เรื่องราวความสำเร็จ
“เราไม่ได้ทำงานกับความลำบากในปัจจุบันของชีวิต แต่เราทำงานกับความคาดหวังในอนาคต” เป็นแนวคิดในการสร้างธุรกิจของคุณประภาคาร (อูฐ) และคุณจริยา (จี๊ด) เมืองมั่น ทั้งสองขยายความด้วยการตั้งคำถามว่า ถ้าที่นั่งของคุณอุ่นสบายดี ไม่ร้อน คุณจะอยากขยับตัวหรือไม่ แน่นอนว่าคำตอบคือ ไม่! ดังนั้น เมื่อสมาชิกในองค์กรของเราส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ไม่ได้ประสบความยากลำบากในชีวิตปัจจุบัน แล้วควรทำอย่างไรให้พวกเขาสนใจและกระตือรือร้นที่จะสร้างธุรกิจล่ะ... ‘การสร้างวิสัยทัศน์เพื่อชีวิตที่ดีจนถึงวันหน้า’ จึงเป็นคำตอบที่ทั้งคู่ได้เรียนรู้และลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง
ในวันแรกที่ทั้งคู่ตัดสินใจเดินเข้าสู่ธุรกิจแอมเวย์ คุณจี๊ดได้รับฟังข้อมูลธุรกิจจากเพื่อน และเหมือนกับหลายคนที่รู้สึกว่า “โอเค แต่ไม่ใช่เรา” ประกอบกับทางบ้านไม่เห็นด้วย เธอจึงวางมือ จนเมื่อเริ่มตระหนักว่างานประจำที่ทำอยู่ไม่สามารถเปลี่ยนชีวิตให้ดีขึ้นได้ดังใจฝัน “เราอยากสร้างชีวิต ซึ่งถ้าทำงานประจำอย่างเดียว เรามองไม่เห็นว่าจะสร้างชีวิตเร็วได้ยังไง ก็เลยเข้ามาศึกษาธุรกิจใหม่อีกรอบ อาศัยว่าเราเป็นคนที่อยากสำเร็จจริงๆ แล้วก็เป็นคนไม่ชอบยอมแพ้ ถ้าศึกษาดีแล้ว เลือกแล้ว ก็ต้องไปให้สุดค่ะ (ยิ้ม)”
ส่วนคุณอูฐนั้นเข้ามาด้วยเหตุผลเพราะเกรงใจเพื่อน และเมื่อศึกษาธุรกิจก็รู้สึกเช่นเดียวกันว่า “ดี แต่ยังไม่ใช่เรา” ประกอบกับคุณอูฐมีงานประจำเป็นวิศวกรและมีธุรกิจส่วนตัว ธุรกิจแอมเวย์ในเวลานั้นจึงยังไม่อยู่ในความคิด “แรงบันดาลใจที่สำคัญมากๆ คือภรรยาครับ (หัวเราะ) เพราะคุณจี๊ดรักและทุ่มเทกับธุรกิจมาก แล้วเขาก็มีแรงกดดันจากครอบครัวที่ไม่เห็นด้วย เราเป็นแฟนก็เลยรู้สึกว่า เอาละ ต้องสู้ไปกับเขาครับ”
พิสูจน์ทุกอย่างด้วยความสำเร็จ จึงเป็นความมุ่งมั่นของทั้งคู่ “เราเชื่อว่าความสำเร็จจะทำให้คนรอบข้างเข้าใจได้ในที่สุด เหมือนผู้ต้องหาค่ะ ถ้าเอาหลักฐานมาพิสูจน์ได้ก็จะกลายเป็นผู้บริสุทธิ์” คุณจี๊ดบอกด้วยรอยยิ้ม ไม่เพียงกำลังใจที่เข้มแข็ง แต่อีกสิ่งสำคัญที่ต้องมีก็คือ วิสัยทัศน์ “ยุคก่อนผู้คนยังไม่ค่อยเข้าใจธุรกิจนี้ครับ เราอยู่ด้วยวิสัยทัศน์ล้วนๆ เพราะเราไม่ลำบากเลย ทั้งงานประจำและธุรกิจก็มีรายได้มากพอ ขณะที่ยังมองไม่เห็นรายได้จากธุรกิจนี้ (ยิ้ม) แต่เพราะเรามาประชุมตลอด พอได้เห็นคนสำเร็จมีชีวิตที่เราอยากได้ มีไลฟ์สไตล์ที่ไร้กังวล ส่วนเรา แม้จะมีรายได้ที่ดี แต่มีความกังวลคูณสิบคูณยี่สิบ ทำงานประจำเป็นผู้บริหารแต่ยังต้องขออนุญาต ทำธุรกิจส่วนตัวเป็นอิสระแต่ต้องทำงานหนัก เหนื่อยไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อเห็นว่าธุรกิจนี้จะให้ชีวิตที่ใช่ ชีวิตที่ดีจริงๆ เราตัดสินใจเลยครับ ถอดหัวโขนทั้งหมด ไม่ยอมแพ้ ต้องประสบความสำเร็จเพื่ออนาคตและเพื่อลบคำสบประมาทให้ได้ (ยิ้ม)” บนเส้นทางธุรกิจทั้งคู่เลือกสร้างองค์กรด้วยแนวคิด สร้างวิสัยทัศน์ให้ชัดเจน เรียนรู้ ให้จดจำและฝึกฝนให้ทำเป็น “เราตั้งใจสอนทุกคนให้ตกปลากินเองได้ เพราะเชื่อว่าเมื่อเขาทำธุรกิจเป็น ยืนหยัดด้วยตัวเองได้ เขาก็จะสร้างอาณาจักรของตัวเองต่อไปได้ค่ะ”
แม้วันนี้ชีวิตจะอยู่ในจุดที่สบาย แต่ทั้งคู่ยังมุ่งมั่นเดินทางต่อ “เรารู้สึกดี ที่ได้เห็นคนรอบตัวมีชีวิตที่ดีขึ้นด้วยโอกาสจากธุรกิจที่เราส่งมอบให้ครับ” คุณอูฐบอก คุณจี๊ดเสริมว่า “เพราะเราได้เห็นว่ามีคนที่ชีวิตดีขึ้นจริง ตัวเราเองก็ได้ทุกอย่างจากธุรกิจนี้ รวมทั้งสามีด้วยค่ะ (หัวเราะ) จึงอยากให้ทุกคนที่เข้ามาในธุรกิจตั้งใจกับชีวิต อดทน เข้มแข็ง ความสำเร็จในชีวิตนั้น ต้องรู้จักรอเวลา มีความเพียร ขวนขวายในเหตุ สันโดษในผล ทำเหตุให้เยอะ เดี๋ยวผลจะตามมาเอง และเมื่อผลลัพธ์แห่งความสำเร็จปรากฏ คุณค่าไม่ได้เกิดแค่กับตัวเรา แต่จะเกิดกับครอบครัว และองค์กรเราด้วย เศรษฐกิจแบบนี้ไม่ว่าธุรกิจไหนก็ไม่ง่าย ทุกคนมีปัญหา ขอให้ลุกขึ้นเดินต่อ ชีวิตดีๆ รอเราอยู่ข้างหน้า ทัศนคติและวิสัยทัศน์สำคัญกว่าความเป็นจริงในปัจจุบัน เพราะทัศนคติและวิสัยทัศน์ที่ดีในวันนี้ คือความเป็นจริงในอนาคตค่ะ” ปลูกไม้ใหญ่ที่หยั่งรากลึกต้องใช้เวลา ความสำเร็จที่ยั่งยืนก็เช่นกัน เป็นบทสรุปสำคัญจากคุณอูฐ “ถ้าคุณอยากได้ชีวิตที่ดี ในธุรกิจนี้เป็นไปได้ 100% ครับ แต่คุณต้องกล้าเปลี่ยน กล้าทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ อดทนให้มากและนานพอที่จะเห็นผล ยืนหยัด และพัฒนาตัวเองสม่ำเสมอ ผมเชื่อว่าธุรกิจแอมเวย์จะเป็นธุรกิจแห่งความสำเร็จของทุกคนได้แน่นอนครับ”
ที่มา : halloffame.amway.co.th/profile/prapakarn-jariya