Розмір відео: 1280 X 720853 X 480640 X 360
Показувати елементи керування програвачем
Автоматичне відтворення
Автоповтор
6:47ผู้กำกับมันคือ : Albert Weskerคนดูมันคือ : Blade
ผมหลุดเลย555555
เห็นด้วยที่ว่าทุกอย่าง ทำไมต้องเปลี่ยนสัญชาติตัวละครเดิม ถ้าอยากหลากหลายก็สร้างใหม่ไปซิไม่ใช่ยัดเยียดเปลี่ยนเบสตัวละครแล้วก็อ้างหลากหลาย
woke ประเด็นเพิ่มอีก 2 เรื่องคือ 1. เด็กแม่งถูกเสมอ ทำส้นตีนอะไรก็จะรอดตัวตลอด 2. เด็กจะต้องมีปมลึกๆ และต้องเป็นศูนย์กลางของโลก ที่หมุนรอบความเจ็บปวดของมันตลอด 3. พ่อแม่ต้องโอ๋ตลอด จากกฎข้อ 1-2 ข้อสุดท้ายที่ต้องยอมรับตรงๆ ว่าทำไมคนเอเชียเกลียดเรื่อง SJW มากเพราะการพยายามทำให้นักแสดงที่ดูไม่มีความสวยตาม trend และไม่มีความ sex appealing ใดๆ เลยมายัดลงในหนังและมีบทสำคัญ เช่น คนเอเชียไม่ได้ appeal กับคนแอฟริกันผิวดำ หรือแขกอินเดีย เป็นต้น แต่ถ้ามีองค์กรหรือกลุ่มอะไรซักอย่างพยายามยัดเยียดให้คนเอเชียต้องพอใจกับเชื้อชาติที่คนเอเชียไม่ได้ appeal แม้แต่ในโลกความบันเทิง มันคือการ 'บังคับ' ให้เราจะต้องยอมรับความสวยงาม (beauty) และรสนิยมตามลัทธิของมัน ซึ่งเลวระยำมาก .. สำหรับเราไม่สวยคือไม่สวย ไม่มีเคมีก็คือไม่มี เวสเกอร์เป็นฝรั่งเท่ๆ ขรึมๆ สาวกรี๊ด ส่วนนางเอกก็จะสวยแบบจิลกะแคลร์ แม้กระทั่งรีเบคก้าที่เน้นน่ารัก แล้วจู่ๆ เอาคนดำเหี้ยไรมายัดให้พวกกู คือไงอ่ะ ประเทศเมิงเคยจับคนดำมาเป็นทาสเลยมีการเหยียดกันเป็นปมร้าวลึก แล้วไง? เมิงต้องมาบังคับให้คนทั้งโลกต้องมาอินกับปมประวัติศาสตร์ชั้นต่ำของเมิง และทำให้ประเทศที่มีวัฒนธรรมต่างกันเค้าต้องมาประสาทแดกกับเมิงด้วย ทั้งที่เขาก็มี issue อื่นๆ ของตัวเองอยู่แล้วงั้นรึ? ลองสังเกตดูง่ายๆ นะครับ หลังๆ SJW woke ไม่ได้หยุดอยู่แค่ชาติตะวันตก แต่มันกำลังพยายามยัดให้เอเชียสายจีน (เช่นเรื่องซือเจ๊มัลติเวิร์สอะไรนั่น) และเริ่มพยายามเข้าไปแทรกซึมสายแขก..สายอาหรับ ขึ้นมาพอสมควรละ เพื่อจะกลืนวัฒนธรรมเหล่านั้นไปด้วย.แล้วการ woke ขั้นสูงสุดที่มันมีผลไปแล้วก็คือ การที่ทุกท่านแม้แต่ในรายการต้องมานั่ง "แก้ตัว" หรือ "ออกตัว" ว่า เราไม่ต่อต้านอะไรแบบนู้นแบบนี้ เพื่อพยายามเคลียร์ตัวเองอยู่ตลอดเวลานั่นแหละ ก็คือมันสามารถมาบังคับให้เราต้อง "ยอมสยบ" ต่อลัทธิของมันแล้ว ทั้งที่เมื่อก่อนเราก็ไม่จำเป็นต้องมาคอยเคลียร์ตัวเองในการแสดงความเห็นอย่างอิสระกว่านี้รึเปล่า ?
มันเป็นการกระทำที่ไร้สาระและน่ารำคาญมาก
ขอบคุณที่ช่วยกันเอ่ยถึงคำว่า "Woke" กับ "SJW" ให้คนไทยฟังครับก็เพราะไอ้เรื่องเนี้ย บางคนในสังคมกำลังเดือดร้อน ใช้ชีวิตยากเย็นขึ้น จากการตกเป็นจำเลย ถูกใส่ความเท็จจากสิ่งที่ตัวเองไม่ได้เป็นหรือไม่ได้ทำ อันนี้เรื่องจริงเช่นผมวิจารณ์เรื่อง ... My Little Mermaid ที่ระดับ Official จะเอาคนผิวสีมาแสดง(แอเรียลเป็นตัวละครแดนิช) ผมจึงเสนอในโซเชียลว่าหานางแบบน้องใหม่เป็นชาวแดนิชมาแคสติ้งจะดีกว่าไหม? ต่างชาติบางคนถาม "เหยียดสีผิวเหรอ?"ผมตอกกลับไปเลยว่า "แล้วคุณล่ะ? เกลียดสีขาวเหรอ???"อ่ะ ละมีอยู่อีกเคสนึง: เกม The Walking Dead ของค่าย Telltaleแฟนคลับครับเขา ไปวาดภาพแฟนอาร์ต หรือแต่งภาพเปลี่ยนทรงผม/เสื้อผ้า นางเอก "เคลมเมนไทน์(Clementine)" ซึ่งเป็นคนอเมริกันลูกครึ่งผิวสีคนที่วาดดันวาดไม่คล้ำพอ เลยโดนบางคนเข้าไปเม้นจวกว่า "White Wash(ราดถังสีขาว)" หรือ "Why did you make her white?(ไปทำให้นางขาว)"คือไปเหยียดเขาอ่ะ และคนที่เห็นเม้นเหล่านี้ต่างก็ชอบใจกันประมาณว่า เหยียดคนขาว(เผลอๆเอเชียด้วย)ได้ แต่เหยียดคนดำไม่ได้งั้นสิ แล้วมีแต่คนผิวสว่างเมลานินต่ำ ที่เหยียดเป็นอยู่ฝ่ายเดียวงั้นสิเนี่ย...ก็เพราะไม่ใช่แค่ระดับใหญ่อย่างอุตสาหกรรมภาพยนตร์ต่างประเทศที่ตกเป็นทั้งเหยื่อและเครื่องมือของบุคคลหรือ NGO ฝ่ายซ้ายสุดขั้วที่คุณเห็นในข่าวบางเกมอย่าง The Last of Us 2 เป็นต้น ระดับย่อยๆลงมา อย่างในโซเชียล โดยเฉพาะอย่างทวิตเตอร์..."เผาพ่อมด/แม่มด ทุกวันอ่ะ" ไม่ถูกใจใครหรือ SJW หรือเฟมนินิสคนไหน ต้องดราม่า ทุกครั้งมันคือ เผด็จการภาคประชาสังคม ตามที่คุณเข้าใจและคอมเม้นต์เลย ยัดเยียดไม่พอ บงการเอาความคิดตัวเอง เป็นที่ตั้งด้วยคอยบอกคนอื่นๆเรื่อง Wokeism กับ SJW ต่อไปครับ เพราะคนไทยกำลังหลงไปกับกระแสนี้ ง่ายพอๆกับอเมริกาจริงๆ และจริงๆมันมีมานานตั้งแต่ก่อนศึกการเลือกตั้ง ทรัมป์ vs คลินตัน ปี 2016 แล้วครับ
เค้าไม่เข้าใจครับว่าการให้เกียรติ์แบบไม่เหยียดเป็นยังไง เมื่อไม่เข้าใจแต่ต้องแสดงออกมันก็จะล้นๆเกินๆแบบนี้ครับ
เมื่อวานเห็นคนนึงโพสเม้นยาวมากเลย แล้วผมก็สังหรณ์ว่าเขาอาจจะลบเม้น... แล้วปรากฏว่าวันนี้ก็ลบจริงๆ ด้วย 555 ก็เลยขอฝากบอกว่า ก็เพราะงี้แหละครับ พวกเฟมทวิต พวก SJW มีอำนาจมาก จนถึงขั้นทำให้คนๆ นึงต้องกลัวและ "ระมัดระวัง" ทุกย่างก้าวว่าจะโพสอะไรผิดพลาดไหม จะเจอทัวร์ลงไหม ดังนั้นทุกความเห็นที่ออกมาจะต้องผ่านการ approval จากพวกขยะพวกนี้ก่อน นี่ก็เท่ากับว่า คนไทยได้กลายเป็นทาสพวกมันไปโดยสมบูรณ์แล้ว ปากก็พล่ามถึงเสรีภาพและประชาธิปไตยบ้าบอคอแตก แต่แค่ "อิสระ" ในการจะบอกว่าตัวเองชอบหรือเกลียดอะไรก็ยังพูดไม่ได้ ดังนั้นก็อย่ามาใช้คำว่าสิทธิเสรีให้มันสวยหรูเกินไปจะดีกว่า และไอ้ประโยคที่ว่า "ศิลปะไม่เคยเป็นทาสใคร" ก็โยนมันลงหลุมไปด้วยเลยครับ เพราะสิ่งที่เห็นทุกวันนี้ศิลปะในทุกสื่อก็เป็นทาสไปอย่างพร้อมเพรียงกันหมดแล้ว การ์ตูน service หรือเรื่องทางเพศ (การ sexualize) ก็จะต้องทำในกรอบที่ SJW และเฟมทวิต อนุญาตให้มีได้ ปล่อยให้มันมาเสือกแม้กระทั่งจินตนาการในหัว มันไม่น่าสมเพชเกินไปเหรอ?. พูดถึงคนที่ลบข้อความต่อนะครับ เห็นว่าเคยเถียงกับฝรั่งมา ผมจะบอกว่าเวลาเถียงกับฝรั่งต้องเริ่มต้นจากหลักการ (principle) ที่ตั้งอยู่บนกฎธรรมชาติครับ (law of nature) ไม่ใช่ไปโต้แย้งหรือ debate กันโดยใช้ตรรกะหรือคุณค่าบนหลักศีลธรรมจอมปลอมของมัน แบบนี้มันก็ไม่ต่างจากการสู้ไปกราบไปนั่นแหละครับ ถ้าจะสู้ก็เอาตีนเตะคุณค่า (value) ของมันทิ้งโดยไม่ต้องสนใจแล้วถึงค่อยเริ่มเถียง โดยยกเอากรอบมาตรฐานอื่นมาเป็นฐานความคิดของเรา ยกตัวอย่างเช่น ถ้าจะเถียงกันเรื่องว่า --- ตัวละครชายฝ่ายพระเอกสามารถต่อยตัวละครหญิงได้ไหม? พวกที่เถียงตามเกมของเขา ก็จะอ้างความ "เท่าเทียม" ก่อนถึงจะบอกว่าผู้ชายมีสิทธิ์ที่จะต่อยได้ แต่ทว่าตัวผมซึ่งมองว่า ความเท่าเทียมคือศีลธรรมปลอมหรือศีลธรรมสัมพัทธ์ตั้งแต่แรก (คือขึ้นอยู่กับแต่ละกรณี --case by case) จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องประกาศให้มันรู้ว่า กูเองก็กราบไหว้บูชาความเท่าเทียมเหมือนมึงนะ ดังนั้นได้โปรดช่วยฟังกูด้วย แล้วถึงจะค่อย...มีสิทธิ์ "แก้ตัว" เพื่อให้มันยอมรับ เป็นต้น แบบนี้คือการเถียงของทาสครับ.สรุปแล้ว คนไทยทุกคนนั่นแหละ ลุกขึ้นต่อต้านไอ้พวกนี้อย่างจริงจังได้แล้ว ทั้ง SJW ทั้งเฟมทวิตที่มากับศีลธรรมกลวงๆ ของพวกมัน
