Розмір відео: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Показувати елементи керування програвачем
Автоматичне відтворення
Автоповтор
ไม่ใช่คนขี้แพ้หรอกครับ แค่เราเลือกสิ่งดีๆ และ อนาคตให้ตัวเองครับ และงานที่เหมาะกับเราครับ อย่าโทษตัวเองเลยครับ ทุกอย่างมันไม่ได้ดั่งใจเราหรอกครับ สู้ๆครับ
ฃลช
อยากให้ได้อย่างที่ชอบทุกอย่างต้องเปิดธุรกิจเองครับ แล้วจะรู้ว่าการเป็นพนักงานใช้ความอดทนน้อยกว่าเยอะ
@@mightyc1522 นี่ก็คิดง่ายเกิ๊น
@@stevea5209 ง่ายยังไงหรอ? อันนี้พูดจากมุมมองเป็นพนักงานหรือเจ้าของธุรกิจ? เพราะผมก็เคยเป็นพนักงานแล้ว แล้วตอนนี้ก็มีธุรกิจของตัวเอง เลยกล้าพูด กำไรก็มี ขาดทุนก็เคย ลูกน้องดีๆอยู่ด้วยกันมาก็มี ลูกน้องแย่ๆอยู่ไม่ได้ก็เคย ไม่พูดง่ายๆแน่นอน เพราะมีประสบการณ์ตรง บอกได้เลยมีบริษัทเป็นของตัวเองเหนื่อยและยากกว่าเยอะมากๆๆๆๆ ไม่งั้นทุกคนคงเป็นเถ้าแก่กันหมดแล้ว คุณอะผ่านมาขนาดไหนบอกผมพูดง่ายๆ? แล้วถ้ามีหรือเคยมีธุรกิจตัวเองจะบอกว่าเป็นเจ้านายง่ายกว่า
ผมออกงานบ่อยมากใน1เดือนเพราะไม่เเฮปปี้ถ้าตรงไหนที่ไม่โอเครผมก็พร้อมเปลี่ยนเพราะผมต้องหาสิ่งที่โอเครที่สุด
เสียดายที่ที่2 ภาษาอังกฤษคือสิ่งที่เรียนรู้ได้ เสียดายมาก ตอนนี้ไม่ได้ก็ต้องใช้เวลา แล้วก็พูดกับเจ้านายไปตรงๆว่า ตอนรับมาคุณไม่ได้บอกนะว่าอังกฤษจะเข้มขนาดนี้ ตัวเราเองก็ขอเวลาเรียนรู้หน่อยอะไรแบบนี้ เจ้านายไม่ด่าหรอก ถ้าด่าก็บอกเขาว่าได้ ขอลาออก ถ้าเขารั้งไว้ ก็ดีไป งานที่3 สามเดือนคือต้องผ่านโปรอยู่แล้วค่ะ ฝึกงานเต็มที่แบบให้เป็นงานคือ1เดือน แล้วเราจะใช้เวลาเรียนรู้เรื่องงานไปเรื่อยๆ ไปตลอดระยะเวลาไปทำงาน พูดง่ายๆ ต้องรู้จักอดทนค่ะ นอกจากเงินมันน้อยแต่งานเท่าสร้างบ้านก็ลาออกเถอะ
ภาษาอังกฤษ คือ ที่ทำงาน ที่ 3 ไม่ใช่ ที่ 2 ค่ะ
เราเคยลาออกจากงานที่มั่นคง เงินเดือนก็ค่อนข้างเยอะในช่วงโควิด เพราะ...เหตุผลเพียงอย่างเดียวคือ เสียสุขภาพจิต เครียดลงกระเพาะ จนไปร้องไห้กะหมอจิตแพทย์มาแล้ว สำหรับเรารีบถอยก่อนที่จะไม่มีทางรักษาจิตใจเรา ค่ะ ออกมาก็ดีนะคะ เจองานใหม่ ใครบอกว่าที่ไหนๆก็เหมือนกัน เราว่าไม่จริงค่ะ จังหวะชีวิตสำคัญมาก
เหมือนกันเลยค่ะ เราออกจากที่มั่นคงเพราะไม่ถูกกับหัวหน้าและงานเริ่มไม่โอเค ไม่มีอะไรให้เรียนรู้เพิ่มแล้ว มาผจญภัยชีวิตข้างนอก ต้องพบจิตแพทย์ด้วยเพราะช่วงที่ทำงานมีเรื่องกัดกร่อนจิตใจมาเยอะ
@@nyahsur4263 เป็นกำลังใจให้นะคะ ออกมาก่อนที่จะเป็นอะไรมากกว่านี้ค่ะ สุดท้ายที่ทำงานก็หาคนใหม่มาแทนเราเท่านั้นเอง ส่วนเราต้องไปหาหมอก็คงไม่คุ้มค่า
ทุกบริษัทมีระยะทดลอง 3-4 เดือน ถ้าตัวพนักงานเองจะมีระยะทดลองบริษัทบ้างไม่เห็นเป็นไรเลย การเป็น Job hopper ไม่น่ากลัวถ้าคนๆนั้นมีของดีอยู่กับตัว
ไม่ขี้แพ้หรอกค่ะ การที่เอสกล้าลาออก สมัครงานใหม่ไปเรื่อยๆเพื่อให้เหมาะกับตัวเองคือกล้ามากๆแล้ว ที่ยึดตัวเองเป็นหลัก คือดีมากๆ เพื่อนเรา มีอยู่ปีนึงทำที่ละเดือน บางที่ก็วันเดียว ก็มี ตอนนี้ไม่รู้ทำที่เท่าไรแล้ว แต่ได้ที่ๆอยู่ได้ยาวๆละ สู้ๆนะคะเอส
เราก็เป็นค่พ แค่อย่าปิดกั้นตัวเอง มองบวกเข้าไว้ค่ะ
ถ้าไม่มีหนี้...จะไปไหนก็ได้ถ้ามีหนี้...มันก็จะต้องมีความอดทน..ทนอยู่
อยากได้งานเงินเดือนดี เป็นที่ตั้ง แต่ไม่ศึกษาบริษัทไม่คิดพัฒนาสกิล ไม่คิดจะศึกษาหาประสบการณ์เพิ่ม ไม่มีใครเก่งตั้งแต่แรก มันต้องเรียนรู้มันต้องรับผิดและรับชอบ ไม่ใช่มองแค่ว่าฉันจะเอาแต่แบบที่ฉันเก่งอย่างเดียวแล้วแบบนั้นเมื่อไหร่จะมีสกิลเพิ่ม ก็ทำแต่งานที่ตัวเองรู้อย่างเดียวเก่งอย่างเดียวจะไปก้ลวสู่ตำแหน่งอื่นได้ไงแต่คุณไม่สู้งานเลย เห็นว่าไม่ตรงที่เราถนัดก็หนีตลอดเดี๋ยวเปลี่ยนอีก เจอเพื่อนร่วมงานแย่ก็หนีอีกแบบนี้เปิดบริษัทตัวเองเหอะ แล้วทำงานแต่ที่ตัวเองถนัดจะได้ไม่เสียเวลาบริษัทอื่นเขาสอนงาน สอน 2 อาทิตย์ไป สอนเดีอนนึงไปแล้วจะรู้ว่าเจอลูกน้องแบบตัวเองนี้จะเป็นยังไง
ควร ขายของ อยู่บ้าน ❤️จบ ค่ะ
@@francederin7528 พวกถนัดแต่ซ้ำเติมคนอื่น
เห็นด้วยกับพี่เติ้ลค่ะอยากให้มองว่ามันเป็น learning นะคะ ไม่มีใครได้เงินเพิ่มแล้วงานน้อยลง ความรับผิดชอบน้อยลงค่ะ ลองหาคอสสั้นๆเรียนสำหรับการเป็นเมเนเจอร์ การปรับตัวในตำแหน่งที่สูงขั้นไหมคะ เค้าจะมีแนวทางแล้วก็ช่วยปรับความคิด ปรับวิธีการทำงานได้ค่ะ เป็นการเปิดโลกใ้ห้ตัวเองก่อน สุดท้ายถ้าลองทำเต็มที่แล้ว มันยังไม่ได้จริงๆ ค่อยลาออกค่ะอยากให้ลองให้เต็มที่ก่อน โอกาสมันไม่ได้ได้มาง่ายๆอะ ลองให้เต็มมที่ก่อนนะคะ อย่าพึ่งปิดใจ
เรามองว่า บรรยากาศการทำงานที่เอื้อให้พนักงานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ คือ การให้กำลังใจ ชื่นชมในจุดแข็ง ตำหนิเพื่อก่อให้เกิดการพัฒนา จุดสำคัญอยู่ที่วิธีการสื่อสารของหัวหน้างาน และวัฒนธรรมองค์กรด้วย ไม่ผิดหรอกค่ะถ้าจะเดินออกมา ทำงานต้องมีความสุข กดดันมากเกินไป เสียสุขภาพจิตนะคะ
ส่วนตัวผมมองว่า การมี Passion เป็นสิ่งที่ดี เเต่ถ้ามีมันเเบบเกินตัว หรือ เร่งเวลาให้ได้มันมา ก็ต้องยอมเเลกกับสิ่งที่จะได้มันกลับมาเช่นกัน เเต่การที่คุณ อายุ 25 มีเงินเดือน 3++ มันก็ไม่น้อยเเล้ว สุดท้ายคุณต้องถามตัวเองว่า จะเลือกเงิน หรือ ความสบายใจ ทำเป้าหมายให้สำเร็จ หรือ ค่อยๆเป็นไป เเต่ถ้าเป็นผมเลือกอย่างหลัง ผมก็เคยเป็นเเบบคุณ ได้ 2 ปลายๆ เเต่พอย้ายงานมาสอบได้ ได้ สิบต้นๆ ผมก็รับต้องปรับปรุง เพราะผมเลือกความมั่นคง กินระยะยาว สู้ๆครับ
เป็นงงๆ สำหรับบริษัทสุดท้าย ทำไมเลือกคนไม่เหมาะกับตำแหน่งงาน ถ้าคิดในแง่ดีงานยากก็ทำให้เราโตเร็วดีนะคะ แต่ถ้าอะไรมีผลต่อสุขภาพจิตก็ออกเหอะค่ะ เพราะมันส่งผลต่อเราระยะยาว
ผมลาออก มาหลายบริษัทแล้ว ออกเพราะเราเครียดล่ะพูดตรงๆ เสียสุขภาพจิตป่าวๆ ถ้าเราสะสมเข้าไป พอระเบิดออกมารับรอง คุณจะเป็นโรคเครียดติดต่อแน่นอน การทำงานต้องค่อยไต่ไปตามลำดับ งานง่ายไปเราก็หาใหม่ งานยากไปผมก็ออก ค่อยๆพัฒนาสกิลไปครับ สู้ๆ
ให้กำลังใจคุณ เอสน่ะเราก็เป็นเหมือนคุณเอสเลย อายุเท่ากันอีก เราจะล่อไป 5 ที่แล้วใน 2-3 เดือน
อายุ 25 เหมือนกัน และเปลี่ยนงานบ่อยมาก มากกว่าคุณเอสด้วยซ้ำค่ะ อยากเป็นกำลังใจให้ค่ะ เลือกงานที่เหมาะกับเราดีกว่าค่ะ จะทำให้เราไม่ต้องรู้สึกเครียดจนเสี่ยงกับโรคซึมเศร้า หรือถ้าอยากทำงานเดิมต่อแนะนำให้คุยกับหัวหน้าโดยตรงเลยค่ะ แจ้งเขาไปตามตรงเลยว่าขอเวลาได้มั้ย และเรื่องที่เขาด่าเรา ให้เราดูว่าสามารถคุยกับเขาเรื่องนี้ได้มั้ย ถ้าไม่ได้แนะนำว่า ทำหูทวนลมไปค่ะ แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆคุยแล้วแต่เปลี่ยนไม่ได้ เปลี่ยนงาน ดีกว่าค่ะ หาที่เหมาะสมกับเราค่ะ
ถ้าลองคุยแล้วเจ้านายเลิกด่า หรือใช้คำพูดบั่นทอนจิตใจเราโดยไร้เหตุผล คุณเอสจะสามารถมีกำลังใจทำงานได้เต็มที่ขึ้นแน่นอนค่ะ เพราะหัวหน้าและเจ้านายบางคนจะใช้วิธีนี้เพื่อกระตุ้นให้ลูกน้องทำงานเก่งขึ้น แต่ก็ไม่ใช่จะได้ผลดีกับทุกคน สำหรับบางคนมันให้ผลร้ายจนกลายเป็นคนจิตตกไปเลยก็มีค่ะ เพราะงั้นพิจารณาดูค่ะ และถ้าชอบงานนี้ลองหาครอสเรียนงานตำแหน่งนี้เพิ่มเติมดูนะคะช่วยได้เยอะเลย
เราไม่จำเป็นต้องทนอยู่เพื่อไม่ให้ใครมองว่าไม่เป็นคนขี้แพ้ค่ะ ถ้าจะเลิกทำเพราะเสียสุขภาพจิตก็เลิก แต่ถ้าจะทน อย่ากดดันตัวเองค่ะ หัวหน้าเค้าให้งานหินมา ถ้าเราประเมินว่าทำไม่ได้ (แต่ต้องการอยู่ต่อ) บอกไปเลยว่าไม่ได้พร้อมอธิบายเหตุผลค่ะ ถ้าอยู่ต่อ เราจะได้ทักษะและความอดทนเพิ่ม แต่ถ้าอยากหางานที่ไม่เครียดขนาดนี้และทำได้ยาวๆ หางานใหม่ค่ะไม่ต้องสนใจคนอื่น ❤️
คุณไม่ใช่คนขี้แพ้เลยคะ คุณเป็นคนกล้าที่พร้อมจะเจอกับความเปลี่ยนแปลง พร้อมที่จะลุยงานไหม่และเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวคุณเอง สู้ๆคะ
ไม่ใช่คนขี้แพั หรอกจ้า พี่เองก็เป็นจ้า ในเมื่อ เราไม่ชอบงานที่เราทำ เราก็เปลี่ยน ตราบใดที่เรายังสู้ ไม่ขี้เกียจ ไม่อดตายหรอกจ้า คนขี้แพ้ คือคน ขี้เกียจ ไม่ทำอะไรเลย นั้นคือ คนขี้แพ้ ที่แท้ทรู.
