ผม Gen x รอยต่อมันมีทุก Gen แหละ ต้องค่อยๆปรับตัว ผมเชื่อว่าคนรุ่นใหม่เมื่อผ่านไปสักระยะก็ปรับตัวได้ ตอนผมทำงานจบใหม่ๆ อยู่ในช่วงรอยต่อระหว่าง Analog ไป Digital ยุคที่ตอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต เริ่มเข้ามามีบทบาท ตอนนั้นก็ปรับตัวอยู่พักใหญ่ เพราะในมหาลัยยังไม่มีสอน คนรุ่นก่อนผมที่ไม่ยอมปรับตัวก็ถูกบีบออกกันเยอะ ตอนรับลูกน้อง Gen Y ก็มีบ้างเรื่องตวามอดทน ปัจจุบันผมก็ทำงานกับ Gen Z ก็มีปัญหาบ้างแต่ก็ไม่มากเราก็ปรับตัวเข้าหาเขาด้วย ที่สำคัญเด็กรุ่นใหม่ก็มีมุมมองใหม่ๆ ในเนื้องานที่นำเสนอมา มันทำให้เราตื่นตัวตลอด ผมว่ามันดีนะถ้าเราเปิดใจรับฟังเขา ............เป็นกำลังใจให้น้องๆทุกคนครับ..
เป็น gen X ไม่เคยใช้คำว่า "เด็กสมัยนี้" กะใครเลย แต่ปัญหาคือรุ่นใหม่ๆมักละเลยระเบียบปฏิบัติหลายๆอย่างที่เป็นข้อตกลง และมีข้อเรียกร้องใหม่ที่เกินข้อตกลงอยู่ตลอดในที่ทำงาน มันถึงได้เกิดปัญหา
เราก็เจน y ค่ะ ช่วงท้ายๆก่อนยุคเน็ตแพร่หลาย จะบอกว่าพวกเด็กเจน z เนี่ยมีมันปัญหาจริงๆ เพราะตามันเอาแต่มองจอ เลยขาดทักษะหันซ้ายหันขวามองชาวบ้านเขา ข้อมูลข่าวสารเท็จก็เยอะไปหมดเลยขาดทักษะคิดวิเคราะห์แยกแยะ แล้วเจน z นี้เป็นเจนแรกที่อยู่ในยุคจอเต็มตัวมันเลยไม่มีบทเรียนในการใช้ชีวิตอะไรเลย แต่เจน alpha มันมีบทเรียนละไงพ่อแม่เจน y ก็มักจะสอนแบบยุคสมัยตัวเองไม่ให้เล่นจอมาก คิดว่าจะมีปัญหาอีกทีคงรุ่นลูกของเจน z นั่นแหละอยู่ที่พ่อแม่เจน z ว่าจะสอนลูกยังไงต่อ
เด็ก Gen นี้อายุยังน้อยพ่อแม่ยังไม่เกษียณทำเก่งเป็นธรรมดาเพราะยังมีผู้ปกครองคอยสนับสนุน เดี๋ยวรับภาระแบบเต็มตัวเมื่อไหร่ก็แล้วยังเป็นแบบนี้อยู่ค่อยไปว่ากันตอนนั้นก็ได้ยังไม่สายให้เวลาน้องมันหน่อย
ตอนนี้กำลังเจอปัญหาเลยเด็กเจน Z ไม่ค่อยฟังคำสั่งชอบทำอะไรทางรัดอยู่ตลอดจะไล่ออกก็ไม่ได้ ส่วนผมเจน Y ก็ค่อยโดนด่าต่อไปเพราะน้องเจน Z ชอบสร้างปัญหาคิดว่าทำถูกทุกอย่าง 😢
ผมว่าเจน Y นี่น่าสงสารที่สุด เพราะใกล้ชิดกับเจน Z จะว่าเข้าอกเข้าใจกันเพราะอายุห่างกันไม่มากก็ไม่แปลก แต่ปัญหาหลักที่เห็นก็คือการที่ต้องคอยประสานงานระหว่างเจน Z กับ เจนอื่นๆนี่แหล่ะ เป็นเรื่องน่าปวดหัวที่สุด
สกิลเฉพาะทางน้องๆgen zจะเก่งมาก ส่วนตัวเป็น gen y ก็เห็นความสามารถน้องๆเยอะกันจริงๆ แต่สกิลการเข้าสังคมบางคนไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ อาจจะเพราะวัยมหาลัยที่ควรได้ปรับตัวทำงานกับคนหมู่มากเจอโควิทมีแต่เรียนออนไลน์ ตอนนี้ส่วนที่ยากที่สุดของการทำงานคือต้องเป็นตัวเชื่อมคนbaby boomer gen x เข้ากับ gen z ชั้นเหนื่อยค่ะคุณพรี่
ผมเป็นคน Gen x เป้นพ่อของเด็ก Gen z ถ้าพูดกันถึงเนื้องาน เด็กรุ่นนี้ล้ำหน้าแน่นอน หาข้อมูลเก่งเชื่อมโยงข้อมูลได้เร็ว ผมคิดว่าเด็กรุ่นนี้เหมาะกับงานทางด้านต่างประเทศ หรืองานที่ต้องใช้เทคโนโลยีมากกว่าทำงาน routine เด็กเกาหลี ญี่ปุ่น สิงคโปร์ บินกันให้ว่อนทั่วโลก เด็กไทยบางกลุ่มที่มีคุณภาพก็เริ่มบินกันบ้างแล้ว พอได้สัมผัสกับเด็กลุ่มนี้แล้วรู้สึกว่าล้าหลังพวกเขาไปมาก โดยสรุปธุรกิจขนาดเล็กไม่เน้นอะไรมาก จ้าง Gen B หรือ Gen X ก็พอ บริษัทข้ามชาติหรืองานที่ต้องใช้สรรพวิทยาควรจ้าง Gen z แล้วให้ Gen B/X ที่เก่ง ๆ มีการศึกษา มีวิสัยทัศน์เป็นพี่เลี้ยงในเบื้องต้น แล้วไปทำ Manual วางแผนขยายธุระกิจตามประสพการณ์ โดยอาศัยการค้นหาและการเชื่อมโยงข้อมูล และความคิดสร้างสรรค์จาก Gen z เห็นพูดกันจังเด็กไม่เคารพผู้ใหญ่ ต้องมองกลับไปว่าทำตัวอย่างไรเด็กจึงไม่เคารพ ตรงนี้พูดถึงกลุ่มเด็กดีนะ เพราะเด็ก Gen Z ก็มีหลายเกรด อยากได้เกรดดี ก็ต้องจ่ายแพงจะได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า และไม่ปวดหัว
ผมก็อนู่ใน gen นี้ครับ ละคน gen นี้ก็ไม่ค่อยอยากยอมรับว่ามันคือเรื่องจริง เเต่ดูจากที่ทำงานเวลางานมีปัญหาต้องตามตัว โดนไล่ออก มันคือ gen นี้เป็นสวนใหญ่จริง เลวดีมีทุก gen ครับ เเต่ gen นี้โดนติงมาเยอะสุดละมันไม่ค่อยจะเเคร์อะไรด้วยนะ โดนหักเงินละมาว่าคนหักอีก
ผมว่าเจน z จะเป็นเจนที่เข้ากับรุ่นน้องได้ดีกว่าเจนอื่นๆเลยนะเพราะไม่ค่อยแบ่งชนชั้น ส่วนเจน x จะเป็นเจนชอบประจบรุ่นพี่มากกว่าและชอบให้เด็กมานอบน้อบ ซึ่งน่าจะเป็นเจนที่อยู่ยากสุดในยุคทั้งตอนนี้และในอนาคตแล้ว เพราะเวลาผ่านไปคนเจนเก่ายิ่งแก่ลงขึ้นทุกวัน มีแต่เจนเด็กๆที่จะโตขึ้นและ แข็งแกร่งขึ้น
บุคคลที่ให้กำเนิด gen Z คือ gen...? บุคคลที่สั่งสอนให้ gen Z เติบโตมาจากโรงเรียนจนเป็นผู้ใหญ่เป็นคน gen....? เราจะว่าคน gen Z ก็คงเหมือนกับว่าตนเองหรือเปล่าครับ...555😆😆😆
มุมมองส่งนตัวของผมที่เป็น gen y เป็นที่ Gen ❌ เป็นที่ตัวบุคคล ✅ ไม่ว่าจะ toxic, positivity toxic, egotistical, unhinged มีให้เห็นทุก gen. หลบได้หลบ บุคคลพวกนี้ไม่มีคุณค่าพอให้มานั่งเสียเวลาทำงานด้วย
ทั้งนายจ้าง ลูกจ้าง ต่างก็ต้องปรับ บริษัทไหนที่จะไปต่ออีกหลายๆ ปี ก็ต้องเจอ gen นี้ และ gen ถัดๆ ไป เว้นเสียแต่ว่าจะพอใจให้บริษัทจบอยู่ในช่วงชีวิตของตัวเอง เราคงได้เห็น gen z ส่วนน้อยหละมั้ง เราไม่เจอปัญหาการเข้าสังคมของ gen z เลย มารยาทดี ไปลามาไหว้ ทักทายตลอด แต่จะเจอปัญหาทักษะการทำงาน ดูเหมือนว่า สิ่งที่ gen z เรียนมา กับสิ่งที่เราเรียนมามันต่างกัน แล้วบริษัทก็ยังไม่ล้ำขนาดนั้น บางทีตั้งแต่ gen z ลงมา ส่วนใหญ่ อาจไม่เหมาะกับงานเอกสาร งานออฟฟิศ เพราะเขาไม่เคยเขียนเรียงความ ไม่เคยทำรายงาน ไม่ได้ใช้ word excel เขาเรียนแต่การทำสื่อ ทำคลิป เขาไม่สามารถสรุปข้อมูลในรูปตาราง ไม่สามารถการอธิบายข้อมูลในตารางได้ แล้วก็มีปัญหาเกี่ยวกับการใช้ภาษาไทย ในเรื่องการเว้นวรรค ตัดคำ เราไม่หวังการไหว้ การทักทายอะไรหรอก เราเน้นเรื่องงานมากกว่า ส่วนเรื่องสอนแล้วไม่จำ จบ ป.ตรี แต่ไม่มีความรู้ที่จบมา gen y ก็เป็น สิ่งที่เราไม่คาดคิดมาก่อน คือ การใช้ภาษาไทยไม่คล่อง การสรุปข้อมูลไม่ได้ อธิบายข้อมูลในตารางไม่ได้ ใช้ word excel ไม่คล่อง
gen z โตมาโดยมีสิ่งที่คนยุคก่อนทำไว้ให้ ก็หลงคิดว่าชีวิตมันง่าย แค่ทำแบบนี้แบบนั้นก็จะได้เลย แต่พอได้ออกมาเผชิญโลกเองจริงๆ ชีวิตมันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดเลย ต้องอาศัยความอดทนมากๆ ซึ่งทำให้ gen z รับไม่ได้ เพราะคุ้นเคยกับการเอาแต่ใจตัวเองเสมอมา
ผมว่ามันไม่ได้เกี่ยวกับ gen อะไรหรอก มันขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม การอบรม และ โอกาส ถ้าเขาได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี อบรมและสภาพสังคมที่ไม่ toxic แข่งกันกดหัวทีบคนอื่นเพื่อไปสูงขึ้นโดยไม่สนใครข้างหลัง พร้อมโอกาสเล็กๆน้อยๆที่ให้เขาได้ลองแสดงฝีมือหรือความถนัดออกมา บางทีเขาอาจทำบางอย่างได้โดยที่คนอื่นไม่คาดคิด สิ่งที่ทำให้แต่ละ gen แตกต่างมันก็แค่ประสบการณ์กับโอกาสต่างๆ อย่างรุ่นพ่อแม่เราบางที่ไม่มีเน็ตจะหาอะไรก็หาจากห้องสมุดเอา แต่รุ่นสมัยใหม่ของเรา แค่เปิดมือถือก็รู้แทบทุกอย่าง นี้เหละคือความต่างของโอกาส สุดท้ายผมที่ก็แค่คนๆหนึ่งในตอนนี้ ผมไม่แคร์หรอกว่าคุณเกิด gen อะไร ที่สำคัญคือคุณอยู่รวมกันกับคน gen อื่นได้ไหม จริงๆมันไม่ต้องมีก็ได้ gen x y z อะไรเนี่ยสุดท้ายมันก็แค่เรื่องของวัยที่แตกต่าง ผมอาจคิดมากแต่การแบ่ง gen มันทำให้รู้สึกแปลกแยก เหมือนเวลาคนบอก gen z ไม่อดทดสู้ gan y อะไรแบบนี้ มันทำให้คนมองหน้ากันไม่ติด เพราะใครไม่รู้ไปตราหน้ามาแล้วว่า gen z มันแย่!! มีแต่ข่าว gen z เสียๆหายๆ แล้วไม่ออกข่าวมาบ้างละ gen z ทำงานแล้วปกติทำได้ดี จริงๆเพราะถ้ามันทำงานได้ปกติก็คงไม่เป็นข่าวใช่ไหมละ ภาพลักษณ์มันเลยพังไปหมด ผมอาจโลกสวยไปจริงๆอย่างที่คนอื่นชอบว่าผม แต่ถ้าเป็นไปได้ ก็ช่วยหยุดเหมารวม gen ว่าปัญหามีอย่างโน้นนี้ได้แล้ว มันไม่ต่างกับคนคุยเสียงดังในห้อง 4จาก 10คน แล้วครูมาบอกนักเรียนห้องนี้คุยเสียงดังเลย
และก็ชอบสอนรุ่นพี่ทำงาน แต่ตัวตัวเองไม่มีผลงานเพราะว่าไม่มีประสบการณ์ มั่นใจและอวดเก่งคือที่หนึ่ง
@@MAV511 เผลอๆ มันขี่คอเลย 🤣🤣 พอมีปัญหามา เฮ้ออ.. ไม่พ้นกู. ( บอกมึงแล้วววว แต่รั้นฉิบ.... แล้วพาเพื่อนๆซวยไปด้วย )
เห็นด้วย 1
เห็นด้วย
สมองช้า เด็กมันเลยหงุดหงิดป่าว
ใช่ครับ
ส่วนตัวเราอายุ 40 แล้ว ในที่ทำงานมีเด็กอายุ 23 สิ่งที่เจอและพบบ่อยมากๆ คือดื้อรั้น ไม่มีมารยาท เคารพสิทธิของตัวเองเป็นใหญ่ แต่ละเมิดสิทธิ์ของผู้อื่น สิ่งที่เราคาดหวัง ตอนรับน้องๆเข้ามา คือมาช่วยแก้ปัญหาไม่ใช่มาสร้างปัญหา ค่ะ
องค์กรส่วนมาก ไม่ชอบ Gen Z แต่คุณสมบัติรับอายุไม่เกิน 30 ปี 😅
ย้อนแย้งดีนะ
จริงค่ะ แล้วสรุปเขาจะเอาคนเจนไหนก่อน555555
