- 1
- 6 099
Hadsung Team
Приєднався 3 чер 2014
สารคดีบานประตูประดับมุก วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือชื่อที่เรียกกันทั่วไปว่า "วัดใหญ่" ตั้งอยู่ที่ถนนพุทธบูชา ริมฝั่งแม่น้ำน่านด้านทิศตะวันออก ตรงข้ามกับศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก เป็นพระอารามหลวง ชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร เป็นที่รู้จักโดยทั่วไปในฐานะสถานที่ประดิษฐานพระพุทธชินราช พระพุทธรูปที่ได้รับการยกย่องว่าสวยงามที่สุดในประเทศไทยและสวยงามที่สุดในโลก
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร เป็นวัดที่มีประวัติยาวนานมาตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย มีสถาปัตยกรรม ศิลปกรรม และประติมากรรมที่งดงามยิ่ง ถือได้ว่าเป็นมรดกทางศิลปวัฒนธรรมอันล้ำค่าของเมืองพิษณุโลกมีวิหารทั้งหมด 3 ที่ พระวิหารพระพุทธชินราช พระวิหารพระอัฏฐารส พระวิหารพระเจ้าเข้านิพพาน พระวิหารพระพุทธชินราชหรือ พระวิหารหลวงประดิษฐานพระพุทธชินราช เป็นพระวิหารที่มีความสวยงามและใหญ่ที่สุด
ของบรรดาพระวิหารทั้งหมด พระวิหารพระพุทธชินราชยังมีประตูทางเข้าที่สวยงามกว่าประตูวิหารวัดอื่นๆ โดยบานประตูทั้ง 2 จะเป็นบานประตูที่ประดับด้วยเปลือกหอยมุก
ในสมัยก่อนกว่าจะได้เปลือยหอยมุกมาประดับประตูนั้นหลายคนส่วนใหญ่ที่เดินเข้าไปในวิหารเพื่อกราบไหว้สักการะบูชาองค์พระพุทธชินราชถ้าไม่ สังเกตก็จะไม่ทราบมีประตูที่ประดับมุกที่สวยงามอยู่ ณ ที่แห่งนั้น
ประตูประดับมุก สร้างขึ้นเมื่อพ.ศ 2299 เป็นฝีมือของช่างหลวงสมัยอยุธยาตอนปลายในรัชสมัยของสมเด็จ พระบรมโกศ ตรงกลางประตูมีสันอกเลา ที่แตกต่างจากประตูอื่นๆ เพราะว่าจะประดับลวดลาย พุ่มข้าวบิณฑ์ 2 ข้างเป็นลายกนก ก้านแย่ง ช่วงกลางอกเลามีรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน เรียกว่า นมอกเลา เป็นรูปบุษบก มีรูปพระอุณาโลม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของพระพุทธองค์ประดิษฐาน บนบัลลังก์อยู่ในบุษบก 2 ข้าง เป็นรูปชุมสาย ซึ่งเป็นเครื่องสูง ชนิดหนึ่งเป็นรูปฉัตรสามชั้น ใต้ฐานบุษบกมีรูปหนุมานแบกฐานไว้ ส่วนเชิงล่างของอกเลา ทำเป็นรูปกุมภัณฑ์ ยืนถือกระบองท่าสำแดงฤทธิ์ ส่วนลวดลายบานประตู เป็นลายกนก ที่มีภาพสัตว์ หิมพานต์ได้แก่ ราชสีห์ คชสีห์ เหมราช กินรีรำ และสัตว์อื่นๆ ทั้งนี้เพราะสัตว์หิมพานต์เป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์หรือเขาไกรลาส ซึ่งเป็นดินแดนที่อยู่ด้านหน้าก่อนที่ จะเข้าประตูไปสู่สรวงสวรรค์ และยังมีลายอีแปะด้านละ 9 วง มัดนกหูช้าง ประกอบช่องไฟระหว่างวงกลม หรือวงกลมเป็นลายกรุยเชิง มีลายประจำยามก้ามประดับขอบรอบบานประตูที่บานประตูประดับด้วยมุก 2 บานคู่ โดยมีความกว้าง 1 เมตร สูง 4.50 เมตร เป็นบานประตูประดับมุกโบราณที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่ง แต่บานประตูประดับมุกนี้มิใช่เป็นบานประตูคู่แรกของทางเข้าพระวิหารพุทธชินราช