เอาดีๆนางก็แอบเก่งนะที่ในระยะเวลาแค่ไม่กี่เดือนแต่เปลี่ยนงานหลายที่มากอะถ้าเทียบกับคนอื่นๆที่กำลังหางานใหม่ อย่างเช่นเรา555555 กว่าจะได้งานใหม่เราใช้เวลาเกือบปี😅
อาจจะได้ผ่าน recruiter ค่ะ
ลักษณะงานที่รับเยอะไม่ เลยได้งาน
นี่พึ่งได้งาน แต่ก้กดดันจัดเลย แต่ต้องทน เพราะเงิน
ไม่ดูขี้แพ้หรอกค่ะ แต่มุมมองขององค์กรใหม่ ก็อาจจะมองได้บวกและลบ ขึ้นอยู่ว่าเราขายตัวเองยังไงที่เปลี่ยนงานปล่อย แต่สิ่งหนึ่งที่อยากบอกในงานทำงานมันคือ 1. ความสามารถของเราที่มีอยุ่แล้ว + 2. การเรียนรู้และเสริมสร้าง skill ใหม่ๆค่ะ ถ้าคิดจะไปแค่ทำเท่าที่ตัวเองได้ แต่ไม่อยากพยายามเสริมสร้างสกิลใหม่ให้ตัวเอง จะเติบโตในหน้าที่การงานยังไงอ่าคะ
เมื่อก่อนแอบมีความคิดแบบนี้นะ แต่หลังจากมีเหตุการณ์โควิดอ่ะ หลายๆอย่างในชีวิตเราเปลี่ยนไปเยอะมาก จนเรามีความรู้สึกว่าอยากทำอะไรคือทำเลย อะไรแย่ๆคือเราจะไม่ทนถ้ามีตัวเลือกที่ดีกว่า ชีวิตจะตายวันตายพรุ่งยังไม่รู้เลย แค่ใช้ชีวิตให้รอดไปวันๆก็ทรมานมากพอแล้ว
เด็กมากอ่ะ ภาษาไม่ได้อยากได้มากกว่าสามหมื่นต้องเก่งด้านอื่นเช่นเซลขาย สองเป็นเมเนเจอร์อยู่เหนือตำแหน่งอื่นแต่ไม่เคยเป็นตำแหน่งที่เล็กกว่าไม่เข้าใจหัวอกลูกน้อง ไม่เข้าใจความเป็นผู้นำ หน้าที่ของผู้นำ มันถูกแล้วค่ะที่คุณต้องรับผิดชอบแทนลูกน้องเพราะเราต้องดูแลตรงนั้นไง และคุณก็ได้เงินมามากกว่าตำแหน่งอื่นไง สองคือคุณน้อยประสบการณ์ทนความกดดันไม่ได้ มีบ.ใหญ่อีกที่ที่รับเด็กใหม่เยอะๆเข้าไปเป็นเมเนเจอร์แต่รับไปค่อยๆคัดเอาคนไม่สามารถออก เป็นเรื่องปกติค่ะ
+1
เคยเจอโดนนายด่าตลอดเหมือนกัน วิธีช่วยคือด่านายคนนี้ให้เพื่อนฟังต่อ ถือว่าได้ระบายแล้วสบายใจขึ้น 😂 แต่มานั่งพิจารณาที่เค้าด่า มันก็มีส่วนถูก เราก็เอาคำติของนายมาปรับใช้ให้ตัวเองทำงานดีขึ้น แล้วปากคนอื่นจะพูดอะไรก็ได้ทั้งนั้น เราเป็นคนรับสาร เราก็เลือกรับแต่สิ่งที่จะนำมาปรับใช้ในชีวิตเราให้ดีขึ้นพอ
เรามองกลับกันนะ ถ้าผ่านไปได้เธอจะสกิลสูงและวันนึงเธอจะเก่งกว่าคนรุ่นเดียวกัน เงินก็จะสูงและไปไกลกว่าเดิม
เป็น เจอร์ มา2 เดือน ควรจัดทำข้อสังเกตุและข้อปรับปรุง และ จัดทำแผนงาน แล้ว รันแผน
รู้สึกว่าเอสยังค้นหาตัวเองไม่เจอ ตั้งเป้าหมายว่าต้องมีบ้านภายในอายุ xx แต่เหมือนไม่ได้ประเมินสภาพความจริงเท่าไหร่อีกอย่างที่สงสัยคือเรื่องภาษา เพราะที่ บ. มีน้องฝึกงานระดับเพิ่งจบ ม.6 จนถึงระดับมหาลัย ซึ่งทุกคนภาษาอังกฤษเก่งมาก พูดคล่อง อ่านแตก เลยแอบสงสัยว่าทำไมเด็กอายุ 25 แบบเอสถึงไม่ได้ภาษาจนต้องหนีขนาดนั้น (ทั้งๆ ที่จริงๆ ภาษามันฝึกกันได้ ใช้ทุกวันก็เก่งไปเอง)
ก่อนอื่นอยากขอบคุณสายนี่ที่มาShare an experience เอาจริงเราก็ไม่ค่อยคล้อยตามที่เหล่า Old generations ทั้งหลายแหล่ ตัดสินGenหลังๆ ว่าไม่อดทนเพียงแค่เปลี่ยนงาน เพราะจาก A working experience 8 ปี ของเราก็พบว่า บางที่ผู้ใหญ่ก็งี่เง่าในเรื่องงานกว่าเด็กมาก ยิ่งมาฟังสายคุณเอสชัดเลย เข้าใจคนเปลี่ยนงานยิ่งขึ้น อย่างที่แรกที่มัดมือชกให้คุณเอสทำตำแหน่ง A manager ทั้งที่ในใบสมัครก็ระบุชัดเจนว่าที่คุณเอสสมัครLevelไหน ซึ่งนั่นบ่งบอกแล้วว่าคุณเอส Ready ที่จะทำงานตำแหน่งที่เค้ามัดมือชกแค่ไหนกับอีกที่หนึ่งเค้าควรระบุว่าต้องการคนที่จบเอกEnglish แล้วก็มีคะแนนพวก Toeic อะไรนั่นด้วย ต้องการHigh level English skill จะเอาใครก็ได้ไม่ได้ ขนาดเราทำงานองค์กรที่Services พวกฝรั่ง ยังไม่อยากทำที่คุณเอสกล่าวถึงนั่นเลย
ไม่ได้ขี้แพ้หรอกจ้า แต่แค่ไม่มีความอดทนแค่นั้นเอง ปัญหามีอยู่ในทุกงาน เค้าถึงจ้างเรามาเพื่อแก้ปัญหา เรามีหน้าที่ทำงานนั้นให้ดีที่สุด แต่หากผลมันไม่สำเร็จทันเวลาก็จงน้อมรับคำตำหนิ และกล่าวอภัยเราทำเต็มที่แล้ว แค่นั้นแหละ จะไล่ออกจะตัดเงินเดือนหรืออะไรช่างมันเถอะ เพราะงานบางงานที่เราทำเต็มที่แล้วสำเร็จ มันจะรู้สึกสนุกและภาคภูมิใจที่เราผ่านปัญหานั้นมาได้ ก็แค่ลองอดทนและพยายามดู ทดสอบความสามารถ
เอาจริงนะ เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ เจอปัญหาก็หนี อยากใด้เงินแต่ไม่อยากลำบาก ใครเขาจะจ้างคุณไปนั่งกระดิกเท้าครับ ก่อนสมัครก่อยทำไม่คิดพอเข้าไปแล้วมีปัญหา มันอยุ่ที่ตัวมั้งนั้นไม่ว่าอยุ่ที่มหนก็ไม่ต่างกันครับถ้าเป็นแบบนี้ ดูที่ตัวเองก่อน เสียเวลาบริษัทด้วยมั้ยถ้าไม่จริงจังก็อย่าไปทำให้คนอื่นเสียหายสิ ขี้แพ้มั้ยไม่รู้แต่สร้างปัญหาและหนีไปเรื่อยนั่นคงจริงมีแพสชั่นกับเงินและทำทุกอย่างใด้ดีน่าขำอ่ะ อยากใด้เงินแต่ไม่อยากลำบาก ทำใด้ดีคงไม่ออกงานทุกเดือนหรอกครับ จะพูดสวยหรูอย่างไร โทษใครก็เอาที่สบายใจครับ ผลลัพธ์และข้อเท็จจริงก็ไม่เปลี่ยนอยุ่ดี ส่วนที่ผมไม่รู้มี แต่ที่ว่านี่คือจากส่วนที่รู้ไงความคิดส่วนตัวนะครับ
คิดแบบเลยผมครับ คนไม่สู้มักจะมีข้ออ้างเสมอ ทำไมผมถึงคิดแบบนี้เพราะแฟนผมก็เป็นอยู่
@@catpy0077 ความคิดส่วนตัว ก็บอกอยู่ชัดเจน มันเรื่องของผมป่ะใครตัดสินแทนใรคุณเหรอ อย่ามายัดเยียด ผมต้องคิดเหมือนคุณเหรอมีสิทธิ์อะไรมาบังคับคนอื่นมิทราบครับ ผมไม่รู้ผมก็ไม่วิพากษ์ส่วนที่วิพากษ์คือส่วน ที่รู้ไง อคกอย่างมันก็แค่ความคิดของคนนอก/ม่ใด้บอกว่าถูกสักหน่อย แล้วคุณมาตัดสินมั่วๆอะไรของคุณ อีกอย่างผลมันก็เห็นกันอยุ่จะเพราะอะไรมันแก้อดีตใด้หรือผลจะเปลี่ยนเหรอไม่ใด้ว่านะแต่ที่โพสกลัวมีพวกควายมาแสดงความโง่เหมือนกัน ควายนะหน้าแหกเปล่าไอ้พวกอ่านหนังสือไม่ออก มาออกความเห็นแบบโง่ๆ ไม่ใด้ดักนะควายมาติดเอง เขียนชัดเจนว่าความคิดส่วนตัว แต่คงไม่ใช่คุณหรอกนะ เป็นคนน่าจะอ่านหนังสือออกและเข้าใจว่าความคิดส่วนตัวคือเรื่องส่วนตัวของกรูไม่ใด้บังครับใครเนาะ เป็นคนคงเข้าใจ
@@nuwatjuthaii916 ปัญกาที่เกิดขึ้นถ้ามองตัวเองยอมรับและพยายามแก้ไขด้วยตัวเองหรือคนรอบข้างก็อาจจะบรรเทาลงใด้ครับ เรื่องแรกที่ยากสุดต้องมองสิ่งที่เกิดและยอมรับในความผิดพลาดให้ใด้ก่อนความคิดผมนะ
@@catpy0077 โอ้โห ความอดทน 1 เดือน ช่างยากเย็นทรมานเหลือเกิน 👏👏👏 อยากรู้เลยว่าแล้วระยะเวลาเท่าไหร่เรียกว่าไม่อดทน? 1 วันเลยมั้ย
@@catpy0077 คุณรู้้หรอไม่รู้ก็อย่าเดามั่วตัดสินชาวบ้านดิผมและคนอื่นพูดจากสิ่งที่รู้ไง ไอ้สิ่งที่ว่าไม่รู้ผมก็ไม่ใด้เดามั่ว แล้วก็นะคนอื่นเขาจะคิดต่างก็เรื่องของเขาป่ะคุณเป็นศูนย์กลางจักรวาล ความเห็นคุณถูกเสมอเหรอ เอาแะไรมาตัดสินมิทราบครับ เรื่องไร้สาระทึ่ไม่เกี่ยวกับชีวิตเราเลยจะเป็นไงผมต้องสนเหรอครับ แปลกนะที่คุณหมกมุ่นมันไปจี้ใจดำเหรออันนี้ผมก็ไม่รู้ แต่อย่ามาเผด็จการบังคับให้คนอื่นคิดปบบคุณและเดาในสิ่งที่ไม่รู้มั่วๆสิครับ น้องเขาเป็นมนุษย์ต่างดาวแปลงร่างมาศึกษาวัฒนธรรมบนฌลกด้วยป่ะ ไร้สาระว่ะ อย่ามั่ว คนเขาพูดเรื่องทึ่เขารู้ในรายการมันบอกอยุ่อย่าไปเดามั่วและบังคับคนอื่นให้คิดตามครับ อีกอย่างมันจะเป็นหรือไม่เป็นแบบที่ผมหรือคุณคิดแล้วไง ไม่ใด้สำคัณครับ เพราะไม่ใช่เรื่องของผม หรือคุณ อินไปป่ะ
เรามองว่า การมีชีวิตอยู่คือการเรียนรู้ ไปพร้อมกับการเอาตัวรอดในสังคมบนสถานที่ๆเต็มไปด้วยธรรมชาติและวิวัฒนการ การที่เราเลือกสิ่งต่างๆให้กับตัวเอง ไม่ว่าจะถูกหรือผิดพลาด มันก็เป็นประสบการณ์ให้เราได้สัมผัสและเรียนรู้ไป อย่าคิดมากค่ะ ทุกช่วงเวลาชีวิตเรามักจะมีเป้าหมายที่แตกต่างและเปลี่ยนแปลงไป อยู่ที่ชีวิตของเราต้องการอะไรในช่วงเวลานั้นๆ ถ้าเอาชีวิตไปผูกกับสังคม ความต้องการของสังคม กฏเกณฑ์ความสำเร็จของสังคม มากเกินไป ชีวิตก็มักจะเกิดความทุกข์ได้ง่าย , ถ้าเราไม่เอาไปผูก เรียนรู้ในสิ่งที่อยากเรียน มีความสุขกับการเรียนรู้ เลือกงานที่เหมาะ เราก็อาจจะมีความสุขจากสิ่งเล็กๆสิ่งที่ทำได้ง่ายขึ้น
ไม่ได้ขี้แพ้ค่ะ แค่เงื่อนไขในชีวิตเยอะ แค่นั้นแหละ และงานและละที่ไม่ได้เป็นอย่างที่ใจคุณเอสต้องการ
สำหรับเรื่องงาน ผมคิดว่าไม่เหมาะที่จะใช้คำว่าขี้แพ้นะครับ แย่เต็มที่เลยก็น่าจะแค่อาการเหลอะแหละในหน้าที่การงาน ซึ่ง ผมว่าคุณเอสไม่ได้เข้าข่ายเลย แถมอยู่ฝั่งตรงข้ามกับคนเหลอะแหละด้วยซ้ำ ผมชื่นชมในทัศนคติหลายๆด้านและความมุ่งมั่นของคุณเอสนะ ส่วนคำแนะนำ ก็ตามดีเจทั้ง 3 คนเลยจ้า
