามาเปรียบเทียบกับ burn out ไม่ได้
บริษัทเก่าเรา มองคนintrovert เป็นคนแปลกแยก เราลาออกเพราะโดนบังคับทำกิจกรรม
@@ShortLifeMinimal เสียใจด้วยนะคะที่องค์กรไม่สนับสนุนและยอมรับความหลากหลาย ดีใจด้วยที่ออกจากองค์ที่ toxic แบบนั้น บางที่ไม่ย่อมเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กร เรามีสิทธิ์เลือกที่จะเดินออกไป เพื่อสุขภาวะทีดีของเราคะ
Extrovert มักรวมกลุ่มกัน เเละทำให้ Introvert เป้นพวกผิดปกติ ผมบอกตรงๆนะ นั่นคือพฤติกรรมที่เเย่มาก เพราะคุณกำลังทำให้เพื่อนรวมสังคมคุณพบกับปัญหาทางจิตใจโดยไม่รุ้ตัว
เป็นไปตามกฏธรรมชาติ. ไม่ใช่เรื่องแปลก. คนเราถ้ารู้มากขึ้นแล้ว จนไม่มีอะไรที่อยากจะเรียนรู้แล้ว. ก็เหลืออยู่อย่างเดียวคือ การเรียนรู้ตนเอง. ไม่อยากคบคน. ไม่อยากเข้าสังคม. ปลีกวิเวก. ไม่อยากให้เรียกว่า โรค. มันเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากกว่า. การอยู่กับตัวเอง. จะเริ่มเห็นตัวเอง.
บางครั้งการเกิดภาวะนี้ก็อาจจะมาจากสิ่งแวดล้อมก็ได้ ความไม่เท่าเทียมกันในที่ทำงาน ระบบเส้นสายต่างๆ ระบบการวัดผลการทำงานของคนแบบปลายปากกา ซึ่งมีมาแต่ไหนแต่ไร อย่าลืมนะว่า 24 ชั่วโมงของมนุษย์เราใช้เวลาไปกับการทำงานเท่าไหร่ มันอาจจะมากพอที่จะสั่งสมภาวะอะไรบางอย่างได้ เด็กที่เริ่มต้นทำงานใหม่ๆไฟแรง มีความคาดหวังต่อความเจริญก้าวหน้า อาจจะตั้งใจทำงานมากและคาดหวังว่า ผลงานของตัวเองจะทำให้ตัวเองเจริญก้าวหน้า แน่นอนเขามีพลังในการทำงาน ในการใช้ชีวิต แต่พออยู่ไป 1 ปี 2 ปี 3 ปี เห็นระบบองค์กรมันบิดเบี้ยวผิดเพี้ยนไป ประกอบกับยุคสมัยนี้การหางานใหม่ก็ยากขึ้น จึงทำให้ต้องทนอยู่กับสภาวะแบบนั้น ทนเห็นความไม่ยุติธรรมต่างๆในที่ทำงานทุกวัน ทุกวัน เป็นเดือน เป็นปี...จนในที่สุด พวกเขาอาจจะรู้สึกว่า ฉันก็ไม่รู้จะยินดีกับสิ่งต่างๆไปเพื่ออะไร ทำไมฉันต้องยินดีกับโลกบิดเบี้ยวใบนี้ ฉันก็แค่ทำงานหาเงินเลี้ยงชีพ เริ่มรู้สึกว่าการปฏิสัมพันธ์กับคนมันก็เหมือนกับใส่หน้ากากใส่กัน......สำหรับเราไม่ใช่เป็นภาวะทางจิต แท้จริงแล้วเราควรใช้ชีวิตอยู่กับตัวเอง รักตัวเองยินดีกับการนิ่งเฉยของจิตตัวเองดีที่สุด ดีกว่าที่จะไปยินดีพอใจกับของนอกกายแบบนั้นซะอีกนะ