จริงที่สุด
@@Miwyu เอาคนเจนจัดครับ😅
ได้เจน M (เมียนม่าร์) 😊😊😊
เด็กยุคนี้น่าสงสารครับ โตมากับความง่าย ความสะดวก ทำให้ความอดทนต่ำ วิธีแก้คือ ต้องสร้างสถาบันที่ละลายพฤติกรรมเหล่านี้ 1.สอนวินัย 2.สอนจริยธรรม 3.สอนให้รู้จักมารายาทสัมคม
ที่เจอๆเขาเก่งในการแย่งชิงตัดหน้าฉวยโอกาส (แบบผิดๆ โยนความผิดให้เพื่อนๆ พี่ๆ)ลอกเก่งแต่ติดขี้เกียจ
@@paulz8864 แก่มีวุฒิภ่วะแต่ดันโทษแต่เจน อดทนต่ำหรือเพราะไม่ทนความtoxic? เจนแก่ๆที่โตมากับการกดขี่ เหลื่อมล้ำละต้องอดทนนั่นไม่เรียกว่าอดทนนะเรียกว่าหมอกราบ for survival วินัย จารยธรรม มารยาทเชื่อว่าเด็กยุคใหม่มันรู้ตักและมี คนยุคคุณที่มาจากสังคมที่ไม่รู้จักการต่อคิวช่างกล้าไปสอนมารยาทเด็กเนอะ พูดมามีแต่ข้ออ้างให้เจนตัวเองดูวิเศษ น่าสงสารพวกเจนเก่าที่แนวคิดไม่อัพเดตอยู่ได้เพราะกดเจนอื่น
จริง ความอดทนตำ่ โดนกดดันหน่อย ก็ออก …
@yuisirinyah5422 กดดันให้ออกแปลว่าอยากให้ออกไม่เหมิอนเจนคุณนิยอมให้กดขี่เหยียดแลกกับการไม่ออก ถถถถถถถ กาก
เกินในช่วงที่อะไรก็สะดวกสบายไปหมด มีการเปลี่ยนอะไรหลายอย่างอย่างรวดเร็ว ทำให้เด็กเจนนี้ ความอดทนน้อยเวลาเจองานหนัก ต่อให้งานเบาก็ยังเป็นเจนที่เบื่ออะไรง้าย ต้องหาอะไรใหม่ๆทำอยู่ตลอด ทำให้เปลี่ยนงานบ่อย และอีก108พันประการ
ที่พบเจอคือ เจนz มีปัญหา eq เหมือนจะดีแต่ไม่ดี ตรงที่ไม่มีประสบการณ์แต่ดื้อรั้นจนผิดพลาด แล้วใช้วิธีไม่มาทำงาน ลาออกแบบหนีหาย เพื่อแก้ปัญหา เพื่อนเจอหลังสุดลูกน้องทำงานทีมพัง โดยการส่งงานช้า ตามเท่าไหร่ไม่ส่ง ทำให้ทีมที่เหลือต้องรีบทำงานส่วนนั้นแทน บริษัทก้อต้องเปิด ot ทั้งที่ตอนแรกไม่จำเป็นต้องเปิด ot และพอรู้ว่าตัวผิด หายออกจากบริษัทเอง เนื่องจากจบใหม่ เลยยังหาที่ใหม่ง่าย และประวัติการทำงานยังไม่ค่อยมี
บางคนหายไปก่อนครบทดลองงาน บอกว่าจะออกไปทำ affiliate ก้อเลยไม่ได้รั้งอะไร ผ่านไป 2 เดือน ขอกลับมาสมัครงานใหม่ เลยไม่ได้รับแล้ว😅
วันประชุม ให้ส่งงานหนีลาป่วย
จะสอนงานก็ไม่ฟัง พอให้ทำก็ทำไม่เป็น ตามจี้งานก็ไม่พอใจ แค่การทักทายกันปกติสวัสดีในที่ทำงาน ชอบคิดว่าเป็นการกราบไหว้บูชา แค่มารยาทพื้นฐานก็ไม่เข้าใจ อ้างตัวเองเป็น introvert แค่ feedback จากคนในที่ทำงานแต่ละฝ่ายเขายังส่ายหัว เขาไม่อยากปล่อยไปเจอลูกค้าหรอกครับ เสียงานเปล่าๆ
อย่าให้ความสำคัญแค่เรื่องการทักทาย เพราะบางคนก็ไม่ได้น่าทัก สื่อสารแค่เรื่องงานก็พอ สันดานแต่ละคนมันไม่เท่ากัน
มันได้แต่ก้มหน้าสไลด์จออย่างเดียว เลยส่งคืน สนญ. ให้มันไปรวมกลุ่มกะเพื่อนมันไปขายลูกชิ้นหน้าโรงเรียนเก่าพวกมันโน้น.
เจนนี้ตัดไปเลยครับ.ส่งคืน HR.สนญ. ไม่ต้องบรรจุ ( ปล่อยไปรวมกลุ่มกะเพื่อนมันไปขายลูกชิ้น หนมปังกาแฟหน้าโรงเรียนนู่น)
จริงมาก 555
@@beliveth37 เก่งแต่ในจอ เป็นมนุษย์เอนดรอยท์ แต่เป็นภาระเป็นปัญหาในที่ทำงาน ก็ทิ้งมันไปที่อื่นเถอะครับ.
1.เห็นด้วยเรื่องอารมณ์ และ
ไม่มีมารยาท ของเด็กจบใหม่
2.คิดและแก้ไขปัญหาไม่เป็น
3.ทำงานไม่เป็น
เนื้องานต้องเขียนโค้ด
แต่เขียนไม่ได้
4.ตอนสัมภาษณ์
ถ้าทำข้อสอบเกี่ยวกับเนื้องานได้
ก็ให้ผ่าน
แต่คือทำอะไรไม่ได้
ไม่มีความรู้ แต่ขอโอกาส
5.ตอนประเมิน ไม่มีผลงาน
แต่ขอให้เซ็นไม่ผ่านโปร
6.ชอบว่าผมทอกสิค
ใครกันแน่ทอกสิค
ผมแบกงานคุณไว้
และต้องทำงานตัวเองด้วย
ผมทำงานแลกเงิน
ถ้าผมทอกสิค
คุณก็ทอกสิคกว่าผม
เพราะคุณทำอะไรไม่ได้
และนั่งรับเงินเดือน
สรุปเด็กใหม่ทอกสิค
ปล ต้องการคนทำงาน
ไม่ใช่มาแปบนึงแล้วไป
ต้องสอนงานบ่อยๆ
มีแต่กะลาแลนที่คิดแบบนี้พวกสลิ่ม
เด็กรุ่นใหม่ชอบเก่งวาจาจี้ใจคนนั้นตนนี้ ชอบหาว่สริดรอนสิทธิ์ ทั้งที่ทำเพื่อตัวเอง เเละริดรอนคนอื่น
ถึงจะไม่ใช่เด็กรุ่นใหม่แต่การเสนอข่าวในมุมมองนี้ดูโจมตีเด็กไปหน่อยนะ มันควรมีข้อมูลในหลายๆแง่มาอธิบาย สุดท้ายไม่ว่าจะgenไหนก็ไม่ได้ทำงานสมบูรณ์กันทุกคน
ผม Gen x รอยต่อมันมีทุก Gen แหละ ต้องค่อยๆปรับตัว ผมเชื่อว่าคนรุ่นใหม่เมื่อผ่านไปสักระยะก็ปรับตัวได้
ตอนผมทำงานจบใหม่ๆ อยู่ในช่วงรอยต่อระหว่าง Analog ไป Digital ยุคที่ตอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต เริ่มเข้ามามีบทบาท
ตอนนั้นก็ปรับตัวอยู่พักใหญ่ เพราะในมหาลัยยังไม่มีสอน คนรุ่นก่อนผมที่ไม่ยอมปรับตัวก็ถูกบีบออกกันเยอะ ตอนรับลูกน้อง Gen Y ก็มีบ้างเรื่องตวามอดทน
ปัจจุบันผมก็ทำงานกับ Gen Z ก็มีปัญหาบ้างแต่ก็ไม่มากเราก็ปรับตัวเข้าหาเขาด้วย
ที่สำคัญเด็กรุ่นใหม่ก็มีมุมมองใหม่ๆ ในเนื้องานที่นำเสนอมา มันทำให้เราตื่นตัวตลอด ผมว่ามันดีนะถ้าเราเปิดใจรับฟังเขา
............เป็นกำลังใจให้น้องๆทุกคนครับ..
ผมger ชีโร่ยุค2000ปียุคสามก้กอยุ่สบายๆๆ
✔️👍
Gen X เป็นเหมือนตัวประสานระหว่าง ยุคเก่า กับยุคใหม่ จะสัมผัสเข้าใจได้เกือบๆ ทุกรุ่น จึงเป็นดุจตัวแบกของทั้งสองฝ่าย เมื่ออยู่ตรงกลาง คือคนที่ปวดขมับมากที่สุด ซึ่งผมก็รุ่น X นี่ล่ะ ทุกวันนี้ มองเป็นความท้าทาย ที่จะเป็นวุ้นแปลภาษาให้ทุกๆ ฝ่าย เข้าใจซึ่งกันและกัน ซึ่งมันเหนื่อยจริงๆ นะ 😵💫😵💫
@@romsairakkhong7226 มันคือยุคที่เปลี้ยนผ่านทุกอย่างแบบชัดมากจริงๆ ผมทำอาชีพโฆษณา
Layout เมื่อก่อนจะใช้การวาดรูปซึ่งมีตำแหน่ง Visual โดยตรง
ขั้นตอน Production ก็เปลี่ยนจาก ฟิล์ม มาเป็นดิจิตอล
Artwork, จากสั่งตัวเรียงแล้วไกด์สีกำกับ ก็มาจัดหน้าบนคอมฯ (แรกๆจัดด้วยเครื่องแมคฯจอขาวดำ HD 20 mb เองมั้ง5555)
งานสื่อก็เริ่มมี online เข้ามา
เพจเจอร์ก็พึ่งเริ่มมี หลังจากนั้นไม่นานมือถือก็ค่อยๆ แพร่หลาย (ซึ่งตอนนั้นผมเบื่อมากเพราะเจ้านายเริ่มโทรจิกงานได้)
ฯลฯ
ช่วงหลังๆ เทคโนโลยีไปเร็วมากๆ ก็ได้ Gen ต่อๆ มานี่แหละอัผเดทข้อมูลให้ เพราะบางทีเราเป็นหัวหน้า งานมันเยอะตามกระแสทันบ้างไม่ทันบ้าง
จริงๆมันต้องประสานกันครับ ประเทศถึงตามโลกทัน แต่เจ้าของเงินเข้ามีแนวทางแบบเก่า
[ตัดคำว่า เก่ง กับ ไม่เก่ง ออกไปก่อนเลย]
สิ่งที่พบ คือ เด็ก Gen Z #ส่วนใหญ่ มีปัญหาในการทำงานร่วมกับผู้อื่น ขาดจิตวิทยาในการทำงาน
ในอดีตเด็ก Gen ก่อน ๆ ที่เข้าไปทำงานในที่ทำงาน หลายคนก็รู้ว่า คนรุ่นเก่า ยังมีปัญหาในการทำงานปรับตัวตามสมัยได้ช้า แต่ Gen เหล่านั้นก็มีความอดทนและมีทักษะในการโน้มน้าวให้คนรุ่นเก่า เห็นคล้อยตามและพัฒนาร่วมกันได้ แต่ Gen Z แทบไม่มีทักษะในการปรับตัวและโน้มน้าวคนอื่นเลย #ฟังน้อย #คิดการไกล ทั้งที่ยังไม่เข้าใจเบื้องลึกเบื้องหลังหรือศักยภาพขององค์กรด้วยเซ้ำ
เอะอะ มันกดไลน์
ผิดล้ะ GenZส่วนใหญ่ไม่ยอมโดนเอาเปรียบต่างหาก ถ้าเจออะไรที่ไม่แฟร์ คือพร้อมสู้เลย ที่เห็นGenZตกงานก็เพราะไม่ชอบถูกใครเอาเปรียบเฉยๆ เลยลาออกเป็นว่าเล่น เหตุผลคือ งานหนัก วันหยุดน้อย โดนใช้บ่อย เป็นต้น ซึ่งGenYลงไปจะเป็นสังคมที่ถูกสอนมาให้เคารพผู้ใหญ่ จึงไม่กล้าเถียงใคร แต่GenZเติบโตในยุคที่เริ่มมีเทคโนโลยีเข้ามา ได้เห็นได้ฟังสิ่งต่างๆใหม่ๆ จนเกิดความคิดแบบสมัยใหม่ขึ้นมา
@@sym3802 เป็นเหตุผลที่เด็กน้อยกะโหลกกะลามากครับ มันไม่มีใครเอาเปรียบคุณหรอก คุณสมัครเข้าไปทำงาน คุณรู้ถึงสิทธิ์พื้นฐานอยู่แล้ว ว่าคุณต้องทำงานกี่ชั่วโมงต่อวัน ได้เงินเดือนเท่าไหร่ มีหน้าที่อะไร (ไม่ชอบก็อย่าสมัคร)
กรณีที่สมัครเข้าไปแล้วงานไม่เป็นไปตามเงื่อนไข ก็มี 2 แนวทางให้ดำเนินการ กรณีขัดกับกฎหมายก็ไปฟ้องร้องดำเนินคดีนายจ้าง กรณีที่ไม่มีสิทธิ์ฟ้องร้องเพราะไม่ผิดกฎหมาย แต่ไม่ถูกจริต ก็แค่ลาออกไปลงทุนทำธุรกิจเป็นของตัวเอง แล้วก็เปิดรับ Gen Z เข้าไปทำงานเยอะๆ เดี๋ยวแป๊บเดียวก็รู้เรื่อง
พอไปลงทุนเองก็จะรู้ว่า มันไม่มีใครเอาเปรียบหรอก เพราะคนลงทุนทุกคนเขาพยายามมองหาจุดที่ไปรอดเสมอ แต่ถ้า Gen Z มีปัญหาเยอะ ธุรกิจจะไม่รอดเขาก็ไม่เอาเหมือนกัน เพราะเวลาขาดทุน ลูกจ้างมันไม่ได้ขาดทุนด้วย เวลาล้มละลายนายจ้างหมดตัว ลูกจ้างแค่หางานใหม่ มันแบกรับภาระหน้าที่และความเสี่ยงไม่เท่ากัน
@@nattaphonhongmanee3239 จะเอาเปรียบหรือไม่ก็ช่าง แต่ละคนมองไม่เหมือนกัน บางคนหัวอ่อนไม่รู้ว่าโดนเอาเปรียบก็มีเยอะแยะ 🙂↕️ แล้วก็อีกเรื่องคือวัฒนธรรมองค์กรที่ล้าหลัง เช่น งานสายการบินในประเทศไทย เป็นต้น เขาก็แค่ลองไปทำงานนั้น ทำแล้วไม่ถูกใจก็ออก หาใหม่ จบ
@@sym3802 ก็อย่างที่บอก ถ้าหัวแข็ง เก่งทุกอย่าง แนะนำเปิดบริษัท ทำธุรกิจตัวเอง แล้วก็รับแต่ Gen Z เข้าทำงาน ประสบความสำเร็จเมื่อไหร่บอกด้วย แต่ถ้าปีเดียวเจ้งก็ไม่ต้องแปลกใจ
ผม gen y นะ ไม่แน่ใจว่า gen z มันแย่จริงๆหรือเป็นเพราะเป็น gen แรก ที่รุ่นพี่มันใช้โซเชียลเป็นกันเกือบทุกคน เลยโดนบ่นถึงมาก
อยากลองถาม gen ก่อนๆ ว่าตอนที่ gen y เข้าสู่ตลาดงานใหม่ๆ ไม่มีประสบการณ์เลยมันเป็นยังไง
คือยังไม่อยากปักใจเชื่อกระแสพวกนี้เพราะทุกรุ่นโดนคำว่า "เด็กสมัยนี้" กันมาหมด
อีกอย่างนะ ด้วยความเด็กอ่ะ ความเลือดร้อน ความไม่กลมกล่อมมันต้องมี แต่สิ่งที่รุ่นก่อนๆต้องมีมันคือ "วุฒิภาวะ" เราต่างหากที่ต้องเริ่มใช้วุฒิภาวะก่อน ให้เด็กมันเห็นคุณงามความดีของการอยู่มานาน ไม่ใช่ไป childish แข่งกับเด็ก
ตอนเด็กก็คิดงี้จริง แบบ เออพี่ มีประสบการณ์มากกว่า แต่พี่ก็ไม่ได้รู้ หรือเข้าใจทุกอย่างถ่องแท้ปะวะ ค่อยๆคุยค่อยๆฟังกันและเข้าใจกันก็ได้นี่ ไม่ใช่โต้แย้งนิดหน่อยทำเป็นเปราะบาง หาว่าอวดดี แล้วแก่กว่าไม่ได้หมายความว่าไม่ต้องมีมารยาทในการพูดจาเนอะ
กล่าวคือ รุ่นพี่ที่ทำตัวเองได้ดีอยู่แล้วจะไม่ค่อยมีปัญหากับรุ่นน้องนะแล้วจะไม่ค่อยมีคำว่า "เด็กสมัยนี้" ด้วย
เป็น gen X ไม่เคยใช้คำว่า "เด็กสมัยนี้" กะใครเลย แต่ปัญหาคือรุ่นใหม่ๆมักละเลยระเบียบปฏิบัติหลายๆอย่างที่เป็นข้อตกลง และมีข้อเรียกร้องใหม่ที่เกินข้อตกลงอยู่ตลอดในที่ทำงาน มันถึงได้เกิดปัญหา
คุณต้องได้เจอกับตัวเองแล้วจะเข้าใจว่า gen z เป็นยังไง
@@พยอมโพธิแสนผมว่ามันไม่เกี่ยวว่าจะอยู่เจนไหน มันอยู่ที่นิสัยสันดานคนล้วนๆครับ
เราก็เจน y ค่ะ ช่วงท้ายๆก่อนยุคเน็ตแพร่หลาย
จะบอกว่าพวกเด็กเจน z เนี่ยมีมันปัญหาจริงๆ เพราะตามันเอาแต่มองจอ เลยขาดทักษะหันซ้ายหันขวามองชาวบ้านเขา ข้อมูลข่าวสารเท็จก็เยอะไปหมดเลยขาดทักษะคิดวิเคราะห์แยกแยะ
แล้วเจน z นี้เป็นเจนแรกที่อยู่ในยุคจอเต็มตัวมันเลยไม่มีบทเรียนในการใช้ชีวิตอะไรเลย แต่เจน alpha มันมีบทเรียนละไงพ่อแม่เจน y ก็มักจะสอนแบบยุคสมัยตัวเองไม่ให้เล่นจอมาก คิดว่าจะมีปัญหาอีกทีคงรุ่นลูกของเจน z นั่นแหละอยู่ที่พ่อแม่เจน z ว่าจะสอนลูกยังไงต่อ
@@Alohak ก็อย่างที่บอก เป็นGen X ทำงานมาทั้งกับ gen BB , X ,Y ก็ดูตามสถิติค่ะว่ากลุ่มไหนมีปัญหาเรื่องอะไร กลุ่ม BB จะนิยมคนทำงานหนัก ทำงานด้วยตัวเองไม่มีข้อเรียกร้องกับใคร ยึดถือเรื่องอาวุโส gen x ,y จะเป็นกลุ่มที่ติดสินเรื่องต่างๆด้วยข้อมูล เป็นกลุ่มที่สู้กันด้วยข้อมูลตัวชี้วัดในทุกเรื่อง แต่พอมา genZ เหมือนกับให้จักครวาลหมุนรอบตัวเอง แต่ไม่ใช่ทุกคน มันมีเยอะขึ้นค่ะ ในขณะรุ่นก่อนๆแทบไม่มี
มุมมองมนุษย์คนหนึ่ง🧐
- เวลาโดนใครว่าให้ มันก็ต้องมีโกรธ/เสียใจกันเป็นธรรมดา เพิ่งหลุดจากรั้วโรงเรียนมาจะเอาหัวใจเพชรที่ไหนไปรับอารมณ์คน ยิ่งพวกหัวหน้าจุดเดือดต่ำนี่ไม่ต้องพูดถึง (จะว่าไปก็เห็นมีรุ่นพี่หลายคนเลยนะที่ตอนทำงานก็ไม่ได้เก็บอารมณ์อะไร แถมทำงานไปก็นินทาคนนู้นคนนี้ไปเรื่อย)
- เคยมีน้องคนนึงเล่าให้ฟังว่าน้องมันก็เข้าใจนะว่าการมีมารยาทต่อคนอื่นคือการแสดงความเคารพรูปแบบนึง ช่วงแรกๆ เข้าไปเขาเคารพเราด้วยวัยวุฒิ ด้วยความที่มีประสบการณ์ทำงานมากกว่า แต่นานๆ ก็เริ่มเห็นว่าบางคนไม่ใช่แบบอย่างที่ดีเท่าไหร่ ความเคารพที่เคยมีให้ก็ลดลง บางคนเจอเหตุการณ์แย่ๆ ไป ก็กลายเป็นไม่เหลือความเคารพให้คนๆ นั้นเลยก็มี เป็นแกจะยกมือไหว้คนที่ทำแกเจ็บช้ำน้ำใจมั้ยล่ะ? พอน้องมันบ่นก็ไปหาว่าเขาเรื่องมากคิดเล็กคิดน้อย ขี้ฟ้องไปนู่นอีก เขาไม่พูด นิ่ง เงียบก็หาว่าเขาหยิ่ง ไม่สนใจอะไรใครไปอีก บางทีคนเราก็ควรย้อนดูตัวเองก่อนจะบ่นคนอื่นนะ
- เรื่องทักษะการแก้ปัญหาต่ำจริง แต่แหม มันก็เพิ่งจบออกมาไหมละ หันหน้าจากตำรามาเจอของจริง จะให้ลุยได้แบบผู้เชี่ยวชาญเลยก็คงไม่ใช่ ไม่งั้นก็ไม่เรียก junior สิ จริงมั้ย ซึ่งน้องหลายคนเราก็เห็นว่านอกจากงานที่เขาทำๆ อยู่แล้วเขาก็ฝึกจากการสังเกต จากการทำงานและการตัดสินใจของรุ่นพี่ด้วย พอมีปัญหาเข้ามาหลังๆ เขาก็เริ่มจัดการเองได้ สำคัญแค่ต้องมีคนเป็น guide หลักให้ จริงๆ เด็กรุ่นนี้เป็นงานไวจะตาย อยู่ที่คนสอนด้วยว่าไล่เรียงเป็นมั้ย บางคนทำงานเก่ง แต่สอนคนไม่เก่งก็มี
- เรื่องน้องสอนพี่ เราว่ามันก็ธรรมดาของเด็กจบใหม่นะ ถ้าเขาเห็นว่าที่เราทำๆ อยู่มันดูน่าลำบากใจ ทำแบบนี้น่าจะดีกว่า น้องมันก็บอก ยิ่งคนมีความรู้เขาจะยิ่งอยากแชร์ ดีซะอีก บางทีเราทำงานมาก็คุ้นเคยแต่กับวิธีเดิมๆ แต่น้องมันจบมาด้วยความรู้ใหม่ๆ บางงานทำตามน้องบอก จากงานเป็นวันลดเหลือไม่กี่นาทีงี้ มันดีนะเอ้า ใครรู้อะไรก็แชร์ๆ กันไป คนพี่ก็ลดทิฐิลงบ้างเผื่อได้อะไรใหม่ๆ ดีๆ ส่วนคนน้องแนะนำดูลู่ทางลมก่อนนิดนึง บางคนเขาอีโก้เยอะ55555
สรุป : ทั้งพี่ทั้งน้องจะคิด/พูด/ทำอะไร ให้ยั้งๆ นิดนึง นึกเอาใจเขามาใส่ใจเราไว้ก่อน อยากได้อะไรแบบไหนก็ต้องเริ่มจากการให้ในสิ่งนั้นแบบนั้นก่อน ชมในที่แจ้งติในที่ลับ ไม่ใช่ติฉินนินทากันในที่แจ้ง แล้วเลียบๆ เคียงๆ มาชมกันเองเวลาไม่มีใครอยู่ใกล้ๆ ต้องหัดคุมอารมณ์ให้ได้ทั้งพี่ทั้งน้อง ทุกปัญหามีทางแก้ขอแค่พูดคุยกัน และทุกวิธีการมักมีหนทางที่ดีกว่า ไม่จำเป็นต้องจมอยู่กับวิธีการเดิมๆ เสมอไป
สุดท้ายนี้อยากให้จำไว้ว่าจะ Gen ไหนก็ช่าง ทุกคนไม่ได้สมบูรณ์แบบ เรามีภาพคนอื่นในหัวได้ แต่ต้องไม่ตีกรอบกันมากจนเกินไป อันไหนปรับได้ก็ปรับ อันไหนมองข้ามได้ก็มอง ถ้ามันหนักจริงๆ ทนไม่ไหวก็ไม่ต้องทน
คอมเมนต์คุณภาพ ❤
คอมเมนต์นี้ดีมากก จริงค่ะ ผู้ใหญ่บางคนในองค์กร ใช่ว่าจะน่าเคารพเสมอไป ไม่รับฟังปัญหาและความต้องการของเด็ก ไม่หันกลับไปมองดูตัวเอง อันนี้แหละปัญหาใหญ่ของคนรุ่นก่อน คนรุ่นก่อนtoxicเองรึเปล่า คนทุกคนควรหันกลับมามองตัวเองก่อนอันดับแรกเลยค่ะ
ผมเห็นข่าวพวกนี้แล้วผมงงมาก เพราะผม ,Gen Z ,เกิด 2002 ตอนนี้ทำงานบ.เอกชนเงินเดือน 20k ไม่เห็นจะโดนเหมือนที่ข่าวออกโครมๆ ผมก็ทำงานได้ปกติ ความสัมพันธ์กับคนในองกรก็ราบรื่น (ผมอายุน้อยสุดในตำแหน่งนี้) กับรุ่นพี่ผมไม่เคยมีปัญหาเลย ผมเลยไม่เข้าใจเนื้อข่าวพวกนี้ เขาไปเจอคนแบบไหนมา เด็กรุ่นไหม่ที่ว่าน่าคือไปหามาจากไหน คุกหรอ? ชอบพูดซะเด็กเป็นวายร้ายไปเลย 😢
ถามเอไอมันตอบแบบนี้ครับ😊...เหตุผลที่คน Gen Z อาจจะโดนไล่ออกจากงานมากขึ้นในบางสถานการณ์นั้น มีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ทั้งในด้านของคนรุ่นนี้เองและสภาพแวดล้อมการทำงานในปัจจุบัน ผมขออธิบายให้คร่าว ๆ ดังนี้ครับ:
1. วัฒนธรรมการทำงานที่แตกต่าง
คน Gen Z เติบโตในยุคที่เทคโนโลยีและการสื่อสารมีความก้าวหน้า ทำให้มีความคุ้นเคยกับการทำงานที่ยืดหยุ่น รวดเร็ว และใช้เทคโนโลยีมากกว่าคนรุ่นก่อน ดังนั้น ถ้าบริษัทไม่มีการปรับตัวให้เข้ากับสไตล์การทำงานนี้ อาจทำให้เกิดความไม่เข้าใจกันระหว่างเจ้านายกับลูกจ้างในเรื่องของการทำงานและความคาดหวัง
2. การขาดทักษะทางสังคมในการทำงาน
หลายครั้งที่คน Gen Z อาจจะยังขาดทักษะในการสื่อสาร หรือการจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นในที่ทำงาน เนื่องจากคุ้นเคยกับการสื่อสารผ่านหน้าจอมากกว่าการสื่อสารแบบเผชิญหน้า ซึ่งอาจนำไปสู่ความขัดแย้งและการสื่อสารที่ไม่ราบรื่นได้
3. ทัศนคติและความคาดหวังในงานที่ต่างไป
คน Gen Z มักจะให้ความสำคัญกับความสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวมากขึ้น ไม่ต้องการทำงานล่วงเวลาและคาดหวังให้งานมีความยืดหยุ่น ซึ่งบางครั้งบริษัทที่มีวัฒนธรรมการทำงานที่เน้นการทุ่มเทมากอาจมองว่านี่เป็นการขาดความมุ่งมั่นในการทำงาน
4. การหางานและการลาออกที่ง่ายขึ้น
คน Gen Z มีโอกาสในการหางานที่มากขึ้นผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ และสามารถเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับงานและบริษัทได้ง่าย ดังนั้น ถ้าพวกเขารู้สึกว่างานไม่เหมาะสมก็อาจจะลาออกเอง หรือถ้าไม่พอใจบริษัทก็อาจถูกเจ้านายเลิกจ้างได้ง่ายเช่นกัน เพราะมีแนวโน้มในการหมุนเวียนงานที่เร็วขึ้นกว่ารุ่นก่อน ๆ
5. ผลกระทบจากเทคโนโลยี
ด้วยความที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงเร็วมาก บริษัทเองก็มีความคาดหวังให้พนักงานตามทันและปรับตัวได้เร็ว ถ้าพนักงานไม่สามารถเรียนรู้หรือปรับตัวตามได้ ก็อาจถูกพิจารณาให้ออกจากงานได้ง่ายขึ้น
โดยรวมแล้ว เป็นเรื่องของการปรับตัวและความเข้าใจระหว่างเจเนอเรชั่นครับ ทั้งนี้ หากมีการสร้างสภาพแวดล้อมที่เข้าใจและสนับสนุนการทำงานของกันและกันได้มากขึ้น ก็อาจช่วยลดปัญหานี้ได้มากเลยครับ
@@Ron65-r2q ผมเห็นชัดๆในข้อ 2 น่ะ มากสุดเลย
เนื้อหา น่าสนใจ😅😅😅 นายเป็รGen Z ไหมครับ
ก็ต้องดูนะครับ ก็ถ้าเด็กสมัครงานขอทำงานเป็นลูกจ้างกับเขาแลกเงินเดือน แล้วต้องให้เขามาปรับตัวเข้าหาลูกจ้างอีก แทนที่ลูกจ้างจะเป็นฝ่ายปรับตัว เป็นผม ผมเอาเงินไปจ้างคนที่ปรับตัวให้เข้ากับที่ทำงานได้ดีกว่า
จริงด้วย
แต่คนรุ่นเก่าชอบเอาแต่ใจตนเองทุกคนไม่เปิดรับสิ่งสมัยใหม่
แต่ยังไงคนรุ่นนี้ ก็ต้องเข้าไปในตลาดแรงงานอยู่ดีนะคะ คนgen เก่าก็ต้องเกษียณอายุกันไป ไม่รับ เด็ก gen Z เข้าทำงาน แล้วใครจะมาทำ?
