ดร.สิทธิชัย แสงอาทิตย์ (Sittichai Seangatith)
ดร.สิทธิชัย แสงอาทิตย์ (Sittichai Seangatith)
  • 1 235
  • 703 223
12 ทบทวนสอบกลางภาค บทที่ 1 ถึง บทที่ 5 วิชากลศาสตร์วัสดุ เทอม 2 2567 3 ธค 6
การบรรยาย ครั้งที่ 12
กลศาสตร์วัสดุ (Mechanics of Materials)
เทอม 2 ปีการศึกษา 2567
วัน อ ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2567
เนื้อหา Video clip นี้ได้แก่
การทบทวนเนื้อหา บทที่ 1 ถึงบทที่ 5 และการสาธิตทำโจทย์ตัวอย่างข้อสอบ 4 ข้อ
โดย download ตัวอย่างได้ที่ drive.google.com/file/d/1hoY2MvkMG41MwfUfMEfkmZl1swoYxcAp/view?usp=sharing
นศ สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จาก video clips ที่เกี่ยวข้องที่ Playlists ดังต่อไปนี้
1. กลศาสตร์วัสดุ (Mechanics of Materials)
ua-cam.com/play/PLF0BhuTaQMvT5NpU_YgvT3IkSb8AKmIpF.html
2. การบรรยาย กลศาสตร์วัสดุ (Mechanics of Materials) เทอม 2 ปีการศึกษา 2563
ua-cam.com/play/PLF0BhuTaQMvQZYvump-OYRU1l1Lf889Dh.html
3. การบรรยาย กลศาสตร์วัสดุ (Mechanics of Materials) เทอม 2 ปีการศึกษา 2564
ua-cam.com/play/PLF0BhuTaQMvQLlRu6zhx3Kr3d4hc_3hPQ.html
4. การบรรยาย กลศาสตร์วัสดุ (Mechanics of Materials) เทอม 2 ปีการศึกษา 2565
ua-cam.com/play/PLF0BhuTaQMvRBzYYeCW7V9ny_7kt5cig5.html&si=zKPnnKGutl89s1fP
5. ua-cam.com/video/YaIDVPA1ZS8/v-deo.html ... เทอม 2 ปีการศึกษา 2564
6. ua-cam.com/video/SfS9DOOPOhU/v-deo.html ... เทอม 2 ปีการศึกษา 2565
7. ua-cam.com/video/QdGHK8-9Qdk/v-deo.html ... เทอม 2 ปีการศึกษา 2566
Download หนังสือประกอบการเรียนรายวิชา กลศาสตร์วัสดุ (Mechanics of Materials) ได้ที่
drive.google.com/file/d/10BoGpSKcsWNSt-U65-CTTc1iculGkmlc/view?usp=sharing
Переглядів: 749

Відео

12 Review for Midterm Examination Mech of Materials Inter Prog 2 2024 Dec 3 2024
Переглядів 77День тому
Lecture 12 Mechanics of Materials Trimester 2/2024 ๋December 3, 2024 Contents: Review for the midterm examination 2/2024 for 4 problems, including Chapter 1 to 5. The examples of the midterm examination problems: drive.google.com/file/d/1hoY2MvkMG41MwfUfMEfkmZl1swoYxcAp/view?usp=sharing More video clips for self-study: (1) ua-cam.com/video/5HPJyVOmrdk/v-deo.html ... Lecture on Trimester 2/2021 ...
12 Review for Midterm Examination Engineering Static Term 2 2024 Dec 2 2024
Переглядів 84День тому
Lecture 12 Trimester 2/2024 December 2, 2024 This video clip covers Examples for the Midterm Examination (1) Equilibrium of Particle in 2D: Analysis of a cable system under the weight W. (2) Equilibrium of Particle in 3D: Analysis of a cable system under the weight W. (3) Equilibrium of Rigid Body in 2D: Analysis of a rigid bracket, supported by a hinge and a cable under the weight W. (4) Equil...
11 บทที่ 5 แรงบิด ส่วนที่ 2 วิเคราะห์และออกแบบเพลา วิชากลศาสตร์วัสดุ เทอม 2 2567 2 ธค 67
Переглядів 406День тому
การบรรยาย ครั้งที่ 11 กลศาสตร์วัสดุ (Mechanics of Materials) เทอม 2 ปีการศึกษา 2567 วัน จ ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2567 เนื้อหา Video clip นี้ได้แก่ (A) บทที่ 5 การบิด 5.1 การเปลี่ยนแปลงรูปร่างเนื่องจากการบิดเพลากลม 5.2 สมการการบิด 5.3 มุมบิด 5.4 เพลาส่งกำลัง สาธิตการทำตัวอย่างข้อสอบกลางภาคทั้งแบบการวิเคราะห์และการออกแบบ 3 ข้อ (B) เพลาแบบ statically indeterminate … มอบหมายให้นักศีกษาศึกษาเพิ่มเติม Do...
บนมอร์เตอร์เวย์ M6 ช่วงทางยกระดับลำตะคลอง อุโมงค์คลองไผ่ ขาวิ่งเข้าโคราช 30 พ.ย. 2567
Переглядів 49День тому
อุโมงค์คลองไผ่ บนมอร์เตอร์เวย์ M6 ช่วงทางยกระดับลำตะคลองนี้ ถูกสร้างขึ้น เพื่อ security ของสถานกักกันที่อยู่ด้านข้างมอร์เตอร์เวย์ M6 ออกแบบเป็นโครงเหล็กกัลวาไนท์ ที่ทรทานต่อสภาพแวดล้อม โดยเฉพาะลมและฝนที่ข้างข้างแรงมาก ๆ โดยจัดรูปแบบที่สวยงาม โดยเฉพาะเมื่อกระทบกับแสงพระอาทิตย์ยามตะวันตกดินในช่วงหน้าแล้งปลาย พ.ย. ถึงต้น ม.ค. จะสวยงามดัง video clip ครับ
บนมอร์เตอร์เวย์ M6 ช่วงทางยกระดับลำตะคลอง ขาวิ่งเข้าโคราช 30 พ.ย. 2567
Переглядів 35День тому
30 พ.ย. 2567 อากาศที่โคราชช่วงเช้าอยู่ราว 17-21C และสิ้นหน้าฝน เข้าสู่หน้าแล้งของที่ราบสูงโคราชและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ดังนั้น ช่วงนี้จะสังเกตเห็นใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีบนภูเขาต่าง ๆ ทำให้สวยงานไปอีกแบบ ประกอบกับช่วงนี้ แสงอาทิตย์ยามเย็นก่อนพระอาทิตย์ตกดินจะออกโทนส้ม-แดงสวยงามเมื่อกระทบกับสิ่งแวดล้อมโดบรอบ โดยเมื่อวิ่งเข้าโคราช พระอาทิตย์จะอยู่ด้านหลังร จึงเห็นแสงฯ สวยครับ
11 Ch 5 Torsion Part 2 Mech of Materials Inter Prog 2 2024 Nov 28 2024
Переглядів 4214 днів тому
Lecture 11 Mechanics of Materials Trimester 2/2024 November 28, 2024 Contents: Chapter 5 Torsion 5.1 Torsional Deformation of a Circular Shaft 5.2 Torsion Formula 5.3 Angle of Twist 5.4 Power Shaft More video clips for self-study : (1) ua-cam.com/video/U9RoH0pEF1Q/v-deo.htmlsi=xe-Ctq0hbeTnErf6&t=985 and ua-cam.com/video/BNds8Bb8brY/v-deo.html ... Lecture on Trimester 2/2021 (2) ua-cam.com/video...
10A บทที่ 5 การบิด ส่วนที่ 1 เพิ่มเติม วิชากลศาสตร์วัสดุ เทอม 2 2567 28 พย 67
Переглядів 17414 днів тому
เอกสารเพิ่มเติม ประกอบ การบรรยาย ครั้งที่ 10 กลศาสตร์วัสดุ (Mechanics of Materials) เทอม 2 ปีการศึกษา 2567 เพื่อให้นักศึกษาได้ศึกษาเพิ่มเติม วัน พฤ ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 เนื้อหา Video clip นี้ได้แก่ บทที่ 5 การบิด 5.2 สมการการบิด 5.3 มุมบิด ตัวอย่างตาม PPT
10 Ch 4 END Ch 5 Torsion Part 1 Mech of Materials Inter Prog 2 2024 Nov 28 2024
Переглядів 3614 днів тому
Lecture 10 Mechanics of Materials Trimester 2/2024 November 28, 2024 Contents: (A) Chapter 4 Axial Load 4.4 Analyze of Statically Indeterminate Axial Load Members by Using Displacement Method ... 2 Examples (B) Chapter 5 Torsion 5.1 Torsional Deformation of a Circular Shaft 5.2 Torsion Formula 5.3 Angle of Twist More video clips for self-study: (1) ua-cam.com/video/9E0c7W4Gg4M/v-deo.html (Lectu...
11 Equilibrium of Rigid Body in 2D and 3D Engineering Static Term 2 2024 Nov 27 2024
Переглядів 2614 днів тому
Lecture 11 Trimester 2/2024 Nov 27, 2024 (14.50-16.30) This video clip covers Chapter 5 Equilibrium of Rigid Body … Examples in 2D and 3D. Lecture note: Lecture Note 10: drive.google.com/file/d/1hczcLkN7QzDEzbjaNIQCDzKY4t-XgBqt/view?usp=sharing Lecture Note 11: drive.google.com/file/d/1heGrZeEciWrgsIZekmGbjYLXDuzO_2fH/view?usp=sharing Extra-example: drive.google.com/file/d/1h_yRAmZ6DFD85VYGyKPL...
10 Review Moment Equilibrium of Particle in 2D and 3D Engineering Static Term 2 2024 Nov 27 2024
Переглядів 2914 днів тому
Lecture 10 Trimester 2/2024 Nov 27, 2024 (13.00-14.40) This video clip covers (1) Chapter 4 Force System Resultants …. Review of the Moment of a force in 3D. (2) Examples of the Equilibrium of Particle in 2D and 3D. Lecture note: Lecture Note 8: drive.google.com/file/d/1SnrBR6GDDH-6RMHEz0Q8Vf47ng-ATzkq/view?usp=sharing Lecture Note 9: drive.google.com/file/d/1gkocF58WqLSwllT4SNxCS1AjVXAC5Pud/vi...
10 บทที่ 4 จบบท บทที่ 5 การบิด ส่วนที่ 1 วิชากลศาสตร์วัสดุ เทอม 2 2567 27 พย 67
Переглядів 37714 днів тому
การบรรยาย ครั้งที่ 10 กลศาสตร์วัสดุ (Mechanics of Materials) เทอม 2 ปีการศึกษา 2567 วัน พ ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 เนื้อหา Video clip นี้ได้แก่ บทที่ 4 แรงในแนวแกน 4.4 การวิเคราะห์ชิ้นส่วนของโครงสร้างที่รับแรงในแนวแกนแบบ Statically Indeterminate โดยวิธี Displacement Method ... สาธิตการทำตัวอย่างข้อสอบกลางภาค 2 ข้อ บทที่ 5 การบิด 5.2 สมการการบิด 5.3 มุมบิด ตัวอย่างแบบการวิเคราะห์ analysis 1.a ...
09 Ch 4 Axial Load Statically INdeterminate Mech of Materials Inter Prog 2 2024 Nov 26 2024
Переглядів 3114 днів тому
Lecture 9 Mechanics of Materials Trimester 2/2024 November 26, 2024 Contents: Chapter 4 Axial Load 4.4 Analyze of Statically Indeterminate Axial Load Members by Using Displacement Method (with many extra examples) More video clips for self-study: (1) ua-cam.com/video/9E0c7W4Gg4M/v-deo.html .... Lecture on Trimester 2/2021 (2) ua-cam.com/video/KvdPkpD22zg/v-deo.html .... Lecture on Trimester 2/2...
9 Examples for the incoming Midterm Examination Engineering Static Term 2 2024 Nov 25 2024
Переглядів 4414 днів тому
Lecture 9 Trimester 2/2024 Nov 25, 2024 This video clip covers Examples for the Midterm Examination (1) Equilibrium of Particle in 2D: Analysis of a cable system and rigid link under the weight W. (2) Equilibrium of Particle in 3D: Analysis of a steel rod system under the weight W = 30 kN. (3) Equilibrium of Rigid Body in 2D: Analysis of a rigid bracket, supported by a hinge and a cable. (4) Eq...
09 บทที่ 4 แรงในแนวแกน ส่วนที่ 2 statically Indeterminate วิชากลศาสตร์วัสดุ เทอม 2 2567 25 พย 67
Переглядів 29714 днів тому
การบรรยาย ครั้งที่ 9 กลศาสตร์วัสดุ (Mechanics of Materials) เทอม 2 ปีการศึกษา 2567 วัน จ ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 เนื้อหา Video clip นี้ได้แก่ บทที่ 4 แรงในแนวแกน 4.4 การวิเคราะห์ชิ้นส่วนของโครงสร้างที่รับแรงในแนวแกนแบบ Statically Indeterminate โดยวิธี Displacement Method (นำเสนอตาม PPT และเพิ่มตัวอย่างให้ นศ ศึกษาเพิ่มเติมด้วยตนเอง 2 ตัวอย่าง) Download เอกสารประกอบการบรรยาย ครั้งที่ 9 ได้ที่...
08 Ch 4 Axial Load Statically Determinate Mech of Materials Inter Prog 2 2024 พย 21 2024
Переглядів 5321 день тому
08 Ch 4 Axial Load Statically Determinate Mech of Materials Inter Prog 2 2024 พย 21 2024
08 บทที่ 4 แรงในแนวแกน ส่วนที่ 1 การวิเคราะห์เสา วิชากลศาสตร์วัสดุ เทอม 2 2567 15 พย 6
Переглядів 77328 днів тому
08 บทที่ 4 แรงในแนวแกน ส่วนที่ 1 การวิเคราะห์เสา วิชากลศาสตร์วัสดุ เทอม 2 2567 15 พย 6
8 Chapter 4 Force System Resultants Moment Engineering Static Term 2 2024 Nov 13 2024
Переглядів 37Місяць тому
8 Chapter 4 Force System Resultants Moment Engineering Static Term 2 2024 Nov 13 2024
07 บทที่ 3 สมบัติทางกลของวัสดุ ส่วนที่ 3 จบ วิชากลศาสตร์วัสดุ เทอม 2 2567 13 พย 67
Переглядів 592Місяць тому
07 บทที่ 3 สมบัติทางกลของวัสดุ ส่วนที่ 3 จบ วิชากลศาสตร์วัสดุ เทอม 2 2567 13 พย 67
7 Chapter 3 Equilibrium of Particle in 3D Engineering Static Term 2 2024 Nov 12 2024
Переглядів 26Місяць тому
7 Chapter 3 Equilibrium of Particle in 3D Engineering Static Term 2 2024 Nov 12 2024
07 Ch 3 Mechanical Properties of Materials END Mech of Materials Inter Prog 2 2024 Nov 12 2024
Переглядів 87Місяць тому
07 Ch 3 Mechanical Properties of Materials END Mech of Materials Inter Prog 2 2024 Nov 12 2024
6 Ch 3 Equilibrium of a Particle in 2D and 3D Engineering Static Term 2 2024 Nov 11 2024
Переглядів 76Місяць тому
6 Ch 3 Equilibrium of a Particle in 2D and 3D Engineering Static Term 2 2024 Nov 11 2024
06 บทที่ 3 สมบัติทางกลของวัสดุ ส่วนที่ 2 วิชากลศาสตร์วัสดุ เทอม 2 2567 11 พย 67
Переглядів 504Місяць тому
06 บทที่ 3 สมบัติทางกลของวัสดุ ส่วนที่ 2 วิชากลศาสตร์วัสดุ เทอม 2 2567 11 พย 67
06 Ch 3 Mechanical Properties of Materials Part 2 Mech of Materials Inter Prog 2 2024 Nov 8 2024
Переглядів 91Місяць тому
06 Ch 3 Mechanical Properties of Materials Part 2 Mech of Materials Inter Prog 2 2024 Nov 8 2024
05 Ch 3 Mechanical Properties of Materials Part 1 Mech of Materials Inter Prog 2 2024 Nov0 2024
Переглядів 79Місяць тому
05 Ch 3 Mechanical Properties of Materials Part 1 Mech of Materials Inter Prog 2 2024 Nov0 2024
5 Ch 2 Force Vector 3D and Ch 3 Engineering Static Term 2 2024 Nov 6 2024
Переглядів 54Місяць тому
5 Ch 2 Force Vector 3D and Ch 3 Engineering Static Term 2 2024 Nov 6 2024
05 บทที่ 3 สมบัติทางกลของวัสดุ ส่วนที่ 1 วิชากลศาสตร์วัสดุ เทอม 2 2567 06 พย 67
Переглядів 561Місяць тому
05 บทที่ 3 สมบัติทางกลของวัสดุ ส่วนที่ 1 วิชากลศาสตร์วัสดุ เทอม 2 2567 06 พย 67
04 Ch 1 Stress Part 4 4 and Ch 2 Strain Mech of Materials Inter Prog Term 2 2024 Nov 05 2024
Переглядів 136Місяць тому
04 Ch 1 Stress Part 4 4 and Ch 2 Strain Mech of Materials Inter Prog Term 2 2024 Nov 05 2024
4 Ch 2 Force Vector 2D and 3D Engineering Static Term 2 2024 Nov 4 2024
Переглядів 62Місяць тому
4 Ch 2 Force Vector 2D and 3D Engineering Static Term 2 2024 Nov 4 2024
04 บทที่ 1 Stress จบ และ บทที่ 2 Strain วิชากลศาสตร์วัสดุ เทอม 2 2567 04 พย 67
Переглядів 549Місяць тому
04 บทที่ 1 Stress จบ และ บทที่ 2 Strain วิชากลศาสตร์วัสดุ เทอม 2 2567 04 พย 67