+1 เลยค่ะ แต่คุณหมอก็บอกอยู่ว่า อาการแบบนี้มาจากสารในสมองด้วยค่ะ การได้รับผลกระทบทางจิตใจมากๆก็มีผลให้เกิดภาวะนี้ได้ แต่เราเห็นด้วยทุกประโยคที่พิมมาเลยค่ะ แทนใจคนอย่างเราที่สุด เลิฟเล่ยยย
เห็นด้วยค่ะ
ภาวะสิ้นยินดีตรงกับ ถีนะ ที่มีสภาพไม่ขวนขวาย มีหน้าที่ละความเพียร มีความถดถอยเป็นอาการที่ปรากฏ สามารถเกิดกับปุถุชนเรา ๆ และเป็นสภาวะที่เกิดร่วมกับโมหมูลจิต
ส่วนผู้ที่เป็นพระอริยบุคคลสิ้นยินดีเพราะเกิดนิพพิทาญาณ คือปัญญาที่เห็นขันธ์ 5 เป็นสิ่งน่ากลัว เป็นทุกข์ มีโทษ แล้วเบื่อหน่ายไป จากนั้นก็พัฒนาต่อไปเป็นมรรคญาณ ผลญาณ ละกิเลสทั้งหมดได้เด็ดขาดจนอารมณ์ที่น่ายินดีหรือไม่ดีไม่สามารถกระทบกระเทือนจิตใจได้
ที่ปุถุชนเรารู้สึกสิ้นยินดีเพราะ ถีนะ ไม่ได้หมายความว่าบรรลุธรรม
มีความเห็นเช่นเดียวกันค่ะ แต่ไม่สามารถอธิบายได้ดีอย่างคุณ ขอบคุณสำหรับความเห็นค่ะ
เราโชคดีที่ถูกส นให้รักตัวเอง ภูมิใจในตัวเอง และมีความสุขดับเรื่องเล็กๆน้อยๆ ทั้งนี้มาจากครอบครัวที่อบอุ่น
ภาวะสิ้นยินดี... โห.. แค่ฟังชื่อก้รู็ละว่า.. ทำให้ องค์กรทุกองค์กรไม่น่าอยู่เลย
เราเลยค่ะ เรียนหนัก>ซึมเศร้า>เบิร์นเอาท์>ตอนนี้น่าจะเป็นอาการนี้แหละ มันเป็นอึนๆ เฉยๆ เคยติ่งแล้วไม่ฟินเท่าเดิม เคยกินแล้วมีความสุขแต่ก็ไม่ขนาดนั้น มันพูดยากมาก ไม่ได้อยู่ไม่ได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าอยู่ได้ไรงี้ 😅
เป็นเหมือนกันเลยค่ะ เราก็เรียนหนักต้องเรียนในคณะที่ตัวเองไม่ถนัดทำให้เครียดสุดๆตอนเรียน ที่บ้านไม่ให้ซิ่วต้องทนมาจนตอนนี้จะจบปี 4 แล้ว จากที่ชอบดูซีรีส์เกาหลี มีแรงบันดาลใจในการเรียนภาษาเกาหลี ตอนนี้ไม่มีแพชชั่นเลย burnout มากๆ 😢 ต้องรีบหาทางแก้เพราะว่าต้องไม่หางานทำต่อ
@@mylollipop537 ทางนี้คือจะจบเอกแล้วแต่ยังไม่จบซักทีเพราะเบิร์นเอาท์ไปก่อน มีแต่คนเร่งให้จบแต่เราอึนมาก ตระหนักแต่ไม่ตระหนกสุดๆ 😰
@@Winkingmom เป็นกำลังใจให้นะคะ พี่ลองทบทวนดูอีกครั้งไหมคะว่าจริงๆเป้าหมายที่เรียนต่อป.เอกคืออะไรและจะนำไปใช้ประโยชน์อะไรต่อเผื่อว่าจะมีแรงฮึดสู้ค่ะ ถึงหนูจะไม่รู้จักพี่แต่อยากส่งต่อกำลังใจให้ เพราะว่ายุคนี้เศรษฐกิจมันไม่ดี คนเครียดและป่วยซึมเศร้ากันเยอะแต่ถึงยังไงอย่าหยุดฝันและอย่ายอมแพ้นะคะ พี่เก่งมากเลยที่มาอยู่ในจุดนี้ได้✌️🩷❤️