@@CrystalMooGamingChannel จริงครับ พวก woke/SJW/Activist ที่แบบสุดโต๊งโต่ง เช่น transgender ที่โทษ cishet/homo ทุกอย่าง แค่หายใจก็ผิด ชอบทำแบบล้นๆแล้วทำการบังคับ อาจจะไม่ได้ physical แต่ใช้การ cyberbully บางคนเป็นการ harass ด้วยการ brigade(เรียกพวกมาถล่ม) ซ้ำจนไม่มีอีเมลให้สมัครหรือแม้แต่ขู่ฆ่าก็มีเช่นเคสแม่ JK (คนที่ดูจะเป็น woke จริงกว่า normie woke/SJW ทั่วๆไปด้วยซ้ำ) ไล่โทษคนเห็นต่างไปทั่วในระดับที่ผมขอยอมรับเลยว่าอยู่แคนาดาเจอ Karen ยังไม่ ปสด. เท่าพวกนี้ ไม่สิไม่ได้ 1/3 ของ SJW เลยด้วยซ้ำ ประเด็นก็คือหนังสมัยนี้ที่ทำออกมาขายพวก woke/SJW/progressive feminist ส่วนใหญ่เห็นว่าคนพวกนี้ส่วนใหญ่จะอายุไม่เยอะ(บางคนเพิ่งพ้น teenage มาก็มี) เหมือนจะเป็น target ใหม่นะครับ ต่างจากเมื่อปี 2000s ที่คนจะเป็น centrist-leftist มากกว่า พูดง่ายๆคือเปลี่ยน target ไปตามยุคสมัยใส่ความ diverse พร่ำเพรื่อ ยัด lgbtq+ มาโดยที่หนังบางอันไม่แคร์ต้นฉบับด้วยซ้ำแม้ว่าคนสร้างจะยังมีชีวิตอยู่ก็ตามเช่น Witcher หรือง่ายๆ RE ที่ส่วนใหญ่จะเป็นคนขาว เพื่อให้หนังมันขายได้โดยไม่แคร์เลยว่ามันจะขัดกับความจริง setting ของโลกนั้นๆยังไง(ก็ธุรกิจแบบ capitalism นั่นแหละ)แต่นะครับ กาลเวลาจะทำให้พวกนี้สงบครับ เมื่อมีการ inflate บางสิ่งไปมากๆเข้า คนจะเอือมระอา เหมือนลูกโป่งที่เป่าลมไปเยอะๆมันก็จะแตกครับ อีกซัก 20 ปี พวกเด็ก gamma ก็คงจะเปลี่ยนจากตรงนี้ไปเข้ากลับไปสู่กลางมากขึ้นครับเนื่องจากพวกคนปี 2020s อัดความ progressive ไปในทุกอย่างมากเกินไปครับ เด็กก็จะซึมซับและเมื่อพวกเขาได้เห็นหรือเข้าใจและเมื่อมีมากเกินไปพวกเขาจะหาวิธีแก้ให้มันกลับมาตรงกลางได้ครับ เพราะซ้ายตอนนี้มันไปสุดกว่านี้ไม่ได้แล้วครับ จะไปต้องทั้งเทคโนโลยีหรือระดับการ evolution ของคนก็ต้องไปสูงกว่านี้ครับ
เป็นช่องที่ voice over ได้ดีมากกก ส่งต่อตัวตนคนพูดได้ดีสุดตั้งแต่ผมฟังช่องไทยมาเลย รักนะครับ ❤️
ฟังแล้วแบบบันเทิงมากครับ รักษาสุขภาพด้วยนะครับ
ทำไมยิ่งนำวันหนัง re ฉบับของ Paul W.S. Anderson แม่งดู masterpiece ขึ้นเรื่อยๆวะเนี่ย 555+
ถึงมันเหี้ย แต่ action กับ CG มันดี
ไม่ควรพูดงั้นอ่ะอะไรที่แย่มันก็แย่เท่าเดิมอะ
@@seijiren5115 เเต่พอเปรียบเทียบกันมันดูดีกว่าจริงๆนะ😂
@@thaninthanyanasornsiri5010 งั้นช่วยเทียบกับมาตรฐานภาพยนต์ด้วยครับ
ยอมรับเลยว่าของตาพอลแกงานดี มันดีสำหรับส่วนตัวผมตั้งแต่ก่อนสารพัดภาคห่วยๆตั้งแต่ Welcome โผล่มาละ (Vendetta ขอไม่พูดอะไร เพราะยังไม่ได้ดูครับ)Masterpiece ไม่พอ แถมยัง Nostalgia อีกด้วย เพราะผมเติบโตมาผูกพันกับของ Paul แกไม่ใช่แค่เวอร์ชั่นเกมเปิดโลกทัศน์ทั้งเรื่องซอมบี้ เปิดโลกทัศน์ทั้งอาวุธปืนสถานที่ ความล้ำยุค Soundtrack ประกอบหนัง ไอเท็มประกอบฉาก(เช่นหลอดเก็บไวรัสภาคแรกๆ) เป็นต้น มันถูกโฉลกผมดีมีเพียงเรื่องตัวละครที่หายไป(พี่เบิ้มคริส สาวสวยเคมาร์ท หนูน้อยแองเจลล่า เอด้า จิล ฯลฯ) การแคสนักแสดงลีออน(พระเอกกู)ที่ไม่ได้เรื่อง กับการตายสุดอนาทของเวสเกอร์ที่ขัดใจผมอยู่
ความแปลกอีกอย่างคือ ตอนเด็กบิลลี่เป็นเด็กวัยรุ่นเมกา ตอนโตกลายเป็นคนเอเชีย
นั่นแหละฮะคุณผู้ชม
Netflix ประกาศยกเลิภาคต่อแล้วครับยินดีด้วย พี่ไม่ค้องเสียค่าแชมเปญแล้วครับ
*_" !!!!! C A N C E L E D !!!!! "_* 55555+ 🤣
หากใครดูจบ คุณสามารถนำไปเขียนในresumeได้ว่าคุณดูซีรี่ย์นี้จนจบ ผู้ว่าจ้างก็จะรู้ได้ทันทีว่าคุณมีความอดทนสูง
พล็อตเรื่องนี่พังทุกจุดเลย มีดีสุดคือการแสดงของเบลดคนเดียว
มองให้เป็นเวสเกอร์ละกัน T_T
@@0840843480 ผมพยายามอยู่ T_T
@@0840843480 ไม่สามารถจริงๆ
ดูยังไงก็ เบรด พันธ์อมตะชัดๆ 555
กลายเป็น อัลเบลด เวสเกอร์
มีสตอรี่แบบเรื่องวุ่นๆ ของวัยรุ่นอเมริกันเห่อหมอนด้วยเหรอ 😂ความทรงจำ ดรากอนบอล เอ้ฟโวลู่ชั่น ในตำนานผุดขึ้นมาเลยทีเดียว 😂
เป็นการขยี้ที่สะใจมากครับ 5555555555 โดยเฉพาะอีเจด คือแบบ ผมเองดูได้แค่ตอนเดียวก็ไม่ไหวแล้วอะ กดปิดไม่ดูต่อเลย มาดูคุณสปอยให้ฟัง ยังสนุกกว่าอีก สะใจด้วย ได้ขยี้ตัวเอกสุดเดอะฟัค
น่ารำคาญเหี้ยๆเลย อีเจต ทั้งตอนเด็กตอนโต woke ยัดเหยียดจนน่ารำคาญ
เสียเวลามากคะ😅
มีอยู่เหตุการณ์นึงที่งงมากคือ พ่อของทั้งสองสาวตายตั้งแต่พวกนางยังเด็ก โดยการจุดไฟให้ระเบิดบริษัท โดยมีแฝดน้องของพ่อพาหนี แต่พอมาฉากที่เจดเจอกับบิลลี่ครั้งแรกตอนที่โตแล้ว เจดกลับถามว่าพ่อเป็นยังไงบ้าง แล้วบิลลี่ก็บอกว่า ตายแล้ว ประมาณว่าเพิ่งตายได้ไม่นานเท่าไหร่นัก คำถามคือ แล้วที่บริษัทระเบิดที่พ่อนอนแอ้งแม้งอยู่ข้างๆระเบิด คือตอนนั้นพ่อมึงยังไม่ตายหรอ ถึงมาถามตอนโตว่าพ่อเป็นไงบ้าง ผมนี่ได้แต่ถามว่า อิหยังวะ
ตอนหัวเราะตรง Wesker เพราะเป็น Blade โครตฮาผมลั่นไปด้วยจริงๆ 😅😂
คิดเสียว่าเป็นภาพยนตร์ล้อเลียน เสียดสี ตัวหลักฟอร์มยักษ์ เรื่องนี้เน้นเอาฮาประมาณนั้นครับ เคยมีหนังภาพยนตร์ล้อเลียนฆาตกรหน้ากาก เรื่องหวีดหลายๆ ภาคครับ
เอ็กคลูซิฟเน็ตฟลิกซ์ ที่เป็นหนังภาคต่อหรือรีเมค ที่ดีจริงๆสำหรับผมก็มีแค่รูโรนิเคนชิน แค่นั้นแหละครับ ซึ่งนั้นผมก็ไม่ชัวว่าเป็นหนังที่เป็นเอ็กคลูซิฟสร้างจากทีมงานเน็ตฟลิกจริงๆมั้ย5555555
6:47 ถ้าบอกว่าคือ ภาพโปรโมทหนังเรื่อง Blade ภาคใหม่ผมก็เชื่อ
ฟังเพลินดีครับ หน้าทำคลิปแบบนี้อีกบ่อยๆน่ะครับ
ถึงนางเอกจะดูน่ารำคาญแต่ผมว่ามันก็ออกมาดีนะ....ใช่ผมหมายถึงPREY.
Netflix ตัวละครต้นฉบัล จะดำจะขาว แต่พอไปทำเท่านั้นแหละ สลับ ขาวเป็นดำ สลับดำเป็นขาว ไร้ความน่าสนใจแบบ มากๆ หรือตัวละครไม่ตรงปก เกม
ดำเป็นขาวนี่ไม่เคยเห็นนะเพราะความหลากหลาย = การเกลียดคนขาว
ดำไม่ค่อยสลับครับ จากที่เห็นหลายเรื่องถ้าผู้ชายตัวดำ จะเปลี่ยนเป็นหญิงผิวขาว(น้อยมาก)หรือหญิงผิวดำแทน ไม่ก็เพศที่3
นับถือความพยายามในการดูให้จบเลยครับ พี่นี้เก่งเกินคนจริงครับ 5555
ฟังจากที่เล่าเเล้วตัวซีรีย์โคตรจะเลอะเทอะ ทำเอาเวอร์ชั่นหนังดูดีขึ้นมาเลย
555 ฟังไปฮาไป อย่างได้ครับ ฃอบๆการวิพากย์ซี่รี่ย์ครับ
เละแบบไม่รู้จะเละยังไง Capcom ก็ไม่ได้สนใจหนังจะออกมาเละเทะยังไง ถ้าชื่อว่า RESIDENT EVIL ที่มี Umbella เป็นองกรค์แผร่เชื้อละก็คือกูได้ค่าลิขสิท์แน่นอน เอามาใช้เป็นทุนในการรีเมคเกมส์ของกูก็พอ
ผมไม่เข้าใจว่าทำไมคนมันหนังชอบทำให้ตัวเอกเป็นพวกเห็นแก่ตัวไม่เห็นใจคนอื่น ทำร้ายคนอื่นได้แบบหน้าตาย หรือทำตัวแบบเรียกว่าชั่วได้เลย ปกติตัวเอกหนังสยองขวัญมันตวรจะเป็นคนดีอย่างน้อยก็ระดับนึงเพราะคนดูต้องเห็นใจและอยากให้รอดไม่ใช่เหรอ ถ้ายกตัวอย่างง่ายๆเลยก็ตัวเอกในเกม ถ้าตัวหลักๆมันก็คนดีกันหมด หรือถ้าเป็นภาค Outbreak ก็เป็นประชาชนธรรมดาที่ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนมากแต่ก็ทำให้คนเข้าถึงง่ายๆ เป็นแบบนี้ไม่ใช่เหรอที่ทำคนเล่นถึงได้ชอบและจดจำกันมาถึงปัจจุบัน
คิดว่าในทีมสร้างก็มีคนแย้งและไม่เห็นด้วย แต่ทุกธุรกิจ การตัดสินใจของคนจ่ายเงินถือเป็นที่สุด มันออกมาเป็นแบบนี้ก็เพราะนายทุนนั่นแหละ
เห็นด้วยที่สุดเลยครับ มันบัดซบมากจริงๆ ชอบนักแสดง Lance นะ แต่ก็อย่างว่าแหละคือไม่ใช่ก็คือไม่ใช่
คือจริงๆเราพยายามเชื่อนะว่า colorless casting มันมีจริงๆแบบว่าถ้าตัวแคสมันเข้ากับคาแร็กเตอร์ก็เอาหมดไม่ว่าจะเป็นชาตพันธุ์ไหน หรือเพศอะไร แต่คือทุกครั้งที่เห็นการแคสแบบนี้คือคุณมีจุดมุ่งหมายเดียวคือ woke คราวนี้มันก็หลุดโฟกัสละแค่ไอเดียเริ่มต้นก็พลาดไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่นเลย ทำไมคนถึงถูกใจ the witcher นักหนาก็ตัวเอกมันได้ไง นักแสดงนำคนอื่นก็ทำได้ดี the witcher เรื่องราวมันเป็นยูโรปตอนเหนือ ก็ไม่จำเป็นต้องเอาคนตรงนั้นมาจริงๆ Henry แม่งเป็นคนอังกฤษก็เล่นได้ถ้าคาแร็กเตอร์มันใช่ ลองเปลี่ยนเป็นคนดำสิ กระแสต่อต้านได้พอๆกับ แฟรงจิล่า ตังเยนนิเฟอร์ก็เป็นสาวแขกแต่ก็ทำออกมาได้ดี อันนี้คือ colorless ของจริงคือทำไมเอ็งไม่ดูจากความสำเร็จของตัวเองวะ Netflix ปวดหัวประเด็นเรื่องผิวสี มีแต่ประเทศทางตะวันออกทั้งนั้นแหละที่มีปัญหาโดนเฉพาะอเมริกา มาเอเชียไม่มีหรอกทำออกมาแต่ละเรื่องปลุกความเท่าเทียมทางเชื้อชาติ มีแต่พวกเอ็งแหละคนขาวที่ไปล่าอาณานิคมแล้วเหยียดเขาไปทั่วไม่ต้องมาสอนทางนี้เลย
คือไอ้ยัดความหลากหลาย ว่าแย่แล้ว วีแกนแม่งมากะเขาด้วยได้ไงวะวีแกนนี่น่าจะเป็นสิ่งที่ปัญญาอ่อนที่สุดที่แม่งสามารถยัดลงไปในหนังได้ละ ผมนี่พึ่งเรียนเขียนบทมาหมาดๆ กุปวดหัววว 55555