ออกได้ครับ เปลี่ยนงานบ่อยแค่ไหนก็ได้ไม่แปลกแต่แค่รู้สึกว่าคุณไม่ได้แพลนอะไรกับชีวิตมากนักสังเกตอะไรมั้ย คุณยังไม่ได้ accomplished อะไรสักอย่างเลยในสามที่นี้ 1. ต้องย้ายออฟฟิตไปไกล อันนี้เข้าใจได้ แต่เรียนรู้ได้ง่ายๆเลย โดยถามบริษัทตอนสัมภาษณ์ ว่ามีออฟฟิตที่ไหนบ้างต้องเดินทางหรือไม่2. ภาษาอังกฤษ - ฝึกได้แน่นอน ถึงจะไม่ใช่เรื่องงาน ในยุคนี่วัยทำงาน คุณควรพูดภาษาอังกฤษ ได้แล้ว3. สภาพแวดล้อมในการทำงาน - คนด่าคุณกี่คน เป็นหัวหน้าคุณหรือไม่ จะบอกว่าเป็นเรื่องธรรมดาอาจจะฟังดูแปลก การโดนหัวหน้าด่าเพราะลูกน้องคุณทำผิดนี่เรื่องปกติ เพราะคุณแก้ปัญหาไม่ได้ไง การมีคุณเป็น ผจก ก็เพื่อสกรีนงานก่อนส่งอีกทีถูกมั้ย ถ้าลูกน้องคุณทำผิด คุณตำหนิมั้ย หรือว่าปล่อยผ่าน?ถ้าไปเจอที่ต่อไปซึ่งคุณก็ไม่รู้ว่าจะเจอสังคมแบบไหน ถ้าเจอคนด่าอีก? ออก? ถ้าพูดภาษาไม่ได้? ออก? หรือเปลี่ยนไปเรื่อยๆจนซื้อบ้านนั่นแหล่ะพอซื้อแล้วก็ภาวนาอย่าให้เค้าไล่ออกก็พอ
ประโยคสุดท้ายที่คุณว่ามาผมไม่เห็นว่ามันจะคล้องจองแล้วเกี่ยวความหมายที่น้องเขาเปลี่ยนงานเลย
1. ไม่ขี้แพ้ หรือ ถ้าจะขี้แพ้ หรืออะไรก็แล้วแต่ ไม่ต้องแคร์ครับ2. ทำที่เดิมต่อ งานเพิ่งเริ่ม คิดในแง่ของการทำงานเป็นแบบสะสมณ ตอนนี้ คิดว่าปัญหาสามารถแก้ได้ 6 เดือน แต่ลองคิดดูว่า ทำๆไปจะเก็บ ประสบการณ์เรื่อยๆ แล้วเราจะมีศักยภาพในการแก้เพิ่มขึ้น เป็นการพิสูจน์ตัวเองด้วยว่า เราอยู่ในระดับนี้ได้ หลังจากทำมันได้สำเร็จ เราจะเปลี่ยน ตัวเลือกเราก็จะมีมากขึ้นกว่านี้ เค้าด่าก็มองว่าเค้าผลักดันเรา ข้อเสียจุดเดียวคือการด่า จำไว้ว่า เค้าไม่ได้ด่าได้ตลอดชีวิต แต่ ประสบการณ์ที่ได้จะได้ใช้ตลอดชีวิตพูดถึงในแง่จิตวิทยา ถ้าให้เดา เหมือนรู้สึกว่า อาจโดนด่าแบบกดมากๆ จนเสียความมั่นใจ ให้จำไว้ครับ มันไม่ใช่ทุกอย่าง ถ้าเราทำเต็มที่แล้ว ก็มั่นใจครับ ถ้าสุขภาพจิตเสียมาก ลองหาจิตแพทย์ครับ ไม่จำเป็นต้องเป็นโรคซึมเศร้าก็ไปหาได้ครับ
เก่งมากแล้วค่ะ อายุแค่นี้เองขนาดเปลี่ยนงานบ่อยแทบเดือนต่อเดือนแต่เรียกเงินได้ตั้งสามหมื่นห้า เปลี่ยนไปหาที่โอเคกับเราเลยค่ะ ปล.หางานใหม่ได้ง่ายมากเลยค่ะขอทริกทีเราก็อยากย้ายแต่ด้วยสถานใดๆเลยต้องอดทนไว้และงานก็หายากมากกกก;-;
ตำแหน่งนี้ โดนด่า และโดยกดดันเยอะเป็นปกตค่ะ ต้องรู้จักปรับ และต้องแก้ไขงานอย่างรวดเร็วค่ะ
ชอบคำว่าไม่มีอ่ะไรชอบเป็นพิเศษ เพราะทำได้ทุกอย่าง นี้ละดี ออกงานเป็นนายตัวเองเลยครับยิ่งคิดว่ามำทุกอย่างได้ดียิ่งต้องลุยงานเองเดินหน้าเอง
แล้วก็เรื่องอายุกับบ้าน ถ้าเลตเวลาไป5ปีแล้วเก็บเงินสร้างเองไม่สบายใจกว่าหรอ? ทำไมต้องโฟกัสกับค่านิยมอ่ะไรแปลกๆของคนที่สร้างขึ้นมาด้วยละ ไปด้วยแรงของเราขาของเรา จะไวจะช้า มันก็อยู่ที่เราเองอ่ะบางคนมีบ้านก็โน้นเกือบ40 เริ่มได้ใช้ชีวิตของตัวเองจริงๆ40กว่าๆโน้นแต่สิ่งที่เขาทำได้ตลอดคือการไม่เป็นหนี้ แต่ใดๆก็แล้วแต่ เอาสุขภาพร่างกายสุขภาพจิตเรามาก่อน เพราะ2อย่างนี้จะอยู่กับเราไปจนตาย
ไอนู่นก็ไม่ได้ ไอนี่ก็ไม่เอา น่าจะเป็นนายตัวเองได้เพราะเลือกได้ แต่น่าจะทำให้บ.โตยากเพราะมัวแต่เลือกค่ะ 😅😅
ให้เป็นนายตัวเองยิ่งยากครับ องค์กรยังมีหลายแผนกซับพอต เป็นนายตัวเองรับปัญหาตั้งแต่1-10
@@st-Miin ผมเดินหน้าทำงานตั้งแต่มีสาขาแรกไปยัน7 8 สาขาพอโควิดมาก็เหลือ 5สาขา พออยู่รอด ผมชอบคำว่าทำได้หมดจริงๆนะ ้พราะผมเป็นเจ้าของร้านห ผมก็ต้องทำหมดบางครั้งล้างจานทำความสะอาดร้านผมก็ทำลายละเอียดยิบย่อยมีเป็นร้อยๆอย่าง ปัญหาที่เจอแต่ละวันมันก็ต่างออกไปผมมองว่ามันสนุกแบะท้าทายดี ผมเลยเสนอมุมมองของคนที่ทำเองเนี่ยละครับ ปล.ผมทำก๋วยเตี๋ยวเรือครับ บางสาขามีดลตรีสด มีอาหารตามสั่ง บางสาขาเน้นเร็วให้นักเรียนนักศึกษาได้ทานกันไวๆ บางสาขาก็เปิดช่วงค่ำเพื่อรับคนเลิกงานอ่ะไรทำนองนี้สำหรับผมมันดูสนุกดูท้าทายดีครับ
พี่มองว่าถ้าน้องไม่สบายใจก็ออกค่ะ ทำไมคนสัมภาษณ์รู้ว่าน้องไม่มีประสบการณ์ยังจะรับไปอีก พี่ว่าผิดที่คนรับนะ ที่เลือกคนไม่ถูกงาน น้องรับผิดชอบงานเกินประสบการณ์และอายุ มันไม่สมส่วนกัน น้องต้องไม่สบายใจอยู่แล้ว หาที่ๆใช่ค่ะ พี่ก็เปลี่ยนงานบ่อยโดนคนรอบข้างด่าทอ ดูถูกมากด้วย ไม่ต้องไปสนใจค่ะ เพราะเขาก็ไม่ได้ช่วยอะไรเราอยู่แล้ว 😂 น่าจะปรึกษาคนใกล้ตัวด้วยนะว่าน้องควรสมัครงานแนวไหน ถ้าสมัครสะเปะสะปะ ทำไปแล้วไปเจออะไรที่เราไม่โอเคทีหลังแบบนี้จะเป็นแผลใจไปเปล่าๆ
เงินเดือนสูงเกินสกิล กล้ารับแต่ไม่กล้าจ่ายผลงาน มีงานโยนมากก็กลัวเลยออก ใช้คำว่าด่ากับคำพูดแนะนำของหัวหน้า ดูแล้วปัญหาอยู่ที่ mind set คุณมากกว่าแนะนำอ่านหนังสือพัฒนาตัวเองเยอะๆแล้วจะเห็นว่าวิกฤตสร้างโอกาสและความสามารถคนมาเยอะแล้ว อย่างงานภาษาที่คุณบ่นๆเราก็เคยเจอมาแล้ว ตั้งแต่ทำไม่ได้ก็ต้องขวนขวายเขียนเพื่อติดต่อกับคู่ค้าให้ได้จนตอนนี้เขียนได้คล่อง บางคนจบต่างประเทศก็ยังเขียนพูดไม่คล่องแต่เจอหัวหน้ากดดันจนร้องไห้อยู่บ่อยๆตอนนี้ก็ได้ดิบได้ดีสกิลภาษาขั้นโปรเงินเดือนระดับแสน เรื่องที่กลัวจะต้องปะทะจนหนีเราเข้าใจเพราะเคยเป็นแต่ลองได้ถอยครั้งนึงก็จะติดนิสัยถอยไปตลอดชีวิตจนกว่าใจจะกล้าสู้ในวันนึง หัวหน้าคุณน่ะพูดถูกแล้ว เพราะคุณคิดว่าทำไม่ได้มันเลยไม่ได้ทั้งๆที่ตัวคุณพูดเองกับปากว่าไม่ได้ชอบแต่ทำอะไรก็ได้ แทนที่จะมองแค่จะอัพเงินให้ได้ไวแบบที่พวกออนไลน์ชอบสอนแต่ไม่บอกว่าควรสร้างรากฐานไว้ยืนให้มั่นก็ลองหันมาสู้มันซักตั้งสิแล้วจะได้ฐานแน่นๆไว้ต่อยอดชีวิต หรือจะหนีไปเรื่อยๆก็ได้นะ
เรียนจบ 3 ปีเปลี่ยนงาน 3 ครั้ง ตอนแรกก็ถามตัวเองนะว่าเราไม่อดทนรึเปล่า ถ้าเราสู้อีกนิดมันจะไปได้ไกลแค่ไหน พอได้มาอยู่ที่ปัจจุบัน คือที่ที่ 4 เราแฮปปี้มาก เลิกสงสัยเลย ก่อนหน้านี้เราแค่ยังไม่เจอสิ่งที่ใช่ ดีใจที่ไม่ทนทำ ไม่งั้นเราคงไม่ได้มีชีวิตดีๆแบบนี้ บางทีนะคะ ถ้าไม่ชอบเลย ไม่มีความสุขที่จะตื่นไปทำงาน ออกเลยก็ได้ หรือเราเป็นคนโชคดีที่เจอที่ๆเหมาะกับเรา ซึ่งบางคนอาจจะไม่ได้เจอ
อ่านแล้วรู้สึกดีใจด้วยมาก ๆ ค่ะ ที่เจอที่ที่ใช่สำหรับตัวเอง👍🏻
อ่านแล้วดีใจด้วยค่ะ ทางนี้ต้องทนเพราะ หนีเสือปะจะเข้ และไม่มีเงินหางานยาก ไม่ไหวจริงไปจะออก หลับไม่ลง ไม่อยากตื่นไปทำงานเลย
เมเนเจอร์เป็นตอนอายุเท่านี้ ถ้าเราอดทนเราจะเป็นเมเนเจอร์ที่อายุน้อยแต่เยอะประสบการณ์นะ อนาคตไกลกว่า เงินเดือนเยอะแต่อายุน้อย อนาคตเราจะทำง่าย อันนี้มองในอีกมุมหนึ่งนะ คนอื่นเป็นตอนอายุ 30 ส่วนคุณเอส เป็นตอนอายุ 25 ได้เปรียบ
คือ ถ้าเหล่า Old generations แฟร์เหมือนฝรั่ง ก็น่าเสี่ยงอยู่ แน่นิสัย พวก Old generationsที่นี่พอMistake ก็Blame แต่พนักงาน คือพวก Old generations ไม่เคยโทษว่ามันเริ่มมาจากตัวเอง คนแก่ที่นี่หลายคนยังเอาวัยมาตัดสินอยู่เลย
เด็ก เด็กมาก ตำแหน่งที่สูงความรับผิดชอบมันต้องสูงด้วย ไม่มีงานที่ชอบ ไม่มีความถนัดที่แน่นอน ไม่อดทนต่อแรงกดดัน ผิดที่บริษัทด้วยนะส่วนนึงที่มอบหมายงานและตำแหน่งที่ไม่เหมาะสมให้
แอบเริ่ดนะ แบบที่พี่เติ้ลบอก ก็แปลว่าศักยภาพเราต้องถึงนะ เค้าถึงเอามาเป็น manager เลย
อาจจะเหมาะกับการทำงานส่วนตัว เป็นนายตัวเองมากกว่า. ในมุมคนทำงานอาจจะไม่ผิดที่อยากเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเอง ใดๆคือไม่มีที่ทำงานไหนเฟอร์เฟคทำงานราบรื่นทุกอย่าง. ถ้ามุม HR คือไม่ได้ขี้แพ้ แต่แค่ไม่มีความอดทน หากมาทำแล้วเจอปัญหาอีกจะออกอีกไหม. ย้ายๆบ่อยๆไม่ผิด แต่จะกลายเป็นคนที่เจอปัญหาแล้วหนี ไม่กล้าเผชิญกับปัญหาได้.
คุณเอสคะเราเรียนจบ2ปี เปลี่ยนงานไป15งานแล้วค่ะ งานที่เราทำอยู่นี้งานที่15แล้วว อายุแค่นี้ยังมีทางเลือกอีกเยอะค่ะ
ที่2เนี่ยเสียดายแทนที่ไม่สู้ ส่วนที่3ถ้าออกคือเหมือนเดินลงบันไดในขณะที่จังหวะขึ้นมันมา บริษัทก็เรื่องมากไป เอาจริงแก้ไม่จบใน4เดือน แล้วเธอดูมั่นใจว่าทำได้ใน6เดือน ก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ มันมีขยะเน่าในแผนกตกค้างเยอะ บ.ก็ต้องรู้แหละ เป็นกำลังใจ
การเปลี่ยนงานบ่อยสำหรับเราไม่ได้มองว่าขี้แพ้ แต่บริษัทต่อไปเปอร์เซ็นมองเราด้านลบจะมีสูงกว่า จากประสบการณ์ที่ผ่านมา แต่ยังไงก็ขอให้คุณได้งานที่เหมาะสมกับตัวเองเร็วๆนะคะ😄
ใช่ ๆ เหมือนจะสงสัยว่าทำไมเปลี่ยนงานบ่อย มองแล้วก็เหมือนมีความเสี่ยง ถ้ารับเข้ามาอาจลาออกเร็ว
ผมเป็นอีกคนที่โดนให้มารับตำแหน่งเมเนเจอร์โดยที่ทำงานได้ไม่ถึงเดือน แถมไม่เคยมีประสบการณ์ด้านนี้เลย และผมก็คุยกับทางบริษัทตามตรงและทางบริษัทก็ยังให้เราทำ ผมก็ทำนะคับ ทำเท่าที่ทำได้ อันไหนไม่รู้ก็บอกไม่รู้ ผิดพลาดก็บอกตามตรงว่าไม่เคยมีประสบการณ์ แต่เขาก็เข้าใจนะคับ สำหรับผมนะคับโอกาสมาก็ต้องคว้าไว้ ต้องลองทำถึงจะรู้ว่าได้หรือไม่ได้ ชอบหรือไม่ชอบ ถ้าทำได้และชอบมันก็เป็นโอกาสที่ดีที่เราจะสามารถต่อยอดจากตรงนี้ได้คับ แต่ถ้าไม่ชอบเราก็ลาออกไปหางานที่เราชอบ แค่นั้นเองคับ!!!!! ต้องถามตัวเองก่อนว่าชอบหรือไม่ชอบ ถ้าไม่ชอบทนทำเอาประสบการณ์ไปก็ไม่มีความหมาย เพราะยังไงเราก็ไม่ชอบสายงานนี้อยู่แล้ว!!!!!