КОМЕНТАРІ

  • @gokyupotfox3900
    @gokyupotfox3900 2 дні тому

  • @ดิษนันทืสะอาดเเก้ว

    อาจารย์สอนละเอียดมากเลยครับ ที่มอผมสอนไม่ค่อยละเอียดเลย

  • @thatrip4737
    @thatrip4737 14 днів тому

    ( 12:12 ) Ex. Analysis 1.a 1.) จากกราฟ steel shaft ( shear strain : gamma , shear stress : tau ) อ่านค่า tau( yield ) จากราฟได้ = 76 MPa _____________ ( 54:04 ) Ex. Analysis 1.a การคำนวณตามตัวอย่างข้อนี้ ได้ค่าหน่วยแรงเฉือน(สูงสุด) shear stress : tau(max) = 65.2 MPa ซึ่งน้อยกว่า tau( yield ) = 125 MPa ( of steel. ) ______________ ( 55:03 ) Ex. Design Hollow steel shaft โจทย์กำหนดค่า หน่วยแรงเฉือน(ที่ยอมให้) shear stress : tau( allowable) = 150 MPa _______________ คำถามครับ ? 1.) ค่าหน่วยแรงเฉือน(ที่จุคราก) ของ steel shaft ( shear stress : tau( yield ) ) ค่า " tau( yield ) " ที่เราอ่านได้จากกราฟ ของการทดสอบ ขึ้นอยู่กับประเภทของเนื้อวัสดุ steel ของตัวอย่าง ที่เราใช้ทำการทดสอบกับเครื่องทดสอบแรงบิด ใช่ หรือ ไม่ " ครับ ! " 2.) โดยปรกติ เราใช้ค่าหน่วยแรงเฉือน(ที่จุคราก) ของ steel shaft tau( yield ) of steel. ประมาณ เท่าไร ? ( ในการคำนวณในเรื่องแรงบิด " ครับ ! " ) " ขอบพระคุณครับ "

  • @รัชกฤชเจริญภัทราวุฒิ

    อาจารย์ครับ ใน มอก.20 ระบุให้ตัดชิ้นตัวอย่างท่อนละ 1.50 ม. แต่ถ้าหน้างานตัวแค่ 1.00ม. ยังทดสอบได้ปกติไหมครับ

    • @sittichaiseangatith4123
      @sittichaiseangatith4123 14 днів тому

      มาตรฐานอุตสาหกรรมไทย (มอก) เป็นกฎหมายที่ต้องปฏิบัติตาม โดยต้องตัดเหล็กด้วยวิธีทางกลตามความยาวที่กำหนด ในทางปฏิบัติแล้ว เครื่อง UTM สมัยใหม่สามารถทำสอบแท่งตัวอย่างยาวในระดับ 30 cm หากทางบริษัทก่อสร้างฯ ไม่เคร่งครัด มักจะยอมรับกันได้ เป็นกรณี ๆ ไป ด้วยที่เหล็กเสริม ผลิตจากโรงงานที่มีคุณภาพ มอก แล้ว และเป็นวัสดุที่มีความเป็น isotropic และ homogeneous material โดยที่ผลทดสอบ 3 ตัวอย่างทดสอบ ต้องมีค่าที่ทดสอบได้ผ่านเกณฑ์ที่กำหนดตามเกรดเหล็กทั้ง 3 ตัวอย่างทดสอบ (เช่น Yielding stress Ultimate stress % elongation และค่า E) ครับ แต่หากเป็นงานราชการที่เคร่งครัดแล้ว ควรต้องตัดตามกำหนด

    • @sittichaiseangatith4123
      @sittichaiseangatith4123 14 днів тому

      ส่วนตัว อจ นั้น ไม่รับ 1.0 m นะครับ ... ต้องกลับไปตัดมา 1.5 m ถึงจะรับทดสอบฯ

  • @Phot294
    @Phot294 17 днів тому

    ขอไอดีไลน์ได้ใหมครับอาจารย์

  • @gokyupotfox3900
    @gokyupotfox3900 17 днів тому

  • @gokyupotfox3900
    @gokyupotfox3900 Місяць тому

  • @gokyupotfox3900
    @gokyupotfox3900 Місяць тому

  • @moonandmay5689
    @moonandmay5689 Місяць тому

    Thank you, sir, for video

  • @gokyupotfox3900
    @gokyupotfox3900 Місяць тому

  • @Jinda_Design
    @Jinda_Design Місяць тому

    อาจารย์ ผมทำงานเขียนแบบ แต่ความรู้ด้านนี้ยังมีน้อย ผมรอติดตามทุกบทสอน ที่ท่านอาจารย์จะนำมาสอนทุกบทนะครับ

    • @sittichaiseangatith4123
      @sittichaiseangatith4123 Місяць тому

      @@Jinda_Design ด้วยความยินดีครับ ฝากบอกเพื่อน ๆ ด้วยครับ

    • @Jinda_Design
      @Jinda_Design Місяць тому

      @sittichaiseangatith4123 ด้วยความเคารพครับ

  • @kritsiri3278
    @kritsiri3278 2 місяці тому

    สอนดีมากครับอาจารย์ จาก นศ sec1

  • @คมกริชสว่างวรรณ์-ฏ3ข

    1. คาน วิธีกราฟ conjugate beam 2. โครงข้อแข็ง (วิธี virtual work หรือ วิธี strain energy) 3. โครงข้อหมุน (วิธี castiglino) 4. โครงสร้าง Indeterminate NI = 2 อาจารย์รับติวมั้ยครับ