ผมมา Rant เฉยๆนะครับคือ สมมติอนาคต ถ้ามีเทคโนโลยีสักตัวนึง(ผมจินตนาการเฉยๆนะ)เอาชิ้นส่วนเล็กๆของสัตว์เช่น DNA หรือเนื้อเยื้อ "มาเพาะปลูก" เป็นก้อนเนื้อ Organic อาจจะมีเรื่องโมเลกุลของน้ำมาเกี่ยวข้อง เพื่อได้เนื้อแต่ละส่วน โดยไม่ต้องฆ่าสัตว์ผมว่าพวกนักเคลื่อนไหววีแกนที่ปัจจุบันก็ไร้ราคาอยู่แล้ว ยิ่งจะสูญเสียจุดยืนในการเคลื่อนไหวเข้าไปใหญ่อีกพอรู้ว่ายุคสมัยของตัวเองมีสินค้าสัตว์ออแกนิคตามท้องตลาดที่ไม่ได้มาจากการเชือดแบบโหดเหี้ยมและสร้างความเจ็บปวดชั่วกัปชั่วกัลป์ แต่มาจากการเพาะปลูกแล้วเก็บเกี่ยวแบบที่เก็บสินค้าเกษตรจากต้นอันนี้คือผมจินตนาการเล่นๆถึงเทคโนโลยีในอนาคตครับแต่ท้ายที่สุดย่อมมีข้อเสียคือ ประชากรสัตว์อาจล้นโลก ปัจจุบันที่สหรัฐฯถึงได้มีฤดูล่า ชาวบ้านต้องเอาปืนไปยิงและเอามากินอยู่ดี หน้าหนาวเน้นล่ากวาง เป็นต้นย้อนกลับมา RE Netflix นี่ บอกตามตรง คนธรรมดาที่ไม่เคยมีประสบการณ์เรียนเขียนบทมาก็ฟิลได้เลยว่าฝ่ายทำซีรียส์เขามี Agenda ครับ คือใช้สื่อบันเทิงเป็นเครื่องมือเผยแพร่แนวคิดของคนกลุ่มนึงหรือ NGO นึงผมกลับไปดู RE ของตาพอลกับอลิซร้อยรอบต่อภาคยังสนุกกว่าเยอะ
@@patriotth1453 ประเด็นคือของจริงมันไม่ใช่อย่างงั้นอ่ะดิ
@@boise5190 "ของจริงไม่ใช่อย่างงี้"นี่ถ้าคุณหมายถึงเทคโนโลยีอ่ะใช่ เรียกว่ามันยังไม่เกิดดีกว่าอันนี้แค่การ Rant ครับว่าเกิดมันถูกประดิษฐ์สำเร็จผลตามมาเบื้องต้นคืออะไร
@@patriotth1453 Cultured Meat หรือ Lab-Grown Meat ปัจจุบันมันก็เริ่มมีแล้วนะครับ แค่ยังไม่สามารถผลิตจำหน่ายในราคาที่คนทั่วไปจับต้องได้หรือผลิตจำนวนมากได้ และมีแค่ประเทศบางประเทศอย่างสิงคโปร์ที่นำไปใช้ในร้านอาหาร แต่ที่จริงมันไม่ต้องรอให้เนื้อเหล่านี้มัน available สำหรับคนทั่วไปก็ได้ครับ เพราะตอนนี้มันก็มีเนื้อที่ถูกสร้างจากโปรตีนจากพืชมาวางขายในตลาดแล้ว ซึ่งเนื้อประเภทนี้ราคาไม่แพงมากและมีสารอาหารที่ค่อนข้างจะใกล้เคียงกับเนื้อทั่วไป อีกทั้งรสชาติยังดีไม่แพ้กันแต่ผมไม่เข้าใจ กลุ่มคนที่พยายามจะลดความเจ็บปวดหรือ suffering ของสัตว์จำนวนนับไม่ถ้วนทั่วโลก ที่ถูกบังคับให้เกิดมาเพื่อฆ่าทิ้งทุกวินาทีเพียงเพื่ออาหารมื้อนึง ทำไมคุณถึงคิดว่าพวกเขาไร้ราคาครับ?
@@diamondv7261 โทษทีครับพวกที่ผมว่าไร้ราคา ผมเจาะจงไปเฉพาะพวกที่เคลื่อนไหววีแกนสาย SJW คือชอบไล่ประท้วงคนนั้นคนนี้ที่กินเนื้อหรือไปประท้วงหน้าร้านอาหาร คุณจะเจอข่าวหรือ Footage ในสหรัฐฯเยอะซึ่งผมสื่อว่า คนพวกนี้สังคมจะเลิกสนใจจะหายไปเอง เมื่อไหร่ที่มีเทคโนโลยี Lab-Grown Meat เข้าสู่ตลาดในอนาคต หยุดยั้งความทุกข์ทรมานของปศุสัตว์แต่คนทานวีแกนผมไม่ได้มีปัญหาโดยรวมครับ
13:55 ผมก็ดูหนังจบไปแล้วนะ ผมก็โคตรขัดใจกับฉากนี้เลย มันเอาหลักฐานไปยัดใส่น้องที่มันอยากช่วยทำไม จะแกล้งก็ไม่ใช่ เพราะในบทมันรักน้องแบบน่ารำคาญจะตาย
Post Apocalype ยังจะเป็น Vegan กันอีก 555555
เรื่องอิหยังวะมากค่ะ ขอคารวะคุมบ๋อยกับเวลาในชีวิตอีกแปดชั่วโมงที่เสียไปค่ะ ;v;/
หนังพวกนี้ทำให้ หนังของ Paul WS Anderson ดูดีขึ้นมาเลย
Resident Evil ติดคำสาปหนักกว่าเกมอื่น ยิ่งเรื่องใหม่มา เรื่องเก่ายิ่งดูดีขึ้น เห็นแต่ละเรื่องออกเรียงลำดับ
กลับกันโซนิคภาคคนแสดงยิ่งพัฒนา
อยากรู้จริงๆ นะ.... ถ้าป๋า Shinji Mikami มาดูซีรี่ย์นี้เนี่ย แกจะรู้สึกยังไงวะเนี่ย
ผมว่านะ เขาหัวร้อนมากแน่ๆ ร้อง fuck you รัวๆ
มีกรีดร้องอ่า 😂😂😂
ตามตรงจากใจผมไม่สามารถดูจบได้ครับ ขอโทษด้วยที่ด่าทั้งๆที่ดูไม่จบ แต่ไอประเด็น🐃🐃จะยัดมาทำส้นอะไรครับ ยิ่งทำให้สังคมมันแตกแยกเปล่าๆ แล้วเป็นซีรี่ก็นึกว่าจะเล่าได้ดีกว่าหนัง แบบดึงเกมซักภาคมาแล้วเล่า และตัวหลักก็เด็กเปรตมากแบบว่าถ้าเด็กๆดูไม่สิทุกคนดูจำไว้อย่าเป็นแบบนี้ สรุปมีแค่ชื่อ แล้วแต่คนมองเลย มันน่าจะสนุกแหละผมก็ไม่รู้เพราะดูไม่จบ แต่คนที่ชอบมันก็มี แล้วอย่าบอกนะว่าไวรัสมันเริ่มแพร่เพราะจะไปช่วยสัตว์ เพราะตั้งแต่รู้ว่ามันจะไปผมก็เลิกดูเลย ป.ล. ได้คำตอบของคำถามแล้ว และเล่าสปอยก็สนุกกว่าดูเองด้วยพอพูดถึง God of war ที่จริงตัวเอกเล่นโดยคนดำนะ ถ้าทำหนังก็อยากให้พี่แกได้เล่น แต่คิดอยู่ว่าจะใช้วิธีไหนทาตัวขาวจะโดนด่าไหม หรือไม่ทานี่น่าจะโดนด่ากว่า 555
ไหน RE ?🙁นี่มันไม่ใช่ REนะครับ. นี่มันหนังเพื่อชีวิต..ชีวิตคนผิวสีกับชีวิตชาวเกย์ในโลกหลังหายนะเฉยๆ. แค่เอาชื่อ RE มาแปะเฉยๆ เพื่อการตลาด Adaptation ลักษณะเจาะจงแบบผมเกลียดเข้าไส้ตั้งแต่หนังตัวอย่างแล้ว ผมเลยไม่ดูเลยซักตอนเลย
คุณก็พอเข้าใจถูกละครับ แต่มันไม่ใช่แค่เรื่องการตลาด Adaptationมันคือเรื่องที่อุตสาหกรรมภาพยนตร์ กำลังถูกใช้เป็นเครื่องมือขับเคลื่อนแนวคิด Wokeism สนองพวก SJW ในสังคมด้วยครับเช่นการใส่บทบาทผู้หญิงกับเพศทางเลือก หรือ คนผิวสีอื่น ในเชิง "ยัดเยียด" โดยอ้างความ Inclusiveอารมณ์ประมาณว่า 10 ปีต่อจากนี้อาจจะมี Black Panther คนเอเชียแสดงเป็นผู้นำ Wakanda คนใหม่ โดยไม่มองความสมเหตุสมผลหรือที่มาตัวละครเดิมเวสเกอร์คืออเมริกันคนผิวขาว ก็ถูกยัดเยียดให้กลายเป็นคนชาติอื่นๆ โดยอ้างความหลากหลายหรือสมมติว่าอนาคต The Walking Dead ภาคเกมของค่าย Telltale นางเอก เคลมเมนไทน์(Clementine) ที่เป็นอเมริกันเชื้อสายทั้งเอเชียทั้งแอฟริกัน อาจจะถูกพวก SJW วิจารณ์ว่า "ไม่ดำพอ" ไรเงี้ย เป็นต้นครับสั้นๆคือ ที่คุณเอือมละอาคุณไม่คิดจะดูหนังสักตอน ก็อาจเพราะกระแส Woke พวกนี้เข้าไปวุ่นวายไงครับ
เปิดฟังไปหลายรอบละ เพลินจัด
ในอนาคต นาเนียรีเมค เราจะเห็นเสือดำแทนสิงโต
+1 billy ตอนโต เป็นสิ่งทำให้ดูจนจบได้เหมือนกัน
เวสเกอร์ฉัน มายังกะเบรด 5555
อย่างเดียวที่ทำให้ผมทนดูมันได้คือการรอดูฉากของป๋า lance redrick เพื่อจะได้เอามาทำมีม destiny เนี่ยแหละ
กลับมาดูอีกครั้งเพื่อรำลึกกับการจากไปของเฮีย Lance Reddick 😭
ทุกครั้งที่เราคิดว่าสิ่งใดสิ่งนึงคงจะแย่ไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว สิ่งนั้นมักจะตกต่ำลงไปได้อีกเสมออย่างคาดไม่ถึง ...และซีรีส์เวรนี่คือตัวอย่างที่ดี 😏
อย่างน้อย จระเข้ น่ารักนะ อ้วนๆตุ้ยนุ้ย มองตาปริบๆ 🤣
ขออีกเรื่อง หนังในยุคนี้อย่างที่แอดบอกเค้ายัดเรื่องความหลากหลายทางเพศ คนผิวสี การเยียด คลื่นหญิงพลังหญิง บลาๆๆๆๆบางเรื่องใส่ทั้งหมดนี้เลย จนเฮ้ย หนังเสียเส้นเรื่องหมด หนังสนุก มันส์ ยิงกันสนั่น เหมือนเมื่อก่อนที่ดูเอามันส์ เดินออกโรงหนังมา ยังจำได้อยู่เดี๋ยวนี้คงหายากแล้วละ
มันเป็นหนังเสียดสีล้อเลียน ตัวหลักครับ
Nutflex ยัด วีเเกน lgtv ผิวสี = This is our masterpiece
หมดอารมณ์ตั้งแต่เวลคัมทูแรคคูนซิตี้แล้วค่ะ ตั้งแต่หนังออกมาในวันนั้นเดี๊ยนยังไม่ได้ไปดูหนังในโรงจนถึงทุกวันนี้😓😓
ภาคนี้ควรชื่อ Resident EWOKE: Fuk U RE
LOL
ในทุกตอนดู ต้องมีโมเมนต์นึงที่ผมจะพูดออกมา "พวกมึงเป็นค-ยไรกัน!!!!!!!!!!"3/10 เหมือนกัน1.น้าแลนซ์2.งานโปรดัคชั่น3.น้าแลนซ์อีกที
เดียวมารอดูเบลดรีเมค ผมทองผิวขาว แล้วทุกคนก็จะบอกว่า มันคือเวสเกอร์หนิ !!! 5555
แน่นอนถ้าออกภาคต่อ สาวกไบโอ ก็ยังคงดูต่อ
เห็นด้วย โคตรกากกกก แม่งคนอื่นบางกลุ่มแม่งก็แก้ตัวให้อยู่ได้
คือ........ผมนั่งดูซีรีย์นี้แบบ 8 ตอน(ไม่)รวด ครั้งแรก 3 ตอน แล้วค่อยๆทีละตอน ทีละตอน จนตอนสุดท้ายต้องกด Skip ทีละ 10 วินาทีแบบประมาณเกือบร้อยครั้ง (แต่ละตอนก็กดทีละสิบยี่สิบทีแล้ว เจอตอนสุดท้ายก็แทบจะบ้าตาย)
ดูไป2ตอนคือแบบ อิหยังวะ อึดอัดสุดๆ
Wok สุดๆใน ซีรีส์ resident evil
Ep1 ซอมบี้ยืนมองนางเอกนอนดิ้นกับซอมบี้อีกตัว หนอนตาย เลิกครับปิดเลย 555
แนะเรื่อง The Sandman ครับ โคตรสนุก เอาเทพเจ้า กับปีศาจมาสู้กัน
ยินดีด้วย คุณไม่ต้องเลี้ยงแชมเปญราคาแพงแล้วครับ
พี่อ้วน=ลีออนเวอร์ชั่นลงพุง
หนังเรื่องนี้คือ ดูๆไปเรื่อยๆ มีแต่คำถามว่า อิหยังวะเต็มไปหมด เด็กสาวสองคนบุกบริษัทหมื่นล้าน แต่ไม่มีใครรู้ ยามไม่มี และมีหลายๆฉากคือแบบ บริษัทมึงไม่มีกล้องวงจรปิดเลยรึไงวะ แล้วคนที่ชื่อเจดคือ เด็กเปรตมาก ตั้งแต่เด็กยันโต สร้างแต่ปัญหา ดูละหงุดหงิดอยากให้มันตาย คือผู้เขียนบทกับผู้กำกับจะรู้มั้ยว่าคนดูอยากให้ตัวเอกตาย เท่ากับจบแล้ว หมายถึงเขาเกลียดตัวเอกแล้ว ไม่มีใครมาลุ้นให้มันรอดแล้ว