ไม่ผ่านโปรสักที่ ไม่แปลกที่ ในการสมัครงานใหม่ hr จะมองไม่ดี แล้วตีตก
เปลี่ยนงานเพื่อ career path = ผู้ชนะเปลี่ยนงานหนีเจ้านาย เพื่อนร่วมงาน = ผู้แพ้
ไม่ได้มองว่าขี้แพ้เลย มองว่าเป็นคนกล้าหาญ กล้าที่จะออกมาหาสิ่งที่ดีกว่า ✌️
คนด่ายังไงก็ด่า เราเคยได้ยิน ผอ.ด่าน้องอีกคน เรายืนเอ่อไปเลย ดีนะที่ไม่ได้ด่าเรา และด่าต่อหน้าคนเยอะมากกกก
บริษัทไหนคะ ออกแล้วบอกด้วยจะไปทำแทน พอดีอยากเป็นเมเนแต่ไม่มีโอกาส รับรองไม่บ่นงานหนักงานยาก
ภาษาอังกฤษ ยุคนี้ควรเสริมไว้ก็ดีนะคะ เราได้ภาษาจากการทำงานประจำ พอลาออกมาขายของ มันก็ช่วยเราได้อีกเยอะ ขายของให้FCดาราที่เป็นชาวต่างชาติได้ง่ายมากเลย
แล้วแต่นะ ถ้ามองเรื่องเงินเดือนก็ทำต่อไปแต่ถ้ามองว่าจะเป็นการพัฒนาตัวเองก็เป็นประสบการณ์ชีวิต แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน
คนเปรี่ยนงานบ่อยมี2ประเภท 1.ทำงานเบื่อ ความรู้ตัน เบื่องาน อยากลองงานใหม่2.อีโก้สูง ส่วนในคลิปคืออัน 2
25 เป็น manager เคยทำงานมาแล้ว ที่ละ2ปี 2ที่ เริ่มงาน 21 จบอะไรครับเนี่ยไวมาก ชื่นชมๆ
เวลาทำงาน มองที่เงิน 1ประสบการณ์ทำงาน 2ประสบการณ์ทำงาน และการแก้ปัญหา การรู้ทุกเรื่องรอบตัว จะพาคุณไปหาข้อ1เมื่อคุณรู้แก้ปัญหาได้ เงินจะมาหาเราเอง
การเปลี่ยนงานบ่อยไม่ใช่พวกขี้แพ้ ใครๆก็ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุด เพราะถ้าสู้ถึงที่สุดก็ต้องตัดสินใจคนขี้แพ้คือเมื่อพบปัญหาแล้วโทษคนอื่นแต่ไม่คิดที่จะดูว่าเราจะทำอะไรได้บ้างที่จะทำให้ดีขึ้นต่างหาก
ผมเปลี่ยนงานบอยมาก จนเจ้าหน้าที่ขึ้นทะเบียนคนว่างงานจำหน้าได้ที่สำคัญ บริษัทไหนดี ก็เอามาเป็นประวัติบริษัทไหนไม่ดี ไม่น่าจดจำ ทำไม่กี่วัน หรือแค่2-3เดือน ก็ไม่ต้องใส่ให้เสียประวัติช่วงที่กายไปก็บอกว่าช่วยงานทางบ้านอาจจะขายของหรือศึกษาหารวามรู้เพิ่มเติมก็ได้
ผมนี่เปลี่ยนงานมาเกือบ20ที่ได้แล้วมั้งตั้งแต่ปี54หลังน้ำท่วมมา ไปมาหลายเจออะไรมามากมาย..
ใดๆคือ หางานเก่งมาก และต้องเป็นคนเก่งด้วยถึงจะได้งานไวขนาดนี้ คุณเก่งแค่อยู่ในที่ที่ไม่เหมาะกับคุณค่ะ ขอให้หาเจอไวๆน้า
อาจจะได้เพราะผ่าน recruiter ค่ะ
ไม่ถึงขนาดขี้แพ้หรอกครับ ลองคิดดู ถ้าทำเดือนละงาน จนอายุหกสิบ เราจะมีประสบการณ์การทำงานเยอะ(จำนวน)มากนะครับ 😁😁😁
😂😂😂😂
😁😁
ไม่ถึง เดือน ก็ออกแล้วค่ะ
@@francederin7528 แล้วคุณไปเสือกอะไรเรื่องของเขาครับแล้วเรื่องของเขาไปทำอะไรให้คุณเดือดถนัดจริงๆเรื่องซ้ำเติมคนอื่น
ออกเถอะ ไม่ต้องทำหรอก ที่ฟังมาที่ทำงานไม่ดีเลย เท่าที่ฟัง มาติเราด่าเราได้ไง ที่ทำงานมีเยอะแยะ ไม่ต้องง้อ หาที่ที่ถูกใจแบบเต็มใจเท่าที่คุณต้องการ เลย เอสเอาเอสเป็นที่ตั้งเลย สบายใจเอสแน่นอน ที่ทำงานไม่ดี หัวหน้าก็ไม่ดี มาสร้างความเครียดเน้อะสงสารพี่หัวหน้าคนนั้นเลย บางครั้งเราถึงไม่อยากสอนงานใคร เขาน่าจะดันเธอ แต่เธอมองผิด
สมัยผมอายุ 25 เงินเดือนยังไม่ถึง 20,000 เลย ตอนนั้นปี 64 ครับอย่ากดดันตัวเองดีที่สุดครับ ไม่จำเป็นเลยที่ว่าอายุเท่านี้ต้องมีนั่นมีนี่ ถ้าคุณทำเป้าหมายที่วางไว้สำเร็จจริงแต่ต้องแลกมาด้วยสุขภาพจิตที่แย่ แบบนี้มันจะโอเคเหรอ ก็ไม่
ตำแหน่งผู้จัดการนี่น่าจะบริษัทขายประกันรึเปล่า เค้าจะเรียกว่าผู้จัดการแต่คือคนขายประกันนั่นแหละ แล้วต้องหาคนมาเพิ่มในทีมอีก บริษัทแย่มาก หาคนด้วยการตั้งระดับตำแหน่งสูง ถ้าระดับผู้จัดการบริษัททั่วไปไม่ให้ขึ้นตำแหน่งง่ายๆหรอกค่ะ อายุก็น้อย ประสบการณ์ทำงานยิ่งน้อยไปอีก สายงานที่ทำมาก็ไม่เกี่ยวกับการทำงานที่ทำอยู่ บริษัทขายประกันแน่ๆ
น่าจะเซลล์ขายอะไรซักอย่าง
ที่อื่นที่ให้ได้ เยอะ แต่ ประสบการ์ณ0 เงินที่เยอะขึ้น งานที่ยากขึ้น
ไม่ใช่ขี้แพ้ แค่เป็นคนที่ไม่มีคุณสัมบัติที่แมทกับโอกาส ถ้ายังคิดแบบนี้ โอกาสมันไม่เคยมาตอนที่พร้อม แต่ถ้าคุณปล่อยผ่านไม่รู้อีกนานแค่ไหนโอกาสจะกลับมา
ฉันผู้พบปัญหาในการทำงานมาตลอดที่ 1 ต่อสัญญาเดือน/เดือน ต้องมานั่งลุ้นทุกเดือนว่าจะได้ต่อสัญญาไหม ในขณะที่ทำงานมีพนักงานลาออก 10 คน ในระยะเวลา 6 เดือนที่ 2 ขายฝันสุดๆ พอทำๆตัวงานไปได้ 70% อยู่ดีๆก็หยุด เปลี่ยนชิ้นงานใหม่ เจ้าของบริษัทโดนโกง สรุป ล้มไม่เป็นท่าที่ 3 ทำงานไปแล้ว แต่งานเสีย แต่ในส่วนงานที่เสีย มันไม่ใช่ส่วนของเรา ส่วนของเราๆทำเต็มที่ สรุปเขาไม่จ่ายเงิน เราก็เลยไม่ไปทำที่ 4 เลิกเกินเวลางานทุกวัน แต่ไม่มี OT แต่ทำงานพลาดปรับครั้งละ 1000 ในบริบัทคุกคามความเป็นส่วนตัวมาก บันทักเสียงพนักงานตลอดปัจจุบัน ไม่ทำงานบริษัทค่ะ ขายของ เป็นนายตัวเอง แฮปปี้
ไม่ใช่คนที่ขี้แพ้หรอก หรือจะเป็นแบบเราทนมา 7 ปี ปรับทุกอย่างแต่เพื่อนร่วมงานแย่มาก ผู้บริหารก็ตาบอด ใจบอด เราว่าปีนี้เราออกแล้วพอล่ะ เปลี่ยนงานเปลี่ยนที่ดีกว่า ก่อนเราจะสุขภาพจิตเสียกว่านี้ (อย่าบอกว่าไปที่ไหนๆก็เจอเพื่อนร่วมงานแบบนี้ เราว่าไม่จริง แต่ถ้ายังอยู่ที่เดิมเราได้ฆ่าตัวตายแน่)
แม่คู้นนน สู้ซักตั้งเถอะ ห่วงแต่เงินแล้วเมื่อไหร่จะได้ประสบการณ์
ไม่ใช่ขี้แพ้ เรียกว่าเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ ทำไมไม่คุยเรื่องงานให้ดีๆ ดูบริษัทให้ดีๆ ก่อนตอบรับงาน เค้าเห็น potential แต่ตัวเองน่าจะรักเงินเยอะงานสบาย...
ออกครับ อย่าไปทน ไม่มั่นคงอย่ากู้บ้านเด็ดขาด
อายุเท่ากันแต่เงินเดือนเยอะมากเลยนะตั้ง 35,000 นี่ก็เป็นเมเนเจอร์ แต่ไม่ผ่านโปรแล้วโดนต่อโปรไปอีก 3 เดือนเหตุผลที่ไม่ให้ผ่านก็ไม่โปร่งใสอะ เราได้แค่ 17,000 เอง งานก็เครียด กลุ้มเลยจะหางานใหม่แต่ไม่รู้จะทำอะไรเพราะทำได้หมด
ตอบแบบไม่โลกสวย ไม่รู้หรอกนะว่าขี้แพ้มั้ย แต่เข้าของกิจการเขาก็ไม่อยากรับคนที่เปลี่ยนงานบ่อยๆ เขาไม่อยากต้องมาเทรนงานคนใหม่ ใครก็อยากได้คนทำงานยาวๆทั้งนั้น
อายุ25 เปลี่ยนงานมาเกือบ10ค่ะ😂
บุคลิกแบบหมาป่าเดียวดาย lonewolfเหมาะกับทำงานส่วนตัวไม่เหมาะกับทำงานบริษัท พี่ ๆ เขาตอบแบบนางงามแหละแต่จริง ๆ เขาไม่ได้คิดอย่างที่ตอบเพราะฐานช่องเขาคือเด็กจบใหม่เด็กจบใหม่ ก็จะเป็นแบบนี้ เขาไม่พูดตรง ๆบางที คอมเมนต์ จะตรงไปตรงมากว่า
เยอะมากค่ะ ทางนี้ 34 ยัง 25 อยู่เลย
อยากได้เงินเยอะ แต่ความสามารถไม่ถึง
ควรมีธุรกิจเป็นของตัวเอง
เมื่อเขาให้ค่าตอบแทนสูงความคาดหวังจะสูง
น้องอาจจะไม่เหมาะกับการเป็นลูกจ้าง ละมั้ง
เรามีสิทเลือกนะคะะ แง้
คุณจจะรู้ได้ไงว่าที่อื่น เวลาทำจริงจะไม่กดดันเหมือนบริษัทนี้?อันนี้ถามก่อนตัดสินใจ ตัดสินใจแบบไหนก็ได้ครับ ส่วนขี้แพ้ไหมเราว่าไม่ขี้เเพ้นะ สู้ๆครับ
เท่าที่ฟังมาคืนคุณหนีปัญหา ไม่แก้ไข ไม่เรียนรู้
ทำไมเราดูไม่ได้คะ
ไม่สามารถที่จะตัดสินได้เลยค่ะ มีแค่เราที่จะเข้าใจสถานการณ์ ณ จุดนั้นค่ะ
เราเป็นคนนึงที่เลือกงาน เปลี่ยนงานบ่อย เพราะไม่ใช่สิ่งที่เราชอบ ล่าสุดออกมาช่วยงานแม่ที่บ้านค่ะ สบายใจสุด 555
ปี65 ผมเปลี่ยนงานมา4ที่แล้วนะครับไม่ถึง6เดือน คืออยูแล้วมันลำบากใจอึดอัดมากๆๆๆทำอะไรไม่ได้ซ่อมเครื่องจักรมันก็ต้องใช้เงิน แต่ถ้าไม่จ่าย เครื่องจักรก็รันไม่ได้..แล้วจะอยู่ทำไม...ไปทำงานที่อื่นดีกว่า
ถ้าพอใจเงินที่ได้รับ...ก็ทำไป
ตลก อยู่ระดับ เมเน ย้ายงานทุกเดือน เจอปัญหางานยากๆ ก็หนีอย่างเดียว ไม่เคยจะทำสักที ถ้างานมันง่าย เอาใครมาทำก็ได้ปะ
เราก็เปลี่ยนบ่อยนะ เพราะเพื่อนร่วมงาน เรารักงานนี้มากแต่เพื่อนร่วมงานคือนิสัยไม่โอเคเลยจนเราอึดอัด สุดท้ายก็ออกเพราะประสาทจะแดกก่อน😂
หยุดงอแง ไม่อ่อนแอให้คนในบ.เห็น อย่าเห็นว่าทุกอย่างเป็นปัญหาที่แก้ไม่ได้ หัวหน้าทุกคนไม่ได้ต้องการเห็นคนที่ทำได้เสมอไป เค้าอาจจะอยากเห็นคนที่พยายามจะจัดการสิ่งๆนั้น สุดท้ายมันเป็นเรื่องขององค์กร ถ้ามันจนปัญญาแบบเราทำทุกอย่างที่ทำได้แล้วจริงๆ หลังจากนั้นผู้ใหญ่จะยื่นมือเข้ามาช่วย // อีกเรื่อง เรื่องกู้บ้าน ประเด็นมันไม่ใช่แค่การอยู่ครบปีแล้วยื่นได้ มันคือความมั่นคงของเงินเดือน ระยะเวลาทำงาน ความมั่นคงขององค์กร หลายอย่างที่ธ.พิจารณา หลักๆตอนนี้คือ หางานที่มั่นคงก่อน หาองค์กรที่เราวางใจได้ แล้วสู้ค่ะ 555555
บางแบงก์ อายุงาน6เดือนก็กู้ได้นะ ลองดู
หางานเก่ง 🤔 หางานเหมือนล่าแต้ม ปัด tinder 😌 ก็เลือกที่ใช่แหล่ะ พอกู้บ้านได้ ออกไปไหนไม่ได้ล้ะ ต้องก้มหน้าก้มตา ทำไป 😶
คนขี้แพ้เท่านั้นที่บอกว่าคนอื่นเป็นคนขี้แพ้ เพราะงั้นอย่าไปสนใจคนขี้แพ้จ้า
ไม่เกี่ยวกับขี้แพ้ เทอมั่นใจตัวเองเกินไป งงคุนอยากได้เงินมากกว่า3หมื่น แต่พอได้เปนเมนิเจอ แต่เสือกไม่อยากรับผิดชอบ แต่อยากโต ตกลงคุนจะยังไงกับชีวิต