    • @sittichaiseangatith4123
      @sittichaiseangatith4123 2 місяці тому

      อจ เป็น อจ มหาวิทยาลัยและเป็นวิศวกรโยธา อจ ไม่รับติว แต่ นศ มาลงทะเบียนนี้แบบร่วมเรียนที่ มทส เมื่อมีการเปิดรายวิชานี้ในเทอม 3 ตามระบบคลังหน่วยกิตได้ครับ

    • @sittichaiseangatith4123
      @sittichaiseangatith4123 2 місяці тому

      ในโลกปัจจุบัน นศ ควนฝึกฝนการเรียนรู้ด้วยตนเองนะ เพราะมี video clips มากมายจาก อจ ไทยเ ผยแพร่ใน UA-cam .... เป็นการเรียนรู้ตลอดชีวิต ในส่วนของ อจ เองก็มี น่าจะ 4 ชุดการบรรยาย เอกสารก็มีให้ download จาก link ใต้ video clips ครับ

    • @sittichaiseangatith4123
      @sittichaiseangatith4123 2 місяці тому

      อจ ขอฝาก นศ ช่วย เผยแพร่ บอกเพื่อน ๆ มาศึกษาด้วยตนเองกัน หรือจะ ทีมอัพ ช่วยกันศึกษาก็ดี ครับ

  • @thatrip4737
    @thatrip4737 3 місяці тому

    ( 7:30 ) คานช่วงเดียว ABC (ปลายยื่น) ( Overhanging beam ) ถูกแรงภายนอกกระทำ และ เราหาแรงปฏิกิริยา ( ได้ตามรูปตัวอย่าง ) คำถาม ? " ครับ " ถ้าเราสามารถ " เขียนสมการของคาน ที่ถูกแรงกระทำจากภายนอก w = 50 kN/m " ( กระทำในช่วงของคาน จาก A ถึง B ) ได้ว่า ! w(x1) = - 50 kN ( เป็นค่าคงที่ตลอดช่วงคาน จาก A ถึง B ) 1.) และ ถ้าเราต้องการ Integral สมการ w(x1) = - 50 kN ** เพื่อให้ได้ สมการแรงเฉือน : V(x1) ** 1.1) Integral w(x1) = V(x1) Integral ( - 50 ) = - 50(x1) + C1 เราจะได้สมการแรงเฉือน ! V(x1) = - 50(x1) + C1 ( ให้เป็นสมการที่ 1 ) 2.) และ ถ้าเราต้องการ Integral สมการแรงเฉือน : V(x1) ** เพื่อให้ได้ สมการ Moment : M(x1) ** 2.1) Integral V(x1) = M(x1) Integral - 50(x1) + C1 = - 25(x1)^2 + C1(x1) + C2 เราจะได้สมการ Moment : M(x1) M(x1) = - 25(x1)^2 + C1(x1) + C2 ( ให้เป็นสมการที่ 2 ) 3.) เราต้องหาสมการเงื่อนไขความสอดคล้อง ( compatibility conditions equation ) เพื่อหาค่า C1 และ C2 3.1) จากสมการแรงเฉือน V(x1) = - 50(x1) + C1 ( สมการที่ 1 ) ( จากเงือนไข ที่จุด A, ที่ระยะ x = 0 ) จุด A จะมีค่าแรงเฉือน V = + 40 kN แทนค่าที่ระยะ x = 0 m. และ V = + 40 kN ( ลงในสมการที่ 1 ) V(x1) = - 50(x1) + C1 40 kN = - 50•(0 m.) + C1 จะได้ค่า C1 = 40 kN แทนค่า C1 = 40 kN ( กลับลงใน สมการที่ 1 ) V(x1) = - 50(x1) + C1 ** เราจะได้สมการแรงเฉือน ** V(x1) = 40 - 50(x1) 3.2) M(x1) = - 25(x1)^2 + C1(x1) + C2 ( สมการที่ 2 ) ( จากเงือนไข ที่จุด A, ที่ระยะ x = 0 ) จุด A จะมีค่า Moment = 0 แทนค่าที่ระยะ x = 0 m. และ M = 0 ( ลงในสมการที่ 2 ) M(x1) = - 25(x1)^2 + C1(x1) + C2 0 = - 25•(0 m.)^2 + C1•(0 m.) + C2 จะได้ค่า C2 = 0 แทนค่า C1 = 40 kN และ C2 = 0 ( กลับลงในสมการที่ 2 ) M(x1) = - 25(x1)^2 + C1(x1) + C2 ** จะได้สมการ Moment ** M(x1) = 40(x1) - 25(x1)^2 ซึ่งสมการ V(x1) = 40 - 50(x1) M(x1) = 40(x1) - 25(x1)^2 ( เป็นไปตามตัวอย่างการบรรยาย ) ไม่ทราบว่า ! การใช้ ( compatibility conditions equation ) เพื่อเขียนสมการ ตามที่ได้แสดง เป็นความเข้าใจที่ ถูกต้อง หรือ ไม่ " ครับ ! " " ขอบคุณ ครับ "

    • @sittichaiseangatith4123
      @sittichaiseangatith4123 3 місяці тому

      การทำแบบที่ว่านี้ มันเป็นการ inverse วิธี graphic กลับไปเป็นวิธี method of section นะครับ … ทำได้ แต่ต้องยุ่งกับคณิตศาสตร์ ส่วนตัวเรา หากอยากได้สมการ V(x) และ M(x) แล้ว method of section น่าจะเหมาะกับวิศวกรมากกว่าครับ

    • @thatrip4737
      @thatrip4737 3 місяці тому

      @@sittichaiseangatith4123 กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ " ครับ "

  • @thatrip4737
    @thatrip4737 3 місяці тому

    ( 38:00 ) Example 1 1.) คาน(AB)ช่วงเดียว ( Simply supported beam ) ( ตามรูปตัวอย่าง ) ถูกกระทำด้วยแรงจากภายนอก ( เป็นแรงแผ่กระจาย รูปสี่เหลี่ยมคางหมู ) คำถาม ? " ครับ ! " 1.) " คาน " ตามตัวอย่างนี้ ** หากไม่มีแรง point load จากภายนอก มากระทำเพิ่มเติ่ม( ในระหว่างช่วงความยาวของคาน ) ** เราจะตัดคาน ** เพียงช่วงเดียว ** ( จากจุดA ไปยัง จุดB , เป็นระยะ x ใดๆ ) เพื่อเขียน..! 1.1) สมการแรงเฉือน V(x) ( ในรูปฟังก์ชั่นตามระยะ x : ที่ ( A <= x <= B ) ) 1.2) สมการโมเมนต์ M(x) ( ในรูปฟังก์ชั่นตามระยะ x : ที่ ( A <= x <= B ) ) ** เช่นเดียวกันกับ คาน(AB)ช่วงเดียว ( Simply supported beam ) , ที่ถูกกระทำด้วยแรงจากภายนอก ที่เป็นแรงแผ่กระจายสม่ำเสมอ( รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า Uniformly distributed load ) , ที่ ไม่มีแรง point load จากภายนอก มากระทำเพิ่มเติ่ม( ในระหว่างช่วงความยาวของคาน ) ** ความเข้าใจดังกล่าว ถูกต้อง หรือ ไม่ " ครับ ! " ขอบคุณครับ

    • @sittichaiseangatith4123
      @sittichaiseangatith4123 3 місяці тому

      @@thatrip4737 คานนี้ ตัดแค่ 1 ครั้ง เพราะแรงกระทำ ๆ ต่อเนื่องตลอดคาน ด้วย w = 10+x kN/m ครับ สำหรับ ตย ที่ 2 จะตัด 2 ช่วง จะอธิบายใน lecture ครั้งต่อไปครับ

    • @thatrip4737
      @thatrip4737 3 місяці тому

      @@sittichaiseangatith4123 กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ ครับผม

  • @thatrip4737
    @thatrip4737 3 місяці тому

    ตามการบรรยาย ในบทที่ 6 ครั้งที่ 14-15/2567 เรื่องการวิเคราะห์โครงสร้าง Truss & Frame เพื่อหาแรงภายในของชิ้นส่วน และ แรงปฏิกิริยา ( เป็นหลัก ) และ โจทย์ตามตัวอย่างของการบรรยายนี้ ก็ได้กำหนดอย่างชัดเจนแล้วว่า ! 1.)โครงสร้าง Truss & Frame ที่เราจะทำการวิเคราะห์ เป็นโครงสร้างแบบ 1.1) มีเสถียรภาพ( Stable ) 1.2) Unknown = Equation ( Staticlly determinate ) 2.) และการศึกษาในเรื่อง เสถียรภาพของโครงสร้าง Truss & Frame เราได้เรียนรู้จากการฟังการบรรยามาแล้ว ก่อนหน้านี้ ในวิชาทฤษฎีโครงสร้าง( Theory of Structures ) แต่เมื่อเราจะเริ่ม ทำการวิเคราะห์ Truss or Frame กระผมจึงขอความกรุณา ท่านอาจารย์ ได้กรุณาท้าวความ..! ( เพื่อความต่อเนื่อง ) ถึงขันตอนในการตรวจสอบ เสถียรภาพ และ หา Degree Of Indeterminacy : DOI ของโครงสร้าง Truss & Frame ( ตามรูปตัวอย่างของโจทย์ที่ให้มา ) ว่า ! โครงสร้างนั้น มีเสถียรภาพ( Stable ) และเป็นแบบ Staticlly determinate ( ตามที่โจทย์กำหนดมา หรือ ไม่ ) ก่อนทำการวิเคาระห์หาแรงภายใน และ แรงปฏิกิริยา ต่อไปฯ " ขอบคุณ ครับ "

    • @sittichaiseangatith4123
      @sittichaiseangatith4123 3 місяці тому

      @@thatrip4737 หลักการตรวจสอบ degree of indeterminacy เราตรวจสอบโดยการเทียบจำนวน unknown reactions+unknown member forces กับจำนวนสมการที่เรามีในโครง truss หรือโครงเฟรมครับ กรณี truss นั้นใช้ r+b เทียบกับ 2j เมื่อ r = unknown reactions, b= unknown member forces และ j = จำนวน joints โดย method of joint นั้น 1 joint มี 2 สมการความสมดุล หาก = กัน โครง truss เป็น staticall determinate truss หาก > แล้ว เป็น statically indeterminate โดยมี DOI = b+r-2j หาก < แล้ว truss ขาดเสถียรภาพ ในกรณีนี้ แบ่งออกเป็นแบบขาดเสถียรภาพภายนอก และภายใน หรือทั้งสองแบบ อ่านเพิ่มเติมในหนังสือ Theory of Structure โดย download หนังสือได้ที่ใต้ video clip ของการบรรรยายวิชาดัวกล่าวครับ กรณีเฟรมนั้น จำนวน unknowns เป็น r+internal firces/moment (ที่จำเป็นในกรณี n>1) จำนวนสมการเป็น 3 n เมื่อ n เป็นจำนวนชิ้นส่วนที่ใช้เขียน FBD 3 มาจากจำนวน 3 สมการความสมดุล/ 1 FBD ครับ ส่วนการพิจารณาก็เช่นกัน หาก = แล้ว statically deterninate frame หาก > แล้ว staticall indeterminate frame หาก < แล้ว frame ขสดเสถียรภาพ (แบบภายใน หรือภายนอก หรือทั้งสองแบบ) DOI ก็หาใช้หลักการเดียวกับ truss ครับ

    • @sittichaiseangatith4123
      @sittichaiseangatith4123 3 місяці тому

      Link หนังสือ ...drive.google.com/file/d/1kkGrBgQkkoR77nCiygn4KyGyJzUKDGhR/view?usp=sharing อ่านบทที่ 2 และ 3 ครับ

    • @thatrip4737
      @thatrip4737 3 місяці тому

      @@sittichaiseangatith4123 กราบขอบพระคุณ ท่านอาจารย์ เป็นอย่างสูง ที่ท่านได้กรุณาอธิบายถึงหลักการตรวจสอบ และ กระบวนการๆตรวจสอบ( อย่างละเอียด ) ที่ใช้ในการตรวจสอบ Degree Of Indeterminacy : DOI ของโครงสร้าง Truss & Frame ว่า..! แบบใดเป็นแบบ statically determinate หรือ แบบใดเป็นแบบ statically indeterminate และ วิธีการตรวจสอบโครงสร้าง ว่า ! โครงสร้างแบบใด เป็นโครงสร้างที่ขาดเสถียรภาพ( unstable ) ( แบบภายใน หรือ แบบภายนอก ) คำอธิบายของท่านอาจารย์ ( ดังกล่าว ) หากท่านผู้ใดได้ฟังการบรรยาย ใน Clip Video( ของท่านอาจารย์ ) ในวิชาทฤษฎีโครงสร้าง( Theory of Structures ) และ วิชาการวิเคราะห์โครงสร้าง( Structural Analysis ) ( ในเรื่อง Truss & Frame ) จะต้องมีความเข้าใจ ในคำอธิบายของท่านอาจารย์ และ พอจะมองภาพรวมของคำอธิบายนั้นได้ " อย่างแน่นอน " " กราบขอบพระคุณ ครับ "

  • @yothinbannasri2975
    @yothinbannasri2975 3 місяці тому

    ถ้าframe มีทั้งunifrom load และ lateral load สามารถใช้วิธี approximate ได้ไหมครับ?