🤝จับมือครับชอบ sheva เหมือนกัน
ไม่ต้องขึ้นชื่อว่า re หรอก Netflix เหมือนอยากสร้างความหลากหลายทั้งเรื่องการใช้นักแสดงหญิงซะส่วนใหญ่ ใส่นักแสดงผิวสีเข้ามาเป็นตัวละครหลัก ละก็วีแกน คือรวมๆมันใส่ได้ แต่บริบทของหนังมันไม่เข้าอะ เหมือนฝืนทำให้เฉพาะกลุ่ม หรือทำเอาใจผู้บริหาร หนังช่วงนี้ก็ไม่ค่อยสนใจแคสนักแสดงเท่าไหร่ ใส่ความหลากหลายเข้ามาก่อน คือผมไม่ได้อคตินะ แต่ช่วยดูความเข้ากันและบริบทด้วย
ก็ที่คุณอธิบายตามที่คุณเข้าใจน่ะเขาเรียกพวกนี้ว่ากระแส Woke ไงครับสังคมในตะวันตกด่ากันอยู่ว่า เอ้ย มรึงจะทำในเชิงยัดเยียดทำไม เช่นตัวละครเดิมประวัติคือเป็นคนผิวขาว พวก SJW ก็ยังจะดื้อออไปเปลี่ยนให้เขาเป็นคนผิวสีอื่น แทนที่จะสร้างตัวละครใหม่ไปเลย
เป็นซีรีย์ที่คนเขียนบทดูถูกคนดูมากครับ คือมึงเล่าเองนะว่าซอมบี้สามารถกระชากแขนตัวเองขาดเพื่อหลุดจากโซ่ได้ หลังจากนั้น เจด เอาผ้าโง่ๆมัดซอมบี้ไว้.....เฮ้อ.....
เพิ่งได้มาฟัง ช่องนี้วิจาร ชอบมากค่ะ ติดตาม
ทำเอา welcome to raccon city เป็น masterpieces ไปเลย 555
RE จากที่ผมดูคงเป็นค่ายเกมที่น่าสงสารที่สุดโดนค่ายหนังเอาไปยำมากที่สุดในประวัติศาสตร์ Paul ก็แล้ว welcome to Racoon City ,RE Netflix Adapt.
17:30 พยายามเป็น ซามูเอล แจ๊คสัน มาเทอฟักเกอร์ 20:18 พี่อ้วนควรเป็น ลีออนได้เลย
ลีออนเวอร์ชั่นลงพุง 😂😂😂
โห้ย ผมดูจบ 8 ตอน บอกตรงๆอ่ะ คลิปๆเดียวยาวๆ 1 ชม. ก็พูดเรื่องพล็อต กับความไม่สมเหตุสมผลของเรื่องไม่หมดอ่ะ เยอะมาก มากแบบ อิหยังวะทุกตอน มีเรื่องให้ขยี้ทุกตอน คือแบบพยายามมองมันในแง่ดีแล้ว แต่ !!! ทำไม่ได้จริงๆ 555
เก่งนะครับที่ดูจนจบได้
ดีนะภาคนี้ไม่มี leon ไม่งั้นอาจได้เห็น leon ที่แย่กว่า welcome to racoon city อีกก็เป็นได้ ไม่เข้าใจทำไมแคสติ้งนักแสดงของ re ฉบับคนแสดงหลายอันเขาหาคนที่เหมาะกับตัวละครกว่านี้ไม่ได้หรอคนที่เหมาะก็มีตั้งเยอะเอาใครมาก็ไม่รู้
อีกคนนึง เอด้าตั้งแต่มีภาค Vendetta โผล่มา(หลังเล่น RE6 จบ) บางทีรู้สึกว่าเอ้ย อยากให้เจ๊หว่องโผล่มาเอาใจแฟนๆต่อปรากฏ ม่ายย... พอมาเจอภาค Welcome นี่เหี้ยเลย เปลี่ยนจากลุ้นเป็นโล่งอกทันทีที่เจ๊หว่อง กับ "หุ่นคือลือ" กับลุคการแต่งตัวที่น่ารักของนาง ไปได้ดิบได้ดีกับภาคเกม Remake แทน
มีข่าวดีครับ ล้มเลิกการสร้างภาคต่อแล้ว
พี่อ้วนมือปืนตาย เลิกดูเลยจ่ะ จำชื่อไม่ได้แต่น่าจดจำหว่าเวลาที่เหลือทั้งซีรีส์
ยินดีด้วยครับ ท่านเลี้ยงเพื่อนแล้วครับ โดยยกเลิกซีชั่น2แล้วครับ🥳
ยินดีกับบ๋อยด้วยครับ ไม่ต้องเลี้ยงแชมเปญละ
จากที่ดูมา เข้าใจว่าทำประชด Woke กับ มนุษย์ยุคใหม่มากกว่าครับแต่ที่น่าเป็นห่วงคือ มนุษย์ยุคใหม่ที่ไร้เดียงสาคิดว่าเป็นสิ่งที่ควรทำตาม เช่นฉากแฉที่ทำงานพ่อ ฮ่าๆๆๆๆ
ให้เยอะจังอะตั้ง 3 แนะเราให้ 2 พอเลย กากจนอยากวิ่งรอบหมู่บ้านให้เหนื่อนจนลืมไปเลยว่าเคยดู
19:30 ในเกมผมทั้งยิงทั้งระเบิดทั้งเตะทั้งฟันมันยังไม่ตายเลย
ตกลง พี่เสียค่าแชมเปญยังอะครับ55555 เพราะ netflix ประกาศยกเลิกซีซั่น2แล้ว ยินดีด้วยครับ🎉🎆
มาจนได้ยยย อีดิท;โอโห ไม่คิดฝันว่าจะระยำได้ขนาดนี้ 5555
คุณเก่งมากครับ ดูครบ8 ผมเทตอน2 ไปละ 555
พอคุณชี้จุดผมก็ว่าจริงครับ คือ มันมีอะไรแปลกๆเยอะจริงๆ อย่างผมดูตอนล่าสุด ที่กลับไปที่เรือ คือ เจด เลือดท่วมหน้าเลยครับ แต่ทุกคนแบบ "แม่ค่ะซอสมะเขือเต็มหน้าแม่เลยค่ะ" "จริงที่รัก ซอสเต็มหน้าเลยนะ ผมว่าเราครัวมาโยกๆกัน นะ" ไม่ใช่ดิ
อาถรรพ์reเมื่อกลายเป็นหนัง
เรื่องสบถ f*** นี่ต้องทำใจครับ คนสมัยนี้มันมีพื้นฐานความคิดที่ว่าพูดคำหยาบคือ real
ใชเลย ยิ่งดาร์คยิ่งเรียล ถรุ้ย ไม่ใช่ว้อย
ไม่เข้าใจว่าทำไมบิลลี่ต้องพราวด์ความวีแกนขนาดนั้น ใส่เสื้อวีแกนไปไหนมาไหนตลอดเพื่อโชว์ว่าฉันวีแกนนะเว้ย ไม่เขินๆเหรอ
บิลลี่ตอนเด็กหน้าฝรั่ง บิลลี่พอโตมาหน้าเอเชีย WTF
มาจากอนาคตครับ เนตฟลิกประกาศยกเลิกสร้างภาคต่อแล้วครับ 55555
ผมดูครบ 8 ตอนนะ ดูเพราะชื่อเรื่องทั้งนั้น คิกสะว่า แม่งเป็นละจักรวานละกัน😂😂😂😂
พูดถึงเรื่องกระแสความ woke ในวงการหนังนี่มันเปนเพราะ original ของยุคก่อนไม่มีความหลากหลายเลย ชัดที่สุดก็ดิสนี่ พยามหนักมาก ถ้าอยากให้มีคนผิวดำเปนตัวเอกก็ควรไปเขียน original strotyที่คนผิวดำเปนตัวเอกขึ้นมาใหม่ อันนั้นจะไม่ขัดเลย ไม่ใช่เอาบุญเก่ามาปรับเปลี่ยน อย่างผีในหอยของสกาเล็ตโจ ดราก้อนบอลอีโว L Deathnote 2017 เงือกแอเรียล ยักษ์จินนี่ของวิลสมิธ นี่คือตัวอย่างความกระแดะจะหลากหลายที่ทุเรศสุดละ
ชอบช่องขยี่แบบนี้จัว
ตัวเอกที่น่ารังเกลียดที่สุดตั้งแต่เคยดูหนังมา น่ารังเกลียดจนทนดูจนจบไม่ได้ก็เพราะมันนี่เเหละ เหมือนเอานักแสดงมาฆ่าเลย
ข่าวล่าสุดได้ประกาศออกมาแล้วว่าทาง Netflix ประกาศยกเลิกซีซั่น 2 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แงงง~~~ 555+
"เส้นกั้นบางๆระหว่างคำว่าเท่าเทียมกับยัดเยียด"
OMG 23:36 คุณไม่ได้ล้อผมเล่นใช่ป่ะ เค้าคิดฉากแบบนี้ และทำมันจริงๆหรอผมหมายถึง มันมีฉากที่โง่ ขนาดนี้จริงๆหรอ
ทุกอย่างในเรื่องนี้คือถ้าเราดูแล้วคาดหวังว่าต้องเป็น re แบบที่ควรจะเป็น=หงุดหงิดดูแล้วจิจ้ะทั้งเรื่องแน่ๆครับ ทางทีดีคือดูแบบปล่อยสมองไหลเลย 5555555555555555555555555555555555555บิลลี่ตอนเด็กคือตัวอย่างของความโว้กแล้วพาซวย ความน่ารำคาญของบิลลี่คือผมให้ 5/10 เจเด้ คือบทที่คนโง่พยายามอวดฉลาดมาก อวดจนพากันตายห่าหมด 55555 เจเด้ 100/10
เจเด้ ดูกี่ครั้งก็หงุดหงิด55555
สำหรับผม เวสเก้อ บิลลี่ตอนโต เอฟลีน = ความดีงามของเรื่อง
ชอบเหตุผลข้อ 3 555
เวสเกอร์ เวอร์ชั่น Live black matter ครับ 5555+
เดียวเวดเกอย้ายไปมาเวลและ5555😂เห็นครั้งแรกเบรดชัดๆ
บิลลี่โดนเด็กดูเชื้อสายอินเดียแดง พอโตมาอาเชียจ๋าเลย wtf
ขอบคุณที่ทนดูจนจบ ไม่ไหวจริงๆ พยายามถอดสมองดูแล้ว แต่ไปได้ไม่เกิน 3 ตอนจริงๆ 😂
ผมภูมิใจนะที่อดทนดูจนจบ แต่ดูช่วงที่สมองไม่ปกติเพราะกำลังเลิกยานอนหลับ55555
สามตอนนี่เก่งนะ เราทนดูตอนแรกไม่จบด้วยซ้ำ
จระเข้ทำไมน่ารักจัง
6:47
ผู้กำกับมันคือ : Albert Wesker
คนดูมันคือ : Blade
ผมหลุดเลย555555
เห็นด้วยที่ว่าทุกอย่าง ทำไมต้องเปลี่ยนสัญชาติตัวละครเดิม ถ้าอยากหลากหลายก็สร้างใหม่ไปซิไม่ใช่ยัดเยียดเปลี่ยนเบสตัวละครแล้วก็อ้างหลากหลาย
woke ประเด็นเพิ่มอีก 2 เรื่องคือ 1. เด็กแม่งถูกเสมอ ทำส้นตีนอะไรก็จะรอดตัวตลอด 2. เด็กจะต้องมีปมลึกๆ และต้องเป็นศูนย์กลางของโลก ที่หมุนรอบความเจ็บปวดของมันตลอด 3. พ่อแม่ต้องโอ๋ตลอด จากกฎข้อ 1-2
ข้อสุดท้ายที่ต้องยอมรับตรงๆ ว่าทำไมคนเอเชียเกลียดเรื่อง SJW มากเพราะการพยายามทำให้นักแสดงที่ดูไม่มีความสวยตาม trend และไม่มีความ sex appealing ใดๆ เลยมายัดลงในหนังและมีบทสำคัญ เช่น คนเอเชียไม่ได้ appeal กับคนแอฟริกันผิวดำ หรือแขกอินเดีย เป็นต้น แต่ถ้ามีองค์กรหรือกลุ่มอะไรซักอย่างพยายามยัดเยียดให้คนเอเชียต้องพอใจกับเชื้อชาติที่คนเอเชียไม่ได้ appeal แม้แต่ในโลกความบันเทิง มันคือการ 'บังคับ' ให้เราจะต้องยอมรับความสวยงาม (beauty) และรสนิยมตามลัทธิของมัน ซึ่งเลวระยำมาก .. สำหรับเราไม่สวยคือไม่สวย ไม่มีเคมีก็คือไม่มี เวสเกอร์เป็นฝรั่งเท่ๆ ขรึมๆ สาวกรี๊ด ส่วนนางเอกก็จะสวยแบบจิลกะแคลร์ แม้กระทั่งรีเบคก้าที่เน้นน่ารัก แล้วจู่ๆ เอาคนดำเหี้ยไรมายัดให้พวกกู คือไงอ่ะ ประเทศเมิงเคยจับคนดำมาเป็นทาสเลยมีการเหยียดกันเป็นปมร้าวลึก แล้วไง? เมิงต้องมาบังคับให้คนทั้งโลกต้องมาอินกับปมประวัติศาสตร์ชั้นต่ำของเมิง และทำให้ประเทศที่มีวัฒนธรรมต่างกันเค้าต้องมาประสาทแดกกับเมิงด้วย ทั้งที่เขาก็มี issue อื่นๆ ของตัวเองอยู่แล้วงั้นรึ? ลองสังเกตดูง่ายๆ นะครับ หลังๆ SJW woke ไม่ได้หยุดอยู่แค่ชาติตะวันตก แต่มันกำลังพยายามยัดให้เอเชียสายจีน (เช่นเรื่องซือเจ๊มัลติเวิร์สอะไรนั่น) และเริ่มพยายามเข้าไปแทรกซึมสายแขก..สายอาหรับ ขึ้นมาพอสมควรละ เพื่อจะกลืนวัฒนธรรมเหล่านั้นไปด้วย
.