ตามกระทู้จากพันทิพ
ชีวิตของตัวเองมาได้ขนาดนี้ยังต้องถามคนอื่น อย่าสู้เลย ยังต้องะามคนอื่นกับชีวิตตัวเอง
ไม่ขี้แพ้ แต่สร้างภาระให้คนที่ทำงานงานที่นั้นต่อจ้า
24เงินเดือน4หมื่นคิดว่าน้อยมากๆไม่พอใช้จริงๆ
1. ก่อนจะข้ามไปเรื่องทนหัวหน้าด่าอย่างไรไม่มีใครถามเลยว่าโดนหัวหน้าด่าว่าอะไรเป็นที่หัวหน้าไร้สาระจริงๆ หรือเราทำงานไม่ได้ตามที่คาดหวังจริงๆ?2. ควรมองว่าขี้ที่คนเก่าทิ้งไว้ คือโอกาสชั้นดีที่เราใช้สร้างผลงานได้อีกมากมาย
กูอยากให้รายการนำเจ้าของกิจการมาคุยในสายด้วยจัง หงุดหงิดชิปหาย
ออกเถ
ไม่ใช่คนขี้แพ้หรอกครับ แค่เราเลือกสิ่งดีๆ และ อนาคตให้ตัวเองครับ และงานที่เหมาะกับเราครับ อย่าโทษตัวเองเลยครับ ทุกอย่างมันไม่ได้ดั่งใจเราหรอกครับ สู้ๆครับ
ฃลช
อยากให้ได้อย่างที่ชอบทุกอย่างต้องเปิดธุรกิจเองครับ แล้วจะรู้ว่าการเป็นพนักงานใช้ความอดทนน้อยกว่าเยอะ
@@mightyc1522 นี่ก็คิดง่ายเกิ๊น
@@stevea5209 ง่ายยังไงหรอ? อันนี้พูดจากมุมมองเป็นพนักงานหรือเจ้าของธุรกิจ? เพราะผมก็เคยเป็นพนักงานแล้ว แล้วตอนนี้ก็มีธุรกิจของตัวเอง เลยกล้าพูด กำไรก็มี ขาดทุนก็เคย ลูกน้องดีๆอยู่ด้วยกันมาก็มี ลูกน้องแย่ๆอยู่ไม่ได้ก็เคย ไม่พูดง่ายๆแน่นอน เพราะมีประสบการณ์ตรง บอกได้เลยมีบริษัทเป็นของตัวเองเหนื่อยและยากกว่าเยอะมากๆๆๆๆ ไม่งั้นทุกคนคงเป็นเถ้าแก่กันหมดแล้ว คุณอะผ่านมาขนาดไหนบอกผมพูดง่ายๆ? แล้วถ้ามีหรือเคยมีธุรกิจตัวเองจะบอกว่าเป็นเจ้านายง่ายกว่า
ผมออกงานบ่อยมากใน1เดือนเพราะไม่เเฮปปี้ถ้าตรงไหนที่ไม่โอเครผมก็พร้อมเปลี่ยนเพราะผมต้องหาสิ่งที่โอเครที่สุด
เสียดายที่ที่2 ภาษาอังกฤษคือสิ่งที่เรียนรู้ได้ เสียดายมาก ตอนนี้ไม่ได้ก็ต้องใช้เวลา แล้วก็พูดกับเจ้านายไปตรงๆว่า ตอนรับมาคุณไม่ได้บอกนะว่าอังกฤษจะเข้มขนาดนี้ ตัวเราเองก็ขอเวลาเรียนรู้หน่อยอะไรแบบนี้ เจ้านายไม่ด่าหรอก ถ้าด่าก็บอกเขาว่าได้ ขอลาออก ถ้าเขารั้งไว้ ก็ดีไป
งานที่3 สามเดือนคือต้องผ่านโปรอยู่แล้วค่ะ ฝึกงานเต็มที่แบบให้เป็นงานคือ1เดือน แล้วเราจะใช้เวลาเรียนรู้เรื่องงานไปเรื่อยๆ ไปตลอดระยะเวลาไปทำงาน พูดง่ายๆ ต้องรู้จักอดทนค่ะ นอกจากเงินมันน้อยแต่งานเท่าสร้างบ้านก็ลาออกเถอะ
ภาษาอังกฤษ คือ ที่ทำงาน ที่ 3 ไม่ใช่ ที่ 2 ค่ะ
เราเคยลาออกจากงานที่มั่นคง เงินเดือนก็ค่อนข้างเยอะในช่วงโควิด เพราะ...เหตุผลเพียงอย่างเดียวคือ เสียสุขภาพจิต เครียดลงกระเพาะ จนไปร้องไห้กะหมอจิตแพทย์มาแล้ว สำหรับเรารีบถอยก่อนที่จะไม่มีทางรักษาจิตใจเรา ค่ะ ออกมาก็ดีนะคะ เจองานใหม่ ใครบอกว่าที่ไหนๆก็เหมือนกัน เราว่าไม่จริงค่ะ จังหวะชีวิตสำคัญมาก
เหมือนกันเลยค่ะ เราออกจากที่มั่นคงเพราะไม่ถูกกับหัวหน้าและงานเริ่มไม่โอเค ไม่มีอะไรให้เรียนรู้เพิ่มแล้ว มาผจญภัยชีวิตข้างนอก ต้องพบจิตแพทย์ด้วยเพราะช่วงที่ทำงานมีเรื่องกัดกร่อนจิตใจมาเยอะ
@@nyahsur4263 เป็นกำลังใจให้นะคะ ออกมาก่อนที่จะเป็นอะไรมากกว่านี้ค่ะ สุดท้ายที่ทำงานก็หาคนใหม่มาแทนเราเท่านั้นเอง ส่วนเราต้องไปหาหมอก็คงไม่คุ้มค่า
ทุกบริษัทมีระยะทดลอง 3-4 เดือน ถ้าตัวพนักงานเองจะมีระยะทดลองบริษัทบ้างไม่เห็นเป็นไรเลย การเป็น Job hopper ไม่น่ากลัวถ้าคนๆนั้นมีของดีอยู่กับตัว
ไม่ขี้แพ้หรอกค่ะ การที่เอสกล้าลาออก สมัครงานใหม่ไปเรื่อยๆเพื่อให้เหมาะกับตัวเองคือกล้ามากๆแล้ว ที่ยึดตัวเองเป็นหลัก คือดีมากๆ เพื่อนเรา มีอยู่ปีนึงทำที่ละเดือน บางที่ก็วันเดียว ก็มี ตอนนี้ไม่รู้ทำที่เท่าไรแล้ว แต่ได้ที่ๆอยู่ได้ยาวๆละ สู้ๆนะคะเอส
เราก็เป็นค่พ แค่อย่าปิดกั้นตัวเอง มองบวกเข้าไว้ค่ะ
ถ้าไม่มีหนี้...จะไปไหนก็ได้
ถ้ามีหนี้...มันก็จะต้องมีความอดทน..ทนอยู่
อยากได้งานเงินเดือนดี เป็นที่ตั้ง แต่ไม่ศึกษาบริษัท
ไม่คิดพัฒนาสกิล ไม่คิดจะศึกษาหาประสบการณ์เพิ่ม ไม่มีใครเก่งตั้งแต่แรก มันต้องเรียนรู้
มันต้องรับผิดและรับชอบ ไม่ใช่มองแค่ว่าฉันจะเอาแต่แบบที่ฉันเก่งอย่างเดียว
แล้วแบบนั้นเมื่อไหร่จะมีสกิลเพิ่ม ก็ทำแต่งานที่ตัวเองรู้อย่างเดียวเก่งอย่างเดียวจะไปก้ลวสู่ตำแหน่งอื่นได้ไง
แต่คุณไม่สู้งานเลย เห็นว่าไม่ตรงที่เราถนัดก็หนีตลอด
เดี๋ยวเปลี่ยนอีก เจอเพื่อนร่วมงานแย่ก็หนีอีก
แบบนี้เปิดบริษัทตัวเองเหอะ แล้วทำงานแต่ที่ตัวเองถนัด
จะได้ไม่เสียเวลาบริษัทอื่นเขาสอนงาน สอน 2 อาทิตย์ไป สอนเดีอนนึงไป
แล้วจะรู้ว่าเจอลูกน้องแบบตัวเองนี้จะเป็นยังไง
ควร ขายของ อยู่บ้าน ❤️จบ ค่ะ
@@francederin7528 พวกถนัดแต่ซ้ำเติมคนอื่น
เห็นด้วยกับพี่เติ้ลค่ะ
อยากให้มองว่ามันเป็น learning นะคะ ไม่มีใครได้เงินเพิ่มแล้วงานน้อยลง ความรับผิดชอบน้อยลงค่ะ
ลองหาคอสสั้นๆเรียนสำหรับการเป็นเมเนเจอร์ การปรับตัวในตำแหน่งที่สูงขั้นไหมคะ เค้าจะมีแนวทางแล้วก็ช่วยปรับความคิด ปรับวิธีการทำงานได้ค่ะ เป็นการเปิดโลกใ้ห้ตัวเองก่อน สุดท้ายถ้าลองทำเต็มที่แล้ว มันยังไม่ได้จริงๆ ค่อยลาออกค่ะ
อยากให้ลองให้เต็มที่ก่อน โอกาสมันไม่ได้ได้มาง่ายๆอะ ลองให้เต็มมที่ก่อนนะคะ อย่าพึ่งปิดใจ
เรามองว่า บรรยากาศการทำงานที่เอื้อให้พนักงานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ คือ การให้กำลังใจ ชื่นชมในจุดแข็ง ตำหนิเพื่อก่อให้เกิดการพัฒนา จุดสำคัญอยู่ที่วิธีการสื่อสารของหัวหน้างาน และวัฒนธรรมองค์กรด้วย ไม่ผิดหรอกค่ะถ้าจะเดินออกมา ทำงานต้องมีความสุข กดดันมากเกินไป เสียสุขภาพจิตนะคะ
ส่วนตัวผมมองว่า การมี Passion เป็นสิ่งที่ดี เเต่ถ้ามีมันเเบบเกินตัว หรือ เร่งเวลาให้ได้มันมา ก็ต้องยอมเเลกกับสิ่งที่จะได้มันกลับมาเช่นกัน เเต่การที่คุณ อายุ 25 มีเงินเดือน 3++ มันก็ไม่น้อยเเล้ว สุดท้ายคุณต้องถามตัวเองว่า จะเลือกเงิน หรือ ความสบายใจ ทำเป้าหมายให้สำเร็จ หรือ ค่อยๆเป็นไป เเต่ถ้าเป็นผมเลือกอย่างหลัง ผมก็เคยเป็นเเบบคุณ ได้ 2 ปลายๆ เเต่พอย้ายงานมาสอบได้ ได้ สิบต้นๆ ผมก็รับต้องปรับปรุง เพราะผมเลือกความมั่นคง กินระยะยาว สู้ๆครับ
เป็นงงๆ สำหรับบริษัทสุดท้าย ทำไมเลือกคนไม่เหมาะกับตำแหน่งงาน ถ้าคิดในแง่ดีงานยากก็ทำให้เราโตเร็วดีนะคะ แต่ถ้าอะไรมีผลต่อสุขภาพจิตก็ออกเหอะค่ะ เพราะมันส่งผลต่อเราระยะยาว
ผมลาออก มาหลายบริษัทแล้ว ออกเพราะเราเครียดล่ะพูดตรงๆ เสียสุขภาพจิตป่าวๆ ถ้าเราสะสมเข้าไป พอระเบิดออกมารับรอง คุณจะเป็นโรคเครียดติดต่อแน่นอน การทำงานต้องค่อยไต่ไปตามลำดับ งานง่ายไปเราก็หาใหม่ งานยากไปผมก็ออก ค่อยๆพัฒนาสกิลไปครับ สู้ๆ
ให้กำลังใจคุณ เอสน่ะเราก็เป็นเหมือนคุณเอสเลย อายุเท่ากันอีก เราจะล่อไป 5 ที่แล้วใน 2-3 เดือน
อายุ 25 เหมือนกัน และเปลี่ยนงานบ่อยมาก มากกว่าคุณเอสด้วยซ้ำค่ะ อยากเป็นกำลังใจให้ค่ะ เลือกงานที่เหมาะกับเราดีกว่าค่ะ จะทำให้เราไม่ต้องรู้สึกเครียดจนเสี่ยงกับโรคซึมเศร้า หรือถ้าอยากทำงานเดิมต่อแนะนำให้คุยกับหัวหน้าโดยตรงเลยค่ะ แจ้งเขาไปตามตรงเลยว่าขอเวลาได้มั้ย และเรื่องที่เขาด่าเรา ให้เราดูว่าสามารถคุยกับเขาเรื่องนี้ได้มั้ย ถ้าไม่ได้แนะนำว่า ทำหูทวนลมไปค่ะ แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆคุยแล้วแต่เปลี่ยนไม่ได้ เปลี่ยนงาน ดีกว่าค่ะ หาที่เหมาะสมกับเราค่ะ
ถ้าลองคุยแล้วเจ้านายเลิกด่า หรือใช้คำพูดบั่นทอนจิตใจเราโดยไร้เหตุผล คุณเอสจะสามารถมีกำลังใจทำงานได้เต็มที่ขึ้นแน่นอนค่ะ เพราะหัวหน้าและเจ้านายบางคนจะใช้วิธีนี้เพื่อกระตุ้นให้ลูกน้องทำงานเก่งขึ้น แต่ก็ไม่ใช่จะได้ผลดีกับทุกคน สำหรับบางคนมันให้ผลร้ายจนกลายเป็นคนจิตตกไปเลยก็มีค่ะ เพราะงั้นพิจารณาดูค่ะ และถ้าชอบงานนี้ลองหาครอสเรียนงานตำแหน่งนี้เพิ่มเติมดูนะคะช่วยได้เยอะเลย
เราไม่จำเป็นต้องทนอยู่เพื่อไม่ให้ใครมองว่าไม่เป็นคนขี้แพ้ค่ะ ถ้าจะเลิกทำเพราะเสียสุขภาพจิตก็เลิก แต่ถ้าจะทน อย่ากดดันตัวเองค่ะ หัวหน้าเค้าให้งานหินมา ถ้าเราประเมินว่าทำไม่ได้ (แต่ต้องการอยู่ต่อ) บอกไปเลยว่าไม่ได้พร้อมอธิบายเหตุผลค่ะ ถ้าอยู่ต่อ เราจะได้ทักษะและความอดทนเพิ่ม แต่ถ้าอยากหางานที่ไม่เครียดขนาดนี้และทำได้ยาวๆ หางานใหม่ค่ะไม่ต้องสนใจคนอื่น ❤️
คุณไม่ใช่คนขี้แพ้เลยคะ คุณเป็นคนกล้าที่พร้อมจะเจอกับความเปลี่ยนแปลง พร้อมที่จะลุยงานไหม่และเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวคุณเอง สู้ๆคะ
ไม่ใช่คนขี้แพั หรอกจ้า พี่เองก็เป็นจ้า ในเมื่อ เราไม่ชอบงานที่เราทำ เราก็เปลี่ยน ตราบใดที่เรายังสู้ ไม่ขี้เกียจ ไม่อดตายหรอกจ้า คนขี้แพ้ คือคน ขี้เกียจ ไม่ทำอะไรเลย นั้นคือ คนขี้แพ้ ที่แท้ทรู.