    • @sittichaiseangatith4123
      @sittichaiseangatith4123 3 місяці тому

      หากอยู่ภายใต้เงื่อนไข (1) linear elastic และ (2) very small deformation .. ใช้ principle of superposition รวมผลทั้ง 2 กรณีเข้าด้วยกันครับ

    • @yothinbannasri2975
      @yothinbannasri2975 3 місяці тому

      โอเคครับ ขอบพระคุณมากครับ

  • @aum-e7e
    @aum-e7e 3 місяці тому

    1:44:46 ใช้วิธีAdvantage Method ได้มั้ยคะข้อนี้ เฟรม

  • @BuildSmartLearning
    @BuildSmartLearning 3 місяці тому

    ขอบคุณครับอาจารย์ ผมขออนุญาติแชร์ไฟล์เอกสาร กับยูทูปของอาจารย์ไปเผยแพร่ต่อในกรุ๊ปเฟสบุ๊คนะครับ

    • @sittichaiseangatith4123
      @sittichaiseangatith4123 3 місяці тому

      ด้วยความยินดีครับ

    • @BuildSmartLearning
      @BuildSmartLearning 3 місяці тому

      @@sittichaiseangatith4123 ขอบคุณครับอาจารย์

  • @thatrip4737
    @thatrip4737 4 місяці тому

    ( 53:50 ) 1.) Graph Influence line of M(A) หาได้จากสมการ M(A) = 15(x^2 / 6750)(45 - x) - x แต่เรายังไม่ทราบ ว่า..! ที่ " ระยะ x " วัดจากจุด A ไปทางขวามือ เท่ากับเท่าไร ? จึงจะได้ค่า M(A,max) " ผมเคยฟังการบรรยาย ของท่านอาจารย์ ก่อนหน้านี้ ! " ว่า..! ถ้า slope ของกราฟมีค่า = 0 ( ที่ตำแหน่ง x ใดๆ ) M(A,max) จะเกิดขึ้นที่ตำแหน่ง x นั้น ! ท่านอาจารย์ใช้วิธี dM(A) / dx = 0 1.1) จัดรูปสมการ M(A) M(A) = x^2/10 - x^3/450 - x 1.2) dM(A) / dx = x/5 - x^2/150 - 1 1.3) x^2/150 - x/5 + 1 = 0 แก้สมการได้ค่า x = 6.3397 m ( ระยะ x วัดจากจุด A ไปทางขวามือ = 6.3397 m ) 1.4) แทนค่า x = 6.3397 ในสมการ M(A) ได้ค่า M(A,max) = - 2.8868 ( Graph Influence line of M(A) ) 2.) ถ้าผมต้องการศึกษาเรื่องเส้นอิทธิพล( Influence line ) โดยหาค่า " เฉพาะค่า Moment วิกฤต " ของคาน ABC ( ตามรูปตัวอย่าง ) 2.1) โดยสมมุติให้คาน ABC เป็น " สพานที่มีรถวิ่งผ่าน 1 คัน " 2.2) ** เราจะต้องวาง loads ดังนี้ ** สพานให้มีน้ำหนัก uniform distributed loads : W = 10 kN/m ( วาง loads ตลอดช่วงความยาวคาน = 15 m ) 2.3) วางน้ำหนักรถ 1 คัน เป็น point load : P = 100 kN ( ที่ตำแหน่ง x = 6.34 m., " วัดจากจุด A ไปทางขวามือ " ) 2.4) ตามการ Models เราจะได้ค่า " Moment วิกฤต " ดังนี้ ! 2.4-1) ได้ M(A,max) = - 569.93 kN-m ( เป็น Moment Action at point (A) ) 2.4-2) และได้ M = + 314.14 kN-m ( ที่ตำแหน่ง x ~ 7.0499 m., " วัดจากจุด A ไปทางขวามือ " ) ไม่ทราบว่า ! การทำความเข้าใจเรื่องเส้นอิทธิพล( Influence line ) " ดังกล่าวมาข้างต้น " มาถูกทาง หรือไม่ " ครับ ! " ขอบคุณ ครับ

  • @01-นายชยกรไชยธวัช

    อาจารครับ 13:49 ทำไมเราถึงไม่คิดแรงในวัตถุABแม้ไม่มีน้ำหนัก แต่ก็มีแรงที่วัตถุไปค้ำรึเปล่าครับ

    • @sittichaiseangatith4123
      @sittichaiseangatith4123 4 місяці тому

      ในโจทย์นี้ พิจารณาสมดุลของวัตถุ (rod AB) โดยแรงใน rod AB มีค่าเท่ากับ "แรงลัพธ์ของแรงปฏิกิริยา Ax และ Ay" หรือ Square root ของ (Ax)^2+(Ay)ู^2 ครับ ... ดูที่ 36:06 เป็นต้นไป .... ซึ่งแรงใน rod AB จะหาได้อีก 1 วิธี โดยการใช้สมดุลของอนุภาค B ก็ได้ ... Rod AB มีชื่อทางเทคนิคว่า two-force member ครับ

    • @01-นายชยกรไชยธวัช
      @01-นายชยกรไชยธวัช 4 місяці тому

      @@sittichaiseangatith4123 ขอบคุณครับ

  • @ce4006
    @ce4006 4 місяці тому

    ขอบคุณครับ

  • @thatrip4737
    @thatrip4737 4 місяці тому

    ( 1:10:29 ) 3.) รูปของโครงสร้างตามตัวอย่าง ( รูปที่ 2 (สีแดง) ) ขอเรียกโครงสร้าง " ตามรูปตัวอย่างนี้ ว่า ! " เป็นโครง Frame ( รูปตัว L ) ( ที่มีฐานเป็นแบบ Fixed Support ) 3.1) และเรากำหนดให้ โครง Frame( รูปตัว L ), ฐาน Fixed Support นี้ ให้วางอยู่บนระนาบ( plane : x,y ) 3.2) " เรากำหนด " ให้นำแรง F = 50 ( ที่ตำแหน่งปลายโครง Frame ) " ** ออกไปจากปลายของโครง Frame ** คำถามที่ 3.3 ? Case : 1 3.3-1) ถ้าเรา Apply ให้ " ที่จุดปลาย " ของโครง Frame ( รูปตัว L ) นี้ ถูกขันโดยประแจเลือน( Adjustable wrench ) ( โดยที่ " ประแจ " ถูกวางยาว ** ตามแนวแกน x ** และวางอยู่บน ( plane : x,y ) ) ( ความยาว " ประแจ " d = 0.40 m ) 3.3-2) ที่ปลายของด้ามจับประแจ มีแรงจาก " มือคน " ออกแรงขันประแจ F = 30 N ( ทิศทางของแรง Vector F = 30 N, ** ชี้ขึ้นตามแนวแกน + y ** , และอยู่บน ( plane : x,y ) ) 3.3-3) ระยะทางตั้งฉาก ระหว่างจุดหมุนที่ปลายโครง Frame ( รูปตัว L ) กับแนวแรง F = 30 N , ( มีระยะทาง d = 0.4 m ) 3.3-4) ถ้าเราเขียน Free Body Diagram : FBD ของโครง Frame นี้ ** ตามหลักการๆย้ายแรง F = 30 N, จากปลายด้ามจับของประแจเลือน( Adjustable wrench ) มายังจุดหมุนที่ " จุดปลาย " ของโครง Frame( รูปตัว L ) ** เราจะได้ ว่า ! 3.3-5) จะมี ( Copple moment ( จากภายนอก ) : M(z) = 12 N-m ) ( มากระทำ ที่จุดปลายของโครง Frame ( รูปตัว L ) ) ( และทิศทางการหมุน จะหมุนทวนเข็มนาฬิกา รอบแกน z ) 3.3-6) และจะมี แรง Vector F ( เป็นแรง point load จากภายนอก ) = 30 N ( ** กระทำร่วม ** ที่จุดปลายของโครง Frame ( รูปตัว L ) ( ทิศทางของหัวลูกศรแรง " ทิศชี้ขึ้น ตามแนวแกน + y " ) ความเข้าใจดังกล่าว ! ถูกต้อง หรือ ไม่ " ครับ ! " คำถามที่ 3.4 ? Case : 2 ถ้าเรากำหนดให้ ! ที่จุดปลายของโครง Frame ( รูปตัว L ) ** ถูกขันโดย ( Steering wheel valve ) ** ( โดยมีแรงคู่ควบ ( จากภายนอก ) กระทำต่อ Steering wheel valve ) = 30 N ( ทิศทางของแรงคู่ควบ " หมุนตามเข็มนาฬิกา " ) ( ระยะห่างระหว่างแรงคู่ควบ d = 0.40 m ( เรา Apply ( แรงคู่ควบ ) ให้เป็นไปตามภาพตัวอย่างการบรรยาย ( 1:08:00 ) ) 3.4-1) เมื่อเราเขียน Free Body Diagram : FBD ของโครง Frame นี้ ! เราจะได้ ว่า ! 3.4-2) จะมีเฉพาะ ( Copple moment ( จากภายนอก ) : M(z) = 12 N-m ) ) " เท่านั้น ! " ( ที่มากระทำ ที่จุดปลายของโครง Frame ( รูปตัว L ) ) ( และ ทิศทางการหมุนของ Copple moment : M(z) จะหมุนตามเข็มนาฬิกา รอบแกน z ) ความเข้าใจดังกล่าว ! ถูกต้อง หรือ ไม่ " ครับ ! " " ขอบคุณ ครับ ! "