@@mylollipop537 ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ถึงเราไม่รู้จักกันแต่คำให้กำลังใจของน้องเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่เราเคยรับได้มาเลยค่ะ เข้าใจ ไม่ตัดสิน ไม่เบลมผู้ป่วย เป็นสิ่งที่หลายคนไม่รู้และถึงรู้ก็ทำไม่ได้ จริงๆสาเหตุที่เรียนต่อเป็นเพราะได้ทุนตั้งแต่ปอตรีแล้วค่ะ เป็นทุนตรีโทเอกที่บังคับให้เรียนยาวๆ ไม่สามารถพักมาทำงานหรือหาประสบการณ์ได้ ก็เลยเป็นไฟลท์บังคับว่าต้องทำและต้องจบค่ะ ยังไงก็อยากส่งต่อกำลังใจดีๆให้น้องเหมือนกันนะคะ ให้เข้มแข็งเสมอแม้ว่ารอบข้างมันจะแย่แค่ไหนเราจะไม่เป็นไรค่ะ ฮึบๆนะคะ 🥰
การไม่ยินดียินร้าย คือการฝึกจิตเพื่อหนทางสู่การพ้นทุกข์อย่างหนึ่งครับ เพราะเราต่างก็ทราบดีว่าการยินดียินร้าย ก็แค่ความรู้สึกแค่ชั่ววูบเท่านั้น ความว่างเปล่านี่แหละคือสัจธรรมอันแท้จริง
คนที่ไม่เข้าใจ ไม่ศึกษา จะไม่รู้เรื่องเลยครับ เเต่คนที่ศึกษาธรรมะ อาจจะมองได้ว่าผู้ที่สิ้นยินดีเข้าขั้นเป็นอริยะบุคคลไปเเล้ว
การเข้าถึงธรรม มันคือยินดีในบุญกุศล
แต่อาการนี้มันไม่ยินดียินร้ายในอะไรสักอย่าง
แยกให้ออกด้วย
ใช่ค่ะ ถ้าไม่กระทบผู้อื่น
จิตวิทยาฝรั่งมันตื้นมาก ไปโฟกัสที่อารมณ์แย่ ๆ แล้วพยายามแก้ปัญหา ส่วนในทางพุทธมองว่าอารมณ์แย่ ๆ มันเป็นแค่ความไม่รู้ เราสามารถกระโดดข้ามมันไปได้เลย
จิตวิทยาฝรั่งมันดีตรงที่ทำให้นักจิตวิทยาได้มีอาชีพ มีกินมีใช้ ตื่นรู้กันถ้วนหน้าไม่มีคนเข้าวัด ไม่มีใครจ้างนักจิตวิทยา
ต้องดูว่า การไม่ยินดียินร้าย เพราะความผิดปกติของสมอง หรือเพราะปัญญาทางธรรม มันอาจดูเหมือน มันอาจคล้าย แต่ไม่เหมือนกันโดยสิ้นเชิง
ทางนี้เป็นอยู่ค่ะ พยายามดึงตัวเองขึ้น พาตัวเองไปหาความสุขที่ตัวเองชอบ บางทีดูไปก็เป็นฝืนๆ แต่พยายามบิ้วตัวเองค่ะ
เก่งทั้งคู่เลยครับ (*C ¥ เตรียมข้อมูล ถาม-ตอบ มาได้กระชับเข้าใจง่าย ขอบคุณครับ
เป็นผู้พ้นแล้วจากสิ่งพันธนาการ ไม่ใช่มาอย่างไม่รู้ อยู่อย่างหลง จากไปอย่างอาลัย แต่มาอย่างรู้ อยู่อย่างเข้าใจ ไปอย่างแจ่มแจ้ง..