เอาดีๆนางก็แอบเก่งนะที่ในระยะเวลาแค่ไม่กี่เดือนแต่เปลี่ยนงานหลายที่มากอะถ้าเทียบกับคนอื่นๆที่กำลังหางานใหม่ อย่างเช่นเรา555555 กว่าจะได้งานใหม่เราใช้เวลาเกือบปี😅
อาจจะได้ผ่าน recruiter ค่ะ
ลักษณะงานที่รับเยอะไม่ เลยได้งาน
นี่พึ่งได้งาน แต่ก้กดดันจัดเลย แต่ต้องทน เพราะเงิน
ไม่ดูขี้แพ้หรอกค่ะ แต่มุมมองขององค์กรใหม่ ก็อาจจะมองได้บวกและลบ ขึ้นอยู่ว่าเราขายตัวเองยังไงที่เปลี่ยนงานปล่อย แต่สิ่งหนึ่งที่อยากบอกในงานทำงานมันคือ 1. ความสามารถของเราที่มีอยุ่แล้ว + 2. การเรียนรู้และเสริมสร้าง skill ใหม่ๆค่ะ ถ้าคิดจะไปแค่ทำเท่าที่ตัวเองได้ แต่ไม่อยากพยายามเสริมสร้างสกิลใหม่ให้ตัวเอง จะเติบโตในหน้าที่การงานยังไงอ่าคะ
เมื่อก่อนแอบมีความคิดแบบนี้นะ แต่หลังจากมีเหตุการณ์โควิดอ่ะ หลายๆอย่างในชีวิตเราเปลี่ยนไปเยอะมาก จนเรามีความรู้สึกว่าอยากทำอะไรคือทำเลย อะไรแย่ๆคือเราจะไม่ทนถ้ามีตัวเลือกที่ดีกว่า ชีวิตจะตายวันตายพรุ่งยังไม่รู้เลย แค่ใช้ชีวิตให้รอดไปวันๆก็ทรมานมากพอแล้ว
เด็กมากอ่ะ ภาษาไม่ได้อยากได้มากกว่าสามหมื่นต้องเก่งด้านอื่นเช่นเซลขาย สองเป็นเมเนเจอร์อยู่เหนือตำแหน่งอื่นแต่ไม่เคยเป็นตำแหน่งที่เล็กกว่าไม่เข้าใจหัวอกลูกน้อง ไม่เข้าใจความเป็นผู้นำ หน้าที่ของผู้นำ มันถูกแล้วค่ะที่คุณต้องรับผิดชอบแทนลูกน้องเพราะเราต้องดูแลตรงนั้นไง และคุณก็ได้เงินมามากกว่าตำแหน่งอื่นไง สองคือคุณน้อยประสบการณ์ทนความกดดันไม่ได้ มีบ.ใหญ่อีกที่ที่รับเด็กใหม่เยอะๆเข้าไปเป็นเมเนเจอร์แต่รับไปค่อยๆคัดเอาคนไม่สามารถออก เป็นเรื่องปกติค่ะ
+1
เคยเจอโดนนายด่าตลอดเหมือนกัน วิธีช่วยคือด่านายคนนี้ให้เพื่อนฟังต่อ ถือว่าได้ระบายแล้วสบายใจขึ้น 😂 แต่มานั่งพิจารณาที่เค้าด่า มันก็มีส่วนถูก เราก็เอาคำติของนายมาปรับใช้ให้ตัวเองทำงานดีขึ้น แล้วปากคนอื่นจะพูดอะไรก็ได้ทั้งนั้น เราเป็นคนรับสาร เราก็เลือกรับแต่สิ่งที่จะนำมาปรับใช้ในชีวิตเราให้ดีขึ้นพอ
เรามองกลับกันนะ ถ้าผ่านไปได้เธอจะสกิลสูงและวันนึงเธอจะเก่งกว่าคนรุ่นเดียวกัน เงินก็จะสูงและไปไกลกว่าเดิม
เป็น เจอร์ มา2 เดือน ควรจัดทำข้อสังเกตุและข้อปรับปรุง และ จัดทำแผนงาน แล้ว รันแผน
รู้สึกว่าเอสยังค้นหาตัวเองไม่เจอ ตั้งเป้าหมายว่าต้องมีบ้านภายในอายุ xx แต่เหมือนไม่ได้ประเมินสภาพความจริงเท่าไหร่
อีกอย่างที่สงสัยคือเรื่องภาษา เพราะที่ บ. มีน้องฝึกงานระดับเพิ่งจบ ม.6 จนถึงระดับมหาลัย ซึ่งทุกคนภาษาอังกฤษเก่งมาก พูดคล่อง อ่านแตก เลยแอบสงสัยว่าทำไมเด็กอายุ 25 แบบเอสถึงไม่ได้ภาษาจนต้องหนีขนาดนั้น (ทั้งๆ ที่จริงๆ ภาษามันฝึกกันได้ ใช้ทุกวันก็เก่งไปเอง)
ก่อนอื่นอยากขอบคุณสายนี่ที่มาShare an experience เอาจริงเราก็ไม่ค่อยคล้อยตามที่เหล่า Old generations ทั้งหลายแหล่ ตัดสินGenหลังๆ ว่าไม่อดทนเพียงแค่เปลี่ยนงาน เพราะจาก A working experience 8 ปี ของเราก็พบว่า บางที่ผู้ใหญ่ก็งี่เง่าในเรื่องงานกว่าเด็กมาก ยิ่งมาฟังสายคุณเอสชัดเลย เข้าใจคนเปลี่ยนงานยิ่งขึ้น อย่างที่แรกที่มัดมือชกให้คุณเอสทำตำแหน่ง A manager ทั้งที่ในใบสมัครก็ระบุชัดเจนว่าที่คุณเอสสมัครLevelไหน ซึ่งนั่นบ่งบอกแล้วว่าคุณเอส Ready ที่จะทำงานตำแหน่งที่เค้ามัดมือชกแค่ไหนกับอีกที่หนึ่งเค้าควรระบุว่าต้องการคนที่จบเอกEnglish แล้วก็มีคะแนนพวก Toeic อะไรนั่นด้วย ต้องการHigh level English skill จะเอาใครก็ได้ไม่ได้ ขนาดเราทำงานองค์กรที่Services พวกฝรั่ง ยังไม่อยากทำที่คุณเอสกล่าวถึงนั่นเลย
ไม่ได้ขี้แพ้หรอกจ้า แต่แค่ไม่มีความอดทนแค่นั้นเอง ปัญหามีอยู่ในทุกงาน เค้าถึงจ้างเรามาเพื่อแก้ปัญหา เรามีหน้าที่ทำงานนั้นให้ดีที่สุด แต่หากผลมันไม่สำเร็จทันเวลาก็จงน้อมรับคำตำหนิ และกล่าวอภัยเราทำเต็มที่แล้ว แค่นั้นแหละ จะไล่ออกจะตัดเงินเดือนหรืออะไรช่างมันเถอะ เพราะงานบางงานที่เราทำเต็มที่แล้วสำเร็จ มันจะรู้สึกสนุกและภาคภูมิใจที่เราผ่านปัญหานั้นมาได้ ก็แค่ลองอดทนและพยายามดู ทดสอบความสามารถ
เอาจริงนะ เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ เจอปัญหาก็หนี อยากใด้เงินแต่ไม่อยากลำบาก ใครเขาจะจ้างคุณไปนั่งกระดิกเท้าครับ ก่อนสมัครก่อยทำไม่คิดพอเข้าไปแล้วมีปัญหา มันอยุ่ที่ตัวมั้งนั้นไม่ว่าอยุ่ที่มหนก็ไม่ต่างกันครับถ้าเป็นแบบนี้ ดูที่ตัวเองก่อน เสียเวลาบริษัทด้วยมั้ยถ้าไม่จริงจังก็อย่าไปทำให้คนอื่นเสียหายสิ ขี้แพ้มั้ยไม่รู้แต่สร้างปัญหาและหนีไปเรื่อยนั่นคงจริง
มีแพสชั่นกับเงินและทำทุกอย่างใด้ดีน่าขำอ่ะ อยากใด้เงินแต่ไม่อยากลำบาก ทำใด้ดีคงไม่ออกงานทุกเดือนหรอกครับ จะพูดสวยหรูอย่างไร โทษใครก็เอาที่สบายใจครับ ผลลัพธ์และข้อเท็จจริงก็ไม่เปลี่ยนอยุ่ดี ส่วนที่ผมไม่รู้มี แต่ที่ว่านี่คือจากส่วนที่รู้ไง
ความคิดส่วนตัวนะครับ
คิดแบบเลยผมครับ คนไม่สู้มักจะมีข้ออ้างเสมอ ทำไมผมถึงคิดแบบนี้เพราะแฟนผมก็เป็นอยู่
@@catpy0077 ความคิดส่วนตัว ก็บอกอยู่ชัดเจน มันเรื่องของผมป่ะใครตัดสินแทนใรคุณเหรอ อย่ามายัดเยียด ผมต้องคิดเหมือนคุณเหรอมีสิทธิ์อะไรมาบังคับคนอื่นมิทราบครับ ผมไม่รู้ผมก็ไม่วิพากษ์ส่วนที่วิพากษ์คือส่วน ที่รู้ไง อคกอย่างมันก็แค่ความคิดของคนนอก/ม่ใด้บอกว่าถูกสักหน่อย แล้วคุณมาตัดสินมั่วๆอะไรของคุณ อีกอย่างผลมันก็เห็นกันอยุ่จะเพราะอะไรมันแก้อดีตใด้หรือผลจะเปลี่ยนเหรอ
ไม่ใด้ว่านะแต่ที่โพสกลัวมีพวกควายมาแสดงความโง่เหมือนกัน ควายนะหน้าแหกเปล่าไอ้พวกอ่านหนังสือไม่ออก มาออกความเห็นแบบโง่ๆ ไม่ใด้ดักนะควายมาติดเอง เขียนชัดเจนว่าความคิดส่วนตัว แต่คงไม่ใช่คุณหรอกนะ เป็นคนน่าจะอ่านหนังสือออกและเข้าใจว่าความคิดส่วนตัวคือเรื่องส่วนตัวของกรูไม่ใด้บังครับใครเนาะ เป็นคนคงเข้าใจ
@@nuwatjuthaii916 ปัญกาที่เกิดขึ้นถ้ามองตัวเองยอมรับและพยายามแก้ไขด้วยตัวเองหรือคนรอบข้างก็อาจจะบรรเทาลงใด้ครับ เรื่องแรกที่ยากสุดต้องมองสิ่งที่เกิดและยอมรับในความผิดพลาดให้ใด้ก่อน
ความคิดผมนะ
@@catpy0077 โอ้โห ความอดทน 1 เดือน ช่างยากเย็นทรมานเหลือเกิน 👏👏👏 อยากรู้เลยว่าแล้วระยะเวลาเท่าไหร่เรียกว่าไม่อดทน? 1 วันเลยมั้ย
@@catpy0077 คุณรู้้หรอไม่รู้ก็อย่าเดามั่วตัดสินชาวบ้านดิ
ผมและคนอื่นพูดจากสิ่งที่รู้ไง ไอ้สิ่งที่ว่าไม่รู้ผมก็ไม่ใด้เดามั่ว
แล้วก็นะคนอื่นเขาจะคิดต่างก็เรื่องของเขาป่ะคุณเป็นศูนย์กลางจักรวาล ความเห็นคุณถูกเสมอเหรอ เอาแะไรมาตัดสินมิทราบครับ เรื่องไร้สาระทึ่ไม่เกี่ยวกับชีวิตเราเลยจะเป็นไงผมต้องสนเหรอครับ แปลกนะที่คุณหมกมุ่นมันไปจี้ใจดำเหรออันนี้ผมก็ไม่รู้ แต่อย่ามาเผด็จการบังคับให้คนอื่นคิดปบบคุณและเดาในสิ่งที่ไม่รู้มั่วๆสิครับ น้องเขาเป็นมนุษย์ต่างดาวแปลงร่างมาศึกษาวัฒนธรรมบนฌลกด้วยป่ะ ไร้สาระว่ะ อย่ามั่ว คนเขาพูดเรื่องทึ่เขารู้ในรายการมันบอกอยุ่อย่าไปเดามั่วและบังคับคนอื่นให้คิดตามครับ
อีกอย่างมันจะเป็นหรือไม่เป็นแบบที่ผมหรือคุณคิดแล้วไง ไม่ใด้สำคัณครับ เพราะไม่ใช่เรื่องของผม หรือคุณ อินไปป่ะ
เรามองว่า การมีชีวิตอยู่คือการเรียนรู้ ไปพร้อมกับการเอาตัวรอดในสังคมบนสถานที่ๆเต็มไปด้วยธรรมชาติและวิวัฒนการ การที่เราเลือกสิ่งต่างๆให้กับตัวเอง ไม่ว่าจะถูกหรือผิดพลาด มันก็เป็นประสบการณ์ให้เราได้สัมผัสและเรียนรู้ไป อย่าคิดมากค่ะ ทุกช่วงเวลาชีวิตเรามักจะมีเป้าหมายที่แตกต่างและเปลี่ยนแปลงไป อยู่ที่ชีวิตของเราต้องการอะไรในช่วงเวลานั้นๆ ถ้าเอาชีวิตไปผูกกับสังคม ความต้องการของสังคม กฏเกณฑ์ความสำเร็จของสังคม มากเกินไป ชีวิตก็มักจะเกิดความทุกข์ได้ง่าย , ถ้าเราไม่เอาไปผูก เรียนรู้ในสิ่งที่อยากเรียน มีความสุขกับการเรียนรู้ เลือกงานที่เหมาะ เราก็อาจจะมีความสุขจากสิ่งเล็กๆสิ่งที่ทำได้ง่ายขึ้น
ไม่ได้ขี้แพ้ค่ะ แค่เงื่อนไขในชีวิตเยอะ แค่นั้นแหละ และงานและละที่ไม่ได้เป็นอย่างที่ใจคุณเอสต้องการ
สำหรับเรื่องงาน ผมคิดว่าไม่เหมาะที่จะใช้คำว่าขี้แพ้นะครับ แย่เต็มที่เลยก็น่าจะแค่อาการเหลอะแหละในหน้าที่การงาน ซึ่ง ผมว่าคุณเอสไม่ได้เข้าข่ายเลย แถมอยู่ฝั่งตรงข้ามกับคนเหลอะแหละด้วยซ้ำ ผมชื่นชมในทัศนคติหลายๆด้านและความมุ่งมั่นของคุณเอสนะ ส่วนคำแนะนำ ก็ตามดีเจทั้ง 3 คนเลยจ้า
ออกได้ครับ เปลี่ยนงานบ่อยแค่ไหนก็ได้ไม่แปลก
แต่แค่รู้สึกว่าคุณไม่ได้แพลนอะไรกับชีวิตมากนัก
สังเกตอะไรมั้ย คุณยังไม่ได้ accomplished อะไรสักอย่างเลยในสามที่นี้
1. ต้องย้ายออฟฟิตไปไกล อันนี้เข้าใจได้ แต่เรียนรู้ได้ง่ายๆเลย โดยถามบริษัทตอนสัมภาษณ์ ว่ามีออฟฟิตที่ไหนบ้างต้องเดินทางหรือไม่
2. ภาษาอังกฤษ - ฝึกได้แน่นอน ถึงจะไม่ใช่เรื่องงาน ในยุคนี่วัยทำงาน คุณควรพูดภาษาอังกฤษ ได้แล้ว
3. สภาพแวดล้อมในการทำงาน - คนด่าคุณกี่คน เป็นหัวหน้าคุณหรือไม่ จะบอกว่าเป็นเรื่องธรรมดาอาจจะฟังดูแปลก การโดนหัวหน้าด่าเพราะลูกน้องคุณทำผิดนี่เรื่องปกติ เพราะคุณแก้ปัญหาไม่ได้ไง การมีคุณเป็น ผจก ก็เพื่อสกรีนงานก่อนส่งอีกทีถูกมั้ย ถ้าลูกน้องคุณทำผิด คุณตำหนิมั้ย หรือว่าปล่อยผ่าน?
ถ้าไปเจอที่ต่อไปซึ่งคุณก็ไม่รู้ว่าจะเจอสังคมแบบไหน
ถ้าเจอคนด่าอีก? ออก?
ถ้าพูดภาษาไม่ได้? ออก?