    • @sittichaiseangatith4123
      @sittichaiseangatith4123 4 місяці тому

      ขอบคุณที่สอบถามครับ

    • @sittichaiseangatith4123
      @sittichaiseangatith4123 4 місяці тому

      คำถามยาวมาก เรื่องนี้ง่าย ท่านน่าจะเข้าใจได้ไม่ยาก ขอไม่ตอบคำถามครับ

  • @thatrip4737
    @thatrip4737 4 місяці тому

    ( 1:08:03 ) 2.) ในเรื่อง " โมเมนต์ " ที่เกิดจาก แรงคู่ควบ ( Couple Moment ) ( ตามภาพตัวอย่างของการบรรยาย ) ในกรณี : ( Steering wheel valve ) ( ที่มีจุดหมุนของ valve อยู่ตรงจุดศูนย์กลางวงกลม ) 2.1) Steering wheel valve ถูกหมุนโดย(แรงคู่ควบ) = 30 N 2.2) ระยะห่างระหว่างแรงคู่ควบ d = 0.4 m 2.3) ถ้าเราพิจารณา( ตามตัวอย่างการบรรยาย ) จะได้ ว่า ! Moment : M (จากแรงคู่ควบ) = F • d M (จากแรงคู่ควบ) = 30 N • 0.4 m M (จากแรงคู่ควบ) = 12 N-m # คำถามที่ 2 ? " ครับ ! " 2.4) ถ้าเราจะใช้ " วิธีการย้ายแรง โดยย้าย(แรงคู่ควบ) F = 30 N มายังจุด " ศูนย์กลางของ Steering wheel valve " ** เราก็จะได้เพียง ** Moment : M (ที่เกิดจากแรงคู่ควบ) = 12 N-m ( เท่านั้น ) ( ที่ทำให้ Steering wheel valve หมุนรอบแกน z ทิศตามเข็มนาฬิกา ) ( Couple Moment ** ที่ได้จะไม่ระบุตำแหน่งบน Steering wheel valve ** ) กล่าวคือ ! Moment : M (ที่เกิดจากแรงคู่ควบ) = 12 N-m ( จะอยู่บนตำแหน่งใดๆ ก็ได้บนระนาบ ของตัววัตถุแกร่ง Steering wheel valve ) แต่ไม่ว่า ! Moment : M (ที่เกิดจากแรงคู่ควบ) = 12 N-m จะอยู่บนตำแหน่งใดๆ ของ Steering wheel valve มันจะส่งผล ** แค่เพียงทำให้ ** Steering wheel valve ( หมุนรอบจุด " จุดศูนย์กลางของตัวมันเอง " ( ในทิศตามเข็มนาฬิกา ) " เท่านั้น..! " ) ส่วน (แรงคู่ควบ) F = 30 N จะถูกหักล่างกันเองหมดไป อันเนื่องมาจากกระบวนการ " การย้ายแรง " ไม่ทราบว่า ! ความเข้าใจในเรื่อง โมเมนต์ของแรงคู่ควบ ( Couple moment ) ที่กระทำกับวัตถุแกร่ง( Rigid Body ) มีความเข้าใจที่ถูกต้อง หรือ ไม่ถูกต้อง " ครับ ! "

    • @sittichaiseangatith4123
      @sittichaiseangatith4123 4 місяці тому

      โมเมนต์เนื่องจากแรงคู่ควบ มีค่าเท่าเดิมเสมอ ไม่ว่าจะพิจารณาโมเมนต์ดังกล่าวที่จุดใด ครับ

  • @thatrip4737
    @thatrip4737 4 місяці тому

    ( 59:20 ) 1.) ท่อ( pipe ) ที่ถูกขันโดยประแจเลือน( Adjustable wrench ) 1.1) โดยมี " มือ " ออกแรงขันประแจ ด้วยแรง Vector F(x) 1.2) ระยะทางที่ตั้งฉากกับ " แนวแรง F(x) " ไปจนถึงตำแหน่งจุดหมุน(จุด O) มีระยะ = d(y) ( ตามรูปตัวอย่างการบรรยาย 4.1 ) ผลที่ได้รับ( ตามคำบรรยาย ) 1.3) เราจะได้ Moment รอบจุด(O) : M(O) M(O) = F(x) • d(y) ( ทิศหมุนทวนเข็ม ) 1.4) และ Moment : M(O) = F(x) • d(y) ( จะมีทิศทางหมุนทวนเข็ม ) ( และยังจะทำให้ ท่อ( pipe ) หมุนทวนเข็มนาฬิกา รอบแกน z ) คำถามที่ 1. ? " ครับ ! " 1.5) ถ้าผมเขียน Free Body Diagram : FBD ( " ของระบบประแจที่ขันท่อ " ตามตัวอย่าง 4.1 ( 59:20 ) ) โดยตั้งพิกัดแกน ( x,y,z ), ของระบบนี้ 1.6 ) แล้วใช้วิธี ทำการย้ายแรง F(x) มายัง จุด (O) ผลลัพธ์ที่ได้ คือ ? 1.6-1) แรง Vector F(x) จะไปปรากฏที่ จุด (O), ( line of action ของแรง F(x) จะวิ่งไปตามแนวแกน - x ) " เสมือน ว่า ! " เป็นแรงเฉือน : V(x), ที่กระทำ " ขนาน " กับหน้าตัดของ ท่อ( pipe ) 1.6-2) และ " เรายังจะได้ " Moment รอบจุด (O) : M(O), ( อีกหนึ่งตัว ) M(O) = F(x) • d(y) ( ทิศทางหมุนทวนเข็มนาฬิกา รอบแกน z ) " เป็นโมเมนต์ ที่เกิดจากแรงคู่ควบ ( couple ) " ( ที่เกิดจากการหักล้างกันของแรง F(x), อันเนื่องมาจากขั้นตอนของการย้ายแรง F(x), มายังจุด (O) ) สรุป ! ( จากการย้ายแรง F(x), มายังจุด (O) ) เราจะได้ 1.6-1) ได้แรง Vector F(O,x), ( ตามแนวแกน - x ) 1.6-2) ได้ Moment : M(O), ( ทิศหมุนทวนเข็ม ) 1.6-3) แรง F(O,x) และ Moment : M(O) จะถูกถ่ายไปยัง จุดรองรับ( support ของ ท่อ( pipe ) ) ต่อไป ! ไม่ทราบว่า ? ในการออกแรงขันประแจเลือน( Adjustable wrench ) ( ตามรูปตัวอย่างการบรรยาย 4.1 ( 59:20 )) ** จะให้ผลลัพธ์ ** เทียบเท่า ! การย้ายแรง F(x), มายัง จุด ( O) ** ตามบทสรุป ! ข้างต้น ** ใช่ หรือ ไม่ " ครับ ! "

    • @sittichaiseangatith4123
      @sittichaiseangatith4123 4 місяці тому

      ในการออกแบบประแจเลื่อนต้องออกแบบให้ประแจฯ รับโมเมนต์สูงสุด = Fx dy และแรงเฉือนขวาง = Fx ครับ และที่จุดที่ประแจฯ จับกับท่อต้อง lock ท่อได้ 100% ด้วยครับ ..... ถึงจะเกิดโมเมนต์และแรงเฉือนที่ประแจฯ ดังกล่าว

  • @นุซาลาเปา
    @นุซาลาเปา 4 місяці тому

    สุดยอดครับจารย์

  • @thatrip4737
    @thatrip4737 4 місяці тому

    ( 40:25 ) คำถามข้อที่ 1. ? " ครับ ! " โครง Frame ( ตามรูปตัวอย่างของการบรรยาย ) มีแรงจากภายนอกมากระทำที่จุด(D) ( ขนาด = 10 kN ( ทิศชี้ลง ) ) และแรงขนาด = 10 kN ( ทิศชี้ลง ) นี้ ! ** จะไม่มีผลต่อสมการ ** ( Slope-Deflection Equation ) รูปแบบทั่วไป ( General Equation ) M(..) = 2EI/L•( 2theta(.) + theta(.) - (3delta)/L ) + FEM(..) ที่เราใช้วิเคราะห์โครงสร้าง Frame นี้ ด้วยวิธี ( Slope-Deflection Method ) ผมเขาใจถูกต้อง หรือ ไม่ " ครับ ! " ( เพราะ..! ท่านอาจารย์ ไม่ได้กล่าวถึงแรงจากภายนอกที่มากระทำ ณ. จุด(D) ขนาด = 10 kN ( ทิศชี้ลง ) นี้เลย ! ตลอดการบรรยาย ) คำถามข้อที่ 2. ? ( 1:23:05 ) จาก Free Body Diagram ของ Shear Force Diagram เมื่อแรงเฉือน V(D) = 9.823 kN ( ทิศชี้ขึ้น ) ถูกถ่ายไปยัง node : D แรงเฉือนV(D) = 9.823 kN ( จะถูกกลับทิศ เป็นทิศชี้ลง, ตามกฎ 3rd Newton's Law ) ** และจะไปรวมกับ แรงจากภายนอกที่มากระทำ ณ. จุด(D) ขนาด = 10 kN ( ทิศชี้ลง ) ** เขียนเป็นการรวมแรงได้ ว่า..! แรงเฉือนV(D) = 9.823 kN + แรงจากภายนอก = 10 kN จะเท่ากับ แรงเฉือนV(D) = 19.823 kN ( ทิศชี้ลง ) เพื่อใช้ในการหา Reaction : Ry(D) เพราะฉนั้น Reaction : Ry(D) = 19.823 kN ( ทิศชี้ขึ้น ) ผมเขาใจถูกต้อง หรือ ไม่ " ครับ ! " คำถามข้อที่ 3. ? กรณีการวิเคราะห์โครง Frame ตามตัวอย่างนี้ ถ้า..! โครง Frame ( ในช่วง(BD) ) 3.1) โครง Frame ในช่วง(BD) มีแรงแผ่กระจายจากภายนอก แบบ Uniform Distribution Load : W = 5 kN/m ( กระทำตลอดช่วง ( BD ยาว 3 m. ) ) 3.2) และ มีแรงจากภายนอกกระทำแบบเป็นจุด concentrated load ขนาด F(D) = 10 kN ( ** กระทำร่วม ** ที่กึ่งกลางของ Frame ในช่วง ( BD = 1/2 ( 3 m. ) ) ) ไม่ทราบว่า..! เราจะใช้วิธี Slope-Deflection Method ในการ " วิเคราะห์ " โครง Frame นี้..! ได้ หรือ ไม่ " ครับ ! " ขอบคุณ ครับ !

    • @sittichaiseangatith4123
      @sittichaiseangatith4123 4 місяці тому

      ตอบคำถามข้อที่ 1 แรง 10 kN ที่กระทำที่จุดรองรับ D ไม่มีผลต่อสมการ slope-deflection ที่เป็นสมการของ end moment (โมเมนต์ที่ปลายชิ้นส่วน) เพราะแรงภายนอกดังกล่าวถ่ายลงสู่จุดรองรับ D โดยตรงครับ ไม่ก่อให้เกิด FEM บนชิ้นส่วนของเฟรม

    • @sittichaiseangatith4123
      @sittichaiseangatith4123 4 місяці тому

      ตอบคำถามที่ 2 ... ถูกต้องครับ และแรง reaction จะนำไปออกแบบจุดรองรับและฐานรากครับ .... อันนี้ อยากให้ลูกศิษย์ของผมคิดต่อครับ เพราะได้สอนเรื่องการหา reactions ไว้ในการบรรยายครั้งก่อนด้วยแล้ว ... ขอบคุณครับ

    • @sittichaiseangatith4123
      @sittichaiseangatith4123 4 місяці тому

      คำถามข้อที่ 3 ... ได้ครับ เมื่อเพิ่มแรงกระทำเป็นจุด P =10 kN ที่กึ่งกลาง span ของชิ้นส่วน BD (L = 3 m) แล้ว ในการหา FEM เราต้องนำแรงทั้งสองมาคิด เช่น FEM ที่ปลาย DB จะเป็น wL^2/12+PL/8 และเท่ากับ FEM ที่ปลาย BD แต่เครื่องหมายตรงกันข้าม ครับ

    • @thatrip4737
      @thatrip4737 4 місяці тому

      @@sittichaiseangatith4123 กราบขอบพระคุณ ท่านอาจารย์ ที่ได้กรุณาตอบข้อสงสัย ดังกล่าว " ครับผม "

  • @ce4006
    @ce4006 5 місяців тому

    ขอบคุณครับ

  • @santichonhongvijit6965
    @santichonhongvijit6965 5 місяців тому

    สอนดีมากเลยนะครับ อยากให้มีคลิปดีดีแบบนี้ออกมาบ่อยบ่อยครับ

  • @phatworawituthaisattawat7795
    @phatworawituthaisattawat7795 5 місяців тому

    อาจารย์ครับ มีเอกสารแจกไหมครับ

    • @sittichaiseangatith4123
      @sittichaiseangatith4123 5 місяців тому

      มี Link อยู่ที่คำอธิบายใต้ video clip ครับ .... การบรรยายครั้งที่ 1 การวิเคราะห์โครงสร้าง (STRUCTURAL ANALYSIS) วันจันทร์ที่ 8 กรกฎาคม 2567 เอกสารประกอบการสอน : drive.google.com/file/d/1iyrRqCes2v8bTRbqEhTTEIBLK0rTXTUR/view?usp=sharing .............................................................