แล้วการ woke ขั้นสูงสุดที่มันมีผลไปแล้วก็คือ การที่ทุกท่านแม้แต่ในรายการต้องมานั่ง "แก้ตัว" หรือ "ออกตัว" ว่า เราไม่ต่อต้านอะไรแบบนู้นแบบนี้ เพื่อพยายามเคลียร์ตัวเองอยู่ตลอดเวลานั่นแหละ ก็คือมันสามารถมาบังคับให้เราต้อง "ยอมสยบ" ต่อลัทธิของมันแล้ว ทั้งที่เมื่อก่อนเราก็ไม่จำเป็นต้องมาคอยเคลียร์ตัวเองในการแสดงความเห็นอย่างอิสระกว่านี้รึเปล่า ?
มันเป็นการกระทำที่ไร้สาระและน่ารำคาญมาก
ขอบคุณที่ช่วยกันเอ่ยถึงคำว่า "Woke" กับ "SJW" ให้คนไทยฟังครับ
ก็เพราะไอ้เรื่องเนี้ย บางคนในสังคมกำลังเดือดร้อน ใช้ชีวิตยากเย็นขึ้น จากการตกเป็นจำเลย ถูกใส่ความเท็จจากสิ่งที่ตัวเองไม่ได้เป็นหรือไม่ได้ทำ อันนี้เรื่องจริง
เช่นผมวิจารณ์เรื่อง ... My Little Mermaid ที่ระดับ Official จะเอาคนผิวสีมาแสดง(แอเรียลเป็นตัวละครแดนิช) ผมจึงเสนอในโซเชียลว่าหานางแบบน้องใหม่เป็นชาวแดนิชมาแคสติ้งจะดีกว่าไหม? ต่างชาติบางคนถาม "เหยียดสีผิวเหรอ?"
ผมตอกกลับไปเลยว่า "แล้วคุณล่ะ? เกลียดสีขาวเหรอ???"
อ่ะ ละมีอยู่อีกเคสนึง: เกม The Walking Dead ของค่าย Telltale
แฟนคลับครับเขา ไปวาดภาพแฟนอาร์ต หรือแต่งภาพเปลี่ยนทรงผม/เสื้อผ้า นางเอก "เคลมเมนไทน์(Clementine)" ซึ่งเป็นคนอเมริกันลูกครึ่งผิวสี
คนที่วาดดันวาดไม่คล้ำพอ เลยโดนบางคนเข้าไปเม้นจวกว่า "White Wash(ราดถังสีขาว)" หรือ "Why did you make her white?(ไปทำให้นางขาว)"
คือไปเหยียดเขาอ่ะ และคนที่เห็นเม้นเหล่านี้ต่างก็ชอบใจกัน
ประมาณว่า เหยียดคนขาว(เผลอๆเอเชียด้วย)ได้ แต่เหยียดคนดำไม่ได้งั้นสิ
แล้วมีแต่คนผิวสว่างเมลานินต่ำ ที่เหยียดเป็นอยู่ฝ่ายเดียวงั้นสิ
เนี่ย...ก็เพราะไม่ใช่แค่ระดับใหญ่อย่างอุตสาหกรรมภาพยนตร์ต่างประเทศที่ตกเป็นทั้งเหยื่อและเครื่องมือของบุคคลหรือ NGO ฝ่ายซ้ายสุดขั้วที่คุณเห็นในข่าวบางเกมอย่าง The Last of Us 2 เป็นต้น
ระดับย่อยๆลงมา อย่างในโซเชียล โดยเฉพาะอย่างทวิตเตอร์...
"เผาพ่อมด/แม่มด ทุกวันอ่ะ" ไม่ถูกใจใครหรือ SJW หรือเฟมนินิสคนไหน ต้องดราม่า ทุกครั้ง
มันคือ เผด็จการภาคประชาสังคม ตามที่คุณเข้าใจและคอมเม้นต์เลย
ยัดเยียดไม่พอ บงการเอาความคิดตัวเอง เป็นที่ตั้งด้วย
คอยบอกคนอื่นๆเรื่อง Wokeism กับ SJW ต่อไปครับ เพราะคนไทยกำลังหลงไปกับกระแสนี้ ง่ายพอๆกับอเมริกาจริงๆ และจริงๆมันมีมานานตั้งแต่ก่อนศึกการเลือกตั้ง ทรัมป์ vs คลินตัน ปี 2016 แล้วครับ
เค้าไม่เข้าใจครับว่าการให้เกียรติ์แบบไม่เหยียดเป็นยังไง เมื่อไม่เข้าใจแต่ต้องแสดงออกมันก็จะล้นๆเกินๆแบบนี้ครับ
เมื่อวานเห็นคนนึงโพสเม้นยาวมากเลย แล้วผมก็สังหรณ์ว่าเขาอาจจะลบเม้น... แล้วปรากฏว่าวันนี้ก็ลบจริงๆ ด้วย 555
ก็เลยขอฝากบอกว่า ก็เพราะงี้แหละครับ พวกเฟมทวิต พวก SJW มีอำนาจมาก จนถึงขั้นทำให้คนๆ นึงต้องกลัวและ "ระมัดระวัง" ทุกย่างก้าวว่าจะโพสอะไรผิดพลาดไหม จะเจอทัวร์ลงไหม ดังนั้นทุกความเห็นที่ออกมาจะต้องผ่านการ approval จากพวกขยะพวกนี้ก่อน นี่ก็เท่ากับว่า คนไทยได้กลายเป็นทาสพวกมันไปโดยสมบูรณ์แล้ว ปากก็พล่ามถึงเสรีภาพและประชาธิปไตยบ้าบอคอแตก แต่แค่ "อิสระ" ในการจะบอกว่าตัวเองชอบหรือเกลียดอะไรก็ยังพูดไม่ได้ ดังนั้นก็อย่ามาใช้คำว่าสิทธิเสรีให้มันสวยหรูเกินไปจะดีกว่า และไอ้ประโยคที่ว่า "ศิลปะไม่เคยเป็นทาสใคร" ก็โยนมันลงหลุมไปด้วยเลยครับ เพราะสิ่งที่เห็นทุกวันนี้ศิลปะในทุกสื่อก็เป็นทาสไปอย่างพร้อมเพรียงกันหมดแล้ว การ์ตูน service หรือเรื่องทางเพศ (การ sexualize) ก็จะต้องทำในกรอบที่ SJW และเฟมทวิต อนุญาตให้มีได้ ปล่อยให้มันมาเสือกแม้กระทั่งจินตนาการในหัว มันไม่น่าสมเพชเกินไปเหรอ?
.
พูดถึงคนที่ลบข้อความต่อนะครับ เห็นว่าเคยเถียงกับฝรั่งมา ผมจะบอกว่าเวลาเถียงกับฝรั่งต้องเริ่มต้นจากหลักการ (principle) ที่ตั้งอยู่บนกฎธรรมชาติครับ (law of nature) ไม่ใช่ไปโต้แย้งหรือ debate กันโดยใช้ตรรกะหรือคุณค่าบนหลักศีลธรรมจอมปลอมของมัน แบบนี้มันก็ไม่ต่างจากการสู้ไปกราบไปนั่นแหละครับ ถ้าจะสู้ก็เอาตีนเตะคุณค่า (value) ของมันทิ้งโดยไม่ต้องสนใจแล้วถึงค่อยเริ่มเถียง โดยยกเอากรอบมาตรฐานอื่นมาเป็นฐานความคิดของเรา
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าจะเถียงกันเรื่องว่า --- ตัวละครชายฝ่ายพระเอกสามารถต่อยตัวละครหญิงได้ไหม? พวกที่เถียงตามเกมของเขา ก็จะอ้างความ "เท่าเทียม" ก่อนถึงจะบอกว่าผู้ชายมีสิทธิ์ที่จะต่อยได้ แต่ทว่าตัวผมซึ่งมองว่า ความเท่าเทียมคือศีลธรรมปลอมหรือศีลธรรมสัมพัทธ์ตั้งแต่แรก (คือขึ้นอยู่กับแต่ละกรณี --case by case) จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องประกาศให้มันรู้ว่า กูเองก็กราบไหว้บูชาความเท่าเทียมเหมือนมึงนะ ดังนั้นได้โปรดช่วยฟังกูด้วย แล้วถึงจะค่อย...มีสิทธิ์ "แก้ตัว" เพื่อให้มันยอมรับ เป็นต้น แบบนี้คือการเถียงของทาสครับ
.