เดิมนั้นบานประตู พระวิหารพระพุทธชินราช ทำด้วยไม้แกะสลัก แกะด้วยช่างฝีมือดี เมื่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ เสด็จขึ้นมานมัสการพระพุทธชินราชครั้งที่ 2 ได้ทรงมีศรัทธาให้สร้างบานประตูประดับมุกคู่หนึ่งเพื่อขึ้นถวายพระวิหารพระพุทธชินราช โดยชั้นนอกจารึกที่บานประตูทางขวามือ (ผู้เข้าไป) ว่า “โปรดเกล้าฯ ให้นายช่าง 130 คน เขียนรายประดับมุก เมื่อ พ.ศ.2299 รวมเวลาประดับมุก 5 เดือน 20 วันบานหนึ่ง” เมื่อทรงทำบาน ประตูมุกเสร็จแล้ว จึงมีรับสั่งให้นำบานประตูไม้สักแกะสลัก ไปถวายเพื่อประดับประตูของพระวิหาร พระแท่นศิลาอาสน์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ประตูวิหารเก่าบานดังกล่าวได้ถูกไฟไหม้ไป เมื่อ วันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2451 และปัจจุบันก็ได้มีการสร้างขึ้นมาใหม่โดยมีลวดลายที่คล้ายของเดิม
สาเหตุที่พระวิหารพระพุทธชินนราชหันไปทางทิศตะวันตก เมื่องสมัยกรุงสุโขทัยเมืองพิษณุโลกเคยเป็นเมืองฐานที่ตั้งของพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ โดยใช้เป็นที่รวบรวมไพร่พลไปโจมตีขอมสบาดโขลญลำพงที่ศรีสัชนาลัยและสุโขทัย พร้อมด้วยสหายศึกและเป็นพระญาติที่ใกล้ชิดคือ พ่อขุนผาเมืองเจ้าเมืองราด (หล่มสัก) ก่อนที่จะย้ายไปก่อตั้งกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี และให้เมืองพิษณุโลกเป็นเมืองหน้าด่าน เหตุผลที่หันหน้าวิหารพระพุทธชิน ราชไปทางทิศตะวันตกเพราะ เมื่อก่อนเมืองพิษณุโลกเป็นเมืองประเทศราชของอาณาจักรกรุงสุโขทัย จึงหันหน้าวิหารพระพุทธชิราชไปยังทิศตะวันตก
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร เป็นวัดที่มีประวัติยาวนานมาตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย มีสถาปัตยกรรม ศิลปกรรม และประติมากรรมที่งดงามยิ่ง ถือได้ว่าเป็นมรดกทางศิลปวัฒนธรรมอันล้ำค่าของเมืองพิษณุโลกมีวิหารทั้งหมด 3 ที่ พระวิหารพระพุทธชินราช พระวิหารพระอัฏฐารส พระวิหารพระเจ้าเข้านิพพาน พระวิหารพระพุทธชินราชหรือ พระวิหารหลวงประดิษฐานพระพุทธชินราช เป็นพระวิหารที่มีความสวยงามและใหญ่ที่สุด
ของบรรดาพระวิหารทั้งหมด พระวิหารพระพุทธชินราชยังมีประตูทางเข้าที่สวยงามกว่าประตูวิหารวัดอื่นๆ โดยบานประตูทั้ง 2 จะเป็นบานประตูที่ประดับด้วยเปลือกหอยมุก
ในสมัยก่อนกว่าจะได้เปลือยหอยมุกมาประดับประตูนั้นหลายคนส่วนใหญ่ที่เดินเข้าไปในวิหารเพื่อกราบไหว้สักการะบูชาองค์พระพุทธชินราชถ้าไม่ สังเกตก็จะไม่ทราบมีประตูที่ประดับมุกที่สวยงามอยู่ ณ ที่แห่งนั้น