รับคนที่เข้าใจผู้อื่นให้ความเคารพผู้อื่น ไม่ได้มองแต่ตัวเองเป็นคนสำคัญเป็นศูนย์กลาง ผ่านประสบการณ์พิจารณาตัวเองและปรับตัวได้แล้วไง
พวกที่ใส่ประสบการณ์เยอะๆเวอร์ๆเกินอายุ แล้วระดับงานสูงเกินไปคือโกหกว่ามีประสบการณ์ ทำงานเปลี่ยนที่ทุก 3 เดือน แสดงว่าไม่อดทนหรือไม่ผ่านประเมินมาแต่มาบอกว่าลาออกเองไงคะ
เคยสัมภาษณ์เจน z แค่เล่าก็รู้แล้วใครพูดจริงใครโกหก เจน z ไม่ได้มีปัญหาทุกคนแต่ 3 คนมีปัญหาละ 2 คนอะ อยากจะเสี่ยงรับไหมล่ะ
เด็ก Gen นี้อายุยังน้อยพ่อแม่ยังไม่เกษียณทำเก่งเป็นธรรมดาเพราะยังมีผู้ปกครองคอยสนับสนุน เดี๋ยวรับภาระแบบเต็มตัวเมื่อไหร่ก็แล้วยังเป็นแบบนี้อยู่ค่อยไปว่ากันตอนนั้นก็ได้ยังไม่สายให้เวลาน้องมันหน่อย
ตอนนี้กำลังเจอปัญหาเลยเด็กเจน Z ไม่ค่อยฟังคำสั่งชอบทำอะไรทางรัดอยู่ตลอดจะไล่ออกก็ไม่ได้ ส่วนผมเจน Y ก็ค่อยโดนด่าต่อไปเพราะน้องเจน Z ชอบสร้างปัญหาคิดว่าทำถูกทุกอย่าง 😢
ทำไมถึงไล่ไม่ได้ครับ งั้นก็แจ้งแก่ผู้มีอำนาจเหนือเราอีกทีซิครับ
@@MooknaBb จริง ความคิดอย่างเบียว เถียงลูกเดียว เหตุผลติ๊งต๊องสุดๆ
@@Jn77376จะเอาให้ชนะให้ได้อะ ละไม่ยอมก็ gen นี้แหละ
@@Dunlap-u7g เลี่ยงได้เลี่ยงค่ะ เป็นกันเยอะ แต่ไม่เหมารวมหรอก คุยเฉพาะเรื่องจำเป็น เจอทรงแนวนี้ ต้องไปนั่งสมาธิเยอะๆเลยค่ะ เดะฟิวขาดตบบั้งแต้ไปจะเรื่องใหญ่ 555555
ผมว่าเจน Y นี่น่าสงสารที่สุด เพราะใกล้ชิดกับเจน Z จะว่าเข้าอกเข้าใจกันเพราะอายุห่างกันไม่มากก็ไม่แปลก แต่ปัญหาหลักที่เห็นก็คือการที่ต้องคอยประสานงานระหว่างเจน Z กับ เจนอื่นๆนี่แหล่ะ เป็นเรื่องน่าปวดหัวที่สุด
สกิลเฉพาะทางน้องๆgen zจะเก่งมาก ส่วนตัวเป็น gen y ก็เห็นความสามารถน้องๆเยอะกันจริงๆ แต่สกิลการเข้าสังคมบางคนไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ อาจจะเพราะวัยมหาลัยที่ควรได้ปรับตัวทำงานกับคนหมู่มากเจอโควิทมีแต่เรียนออนไลน์ ตอนนี้ส่วนที่ยากที่สุดของการทำงานคือต้องเป็นตัวเชื่อมคนbaby boomer gen x เข้ากับ gen z ชั้นเหนื่อยค่ะคุณพรี่
เจอโควิทแค่ 2 ปี ถึงกับทักษะชีวิตเปลี่ยน?? มันไม่ใช่แล้ว มันเพราะารถูกปลูกฝังและการได้รับสปอยล์ของเจนนี้มากกว่า เลยทำให้เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง
Gen-Z คือ เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง
Gen-Z คือ เอาเงินเดือนเยอะๆ แต่เอางานน้อยๆ
Gen-Z คือ ไม่เอาสิ่งที่ผู้อื่นสอน เอาแต่สิ่งที่ตัวเองอยากทำ
Gen-Z คือ ไม่เอาคนรอบข้างในที่ทำงาน มักจะชอบอวดเก่ง
อื่นๆ อีกหลายๆ ปัญหา ส่วนใหญ่โดยเฉพาะเด็กที่ค่อนข้างมีฐานะและถูกสปอยมาตั้งแต่เด็ก
(คิดว่างี้แหละ)
Gen Z โดนไล่ออกไม่แปลกเลย สมัยนี้พ่อแม่ตามใจ เฉพาะเด็กที่มีมรรยาท นอบน้อม เก่ง มีความรับผิดชอบเท่านั้นที่นายจ้างจะเอา
ยกเว้นนายจ้างเป็นสลิ่มไงเอาแต่คนรุ่นใหม่เขาฉลาด
ผมเป็นเจน z นะ แต่ผมก็ไม่ได้เป็นแบบที่ในคลิปกล่าว มีแค่ช่วงแรกของการหางานที่ขอให้คนอื่นช่วยแนะนำ แต่สุดท้ายผมก็ออกไปหาเองอยู่ดี ผมเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย ไม่มีวันหยุดเลยจนจบ ผมก็ขยันอดทนนะ ผมฟังหมดเวลาถูกสอนงาน ช่วงแรกๆต้องกดอีโก้ตัวเองให้ต่ำเข้าไว้ ถ่อมตัว แล้วจะเก่งขึ้นเรื่อยๆเอง สำหรับใครที่ขยันอดทนเหมือนกัน สู้ๆครับ😊
เด็กเจนนี้เก่งนะครับ เฉพาะหน้าคีย์บอร์ด เท่านั้นแหละ
มีชื่อเล่นว่า เกรียนคีย์บอรด ป่าวคับ😄😄
จี้ดแค่ไหนก็สู้พวกเจน y lnwza ไม่ได้สักตัว เก๋ากว่าเยอะ 555555555
ตอบดีมาก 555 😊
เจนเก่าว่าตัวเองเก๋า เจนใหม่ว่าตัวเองเจ๋ง ไม่มีใครยอมใครแล้วเมื่อใหร่จะปรับตัวเข้าหากันได้
นายจ้างที่ไหนจะปรับตัวเข้าหาลูกจ้าง ถ้าเข้ากับบริษัทไม่ได้เขาก็ไม่ให้ผ่านช่วงทดลองงาน
นายจ้างต่างหากที่หาลูกจ้าง ที่เป็นเด็กเข้ากับองค์กรยากขึ้นครับ
สุดท้ายมักจะไปหาจ้าง GEN Y เพื่อให้องค์กรดำเนินต่อไปได้
สุดท้ายก็แตกครับ เอาตามตรงก็ปฏิบัติตามกฏหมายแรงงาน
แต่ด้วยการแข่งขัน ทำให้มาลดค่าใช้จ่ายทางลูกจ้าง
และ ละเลยกฏหมายแรงงานกันทั้งนั้น (ค่าแรงจีนมากกว่าไทยอีกครับ แต่ด้วยเราโดนกดด้วยต้นทุนอย่างอื่น)
ซึ่งเด็กยุคใหม่พร้อมเรียกร้องสิทธิเต็มที่
ไม่ทันได้ไล่ออกหรอก แต่เขาให้กลับบ้าน หรือส่งคืน สนญ.เลย ไม่บรรจุให้ .
เส้า
เด็กเซ่นได้😮ตลอด ลองแล้ว
ถ้านายจ้างเก่งจริง บริษัทก็ต้องอยู่ต่ออีกนานจนคนแก่เกษียณแล้วมีแต่เด็กรุ่นใหม่ในที่ทำงาน ถ้านายจ้างไม่ปรับตัวก็เอาวัยชรามาทำแทน แต่ถ้าบริษัทไม่ดีไม่ต้องกลัวเจน Z เพราะไม่กี่ปีก็เจ๊ง
เราอย่ามาให้เหตุผลหลอกเด็กเลยครับ ทิ้งให้เด็กดูแย่ ทั้งที่ความเป็นจริงคือสภานที่ทำงานมันเพิ่มไม่ทันกับจำนวนคนที่เรียนจบ แรงงานมันก็ล้น พอเด็กเข้าไป ก็คอยแต่จะรับน้อง หาเรื่อง อคติใส่เด็กต่างๆนาๆ แล้วมีมาตั้งแต่รุ่นทวดแล้ว กับคำว่า เด็กสมัยนี้นี่มัน....ตอนคุณโทษเด็กคุณแน่ใจหรอ ว่าคุณไม่ได้โดนรุ่นใหญ่กว่าโทษรุ่นคุณมาก่อน สมัยแม่ใช้เงินแค่วันละ 25 สต. ก็อยู่ได้ทั้งวันแล้ว ใช้เงินประหยัดหน่อย เด็กรุ่นนี้ประหยัดไม่เป็นเลยให้วันละ 5 บาท ใช้หมดไม่เหลือออม
ควรเน้นการฝึกงานมากขึ้น การทำงานเป็นทีม หรือทำงานด้านการบริการเพื่อฝึกความรับผิดชอบและวินัย
ส่วนตัวเป็นคน gen y ทำงานกับเด็ก gen z แฮปปี้กว่าทำงานกับรุ่นก่อนหน้ามาก ที่เคยเจอมามีแต่รุ่นก่อนหน้าแหละที่ไม่ปรับตัวอะไรเลย เอะอะก็ใช้งานเด็ก แล้วบอกฝึกไว้จะได้เก่ง ๆ แต่ตัวเองไม่ทำอะไรเลย ทักษะด้านภาษาก็อ่อน ประชุมกับต่างชาติที ลากน้องเข้าไปที ไหนจะด้านคอมอีก ต้องมาสอนวิธีใช้งานทั้ง ๆ ที่youtube ก็มี แล้วมาบอกว่าเด็กรุ่นใหม่ไม่ทน โทษทีนะ สัญญาจ้างระบุทำงานเวลา 9-18 พอเลิกงานกลับบ้านโดนด่าว่าไม่ทุ่มเทให้งาน แค่เดินทางไปกลับเสียเวลาวันละเกือบ 3 ชม ยังไม่ทุ่มเทอีกเหรอฟร๊ะ บอกว่าเด็กรุ่นใหม่ไม่ปรับตัว แล้วเด็กรุ่นเก่าไม่เคารพสิทธิส่วนตัวคนอื่นบ้างล่ะ
😂😂😂😂😂เอาความจริง ที่เขียนมามันบ่น (เป็นการระบายของพนักงานคนหนึ่งที่เหมือนกันทุกทีครับ ไม่งั้นจะมีหัวหน้ากะลูกน้องไปทำไม 5555 )
ทุกเจนแหละ ผมได้ยินเรื่องคนแก่ว่าเด็กรุ่นใหม่มา 30 กว่าปีละ ตั้งแต่จบมา คนจบใหม่ไม่มีประสบการณ์ทำงานจะให้เข้ามาทำเลยแบบที่คนเก่าทำแล้วเข้าใจแล้วได้ยังไง
เราเข้าใจว่า สมัยก่อน 30 กว่าปีที่แล้ว คนรุ่นนั้นเขาก็ตำหนิเด็กเข้าเพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ในแง่ "ความไม่รู้งาน" ซึ่งมันพัฒนาได้ง่าย ๆ แต่เขาไม่ได้ตำหนิเรื่องพฤติกรรมหรือทัศนคติในการทำงาน... แต่ปัจจุบันเขาตำหนิเด็กรุ่นใหม่ในแง่ของ "พฤติกรรมและทัศนคติในการทำงาน" ซึ่งมันพัฒนายากกว่าและสร้างผลเสียให้แก่องค์กรมากกว่านะ
เอาง่ายๆ นะ ความคิดแบบหัวก้าวหน้า กับความขี้เกียจเอาตัวเองเป็นใหญ่ มันคนละความหมายกันนะ
+ค่ะ มีทุกเจน แค่สมัยนี้มันมีโซเชียลที่จะเผยแพร่เรื่องราวหรือมาเล่าสู่กันฟังได้รวดเร็ว ก็เลยชอบมีกระแสคนรุ่นใหม่ไม่ดีงู้นงี้ คนแก่ ๆ บ้านเรายังมาเล่าบ่อย ๆ เลยว่าเพื่อนในที่ทำงานก็มีนิสัยแบบที่ด่า ๆ เจน z มาเยอะแยะ เราว่าอย่าเหมารวมกันเลยจะดีกว่าค่ะ เรื่องนี้มันขึ้นกับนิสัยแต่ละคนล้วน ๆ
@@sriwichaisriwichai-je4ubตำหนิหมดแหละ ฟังมาจะ30ปีแล้ว หูชา แสดงว่าเด็ก Gen z สมัยนี้ โง่และขี้เกียจทุกคนเลยรึ งั้นต่อไปพอพวกแก่ๆ ตายโลกหน้าจะพังตามพวกแก่ๆ ถูกมั้ย