สรุปแล้ว คนไทยทุกคนนั่นแหละ ลุกขึ้นต่อต้านไอ้พวกนี้อย่างจริงจังได้แล้ว ทั้ง SJW ทั้งเฟมทวิตที่มากับศีลธรรมกลวงๆ ของพวกมัน
@@CrystalMooGamingChannel จริงครับ พวก woke/SJW/Activist ที่แบบสุดโต๊งโต่ง เช่น transgender ที่โทษ cishet/homo ทุกอย่าง แค่หายใจก็ผิด ชอบทำแบบล้นๆแล้วทำการบังคับ อาจจะไม่ได้ physical แต่ใช้การ cyberbully บางคนเป็นการ harass ด้วยการ brigade(เรียกพวกมาถล่ม) ซ้ำจนไม่มีอีเมลให้สมัครหรือแม้แต่ขู่ฆ่าก็มีเช่นเคสแม่ JK (คนที่ดูจะเป็น woke จริงกว่า normie woke/SJW ทั่วๆไปด้วยซ้ำ) ไล่โทษคนเห็นต่างไปทั่วในระดับที่ผมขอยอมรับเลยว่าอยู่แคนาดาเจอ Karen ยังไม่ ปสด. เท่าพวกนี้ ไม่สิไม่ได้ 1/3 ของ SJW เลยด้วยซ้ำ
ประเด็นก็คือหนังสมัยนี้ที่ทำออกมาขายพวก woke/SJW/progressive feminist ส่วนใหญ่เห็นว่าคนพวกนี้ส่วนใหญ่จะอายุไม่เยอะ(บางคนเพิ่งพ้น teenage มาก็มี) เหมือนจะเป็น target ใหม่นะครับ ต่างจากเมื่อปี 2000s ที่คนจะเป็น centrist-leftist มากกว่า พูดง่ายๆคือเปลี่ยน target ไปตามยุคสมัยใส่ความ diverse พร่ำเพรื่อ ยัด lgbtq+ มาโดยที่หนังบางอันไม่แคร์ต้นฉบับด้วยซ้ำแม้ว่าคนสร้างจะยังมีชีวิตอยู่ก็ตามเช่น Witcher หรือง่ายๆ RE ที่ส่วนใหญ่จะเป็นคนขาว เพื่อให้หนังมันขายได้โดยไม่แคร์เลยว่ามันจะขัดกับความจริง setting ของโลกนั้นๆยังไง(ก็ธุรกิจแบบ capitalism นั่นแหละ)
แต่นะครับ กาลเวลาจะทำให้พวกนี้สงบครับ เมื่อมีการ inflate บางสิ่งไปมากๆเข้า คนจะเอือมระอา เหมือนลูกโป่งที่เป่าลมไปเยอะๆมันก็จะแตกครับ อีกซัก 20 ปี พวกเด็ก gamma ก็คงจะเปลี่ยนจากตรงนี้ไปเข้ากลับไปสู่กลางมากขึ้นครับเนื่องจากพวกคนปี 2020s อัดความ progressive ไปในทุกอย่างมากเกินไปครับ เด็กก็จะซึมซับและเมื่อพวกเขาได้เห็นหรือเข้าใจและเมื่อมีมากเกินไปพวกเขาจะหาวิธีแก้ให้มันกลับมาตรงกลางได้ครับ เพราะซ้ายตอนนี้มันไปสุดกว่านี้ไม่ได้แล้วครับ จะไปต้องทั้งเทคโนโลยีหรือระดับการ evolution ของคนก็ต้องไปสูงกว่านี้ครับ
เป็นช่องที่ voice over ได้ดีมากกก ส่งต่อตัวตนคนพูดได้ดีสุดตั้งแต่ผมฟังช่องไทยมาเลย รักนะครับ ❤️
ฟังแล้วแบบบันเทิงมากครับ รักษาสุขภาพด้วยนะครับ
ทำไมยิ่งนำวันหนัง re ฉบับของ Paul W.S. Anderson แม่งดู masterpiece ขึ้นเรื่อยๆวะเนี่ย 555+
ถึงมันเหี้ย แต่ action กับ CG มันดี
ไม่ควรพูดงั้นอ่ะ
อะไรที่แย่มันก็แย่เท่าเดิมอะ
@@seijiren5115 เเต่พอเปรียบเทียบกันมันดูดีกว่าจริงๆนะ😂
@@thaninthanyanasornsiri5010 งั้นช่วยเทียบกับมาตรฐานภาพยนต์ด้วยครับ
ยอมรับเลยว่าของตาพอลแกงานดี มันดีสำหรับส่วนตัวผมตั้งแต่ก่อนสารพัดภาคห่วยๆตั้งแต่ Welcome โผล่มาละ (Vendetta ขอไม่พูดอะไร เพราะยังไม่ได้ดูครับ)
Masterpiece ไม่พอ แถมยัง Nostalgia อีกด้วย เพราะผมเติบโตมาผูกพันกับของ Paul แกไม่ใช่แค่เวอร์ชั่นเกม
เปิดโลกทัศน์ทั้งเรื่องซอมบี้ เปิดโลกทัศน์ทั้งอาวุธปืน
สถานที่ ความล้ำยุค Soundtrack ประกอบหนัง ไอเท็มประกอบฉาก(เช่นหลอดเก็บไวรัสภาคแรกๆ) เป็นต้น มันถูกโฉลกผมดี
มีเพียงเรื่องตัวละครที่หายไป(พี่เบิ้มคริส สาวสวยเคมาร์ท หนูน้อยแองเจลล่า เอด้า จิล ฯลฯ) การแคสนักแสดงลีออน(พระเอกกู)ที่ไม่ได้เรื่อง กับการตายสุดอนาทของเวสเกอร์
ที่ขัดใจผมอยู่
ความแปลกอีกอย่างคือ ตอนเด็กบิลลี่เป็นเด็กวัยรุ่นเมกา ตอนโตกลายเป็นคนเอเชีย
นั่นแหละฮะคุณผู้ชม
Netflix ประกาศยกเลิภาคต่อแล้วครับยินดีด้วย พี่ไม่ค้องเสียค่าแชมเปญแล้วครับ
*_" !!!!! C A N C E L E D !!!!! "_* 55555+ 🤣
หากใครดูจบ คุณสามารถนำไปเขียนในresumeได้ว่าคุณดูซีรี่ย์นี้จนจบ ผู้ว่าจ้างก็จะรู้ได้ทันทีว่าคุณมีความอดทนสูง
พล็อตเรื่องนี่พังทุกจุดเลย มีดีสุดคือการแสดงของเบลดคนเดียว
มองให้เป็นเวสเกอร์ละกัน T_T
@@0840843480 ผมพยายามอยู่ T_T
@@0840843480 ไม่สามารถจริงๆ
ดูยังไงก็ เบรด พันธ์อมตะชัดๆ 555
กลายเป็น อัลเบลด เวสเกอร์
มีสตอรี่แบบเรื่องวุ่นๆ ของวัยรุ่นอเมริกันเห่อหมอนด้วยเหรอ 😂
ความทรงจำ ดรากอนบอล เอ้ฟโวลู่ชั่น ในตำนานผุดขึ้นมาเลยทีเดียว 😂
เป็นการขยี้ที่สะใจมากครับ 5555555555 โดยเฉพาะอีเจด คือแบบ ผมเองดูได้แค่ตอนเดียวก็ไม่ไหวแล้วอะ กดปิดไม่ดูต่อเลย มาดูคุณสปอยให้ฟัง ยังสนุกกว่าอีก สะใจด้วย ได้ขยี้ตัวเอกสุดเดอะฟัค
น่ารำคาญเหี้ยๆเลย อีเจต ทั้งตอนเด็กตอนโต woke ยัดเหยียดจนน่ารำคาญ
เสียเวลามากคะ😅
มีอยู่เหตุการณ์นึงที่งงมากคือ พ่อของทั้งสองสาวตายตั้งแต่พวกนางยังเด็ก โดยการจุดไฟให้ระเบิดบริษัท โดยมีแฝดน้องของพ่อพาหนี แต่พอมาฉากที่เจดเจอกับบิลลี่ครั้งแรกตอนที่โตแล้ว เจดกลับถามว่าพ่อเป็นยังไงบ้าง แล้วบิลลี่ก็บอกว่า ตายแล้ว ประมาณว่าเพิ่งตายได้ไม่นานเท่าไหร่นัก คำถามคือ แล้วที่บริษัทระเบิดที่พ่อนอนแอ้งแม้งอยู่ข้างๆระเบิด คือตอนนั้นพ่อมึงยังไม่ตายหรอ ถึงมาถามตอนโตว่าพ่อเป็นไงบ้าง ผมนี่ได้แต่ถามว่า อิหยังวะ
ตอนหัวเราะตรง Wesker เพราะเป็น Blade โครตฮา
ผมลั่นไปด้วยจริงๆ 😅😂
คิดเสียว่าเป็นภาพยนตร์ล้อเลียน เสียดสี ตัวหลักฟอร์มยักษ์ เรื่องนี้เน้นเอาฮาประมาณนั้นครับ เคยมีหนังภาพยนตร์ล้อเลียนฆาตกรหน้ากาก เรื่องหวีดหลายๆ ภาคครับ
เอ็กคลูซิฟเน็ตฟลิกซ์ ที่เป็นหนังภาคต่อหรือรีเมค ที่ดีจริงๆสำหรับผมก็มีแค่รูโรนิเคนชิน แค่นั้นแหละครับ ซึ่งนั้นผมก็ไม่ชัวว่าเป็นหนังที่เป็นเอ็กคลูซิฟสร้างจากทีมงานเน็ตฟลิกจริงๆมั้ย5555555
6:47 ถ้าบอกว่าคือ ภาพโปรโมทหนังเรื่อง Blade ภาคใหม่ผมก็เชื่อ
ฟังเพลินดีครับ หน้าทำคลิปแบบนี้อีกบ่อยๆน่ะครับ
ถึงนางเอกจะดูน่ารำคาญแต่ผมว่ามันก็ออกมาดีนะ
.
.
.
.
ใช่ผมหมายถึงPREY.
Netflix ตัวละครต้นฉบัล จะดำจะขาว แต่พอไปทำเท่านั้นแหละ สลับ ขาวเป็นดำ สลับดำเป็นขาว ไร้ความน่าสนใจแบบ มากๆ หรือตัวละครไม่ตรงปก เกม
ดำเป็นขาวนี่ไม่เคยเห็นนะ
เพราะความหลากหลาย = การเกลียดคนขาว
ดำไม่ค่อยสลับครับ จากที่เห็นหลายเรื่องถ้าผู้ชายตัวดำ จะเปลี่ยนเป็นหญิงผิวขาว(น้อยมาก)หรือหญิงผิวดำแทน ไม่ก็เพศที่3
นับถือความพยายามในการดูให้จบเลยครับ พี่นี้เก่งเกินคนจริงครับ 5555
ฟังจากที่เล่าเเล้วตัวซีรีย์โคตรจะเลอะเทอะ ทำเอาเวอร์ชั่นหนังดูดีขึ้นมาเลย
555 ฟังไปฮาไป อย่างได้ครับ ฃอบๆการวิพากย์ซี่รี่ย์ครับ
เละแบบไม่รู้จะเละยังไง Capcom ก็ไม่ได้สนใจหนังจะออกมาเละเทะยังไง ถ้าชื่อว่า RESIDENT EVIL ที่มี Umbella เป็นองกรค์แผร่เชื้อละก็คือกูได้ค่าลิขสิท์แน่นอน เอามาใช้เป็นทุนในการรีเมคเกมส์ของกูก็พอ
ผมไม่เข้าใจว่าทำไมคนมันหนังชอบทำให้ตัวเอกเป็นพวกเห็นแก่ตัวไม่เห็นใจคนอื่น ทำร้ายคนอื่นได้แบบหน้าตาย หรือทำตัวแบบเรียกว่าชั่วได้เลย ปกติตัวเอกหนังสยองขวัญมันตวรจะเป็นคนดีอย่างน้อยก็ระดับนึงเพราะคนดูต้องเห็นใจและอยากให้รอดไม่ใช่เหรอ ถ้ายกตัวอย่างง่ายๆเลยก็ตัวเอกในเกม ถ้าตัวหลักๆมันก็คนดีกันหมด หรือถ้าเป็นภาค Outbreak ก็เป็นประชาชนธรรมดาที่ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนมากแต่ก็ทำให้คนเข้าถึงง่ายๆ เป็นแบบนี้ไม่ใช่เหรอที่ทำคนเล่นถึงได้ชอบและจดจำกันมาถึงปัจจุบัน
คิดว่าในทีมสร้างก็มีคนแย้งและไม่เห็นด้วย แต่ทุกธุรกิจ การตัดสินใจของคนจ่ายเงินถือเป็นที่สุด มันออกมาเป็นแบบนี้ก็เพราะนายทุนนั่นแหละ
เห็นด้วยที่สุดเลยครับ มันบัดซบมากจริงๆ ชอบนักแสดง Lance นะ แต่ก็อย่างว่าแหละคือไม่ใช่ก็คือไม่ใช่