  • @aum-e7e
    @aum-e7e 5 місяців тому

    วิเคราะห์หรือทฎษฏี

  • @phakkhaphongkhamthalang6664
    @phakkhaphongkhamthalang6664 5 місяців тому

    ชอบมากครับ สอนเข้าใจง่ายสุดๆ

  • @samartupathong7919
    @samartupathong7919 5 місяців тому

    ดีครับ สร้างสรรมาก

  • @thatrip4737
    @thatrip4737 6 місяців тому

    ( 49:38 ) ขั้นตอนที่ 1. เราเขียน Primary truss ( โครงที่ 1. ) โดยนำ Member(CE) ที่เป็น Member เกินจำเป็น ออกจาก Primary truss ( โครงที่ 1. ) แล้วร่าง Elastic curve ของ Primary truss ( โครงที่ 1. ) เราคาดการณ์ ว่า..! Member(CE) อาจจะเกิดการ ยืด หรือ หดตัว ( ตามแนวแกน : เกิด Delta(CE) ) เขียนเป็นความสัมพันธ์ Delta(CE) = L'(CE) - L(CE) ขั้นตอนที่ 2. เราเขียน Primary truss ( โครงที่ 2. ) ใส่แรงสมมุติ F(CE) , ทิศพุ่งออกจาก จุด C และ จุด E ( เมื่อแรงพุ่งออกจาก จุด(C และ E) , Member(CE) จะรับแรงดึง , รั้งจุด C และ รั้งจุด E เอาไว้ ไม่ให้เคลื่อน จุด ออกห่างจากกัน ตามแนวแกน ) เมื่อเราร่าง Elastic curve ของ Primary truss ( โครงที่ 2. ) จะเกิดการเปลี่ยนตำแห่นง โดยดึงจุด C และ จุด E " กลับ " ตามแนวแกน CE ด้วยแรง( redundant force : F(CE) = 1 หน่วย ) เขียนเป็นความสัมพันธ์ จะได้ ว่า..! f(CE,CE) • F(CE) เมื่อประกอบความสัมพันธ์ ของทั้ง 2 ขั้นตอน เข้าด้วยกัน " ตามเงื่อนไขความสอดคล้อง " แล้วเขียนเป็น Compatibility Condition Equation จะได้ว่า ..! การเปลี่ยนแปลงความยาว ตามแนวแกน ของ Member(CE) เป็นศูนย์ = เงื่อนไข Primary truss ( โครงที่ 1. ) + เงื่อนไข Primary truss ( โครงที่ 2. ) เขียนเป็นสมการ 0 = + Delta(CE) + f(CE,CE) • F(CE) หาแรง F(CE) = - Delta(CE) / f(CE,CE) ( เป็นไปตามเนื้อหาของการบรรยาย ) คำถาม ? " ครับ " การเขียน Compatibility Condition Equation กรณี ! " Redundant " เนื่องจากแรงของชิ้นส่วนภายใน Internal Indeterminate Truss " ค่อนข้างจะมองภาพเพื่อเขียน Compatibility Condition Equation ได้ยากกว่า Redundant จากภายนอกที่เป็น( Support Truss ) " กรณี ! การเขียน Compatibility Condition Equation ( ตามตัวอย่างของการบรรยาย ) *** เรามองอย่างนี้ ได้ไหม " ครับ " *** การเปลี่ยนแปลงความยาว ตามแนวแกน ของ Member(CE) เป็นศูนย์ = โครง Primary truss ( โครงที่ 1. ) ที่เรานำ Member(CE) ออก " แล้วเกิดการ ทรุดตัวลง " เนื่องจากแรงภายนอกมากระทำต่อโครง Truss + โครง Primary truss ( โครงที่ 2. ) " ที่เราใส่แรงดึงใน Member(CE) ขนาด = 1 หน่วย " เพื่อให้ โครง Primary truss ( โครงที่ 2. ) " มีแนวโน้ม โก่งตัวขึ้น กลับมาดังเดิม " เขียนเป็นสมการ Compatibility Condition Equation 0 = + Delta(CE) + f(CE,CE) • F(CE) " ขอบคุณ ครับ ! "

    • @sittichaiseangatith4123
      @sittichaiseangatith4123 6 місяців тому

      ไม่ควรใช้คำว่า “ทรุดตัวลง” นะครับ มันเป็น “การเปลี่ยนตำแหน่ง (ยืด/หด) ในแนว CE ของ truss” ครับ อจ ขอทบทวน โดยย่อ ดังนี้ ในกรณีนี้ เราตั้ง sign convention โดยสมมุติให้แรงในชิ้นส่วน CE ของ truss (ที่เป็น redundant force) ตามโจทย์เป็น “บวก” และชิ้นส่วน truss จะยืด (ภายใต้แรงกระทำที่กำหนดและมันจะมีค่าน้อยมาก ๆ (ตรวจสอบได้ภายหลัง) จนเราถือว่า เป็นมีค่าประมาณ 0) จากนั้น นำ princ of superposition มาเขียนแยก truss ออกเป็น 2 กรณี truss ที่ 1 และที่ 2 (ตามที่คุณเรียก) จากนั้น ร่าง elastic curve ของ truss ทั้งสอง โดยพิจารณาจากรูปร่างของ truss/ การรองรับ/ แรงกระทำ/ sign convention ฯลฯ เราจะใช้จินตนาการเขียน elastic curve ของ truss ได้ คร่าว ๆ (ดู ตย ใน textbook) และเขียนสมการ delta CE สำหรับ truss ที่ 1 เป็น + (สมมุติตาม sign convention ว่า ยืด) และ f CE CE ใน truss ที่ 2 เป็น บวก เช่นกัน และสุดท้าย เราได้สมการ 0 = delta CE + f CE CE (redundant F CE)

    • @sittichaiseangatith4123
      @sittichaiseangatith4123 6 місяців тому

      ในการหา การเปลี่ยนตำแหน่ง ทั้งสองค่า เราได้ delta CE เป็นลบ แสดงว่า ในความเป็นจริง delta CE มีทิศตรงกันข้ามกับ virtual unit force (ที่เรากำหนดจาก sign convention แรงดึงในชิ้นส่วน เป็นบวก เมื่อเอาแรงดึงในชิ้นส่วนมากระทำที่ joint จะได้แรงในแนว CE แต่ทิศที่ joint C และ E จะตรงกันข้ามกับที่ ปลาย C อ และ E ตามกฏข้อที่ 3 ของนิวตั้น) ส่วน f CE CE นั้น คำนวณจากการให้แรง F CE ที่สมมุติให้เป็น 1.0 หน่วย และในกรณีนี้ เป็นพุ่งออกจาก joint C และ E (ได้ n) ดังนั้น จึงเหมือนกับในกรณีของ virtual unit force (ได้ n) … ทำให้ได้ f CE CE เป็น + จากนั้น เมื่อแทนกลับใน compatibility condition เราจะได้แรงเกินจำเป็น F CE ที่เป็น + แสดงว่า เป็นแรงดึง ตามที่เราสมมุติตาม sign convention ครับ

    • @thatrip4737
      @thatrip4737 6 місяців тому

      @@sittichaiseangatith4123 กราบขอบพระคุณ “ ครับผม ! ”

    • @thatrip4737
      @thatrip4737 6 місяців тому

      @@sittichaiseangatith4123 ( 49:38 ) " ขออนุญาต ทำความเข้าใจ ในเนื้อหาของการบรรยาย และ คำอธิบาย ของท่านอาจารย์ " กรณี ! " ความไม่เข้าใจ " ในการเขียน Compatibility Condition Equation ( ของโครง Internal Statically Indeterminate Truss ตามตัวอย่างข้อนี้ ) ดังนี้ ! 1.) เราสามารถหา Reaction Support ของโครง Truss นี้ได้โดยตรง R(Ax) = 0 R(Ay) = 4.00 kN R(Dy) = 3.50 kN 2.) แต่ ! เมื่อเราทำ Method of joint E ( Unknown มีมากกว่า Equation ) โจทย์จึงกำหนดให้แรงใน Member(CE) เป็น reundant 3.) เราจึงต้องหาค่าแรงภายในของ Member(CE) " ให้ได้เสียก่อน " ( โดยวิธี Consistent Deformation Method ) 3.1) จากหลักการ Principal of Superposition เราแยก Truss ออกเป็น 2 กรณี และ " จากเงื่อนไขความสอดคล้อง " Compatibility condition equation เราเขียนความสัมพันธ์นี้ ได้ว่า ! การเปลี่ยนตำแหน่งตามแนวแกนของชิ้นส่วน Member(CE) : Delta(CE) ให้มีค่าเป็น 0 ( การยืด หรือ หดตัว ตามแนวแกน ของ Member(CE) ให้มีค่า ~= 0 ) = กรณีที่ 1. Primary truss. ที่เรานำ Member(CE) ออก และเมื่อ Primary truss ถูกแรงจากภายนอก 4.5 kN และ 3.0 kN มากระทำ( ตามรูปตัวอย่าง ) เมื่อเขียนเส้น Elastic curve " แล้วเราประมาณได้ว่า " เรากำหนดให้..! ( เส้นตามแนวแกน(CE) : Delta(CE) ) " มีการยืดตัวออก " ( แล้วเรายังกำหนดให้ " การยืดตัวออกของ Delta(CE) นั้น " ** ให้มีค่าเป็น + เอาไว้ก่อน ** ) + กรณีที่ 2. โครง Truss(โครงที่ 2) เราใส่แรง redundant force : F(CE) และ ให้แรง F(CE) มีขนาด = 1 หน่วย กำหนดให้ F(CE) เป็น " แรงดึง ตามแนวแกน CE " ( และ เรายังกำหนดให้ " แรงดึง " นั้นมีค่าเป็น + ) เมื่อเขียน Compatibility condition equation จะได้ว่า ! 0 = + Delta(CE) + f(CE,CE)•F(CE) F(CE) = - Delta(CE) / f(CE,CE) Note : ตามกรณีที่ 1. เมื่อเรากำหนดให้..! ( เส้นตามแนวแกน(CE) : Delta(CE) ) " มีการยืดตัวออก " และ ให้ค่าของ การยืดตัวออกของ Delta(CE) นั้น ** ให้มีค่าเป็น + เอาไว้ก่อน ** ) เรา " อาจจะ กำหนดให้ " แรง redundant force : F(CE) ขนาด = 1 หน่วย ตามกรณีที่ 2. กำหนดให้เป็น " แรงอัด ตามแนวแกน CE " ( และ กำหนดให้ " แรงอัด " นั้นมีค่าเป็น - ) ให้ไปหักล้าง กับระยะยืด Delta(CE) ในกรณีที่ 1 เพื่อให้ การเปลี่ยนตำแหน่งตามแนวแกนของชิ้นส่วน Member(CE) : Delta(CE) มีค่าเป็น 0 เมื่อเขียน Compatibility condition equation ตามกรณีนี้ จะได้ว่า ! 0 = + Delta(CE) - f(CE,CE)•F(CE) F(CE) = Delta(CE) / f(CE,CE) ไม่ทราบว่า ! การทำความเข้าใจ ในเนื้อหาของการบรรยาย และ คำอธิบาย ของท่านอาจารย์ เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ของการบรรยาย หรือ ไม่ " ครับ ! " " ขอบพระคุณ ครับ "