พึ่งจะได้ยินคนที่เป็นโรคนี้ ส่วนผมมองว่าสติสำคัญมากครับ เพราะบางคนตัดสินใจอะไรบางอย่างผิด อย่างผมมีโอกาสได้ศึกษาธรรมะแต่เด็ก เจอเรื่องร้ายๆมาก็อาศัยหลักธรรมเข้าช่วย ของแบบนี้ผมเชื่อว่ากรรมเป็นตัวกำหนด ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ
เรายินดีที่จะถูกรางวัลที่1นะคะ😅
คุณหมอ พูดสำเนียงน่ารักมาก พูดเรื่อยๆ
มีสติรู้ตัวทุกอย่าง รับรู้ทุกเรื่อง แต่ต้องใช้อุเบกขาสัมโพชฌงค์ เพื่อปล่อยวาง ไม่ผูกจิตติดกับอารมณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ฯ
เริ่มเป็นตั้งแต่อายุ 13 ตอนนั้นข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้น้อยมาก เราหาวิธีลองผิดลองถูกมาแปดปี สุดท้ายก็แก้ได้ด้วยวิธีง่ายๆ เราพึ่งจะพ้นมาแค่สองปีเอง เหมือนเกิดใหม่อ่ะ แต่นิสัยนิ่งๆยังคงอยู่ อารมณ์มากระทบก็รู้สึกแค่แป๊บเดียว แต่ก็ดีกว่าแต่ก่อน
เป็นโรคสิ้นใจ ทุกๆสิ่นเดือน😂
ทุกวันนีัเฉฉพาะทีีทำงาน ไม่รู้สึกอะไร ทำงานไปวันๆทัั้งที่เมื่อก่อนต้องมีแพทชั่น มีแรงมีบางอย่างผลักดันเพื่อทำงาน เฉยๆ ไม่รูัสึกอะไร ใครด่าใครชม ก็เฉย ไม่เก็บไปคิด ไม่เครียด ไม่มีอะไรในหัวจะว่าดีก็ไม่ใช่จะว่าไม่ดีก็ไม่ใช่ เหมือนว่างเปล่า ไม่มีความรู้สึก
แต่กับคนในครอบครัวปกติ
ก็แค่ความเบื่อ แต่ยังไม่หน่าย อยากหาอะไรใหม่ ๆ ทำ แต่ยังหาอะไรทำไม่ได้ เพราะวนอยู่แค่สิ่งที่ชอบและไม่มีโอกาสออกไปเจอสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ เท่านั้นเอง
เราที่อยู่ในภาวะนี้ตั้งแต่เด็ก ถูกสังคมมองว่าแปลก เป็น Extrovert ที่อยู่กับตัวเองได้อย่างสุขใจมันสงบ เคยโกรธเป็นฟืนเป็นไฟด้วยเรื่องเล็กน้อย บัดนี้นิ่งเฉยแค่รับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแล้วปล่อยวางได้ไม่ยึดติดใจมันก็เบา ไม่ทุกข์อย่างเมื่อก่อน เมื่อใจสงบความสุขก็เกิดขึ้นง่าย
น่ารักทั้งคู่เลยครับ
ใดๆคือ คุณหมอน่ารักมากเลยครับ😳
ผมอยากเป็นแบบนี้ จะได้ไม่ต้องกังวล
ได้ยินทั้งเสียงแอร์ เสียงคนคุยกันข้างหลัง ฟังแล้วมันรำคานมากเลยนะครับ
คุณหมอน่ารักมากครับ😊
ใช่เลย รู้สึกว่างเปล่า ไม่ยินดี ไม่เศร้า ไม่อะไรเลย เหมือนปล่อยวางเรื่องจอมปลอมทุกเรื่อง ไม่ดีใจ ไม่เสียใจ จะไปเที่ยวก็ไม่สุนกเหมือนเมื่อก่อน เหมือนเราผ่านเรื่องทุกเรื่องที่ดีและแย่ มองแค่ผ่านมาและผ่านไป มองเรื่องในอดีต เป็นแค่เรื่องราวที่ผ่านมา และผ่านไป