คือจริงๆเราพยายามเชื่อนะว่า colorless casting มันมีจริงๆแบบว่าถ้าตัวแคสมันเข้ากับคาแร็กเตอร์ก็เอาหมดไม่ว่าจะเป็นชาตพันธุ์ไหน หรือเพศอะไร แต่คือทุกครั้งที่เห็นการแคสแบบนี้คือคุณมีจุดมุ่งหมายเดียวคือ woke คราวนี้มันก็หลุดโฟกัสละแค่ไอเดียเริ่มต้นก็พลาดไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่นเลย ทำไมคนถึงถูกใจ the witcher นักหนาก็ตัวเอกมันได้ไง นักแสดงนำคนอื่นก็ทำได้ดี the witcher เรื่องราวมันเป็นยูโรปตอนเหนือ ก็ไม่จำเป็นต้องเอาคนตรงนั้นมาจริงๆ Henry แม่งเป็นคนอังกฤษก็เล่นได้ถ้าคาแร็กเตอร์มันใช่ ลองเปลี่ยนเป็นคนดำสิ กระแสต่อต้านได้พอๆกับ แฟรงจิล่า ตังเยนนิเฟอร์ก็เป็นสาวแขกแต่ก็ทำออกมาได้ดี อันนี้คือ colorless ของจริงคือทำไมเอ็งไม่ดูจากความสำเร็จของตัวเองวะ Netflix ปวดหัวประเด็นเรื่องผิวสี มีแต่ประเทศทางตะวันออกทั้งนั้นแหละที่มีปัญหาโดนเฉพาะอเมริกา มาเอเชียไม่มีหรอกทำออกมาแต่ละเรื่องปลุกความเท่าเทียมทางเชื้อชาติ มีแต่พวกเอ็งแหละคนขาวที่ไปล่าอาณานิคมแล้วเหยียดเขาไปทั่วไม่ต้องมาสอนทางนี้เลย
คือไอ้ยัดความหลากหลาย ว่าแย่แล้ว วีแกนแม่งมากะเขาด้วยได้ไงวะ
วีแกนนี่น่าจะเป็นสิ่งที่ปัญญาอ่อนที่สุดที่แม่งสามารถยัดลงไปในหนังได้ละ ผมนี่พึ่งเรียนเขียนบทมาหมาดๆ กุปวดหัววว 55555
ผมมา Rant เฉยๆนะครับคือ
สมมติอนาคต ถ้ามีเทคโนโลยีสักตัวนึง(ผมจินตนาการเฉยๆนะ)เอาชิ้นส่วนเล็กๆของสัตว์เช่น DNA หรือเนื้อเยื้อ "มาเพาะปลูก" เป็นก้อนเนื้อ Organic อาจจะมีเรื่องโมเลกุลของน้ำมาเกี่ยวข้อง เพื่อได้เนื้อแต่ละส่วน โดยไม่ต้องฆ่าสัตว์
ผมว่าพวกนักเคลื่อนไหววีแกนที่ปัจจุบันก็ไร้ราคาอยู่แล้ว ยิ่งจะสูญเสียจุดยืนในการเคลื่อนไหวเข้าไปใหญ่อีกพอรู้ว่ายุคสมัยของตัวเองมีสินค้าสัตว์ออแกนิคตามท้องตลาดที่ไม่ได้มาจากการเชือดแบบโหดเหี้ยมและสร้างความเจ็บปวดชั่วกัปชั่วกัลป์ แต่มาจากการเพาะปลูกแล้วเก็บเกี่ยวแบบที่เก็บสินค้าเกษตรจากต้น
อันนี้คือผมจินตนาการเล่นๆถึงเทคโนโลยีในอนาคตครับ
แต่ท้ายที่สุดย่อมมีข้อเสียคือ ประชากรสัตว์อาจล้นโลก ปัจจุบันที่สหรัฐฯถึงได้มีฤดูล่า ชาวบ้านต้องเอาปืนไปยิงและเอามากินอยู่ดี หน้าหนาวเน้นล่ากวาง เป็นต้น
ย้อนกลับมา RE Netflix นี่ บอกตามตรง คนธรรมดาที่ไม่เคยมีประสบการณ์เรียนเขียนบทมาก็ฟิลได้เลยว่าฝ่ายทำซีรียส์เขามี Agenda ครับ คือใช้สื่อบันเทิงเป็นเครื่องมือเผยแพร่แนวคิดของคนกลุ่มนึงหรือ NGO นึง
ผมกลับไปดู RE ของตาพอลกับอลิซร้อยรอบต่อภาคยังสนุกกว่าเยอะ
@@patriotth1453 ประเด็นคือของจริงมันไม่ใช่อย่างงั้นอ่ะดิ
@@boise5190 "ของจริงไม่ใช่อย่างงี้"นี่ถ้าคุณหมายถึงเทคโนโลยีอ่ะใช่ เรียกว่ามันยังไม่เกิดดีกว่า
อันนี้แค่การ Rant ครับว่าเกิดมันถูกประดิษฐ์สำเร็จผลตามมาเบื้องต้นคืออะไร
@@patriotth1453 Cultured Meat หรือ Lab-Grown Meat ปัจจุบันมันก็เริ่มมีแล้วนะครับ แค่ยังไม่สามารถผลิตจำหน่ายในราคาที่คนทั่วไปจับต้องได้หรือผลิตจำนวนมากได้ และมีแค่ประเทศบางประเทศอย่างสิงคโปร์ที่นำไปใช้ในร้านอาหาร แต่ที่จริงมันไม่ต้องรอให้เนื้อเหล่านี้มัน available สำหรับคนทั่วไปก็ได้ครับ เพราะตอนนี้มันก็มีเนื้อที่ถูกสร้างจากโปรตีนจากพืชมาวางขายในตลาดแล้ว ซึ่งเนื้อประเภทนี้ราคาไม่แพงมากและมีสารอาหารที่ค่อนข้างจะใกล้เคียงกับเนื้อทั่วไป อีกทั้งรสชาติยังดีไม่แพ้กัน
แต่ผมไม่เข้าใจ กลุ่มคนที่พยายามจะลดความเจ็บปวดหรือ suffering ของสัตว์จำนวนนับไม่ถ้วนทั่วโลก ที่ถูกบังคับให้เกิดมาเพื่อฆ่าทิ้งทุกวินาทีเพียงเพื่ออาหารมื้อนึง ทำไมคุณถึงคิดว่าพวกเขาไร้ราคาครับ?
@@diamondv7261 โทษทีครับพวกที่ผมว่าไร้ราคา ผมเจาะจงไปเฉพาะพวกที่เคลื่อนไหววีแกนสาย SJW คือชอบไล่ประท้วงคนนั้นคนนี้ที่กินเนื้อหรือไปประท้วงหน้าร้านอาหาร คุณจะเจอข่าวหรือ Footage ในสหรัฐฯเยอะ
ซึ่งผมสื่อว่า คนพวกนี้สังคมจะเลิกสนใจจะหายไปเอง เมื่อไหร่ที่มีเทคโนโลยี Lab-Grown Meat เข้าสู่ตลาดในอนาคต หยุดยั้งความทุกข์ทรมานของปศุสัตว์
แต่คนทานวีแกนผมไม่ได้มีปัญหาโดยรวมครับ
13:55 ผมก็ดูหนังจบไปแล้วนะ ผมก็โคตรขัดใจกับฉากนี้เลย มันเอาหลักฐานไปยัดใส่น้องที่มันอยากช่วยทำไม จะแกล้งก็ไม่ใช่ เพราะในบทมันรักน้องแบบน่ารำคาญจะตาย
Post Apocalype ยังจะเป็น Vegan กันอีก 555555
เรื่องอิหยังวะมากค่ะ ขอคารวะคุมบ๋อยกับเวลาในชีวิตอีกแปดชั่วโมงที่เสียไปค่ะ ;v;/
หนังพวกนี้ทำให้ หนังของ Paul WS Anderson ดูดีขึ้นมาเลย
Resident Evil ติดคำสาปหนักกว่าเกมอื่น ยิ่งเรื่องใหม่มา เรื่องเก่ายิ่งดูดีขึ้น เห็นแต่ละเรื่องออกเรียงลำดับ
กลับกันโซนิคภาคคนแสดงยิ่งพัฒนา
อยากรู้จริงๆ นะ.... ถ้าป๋า Shinji Mikami มาดูซีรี่ย์นี้เนี่ย แกจะรู้สึกยังไงวะเนี่ย
ผมว่านะ เขาหัวร้อนมากแน่ๆ ร้อง fuck you รัวๆ
มีกรีดร้องอ่า 😂😂😂
ตามตรงจากใจผมไม่สามารถดูจบได้ครับ ขอโทษด้วยที่ด่าทั้งๆที่ดูไม่จบ แต่ไอประเด็น🐃🐃จะยัดมาทำส้นอะไรครับ ยิ่งทำให้สังคมมันแตกแยกเปล่าๆ แล้วเป็นซีรี่ก็นึกว่าจะเล่าได้ดีกว่าหนัง แบบดึงเกมซักภาคมาแล้วเล่า และตัวหลักก็เด็กเปรตมากแบบว่าถ้าเด็กๆดูไม่สิทุกคนดูจำไว้อย่าเป็นแบบนี้ สรุปมีแค่ชื่อ แล้วแต่คนมองเลย มันน่าจะสนุกแหละผมก็ไม่รู้เพราะดูไม่จบ แต่คนที่ชอบมันก็มี แล้วอย่าบอกนะว่าไวรัสมันเริ่มแพร่เพราะจะไปช่วยสัตว์ เพราะตั้งแต่รู้ว่ามันจะไปผมก็เลิกดูเลย
ป.ล. ได้คำตอบของคำถามแล้ว และเล่าสปอยก็สนุกกว่าดูเองด้วย
พอพูดถึง God of war ที่จริงตัวเอกเล่นโดยคนดำนะ ถ้าทำหนังก็อยากให้พี่แกได้เล่น แต่คิดอยู่ว่าจะใช้วิธีไหนทาตัวขาวจะโดนด่าไหม หรือไม่ทานี่น่าจะโดนด่ากว่า 555
ไหน RE ?🙁
นี่มันไม่ใช่ REนะครับ. นี่มันหนังเพื่อชีวิต..ชีวิตคนผิวสีกับชีวิตชาวเกย์ในโลกหลังหายนะเฉยๆ. แค่เอาชื่อ RE มาแปะเฉยๆ เพื่อการตลาด Adaptation ลักษณะเจาะจงแบบผมเกลียดเข้าไส้ตั้งแต่หนังตัวอย่างแล้ว ผมเลยไม่ดูเลยซักตอนเลย
คุณก็พอเข้าใจถูกละครับ แต่มันไม่ใช่แค่เรื่องการตลาด Adaptation
มันคือเรื่องที่อุตสาหกรรมภาพยนตร์ กำลังถูกใช้เป็นเครื่องมือขับเคลื่อนแนวคิด Wokeism สนองพวก SJW ในสังคมด้วยครับ
เช่นการใส่บทบาทผู้หญิงกับเพศทางเลือก หรือ คนผิวสีอื่น ในเชิง "ยัดเยียด" โดยอ้างความ Inclusive
อารมณ์ประมาณว่า 10 ปีต่อจากนี้อาจจะมี Black Panther คนเอเชียแสดงเป็นผู้นำ Wakanda คนใหม่ โดยไม่มองความสมเหตุสมผลหรือที่มาตัวละครเดิม
เวสเกอร์คืออเมริกันคนผิวขาว ก็ถูกยัดเยียดให้กลายเป็นคนชาติอื่นๆ โดยอ้างความหลากหลาย
หรือสมมติว่าอนาคต The Walking Dead ภาคเกมของค่าย Telltale นางเอก เคลมเมนไทน์(Clementine) ที่เป็นอเมริกันเชื้อสายทั้งเอเชียทั้งแอฟริกัน อาจจะถูกพวก SJW วิจารณ์ว่า "ไม่ดำพอ" ไรเงี้ย เป็นต้นครับ
สั้นๆคือ ที่คุณเอือมละอาคุณไม่คิดจะดูหนังสักตอน ก็อาจเพราะกระแส Woke พวกนี้เข้าไปวุ่นวายไงครับ
เปิดฟังไปหลายรอบละ เพลินจัด
ในอนาคต นาเนียรีเมค เราจะเห็นเสือดำแทนสิงโต
+1 billy ตอนโต เป็นสิ่งทำให้ดูจนจบได้เหมือนกัน
เวสเกอร์ฉัน มายังกะเบรด 5555
อย่างเดียวที่ทำให้ผมทนดูมันได้คือการรอดูฉากของป๋า lance redrick เพื่อจะได้เอามาทำมีม destiny เนี่ยแหละ
กลับมาดูอีกครั้งเพื่อรำลึกกับการจากไปของเฮีย Lance Reddick 😭
ทุกครั้งที่เราคิดว่าสิ่งใดสิ่งนึงคงจะแย่ไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว สิ่งนั้นมักจะตกต่ำลงไปได้อีกเสมออย่างคาดไม่ถึง ...และซีรีส์เวรนี่คือตัวอย่างที่ดี 😏
อย่างน้อย จระเข้ น่ารักนะ อ้วนๆตุ้ยนุ้ย มองตาปริบๆ 🤣
ขออีกเรื่อง หนังในยุคนี้อย่างที่แอดบอก
เค้ายัดเรื่องความหลากหลายทางเพศ คนผิวสี การเยียด คลื่นหญิงพลังหญิง บลาๆๆๆๆ
บางเรื่องใส่ทั้งหมดนี้เลย จนเฮ้ย หนังเสียเส้นเรื่องหมด
หนังสนุก มันส์ ยิงกันสนั่น เหมือนเมื่อก่อนที่ดูเอามันส์ เดินออกโรงหนังมา ยังจำได้อยู่
เดี๋ยวนี้คงหายากแล้วละ
มันเป็นหนังเสียดสีล้อเลียน ตัวหลักครับ
Nutflex ยัด วีเเกน lgtv ผิวสี = This is our masterpiece
หมดอารมณ์ตั้งแต่เวลคัมทูแรคคูนซิตี้แล้วค่ะ ตั้งแต่หนังออกมาในวันนั้นเดี๊ยนยังไม่ได้ไปดูหนังในโรงจนถึงทุกวันนี้😓😓
ภาคนี้ควรชื่อ Resident EWOKE: Fuk U RE
LOL
ในทุกตอนดู ต้องมีโมเมนต์นึงที่ผมจะพูดออกมา "พวกมึงเป็นค-ยไรกัน!!!!!!!!!!"