ที่เจอกับตัวคือเด็กGEN Z ด่ารุ่นพี่ที่ทำงานแบบหยาบๆ โดยไม่แคร์ความรู้สึกใคร (และคิดว่าตัวเองทำถูกด้วย) เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาลในบางเรื่อง ถ้าเรื่องไหนมั่นใจว่าเค้าถูกจะเอาชนะจนวินาทีสุดท้าย
แต่ข้อดีของ GEN Z คือความมั่นใจสูง กล้าคิดกล้าแสดงออกกล้าพูด มีความคิดสร้างสรรค์สูง
เพราะพ่อแม่ เลี้ยงลูกแบบพระเจ้า ลูกไม่รู้ตัวหรอกว่าสิ่งที่ทำถูกหรือผิด
😂😂😂อย่าหาว่าเรามีอคตินะแม้ในระบบราชการ รู้สึกว่าเค้ามั่นใจในตนเองสูงมาก คุยครั้งแรกก็ดูไม่น่ารัก และหลงทาง เราไม่ได้เป็นคนประเภทเจอคนและมีอคติเร็ว ใจเย็นและอดทนกับลูกน้องมาก ยึดหลักยืดหยุ่นเสมอ ในการปกครอง มีอคติน้อยมาก แต่เจอแล้วไม่ค่อยมีความสุขในการทำงาน หรือแม้แต่การพบปะพูดคุย😢😢😢
ชอบพูดว่า..โลกเค้าไปถึงไหนแล้วลุง..ตัวเองเลยทำไรไม่เป็น
จริง แล้วโลกที่พัฒนาไปไกลแล้ว ก็มาจากคนรุ่นก่อนๆคิดค้นทำไว้ แต่กลับถูกด่าว่าเป็นไดโนเสาร์ ขณะที่คนด่าเพิ่งเลิกดูดนมมาไม่กี่ปี ยังไม่เคยมีผลงานอะไรเลย
ล่าสุดคนที่แก่กว่าผม20กว่าปีโดนไล่ออกไปละครับ มาสายก็บ่อยวันๆเอาแต่อู้งาน งานตัวเองผิดก็โทษเด็ก มีไรก็โทษเด็ก รุ่นนี้ก็ดีแต่ปากทำไรดีหมดเก่งหมดอวดดีสอนไรไม่ฟัง ที่บ.เก่าก็มีแบบนี้คนนึง คิดว่าตัวเองเก่งแบบนี้ใครจะพูดไรได้
@@bosshakuray ที่บ.เก่านี่เค้าไล่มึงออกหรือออกเอง
@@คนไทยแท้ๆ-ฦ3ธ จริง พอมีปัญหามา แก้ไม่เป็น มองภาพไม่ออก ไปไม่ถูก
ผมเป็นคน Gen x เป้นพ่อของเด็ก Gen z ถ้าพูดกันถึงเนื้องาน เด็กรุ่นนี้ล้ำหน้าแน่นอน หาข้อมูลเก่งเชื่อมโยงข้อมูลได้เร็ว ผมคิดว่าเด็กรุ่นนี้เหมาะกับงานทางด้านต่างประเทศ หรืองานที่ต้องใช้เทคโนโลยีมากกว่าทำงาน routine เด็กเกาหลี ญี่ปุ่น สิงคโปร์ บินกันให้ว่อนทั่วโลก เด็กไทยบางกลุ่มที่มีคุณภาพก็เริ่มบินกันบ้างแล้ว พอได้สัมผัสกับเด็กลุ่มนี้แล้วรู้สึกว่าล้าหลังพวกเขาไปมาก โดยสรุปธุรกิจขนาดเล็กไม่เน้นอะไรมาก จ้าง Gen B หรือ Gen X ก็พอ บริษัทข้ามชาติหรืองานที่ต้องใช้สรรพวิทยาควรจ้าง Gen z แล้วให้ Gen B/X ที่เก่ง ๆ มีการศึกษา มีวิสัยทัศน์เป็นพี่เลี้ยงในเบื้องต้น แล้วไปทำ Manual วางแผนขยายธุระกิจตามประสพการณ์ โดยอาศัยการค้นหาและการเชื่อมโยงข้อมูล และความคิดสร้างสรรค์จาก Gen z เห็นพูดกันจังเด็กไม่เคารพผู้ใหญ่ ต้องมองกลับไปว่าทำตัวอย่างไรเด็กจึงไม่เคารพ ตรงนี้พูดถึงกลุ่มเด็กดีนะ เพราะเด็ก Gen Z ก็มีหลายเกรด อยากได้เกรดดี ก็ต้องจ่ายแพงจะได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า และไม่ปวดหัว
เด็กรุ่นใหม่ มือไม้แข็งมาก ไม่มีสวัสดีทักทายพี่ๆที่ทำงานกันเลย ถามความรู้พื้นฐานยังตอบไม่ได้ ไม่เหมือนรุ่นก่อนหน้านี้ อ่อนน้อมถ่อมตน ยกมือไหว้ทักทายกัน ดูน่ารัก พร้อมเรียนรู้งาน ไม่ต้องรอป้อนให้อย่างเดียว
ต้องกลับมาย้อนดูด้วยว่าตัวเองน่าเคารพน่านับถือไหม บางคนสันดานหมาแต่อยากจะให้คนนับถือคนไหว้อีกก็ไม่ไหว แต่ยังไงสะการไหว้ไม่ได้ช่วยให้งานมันดีขึ้นแต่อย่างใดเหมือนคนมีปมที่เคยถูกกดขี่ขมเลยมาหาที่พึ่งพิงเล็กๆน้อยๆด้วยการให้คนกราบไหว้ สำหรับเราขอแค่คุยงานรู้เรื่อง พูดจาน่าฟังตอนคุยงาน ประสานงานเป็น ก็พอ อย่าลืมเขามาทำงานเพื่อตัวเขาเองไม่ได้ทำงานเพื่อใคร ส่วนความรู้พื้นฐานอยู่ที่สถาบันและตัวบุคคลล้วนๆ
อยากได้รับการไหว้ การเคารพบูชามากๆ
อันนี้จริง เพราะการไหว้คือการทักทายเบื้องต้น มันคือการทำความรู้จักมาตราฐานเบื้องต้น งานบริการหรือการติดต่อสื่อสารก็ถือว่าเป็นการทักทายที่น่ารัก แต่น้องๆรุ่นนี้เจอกันกันบ้างครั้งหน้ายังไม่มอง เป็นเจนที่เราไม่อยากรับเข้ามาทำงานมากที่สุดเพราะรู้สึกถึงการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าไม่น่าจะได้ เพราะมารยาทขั้นพื้นฐานยังไม่มีถือว่าผมบริหาด้วยตัวเองและจะจ้างก็ต่อเมื่อมีงานเร่งด่วน แต่จะไม่จ้างงานประจำ
พูดว่าสวัสดี ก็ได้ ไหว้ทำไม @@Pachimcrung
@@curryricePK ก็แล้วแต่คุณนะครับ แต่ผมจะเลือกรับพนักงานเฉพาะคนที่เข้าใจปัญหา เพราะพนักงานบางครั้งไม่ใช่ทำหน้าที่แค่ขอให้ผ่านไปวันๆ ผมซึ่งเป็นนายจ้างก็จะเลือกคนที่เค้าแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้และไว้ใจได้ ก็จะสบายใจและในวันพิเศษผมก็มักจะมีสิ่งตอบแทนเป็นสินน้ำใจให้ หากผมนึกไม่ออกว่าจะให้อะไรผมก็เลือกให้เงินและให้เค้าไปเลือกของที่อยากได้เอาเอง เงินมากหรื้อน้อยขึ้นอยู่กีบพฤติกรรมของพนักงาน บางคนก็ไม่ได้เลยก็เป็นพนักงานจริงๆ ที่แค่เอาแรงมาแลกเงินแล้วกลับบ้าน
คิดว่าตัวเองเก่งทั้งที่ ปสก ไม่มี แถมเถียงคอเป็นเอ็น ให้ความเคารพเฉพาะคนที่จ่ายเงินเดือน ส่วนคนอื่นคอมเมนต์ไม่ได้ ชอบงานฟรีแลนซ์เพราะได้ฟีลเหมือนเป็นนายตัวเอง (แบบหลอกๆ) ยอมรับความเห็นต่างได้ยากมาก
ถ้าเจอเจนอัลฟ่า ร้องแน่
แต่เราคิดว่าเจนอัลฟ่าจะเก่งและมีเหตุมีผลผลมากกว่าเจนzนะแถมน่าจะทำงานกับเจนyที่มีความยืดหยุ่นได้ดีกว่าด้วย สุดท้ายเจนzถ้ายังคิดไม่ได้ก็คงเป็นเจนที่ถูกลืมในยุคสมัยที่เทคโนโลยีแทนคนที่คิดว่าเก่งได้อะนะ
@@mrrabbit1915เคยทำงานกับgen อัลฟ่าหรอครับ
ถึงว่า เห็นออกมาขายกันแต่ กาแฟ กาแฟ และ กาแฟ ขอตังค์พ่อ-แม่ เปิดร้านกาแฟ มีแต่เพื่อนๆเจนเดียวกันมานั่งกินกาแฟเช้ายันเย็น😂😂 สุมหัวกันอยู่แต่ร้านกาแฟ 😂
@@tojoke84อ่ะน่าร้ากๆๆๆขั้นอัจฉริยะ แต่เบื๊อกๆก็สุดขั้ว..นรกเหมือนกัน..นิสัยก็อยู่ที่ผู้ปกครองนั่นแหล่ะ..นิสัยเหมือนกันคบคนเข่นไรย่อมเป็นอย่างนั้น
@@mrrabbit1915เคยทำงานด้วยหรอเจนอัลฟ่ายังเรียนป.4อยู่เลยเนอะ
เจนZ ต้องเป็นเจ้านายครับ เป็น CEO เป็น Founder ลองดูซัก 3-4 ปี เล่นเสร็จแล้วค่อยกลับไปสมัครงานใหม่นะครับ
มันจะเปิดขายแต่กาแฟครับ 😂
แหนะ รู้ทันอี๊ก😂😂😂 -GEN Z
แล้วไอ้ที่เป็นพนักงานจนเกษียณจะเอาหน้าไว้ใหนล่ะทีนี้ ทำมาจนเกือบจะตายได้แต่เงินบำนาญไปกินตอนแก่ ใหนเข้าบริษัท ไม่น่าแซะคนอื่นเลยเข้าตัวเองหมด😂
อันนี้มันก็เป็นกันทุกรุ่นแหละครับ แค่รุ่นนี้เยอะหน่อย จริงๆ z ก็ทำงานได้นะ
ลองเป็น leader มากกว่า boss ทำให้ดูว่าต้องทำยังไง (ทำให้เห็นว่ามันทำได้) -> z respect leader
ลองคิดว่าต้อง build คนอื่นมาทำงานแทนเราได้ เพื่อให้เราไปทำงานที่ยากกว่า -> เกิดการเติบโตทั้งทีม
เก่งเทคโนโลยี เจน Z หาวิธีทำสามวัน ไม่สำเร็จ ต้องให้
เจน Y นั่งเทียน 3 ชั่วโมงเสร็จ
มันคือข้อดีของเจนนี้เค้าเลยนะ มีความคิดสร้างสรรค์อย่างมาก ,กล้าคิดกล้าแสดงออก ฯลฯ
แต่เค้าไปอยู่ในที่ที่สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถเอาออกมาใช้ได้เต็มที่มากกว่า
คิดให้คนอื่นทำได้ พอให้ทำเอง ทำไม่ได้น่ะสิครับ 😅
นั่นคือนายของตัวเอง หรืออีกนัยคือ ธุรกิจส่วนตัวครับ
ทำ UA-cam ทั้งปี
@@numprikapiดีกว่าไม่ทำอ่ะครับ รู้มากรู้ดีว่าต้องทำแบบนั้นต้องทำแบบนี้ต้องทำอย่างนั้นต้องทำอย่างนี้ จะถามว่าทำไมไม่ทำ มันก็มีทุกเจนล่ะครับ
ปัญหาคือสิ่งที่คิดไม่ได้ผ่านการกรองด้วยเจ้าตัวมาก่อน และขาดการทำได้จริง ส่วนตัวคือถ้าน้องคิดอะไรได้จะให้ลองทำดู ส่วนใหญ่จะล้มเหลวและต้องกลับมาขอความช่วยเหลือเราก็ต้องสอนว่านี่คือบทเรียน กับบริษัทที่การผิดพลาดจะเป็นผลกระทบในวงกว้างมันไม่สามารถผิดได้นะครับ มันมีกฎหมายที่สามารถมาเอาผิดบริษัทได้ ตรงนี้เป็นข้อด้อยเลยนะ คุณต้องแยกแยะระหว่าคิดสร้างสรรค์กับคำว่ามโนขึ้นมา ส่วนใหญ่ที่เจอคือมโน เพราะพวกเขาอยู่ในสังคมมโนภาพมันคือเรื่อของสังคมที่เติบโตขึ้นมาไม่ใช่นิสัยที่ทำให้เป็นแบบนี้แต่คือพวกเขาโตมาในสังคมที่มีแต่คนแบบนั้น
เพราะ....