เป็นอยู่ตอนนี้ค่ะ ไปหาหมอจิตเวชผู้ป่วยอธิบายกับก็ไม่ถูกค่ะ
ประสบการณ์ที่เราได้รับมาในแต่ละวันที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้เราเกิดสภาวะสิ้นยินดีได้หรือไม่ครับ เช่น เราเคยเห็นเรื่องบางเรื่องจนเราเกิดความเคยชิน เราก็จะรู้สึกๆเฉยๆไปโดยปริยาย ในมุมมองผมๆมองว่ามันไม่ได้เป็นโรค แต่ถ้าสภาวะนี้เกิดจนถึงระดับนึงที่รุนแรง เช่น เฉยชาในเรื่องที่ไม่ควรจะเป็นมากๆ กรณีนี้จึงจะมองว่ามันเป็นโรคที่ต้องรักษา
เป็นมนุษย์ที่แบกภาระหนักมาก รู้สึกสิ้นหวัง
เราเคยเป็น และน่าจะยังเป็นอยู่แต่น้อนลงกว่าเมื่อก่อนนี้ มันเกิดจากทุกคนให้ภาระเรามาก เราแบกมานานเหลือเกิน เราเหนื่อย และพี่น้องก็ไม่เข้าใจเรา
กดดันเรื่องงาน ถูกนายว่าซ้ำซากแบบบางทีก็ไร้เหตุผล เครียด กินนอนไม่เป็นเวลา รวมทั้งห่างเหินจากครอบครัว,คนรัก คนรักไม่เข้าใจ ทะเลาะกัน กลายเป็นถูกกดดันเพิ่ม ตอนนี้ผมเป็นอยู่ครับ 😢
ฉันว่าฉันเป็น เพราะนอนไม่หลับ
ไม่อยากทำงาน
ไม่อยากกินข้าว
ไม่อยากอาบน้ำ
ไม่อยากทำอะไร เพราะทำไปก็เหมือนใช้หนี้ไม่หมดสักที 😢😢😢
ท่านพิธีกร เสียงเพราะ ออกเสียงชัดเจนมากครับ
😅😅😅 คุณหมอคะ ดิฉันอายุ53 ปีผ่านช่วงจิตตก มาแล้ว😢 แต่หลังจากนั้น เป็นแบบหมอว่าเลยค่ะ ยังเคยถามตัวเองว่า ทำไมไม่รู้สึกเหมือนเดิม ไม่รู้สึกยินดียินร้ายอะไรเลยเฉยๆ ไม่มีอนาคต ไม่มีอดีต ไม่มีตื่นเต้น ไม่สนุกกับอะไรเลย ทุกอย่างที่หมอพูดมา แบบนี้เลยค่ะ ปกติเป็นคน สนุกสนาน เฮฮาค่ะ หลุดจากคนเดิมเลยค่ะ
ขอบคุณครับ
อาการแบบหมอบอก สิ้นยินดี คือการบรรลุถึงนิพพาน
ไม่เหมือนกันค่ะ
ถ้าเกิดขึ้นเองน่าจะไม่ดี
แต่หากเกิดจากการฝึกและปฏิบัตินั่นสุดยอดเลยคือ เขาตัด เวทนา สัญญา สังขาร ทำให้มี ปฏิฆะ เบาบางลง จิตสงบแต่มีความเบิกบานในจิตมากขึ้น และไม่ใช่การสิ้นยินดี หรือซึมเศร้า
300 กว่าบาทต่อวันมันไม่มีอะไรน่ายินดีเลย ถ้า 300 ต่อชั่วโมง ชีวิตมันจะโชติช่วงชัชวาลมาก
ทรมานมากครับ
โรคสิ้นคิด ครับ คือ คนที่ไม่ชอบทำงาน คอยผลาญเงินพ่อแม่ใช้อย่างเดียว คนสิ้นคิด จะคิดเสมอว่า คนที่ประสบความสำเร็จ คือ คนที่ไม่ต้องทำงาน คนสิ้นคิดจะคิดว่า ถ้าพ่อแม่ของเรารวยมากๆ ตัวเราไม่จำเป็นต้องทำงานให้เหนื่อย 😂😂😂😂😂 ลูกคนรวยๆ เป็นกันเยอะ รักษาไม่หาย 😅😅😅😅
ลองเป็นดูสิครับ เงินก็ไม่มีความหมาย ว่างเปล่าจนทรมาณไปหมด ใช้แต่ปาก ไม่ใช้สมองเลยนะครับ เค้าก็บอกอยูาว่าไม่มีความรู้สึก