  • @Patsawut
    @Patsawut 6 місяців тому

    ลิ้งค์ไฟล์ใช้ไม่ได้แล้วครับ

    • @sittichaiseangatith4123
      @sittichaiseangatith4123 6 місяців тому

      แก้ไขแล้ว ขอบคุณครับ หากมีปัญหาแจ้งมาเพิ่มได้ครับ .... และ download ได้ที่ drive.google.com/file/d/1JFLsVbsJYnNEhHO4PL5Kb6zmorKUnnAC/view?usp=sharing

    • @Patsawut
      @Patsawut 6 місяців тому

      @@sittichaiseangatith4123 ขอบพระคุณครับ

  • @Ritabear737
    @Ritabear737 6 місяців тому

    เรามีหลักการในการเขียน compatibility condition อย่างไรครับ ในตัวอย่างแรก 10:47 compatibility condition: 0 = delta_Bx - f_BxBx B'x อาจารย์ใช้เครื่องหมาย - f_BxBx B'x แต่ในตัวอย่างที่สอง 53:37 compatibility condition: 0 = delta_CE + f_CECE F_CE อาจารย์ใช้เป็น + f_CECE F_CE ทำไมถึงไม่เป็น - เหมือนตัวอย่างแรกครับ ขอบคุณมากครับอาจารย์

    • @sittichaiseangatith4123
      @sittichaiseangatith4123 6 місяців тому

      ขอให้ฟังคำอธิบายทุกตัวอย่างแล้วคิดตามครับ โดยย่อ (1) จำนวนสมการ compat cond จะเท่ากับ จำนวน DOI (2) ใช้ princ of superposition แยกโครงสร้าง เป็น primary คาน/เฟรม/truss ที่ถูกกระทำโดยแรงที่กำหนด แล้วแต่กรณี + primary คาน/เฟรม/truss ที่เอาแรงที่กำหนดออก และถูกกระทำโดย redundant โดยมีหลักกาากำหนด redundant คร่าว ๆ เช่น ในกรณี DOI = 1 ในกรณีคาน หากโจทย์ให้ deflection table มาเป็น simple beam ทำการกำหนด redundant ของคาน 1 คัว เพื่ิอให้เป็น simple beam (และมีกรณีอื่น ๆ) หากเป็นเฟรม/truss ดูว่า โจทย์ให้ข้อมูลอะไรมาที่จะทำการกำหนด redundant 1 ตัว เพื่ิอให้ frame/truss นั้นเปลี่ยนเป็น primary frame/truss แบบ statically determinate (3) ร่าง elastic curve ของ คาน /frame /truss แบบ statically determinate (4) เขียน compat cond ตามการสังเกตการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของโครงสร้างตาม elastic curve ในข้อ (3) อีกครั้ง ให้ฟัง video clip แต่ละข้ออย่างช้า ๆ และจับรายละเอียดในการเขียน compat cond ครับ

    • @sittichaiseangatith4123
      @sittichaiseangatith4123 6 місяців тому

      ฝากเรา อ่านข้อความในการ post ถาม/ตอบ ข้างบน ด้วยครับ เธอน่าจะได้คำตอบ Note .... พี่เขาตั้งคำถามดีมาก มีการทวนความเข้่าใจ ดังนั้น ในเวลาเราตั้งคำถาม ลองศึกษา style ของพี่ท่านไว้ใช้นะครับ

  • @thatrip4737
    @thatrip4737 6 місяців тому

    ( 2:01:16 ) It is a very excellent technique for finding the internal force at point D of the truss member using the method of joint. " ตั้งแต่เรียนมา ไม่เคยมีใคร สอนเลย เทคนิควิธีนี้ ! "

  • @ทศพรสุขยศ
    @ทศพรสุขยศ 6 місяців тому

    รบกวนอาจารย์ ขอไฟล์ PDF สำหรับคลิปที่ 8 ด้วยครับ

    • @sittichaiseangatith4123
      @sittichaiseangatith4123 6 місяців тому

      Link อยู่ในรายละเอียดใต้ clip นี้นะ

  • @AsoptimZoomA
    @AsoptimZoomA 6 місяців тому

    1:44:46 ขอรบกวนหน่อยนะครับอาจารย์ ผมกำลังทบทวนเนื้อหาสำหรับเตรียมสอบอยู่ครับ (ไม่ใช่เพิ่งอ่านนะครับ อ่านมานานแล้ว แต่พอดูไปดูมา ก็จะงง ๆ สับสน ๆ ตี ๆ กันหน่อยครับผม) ตามตัวอย่าง Double Integration ที่อาจารย์พาทำนี้ อาจารย์อธิบายในช่วงต้นแล้วว่า Elastic Curve มีความสมมาตร ผมจึงเข้าใจว่า ที่ x = 0, v = 0 และ ที่ x = L, v = 0 ด้วยครับ แต่พอเราอินทิเกรตได้ผลลัพธ์ออกมาแล้วเป็น v(x) = Px^3/12EI - PL^2 x/16EI ผมลองแทนค่า x = L ลงไป ปรากฎว่าได้ v = PL^3/48EI นั่นคือ Elastic Curve ไม่สมมาตร มี vertical deflection ที่จุด B ด้วยครับ ผมเข้าใจอะไรผิดไปมั้ยครับอาจารย์ รบกวนอาจารย์หน่อยนะครับ ขอบคุณมาก ๆ เลยครับ ปล. youtube ของอาจารย์มีประโยชน์มาก ๆ เลยครับ กราบขอบพระคุณ

  • @AsoptimZoomA
    @AsoptimZoomA 6 місяців тому

    1:52:08 ในการใส่ทิศทางของแรง Unit load (แรง 1 kN) เราต้องใส่ในทิศเดียวกันกับการกระจัดของจุด C ในแนวราบด้วยใช่มั้ยครับอาจารย์ ก็คือ ถ้าผมใส่แรง 1 kN ในทิศทางตรงกันข้าม อาจจะทำให้คำตอบผิดได้ใช่มั้ยครับ ขอบคุณมาก ๆ เลยครับอาจารย์

    • @sittichaiseangatith4123
      @sittichaiseangatith4123 6 місяців тому

      ตามที่ อธิบาย ใน video clip ครับ หากใส่ตรงกันข้าม .. จะได้ติดลบ

    • @AsoptimZoomA
      @AsoptimZoomA 6 місяців тому

      @@sittichaiseangatith4123 ขอบคุณมาก ๆ เลยครับอาจารย์

  • @AsoptimZoomA
    @AsoptimZoomA 6 місяців тому

    3:44:15 อาจารย์กล่าวว่า "เราต้องกำหนดโมเมนต์ให้ไปในทิศทางเดียวกัน" ขอความกรุณาอาจารย์ช่วยอธิบายเพิ่มเติมหน่อยครับผมว่า.... ทำไมตรง x1 อาจารย์จึงกำหนดให้ M1 อยู่ในทิศหมุนทวนเข็มฯ ในขณะที่ M2 อาจารย์กำหนดให้อยู่ในทิศหมุนตามเข็ม ฯ (ทั้ง ๆ ที่ตอนแรกอาจารย์ให้ทวนฯ แล้วค่อยแก้เป็นตามฯ) การกำหนดให้ M1 M2 M3 อยู่ในทิศหมุนตามฯ หรือทวนฯ มีหลักการอย่างไรครับอาจารย์ หรือจริง ๆ กำหนดแบบไหนก็ได้ แล้วค่อยเลือกค่าที่เป็น + เท่านั้น ขอบคุณมาก ๆ เลยครับอาจารย์

    • @sittichaiseangatith4123
      @sittichaiseangatith4123 6 місяців тому

      อจ หมายถึง M1 กำหนดทิศอย่างไร m1 ก็กำหนดแบบนั้น และ M2 กำหนดทิศอย่างไร m2 ก็กำหนดแบบนั้น ... ในแบบคณิตศาสตร์ Mi กำหนดทิศอย่างไร mi ก็กำหนดแบบนั้น ... ไม่ต้องไปกังวลกับทวนฯ หรือตามเข็มฯ ครับ

    • @AsoptimZoomA
      @AsoptimZoomA 6 місяців тому

      @@sittichaiseangatith4123 ขอบคุณมากครับอาจารย์

  • @AsoptimZoomA
    @AsoptimZoomA 6 місяців тому

    1:15:12 ทำไมจุด C จึงไม่มีการขยับในแนวแกน y, Delta C y = 0, ครับอาจารย์

    • @sittichaiseangatith4123
      @sittichaiseangatith4123 6 місяців тому

      ในการวิเคราะห์โครงสร้างด้วยการคำนวณมือ เราสมมุติให้วัสดุของโครงสร้างมีพฤติกรรมแบบ linear elastic การเปลี่ยนแปลงรูปร่างเกิดจาก bending moment เป็นหลักตาม elastic beam theory และการเปลี่ยนตำแหน่งในแนวแกน (ยืด/หดตัว) ของชิ้นส่วนคานและเสามีค่าน้อยมาก (พิสูจน์ได้ด้วยโปรแกรม SUTSTructor) ดังนั้น การเปลี่ยนตำแหน่งในแนวแกน y ของจุด C จึงพิจารณาให้เป็น 0 และการเปลี่ยนตำแหน่งในแนวนอนของจุด B C และ D มีค่าเท่ากันครับ

    • @AsoptimZoomA
      @AsoptimZoomA 6 місяців тому

      @@sittichaiseangatith4123 ขอบคุณมาก ๆ เลยครับอาจารย์

  • @thatrip4737
    @thatrip4737 6 місяців тому

    ( 2:29:55 ) " normal for live performances " เรา Cut Section คานช่วง CD , ( 0 <= x <= 4 m. : จากซ้ายไปขวา ) เพื่อเขียนสมการ M(3) สมการ M(3) " น่าจะเขียนได้ดังนี้.. ? " Sigma moment = 0 : ( ให้หมุนทวนเป็น + ) M(3) = 22 kN. • ( 3 m. + x(3) ) - 10 kN. • ( 5 m. + x(3) ) - 8 kN/m.• ( x(3)) • ( x(3)/2 ) M(3) = 66 kN-m.+ 22(x(3)) - 50 kN-m. - 10(x(3)) - 4 kN/m.•(x(3))^2 M(3) = 16 + 12•x(3) - 4•x(3)^2

    • @sittichaiseangatith4123
      @sittichaiseangatith4123 6 місяців тому

      ขอบคุณครับ .. อจ พลาดครับผม

  • @จูมง-ซ5ฆ
    @จูมง-ซ5ฆ 7 місяців тому

    กลับมาทบทวนครับอาจารย์

  • @thatrip4737
    @thatrip4737 7 місяців тому

    ( 1:20:15 ) กรณีนี้ ! ท่านอาจารย์กำลังหมายถึง ว่า ! เรากำลังจะหาค่า " Moment ภายในสูงสุด " ที่ตำแหน่ง B : M(B, max) โดยการวาง loads 1.) น้ำหนักคาน DL(w) = 10 kN/m 2.) น้ำหนักจร LL(w) = 10 kN/m 3.) Point load (F) = 30 kN ลงบน Influence line diagram of M(B) แล้วได้ค่า M(B, max) = - 2,300 kN-m มิได้หมายถึง การหาค่า M(E, max) เนื่องด้วยที่จุด E เป็นบานพับภายใน ( Internal hinge ) " จึงไม่เกิด Moment ภายในคาน ณ. จุดดังกล่าว " ถูกต้องหรือไม่ " ครับ "