ประตูประดับมุก สร้างขึ้นเมื่อพ.ศ 2299 เป็นฝีมือของช่างหลวงสมัยอยุธยาตอนปลายในรัชสมัยของสมเด็จ พระบรมโกศ ตรงกลางประตูมีสันอกเลา ที่แตกต่างจากประตูอื่นๆ เพราะว่าจะประดับลวดลาย พุ่มข้าวบิณฑ์ 2 ข้างเป็นลายกนก ก้านแย่ง ช่วงกลางอกเลามีรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน เรียกว่า นมอกเลา เป็นรูปบุษบก มีรูปพระอุณาโลม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของพระพุทธองค์ประดิษฐาน บนบัลลังก์อยู่ในบุษบก 2 ข้าง เป็นรูปชุมสาย ซึ่งเป็นเครื่องสูง ชนิดหนึ่งเป็นรูปฉัตรสามชั้น ใต้ฐานบุษบกมีรูปหนุมานแบกฐานไว้ ส่วนเชิงล่างของอกเลา ทำเป็นรูปกุมภัณฑ์ ยืนถือกระบองท่าสำแดงฤทธิ์ ส่วนลวดลายบานประตู เป็นลายกนก ที่มีภาพสัตว์ หิมพานต์ได้แก่ ราชสีห์ คชสีห์ เหมราช กินรีรำ และสัตว์อื่นๆ ทั้งนี้เพราะสัตว์หิมพานต์เป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์หรือเขาไกรลาส ซึ่งเป็นดินแดนที่อยู่ด้านหน้าก่อนที่ จะเข้าประตูไปสู่สรวงสวรรค์ และยังมีลายอีแปะด้านละ 9 วง มัดนกหูช้าง ประกอบช่องไฟระหว่างวงกลม หรือวงกลมเป็นลายกรุยเชิง มีลายประจำยามก้ามประดับขอบรอบบานประตูที่บานประตูประดับด้วยมุก 2 บานคู่ โดยมีความกว้าง 1 เมตร สูง 4.50 เมตร เป็นบานประตูประดับมุกโบราณที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่ง แต่บานประตูประดับมุกนี้มิใช่เป็นบานประตูคู่แรกของทางเข้าพระวิหารพุทธชินราช
เดิมนั้นบานประตู พระวิหารพระพุทธชินราช ทำด้วยไม้แกะสลัก แกะด้วยช่างฝีมือดี เมื่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ เสด็จขึ้นมานมัสการพระพุทธชินราชครั้งที่ 2 ได้ทรงมีศรัทธาให้สร้างบานประตูประดับมุกคู่หนึ่งเพื่อขึ้นถวายพระวิหารพระพุทธชินราช โดยชั้นนอกจารึกที่บานประตูทางขวามือ (ผู้เข้าไป) ว่า “โปรดเกล้าฯ ให้นายช่าง 130 คน เขียนรายประดับมุก เมื่อ พ.ศ.2299 รวมเวลาประดับมุก 5 เดือน 20 วันบานหนึ่ง” เมื่อทรงทำบาน ประตูมุกเสร็จแล้ว จึงมีรับสั่งให้นำบานประตูไม้สักแกะสลัก ไปถวายเพื่อประดับประตูของพระวิหาร พระแท่นศิลาอาสน์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ประตูวิหารเก่าบานดังกล่าวได้ถูกไฟไหม้ไป เมื่อ วันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2451 และปัจจุบันก็ได้มีการสร้างขึ้นมาใหม่โดยมีลวดลายที่คล้ายของเดิม
สาเหตุที่พระวิหารพระพุทธชินนราชหันไปทางทิศตะวันตก เมื่องสมัยกรุงสุโขทัยเมืองพิษณุโลกเคยเป็นเมืองฐานที่ตั้งของพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ โดยใช้เป็นที่รวบรวมไพร่พลไปโจมตีขอมสบาดโขลญลำพงที่ศรีสัชนาลัยและสุโขทัย พร้อมด้วยสหายศึกและเป็นพระญาติที่ใกล้ชิดคือ พ่อขุนผาเมืองเจ้าเมืองราด (หล่มสัก) ก่อนที่จะย้ายไปก่อตั้งกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี และให้เมืองพิษณุโลกเป็นเมืองหน้าด่าน เหตุผลที่หันหน้าวิหารพระพุทธชิน ราชไปทางทิศตะวันตกเพราะ เมื่อก่อนเมืองพิษณุโลกเป็นเมืองประเทศราชของอาณาจักรกรุงสุโขทัย จึงหันหน้าวิหารพระพุทธชิราชไปยังทิศตะวันตก
Переглядів: 6 100
เรียนเจ้าของช่อง ผมขออนุญาตินำภาพมุมสูงไปใช้ในการเรียนรู้สื่อมัลติมีเดียนะครับ
มีโอกาส..สักครั้งในชีวิต ได้ไปไหว้พระพุทธชินราชสักครั้ง
ขอบคุณมากๆค่ะ
ได้ความรู้มากๆเลยครับ อยากให้ทำออกมาอีก