@@ธนวันต์พิพัฒน์กฤตย์เมธี-ธ5ผ ผมหมายถึง โรคสิ้นคิด รุนแรงกว่า โรคสิ้นยินดี ครับ
เป็นมนุษย์เงินเดือนที่อิจฉาคนรวยว่างั้น
@@chatnarin007 คนเราจะรวย จะจนแค่ไหน ก็ต้องทำงานให้หนักครับ ถึงจะเกิดมามีคุณค่า สังคมยอมรับ นอกเสียจาก จะทำอะไรไม่เป็น ไม่มีความอดทน ก็ต้องนอนอยู่บ้านเฉยๆ ครับ คุณอยากให้ลูกของคุณขยัน หรือ ขี้เกียจ ละครับ
โยคีตามป่าก็อยู่คนเดียว สุขใจดี
ต้องลองบวชดูครับ แค่7วัน ชีวิตรู้สึกโล่งดี ไม่ต้องคิดอะไร
เราก็เป็นนะภาวะเช่นนี้ แต่เรารับผิดชอบโดยน่าที่ เลยทำในสิ่งที่ตอ้งรับผิดชอบ
ยอมรับมีนิสัยIntrovert แต่อยู่ร่วมกับสังคมได้ปกติ..ส่วนภาวะสิ้นยินดีส่วนตัวคือปล่อยวาง..ใช้ชีวิตเหนือสุขเหนือทุกข์..ชีวิตที่ผ่านมามันอิ่มกับทุกสิ่งทุกอย่างเกินพอแล้ว..เวลานี้ดูแลตัวเองทั้งใจกายให้ดีที่สุดเท่านี้ก็พอเพียงกับลมหายใจที่เหลืออยู่❤❤❤
ของเราไม่น่าเป็นหรอก เราน่าจะออกแนวยินดีเยอะเกินไป อารมณ์มาเต็มโวยวายแหลกลานจนอยากจะเบาลงมากกกว่า^^
ผมเป็นโรคทรัพจางชนิดรุนแรงครับหมอ😊😊😊
พิธีกรเก่งมากครับ
พิธีกร น่ารักมากครับ
ที่แน่นอนเราขอเทสกับตัวเอง เมื่อเราเห็นผู้ประสบความสำเร็จหรือเขากำลังประสบสุขกับกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่งเรากลับอยากตะโกนออกไปว่ายินดีด้วยยินดีที่สุดกับเขาคนนั้น เราจริงใจและมีความสุขทุกครั้งที่ได้บอกกับเขาพวกนั้นอย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ อย่างใสจริงๆ ซึ่งแม้ตัวเราเองไม่ค่อยประสบความสำเร็จในชีวิตนักผิดพลาดในชีวิตก็หลายหน เราแยกแยะออกนะ ห้วงชีวิตแบบนี้😂❤😂❤😂❤
ไม่ได้เป็นซึมเศร้าแต่เบื่อสังคมในประเทศนี้ ยกตัวอย่างเช่นหากวันนี้มีข่าวดังทุกรายการของช่วงข่าวพูดเรื่องเดียวตั้งแต่เช้ายันดึก เฮ้อ😢😢😢😢😢😢
เป็น อยู่คะ ไม่ ยินดียินร้าย กับ ชีวิต
ผมเป็นมาตั้งแต่เกิด เวลาทุกข์ก็ไม่มาก เวลาสุขก็ไม่มาก เหมือนมันไม่ยินดียินร้าย ใช้ชีวิตเหมือนโปรแกรมมา
เป็นอยู่ ค่ะ
ตอนนี้ฉันสิ้นยินดีไปแล้ว
ผมว่า มันเป็นแค่ช่วงอารมณ์นึงมากกว่า ปีนึงผมเป็นแบบนี้ประมาณ 3-4 เดือน แล้วก็กลับมาเหมือน เดิม
จริงครับผมก็ประมาณนั้นอ่ะ เดือนครั้งเเล้วก็หายกลับมาเป็นอีก
เหมือนมีคนคุยกัน เสียงเข้าไมค์ตลอด
เป็นอยู่เลย สิ้นยินดี ตอนนี้อยู่บอไทย เมื่อก่อนอยู่บอต่างชาติ วัฒนธรรมองค์กรไทยทำให้ทำงานไม่สนุก สมัยก่อนทำอะไรแล้วยินดี? สมัยก่อนทำงานบอต่างชาติ ได้เที่ยวยุโรป