    • @sittichaiseangatith4123
      @sittichaiseangatith4123 7 місяців тому

      ใช่ครับผม

    • @thatrip4737
      @thatrip4737 7 місяців тому

      @@sittichaiseangatith4123 กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ ครับ ! ขออนุญาตเรียนถามเพิ่มเติมดังต่อไปนี้ ครับ ! กรณีการหาค่า Moment ภายในคาน(สูงสุด) ที่เกิดขึ้น ณ.ตำแหน่ง จุด B, M(B, max) โดยการวาง load บนเส้นอิธิพล ( Influence line diagram of M(B) ) โดยวาง load ดังต่อไปนี้ ! 1.) คานมีน้ำหนัก = 10 kN/m 1.1) เราจึงวาง DL(w) = 10 kN/m ตลอดความยาวเส้น Influence line diagram of M(B) เพื่อใช้ประกอบการคำนวณหาค่า M(B, max) 2.) น้ำหนักจรที่กระทำต่อคานนี้ " ถูกกำหนดขึ้นให้ LL(w) = 10 kN/m " " ซึ่งอาจเป็นน้ำหนักที่เกิดขึ้นจริง ตามข้อกำหนด " เช่น คานนี้อาจรับน้ำหนักจรของพื้นทางเดียว ของอาคารประเภทโรงแรม = 2.0 kN/m^2 2.1) เราจึงวาง LL(w) = 10 kN/m ลงบน ( Influence line diagram of M(B) ) เฉพาะในช่วงจาก B ถึง D ( เพื่อให้ได้ค่า Moment " วิกฤต " ที่จุด B ) มาถึงข้อสงสัย ครับ ! 3.) กรณีโจทย์กำหนด " point load จร : LL(F) = 30 kN " คำถามข้อที่ 3-1 ? 3-1) " point load จร : LL(F) = 30 kN " หมายถึง ! น้ำหนัก point load ( เช่น ตู้เซฟ ฐานแคบที่มีน้ำหนัก = 30 kN ) ที่เราอาจจะเลือกนำไปวางไว้บนเส้น ( Influence line diagram of M(B) ) , ที่ตำแหน่งจุด E ( เพื่อประกอบให้ได้ค่า Moment " วิกฤต " ที่จุด B ) " ใช่ไหม ครับ ? " คำถามข้อที่ 3-2 ? 3-2) " point load : LL(F) = 30 kN " ** มิได้หมายถึง ! ** " dead point load at point E " ( dead point load ที่เป็นประเภทคานฝาก " ที่มีอยู่จริง " ณ.จุด E ) " ขอบพระคุณครับ "

    • @thatrip4737
      @thatrip4737 7 місяців тому

      ⁠​⁠@@sittichaiseangatith4123 กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ ครับ ! ขออนุญาตเรียนถามเพิ่มเติมดังต่อไปนี้ ครับ ! ( 1:20:15 ) กรณีการหาค่า Moment ภายในคาน(สูงสุด) ที่เกิดขึ้น ณ.ตำแหน่ง จุด B, M(B, max) โดยการวาง loads บนเส้นอิธิพล ( Influence line diagram of M(B) ) โดยวาง loads ดังต่อไปนี้ ! 1.) คานมีน้ำหนัก = 10 kN/m 1.1) เราจึงวาง DL(w) = 10 kN/m ตลอดความยาวเส้น Influence line diagram of M(B) เพื่อใช้ประกอบการคำนวณหาค่า M(B, max) 2.) น้ำหนักจรที่กระทำต่อคานนี้ " ถูกกำหนดขึ้นให้ LL(w) = 10 kN/m " " ซึ่งอาจจะเป็นน้ำหนักที่เกิดขึ้นจริง ตามข้อกำหนด " เช่น ! คานนี้อาจรับน้ำหนักจรของพื้นทางเดียว ของอาคารประเภทโรงแรมที่มี live loads = 2.0 kN/m^2 2.1) เราจึงวาง LL(w) = 10 kN/m ลงบน ( Influence line diagram of M(B) ) เฉพาะในช่วงจาก B ถึง D ( เพื่อให้ได้ค่า Moment " วิกฤต " ที่จุด B ) มาถึงข้อสงสัย ครับ ! 3.) กรณีโจทย์กำหนด " point load จร : LL(F) = 30 kN " คำถามข้อที่ 3-1 ? 3-1) " point load จร : LL(F) = 30 kN " หมายถึง ! น้ำหนัก point load ( เช่น ! “ ตู้เซฟ “ ฐานแคบที่มีน้ำหนัก = 30 kN ) ที่เราอาจจะนำไปวางไว้บนเส้น ( Influence line diagram of M(B) ) , ที่ตำแหน่งจุด E ( เพื่อประกอบการคำนวณ ให้ได้ค่า Moment " วิกฤต " ที่จุด B ) " ใช่ไหม ครับ ? " คำถามข้อที่ 3-2 ? 3-2) " point load : LL(F) = 30 kN " ดังกล่าวนี้ ! ** มิได้หมายถึง ! ** " dead point load at point E " ( dead point load ที่มีลักษณะเป็นคานฝาก " ที่มีอยู่จริง " ณ.จุด E ) " ขอบพระคุณครับ "

    • @sittichaiseangatith4123
      @sittichaiseangatith4123 7 місяців тому

      @@thatrip4737 ตอบข้อที่ 3-1 : ใช่ครับ ตามหลักการ point load หรือแรงกระทำเป็นจุด จะก่อให้เกิดอิทธิพล (influence) สูงสุดของ MB เมื่อวาง point load ดังกล่าว (30 kN) ตรงจุดที่มีพิกัดสูงสุดของ IL ที่จุด E ในกรณีนี้คือ -10.0 ครับ

    • @sittichaiseangatith4123
      @sittichaiseangatith4123 7 місяців тому

      ตอบข้อที่ 3-2 กรณีเป็นคานฝาก .. น้ำหนักของคานฝากที่ถ่ายลงมาสู่คานที่จุด E ในรูปของแรง reaction ซึ่งถูกพิจารณาเป็น point load แบบ dead load จะอยู่ที่จุดเชื่อมต่อ ฎ ของคานฝากเสมอครับ ...

  • @happygaming8985
    @happygaming8985 7 місяців тому

    ในทางปฎิบัติเวลาเราจะรู้น้ำหนักอะไรสักอย่าง ช่างเขาจะบอกมาเป็น Kg เราก็แค่คูณ 9.81 เข้าไปก็ทำการคำนวนในชีวิตจริงได้เลยใช่ไหมครับอาจารย์

    • @sittichaiseangatith4123
      @sittichaiseangatith4123 7 місяців тому

      .. ในวิชานี้ มวล หรือ mass ในหน่วยสากลระบบ SI มีหน่วยเป็น kg หากจะหาน้ำหนัก ก็คูณ 9.81 เพื่อเปลี่ยนเป็นหน่วยแรง นิวตัน N ครับ

  • @happygaming8985
    @happygaming8985 7 місяців тому

    33:10 เห็นด้วยครับคือส่วนตัวผมจบโลหการแต่เวลาไปทำงานจริงเจอช่างเชื่อมลองเชิงไปไม่เป็นทำได้แค่แนะนำและตรวจสอบเพราะ Job Description ผมเป็น Inspector แต่ลึกๆในฐานะวิศวกรก็อยากเอาเวลาไปฝึกเชื่อมจริงๆดูสักครั้งนึงเพราะบางคำถามเวลาช่างเชื่อมถามมาเราไม่เข้าใจก็เยอะครับ

  • @แกลบชาแนล
    @แกลบชาแนล 8 місяців тому

    ผมเรียนก่อสร้างมา 3รอบแล้วครับไม่จบสักทีถ้าผมจบจะไปต่อโยธาและความฝันของผมยากเป็นอาจารย์สอนในมหาลัยครับไม่รู้จะทำได้ไหม

  • @gokyupotfox3900
    @gokyupotfox3900 8 місяців тому

  • @thatrip4737
    @thatrip4737 8 місяців тому

    เข้าใจว่า ! ในการตั้งคำถามดังต่อไปนี้ น่าจะเป็นเนื้อหาที่นอกเหนือจากการบรรยาในครั้งนี้ และ อาจจะเป็นเนื้อหาในวิชา Steel Design แต่เพื่อการมองภาพโดยรวมให้ออก ว่า ! ในการศึกษาวิชา " ทฤษฎีโครงสร้าง " ต่อไปยังวิชา " วิเคราะห์โครงสร้าง " เพื่อนำไปใช้ออกแบบ ในวิชา " Steel Design " เราพอจะมองภาพโดยรวมออก หรือไม่ ! ( 56:32 ) หัวข้อของคำถาม ? " ครับ ! " จากข้อมูลการออกแบบโครงหลังคา Steel Truss Roof บ. เหล็กสยามยามาโตะ จก. (SYS) 1. " ถ้าผมต้องการออกแบบโครงหลังคา นี้ " โดยเลือกความยาวช่วงพาด ( Span Length ) = 30.00 m. Overhanging Length ชายคายื่น 2.00 m ( สองข้าง ) ความสูงจากพื้นที่ก่อสร้างถึงระดับท้อง ( Truss Bottom Chord ) = 9.00 m. ความชันของหลังคา Slope Roof = 5 degree *** Span to Depth ratio = 16 - 12 *** คำถามข้อที่ 1. " ? " ( 1:00:15 ) จากรูปตัด ตามตัวอย่างของโครงหลังคา Truss นี้ ** " ผมต้องการทราบ " ** ความลึก( เบื้องต้น ) ของโครง Truss Depth : D2 ( เพื่อใช้ในการวิเคาะห์ ออกแบบ ) " ผมเลือกใช้ " สมการประมาณความลึกของโครง Truss Depth : D2 ** จาก Span to Depth ratio = 12 ** จะได้ว่า 30 / Depth = 12 ( Truss Depth : D2 = 2.50 m. ) เมื่อ Roof Slope = 5 degree Truss Depth : D1 17tan(5) = 1.49 m. 2.5 m. - 1.49 m. = 1.01 m. ( เพาะฉนั้นเราเลือกให้ความลึกของ Truss Depth : D1 ลึก = 1.00 m. ) สรุปคำถามข้อที่ 1. ( 1:00:15 ) Cross Section Truss 1.1) Truss Depth : D2 = 2.50 m. 1.2) Truss Depth : D1 = 1.00 m. 1.3) Span : 30@1.00 m. = 30.00 m. Overhanging Length ชายคา 2@1.00 m. = 2.00 m. ( สองข้าง ) 1.4) Diagonal members ทำมุมเอียงตามรูปตัวอยู่ " ผม " ประมาณความลึกของหน้าตัด Truss " เบื้องต้น " Geometry of truss for analysis แบบนี้ ! ถือว่ามาถูกทางหรือไม่ " ครับ ! " คำถามข้อที่ 2. 2.1) Diagonal members ช่วงภายใน Span 30 m. ตามรูปตัวอย่าง ทำมุมเอียงต่างไปจาก Diagonal members ช่วงที่เป็นชายคา ไม่ทราบว่า ! มีเหตุผลทางด้านวิศวกรรม หรือไม่ " ครับ " ขอบคุณครับ

    • @sittichaiseangatith4123
      @sittichaiseangatith4123 8 місяців тому

      ขอบคุณครับ สำหรับคำถาม จุดประสงค์ที่นำคู่มือนี้มาประกอบคำบรรยาย เพื่อกระตุ้นให้ นศ มีความอยากรู้มากขึ้นในวิชาชีพ ที่สามารถสืบหาได้จากแหล่งต่าง ๆ ครับ ในส่วนของการใช้คู่มือฯ นั้น เป็นไปตามคู่มือฯ กำหนดครับ

    • @thatrip4737
      @thatrip4737 8 місяців тому

      @@sittichaiseangatith4123 กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ ครับ !

    • @sittichaiseangatith4123
      @sittichaiseangatith4123 8 місяців тому

      ขอบใจที่เข้าใจนะครับ โดยจรรยาบรรณวิศวกรนั้น เราไม่ควรแสดงความคิดเห็นต่องานของวิศวกรท่านอื่น ๆ นะครับ