1. ความรู้น้อย
2. ความอดทนต่ำ (ไม่ขยัน)
3. ชอบทำน้อย แต่ได้มาก (ไม่มีนายจ้างคนไหนให้ได้)
4. สอนไม่จำ อวดฉลาดว่าคนรุ่นเก่าไม่เข้าใจ ตามคนรุ่นใหม่ไม่ได้หรอก
5. ฯลฯ
ข้ออื่นโอเค ข้อ3ไม่เห็นด้วย
1. หยิ่งยโส วางอำนาจบาดใหญ่ เล่นพรรคพวก
2. อีโก้สูง คิดว่าประสบการณ์เยอะไม่ยอมฟังคนอื่น
3. ชอบทำเอาหน้าเจ้านาย พูดดีเข้าตัวเอาชั่วให้เด็กใหม่
4.สอนไม่เป็นแล้วบอกว่าสอนแล้ว ไม่ก็ไม่บอกอะไรเลย พอทำได้ก็ยิ้มแห้งๆให้
....
เห็นด้วยครับ ไปเปิดบริษัททำเองเถอะ ทำงานไรก็โพสไม่พอใจ ไม่อดทน ไม่รู้จักประตัวยื่นหยุ่น
@@focus678 เห็นด้วยทุกข้อ
อวดฉลาดจริง บางคนภาษาได้แค่งูๆปลาๆมั่นใจมากว่าตัวเองเก่งภาษานี้ คนเก่งจริงมีแต่พูดว่ายังต้องพัฒนาต่ออีกเยอะ ตอนรับสมัครพนักงานโคตรปวดหัว อวยตัวเองเวอร์เกิน แต่ผลงานคือไม่จึ้ง
คน Gen Z คนเจนนี้มีความคิดสร้างสรรค์สูง มีเอกลักษณ์ไสตล์เป็นของตัวเอง
ไม่เหมาะกับการให้เป็นเป็นลูกจ้าง พนักงานประจำ หรือใช้แรงงาน
คนรุ่นนี้ถูกหล่อหลอมให้เป็นผู้สร้างเทคโนโลยี และ ออกแบบนวัตกรรมใหม่ๆ แต่..............
ต่อให้เป็นปลาสายพันธุ์ใหม่หรือดีขนาดไหน ถ้าต้องติดอยู่ในแหล่งน้ำที่เน่าเสียก็ไม่สามารถเติบโตพัฒนาได้อย่างเต็มที่
ผู้ใหญ่ไม่ปรับตัวเข้าหาเด็กหรอกจ้ะ อีโก้มันเยอะตามความแก่นั่นแหละ ยิ่งถ้าเป็นเจ้าของเงินทุนยิ่งแล้วใหญ่ แล้วเด็กมันไม่แคร์นะสมัยนี้ มันเคยสอนวิธีหาเงินไอ้พวกอินเตอร์เน็ตอะไรของมัน ไม่รู้เหมือนกัน ทำไม่เป็น มันใหม่เกิน เห็นมันเทรดไปเทรดมา ได้แล้วสองสามหมื่น เออเอากะมันสิ แล้วจะให้มันมาแคร์ตาลุงแก่ๆที่จ่ายเงินน้อยกว่าที่มันหาได้ทำไม จริงมั้ย
จริงมากกก ตอนนี้ยิ่งมีเส้นทางการหาเงินง่ายๆ ใครจะทนกับคนtoxicในที่ทำงานให้เสียสุขภาพจิตเนอะ
@@Miwyu มึงแค่ขี้แพ้
ผมก็อนู่ใน gen นี้ครับ ละคน gen นี้ก็ไม่ค่อยอยากยอมรับว่ามันคือเรื่องจริง เเต่ดูจากที่ทำงานเวลางานมีปัญหาต้องตามตัว โดนไล่ออก มันคือ gen นี้เป็นสวนใหญ่จริง เลวดีมีทุก gen ครับ เเต่ gen นี้โดนติงมาเยอะสุดละมันไม่ค่อยจะเเคร์อะไรด้วยนะ โดนหักเงินละมาว่าคนหักอีก
แต่ก่อนช่วงรุ่นเจน y เข้าสู่ตลาดแรงงานใหม่ ก็โดนต่อว่าเหมือนกัน ทุกเจนต้องมีการปรับตัว
บอกเลยใครได้เป็นลูกน้องหัวปวดแน่ๆๆ ตอนนี้ผมมีเด็กฝึกคนหนึงกับเด็กใหม่คนหนึง คือท่าไม่ตรงใจเค้าเค้าไม่ทำงานให้เลย ปวดหัวสุดๆ
เอาแค่สะกดภาษาก็ไม่เป็นแล้ว เขียนผิดๆถูกๆ ผันเสียงก็ไม่เป็น เพราะเดี๋ยวนี้ อายุน้อยๆล่อแต่กาแฟตั้งแต่เด็ก.
ผมที่เป็นพี่เลี้ยงเด็กฝึกงานสาย programmer อยู่ ยอมรับว่าเหนื่อยใจที่จะเขียน report ผลสรุปฝึกงานไปให้มหาลัยมาก
งานก็ไม่ฟัง พอให้ทำก็ทำไม่เป็น ตามจี้งานก็ไม่พอใจ ให้ผู้ปกครองช่วย เจริญพร
ส่วนตัวปล่อยให้เขาทำงานไปเน้นงานเป็นหลัก โลกส่วนตัวสูงไม่สุงสิงมีส่วนร่วม มองข้าม ทำงานเก่งมาก ปรับตัวได้ดี
เด็กรุ่นใหม่ขอโทษไม่เป็น...เตือนไปทำหน้างอ(ผมไม่ใช่หัวหน้านะ)
ทำแต่งานตัวเองน้ำใจไม่มี
น้ำใจกินไม่ได้ครับไไม่ได้เงิน
แม่นครับ บางอย่างนิดเดียวทำนิดหน่อยเพื่อโลกน่าอยู่ครับ...เช่นเอากระดาษใส่เครื่องถ่ายเอกสารในที่ทำงาน เก็บขยะที่อยู่ตรงโต๊ะทำงาน หรือช่วยยกของหลังจัดงานเสร็จ มันไม่มีใครว่าหรอกท่านแต่มันคือมารยาท
@@thanetchaidarun5529 มันมองไม่ออกหรอก ไอ้ที่จะออกมาจากจิตสำนึกน่ะ มันไม่มี ต้องรอให้เขาบอก และถ้าหนักกว่านี้คือ รอให้เขาตำหนิ หรือ ด่าเลย มันถึงจะทำ.
จิตสำนึกเขาต่ำ ต้องทำใจ ถูกสปอย โอ๋มาตั้งแต่เด็กเลยไม่รู้จักคำว่า มารยาทและน้ำใจ
คนเจนก่อนหน้านี้ก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอก คนรุ่นเก่าก็จะว่าคนรุ่นใหม่ตลอด แต่สุดท้ายคนรุ่นเก่าก็ตายหมดเหลือแต่คนรุ่นใหม่อยู่ดี
เห็นมายเซ็ทแล้วไม่ไหว จะเอาเงินเดือนหลายหมื่น แต่ไม่มีประสบการณ์ทำงานเลย เลือกงาน ไม่ทน ออกทันที แถมไม่ยอมคน ไม่ฟังใคร อธิบายเหมือนคุยคนละเรื่องเดียวกัน ถ้าเก่งจริงจะไม่ว่าเลย
ผมก็gen z คนนึง เพื่อนผมgen z ไม่ทนงาน แถมกินแรงซะเยอะ ชอบหนีปัญหาป่วยไม่ฝืนมา ทิ้งภาระให้ผม บทจะออกก็หนีงานเลย ไม่ห่วงเพื่อนร่วมงานเลย แต่ดีๆก็มี
ถือคติทำผิดที่ 10 ปีก็ไม่รวย😮😮😮
gen z ที่เจอคนนึงก้าวร้าวมาก น้องโดนไล่ออกมาจากที่นึงมาทำบริษัทเรา สุดๆเลย ดูแล้วคงโดนไล่ออกอีกไม่นาน
ผมเป็นรุ่นแรกๆของเจน Z ( เกิด 40 ) สาเหตุหลักๆที่เด็กเจนนี้โดนไล่ออกกันเยอะก็คือ EGO/Attitude :
เค้าไม่เข้าใจหรือจงใจไม่สนใจว่าในโลกการทำงานในบริษัทหรืออะไรก็แล้วแต่ สกิลการสื่อสาร ความอดทน การปรับตัวเป็นอะไรที่สำคัญมากๆ เพราะการทำงานมันไม่ได้ทำคนเดียวมันทำกันเป็นทีม ถ้าหากทำตัวให้ร่วมงานด้วยยาก เค้าก็ไม่เอาไว้อยู่เเล้ว เพราะว่ามีเด็กจบใหม่ทุกปี คนที่มีประสบการณ์แต่ลาออกจากที่ทำงานเก่ามางานใหม่ก็เยอะแยะเค้าจะเก็บคนสร้างปัญหาเอาไว้ทำไม ?
ไม่ต้องพูดถึงว่าเด็กๆร่วมเจ็นก็ อีโก้ สูงเวอร์ๆ ไม่ฟัง ไม่พยายามสื่อสารให้เคลีย หรือไม่มีทักษะในการที่จะทำให้สิ่งที่ตัวเองต้องการจะสื่อมัน Productive แต่ไม่ระคายหูหรือว่าง่ายๆ Social inept นั่นหล่ะครับ บริษัทเค้าไม่ได้มองหาคนที่เก่งที่สุดทั้งทีมเค้ามองหาคนที่สามารถทำงานร่วมกับคนอื่นได้ เพราะสกิลบริษัทจะเทรนให้อยู่เเล้ว ประสบการณ์ถ้าได้ทำไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็มีประสบการณ์เอง แต่ถ้ามีอีโก้ มีแอททิจูด ทำงานร่วมกับทีมที่มีอยู่แล้วในบริษัทไม่ได้มันจะมีประโยชน์อะไร ? มันจะมีแต่สร้าง Friction หรือ ความขัดเเย้งขึ้นในองค์กรและทำให้งานไม่เดินหรือแย่สุดคือพับโปรเจ็คหรือโปรเจ็คเสียไปเลย เพราะความที่ไอ้คนคนนึงในทีมมันงอแง ไม่ได้ดั่งใจแล้วก็ดื้อเงียบ หรือ แย่สุดๆคือ ใช้วีธีหายเงียบไม่แจ้งลาออกอยู่ดีๆหายไปเลย
ก็นั่นหล่ะครับ บริษัทเอกชนเค้าก็เลยยี้ เจ็น Z รุ่นใหม่ๆกัน เจ็น Z รุ่นเเรกๆอย่างพวกผมไม่ค่อยโดนอะไรเท่าไหร่เพราะว่ากับเจนก่อนหน้าอายุไล่ๆกันไม่ค่อยต่างกันก็ไปกันได้เเต่เจ็นนี้ อีโก้เยอะมากๆจริง เรื่องมาก พูดอะไรไม่ได้ Feedback ก็ไม่พอใจ OT ก็งอแง 😅
บริษัทไหนเขาจะมาปรับตัวให้เข้ากับลูกน้องที่เพิ่มจ้างมา เสียเวลาเขาจะตาย ไปเลือกคนที่ปรับตัวเข้ากับบริษัทเขาได้ ง่ายกว่าไหม? และสมัยนี้มันมีคนคอยตรวจประวัติคนสมัครอยู่แล้ว ถ้าพบว่ามีพฤติกรรมในโซเชียลที่อาจสร้างปัญหาให้บริษัทเขาในอนาคต เขาก็ไม่เอา
ถูกต้องตามข่าวที่พูดมาทั้งหมดครับ
ไม่ปรับตัว มองคนรุ่นก่อนล้าหลังทั้งที่ตัวเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ
อยากได้คนทำงานอายุไม่เกิน 28 - 30 ปีบางที่เอาไม่เกินอายุ 25 ปีแต่บอก Gen Z ไม่ดี งั้นพี่จะเอา Gen ไหน เจนอัลฟ้าเลยดีมั้ย ยังเรียนประถมอยู่
เราเป็นชอบเรียนรู้ โดยเฉพาะสิ่งๆ ใหม่ เราชอบให้เด็กๆ สอนใช้แอปพลิเคชั่น ต่างๆ ที่สามารถเอามาใช้ในงานได้ เด็ก เหล่านี้จะเก่ง พอเขาสอนเราได้ นั่นหมายความว่า เขาเองก็ได้รับการยอมรับจากเรา ตัวเราเองก็ได้รับการยอมจากเด็กเหล่านี้ ไปได้สวยๆ
ปัญหาช่องว่าระหว่างวัย ปัญหานี้เป็นกันทั่วโลก ไม่อยากจะคิดถึงเจนอัลฟ่าจะ toxic ขนาดไหน ตอนนี้หัวหน้างานส่วนใหญ่เป็นคนเจน x ด้วย ถ้าหัวหน้างานเป็นเจน y ความเข้าใจกันจะดีกว่า
ผมว่าเจน z จะเป็นเจนที่เข้ากับรุ่นน้องได้ดีกว่าเจนอื่นๆเลยนะเพราะไม่ค่อยแบ่งชนชั้น ส่วนเจน x จะเป็นเจนชอบประจบรุ่นพี่มากกว่าและชอบให้เด็กมานอบน้อบ ซึ่งน่าจะเป็นเจนที่อยู่ยากสุดในยุคทั้งตอนนี้และในอนาคตแล้ว เพราะเวลาผ่านไปคนเจนเก่ายิ่งแก่ลงขึ้นทุกวัน มีแต่เจนเด็กๆที่จะโตขึ้นและ แข็งแกร่งขึ้น
ไม่รับ gen z แต่รับอายุทำงานไม่เกิน 30
ไม่รับ gen x gen y เพราะอายุทำงานเกิน 30
ตกลงบริษัท โรงงาน เจ๊งเถอะครับ
เด็กรุ่นนี้ส่วนใหญ่พ่อแม่ซัพพอร์ทเป็นเซฟโซนให้อยู่ครับ พวกเขาจึงตัดสินใจลาออกได้ง่ายๆ ไม่เหมือนรุ่นก่อนๆหน้าที่พ่อแม่ไม่ได้มีกำลังพอจะคอยซัพพอร์ทหนำซ้ำยังเป็นภาระต้องส่งเสียเลี้ยดูอีกต่างหาก การตกงานจึงเป็นเรื่องที่ยอมให้เกิดขึ้นไม่ได้เด็ดขาด
จากที่เจอกับตัว คือ ดื้อ เตือนไม่ฟัง ทำตัวเอาแต่ใจ ไม่มีมารยาท แต่งตัวไม่รู้จักการะเทศะ มาสายบ่อย