กำลังเป็นอยู่เลย
ฟังดูคล้ายๆกับสิ้นหวัง
สิ้นยินดีแสดงว่า ผมผ่านมาได้ละ พึงรู้ว่าตัวเองเคยเป็น
คล้ายๆอารมณ์บรรลุธรรม ถ้าปล่อยวางไม่ได้ ไม่เห็นด้วยปัญญา ยังไม่เข้าใจถึงการเกิดและการดับ ก็ยังไม่ได้บรรลุธรรมครับ ถ้าน้อมจิตศึกษาธรรมอาจปลดล็อกจิตใจค้นหาหนทางที่ตามหาก็ได้ครับ แค่ต้องเจอใครสักคนแนะนำ
บางทีก็เหมือนเฉยๆเฉพาะบางเรื่อง
อารมณ์อุเบกขา ต่อยอดปฏิยัติธรรมตัดนิวรณ์ไปเลย น่ากลัวตรงไหนก่อน
จิตแปรเปลี่ยนตามอารมย์ที่จิตไปกระทบ มันจะเป็นอาการอะไรก็ได้ครับ ทางคำสอนพุทธศาสนามี3อาการคือ รู้สึกสุข รู้สึกทุกข์ และรู้สึกอุเบกขา(เฉยๆ) มันเป็นอาการของคนทั้งโลกครับ ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย แปลกตรงที่ว่าหมอเรื่องจิต จิตแพทย์ทำไมไม่ศึกษาจิตทางพุทธบ้างครับ จะได้เห็นคำตอบ
อารมณ์ ไม่ใช่ อารมย์ ตั้งใจเรียนบ้าง
กิจกรรมน่าสนใจ ท่านว่าเมื่อพิจารณาแล้วจึงวาง แต่คนวัยทำงาน ฉันยุ่ง ฉันไม่ว่าง ฉันไม่มีเวลาพิจารณาอื่นหรือใดๆหรอก
คนที่มีการดำรงค์ตนแบบสันโดษ มีประโยชน์และความสุข คงถูกกาหัวว่า อินโทรเวิร์ท ตามหลักที่คนบางกลุ่มยึดถือ
ครั้งนั้นเมื่อท่าน....แล้ว ท่านมีคุณลักษณะคือ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ครับ ฉะนั้น ไม่เบิกบานเพราะยังไม่รู้ ยังไม่ตื่น ซึ่งถือว่าเป็นปกติสามัญ
แต่เมื่อ ผู้รู้ด้านอื่น มาแบบตื่นๆ เห็นว่าไม่เบิกบาน อาจชี้ว่าผิดปกติเพราะถนัดในการเปรียบเทียบเพื่อจับผิด
จร้าาา แม่คน extrovert
บรรลุนิพาน.. คิดดี ทำดี. พุดดี
เพราะสังคม สร้างภาวะแบบนี้
ที่ว่าว่างเปล่านี้เหมือน นิพพาน ไหมคุณหมอนัฏ
อาการปลง เป็นโรค มั๊ยครับ พระพุทธเจ้าเป็นโรคมั๊ยครับ
คำเดียว.. เบื่อ... แต่ถ้ามีเงินก็หายเบื่อนะ😃
ภาวะนี้ เกิดได้ส่วนใหญ่น่าจะ คนวัยทำงาน 40+ คือมองอนาคตแล้ว ยังหาจุดลงตัวของวัยเกษียณไม่ได้หนะครับ ลองคิดให้ยาว ๆ หนะ อิ ๆ
ถ้าในวงราชการคือระบบอุปถัมภ์ที่ทำให้คนทำงานรู้สึกเฉยชา ทำดีก็เท่านั้น ทำไม่ดีก็โดนด่า ความก้าวหน้าอย่าหวัง
ภาวะสิ้นยินดี(ignorance)=ความละเลยละทิ้งตัวตนเพราะการไม่มีครอบครัวในสมองและในจิตใจของตน
ไม่รู้สึกใดๆ ไม่ว่าเจอเรื่องดี หรือ เรื่องร้าย
แสดงว่าบรรลุธรรมแล้ว เข้าใจความเป็นไป มองทุกอย่างเกิดจากเหตุปัจจัย
แต่ก่อนยิมดีเวลาเจอสิ่งที่ชอบ แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิม
รุ่นนี้มีหลายภาวะ...