3/10 เหมือนกัน
1.น้าแลนซ์
2.งานโปรดัคชั่น
3.น้าแลนซ์อีกที
เดียวมารอดูเบลดรีเมค ผมทองผิวขาว แล้วทุกคนก็จะบอกว่า มันคือเวสเกอร์หนิ !!! 5555
แน่นอนถ้าออกภาคต่อ สาวกไบโอ ก็ยังคงดูต่อ
เห็นด้วย โคตรกากกกก แม่งคนอื่นบางกลุ่มแม่งก็แก้ตัวให้อยู่ได้
คือ........ผมนั่งดูซีรีย์นี้แบบ 8 ตอน(ไม่)รวด ครั้งแรก 3 ตอน แล้วค่อยๆทีละตอน ทีละตอน จนตอนสุดท้ายต้องกด Skip ทีละ 10 วินาทีแบบประมาณเกือบร้อยครั้ง (แต่ละตอนก็กดทีละสิบยี่สิบทีแล้ว เจอตอนสุดท้ายก็แทบจะบ้าตาย)
ดูไป2ตอนคือแบบ อิหยังวะ อึดอัดสุดๆ
Wok สุดๆใน ซีรีส์ resident evil
Ep1 ซอมบี้ยืนมองนางเอกนอนดิ้นกับซอมบี้อีกตัว หนอนตาย เลิกครับปิดเลย 555
แนะเรื่อง The Sandman ครับ โคตรสนุก เอาเทพเจ้า กับปีศาจมาสู้กัน
ยินดีด้วย คุณไม่ต้องเลี้ยงแชมเปญราคาแพงแล้วครับ
พี่อ้วน=ลีออนเวอร์ชั่นลงพุง
หนังเรื่องนี้คือ ดูๆไปเรื่อยๆ มีแต่คำถามว่า อิหยังวะเต็มไปหมด เด็กสาวสองคนบุกบริษัทหมื่นล้าน แต่ไม่มีใครรู้ ยามไม่มี และมีหลายๆฉากคือแบบ บริษัทมึงไม่มีกล้องวงจรปิดเลยรึไงวะ แล้วคนที่ชื่อเจดคือ เด็กเปรตมาก ตั้งแต่เด็กยันโต สร้างแต่ปัญหา ดูละหงุดหงิดอยากให้มันตาย คือผู้เขียนบทกับผู้กำกับจะรู้มั้ยว่าคนดูอยากให้ตัวเอกตาย เท่ากับจบแล้ว หมายถึงเขาเกลียดตัวเอกแล้ว ไม่มีใครมาลุ้นให้มันรอดแล้ว
🤝จับมือครับชอบ sheva เหมือนกัน
ไม่ต้องขึ้นชื่อว่า re หรอก Netflix เหมือนอยากสร้างความหลากหลายทั้งเรื่องการใช้นักแสดงหญิงซะส่วนใหญ่ ใส่นักแสดงผิวสีเข้ามาเป็นตัวละครหลัก ละก็วีแกน คือรวมๆมันใส่ได้ แต่บริบทของหนังมันไม่เข้าอะ เหมือนฝืนทำให้เฉพาะกลุ่ม หรือทำเอาใจผู้บริหาร หนังช่วงนี้ก็ไม่ค่อยสนใจแคสนักแสดงเท่าไหร่ ใส่ความหลากหลายเข้ามาก่อน คือผมไม่ได้อคตินะ แต่ช่วยดูความเข้ากันและบริบทด้วย
ก็ที่คุณอธิบายตามที่คุณเข้าใจน่ะเขาเรียกพวกนี้ว่ากระแส Woke ไงครับ
สังคมในตะวันตกด่ากันอยู่ว่า เอ้ย มรึงจะทำในเชิงยัดเยียดทำไม เช่นตัวละครเดิมประวัติคือเป็นคนผิวขาว พวก SJW ก็ยังจะดื้อออไปเปลี่ยนให้เขาเป็นคนผิวสีอื่น แทนที่จะสร้างตัวละครใหม่ไปเลย
เป็นซีรีย์ที่คนเขียนบทดูถูกคนดูมากครับ คือมึงเล่าเองนะว่าซอมบี้สามารถกระชากแขนตัวเองขาดเพื่อหลุดจากโซ่ได้ หลังจากนั้น เจด เอาผ้าโง่ๆมัดซอมบี้ไว้.....เฮ้อ.....
เพิ่งได้มาฟัง ช่องนี้วิจาร ชอบมากค่ะ ติดตาม
ทำเอา welcome to raccon city เป็น masterpieces ไปเลย 555
RE จากที่ผมดูคงเป็นค่ายเกมที่น่าสงสารที่สุดโดนค่ายหนังเอาไปยำมากที่สุดในประวัติศาสตร์ Paul ก็แล้ว welcome to Racoon City ,RE Netflix Adapt.
17:30 พยายามเป็น ซามูเอล แจ๊คสัน มาเทอฟักเกอร์
20:18 พี่อ้วนควรเป็น ลีออนได้เลย
ลีออนเวอร์ชั่นลงพุง 😂😂😂
โห้ย ผมดูจบ 8 ตอน บอกตรงๆอ่ะ คลิปๆเดียวยาวๆ 1 ชม. ก็พูดเรื่องพล็อต กับความไม่สมเหตุสมผลของเรื่องไม่หมดอ่ะ เยอะมาก มากแบบ อิหยังวะทุกตอน มีเรื่องให้ขยี้ทุกตอน คือแบบพยายามมองมันในแง่ดีแล้ว แต่ !!! ทำไม่ได้จริงๆ 555
เก่งนะครับที่ดูจนจบได้
ดีนะภาคนี้ไม่มี leon ไม่งั้นอาจได้เห็น leon ที่แย่กว่า welcome to racoon city อีกก็เป็นได้ ไม่เข้าใจทำไมแคสติ้งนักแสดงของ re ฉบับคนแสดงหลายอันเขาหาคนที่เหมาะกับตัวละครกว่านี้ไม่ได้หรอคนที่เหมาะก็มีตั้งเยอะเอาใครมาก็ไม่รู้
อีกคนนึง เอด้า
ตั้งแต่มีภาค Vendetta โผล่มา(หลังเล่น RE6 จบ) บางทีรู้สึกว่าเอ้ย อยากให้เจ๊หว่องโผล่มาเอาใจแฟนๆต่อ
ปรากฏ ม่ายย... พอมาเจอภาค Welcome นี่เหี้ยเลย เปลี่ยนจากลุ้นเป็นโล่งอกทันทีที่เจ๊หว่อง กับ "หุ่นคือลือ" กับลุคการแต่งตัวที่น่ารักของนาง ไปได้ดิบได้ดีกับภาคเกม Remake แทน
มีข่าวดีครับ ล้มเลิกการสร้างภาคต่อแล้ว
พี่อ้วนมือปืนตาย เลิกดูเลยจ่ะ จำชื่อไม่ได้แต่น่าจดจำหว่าเวลาที่เหลือทั้งซีรีส์
ยินดีด้วยครับ ท่านเลี้ยงเพื่อนแล้วครับ โดยยกเลิกซีชั่น2แล้วครับ🥳
ยินดีกับบ๋อยด้วยครับ ไม่ต้องเลี้ยงแชมเปญละ
จากที่ดูมา เข้าใจว่าทำประชด Woke กับ มนุษย์ยุคใหม่มากกว่าครับ
แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ มนุษย์ยุคใหม่ที่ไร้เดียงสาคิดว่าเป็นสิ่งที่ควรทำตาม เช่นฉากแฉที่ทำงานพ่อ ฮ่าๆๆๆๆ
ให้เยอะจังอะตั้ง 3 แนะ
เราให้ 2 พอเลย กากจนอยากวิ่งรอบหมู่บ้านให้เหนื่อนจนลืมไปเลยว่าเคยดู
19:30 ในเกมผมทั้งยิงทั้งระเบิดทั้งเตะทั้งฟันมันยังไม่ตายเลย
ตกลง พี่เสียค่าแชมเปญยังอะครับ55555 เพราะ netflix ประกาศยกเลิกซีซั่น2แล้ว ยินดีด้วยครับ🎉🎆
มาจนได้ยยย
อีดิท;โอโห ไม่คิดฝันว่าจะระยำได้ขนาดนี้ 5555
คุณเก่งมากครับ ดูครบ8 ผมเทตอน2 ไปละ 555
พอคุณชี้จุดผมก็ว่าจริงครับ คือ มันมีอะไรแปลกๆเยอะจริงๆ อย่างผมดูตอนล่าสุด ที่กลับไปที่เรือ คือ เจด เลือดท่วมหน้าเลยครับ แต่ทุกคนแบบ "แม่ค่ะซอสมะเขือเต็มหน้าแม่เลยค่ะ" "จริงที่รัก ซอสเต็มหน้าเลยนะ ผมว่าเราครัวมาโยกๆกัน นะ" ไม่ใช่ดิ
อาถรรพ์reเมื่อกลายเป็นหนัง
เรื่องสบถ f*** นี่ต้องทำใจครับ คนสมัยนี้มันมีพื้นฐานความคิดที่ว่าพูดคำหยาบคือ real
ใชเลย ยิ่งดาร์คยิ่งเรียล ถรุ้ย ไม่ใช่ว้อย
ไม่เข้าใจว่าทำไมบิลลี่ต้องพราวด์ความวีแกนขนาดนั้น ใส่เสื้อวีแกนไปไหนมาไหนตลอดเพื่อโชว์ว่าฉันวีแกนนะเว้ย ไม่เขินๆเหรอ
บิลลี่ตอนเด็กหน้าฝรั่ง บิลลี่พอโตมาหน้าเอเชีย WTF
มาจากอนาคตครับ เนตฟลิกประกาศยกเลิกสร้างภาคต่อแล้วครับ 55555
ผมดูครบ 8 ตอนนะ ดูเพราะชื่อเรื่องทั้งนั้น คิกสะว่า แม่งเป็นละจักรวานละกัน😂😂😂😂
พูดถึงเรื่องกระแสความ woke ในวงการหนังนี่มันเปนเพราะ original ของยุคก่อนไม่มีความหลากหลายเลย ชัดที่สุดก็ดิสนี่ พยามหนักมาก ถ้าอยากให้มีคนผิวดำเปนตัวเอกก็ควรไปเขียน original strotyที่คนผิวดำเปนตัวเอกขึ้นมาใหม่ อันนั้นจะไม่ขัดเลย ไม่ใช่เอาบุญเก่ามาปรับเปลี่ยน อย่างผีในหอยของสกาเล็ตโจ ดราก้อนบอลอีโว L Deathnote 2017 เงือกแอเรียล ยักษ์จินนี่ของวิลสมิธ นี่คือตัวอย่างความกระแดะจะหลากหลายที่ทุเรศสุดละ
ชอบช่องขยี่แบบนี้จัว
ตัวเอกที่น่ารังเกลียดที่สุดตั้งแต่เคยดูหนังมา น่ารังเกลียดจนทนดูจนจบไม่ได้ก็เพราะมันนี่เเหละ เหมือนเอานักแสดงมาฆ่าเลย
ข่าวล่าสุดได้ประกาศออกมาแล้วว่าทาง Netflix ประกาศยกเลิกซีซั่น 2 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แงงง~~~ 555+
"เส้นกั้นบางๆระหว่างคำว่าเท่าเทียมกับยัดเยียด"
OMG 23:36 คุณไม่ได้ล้อผมเล่นใช่ป่ะ เค้าคิดฉากแบบนี้ และทำมันจริงๆหรอ
ผมหมายถึง มันมีฉากที่โง่ ขนาดนี้จริงๆหรอ
ทุกอย่างในเรื่องนี้คือถ้าเราดูแล้วคาดหวังว่าต้องเป็น re แบบที่ควรจะเป็น=หงุดหงิดดูแล้วจิจ้ะทั้งเรื่องแน่ๆครับ ทางทีดีคือดูแบบปล่อยสมองไหลเลย 5555555555555555555555555555555555555
บิลลี่ตอนเด็กคือตัวอย่างของความโว้กแล้วพาซวย ความน่ารำคาญของบิลลี่คือผมให้ 5/10
เจเด้ คือบทที่คนโง่พยายามอวดฉลาดมาก อวดจนพากันตายห่าหมด 55555 เจเด้ 100/10
เจเด้ ดูกี่ครั้งก็หงุดหงิด55555
สำหรับผม เวสเก้อ บิลลี่ตอนโต เอฟลีน = ความดีงามของเรื่อง
ชอบเหตุผลข้อ 3 555
เวสเกอร์ เวอร์ชั่น Live black matter ครับ 5555+
เดียวเวดเกอย้ายไปมาเวลและ5555😂เห็นครั้งแรกเบรดชัดๆ
บิลลี่โดนเด็กดูเชื้อสายอินเดียแดง พอโตมาอาเชียจ๋าเลย wtf
ขอบคุณที่ทนดูจนจบ ไม่ไหวจริงๆ พยายามถอดสมองดูแล้ว แต่ไปได้ไม่เกิน 3 ตอนจริงๆ 😂
ผมภูมิใจนะที่อดทนดูจนจบ แต่ดูช่วงที่สมองไม่ปกติเพราะกำลังเลิกยานอนหลับ55555
สามตอนนี่เก่งนะ เราทนดูตอนแรกไม่จบด้วยซ้ำ
จระเข้ทำไมน่ารักจัง