หรือเปลี่ยนไปเรื่อยๆจนซื้อบ้านนั่นแหล่ะ
พอซื้อแล้วก็ภาวนาอย่าให้เค้าไล่ออกก็พอ
ประโยคสุดท้ายที่คุณว่ามาผมไม่เห็นว่ามันจะคล้องจองแล้วเกี่ยวความหมายที่น้องเขาเปลี่ยนงานเลย
1. ไม่ขี้แพ้ หรือ ถ้าจะขี้แพ้ หรืออะไรก็แล้วแต่ ไม่ต้องแคร์ครับ
2. ทำที่เดิมต่อ งานเพิ่งเริ่ม คิดในแง่ของการทำงานเป็นแบบสะสม
ณ ตอนนี้ คิดว่าปัญหาสามารถแก้ได้ 6 เดือน แต่ลองคิดดูว่า ทำๆไปจะเก็บ ประสบการณ์เรื่อยๆ แล้วเราจะมีศักยภาพในการแก้เพิ่มขึ้น เป็นการพิสูจน์ตัวเองด้วยว่า เราอยู่ในระดับนี้ได้ หลังจากทำมันได้สำเร็จ เราจะเปลี่ยน ตัวเลือกเราก็จะมีมากขึ้นกว่านี้ เค้าด่าก็มองว่าเค้าผลักดันเรา ข้อเสียจุดเดียวคือการด่า จำไว้ว่า เค้าไม่ได้ด่าได้ตลอดชีวิต แต่ ประสบการณ์ที่ได้จะได้ใช้ตลอดชีวิต
พูดถึงในแง่จิตวิทยา ถ้าให้เดา เหมือนรู้สึกว่า อาจโดนด่าแบบกดมากๆ จนเสียความมั่นใจ ให้จำไว้ครับ มันไม่ใช่ทุกอย่าง ถ้าเราทำเต็มที่แล้ว ก็มั่นใจครับ ถ้าสุขภาพจิตเสียมาก ลองหาจิตแพทย์ครับ ไม่จำเป็นต้องเป็นโรคซึมเศร้าก็ไปหาได้ครับ
เก่งมากแล้วค่ะ อายุแค่นี้เองขนาดเปลี่ยนงานบ่อยแทบเดือนต่อเดือนแต่เรียกเงินได้ตั้งสามหมื่นห้า เปลี่ยนไปหาที่โอเคกับเราเลยค่ะ ปล.หางานใหม่ได้ง่ายมากเลยค่ะขอทริกทีเราก็อยากย้ายแต่ด้วยสถานใดๆเลยต้องอดทนไว้และงานก็หายากมากกกก;-;
ตำแหน่งนี้ โดนด่า และโดยกดดันเยอะเป็นปกตค่ะ ต้องรู้จักปรับ และต้องแก้ไขงานอย่างรวดเร็วค่ะ
ชอบคำว่าไม่มีอ่ะไรชอบเป็นพิเศษ เพราะทำได้ทุกอย่าง นี้ละดี ออกงานเป็นนายตัวเองเลยครับยิ่งคิดว่ามำทุกอย่างได้ดียิ่งต้องลุยงานเองเดินหน้าเอง
แล้วก็เรื่องอายุกับบ้าน ถ้าเลตเวลาไป5ปีแล้วเก็บเงินสร้างเองไม่สบายใจกว่าหรอ? ทำไมต้องโฟกัสกับค่านิยมอ่ะไรแปลกๆของคนที่สร้างขึ้นมาด้วยละ ไปด้วยแรงของเราขาของเรา จะไวจะช้า มันก็อยู่ที่เราเองอ่ะบางคนมีบ้านก็โน้นเกือบ40 เริ่มได้ใช้ชีวิตของตัวเองจริงๆ40กว่าๆโน้นแต่สิ่งที่เขาทำได้ตลอดคือการไม่เป็นหนี้ แต่ใดๆก็แล้วแต่ เอาสุขภาพร่างกายสุขภาพจิตเรามาก่อน เพราะ2อย่างนี้จะอยู่กับเราไปจนตาย
ไอนู่นก็ไม่ได้ ไอนี่ก็ไม่เอา น่าจะเป็นนายตัวเองได้เพราะเลือกได้ แต่น่าจะทำให้บ.โตยากเพราะมัวแต่เลือกค่ะ 😅😅
ให้เป็นนายตัวเองยิ่งยากครับ องค์กรยังมีหลายแผนกซับพอต เป็นนายตัวเองรับปัญหาตั้งแต่1-10
@@st-Miin ผมเดินหน้าทำงานตั้งแต่มีสาขาแรกไปยัน7 8 สาขาพอโควิดมาก็เหลือ 5สาขา พออยู่รอด ผมชอบคำว่าทำได้หมดจริงๆนะ ้พราะผมเป็นเจ้าของร้านห ผมก็ต้องทำหมดบางครั้งล้างจานทำความสะอาดร้านผมก็ทำลายละเอียดยิบย่อยมีเป็นร้อยๆอย่าง ปัญหาที่เจอแต่ละวันมันก็ต่างออกไปผมมองว่ามันสนุกแบะท้าทายดี ผมเลยเสนอมุมมองของคนที่ทำเองเนี่ยละครับ ปล.ผมทำก๋วยเตี๋ยวเรือครับ บางสาขามีดลตรีสด มีอาหารตามสั่ง บางสาขาเน้นเร็วให้นักเรียนนักศึกษาได้ทานกันไวๆ บางสาขาก็เปิดช่วงค่ำเพื่อรับคนเลิกงานอ่ะไรทำนองนี้สำหรับผมมันดูสนุกดูท้าทายดีครับ
พี่มองว่าถ้าน้องไม่สบายใจก็ออกค่ะ ทำไมคนสัมภาษณ์รู้ว่าน้องไม่มีประสบการณ์ยังจะรับไปอีก พี่ว่าผิดที่คนรับนะ ที่เลือกคนไม่ถูกงาน น้องรับผิดชอบงานเกินประสบการณ์และอายุ มันไม่สมส่วนกัน น้องต้องไม่สบายใจอยู่แล้ว หาที่ๆใช่ค่ะ พี่ก็เปลี่ยนงานบ่อยโดนคนรอบข้างด่าทอ ดูถูกมากด้วย ไม่ต้องไปสนใจค่ะ เพราะเขาก็ไม่ได้ช่วยอะไรเราอยู่แล้ว 😂 น่าจะปรึกษาคนใกล้ตัวด้วยนะว่าน้องควรสมัครงานแนวไหน ถ้าสมัครสะเปะสะปะ ทำไปแล้วไปเจออะไรที่เราไม่โอเคทีหลังแบบนี้จะเป็นแผลใจไปเปล่าๆ
เงินเดือนสูงเกินสกิล กล้ารับแต่ไม่กล้าจ่ายผลงาน มีงานโยนมากก็กลัวเลยออก ใช้คำว่าด่ากับคำพูดแนะนำของหัวหน้า ดูแล้วปัญหาอยู่ที่ mind set คุณมากกว่า
แนะนำอ่านหนังสือพัฒนาตัวเองเยอะๆแล้วจะเห็นว่าวิกฤตสร้างโอกาสและความสามารถคนมาเยอะแล้ว อย่างงานภาษาที่คุณบ่นๆเราก็เคยเจอมาแล้ว ตั้งแต่ทำไม่ได้ก็ต้องขวนขวายเขียนเพื่อติดต่อกับคู่ค้าให้ได้จนตอนนี้เขียนได้คล่อง บางคนจบต่างประเทศก็ยังเขียนพูดไม่คล่องแต่เจอหัวหน้ากดดันจนร้องไห้อยู่บ่อยๆตอนนี้ก็ได้ดิบได้ดีสกิลภาษาขั้นโปรเงินเดือนระดับแสน เรื่องที่กลัวจะต้องปะทะจนหนีเราเข้าใจเพราะเคยเป็นแต่ลองได้ถอยครั้งนึงก็จะติดนิสัยถอยไปตลอดชีวิตจนกว่าใจจะกล้าสู้ในวันนึง หัวหน้าคุณน่ะพูดถูกแล้ว เพราะคุณคิดว่าทำไม่ได้มันเลยไม่ได้ทั้งๆที่ตัวคุณพูดเองกับปากว่าไม่ได้ชอบแต่ทำอะไรก็ได้ แทนที่จะมองแค่จะอัพเงินให้ได้ไวแบบที่พวกออนไลน์ชอบสอนแต่ไม่บอกว่าควรสร้างรากฐานไว้ยืนให้มั่นก็ลองหันมาสู้มันซักตั้งสิแล้วจะได้ฐานแน่นๆไว้ต่อยอดชีวิต หรือจะหนีไปเรื่อยๆก็ได้นะ
เรียนจบ 3 ปีเปลี่ยนงาน 3 ครั้ง ตอนแรกก็ถามตัวเองนะว่าเราไม่อดทนรึเปล่า ถ้าเราสู้อีกนิดมันจะไปได้ไกลแค่ไหน พอได้มาอยู่ที่ปัจจุบัน คือที่ที่ 4 เราแฮปปี้มาก เลิกสงสัยเลย ก่อนหน้านี้เราแค่ยังไม่เจอสิ่งที่ใช่ ดีใจที่ไม่ทนทำ ไม่งั้นเราคงไม่ได้มีชีวิตดีๆแบบนี้ บางทีนะคะ ถ้าไม่ชอบเลย ไม่มีความสุขที่จะตื่นไปทำงาน ออกเลยก็ได้ หรือเราเป็นคนโชคดีที่เจอที่ๆเหมาะกับเรา ซึ่งบางคนอาจจะไม่ได้เจอ
อ่านแล้วรู้สึกดีใจด้วยมาก ๆ ค่ะ ที่เจอที่ที่ใช่สำหรับตัวเอง👍🏻
อ่านแล้วดีใจด้วยค่ะ ทางนี้ต้องทนเพราะ หนีเสือปะจะเข้ และไม่มีเงินหางานยาก ไม่ไหวจริงไปจะออก หลับไม่ลง ไม่อยากตื่นไปทำงานเลย
เมเนเจอร์เป็นตอนอายุเท่านี้ ถ้าเราอดทนเราจะเป็นเมเนเจอร์ที่อายุน้อยแต่เยอะประสบการณ์นะ อนาคตไกลกว่า เงินเดือนเยอะแต่อายุน้อย อนาคตเราจะทำง่าย อันนี้มองในอีกมุมหนึ่งนะ คนอื่นเป็นตอนอายุ 30 ส่วนคุณเอส เป็นตอนอายุ 25 ได้เปรียบ
คือ ถ้าเหล่า Old generations แฟร์เหมือนฝรั่ง ก็น่าเสี่ยงอยู่ แน่นิสัย พวก Old generationsที่นี่พอMistake ก็Blame แต่พนักงาน คือพวก Old generations ไม่เคยโทษว่ามันเริ่มมาจากตัวเอง คนแก่ที่นี่หลายคนยังเอาวัยมาตัดสินอยู่เลย
เด็ก เด็กมาก ตำแหน่งที่สูงความรับผิดชอบมันต้องสูงด้วย ไม่มีงานที่ชอบ ไม่มีความถนัดที่แน่นอน ไม่อดทนต่อแรงกดดัน ผิดที่บริษัทด้วยนะส่วนนึงที่มอบหมายงานและตำแหน่งที่ไม่เหมาะสมให้
แอบเริ่ดนะ แบบที่พี่เติ้ลบอก ก็แปลว่าศักยภาพเราต้องถึงนะ เค้าถึงเอามาเป็น manager เลย
อาจจะเหมาะกับการทำงานส่วนตัว เป็นนายตัวเองมากกว่า. ในมุมคนทำงานอาจจะไม่ผิดที่อยากเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเอง ใดๆคือไม่มีที่ทำงานไหนเฟอร์เฟคทำงานราบรื่นทุกอย่าง. ถ้ามุม HR คือไม่ได้ขี้แพ้ แต่แค่ไม่มีความอดทน หากมาทำแล้วเจอปัญหาอีกจะออกอีกไหม. ย้ายๆบ่อยๆไม่ผิด แต่จะกลายเป็นคนที่เจอปัญหาแล้วหนี ไม่กล้าเผชิญกับปัญหาได้.
คุณเอสคะเราเรียนจบ2ปี เปลี่ยนงานไป15งานแล้วค่ะ งานที่เราทำอยู่นี้งานที่15แล้วว อายุแค่นี้ยังมีทางเลือกอีกเยอะค่ะ
ที่2เนี่ยเสียดายแทนที่ไม่สู้ ส่วนที่3ถ้าออกคือเหมือนเดินลงบันไดในขณะที่จังหวะขึ้นมันมา บริษัทก็เรื่องมากไป เอาจริงแก้ไม่จบใน4เดือน แล้วเธอดูมั่นใจว่าทำได้ใน6เดือน ก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ มันมีขยะเน่าในแผนกตกค้างเยอะ บ.ก็ต้องรู้แหละ เป็นกำลังใจ
การเปลี่ยนงานบ่อยสำหรับเราไม่ได้มองว่าขี้แพ้ แต่บริษัทต่อไปเปอร์เซ็นมองเราด้านลบจะมีสูงกว่า จากประสบการณ์ที่ผ่านมา แต่ยังไงก็ขอให้คุณได้งานที่เหมาะสมกับตัวเองเร็วๆนะคะ😄
ใช่ ๆ เหมือนจะสงสัยว่าทำไมเปลี่ยนงานบ่อย มองแล้วก็เหมือนมีความเสี่ยง ถ้ารับเข้ามาอาจลาออกเร็ว
ผมเป็นอีกคนที่โดนให้มารับตำแหน่งเมเนเจอร์โดยที่ทำงานได้ไม่ถึงเดือน แถมไม่เคยมีประสบการณ์ด้านนี้เลย และผมก็คุยกับทางบริษัทตามตรงและทางบริษัทก็ยังให้เราทำ ผมก็ทำนะคับ ทำเท่าที่ทำได้ อันไหนไม่รู้ก็บอกไม่รู้ ผิดพลาดก็บอกตามตรงว่าไม่เคยมีประสบการณ์ แต่เขาก็เข้าใจนะคับ สำหรับผมนะคับโอกาสมาก็ต้องคว้าไว้ ต้องลองทำถึงจะรู้ว่าได้หรือไม่ได้ ชอบหรือไม่ชอบ ถ้าทำได้และชอบมันก็เป็นโอกาสที่ดีที่เราจะสามารถต่อยอดจากตรงนี้ได้คับ แต่ถ้าไม่ชอบเราก็ลาออกไปหางานที่เราชอบ แค่นั้นเองคับ!!!!! ต้องถามตัวเองก่อนว่าชอบหรือไม่ชอบ ถ้าไม่ชอบทนทำเอาประสบการณ์ไปก็ไม่มีความหมาย เพราะยังไงเราก็ไม่ชอบสายงานนี้อยู่แล้ว!!!!!