ก่อนอื่นนะครับ คุณหมอด้าน "จิตเวช" คุณไม่ได้เป็นนักจิตวิทยาเพราะฉะนั้น คุณอย่าไปทำเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา เพราะจิตเวชกับจิตวิทยา มันคนละเรื่องกันเลย
เพิ่งทราบ😮
ขอเสริมด้วยนะครับ ด้วยภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่จึงต้องอยู่ในโหมดสิ้นรู้ประสาต่อการทายทักครับ อีกทั้งสิ้นยินดีในการบรรเทาหรือรักษาผู้ป่วยจำนวนมาก แต่ยังมีความยินดีกับผู้ป่วยแค่บางคนอยู่บ้างครับ
ด้วยอาชีพจึงมีบัฟความน่าเชื่อถือติดมาเป็นแพ็คเกจในตัว ด้วยพื้นฐานด้านอายุรกรรมที่มีกันทุกคน หากนำมาช่วยรณรงค์ให้คนรอบตัวหรือจะคนทั่วไปลดแป้งและน้ำตาลอย่างจริงจัง จะเกิดประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมมากจนยากประเมินได้ แต่ทายว่าคงน้อยมากที่จะยินดี
โรค นิพพาน
การปล่อยวาง
เอาจริงๆ แม่ชีสอนไม่ให้เรายินดี เพราะเมื่อยินดียินร้ายจะตามมา ทีนี้ทำไม่ได้ แต่คนที่ทำได้กลับถูกมองเป็นความแปลกไปซะงั้น 😅
เค้าเรียกว่า ปลง ถ้าเข้าวัดปฏิบัติธรรมจะเหมาะมากก
เสียงเข้าไมค์เยอะมากเลยครับ
แจ้งทีมงานระวังหน่อยนะครับ
จริงค่ะ มีเสียงแทรกเข้ามา ทั้งเสียงแอร์และเสียงคนคุยกัน
มันไม่ใช่โรค เป็นสิ่งที่ดีด้วยซ้ำ หมอนั้นล่ะที่เป็นโรค ที่ตั้งนิยามนี้ขึ้นมา
กำลังสงสัยตัวเองพอดีว่าเดี๋ยวนี้เป็นอะไรเพราะก็คิดว่าไม่เข้าข่ายอะไร แต่เรื่องนี้ก็ไม่แน่ อาจจะต้องไปหาหมอจริงๆ
ขออนุญาตนะคะ น้องพิธีกรมองเผินๆคล้ายน้องแตงโมเลยค่ะ
คิดเหมือนกันเลย
ฝึกนั่งสมาธิสิ ทางออกที่ดีที่สุด
แล้วโดนด่าอีกว่าเป็นพวกไม่มี ❤
อยากอยู่คนเดียว มีความสุขเบื่อสังคมจอมปลอมต่อหน้าเรียกพี่น้อง หันหลังก็ว่ากันล่ะ เห็นแล้วเซ็ง
ติฉิน. นินทา เป็นเรื่องปกติ ที่ทุกคนต้องเจอ. แม้แต่พระพุทธเจ้า ก็ ยังเคยโดน ติฉินนินทา โดนให้ร้าย. คนเดินดิน หรือจะสิ้นการนินทา
ผมเป็นครับ
กำลังเป็นเหมือนกัน
สรุปว่า สามารถ บรรลุธรรม
ได้ทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย 55555
อย่าไปเชื่อมาก อาจมีพวกเสียผลประโยชน์จากคนที่สิ้นยินดี? วิธีแก้ให้ดูหนัง?ให้เข้ากิจกรรม?ให้มีความสุขเท่าเดิม?ใครที่ทำอะไรเดิมๆแล้วมีความสุขเท่าเดิมผิดปกติกว่าคนที่เบื่อน่ะ เพราะปกติแล้วคนที่ทำอะไรเดิมๆย่อมมีความเบื่อเป็นธรรมดา ความว่างเปล่าอันตรายที่สุด? จริงๆแล้วความเห็นผิดต่างหากที่อันตรายที่สุด เช่น เห็นผิดเป็นถูก เห็นชั่วเป็นดี เห็นทุกข์เป็นสุข
ตอนนี้กำลังเป็น
อยากได้? ทุกข์มากก็หลบ
ทำไมดูซีรีย์แล้วต้องตื่นเต้น? 😅 เห็นผู้ชายแล้วต้องกริ๊ด? ... บางทีเจอเหตุการณ์ต่างๆ ที่ถาโถมในชีวิต ก็ทำให้รู้สึกยอมรับ และสงบกับสิ่งที่เข้ามามากขึ้น เหมือนโตขึ้น ..การไม่ดีใจเกินไป ไม่เสียใจจนเกินไป เป็นเหตุให้เรามีสติ มองเห็นสิ่งต่างๆ ได้ดีขึ้นนะ