พ่อแม่ของGen Zค่อนข้างมีฐานะเลี้ยงลูกไม่ค่อยดุด่าว่ากล่าวตามใจเด็ก ทำให้เด็กทำงานไม่ทนเมื่อมาทำงานโดนใช้งานว่ากล่าวตักเตือน แต่เด็กรุ่นนี้มีความมั่นใจและเก่งITเก่งภาษาต่างประเทศกล้าคิดกล้าทำกว่าคนรุ่นเก่าหรือพี่ๆที่ทำงาน แต่ไม่ค่อยมีมารยาทเข้าสังคมแบบทางการที่ต้องใช้ทักษะความเป็นมืออาชีพไม่ค่อยเก่ง ต้องอาศัยประสบการณ์และเรียนรู้จากคนรุ่นเก่าๆเช่นการเข้าหาลูกค้าที่สูงอายุ หรือเจ้าของธุรกิจ
มีปัญหาทุก Gen ละครับ อยู่ที่คนด้วยเด็กมือใหม่ก็ต้องให้โอกาสเขา แต่จะปรับใช้มั้ยอยู่ที่เขา นายจ้างเห็นใครไม่ดีเขาก็ตัดออกแล้วรับคนใหม่ที่พร้อมกว่าในราคาถูกแค่นั้นเลย
เด็กสมัยนี้ถือตัวเป็นใหญ่ ใครสั่งการอะไรไม่ได้ ขนาดคนเป็นพ่อเป็นแม่บางทีตัวเด็กเองยังไม่ฟังเลย นับประสาอะไรกับการทำงานร่วมกับคนอื่นที่ไม่ใช่พ่อไม่ใช่แม่ และจ้องแต่จะหางานสบายๆ ได้เงินเยอะๆ แต่ฝีมือหรือสกิลอะไรต่างๆ รวมไปถึงความคิดและทัศนคติ ไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ ถือแต่สิ่งที่ตัวเองเรียนมา พ่อแม่เลี้ยงดูมาแบบสบายเกินไป จนไม่รู้จักความลำบาก อนาคตประเทศไทยยังไงก็ไม่เจริญ เพราะเด็กแนวนี้เยอะมากๆๆๆๆๆ แล้วดันไม่ยอมรับตัวเอง และไม่ยอมรับความจริงอีกต่างหาก
รุ่นนี้ผลิตเยอะซ่ะด้วย หลายๆคนก็หลุด qc
น้องมั่นใจตนเองเกินไป ไม่สนใจคนอื่่น ไม่แคร์สังคม ไม่ปรับตัว ใครพูดอะไรก็คิดว่าเขาบูลลี่ไปหมด แล้วตีกลับเร็ว ไม่คิด ไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริงให้รอบคอบก่อน
ถ้าถามว่าเห็นด้วยไหมสำหรับเรื่องนี้ก็คิดว่าเห็นด้วยจริงๆแหละ
เพราะตัวเองก็ Gez Z แล้วพอมองดีๆมันก็ตัวเราเอง ส่วนตัวคิดว่าเหตุผลหลักๆที่ทำให้เกิดปัญหาทั้งหมดทั้งมวลเกิดจากการควบคุมอารมณ์ คือรู้ตัวแหละว่ามันแค่นิดหน่อยหรือเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็น เรามักจะใช้ อารมณ์มากกว่าเหตุผลเสมอ
ขนาดบอกกับตัวเองว่า
"พยายามใช้เหตุผลหน่อย"
แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้ ถ้าแก้ปัญหาวิธีการคิดได้ก็คิดว่าน่าจะจัดการอะไรหลายๆอย่างได้ง่ายขึ้น
บุคคลที่ให้กำเนิด gen Z คือ gen...? บุคคลที่สั่งสอนให้ gen Z เติบโตมาจากโรงเรียนจนเป็นผู้ใหญ่เป็นคน gen....? เราจะว่าคน gen Z ก็คงเหมือนกับว่าตนเองหรือเปล่าครับ...555😆😆😆
แต่เด็กใช้เวลาที่ รร มากกว่าอยู่กับพ่อแม่นิครับ เด็กได้รับอิทธืพลจากเพื่อนและสังคมที่ รร มากกว่าที่บ้าน
มันไม่มีอะไรอยู่เบื้องหลังทั้งนั้นแร่ะ มันเพราะนิสัยล้วนๆ ซะส่วนใหญ่
Gen z เขามีปัญหาจริง ในหลายมิติ ความอดทนน้อน และมีข้ออ้างเยอะ เป็นไปตามหลัก80/20 genz ที่ใช้ได้จริงหน้าจะมี20เปอร์เชนต์ .....
โห..โดนกันเยอะเหมือนกันแฮะ นึกว่าผมโดนคนเดียว...😅
มันเป็นทุกGenarationแหละครับ อยู่ที่ตัวบุคคลแต่ละคน ลูกน้องผมก็ รุ่นใกล้กัน
ผมเข้าใจเรื่องที่เด็กบางคนมันมั่นใจในตัวเองมากเกินไปเป็นเรื่องที่ดีแต่เวลาจะสอนอะไรมักไม่ค่อยเชื่อฟังทั้งๆที่เราผ่านปัญหานั้นมาก่อนจึงเตือนจะได้ไม่เกิดปัญหาซ้ำรอย และ จะได้ไม่ต้องมาตกงานหรือโดนหักเงิน
เพราะเด็กสมัยนี้มีอะไรที่สะดวกสบายเยอะมันจึงเรียนรู้อะไรได้ไวกว่ารุ่นก่อนๆ
ความพร้อมอย่างเติมที่? แล้วเด็กจบไหม่ต้องพร้อมขนาดไหน ถึงจะเพียงพอที่จะจ้าง
เป็นที่Eq นะที่เจอ แต่ที่เก่งๆมีแววรุ่งก็มีนะ แต่มีน้อย
ผมเจน Z เล่าให้ฟังนะ... 😅
การที่เด็กไม่สนใจที่รุ่นพี่ที่ทำงานสอน หนึ่ง ต้องถามว่ามันดีจริงไหม สอง ถ้าฟังที่สอนทั้งหมดแล้วมักจะให้ทำตามเท่านั้นห้ามแย้งเพราะเขาทำกันมาแล้ว เมื่อไม่เห็นด้วย แนะนำไม่ได้ เป็นน้ำเต็มแก้ว(แต่แสดงตนว่ารับฟังผู้อื่น) ไม่ผิดอะไรที่ผมจะค้านคำสอนนั้นแล้วลองใช้แนวทางใหม่ และทุกครั้งที่ผมใช้แนวทางใหม่สำเร็จ ไม่เห็นหัวคนเหล่านั้นมาขอบคุณหรือขอโทษที่ตัวเองไม่มีหัวก้าวหน้า😂😂
ปล. ผมแค่เลือกที่จะพูดเลยตอนเริ่มต้น ดีกว่ารอให้มันมีปัญหาแล้วค่อยพูด หรือไปอยู่ในวังวนของปัญหาที่คนที่เป็นผู้บังคับบัญชาสร้างไว้ แล้วตัวเองยังแก้ไม่ได้และก็อยากให้คนก้มหน้าก้มตารับสิ่งนั้นไปถ้าเกิดอยู่ในเนื้อมือของเขา...ก็แค่นั้น
คุณๆที่มีอายุจะเข้าใจว่าหมายถึงอะไร
คล้ายๆการรับน้อง ถึงรู้ว่าผิดแต่ก็ต้องทำ แต่เด็กรุ่นใหม่ไหวตัวทัน ส่วนคุณไม่ทัน แล้วรู้สึกไม่แฟร์หรือเปล่า😮😊 ลองพูดตรงๆกับเด็กดูนะ😅😮😂
มุมมองส่งนตัวของผมที่เป็น gen y
เป็นที่ Gen ❌
เป็นที่ตัวบุคคล ✅
ไม่ว่าจะ toxic, positivity toxic, egotistical, unhinged มีให้เห็นทุก gen. หลบได้หลบ บุคคลพวกนี้ไม่มีคุณค่าพอให้มานั่งเสียเวลาทำงานด้วย
ไม่ตรงต่อเวลา ไม่เคารพกฏระเบียบวินัย
ผมเจอเด็กๆ น่ารัก และก็มีคุณภาพ มากๆ 😊
หยุดอีโก้กับหลงตัวเองอ่ะครับหนูๆ
มันมีจริงๆนะ ที่ทำงานผมเนี่ยแม่น้องต้องมารับมาส่งอยู่เลย
พาบุพการีไปสมัครงานด้วย😂 ป๊าดดดดด
ทั้งนายจ้าง ลูกจ้าง ต่างก็ต้องปรับ บริษัทไหนที่จะไปต่ออีกหลายๆ ปี ก็ต้องเจอ gen นี้ และ gen ถัดๆ ไป เว้นเสียแต่ว่าจะพอใจให้บริษัทจบอยู่ในช่วงชีวิตของตัวเอง
เราคงได้เห็น gen z ส่วนน้อยหละมั้ง เราไม่เจอปัญหาการเข้าสังคมของ gen z เลย มารยาทดี ไปลามาไหว้ ทักทายตลอด แต่จะเจอปัญหาทักษะการทำงาน ดูเหมือนว่า สิ่งที่ gen z เรียนมา กับสิ่งที่เราเรียนมามันต่างกัน แล้วบริษัทก็ยังไม่ล้ำขนาดนั้น บางทีตั้งแต่ gen z ลงมา ส่วนใหญ่ อาจไม่เหมาะกับงานเอกสาร งานออฟฟิศ เพราะเขาไม่เคยเขียนเรียงความ ไม่เคยทำรายงาน ไม่ได้ใช้ word excel เขาเรียนแต่การทำสื่อ ทำคลิป เขาไม่สามารถสรุปข้อมูลในรูปตาราง ไม่สามารถการอธิบายข้อมูลในตารางได้ แล้วก็มีปัญหาเกี่ยวกับการใช้ภาษาไทย ในเรื่องการเว้นวรรค ตัดคำ
เราไม่หวังการไหว้ การทักทายอะไรหรอก เราเน้นเรื่องงานมากกว่า ส่วนเรื่องสอนแล้วไม่จำ จบ ป.ตรี แต่ไม่มีความรู้ที่จบมา gen y ก็เป็น สิ่งที่เราไม่คาดคิดมาก่อน คือ การใช้ภาษาไทยไม่คล่อง การสรุปข้อมูลไม่ได้ อธิบายข้อมูลในตารางไม่ได้ ใช้ word excel ไม่คล่อง
อย่างเดียวเลยค่ะ Ego 😂 คิดว่าตัวเองฉลาดที่สุดใน 3 โลก GenZ จบเมืองนอก งี้ พวกป้าๆ ลุงๆ ในที่ทำงานโง่หมด 555
ถ้านับอายุเจน Z คือ 27 ลงมาใช่มั๊ยคับ ก็คือบัณฑิตช่วง 3-4ปีหลัง พอดีกับโควิดซึ่งเป็น
ปรากฎการณ์ new normal พอสมควรนะ
เด็กมันรู้มากอะดิ ปกครองยากใช่มะ เอาเปรียบมันไม่ค่อยได้ใช่มะ
ใจเย็นๆ พวก มิลเลนเนียมที่โดนด่าเยอะๆ หางานประจำไม่ได้ ก็เพิ่งมาหางานประจำกันได้เยอะๆ ตอน 30+ กันนี้เอง
มันต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ปรับตัวเป็นผู้ใหญ่ หลายบริษัทตอนนี้ก็ประกาศรับพนักงานโดยมีอายุสูงขึ้น หลายบนิษัทที่มีเงินก็รับแบบไม่ต่ำกว่า 28 ไปแล้ว คือไม่รับจบใหม่ หรือประสบการณ์น้อยไปเลย
ถ้ายังไม่ 30 ก็ยังมีเวลาอีกเยอะในการค้นหาตัวตน หางานที่ใช่
ไม่มีสัมมาคาราวะ มั่นใจในความคิดของตนเอง คิดว่าตัวเองคือคนรุ่นใหม่ ไม่ฟังคนรุ่นเก่า และก่อให้เกิดความขัดแย้งในหน่วยงาน
เจนz จะใจบางไปหน่อย โดนว่านิดหน่อยก็จะออกล่ะ และสื่อสารระหว่างเพื่อนร่วมงานมันจะแปลกๆหน่อย แต่เค้าก็ปรับตัวได้นะคะ ที่เจอมาก็โอเคค่ะ รับได้ ส่วนนี่คือเจน y โดนผู้ใหญ่ชี้เลยไอ้เด็กพวกนี้มันก้าวร้าวไม่เคารพผู้ใหญ่ 555555
สิ่งแรกที่ควรทำ คือ ไปอบรมมารยาท กับ ความอดทน