ไม่ผ่านโปรสักที่ ไม่แปลกที่ ในการสมัครงานใหม่ hr จะมองไม่ดี แล้วตีตก
เปลี่ยนงานเพื่อ career path = ผู้ชนะ
เปลี่ยนงานหนีเจ้านาย เพื่อนร่วมงาน = ผู้แพ้
ไม่ได้มองว่าขี้แพ้เลย มองว่าเป็นคนกล้าหาญ กล้าที่จะออกมาหาสิ่งที่ดีกว่า ✌️
คนด่ายังไงก็ด่า เราเคยได้ยิน ผอ.ด่าน้องอีกคน เรายืนเอ่อไปเลย ดีนะที่ไม่ได้ด่าเรา และด่าต่อหน้าคนเยอะมากกกก
บริษัทไหนคะ ออกแล้วบอกด้วยจะไปทำแทน พอดีอยากเป็นเมเนแต่ไม่มีโอกาส รับรองไม่บ่นงานหนักงานยาก
ภาษาอังกฤษ ยุคนี้ควรเสริมไว้ก็ดีนะคะ เราได้ภาษาจากการทำงานประจำ พอลาออกมาขายของ มันก็ช่วยเราได้อีกเยอะ ขายของให้FCดาราที่เป็นชาวต่างชาติได้ง่ายมากเลย
แล้วแต่นะ ถ้ามองเรื่องเงินเดือนก็ทำต่อไป
แต่ถ้ามองว่าจะเป็นการพัฒนาตัวเองก็เป็นประสบการณ์ชีวิต แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน
คนเปรี่ยนงานบ่อยมี2ประเภท 1.ทำงานเบื่อ ความรู้ตัน เบื่องาน อยากลองงานใหม่
2.อีโก้สูง
ส่วนในคลิปคืออัน 2
25 เป็น manager เคยทำงานมาแล้ว ที่ละ2ปี 2ที่ เริ่มงาน 21 จบอะไรครับเนี่ยไวมาก ชื่นชมๆ
เวลาทำงาน
มองที่เงิน 1
ประสบการณ์ทำงาน 2
ประสบการณ์ทำงาน และการแก้ปัญหา การรู้ทุกเรื่องรอบตัว จะพาคุณไปหาข้อ1เมื่อคุณรู้แก้ปัญหาได้ เงินจะมาหาเราเอง
การเปลี่ยนงานบ่อยไม่ใช่พวกขี้แพ้ ใครๆก็ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุด เพราะถ้าสู้ถึงที่สุดก็ต้องตัดสินใจ
คนขี้แพ้คือเมื่อพบปัญหาแล้วโทษคนอื่นแต่ไม่คิดที่จะดูว่าเราจะทำอะไรได้บ้างที่จะทำให้ดีขึ้นต่างหาก
ผมเปลี่ยนงานบอยมาก จนเจ้าหน้าที่ขึ้นทะเบียนคนว่างงานจำหน้าได้
ที่สำคัญ บริษัทไหนดี ก็เอามาเป็นประวัติ
บริษัทไหนไม่ดี ไม่น่าจดจำ ทำไม่กี่วัน หรือแค่2-3เดือน ก็ไม่ต้องใส่ให้เสียประวัติ
ช่วงที่กายไปก็บอกว่าช่วยงานทางบ้าน
อาจจะขายของหรือศึกษาหารวามรู้เพิ่มเติมก็ได้
ผมนี่เปลี่ยนงานมาเกือบ20ที่ได้แล้วมั้ง
ตั้งแต่ปี54หลังน้ำท่วมมา ไปมาหลาย
เจออะไรมามากมาย..
ใดๆคือ หางานเก่งมาก และต้องเป็นคนเก่งด้วยถึงจะได้งานไวขนาดนี้ คุณเก่งแค่อยู่ในที่ที่ไม่เหมาะกับคุณค่ะ ขอให้หาเจอไวๆน้า
อาจจะได้เพราะผ่าน recruiter ค่ะ
ไม่ถึงขนาดขี้แพ้หรอกครับ ลองคิดดู ถ้าทำเดือนละงาน จนอายุหกสิบ เราจะมีประสบการณ์การทำงานเยอะ(จำนวน)มากนะครับ 😁😁😁
😂😂😂😂
😁😁
ไม่ถึง เดือน ก็ออกแล้วค่ะ
@@francederin7528 แล้วคุณไปเสือกอะไรเรื่องของเขาครับแล้วเรื่องของเขาไปทำอะไรให้คุณเดือดถนัดจริงๆเรื่องซ้ำเติมคนอื่น
ออกเถอะ ไม่ต้องทำหรอก ที่ฟังมาที่ทำงานไม่ดีเลย เท่าที่ฟัง มาติเราด่าเราได้ไง
ที่ทำงานมีเยอะแยะ ไม่ต้องง้อ หาที่ที่ถูกใจแบบเต็มใจเท่าที่คุณต้องการ เลย เอสเอาเอสเป็นที่ตั้งเลย สบายใจเอสแน่นอน ที่ทำงานไม่ดี หัวหน้าก็ไม่ดี มาสร้างความเครียดเน้อะ
สงสารพี่หัวหน้าคนนั้นเลย บางครั้งเราถึงไม่อยากสอนงานใคร เขาน่าจะดันเธอ แต่เธอมองผิด
สมัยผมอายุ 25 เงินเดือนยังไม่ถึง 20,000 เลย ตอนนั้นปี 64 ครับ
อย่ากดดันตัวเองดีที่สุดครับ ไม่จำเป็นเลยที่ว่าอายุเท่านี้ต้องมีนั่นมีนี่ ถ้าคุณทำเป้าหมายที่วางไว้สำเร็จจริงแต่ต้องแลกมาด้วยสุขภาพจิตที่แย่ แบบนี้มันจะโอเคเหรอ ก็ไม่
ตำแหน่งผู้จัดการนี่น่าจะบริษัทขายประกันรึเปล่า เค้าจะเรียกว่าผู้จัดการแต่คือคนขายประกันนั่นแหละ แล้วต้องหาคนมาเพิ่มในทีมอีก บริษัทแย่มาก หาคนด้วยการตั้งระดับตำแหน่งสูง ถ้าระดับผู้จัดการบริษัททั่วไปไม่ให้ขึ้นตำแหน่งง่ายๆหรอกค่ะ อายุก็น้อย ประสบการณ์ทำงานยิ่งน้อยไปอีก สายงานที่ทำมาก็ไม่เกี่ยวกับการทำงานที่ทำอยู่ บริษัทขายประกันแน่ๆ
น่าจะเซลล์ขายอะไรซักอย่าง
ที่อื่นที่ให้ได้ เยอะ แต่ ประสบการ์ณ0 เงินที่เยอะขึ้น งานที่ยากขึ้น
ไม่ใช่ขี้แพ้ แค่เป็นคนที่ไม่มีคุณสัมบัติที่แมทกับโอกาส ถ้ายังคิดแบบนี้ โอกาสมันไม่เคยมาตอนที่พร้อม แต่ถ้าคุณปล่อยผ่านไม่รู้อีกนานแค่ไหนโอกาสจะกลับมา
ฉันผู้พบปัญหาในการทำงานมาตลอด
ที่ 1 ต่อสัญญาเดือน/เดือน ต้องมานั่งลุ้นทุกเดือนว่าจะได้ต่อสัญญาไหม ในขณะที่ทำงานมีพนักงานลาออก 10 คน ในระยะเวลา 6 เดือน
ที่ 2 ขายฝันสุดๆ พอทำๆตัวงานไปได้ 70% อยู่ดีๆก็หยุด เปลี่ยนชิ้นงานใหม่ เจ้าของบริษัทโดนโกง สรุป ล้มไม่เป็นท่า
ที่ 3 ทำงานไปแล้ว แต่งานเสีย แต่ในส่วนงานที่เสีย มันไม่ใช่ส่วนของเรา ส่วนของเราๆทำเต็มที่ สรุปเขาไม่จ่ายเงิน เราก็เลยไม่ไปทำ
ที่ 4 เลิกเกินเวลางานทุกวัน แต่ไม่มี OT แต่ทำงานพลาดปรับครั้งละ 1000 ในบริบัทคุกคามความเป็นส่วนตัวมาก บันทักเสียงพนักงานตลอด
ปัจจุบัน ไม่ทำงานบริษัทค่ะ ขายของ เป็นนายตัวเอง แฮปปี้
ไม่ใช่คนที่ขี้แพ้หรอก หรือจะเป็นแบบเราทนมา 7 ปี ปรับทุกอย่างแต่เพื่อนร่วมงานแย่มาก ผู้บริหารก็ตาบอด ใจบอด เราว่าปีนี้เราออกแล้วพอล่ะ เปลี่ยนงานเปลี่ยนที่ดีกว่า ก่อนเราจะสุขภาพจิตเสียกว่านี้ (อย่าบอกว่าไปที่ไหนๆก็เจอเพื่อนร่วมงานแบบนี้ เราว่าไม่จริง แต่ถ้ายังอยู่ที่เดิมเราได้ฆ่าตัวตายแน่)
แม่คู้นนน สู้ซักตั้งเถอะ ห่วงแต่เงินแล้วเมื่อไหร่จะได้ประสบการณ์
ไม่ใช่ขี้แพ้ เรียกว่าเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ ทำไมไม่คุยเรื่องงานให้ดีๆ ดูบริษัทให้ดีๆ ก่อนตอบรับงาน เค้าเห็น potential แต่ตัวเองน่าจะรักเงินเยอะงานสบาย...
ออกครับ อย่าไปทน ไม่มั่นคงอย่ากู้บ้านเด็ดขาด
อายุเท่ากันแต่เงินเดือนเยอะมากเลยนะตั้ง 35,000 นี่ก็เป็นเมเนเจอร์ แต่ไม่ผ่านโปรแล้วโดนต่อโปรไปอีก 3 เดือน
เหตุผลที่ไม่ให้ผ่านก็ไม่โปร่งใสอะ เราได้แค่ 17,000 เอง งานก็เครียด กลุ้มเลยจะหางานใหม่แต่ไม่รู้จะทำอะไรเพราะทำได้หมด
ตอบแบบไม่โลกสวย ไม่รู้หรอกนะว่าขี้แพ้มั้ย แต่เข้าของกิจการเขาก็ไม่อยากรับคนที่เปลี่ยนงานบ่อยๆ เขาไม่อยากต้องมาเทรนงานคนใหม่ ใครก็อยากได้คนทำงานยาวๆทั้งนั้น
อายุ25 เปลี่ยนงานมาเกือบ10ค่ะ😂
บุคลิกแบบหมาป่าเดียวดาย lonewolf
เหมาะกับทำงานส่วนตัว
ไม่เหมาะกับทำงานบริษัท
พี่ ๆ เขาตอบแบบนางงามแหละ
แต่จริง ๆ เขาไม่ได้คิดอย่างที่ตอบ
เพราะฐานช่องเขาคือเด็กจบใหม่
เด็กจบใหม่ ก็จะเป็นแบบนี้ เขาไม่พูดตรง ๆ
บางที คอมเมนต์ จะตรงไปตรงมากว่า
เยอะมากค่ะ ทางนี้ 34 ยัง 25 อยู่เลย
อยากได้เงินเยอะ แต่ความสามารถไม่ถึง
ควรมีธุรกิจเป็นของตัวเอง
เมื่อเขาให้ค่าตอบแทนสูงความคาดหวังจะสูง
น้องอาจจะไม่เหมาะกับการเป็นลูกจ้าง ละมั้ง
เรามีสิทเลือกนะคะะ แง้
คุณจจะรู้ได้ไงว่าที่อื่น เวลาทำจริงจะไม่กดดันเหมือนบริษัทนี้?
อันนี้ถามก่อนตัดสินใจ ตัดสินใจแบบไหนก็ได้ครับ ส่วนขี้แพ้ไหมเราว่าไม่ขี้เเพ้นะ สู้ๆครับ
เท่าที่ฟังมาคืนคุณหนีปัญหา ไม่แก้ไข ไม่เรียนรู้
ทำไมเราดูไม่ได้คะ
ไม่สามารถที่จะตัดสินได้เลยค่ะ มีแค่เราที่จะเข้าใจสถานการณ์ ณ จุดนั้นค่ะ
เราเป็นคนนึงที่เลือกงาน เปลี่ยนงานบ่อย เพราะไม่ใช่สิ่งที่เราชอบ ล่าสุดออกมาช่วยงานแม่ที่บ้านค่ะ สบายใจสุด 555
ปี65 ผมเปลี่ยนงานมา4ที่แล้วนะครับ
ไม่ถึง6เดือน คืออยูแล้วมันลำบากใจ
อึดอัดมากๆๆๆทำอะไรไม่ได้ซ่อมเครื่องจักรมันก็ต้องใช้เงิน แต่ถ้าไม่จ่าย เครื่องจักรก็รันไม่ได้..แล้วจะอยู่ทำไม...ไปทำงานที่อื่นดีกว่า
ถ้าพอใจเงินที่ได้รับ...ก็ทำไป
ตลก อยู่ระดับ เมเน ย้ายงานทุกเดือน เจอปัญหางานยากๆ ก็หนีอย่างเดียว ไม่เคยจะทำสักที ถ้างานมันง่าย เอาใครมาทำก็ได้ปะ
เราก็เปลี่ยนบ่อยนะ เพราะเพื่อนร่วมงาน เรารักงานนี้มากแต่เพื่อนร่วมงานคือนิสัยไม่โอเคเลยจนเราอึดอัด สุดท้ายก็ออกเพราะประสาทจะแดกก่อน😂
หยุดงอแง ไม่อ่อนแอให้คนในบ.เห็น อย่าเห็นว่าทุกอย่างเป็นปัญหาที่แก้ไม่ได้ หัวหน้าทุกคนไม่ได้ต้องการเห็นคนที่ทำได้เสมอไป เค้าอาจจะอยากเห็นคนที่พยายามจะจัดการสิ่งๆนั้น สุดท้ายมันเป็นเรื่องขององค์กร ถ้ามันจนปัญญาแบบเราทำทุกอย่างที่ทำได้แล้วจริงๆ หลังจากนั้นผู้ใหญ่จะยื่นมือเข้ามาช่วย // อีกเรื่อง เรื่องกู้บ้าน ประเด็นมันไม่ใช่แค่การอยู่ครบปีแล้วยื่นได้ มันคือความมั่นคงของเงินเดือน ระยะเวลาทำงาน ความมั่นคงขององค์กร หลายอย่างที่ธ.พิจารณา หลักๆตอนนี้คือ หางานที่มั่นคงก่อน หาองค์กรที่เราวางใจได้ แล้วสู้ค่ะ 555555
บางแบงก์ อายุงาน6เดือนก็กู้ได้นะ ลองดู
หางานเก่ง 🤔 หางานเหมือนล่าแต้ม ปัด tinder 😌 ก็เลือกที่ใช่แหล่ะ พอกู้บ้านได้ ออกไปไหนไม่ได้ล้ะ ต้องก้มหน้าก้มตา ทำไป 😶
คนขี้แพ้เท่านั้นที่บอกว่าคนอื่นเป็นคนขี้แพ้ เพราะงั้นอย่าไปสนใจคนขี้แพ้จ้า
ไม่เกี่ยวกับขี้แพ้ เทอมั่นใจตัวเองเกินไป งงคุนอยากได้เงินมากกว่า3หมื่น แต่พอได้เปนเมนิเจอ แต่เสือกไม่อยากรับผิดชอบ แต่อยากโต ตกลงคุนจะยังไงกับชีวิต
ตามกระทู้จากพันทิพ
ชีวิตของตัวเองมาได้ขนาดนี้ยังต้องถามคนอื่น อย่าสู้เลย ยังต้องะามคนอื่นกับชีวิตตัวเอง
ไม่ขี้แพ้ แต่สร้างภาระให้คนที่ทำงานงานที่นั้นต่อจ้า
24เงินเดือน4หมื่นคิดว่าน้อยมากๆไม่พอใช้จริงๆ
1. ก่อนจะข้ามไปเรื่องทนหัวหน้าด่าอย่างไร
ไม่มีใครถามเลยว่าโดนหัวหน้าด่าว่าอะไร
เป็นที่หัวหน้าไร้สาระจริงๆ หรือเราทำงานไม่ได้ตามที่คาดหวังจริงๆ?
2. ควรมองว่าขี้ที่คนเก่าทิ้งไว้ คือโอกาสชั้นดีที่เราใช้สร้างผลงานได้อีกมากมาย
กูอยากให้รายการนำเจ้าของกิจการมาคุยในสายด้วยจัง หงุดหงิดชิปหาย
ออกเถ