จากใจเด็กเจน Z จากที่เจอประสบการณ์การทำงานแย่ๆ มา ผู้ใหญ่หลายคนคาดหวังให้สื่อสารภายในทีม วางมาตรการในที่ทำงานหลายอย่างภายนอกดูดี แต่ทำจริงไม่ได้สักอย่าง ต้องยอมเซ็นใบลาทั้งที่รู้ว่าพวกหัวหน้าจั่วหัวว่าจะเอาเราออกให้ได้จากบรรยากาศการทำงาน (ดูได้จากการจัดการพนักงาน) พูดว่าจัดการตามสมควรแต่ไม่เคยสังเกตบรรยากาศการทำงานว่าแย่แค่ไหน มีประชุมทุกบ่ายแต่ Policy เปลี่ยนบ่อยมาก แจกแจงงานไม่ครบ มีเรื่องอะไรก็จัดการช้า พอส่งเรื่องลางานหรือเอกสารแล้วผิดพลาดอะไรมาก็โทษเด็ก ทั้งที่เด็กมันโทรตาม ส่งข้อความมาครบ ถามอะไรก็จิ๊ปากบ้าง ไล่ไปอ่านข้อมูลบ้าง ทั้งที่ในข้อมูลส่วนที่มีมันไม่สามารถแก้ไขเคสได้และไม่ได้เขียน Policy มาละเอียด พอจัดการเองแล้วไม่ถูกใจเค้าก็ด่าและโดนหางเลขตลอด ทั้งๆ ที่ลูกค้ายังไม่คอมเพลน พอถามวิธีแก้ปัญหาในแบบคร่าวๆ แบบที่ทำแล้วถูกต้องให้ฟังก็ตอบกำกวม แถมทำตามที่เค้าบอกทีไรลูกค้าคอมเพลนว่าเป็นบอท (เจอฟีดแบคจาก SNS ) โดนทักให้แปลเอกสารหรือโทรหาลูกค้าที่ใช้ภาษาที่ 3 ค่อนข้างเยอะ ’แบบไม่ได้ค่าภาษา‘ เลยและเราแจ้งกับทางหัวหน้าว่าถ้าไม่จำเป็นอย่าให้เราใช้ภาษาอื่นจะดีกว่า เพราะภาษาที่เราใช้คุยมันเอาไว้คุยแบบเบสิค ไม่ใช่แบบภาษาทางการ ก็โดนบีบให้ทำตลอด เราเคยติดโควิดจากการที่บ.อยากให้ WFO 100% ช่วงเทศกาล หลังหายจากโควิดไม่นานและร่างกายยังไม่ฟื้นฟูดี ภูมิตกหนักจนผื่นขึ้นรุนแรงมากๆ เลยบอกว่าอาจจะสายนะคะเพราะกลัวว่าต้องเข้าโรงพยาบาล ซึ่งเรามองว่ามันเป็นครั้งแรกที่ภูมิตกขนาดนี้เลยขอเช็คให้ชัวร์ว่าอาการไหวไหมบ้าง หรือน๊อคคาโต๊ะ แต่โดนเช็คโดนบ่นว่ามาสายหรือไม่เห็นใจคนอื่น บ่นว่าเราอคติ ไม่สื่อสาร ซึ่งเราตามทั้งหลังงานหน้างานแล้วแต่ไม่มีใครช่วย และเรามั่นใจมากๆ ว่าเราไม่เคยด่าหรือนินทาในแง่เสียหาย ไม่รวมกับที่หัวหน้างานทำตัวดีกับผู้ชายมากกว่าผู้หญิงแบบเห็นได้ชัดเจนมากๆ บางคนก็อยากให้เด็กเข้าหาแต่ทำตัวตึงใส่เส่วนตัวด็กตลอดและบอกว่าไม่อยากแก้ก็เป็นคนแบบนี้อยู่แล้ว อีกคนก็เหมือนจะเข้าใจเด็กนะแต่ไม่เคยพึ่งพาในเรื่องงานได้เลย ข้อมูลตกหล่นบ่อยมากๆ บางครั้งแจ้งว่าคนนี้เลือกเคสจนลำบากคนที่ทำงานต่อ เพราะงานค้างนานมาตกที่เราหลายครั้ง ก็โดนปัดตกบ่อยมาก ส่วนตัวเราเข้าใจได้ว่ามี fav child มีคนโปรด หรือคนทุกคนไม่สมบูรณ์แบบ แต่เป็นถึงหัวหน้างานก็ควรจะวางตัวให้เหมาะกับวัยวุฒิหรือตำแหน่ง และรับฟังเวลาเด็กคุยด้วยเหตุผลไม่ดีกว่าเหรอคะ ส่วนตัวเจอคนมาหลายเจน กล้าพูดได้เลยว่าทุกเจนมีปัญหาหมด มันอยู่ที่ว่าจะปรับตัวให้เข้ากันได้ไหม ไม่ใช่ปล่อยให้เด็กรับจบอยู่ฝ่ายเดียว ทำตัวเหมือนไม้แก่ดัดยาก จนสุดท้ายกลายเป็นว่าตัวเองกลายเป็นคนในแบบที่ตัวเองเกลียด และถ้าอยากให้เด็กปรับตัวตัวเองก็ต้องปรับตัวด้วยค่ะ อย่าทำตัวแบบเกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินนํ้าแกงเลยค่ะ ถ้าอยากจะรับคนใหม่ๆ เข้ามาช่วยบ. แต่ไม่ให้อะไรเด็กเลย (ความรู้ ประสบการณ์ สภาพแวดล้อมดี ไม่เอาเปรียบกันจนเกินงาม) น่าจะดีที่สุดค่ะ เพราะในเมื่อไม่คิดจะเปลี่ยนวัฒนธรรมการทำงานให้ดีขึ้น จะเอาแต่ผลประกอบการ ให้พนักงานทนกับวัฒนธรรมการทำงานที่ควรปรับและให้พวกเขาขายหัวตายคาโต๊ะน่ะค่ะ
gen z โตมาโดยมีสิ่งที่คนยุคก่อนทำไว้ให้ ก็หลงคิดว่าชีวิตมันง่าย แค่ทำแบบนี้แบบนั้นก็จะได้เลย แต่พอได้ออกมาเผชิญโลกเองจริงๆ ชีวิตมันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดเลย ต้องอาศัยความอดทนมากๆ ซึ่งทำให้ gen z รับไม่ได้ เพราะคุ้นเคยกับการเอาแต่ใจตัวเองเสมอมา
1. แตะไม่ได้ครับ เด็ก Gen Z.
2. มั่นหน้ามั่นโหนกสูงเกินตัว
3. อยากได้เงินเดือนสูงๆ แต่อยากเหนื่อยน้อยๆ
4. ประเมินตัวเองสูงเกินจริง
5. เน้นสิทธิ เสรีภาพ มากกว่า ความสามารถ
ก็มือไม้มันแข็งอ่ะ ยกมือไหว้ก็ไม่เป็น คิดว่าตัวเองเรียนเก่งได้เกียตินิยม ก็ยิ่งมั่น คงไม่รู้สิเนาะว่าเกรดที่ได้มานั้นมันง่ายกว่าแต่ก่อนเยอะ
ส่วนตัวเป็น Gen Y คาบเกี่ยว Gen Z ต้นๆ ทำงานประสานงานระหว่าง BabyBoomer กับ Gen Z จนเรามีลูกน้อง หลายคนมากๆ สัมภาษณ์เอง สอนงานเอง บอกตรงๆ
1.มารยาทไม่มีนี่คือที่1ของเด็ก Gen Z
2.ไม่เคารพผู้ใหญ่
3.สอนอะไรไม่ฟังแถมด่ากลับเหมือนตัวเองรู้ เหมือนเก่ง อวดฉลาด สุดท้ายให้ไปเปิดตำราในเมื่อพูดไม่ฟังถึงจะถึงบางอ้อ ไม่งั้นเถียงเหมือนเซียน *ไม่ได้เถียงเหมือนเรียนมานะถ้าเรียนมาคงไม่เถียงแบบนี้*
4.ชอบด่าชอบว่าชอบแซะผู้ใหญ่ ไม่ใช่แค่เรา แต่ด่าเมเนเจอร์ CEO หัวหน้าฝ่ายอื่นๆ คิดว่าตัวเองเจ๋งและเหนือกว่าทั้งๆที่ประสบการณ์ไม่มี แต่กลับบอกว่าผู้ใหญ่ชอบทำอะไรแปลกๆ ทำอะไรที่ไม่เหมือนบริษัทเก่าเขาทำ ชอบยึดติดกับบริษัทเดิมๆย้ายงานมาก็ไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงจากที่ใหม่หรือศึกษาอะไรใหม่ๆ นี่คือส่วนใหญ่ที่เจอ และส่วนใหญ่นี้ที่บ้านมีปัญหามีปมและจัดการกับตัวเองไม่ได้เลยมาลงกับคนอื่นในสังคม
5.ชอบอ้างว่าที่ไม่รู้เพราะเรียนออนไลน์ เหตุผลนี้ฟังไม่ขึ้นมากๆ แค่เรื่องพื้นฐานยังต้องมานั่งสอน ไม่ใช่ไม่สอนนะอีนี่จับมือสอนยันพื้นฐาน สรุปหลายคนจบมาไม่มีอะไรติดตัวมาเลยแม้แต่ทฤษฎีพื้นฐาน แต่ติดใจตรงไม่รู้เพราะเรียนออนไลน์ช่วงโควิด ติดใจคำตอบนี้มากกกกไม่ได้ตอบรอบเดียวด้วยสิ55
6.เกี่ยงงาน(เคยมีแบบขอไม่ร่วมงานกับใครเลยก็มี) อยากได้เงินเดือนเยอะๆ แต่งานน้อยๆ และงานไม่หนัก อันนี้เรื่องจริง 99%เป็นแบบนี้ สัมภาษณ์อย่างดี พอมาทำงานจริง อู้ววววว หมดคำสิเว่า บางคนพูดไม่เก่งพรีเซนต์ตัวเองไม่เก่งแต่มาทำงานจริง ทำงานดีมาก ไม่ได้เก่งแค่พูด นี่รับหมดไม่เกี่ยงมหาลัยหรือปวส.ก็รับ ขอแค่มาแล้วทำงาน
เราใช้จิตวิทยามาหมดแล้วเลยรู้วิธีการคุยกับเด็กๆ และส่วนใหญ่น้องๆรัก อาจมีดุบ้างแต่ต้องมีเหตุผลน้องถึงจะเข้าใจ ว่าทำไม เพราะอะไร ส่วนเด็กที่เป็นส่วนน้อยนั้น มีทั้งที่บ้านไม่มีปัญหาเลยคือบ้านสอนมาดีมากกก หรือบ้านมีปัญหาแต่เด็กสามารถจัดการตัวเองได้เด็กมีวุฒิภาวะพอ รู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร ซึ่งอันนี้ดี ยอมรับเลย คนเก่งก็เก่งจริง เก่งใจหาย แค่ต้องเหลาให้คม และ put the right man into the right job คนไม่เก่งแต่พร้อมเรียนรู้ก็มีแต่น้อยมาก ส่วนใหญ่อวดเก่งและน้ำเต็มแก้ว
พนัดงานร้านสะดวกซื้อ คาเฟ่ ที่พูดคุยเสียงดัง รบกวนลูกค้า เพราะคิดว่าตนเองมีสิทธิ์ คนเท่ากัน
ต้องแยกประเด็นระหว่าง IQ กับ EQ ส่วนตัวที่เจอคือ เด็ก Gen Z จะเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์สูง มักจะทำอะไรที่จากยากกลายเป็นง่าย ดูเป็นคนฉลาด ทันโลก ทันเทคโนโลยี ดูมี IQ สูง บางคนจบมาระดับเกียรตินิยมอันดับ 1 อันดับ 2 มีสกิลการใช้โปรแกรมต่างๆนานาได้ดีมาก รวมถึงการสื่อการภาษาอังกฤษบางคนถือว่าเยี่ยมเลย แต่ข้อเสียคือจะเป็นคนที่ขาด EQ ดูเป็นคนไร้วุฒิภาวะ ดูไม่มีแรงจูงใจในการทำงาน เหมือนทำงานไปวันๆเอาให้เสร็จแล้วก็กลับบ้าน งานไหนที่ต้องส่งวันนี้ถ้าถึงเวลาเลิกงานแล้วยังไม่เสร็จก็คือไม่เสร็จ กลับบ้านเลยไม่มีการมาทำล่วงเวลา หนักสุดคือเถียงคนระดับผู้ใหญ่เพราะคิดว่าตัวเองถูก จริงๆไม่เลย ดูไร้มารยาทมาก และคนพวกนี้ชอบเรียกร้องว่า อยากทำงานใกล้บ้าน อยากหยุดเสาร์อาทิตย์ อยากได้เงินเดือนสูงๆ ไม่อยากทำงานหนัก อยากมีวันลาพักร้อนเยอะๆ โดนบ่น โดนด่านิดๆหน่อยๆไม่ได้ การแต่งตัวมาทำงานบางคนคืออย่างกับตื่นนอนมาปุ๊บมาบริษัทเลย ดูไม่มืออาชีพไม่เหมือนคนทำงานเลยสักนิด และชอบอ้างว่าตัวเองเป็นซึมเศร้า เป็น Introvert จริงๆแบบนี้มันเรียกว่าคนไม่พร้อมทำงานมากกว่า
บางคนพ่อแม่เลี้ยงมาดีเกิน มั่นเกินเหตุแต่เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ (ย้ำว่าบางคน) และอาจจะพบได้บ่อยในgen z นำเสนอสร้างสรรค์ได้แต่ก็ต้องเคารพกฏองค์กร ทำอะไรก็ดูสังคมโดยรวมด้วย เอาแต่ใจตัวก็กลับไปทำงานที่บ้านเถอะ
ผมว่ามันไม่ได้เกี่ยวกับ gen อะไรหรอก มันขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม การอบรม และ โอกาส ถ้าเขาได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี อบรมและสภาพสังคมที่ไม่ toxic แข่งกันกดหัวทีบคนอื่นเพื่อไปสูงขึ้นโดยไม่สนใครข้างหลัง พร้อมโอกาสเล็กๆน้อยๆที่ให้เขาได้ลองแสดงฝีมือหรือความถนัดออกมา บางทีเขาอาจทำบางอย่างได้โดยที่คนอื่นไม่คาดคิด
สิ่งที่ทำให้แต่ละ gen แตกต่างมันก็แค่ประสบการณ์กับโอกาสต่างๆ อย่างรุ่นพ่อแม่เราบางที่ไม่มีเน็ตจะหาอะไรก็หาจากห้องสมุดเอา แต่รุ่นสมัยใหม่ของเรา แค่เปิดมือถือก็รู้แทบทุกอย่าง นี้เหละคือความต่างของโอกาส สุดท้ายผมที่ก็แค่คนๆหนึ่งในตอนนี้ ผมไม่แคร์หรอกว่าคุณเกิด gen อะไร ที่สำคัญคือคุณอยู่รวมกันกับคน gen อื่นได้ไหม จริงๆมันไม่ต้องมีก็ได้ gen x y z อะไรเนี่ยสุดท้ายมันก็แค่เรื่องของวัยที่แตกต่าง ผมอาจคิดมากแต่การแบ่ง gen มันทำให้รู้สึกแปลกแยก เหมือนเวลาคนบอก gen z ไม่อดทดสู้ gan y อะไรแบบนี้ มันทำให้คนมองหน้ากันไม่ติด เพราะใครไม่รู้ไปตราหน้ามาแล้วว่า gen z มันแย่!! มีแต่ข่าว gen z เสียๆหายๆ แล้วไม่ออกข่าวมาบ้างละ gen z ทำงานแล้วปกติทำได้ดี จริงๆเพราะถ้ามันทำงานได้ปกติก็คงไม่เป็นข่าวใช่ไหมละ ภาพลักษณ์มันเลยพังไปหมด
ผมอาจโลกสวยไปจริงๆอย่างที่คนอื่นชอบว่าผม แต่ถ้าเป็นไปได้ ก็ช่วยหยุดเหมารวม gen ว่าปัญหามีอย่างโน้นนี้ได้แล้ว มันไม่ต่างกับคนคุยเสียงดังในห้อง 4จาก 10คน แล้วครูมาบอกนักเรียนห้องนี้คุยเสียงดังเลย